เกร็ดเล็กๆน้อยๆ จากทริป เยอรมัน - ออสเตรีย ต.ค ที่เพิ่งกลับมา

ผมเพิงกลับมาเมื่อเช้า ยังจำอะไรได้ก็รีบบอกกล่าวก่อนที่จะลืม กระทู้นี้ ไม่มีรูปนะครับ ผมไปเยอรมัน ออสเตรีย รวม 9 วัน 8 คืนที่โน่น ที่เลือกไปช่วงนี้ เพราะอยากเจอใบไม้เปลี่ยนสี และไม่ผิดหวังครับ สวยมาก ถนนธรรมดาที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยว ยังสวยน่าถ่ายรูปเลยครับ

ก่อนอื่น กว่าจะไปทริปนี้ได้ ต้องถามกูรุในนี้หลายๆท่าน โดยเฉพาะ คุณ PKL ที่ข้อมุลแน่นมากๆ และอดทนกับคำถามจุกจิกของผม และอีกหลายๆท่าน คุณ ชอบกินชอบเที่ยว คุณ angel city คุณ jipwigan และอีกหลายๆท่าน

Munich ถ้าเครื่องลงที่นี่ตั๋วกลุ่มเข้าเมือง 20 ยูโร ชื่อ Gesamtnetz และถ้าแพลนจะไปพวก ปราสาทนอยฯหรือ linderhof ในวันรุ่งขึ้น ก็จอง bayern ticket ไปได้เลย จะได้ไม่ต้องฉุกละหุกในวันไปจริง ถ้าจะไป Residence Munchen นั่งรถรางสาย19 (St.-Viet-Str.)  (รถมาทุก10นาที)  ไปลงสถานีNationaltheater
และถ้ามีแพลนจะไปปราสาทนอยฯ และ linderhof ต่อ ก็ซื้อตั๋วเหมาปราสาท 14 วัน Mehrtagesticket family ราคา40ยูโร ต่อ 2 คนครับ
ทานขาหมุ ที่ร้านดัง Hofbrauhaus คนเยอะมากๆน่ะครับ ต้องใจเย็นๆ เพราะพนักงานเค้าก็จะดูว่นวายจนพาลอารมณ์เสียกับเราได้ถ้าเราสั่งช้า ฉะนั้น เอาให้ชัวร์ก่อนว่าจะกินอะไร และเบียร์รสอะไร แล้วค่อยสั่งทีเดียว(อย่าลืมเรื่อง tip ด้วยน่ะคับ เค้าคาดหวังเหมือนกัน)

ปราสาทนอยฯ นั่งสาย 78 ที่สถานี fussen มีรถเยอะครับ มันจะไปส่งเรา และเราต้องเดินไปจุดขายตั๋วอีกประมาณ 200 เมตร ตั๋ว 14 วัน ก็ต้องไปเข้าคิวน่ะครับ เพราะผมนึกว่าไปตรง reserve ticket จะได้ เจอไล่กลับมาเข้าแถวใหม่ ส่วนจุดที่จะนั่งบัสขึ้นปราสาทฯ ไปซื้อตั๋วกับคนขับเลย มันไม่ใช่ที่ขายตั๋วน่ะครับ คือเป็นจุดเข้าคิวขึ้นบัสครับ พอไปถ่ายรูปบนสะพาน Mary ตอนแรกคนจะเยอะ ให้รอหน่อย แป๊ปเดี่ยวหายหมดเลย ถ่ายรูปได้ชิวมาก มุมนี้ยังสวยอยู่ครับ ยิ่งใบไม้เปลี่ยนสี ตรงฐานปราสาทจะสวยมาก
ตอนเดินลงปราสาท จะมีร้านขายขนม snow ball อร่อยดีครับ

Linderhof + Oberammergau นี่แหละรอบปัญหา ผมแพลนจะไป linerhof ก่อน วิธีไปคร่าวๆมี 2 วิธีคือ รถไฟ 2 ต่อ จาก มิวนิกไป Murnau และ Murnau ไป Oberammergau แล้วค่อยนั่งบัสสาย 9622 ไป Linderhof
อีกวิธีที่ผมเจอปัญหาคือ รถไฟจาก มิวนิคไป Oberau และนั่งบัส 9606 จาก oberau ไป สำนักสงฆ์ Ettal และนั่งบัส 9622 จาก Ettal ไป linerhof
ปัญหาที่ผมเจอกลับเป็นปัญหาเดียวกับในหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ตะลุยเยอรมันคือ ช่วงรถไฟแรกจากมิวนิคมา oberau มันดีเลย์นิดนึง ทำให้บัส 9606 จาก oberau มันไม่รอเรา (วิธีแก้คือ นั่งรถไฟกลับไป murnau ตามวิธีแรก) แต่กว่าจะรู้ว่าเค้าไม่รอเรา รถไฟรอบนี้ก็หลุดไปอีก ผมก็เลยรอบัสเหมือนเดิมตามแพลนที่สองรอไปชั่วโมง พอบัสมา คนเยอะ เค้าไม่รับเราอีก บอกว่า บัสเต็มทั้งที่คนก็ยืนไม่เยอะ เลยเสียเวลาโดยใช่เหตุ สุดท้ายผมก็ต้องนั่งรถไฟกลับไป Murnau ใหม่เสียเวลาจริงๆ แต่มาถึงก็หายเหนื่อยเพราะทางขึ้นปราสาท linerhof สวยมาก

Oberamergau มีเวลาในเมืองนี้ไม่เยอะเพราะดีเลย์มาทั้งวัน แต่ก็น่ารักดีครับ ร้านขายของที่ระลึกเยอะดี

เดี๋ยวของออสเตรีย (Hallstatt + Salzburg ) มาต่อครับ

ความคิดเห็นที่ 1
จะไปตค.ปีหน้าค่ะ ขอรวบรวมข้อมูลนะคะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
นึกถึงช่วงเวลานี้เมื่อสี่ปีที่แล้ว ไปBackpackคนเดียว

เป็นช่วงเทศกาล OCT'Festival พอดี ลงเครื่องปั๊บก็ดิ่งไปโรงเบียร์ Hofbrauhaus เลย

สนุกสนานมาก อยากกลับไปเที่ยวอีกจังเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
รอดูรูปด้วยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุุดหรือเปล่าคะ เราเองก็เคยคิดจะไปเหมือนกัน
แต่ยังเก็บเงินไม่ได้ซะที


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
มาถึง Hallstatt and Salzburg น่ะครับ

Hallstatt เหมืองเกลือ ควรขึ้นอย่างยิ่งครับ สนุกและได้ความรุ้ดีครับ

มีสไลเดอร์ 2 ช่วง ผุ้ใหญ่ก็เล่นได้ครับ แต่อย่าลืมขอส่วนลดค่าขึ้นเหมืองเกลือ กับ รร ที่เราไปพักด้วยน่ะครับ ได้ลดไม่มากหรอกประมาณ 2 ยูโรต่อคน (ค่าขึ้นมัน 24 ยูโรครับ)

แต่พอขึ้น cable car ขึ้นไปแล้ว จะเดินเข้าตัวเหมืองเกลือ ก็เดินซักพักใหญ่เลยน่ะครับ น่าจะซัก 500 เมตร แต่ทางเดินก็สวยดีครับ พอดีใบไม้เปลี่ยนสีเลยเดินเพลินๆครับ

ตัวเมือง hallstatt ก็น่ารักดีครับ ไซค์กระทัดลัด เดินแป๊ปเดียวก็ครบทั้งเมือง จุดถ่ายรูปที่มักเห็นใน postcard ก็เดินเลย จัตุรัสกลางเมืองไปไม่ไกล พวกบันไดที่เราเห็นตอนเดินอยู่ สามารถเดินขึ้นไปได้น่ะคับ จะเห็นวิวเมืองมุมสูง และจะเจอสุสานกับที่เก็บหัวกระโหลกของคนที่นี้ด้วย อยู่บริเวณโบสถ์(รู้สึกจะมีอยู่ 2 โบสถ์ แต่โบสถ์ที่เราเห็นในรูปจะเป็นโบสถ์ที่อยู่แถวจัตุรัสครับ) ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็อร่อยไม่แพ้กัน ผมไปกิน Applestredule ไม่ใช่ร้านที่ดังที่สุดแต่ก็เป็นร้านตรงจัตุรัส ก็อร่อยดีครับ

ปัญหามาเยือนตอนย้ายออกจากเมืองนี้ไป salzburg ครับ ตามตารางที่ปรินต์มาจากเวบ แต่พอจริงๆ เวลาตรงป้ายรถบัส มันไม่มี และมันก็ไม่มาจริงๆ ครับ ฉะนั้นใครนั่งบัสไปเมืองนี้ พอลงบัสตรงที่เค้าเรียกว่า hallstatt lahn แล้วดูตารางตรงป้ายบัส ดีที่สุดครับแล้วไปเทียบกับรอบรถในเวบ ว่าตรงกับอันไหน

Trick เล็กๆน้อยๆ กับคนที่จะไป hallstatt แต่ต้องผ่าน salzburg ก่อน แล้วต้องกลับมา salzburg (คือผมมาจาก มิวนิค แต่หารอบในเวบจากมิวนิคมา hallstatt มันดุไกลๆ แต่พอ จาก มิวนิตมา salzburg แล้ว จาก salzburg to Hallstatt มันกลับมีรถมากกว่า) ผมก็เลยจัดกระเป๋าเล็กๆ สำหรับ 1 คืน 1 วันใน hallstatt ขึ้นบัสไป hallstatt เพราะลากกระเป๋าเดินทางขึ้นบัสมันไม่ค่อยสะดวกเหมือนรถไฟครับ ดังนั้น เวลาไปถึง salzburg เพื่อเปลี่ยนรถไป hallstatt ผมก็ไปหา ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าใหญ่ที่สถานีรถไฟ ก็อยู่ใกล้ๆ จุดขึ้นบัสครับ แล้วฝากไว้ 48 ชม เลย พอกลับมาจาก hallstatt ถึง salzburg ก็ค่อยมาเปิดเอากระเป๋าใหญ่ออก แล้วค่อยไป check in กับ รร ครับ)

Salzburg card ซื้อที่ รร ที่เราพักก็ได้คับ ผมซื้อแบบ 24 ชม คุ้มมากครับ(25 ยูโร) เพราะเปิดฉากใช้บัตรผมก็ไป Untersberg (21 ยูโร) ต้องขอบคุณพนักงานตรง reception ของ รร เค้าเปิดหนังสือพิมพ์หน้าพยากรณ์อากาศ แล้วมันมีบอกระดับความสูงของเมฆ วันที่เราคิดแค่เข้าตัวเมืองอย่างเดียวเค้าก็มาบอกว่า ระดับความสูงของเมฆมันต่ำกว่าความสูงของ untersberg น่ะ ยูจะได้เห็นฟ้าใสๆ เลยก็เลยเชื่อเค้าเอามันกลับเข้ามาในแพลนใหม่ แล้วนั่งบัสสาย 25 สุดสายไป และก็ไม่ผิดหวังครับ เราอยู่เหนือเมฆจริงๆ ฟ้าใสปิ๊งเลยครับ

มื้อเที่ยงเรามาทานร้านดัง Sternbreu ชื่อประมาณนี้ครับ ข้ามสะพานเข้าโซนเมืองเก่าก็เจอเลยร้านนี้ และทานเสร็จจุดชมวิวแรกก็อยู่ใกล้ๆร้านเลยครับคือ จุดชมวิวมุมสูง Museum of Modern Monchasberg และใช้ salzburg card ฟรีครับ ส่วนที่เที่ยวอื่นๆ เช่นป้อมปราการ Hohensalzburg กับโบสถ์ ก็อยุ่ไม่ไกลจากกันครับ เดินได้หมด

Rothenburg ob de Tauber พอดีเป็นวันเสาร์ก็เลย ซื้อตั๋วกลุ่มแบบ สุดสัปดาห์ใช้ได้สูงสุด 5 คน รวม 40 ยูโรครับ เรียกว่าตั๋ว Schones-Wochenende ticket ซื้อที่เครื่องเดียวกับที่กด bayern ticket เลยครับ เมืองนี้ recommend เลยครับ น่ารักมากๆ บ้านเรือนสีสดใส และร้านขายของที่ระลึกก็มีแต่ของน่ารักๆ โดยเฉพาะของคริสต์มาส เพราะร้าน Kathe Wohlfahrt เป็นร้านขายตุ๊กตา christmas ที่ดังที่สุด และมีขายตลอดทั้งปี  และสาขาตัวแม่ก็คือที่ โรเทนบวร์ก นี้เองครับ และเป็นเมืองในเส้นทาง romantic road ด้วย แต่อาจลำบากนิดนึงในการลากกระเป๋าเพราะพื้นเป็น หินก้อนๆแบบโบราณ มันก็จะใช้แรงลากพอสมควร

Heidelberg เมืองสุดท้ายที่ผมไป แต่เป็นแบบ day trip เพราะมาจาก Frankfurt ครับ เมืองนี้ก็น่ารักครับ ถนน ชอปปิ้งซึ่งเป็นถนนหลักที่พาไปปราสาท Heidelberg ค่อนข้างยาว ผมว่าเกือบ 1 กม. เลยครับ แต่เดินเพลินเพราะร้านค้าเยอะมาก และตัวตึกก็มีสีสันสดใสเหมือนกัน จากสถานีรถไฟมาถนนนี้ ต้องต่อบัสหรือรถรางน่ะครับ ให้ลงที่สถานี Bismarkplatz ครับ ประมาณ 8 นาทีเท่านั้น เวลาขึ้นปราสาท จะใช้ cable car ขึ้นไป สถานีแรกก็ลงได้เลยครับ แล้วค่อยเดินลงตอนชมปราสาทเสร็จ ผมมีเวลาในเมืองนี้น้องมากแค่ 2 ชม นิดๆเอง จริงๆน่าจะให้กับเมืองนี้ซัก 4-5 ชม เลยครับ จุดชมวิวมุมสูงบนปราสาทที่สวยที่สุด อยู่ตรงตึกที่เวลาเราเดินเข้าโซนปราสาท แล้วตึกตรงๆๆหน้าเราเลยครับเดินทะลุตึกไป วิวสวยมากครับ เห็นตัวเมือง heidelberg ครบ รวมทั้งสะพานและแม่น้ำด้วย

สรุป ทริปนี้ ประทับใจมากครับ เยอรมัน มีดีกว่าที่คิดเยอะ บางทีผมเริ่มชอบมากกว่า สวิสฯ ที่ไปมาแล้วอีก เพราะยังมีอีกหลายเมืองที่น่าไปและรอบนี้ไม่ได้ไปครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ดีใจที่ทราบว่าไปแล้วประทับใจครับ เยอรมันเป็นประเทศที่สวยมากๆ และค่าใช้จ่าย เช่น ค่าที่พัก ค่าเข้าที่เที่ยว ไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับสวิสหรืออิตาลี


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
คิดถึงเยอรมันเช่นกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
กำลังจะไปเยอรมัน-ออสเตรียค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่มาแชร์ข้อมูลดีๆ
ตอนนี้กำลังนับถอยหลังค่ะ ตื่นเต้นจัง
เพราะเดินทางคนเดียวค่ะ
อยากไปยืนอยู่ตรงกลางเมือง Hallstatt และ Rothenburg ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8