สถานการณ์แบบนี้ต้องขอวีซ่ายังไงดีคะ ?

สวัสดีค่ะวันนี้มีเรื่องรบกวนมาถามพี่ๆชาวไกลบ้านนิดหน่อยดังนี้ค่ะ คือเรากำลังจะไปอเมริกาเป็นเวลา 4 เดือน ซี่งตอนขากลับจากอเมริกาอยากแวะเที่ยวฝรั่งเศสและสวิสเซอร์แลนด์ก่อนซัก 2 อาทิตย์ โดยแผนการเดินทางที่วางไว้จะเป็นประมาณนี้ค่ะ

ขาไป : เดือน ม.ค BKK - CDG จากนั้นต่อเครื่อง CDG - JFK

ขากลับ : เดือน เม.ย JFK - CDG แล้วจากนั้นก็เที่ยวฝรั่งเศสกับสวิสเซอร์แลนด์ ก่อนจะบินกลับเป็น CDG - BKK

1. ปัญหาคือ เข้าใจว่าวีซ่าเชงเก้นนี้จะขอก่อนเดินทางได้ไม่เกิน 3 เดือนใช่ไหมคะ ? ซึ่งก็แสดงว่ามันครอบคลุมแค่ขาเข้าก็คือเดือน ม.ค เท่านั้น ส่วนขากลับอาจจะต้องทำวีซ่าจากอเมริกาหรือเปล่าคะ ?

2. ถ้าทำวีซ่าจากอเมริกาแล้วไม่ผ่านเนี่ย ขากลับจะกลับได้ไหมคะ เพราะว่าจาก JFK - CDG พอมาเปลี่ยนเป็น CDG - BKK ต้องออกมาเช็คอินใหม่เนื่องจากใช้บริการคนละสายการบิน

3. ถ้าสมมุติว่าตอนขอวีซ่าระบุวันเดินทางเป็น 2 period ไปเลยได้ไหมคะ ว่ารอบแรกเป็นเดือน ม.ค เพราะต้องผ่าน ต.ม มาเช็คอินเปลี่ยนเครื่่องบินไป JFK ส่วนรอบที่สองก็เป็นรอบที่แวะเที่ยวจริงก่อนกลับ กทม. ในเดือนเมษายน

4. ถ้าขอวีซ่าเชงเก้นที่อเมริกาได้แบบที่ดำเนินการทางไปรษณีย์นี่คือยังไงหรอคะ ? หมายถึงว่าเราไม่ต้องไปที่สถานฑูตใช่หรือเปล่า ?

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
1. ปัญหาคือ เข้าใจว่าวีซ่าเชงเก้นนี้จะขอก่อนเดินทางได้ไม่เกิน 3 เดือนใช่ไหมคะ ?

ตอบ : ใช่ค่ะ

____________________________________________________

ซึ่งก็แสดงว่ามันครอบคลุมแค่ขาเข้าก็คือเดือน ม.ค เท่านั้น

ตอบ : ไม่ใช่ค่ะ แต่จะครอบคลุมแค่ไหนขึ้นอยู่กับระยะเวลาของวีซ่า และวันหมดอายุของวีซ่าค่ะ

___________________________________________________

ส่วนขากลับอาจจะต้องทำวีซ่าจากอเมริกาหรือเปล่าคะ ?

ตอบ : ไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณเป็นคนไทยที่ปกติอยู่ในเมืองไทยขอในอเมริกาไม่ได้นะคะ ต้องขอจากเมืองไทยเท่านั้น
และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไปอเมริกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว หรือ วีซ่าอะไรก็แล้วแต่ที่หมดอายุ
ในตอนที่คุณออกจากอเมริกา เช่นวีซ่าเรียนครอสสั้นๆ หรือ วีซ่าฝึกงานดูงานระยะสั้นๆ
หรือไปทำวิจัยระยะสั้นๆ อะไรทำนองนี้นะคะ

ต้องขอตามถิ่นที่อยู่ถาวร หรือ ถิ่นที่อยู่ในประเทศที่คุณมีวีซ่าระยะยาว หรือ มีพีอาร์ค่ะ

___________________________________________

2. ถ้าทำวีซ่าจากอเมริกาแล้วไม่ผ่านเนี่ย ขากลับจะกลับได้ไหมคะ เพราะว่าจาก JFK - CDG พอมาเปลี่ยนเป็น CDG - BKK

ตอบ : ถ้าแค่ทรานสิทเปลี่ยนเครื่องแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่ต้องมีวีซ่านะคะ

____________________________________________


ต้องออกมาเช็คอินใหม่เนื่องจากใช้บริการคนละสายการบิน

ตอบ : ต้องดูตั๋วนะคะ ว่าคนละสายการบิน แต่ออกตั๋วใบเดียวกันหรือเปล่านะคะ
CDG มีหลายเทอร์มินั่ล แต่ถ้าเปลี่ยนสายการบินที่ CDG เท่านั้น และ โดยเฉพาะถ้าทำการเช็คอิน
แบบเช็คทรูจากต้นทางที่ JFK ถึงปลายทางที่ BKK เลย คุณไม่ต้องเช็คอินใหม่นะคะ

และ ถ้าบินกับสายการบินในกลุ่มเดียวกัน เช่นอาจจะเป็นกลุ่ม One World หรือ กลุ่ม Flying Blue
หรือ กลุ่มพันธมิตร Star Alliance ทางสายการบินจะรับผิดชอบในการ Transfer ให้คุณเองนะคะ
ทั้งกระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่อง และทั้งตัวคุณเองค่ะ เขาจะพาไปส่งที่เครื่องเอง

ที่สนามบิน CDG หรือ ในอีกหลายๆ สนามบินในยุโรป ากประสบการณ์ในการทรานสิทถ้าหากว่าเครื่อง
ไม่ได้เข้า-ออก จากเทอร์มินั่ลเดียวกัน ทางสายการบินจะจัดรถมารับไปอีกเทอร์มินั่ลหนึ่งค่ะ

หรือ จะมีทางเชื่อมระหว่างเทอร์มินั่ลนะคะ โดยที่ ผดส. ที่แค่เดินทางผ่านมา Via มา Transit
ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ไม่ต้องผ่าน ต.ม. ค่ะ

________________________________________________

3. ถ้าสมมุติว่าตอนขอวีซ่าระบุวันเดินทางเป็น 2 period ไปเลยได้ไหมคะ ว่ารอบแรกเป็นเดือน ม.ค เพราะต้องผ่าน ต.ม มาเช็คอินเปลี่ยนเครื่่องบินไป JFK ส่วนรอบที่สองก็เป็นรอบที่แวะเที่ยวจริงก่อนกลับ กทม. ในเดือนเมษายน

ตอบ : ให้ดู คำตอบข้างบนนะคะ ที่ตอบข้อ 2 ค่ะ

________________________________________________

4. ถ้าขอวีซ่าเชงเก้นที่อเมริกาได้แบบที่ดำเนินการทางไปรษณีย์นี่คือยังไงหรอคะ ? หมายถึงว่าเราไม่ต้องไปที่สถานฑูตใช่หรือเปล่า ?

ตอบ : คุณมีเรสซิเดนซี่อยู่ที่อเมริกาหรือเปล่าหล่ะคะ ถ้ามีก็สามารถขอได้ค่ะ
ดิฉันเคยอ่านกระทู้ ก็เห็นว่ามีคนไทยที่ถือหนังสือเดินทางไทยบางท่าน ที่อยู่ในอเมริกา
ขอวีซ่าทางไปรษณีย์นะคะ เช่นคุณ pixp เป็นต้น ตอนที่เธอขอเพื่อไปเที่ยวสวิทฯ และ อิตาลี่
หวังว่าคุณ pixp จะผ่านมาทางนี้ และ จะมาช่วยตอบให้คุณ จขกท. นะคะ ถ้าคุณ จขกท.
อยู่ในข่ายที่ขอวีซ่าที่อเมริกาทางไปรษณีย์ได้

____________________________________________________

** คำแนะนำ ** คุณ จขกท. สามารถขอวีซ่าจากเมืองไทยได้ แต่คุณมีเวลาแค่เดือนนี้ทั้งเดือน และ
ในเดือนธันวาคมเท่านั้นค่ะ เมื่ออ่านกระทู้นี้จบแล้ว ขอให้เตรียมพาสปอร์ตไว้ตรงหน้าคุณ

แล้วจากนั้นกรุณาเข้าไปในเว็บไซท์ของสถานทูตฝรั่งเศสในประเทศไทย เพื่อทำการนัดหมายค่ะ
ต้องนัดผ่านเว็บไซท์ของสถานทูต แต่จะขอผ่านสถานทูต หรือขอผ่านตัวแทนของสถานทูต คือ TLSContacts
ก็ได้ (แต่ถ้าจะขอผ่านสถานทูตต้องนัดกับ TLSContacts และ เข้าไปขอที่สถานทูตได้ในวันจันทร์
วันเดียวเท่านั้น แต่ถ้าขอผ่าน TLSContacts สามารถขอได้จันทร์-ศุกร์) _อ่านแล้วอย่า งง นะคะ ตรงนี้

ส่วนสวิทเซอร์แลนด์ เราเคยไปขอตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้ขอผ่านตัวแทนสถานทูต แต่ตอนนี้ต้องขอผ่านตัวแทน
เช่นกันนะคะ

แต่แนะนำให้เข้าฝรั่งเศสก่อน (คุณบินไปลง CDG อยู่แล้ว ดีแล้วค่ะ) ขอกับสถานทูตฝรั่งเศสเรื่องน้อยกว่านะคะ
ถ้าเอกสารครบ 2-3 วันวีซ่าก็ออกแล้ว ไปรับเล่มคืนได้แล้วค่ะ

___________________________________________________

*** ข้อเสนอแนะ *** ควรไปขอโดยเร็วที่สุด ก่อนออกเดินทางไปอเมริกา และ ต้องทำโปรแกรมการเดินทาง
ตั้งแต่ออกเดินทางจากกรุงเทพ จนไปอเมริกา และ กลับจากอเมริกา ตรงนี้ไม่ต้องทำละเอียด แค่ใส่เป็น
Period เท่านั้น เช่นว่า วันที่เท่าไหร่ออกเดินทางจากเมืองไทย วันไหนถึงอเมริกา วันไหนออกจากอเมริกา

Itinerary โปรแกรมที่สำคัญที่สุดคือเริ่มตั้งแต่เมื่อคุณออกจากอเมริกา เข้าฝรั่งเศสที่ CDG ตอนขากลับ
และทำแจกแจงเป็นวันๆ ในฝรั่งเศส ในสวิทเซอร์แลนด์ จนกระทั่งออกจากฝรั่งเศส

ในเคสของคุณ จขกท.นี้ คุณต้องจองโรงแรม ณ บัดนาว ต้องจองตั๋วรถไฟจากฝรั่งเศสไปสวิทฯ ณ บัดนาว
หรือ จองตั๋วเครื่องบินจากฝรั่งเศสไปสวิทฯ เลยนะคะ เพื่อเอาไปเป็นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าค่ะ

คือยื่นคำร้องขอเชงเก้นวีซ่าตามปกติ เพียงแต่ขอล่วงหน้า และ เขียนจดหมายแจ้งสถานทูต และขอความ
กรุณาสถานทูตให้ออกวีซ่าให้ครอบคลุมไปถึงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคมนะคะ

เช่นว่าถ้าจะออกจาก JFK มา CDG ปลายเดือนเมษา และ ถ้าจะอยู่ฝรั่งเศส อยู่สวิทฯ สมมติว่าสัก
15 วัน ก็ขอร้องสถานทูตให้ออกวีซ่าให้มีอายุจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม

หรือ สถานทูตอาจจะใส่ว่า Valid From จากวันที่ออกวีซ่าให้ สมมติว่าออกวีซ่าวันที่ 20 Dec 2012
แล้ววีซ่า Valid Until 15 May 2013

ส่วนจำนวนวันที่อนุญาตให้อยู่ในเขตเชงเก้นได้คือ 15 วัน ตรงนี้ก็จะเป็น Duration of Stay :
15 Days ค่ะ (สมมตินะคะ)


ส่วนจะอนุญาตให้เข้าออกได้กี่ครั้งก็ต้องดูตรง Number of Entry/Entries ค่ะ
เช่นว่าเข้า-ออกได้หนเดียวก็จะเขียนว่า Single เข้าออกหลายหนก็ MULT ย่อมาจาก Multiple ค่ะ

____________________________________________

เด๋วจะไปลากลิ้งค์กระทู้ที่เคยตอบๆ เอาไว้เกี่ยวกับการเตรียมเอกสารขอเชงเก้นวีซ่ามาให้อ่านนะคะ


_______________________________________


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เรียนเชิญเข้าไปอ่านทุกกระทู้นะคะ บางกระทู้เกี่ยวกับเคสของคุณ บางกระทู้ไม่เกี่ยวนักแต่คุณควรจะได้อ่าน
เพื่อให้เกิดไอเดีย

และ ดิฉันไม่ต้องการได้กีบ และ ไม่ต้องการได้คำขอบคุณใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ

แต่ถ้าคุณ จขกท. เห็นว่า คห. ของดิฉันมีประโยชน์ ก็ขอความกรุณาช่วยกดเก็บกระทู้นี้ของคุณ
และกระทู้อื่นๆ ที่ดิฉันลากมาฝากให้คุณเข้าไปศึกษา ช่วยกดเก็บลงคลังกระทู้ด้วยนะคะ
เก็บเอาไว้ให้คนข้างหลัง ที่อาจจะมีคำถามเดียวกับคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ

___________________________________________________


1. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12857494/H12857494.html

2. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12863494/H12863494.html

3. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12821032/H12821032.html

4. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12892278/H12892278.html

5. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12867022/H12867022.html

6. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12804824/H12804824.html

7. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12864365/H12864365.html

____________________________________________________________


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
***ปัญหาที่คุณอาจจะพบตอนนี้คือ....อาจจะไม่มีวันว่างให้คุณจองคิวขอวีซ่านะคะ เพราะเดือนธันวาคม
ที่เมืองไทยมีวันหยุดราชการหลายวัน เช่นวันที่ 5, 10, 31 ธันวาคม เลยไปถึงวันที่ 1 มกราคม

ช่วงนี้คนไทยไปเที่ยวยุโรปกันเยอะ ไปเที่ยวคริสต์มาส ไปสัมผัสอากาศหนาว ไปสัมผัสหิมะ ไปใส่เสื้อผ้า
ชุดเมืองหนาวถ่ายรูป

และ คนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะคนต่างชาติที่มีภรรยาไทย
หรือ คนต่างชาติที่มีสามีไทย ช่วงนี้เขาถือโอกาสภาสามีภรรยา หรือ พาแฟนคนไทย
หรือบุตรหลานที่โรงเรียนอินเตอร์ปิดเทอมในหน้าเทศกาล กลับไปเยี่ยมบ้านที่ยุโรปกันนะคะ

คิวขอวีซ่าหลายๆ สถานทูตมักจะแน่นในเดือน พฤศจิกายน ยาวไปถึงต้นธันวา ลากยากไปถึงกลางธันวาค่ะ

อีกช่วงหนึ่งที่เป็นหน้าเทศกาลขอวีซ่าในเมืองไทย คือ ราวๆ มีนาคม ขอเพื่อไปเที่ยวในช่วงโกลเด้นวี๊ค
ของคนไทยในฤดูเที่ยวเดือนเมษายนนะคะ อีกช่วงที่คิวขอวีซ่าแน่นสำหรับสถานทูตประเทศฝรั่งทั้งหลาย
หรือ ญี่ปุ่น คือ ช่วงเดือนกันยายนค่ะ ผู้ปกครองไทย พาบุตรหลานไปเมืองนอก หรือเด็กๆ ไปซัมเม่อร์
กันนะคะ

ขอให้โชคดีค่ะ แล้วกรุณามาอัพเดทด้วยว่าได้หรือไม่อย่างไร เพื่อให้คนข้างหลังเอาไว้เป็นข้อมูล
และให้คนในนี้เอาไว้เป็นกรณีศึกษานะคะ ว่าทำได้หรือไม่ได้อย่างไร

เราไม่ใช่พวกเอเจ้นท์ที่รับปรึกษาเรื่องวีซ่านะคะ และ ไม่ใช่คนทำงานแทรเว่ลเอเจ้นท์ แต่ตอบจากประสบการณ์
ในการเดินทาง ประสบการณ์ในการขอวีซ่าด้วยตนเองหลายสถานทูตมาเป็นเวลานานหลายสิบปี
และตอบจากคอมม่อนเซ้นส์ทั่วๆ ไปค่ะ

สวัสดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
กระทู้จากคลังกระทู้เกี่ยวกับอัพเดทการขอวีซ่ากับสถานทูตสวิทฯ ในประเทศไทย

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/02/E11691766/E11691766.html

__________________________________________________

ตัวแทนรับยื่นวีซ่าของสถานทูตสวิทฯ ในประเทศไทย TLSContacts

https://www.tlscontact.com/th2ch/login.php

https://www.tlscontact.com/th2ch/page.php?pid=procedure


__________________________________________________

เว็บของสถานทูตสวิทฯ ประจำประเทศไทย เพจเกี่ยวกับการขอวีซ่า

http://www.eda.admin.ch/eda/en/home/reps/asia/vtha/rkcban/visa/vistha.html

__________________________________________________

ตัวแทนรับยื่นวีซ่าของสถานทูตฝรั่งเศสในประเทศไทย TLSContacts

https://www.tlscontact.com/th2fr/help.php

__________________________________________________

เว็บสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าไปดูคิวว่าง และจองคิวได้ที่นี่ (จองเพื่อเข้าไปยื่นเรื่องผ่าน
TLSContacts)

อันนี้เป็นภาษาไทยนะ ให้เข้าไปจองคิวด่วนเลย การที่จะดูคิวว่าว่างหรือไม่ และการจองคิว
ต้องล็อกอินเข้าไป โดยกรอกข้อมูล เพราะฉนั้นเราจะไม่เข้าไปดูให้นะ เข้าไปดูเองค่ะ

http://www.ambafrance-th.org/article885


____________________________________


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
อ่านที่คุณBTDTเข้ามาตอบในหลายๆกระทู้ ได้คำตอบและความรู้มากมาย
แอบขอบคุณเงียบๆคนเดียวมานาน มาคราวนี้ อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาขอบคุณออกสื่อ
ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เข้ามาขำสำนวน "ขอบคุณออกสื่อ" ค่ะ ขอบคุณคุณ pajulito ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบพระคุณมากค่ะคุณ Been there,done that ที่กรุณามาตอบให้ซะยาวเลย

เดี๋ยวจะอ่านคำแนะนำที่คุณให้มาให้ละเอียดอีกทีนึงก่อนไปขอวีซ่า

ส่วนกระทู้อื่นๆที๋โพสไว้นั้นดิฉันจะตามไปอ่านและเก็บเข้าคลังอย่างแน่นอนค่ะ

ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คุณ Been there,done that คะอ่านจบแล้วยังเกิดขอสงสัยเพิ่มเติม ขออนุญาตถามเผื่อคุณจะแวะกลับเข้ากระทู้มาอีกทีนะคะ

1. คือที่ว่าจองตั๋วคนละสายการบินเป็นอย่างนี้ค่ะ BKK - CDG และ CDG - BKK เป็น Korean air
ต่อมา CDG - JFK และ JFK - CDG จะจองเป็น British air ไม่ได้จองตั๋วแบบ stop over แล้วอย่างนี้ขากลับดิฉันไม่ต้องออกมาเช็คอินใหม่อีกหรือคะ ? หรือต่อให้ดิฉันทำการเช็คอินล่วงหน้า แล้วกระเป๋าไม่ต้องเอาไปดรอปที่เคาเตอร์หรอคะ ?

2. ตามที่เข้าใจตอนนี้คือดิฉันมีลู่ทางที่จะขอวีซ่าเชงเก้นได้โดยที่ แนบจดหมายคำร้องขอให้ระยะเวลาวีซ่าครอบคลุมถึงราวๆเดือนพฤษภาคมได้ ส่วน Duration of Stay นี่ดิฉันขอเท่าไรก็จะได้เท่ากับหรือมากกว่าซักวันสองวันใช่ไหมคะ ?

3. ถ้า Duration of Stay ของดิฉันซัก 20 วัน เช่นนี้แล้วจะแบ่งเป็นเที่ยวตอนขาไป 5 วัน และเที่ยวตอนขากลับต่ออีก 15 วันได้หรือไม่คะ ?

4. ถ้าดิฉันเปลี่ยนวันเดินทางมาเป็นปลายเดือน ก.พ นี่ควรจะไปยื่นขอวีซ่าซักเดือนไหนดีคะ ?

5. ความเป็นไปได้มีมากน้อยแค่ไหนคะที่จะได้วีซ่าที่ครอบคลุมตั้งแต่ ก.พ จนถึงราวๆ ก.ค ?

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ยินดี และ ขอบคุณเช่นกันค่ะ คุณเพื่อความสบายใจ จขกท.

รีบมาตอบให้เลยนะคะ จะตอบแค่เท่าที่ทราบ และ รีบๆ พิมพ์ตอบนะคะ เพราะยังทำงานไม่เสร็จค่ะ
แต่เผอิญโฉบเข้ามาดูกระทู้ จึงอยากจะตอบให้เสร็จๆ ไปก่อนเลย

__________________________________________________

1. คือที่ว่าจองตั๋วคนละสายการบินเป็นอย่างนี้ค่ะ BKK - CDG และ CDG - BKK เป็น Korean air
ต่อมา CDG - JFK และ JFK - CDG จะจองเป็น British air ไม่ได้จองตั๋วแบบ stop over แล้วอย่างนี้ขากลับดิฉันไม่ต้องออกมาเช็คอินใหม่อีกหรือคะ ? หรือต่อให้ดิฉันทำการเช็คอินล่วงหน้า แล้วกระเป๋าไม่ต้องเอาไปดรอปที่เคาเตอร์หรอคะ ?

ตอบ : น้องขา พี่อ่าน Flight Itinerary ของคุณแล้ว มึนตึ้บเลยค่ะ มึนว่ามีเหตุผลอะไรเอ่ย
ที่ทำให้คุณน้อง จขกท. ต้องจองตั๋วที่ซับซ้อนแบบนี้ และ แยกสายการบินด้วย ไม่ใช่สายการบินในกลุ่ม
พันธมิตรเดียวกัน แยกตั๋วเป็นสองใบ แล้วแถมยังมีบินแบบ via อีกต่างหาก คือ คุณไปได้ตั๋วรางวัลมา
แลกไมล์มา หรือ มีเพื่อนให้เป็นของขวัญ หรือ ซื้อตั๋วโปรโมชั่นกันคนละคราวหรืออย่างไรคะ แบบว่าซื้อแบบนี้
แล้วถูกกว่าหรืออย่างไร และ เวลาที่คุณไปเปลี่ยนเครื่องที่ CDG เนี่ย ขอบอกว่าเป็นจุดอันตรายสุดค่ะ

อันตรายในแง่ที่ว่า คุณจะเกิดอาการมึนงง และ สองสายการบินเนี่ย บินเข้า บินออก จากคนละเทอร์มินั่ลค่ะ
และเทอร์มินั่ลที่ CDG เนี่ย เป็นอีกหนึ่งในสนามบินที่ปราบเซียนเลยค่ะ เนื่องด้วยมีหลายเทอร์มินั่ลมากๆ
บางเทอร์มินั่ลใหญ่ แยกเทอร์มินั่ลยิบย่อยไปได้อีกแน๊ แล้วเทอร์มินั่ล 1 ที่คุณต้องไปต่อสายการบิน BA
เนี่ย เป็นเทอร์มินั่ลเก่า อยู่โดดเดี่ยวจากเทอร์มินั่ลอื่นๆ ไกลพอสมควรเลยทีเดียว ไกลเป็นกิโลเมตรค่ะ

_________________________________________________

ขอ Quote ข้อ 1 นี้ มาตอบเป็นข้อย่อยๆ อีกครั้ง ดังนี้นะคะ เพราะตั๋วของคุณโจทย์ยาก ซับซ้อนค่ะ

1. คือที่ว่าจองตั๋วคนละสายการบินเป็นอย่างนี้ค่ะ BKK - CDG และ CDG - BKK เป็น Korean air

ตอบ : เท่าที่ทราบ สายการบิน KE ไม่มีไฟล์ทบินตรงจาก BKK ไป CDG นะคะ แต่เป็นการบิน via ICN
(อินชอน, โซล) ค่ะ ไม่มีแบบบินตรงเด็ดขาด และ เมื่อพี่ไปเช็คในเว็บของ KE ก็พบว่าไม่มีนะคะ
ยังไงๆ คุณ จขกท.ต้องบินอ้อมค่ะ คือบินจากกรุงเทพฯ ไปโซลก่อน (ไฟล์ทนี้ราวๆ 5-5.30 ช.ม.ค่ะ)
แล้วไป Transit ที่ ICN/Seoul จากนั้นบินออกจาก ICN ไป CDG ค่ะ

โดยที่สายการบิน KE (Korean Air) จะอยู่ในกลุ่มพันธมิตร Sky Team และ บินลงที่ CDG
เทอร์มินั่ล 2E

____________________________________________________


ต่อมา CDG - JFK และ JFK - CDG จะจองเป็น British air ไม่ได้จองตั๋วแบบ stop over

ตอบ : จาก CDG ไป JFK ถ้าบินกับ BA คุณ จขกท.ต้องไปทรานสิทเปลี่ยนเครื่อง หรือ อาจจะต้อง
เปลี่ยนเทอรมินั่ลที่สนามบิน LHR ด้วย (ลอนดอนฮีทโธร์ว London Heathrow) นะคะ อันนี้พี่ไม่ต้องเช็ค
เลยค่ะ แต่สามารถตอบได้ แบบนั่งยัน นอนยัน ให้เลยได้ว่าสายการบิน BA ที่บินออกจาก Paris CDG
จะไม่มีไฟล์ทบินตรงไปอเมริกาเด็ดขาดโดยที่ไม่ได้แวะ London ซึ่งเป็น Hub เป็นบ้านของสายการบิน BA
British Airways สายการบินแห่งชาติของอังกฤษแน่นอนค่ะ ยังไงๆ ก็ต้องแวะ LHR

และ LHR มี 5 เทอร์มินั่ลด้วยกันค่ะ

ส่วนสายการบิน BA ที่ออกจาก CDG มีทั้งที่เทอร์มินั่ล 1 และ เทอร์มินั่ล 2A ค่ะ
สายการบิน British Airways อยู่ในกลุ่มพันธมิตร One World ค่ะ


*ถ้าตั๋วเป็นไฟล์ทของ BA มีระบุว่าบินออกจาก CDG ไป JFK ให้สังเกตดูว่า ไฟล์ทนัมเบอร์เป็นเลข 4 หลัก
หรือไม่ ถ้าเป็นเลข 4 หลัก หมายความว่าไม่ได้บินกับเครื่องของ BA แต่จะบินกับเครื่องอื่นซึ่งเป็น
Code Share Flight กับ BA ค่ะ ให้ดูว่า Flight นั้น Operate โดยสายการบินอะไรนะคะ

_______________________________________________


แล้วอย่างนี้ขากลับดิฉันไม่ต้องออกมาเช็คอินใหม่อีกหรือคะ ? หรือต่อให้ดิฉันทำการเช็คอินล่วงหน้า แล้วกระเป๋าไม่ต้องเอาไปดรอปที่เคาเตอร์หรอคะ ?

ตอบ : เคสของคุณนี้ ตั๋วออกเป็นสองใบแยกกัน และ คนละสายการบิน สายการบินคนละกลุ่มพันธมิตรซะด้วย
มีแววสูงมากค่ะ ว่าจะต้องมารับกระเป๋าก่อน และต้องผ่าน ต.ม. ออกมาเพื่อเข้าไปเช็คอินใหม่ค่ะ
เพราะถ้าเป็นสายการบินในกลุ่มเดียวกัน หรือ คนละกลุ่ม แต่ถ้าตั๋วคนละสายการบินคนละกลุ่มเนี่ย
ออกใบเดียวกัน เป็นตั๋วกลุ่มเดียวกัน จะสามารถทำการเช็คทรูได้ และ ตัวคุณเองไม่ต้องรับกระเป๋า
แต่ทางสายการบินจะส่งต่อกระเป๋าให้กันเอง แล้วตัวคุณแค่นั่งรถเวียน หรือ นั่งรถไฟโมโนเร็ลภายในสนามบิน
ทางด้าน Airside โดยที่ยังไม่ต้องผ่าน ต.ม. ออกมาได้ค่ะ

แต่ในเคสนี้เนี่ย คงต้องทำทรานสิทวีซ่านะคะ ก็ขอให้คุณเข้าไปดูข้อมูลได้ในเว็บของสถานทูตฝรั่งเศส และ

ของ TLSContact ที่พี่ลากมาให้ข้างบนเลยค่ะ และในกระทู้นึงที่ข้างบนนั้นที่ลากลิ้งค์มาให้ ก็มีคุยเรื่อง
Transit Visa สำหรับ Paris CDG นะคะ

_____________________________________________


2.ตามที่เข้าใจตอนนี้คือดิฉันมีลู่ทางที่จะขอวีซ่าเชงเก้นได้โดยที่แนบจดหมายคำร้องขอให้ระยะเวลาวีซ่าครอบคลุมถึงราวๆ
เดือนพฤษภาคมได้

ตอบ : ค่ะ

ส่วน Duration of Stay นี่ดิฉันขอเท่าไรก็จะได้เท่ากับหรือมากกว่าซักวันสองวันใช่ไหมคะ ?

ตอบ : Duration of Stay เป็นสิ่งที่สถานทูตกำหนด ไม่ใช่ตัวคุณกำหนด แต่สิ่งที่คุณต้องนำเสนอสถานทูต
ในจดหมาย ใน Itinerary และ ในใบคำร้อง คือวันที่คุณจะขออนุญาตเข้าเขตเชงเก้น และ วันสุดท้าย
ที่คุณจะเดินทางออกจากเขตเชงเก้นค่ะ

และ ถ้าท่านกงสุลผู้มีอำนาจออกวีซ่าพิจารณาจะออกวีซ่าให้ ท่านก็จะออกให้ครอบคลุมเองค่ะ
สถานทูตฝรั่งเศสมีวีซ่าท่องเที่ยวแบบครอบคลุม 6 เดือน นับแต่วันที่ออกวีซ่าค่ะ แต่คุณจะได้หรือไม่
ในการขอครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลักฐานล้วนๆ และ การนำเสนอล้วนๆ และ เนื้อความในจดหมาย และหลักฐาน
ทุกอย่างต้องสอดคล้องสัมพันธ์กันค่ะ

_________________________________________

3. ถ้า Duration of Stay ของดิฉันซัก 20 วัน เช่นนี้แล้วจะแบ่งเป็นเที่ยวตอนขาไป 5 วัน และเที่ยวตอนขากลับต่ออีก 15 วันได้หรือไม่คะ ?

ตอบ : Duration of Stay เนี่ยต้องดูว่ากี่ Period ค่ะ แต่ถ้าระบุว่า Duration of Stay
of Each Stay ทำนองนี้นะคะ ก็ต้องม้วนเดียวค่ะ ไม่มีการแบ่ง

อันนี้ต้องอ่านเงื่อนไขในวีซ่าเท่านั้นค่ะ คือถ้าได้แบบ Single Entry เนี่ย ต้องม้วนเดียวจบค่ะ
แต่ถ้าได้แบบ Multiple Entries มาเนี่ย Duration of Stay มาเนี่ย Period
of Stay จะยาวกว่าค่ะ เช่น 15, 30, 60, 90 วัน แล้วแต่ค่ะ แล้วแต่หลักฐาน แล้วแต่ประวัติ
การเดินทางเข้าเชงเก้น แล้วแต่สถานะทางด้านการงาน สถานะทางด้านการเงินค่ะ

ตรงนี้เปิดวีซ่าในพาสปอร์ตของตัวเองทุกเล่มมาตอบให้เลยนะคะ เพราะมีวีซ่าเชงเก้นหลายแบบมาก และ
ได้มาจากหลายสถานทูตของประเทศในกลุ่มเชงเก้น และแต่ละสถานทูตมีกฏเกณฑ์ปลีกย่อยในการออกวีซ่า
ไม่เหมือนกันค่ะ เท่าที่เจอมา สถานทูตฝรั่งเศสใจดีสุดแล้ว และเรื่องน้อยที่สุดค่ะ TLSContact
ก็ทำงานดีมากๆ ค่ะ อีกสถานทูตนึงที่เรื่องน้อยคือสถานทูตอิตาลี่ค่ะ

________________________________________

4. ถ้าดิฉันเปลี่ยนวันเดินทางมาเป็นปลายเดือน ก.พ นี่ควรจะไปยื่นขอวีซ่าซักเดือนไหนดีคะ ?

ตอบ : ขอปลายเดือนพฤศจิกา หรือ ต้นธันวาค่ะ ขอแต่เนิ่นๆ จะได้ทราบว่าได้หรือไม่ได้อย่างไร
จะได้กลับลำเปลี่ยนแผนทัน หรือ มีเวลาเตรียมเอกสารทัน

ข้อสำคัญคือเรื่องการจองคิวค่ะ จองให้ได้ก่อนค่ะ แล้วมาทำเรื่องเตรียมเอกสาร เตรียมจดหมายปะหน้า
เตรียม Itinerary ค่ะ

___________________________________________

5. ความเป็นไปได้มีมากน้อยแค่ไหนคะที่จะได้วีซ่าที่ครอบคลุมตั้งแต่ ก.พ จนถึงราวๆ ก.ค ?


ตอบ : ขึ้นอยู่กับท่านกงสุลล้วนๆ ค่ะ ตอนนี้หน่ะคุณหวังให้ได้ก่อนค่ะ ว่าจะไปขอราวๆ ปลายพฤศจิ
หรือ ต้นธันวา แล้วให้ได้วีซ่า 6 เดือน ครอบคลุมไปจนถึงราวๆ เดือนพฤษภาค่ะ

อย่าเพิ่งไปหวังมากกว่านั้น เอาคืบให้ได้ก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไปหวังศอก และถ้าคุณได้มา 6 เดือนจากการไปขอครั้งแรก
และได้แบบ Multiple มาเนี่ยขอให้ระลึกเอาไว้เลยว่า ทางสถานทูตได้กรุณาคุณที่สุดแล้ว มีเหตุมีผลที่สุดแล้ว
และอลุ้มอล่วยให้คุณอย่างที่สุดแล้วค่ะ

ถ้าคุณไปเจอการออกวีซ่าของสถานทูตออสเตรียแล้วจะหนาวนะคะ เพราะเขาจะออกให้ตามวันเดินทางเป๊ะๆ
ไม่มีขาดไม่มีเกินค่ะ และถ้าจะเปลี่ยนแพลนใหม่หรือเลื่อนวันเดินทางก็ต้องไปขอวีซ่าใหม่ค่ะ

_____________________________________________


มีอะไรก็มาเขียนทิ้งไว้นะคะ แล้วจะพยายามเข้ามาดูค่ะ เผอิญต้องเตรียมตัวเดินทาง ยุ่งนิดหน่อย
แต่จะพยายามหาเวลามาตอบโฉบมาดูให้นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะคุณ Been there, done that! คราวนี้ได้คำตอบที่ละเอียดมากๆเลยจริงค่ะ

ที่ต้องซื้อตั๋วแยกแบบนี้เป็นเพราะว่าเท่าที่เช็คดูราคาจะถูกกว่าตั๋ว stop over ค่อนข้างมากค่ะ ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ แต่ถ้ามันวุ่นวายแบบที่คุณได้กรุณาตอบมาด้านบน ดิฉันคงต้องไปทำการบ้านหนักๆทบทวนอีกสักสองสามรอบแล้วค่ะ

ยังไงก็ขอบพระคุณที่สละเวลามาพิมพ์ตอบให้ยาวขนาดนี้มากๆเลยนะคะ ขอให้คุณ Been there, done that! สุขภาพแข็งแรงและเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ยินดีค่ะ คุณเพื่อความสบายใจ

อ้าว งั้นแสดงว่าคุณ จขกท. ยังไม่ได้ซื้อตั๋วหรอกเหรอคะ ?

เรื่องตั๋วหน่ะ เอาแบบง่ายสุดเลยนะคะคุณ แบบไม่ต้องคิดมากเลย

เส้นทางนี้ไป-กลับเนี่ย คือ "BKK-CDG-JFK-CDG-BKK"

สายการบินแอร์ฟร๊านซ์ AF/Air France ค่ะ ม้วนเดียวจบค่ะ

อาจจะแพงกว่าแบบที่คุณอยากจองนิดหน่อย แต่อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายค่ะ
หรือ เผลอๆ คุณอาจจะได้ตั๋วโปรฯ ดีๆ ถูกๆ ของ AF ค่ะ ต้องลองหาดูนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11