บริษัทหลอกโกงทัวร์ โผล่อีก!! หน่วยงานรัฐ ร้องถูกโกง นับ 10 ล้าน

วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 19:30:47 น.




หน่วยงานรัฐร้องถูกบริษัททัวร์หลอกซื้อทัวร์ต่างประเทศแต่ไม่ได้เดินทางพบหลายหน่วยงานถูกเชิดเงินหนี เสียหายนับสิบล้านบาท


ผู้เสียหายที่เป็นตัวแทนของสถานศึกษาชื่อดังของรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวมติชนว่าถูกบริษัท เบิร์ดไลน์ แทรเวลจำกัด หลอกลวงหลังซื้อทัวร์ไปต่างประเทศโดยชำระเงินค่าใช้จ่ายค่าเดินทางพร้อมค่าตั๋วเครื่องบินคนละ 23,900บาท ทั้งหมด 18 คน รวมเป็นเงิน 430,200 บาท มีการทำหนังสือคู่สัญญานำเที่ยว เดินทางไปประเทศ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ช่วงวันที่ 17-20 กันยายนที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงกำหนดเดินทางไม่เป็นไปตามข้อตกลง และบริษัทไม่ยอมจ่ายเงินคืนให้กับลูกค้า โดยพนักงานของบริษัทได้โทรศัพท์เข้ามาและอ้างว่าบริษัทถูกปิดทำการไปแล้ว ส่วนเงินกว่า 4 แสนบาทที่ลูกค้าจ่ายมาแล้วหากมีจะนำมาคืนให้



ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่าทางบริษัทเบิร์ดไลน์ได้แจ้งยกเลิกการเดินทางกับสายการบินก่อนเดินทางเพียงวันเดียวเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสงสัยว่าอาจมีพฤติกรรมฉ้อโกง และเมื่อตรวจสอบไปยังสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์ก็ปรากฎว่าบริษัทดังกล่าวถูกระงับใบอนุญาตดำเนินการชั่วคราวแล้ว และยังมีหน่วยงานของรัฐอีกหลายแห่งส่วนใหญ่เป็นสถานศึกษา และโรงพยาบาลของรัฐ ร้องเรียนว่ายอมจ่ายเงินซื้อทัวร์กับบริษัทเดียวกัน แต่ไม่ได้เดินทาง รวมมูลค่านับสิบล้านบาท




จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นเป็นหลักฐาน ล่าสุดศาลจังหวัดนครปฐมได้ออกหมายจับ บริษัท เบิร์ดไลน์ แทรเวลจำกัด นายวรเศรษฐ จิรายศเสถียร และนายจิระศักดิ์ บุญเมือง ผู้บริหารบริษัท ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นประกอบธุรกิจนำเที่ยวในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตและเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่น ประกอบธุรกิจนำเที่ยว กระทำการอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวแล้ว


ที่มา: matichon.co.th

ความคิดเห็นที่ 1
ทั้งที่ มหาวิทยาลัยนี้ เคยใช้บริการบริษัทมาแล้วหลายครั้ง ก็ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
พวกหลักสูตร MBA ชอบรวมการดูงานประเทศเพื่อบ้านถูกๆ ไว้ในหลักสูตรประจำ ไม่เห้นมีประโยชน์ ไปเที่ยวก็เหมือนไม่ได้เที่ยว ดูงานก็เหมือนไม่ได้ดู
ไปแวะนู่น ชะโงกนี่แล้วก็ถ่ายรูปหมู่คู่ป้ายก็แค่นั้น อาจารย์เก้บเงินค่าทัวร์รวมไปในค่าเทอมแล้ว แล้วก็ไปกดบ. ทัวร์ให้ทำต่อหัวถูกๆ เพื่อกินส่วนต่าง ทัวร์ก็ออกมาห่วยๆ

เสียดายเงินจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
นาทีเรามองว่า ททท.ควรจะเพิ่มวงเงิรประกันแล้วล่ะ 200,000 มันน้อยไปมากๆ เงินจำนวนนี้จะคุ้มหัวคนได้สักกี่คน มันเลยมีมิจฉาชีพจดทะเบียนและโกงด้านๆเยอะขึ้น

สมมติ ททท. ยึดไป 200,000 โกงได้หลายล้าน คุ้มยิ่งกว่าคุ้มในแง่โจร
น่าจะปรับเงินประกันขั้นต่ำได้แล้วมั้ง สมมติมีกรุ๊ปเกาหลีเสียหายสักกรุ๊ป ค่าทัวร์ 20,000 x 30 คน ก็ 600,000 แล้วนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณ #3 คิดตื้นๆแบบนี้ไม่ได้ครับ

มีโจร 1% แต่ไอเดียคุณมันไปกระทบกับบริษัทดีๆที่ไม่ผิดอะไรอีก 99%
ททท ไปเก็บเงินบริษัทเล็กๆน้อยๆเหล่านี้เอามาอมไว้มากขึ้น ต้นทุนเงินทุนของบริษัทก็มากขึ้น สุดท้ายก็ต้องมาขึ้นราคาทัวร์กับลูกค้าปลายทางมากขึ้นด้วย

คุณจะเก็บกี่ล้านบาท ถ้าคนจะโกงมันก็โกงจนได้
ใครผิดก็ไปลงโทษไปปรับคนผิดไปฟ้องล้มละลายยึดทรัพย์เอามาใช้หนี้ก็ว่าไป แต่ไม่ใช่ นาย A ทำผิดแต่ดันออกกฎมาเอาเงินเพิ่มกับนาย B-Z แทน
ถ้า ททท คิดแบบนี้ Ship หายกันทั้งระบบแน่ๆครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ผมเห็นด้วยกับ rep#4 ครับ
ว่าเราควรเอาผิดแบบรุนแรงกับบริษัทพวกนี้ แล้วตอนนี้มีพวกบริษัทเถื่อนมาเยอะมาก
โดยที่ตัวลูกค้าเองก็จะเลือกแต่ราคาถูกเป้นหลักโดยที่ไมา่สนใจชื่อเสียง และที่มาของบริษัทเลย
การจะเลือกซื้อแพคเกตแต่ละครั้งควรคำนึงถึงความเป็นจริงด้วยครับ งานนี้มีทั้งความผิดในแง่ของบริษัท
และความโลภของตัวลุกค้าครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
แต่ผมเห็นด้วยับคห.3


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เราไม่ได้บอกว่าต้องเก็บหลายล้านนะคะ เรายอมรับว่าความคิดแบบนี้กระทบคนดีๆ

ถ้าคิดแบบแบงค์ งานที่หมุนเวียนเงินจำนวนมาก ย่อมต้องมีหลักประกันมากกันทัวร์โกงแล้วลูกค้าเจ็บ ถ้าเราคิดตื้นๆมาก แบงค์คงไม่ใช้หลักการนี้ในการอนุมัติสินเชื่อบริษัทนึงขึ้นมาทำธุรกิจหรอกค่ะ

นี่ก็เหมือนกัน ททท.มีหน้าที่ดูแลผู้บริโภค ให้หลักประกันไปเอาผิดได้ 200,000 จากการหมุนเวียนเงินเยอะหลักล้าน บางทัวร์สิบล้าน ประกอบกับล่วงหน้าหลายเดือน เราว่ายังไงก็ไม่สมเหตุผล

ในความเป็นจริง สมมติบริษัทดีๆ บริหารงานตนเองผิดพลาด ทำให้กรุ๊ปๆหนึ่งไม่ได้ไปเที่ยว เงิน 200,000 เอาไม่อยู่ค่ะ ที่เรายกตัวอย่างเล่นๆ เป็นทัวร์เกาหลีราคาถูกยัง 600,000 เลย ยังไม่ต้องว่าถึงเคสโกง

เราเชื่อว่า การเพิ่มหลักประกันมันช่วยป้องกันกรณีืทัวร์หมุนเวียนเงินไม่ทันด้วยค่ะ เพราะถ้าไม่มีเงินมาเพื่อวางหลักประกัน แสดงว่าเงินที่ตั้งใจจะใช้หมุนคงน้อยมาก( คล้าย pc air แมะ)

ส่วนบริษัทที่โกงควรทำโทษรุนแรงนั่นเราก็เห็นด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เห็นด้วยกับ คห 3
พวกจับเสือใช้นิ้วมือนิ้วเดียว จะได้หายไป


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เห็นด้วยกับ คห 3

เงินประกัน 200,000 บาท มันคงที่มานาน หลายปีเกินไปแล้ว
เคยมีอยู่ช่วงนึง ปรับขึ้นเป็น 500,000 บ.
แต่ก็ บรรดา บริษัททัวร์เนี่ยแหละ รวมตัวกันไป ขอ ททท. ให้ลดวงเงิน

ผมว่า เพิ่มทุนประกันไปเลย ทัวร์ Outbound 1,000,000

ทัวร์ Domestic 500,000


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เอเจ้นท์ขายตั๋วเครื่องบินยังต้องวางเงินค้ำตั้งหลายล้านนะ เด๋วนี้ไว้ใจอะไรยาก วางเงินค้ำประกัน

หรือทำแบงค์การันตีไว้ ไม่เห็นเสียหาย ลูกค้าอุ่นใจแถมเอาไปโฆษณาได้ด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เมื่อกี้บนมือถือตอบไม่ถนัด ขอตอบอีกรอบบนคอมล่ะกัน


ตั้งใจจะต่อประเด็น การที่เงินไปจมอยู่ในททท. ทำให้กระทบค่าทัวร์ สมมติเพิ่มอีก 800,000 เป็น 1,000,000 ดอกเบี้ยเพิ่มอีกเท่าไร สมมติดอกเบี้ย 8% อันนี้เรามั่วเลยนะ เพราะไม่รู้ธุรกิจการท่องเที่ยวขอกู้เงิน เค้าคิดท่านอยู่ที่เท่าไร ดอกเบี้ยตกเพิ่มวันละ 175.- ท่านคิดค่าทัวร์ลูกค้าเพิ่มไปเลยคนละ 200.- ต่อคน (ในความเป็นจริงทัวร์นึงรับลูกค้ามากกว่า 365 คนตั้งเยอะ) แต่ลูกค้ามีความอุ่นใจมากขึ้นว่ามีอะไรผิดพลาด ฉันตามทางททท.ได้เต็มๆ ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกอะไร

ซึ่งเราว่าคนทัวร์รู้แหละว่าลูกค้าประเภทขอถูกสุด ที่นู่นถูกกว่า 100 บาทก็จะไปจองกับอีกเจ้า มีเยอะมั้ย เราว่าส่วนใหญ่ ยอมเสียเพิ่ม 100.- เพื่อเลือกบริษัทพี่ ถ้าบริษัทพี่มีการจดทะเบียน มีตัวตน มีชื่อเสียงที่เค้าอุ่นใจ (เราต้องพูดว่าญาติเราทำธุรกิจขายตั๋วอยู่ คนประเภทนี้มี แต่ไม่เยอะขนาดนั้น)


และถ้าผู้เกี่ยวข้องไม่คิดอย่างนี้ เราว่าประเทศไทยก็คงหนุกหนานให้ผู้บริโภคได้ตื่นเต้นอย่าง PC air และ Regional(ไม่รู้ออกหัวหรือก้อย) นั่นแหละ
ส่วนผู้บริโภคที่เลือกซื้อแพคเกจไม่ตามความเป็นจริง โลภของถูกเกินไป ท่านไม่ควรให้ความสำคัญกับเค้า ให้เป็นบทเรียนของเค้าไป ท่านต้องรู้ว่าราคาไหนที่ท่านทำได้ ไม่แข่งกันลด กันขาดทุน ท่านก็เหนื่อยสิ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เงินประกันนี่ครับ คุณทำแบบนี้บริษัทเล็กๆที่ให้บริการดีๆเป็นจุดขายก็ตายเงินหมุนเวียนช็อตกันหมดกลายเป็นเหลือแต่เจ้าใหญ่เงินหนาที่ทำได้สิครับ

ปัญหาในข่าว คือ บริษัทที่โกงนี่มันโดนระงับใบอนุญาตไปแล้ว แต่ลูกค้าไม่รู้ก็โดนโกงไป
มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินประกันอะไรทั้งสิ้นตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะครับ
คนมันหน้ามืดจะโกงมันวางเงินประกันไปเท่าไหร่มันก็ต้องโกงให้มากกว่านั้นหลายเท่าได้
แล้วแบบนี้วางเงินเพิ่มไปจะช่วยอะไรละครับ

สมมติวางที่ ททท ไป 700,000 คนโกงมันก็จะโกงให้ได้มากกว่านี้รับทัวร์ไม่อั้นในเวลาอันสั้น คิด 20,000/หัว x 100 = 2,000,000
ททท เอาเงิน 700,000 ไปชดใช้ลูกค้าบางส่วน แล้วอีก 1,300,000 ก็ซวยไป แบบนั้นหรือครับการป้องกันตรงไหนครับ?
ก็เค้าจ้องจะโกงก็ต้องโกงให้ได้มากกว่าเงินที่วางกับ ททท อยู่แล้ว แล้วปัญหาหมดหรือน้อยลงไม๊ครับ?

ผมถึงบอกไงครับคุณจะลงโทษจะอะไรคนโกงก็ทำไป
แต่การที่เอะอะก็มาลากคนอื่นให้เดือดร้อนกันหมดแบบนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาแน่นอนครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
แล้วบริษัทที่ทำมาหากินซื่อสัตย์ก็พลอยโดนไปด้วย แค่นี้ก็ทำมาหากินกันลำบากมาก จริง ๆ เราว่า พวกนี้ต้องตั้งกฏหรือบทลงโทษเอาแบบรุนแรงไปเลย อีกอย่างเดี๋ยวนี้เปิดบริษัททัวร์เปิดกันง่ายเกิ๊นนน มันควรจะต้องลากไปตั้งแต่ผู้ออกระบบการจองตั๋วจองทัวร์เลย ต้องมีการตรวจสอบก่อนได้รับใบอนุญาต ต้องมีการส่งรายงาน มีการตรวจสอบ เหมือนตั๋วที่ต้องเอาเงินไปค้ำประกัน 10 ล้านขึ้นไป ถึงจะสามารถออกตั๋วได้ มีการเช็ค report ทัวร์มันจึงโกงและหลอกกันได้ง่ายกว่า แค่ลงโฆษณาจอง รอวันไปเที่ยวซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือเปล่า แต่ถ้าตั๋วจ่ายเงินออกตั๋วไป แล้ววันรุ่งขึ้นยังเช็คกับสายการบินได้ แต่ทัวร์มันไม่มีระบบนี้ต้องไปวัดดวงเอา

เราอยู่ในวงการนี้มา 10 กว่าปี เอ่ยชื่อแต่ละเอเยนต์ก็รู้แล้วว่าเจ้าไหนเป็นไง พวกนี้นะได้เงินมาเยอะแล้วเหลิง ได้เงินมาง่าย ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย พอไม่มีก็หมุน หมุนไม่ทันก็เป็นแบบนี้ ยิ่งสังคมวัตถุสมัยนี้มันแทบจะคลองประเทศ

เราว่าเราจะเขียนข้อแนะนำในการซื้อตั๋วกับทัวร์รวมถึงบริษัททัวร์และพวกใต้ดินทั้งหลาย แต่ไม่มีเวลาสักที
ทุกอาชีพมันก็มีทั้งดีและไม่ดีละ แต่อย่าเหมากันเลยว่าคนทำทัวร์ทำตั๋วคือคนเลวคนขี้โกง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
#13

ได้โปรดเขียนออกมาเถอะครับ ทุกคนรออยู่ครับ
เดี๋ยวนี้พวกทัวร์ดอกเห็ดทำออกมาแบบมักง่ายเยอะมากจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ผม ว่า ซัก 10,000,000 ดีกว่า พอดี ผมรวยอะ พูดจริงนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15