วันนี้ไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา F1 มาค่าา

เราใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์ในการเตรียมตัว เตรียมเอกสาร เพื่อจะสมัครสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ เริ่มตั้งแต่สมัครเรียน >>> รอรับใบ I-20 ที่โรงเรียนส่งมาให้ >>> สมัคร SEVIS >>> ซื้อ PIN >>> ไปถ่ายรูป >>> กรอกฟอร์ม DS-160 >>> เตรียมเอกสารที่เหลือ พวก Passport เล่มเก่าที่เคยใช้เข้าอเมริกา, Transcript, หนังสือรับรองการทำงานของแม่, Statement ของแม่ >>> ไปจ่ายเงินค่าวีซ่าที่ไปรษณีย์ >>> เดินทางไปสัมภาษณ์

เราได้นัดวันสัมภาษณ์ไว้วันนี้ เวลา 14.00 ออกจากบ้านตั้งแต่สิบเอ็ดโมงครึ่งค่ะ นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีเพลินจิตแล้วก็เรียกพี่วิน 30 บาทไปตึกสินธร (สะกดผิดขออภัยนะคะ) ที่อยู่ตรงข้ามสถานทูต เพราะเราไม่ได้จ่ายค่าวีซ่าที่ไปรษณีย์มาก่อน สำหรับคนที่จะมาจ่ายก่อนสัมภาษณ์ที่ไปรษณีย์หลังตึกสินธรก็สะดวกดีนะคะ แต่ขอให้เผื่อเวลาไว้ด้วยซักชั่วโมงนึง เพราะไปรษณีย์ค่อนข้างเล็ก คนเยอะ โดยเฉพาะช่วงพักเที่ยง เราใช้เวลากับไปรษณ์ไปเกือบชั่วโมงเลย วันนี้จ่ายไป 5,120 บาทค่ะ แอบแพง T^T

พอมาถึงสถานทูตก็เข้าแถวเลยค่ะ มาก่อน 14.00 ประมาณสี่สิบนาที วันนี้คนน้อยมากนะคะ พี่เสื้อม่วงจะเข้ามาเช็กชื่อ เช็กเวลานัด เช็กเอกสารนิดหน่อย แล้วเราก็ผ่านเข้าไปในตึกค่ะ เค้าจะให้ฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย ร่มด้วยนะคะ แต่น้ำขนมเอาเข้าไปได้ค่ะ เราพกน้ำไปขวดนึง นมกล่องนึง แหะๆ แล้วพอผ่าน Security check เข้ามาจะเจอโต๊ะพี่เสื้อม่วงเตรียมเอกสารใส่แฟ้มให้เราค่ะ แล้วก็ไปต่อแถวสัมภาษณ์รอบแรกกับเจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ เค้าก็จะถามข้อมูลนิดๆหน่อยๆ คีย์ข้อมูล พิมลายนิ้วมือ สไตล์เจ้าหน้าที่แต่ละคนจะต่างกันนะคะ บางคนเสียงดังถามแหลก บางคนยิ้มๆ นิ่งๆ ขอให้เราตั้งใจกรอกข้อมูลเอกสารที่เตรียมมาให้ดีนะคะ เห็นโดนตำหนิไปหลายคนเลยว่าที่พูดมาไม่ตรงกับที่กรอก เช่น เคยโดนปฏิเสธขอวีซ่ามั้ย ทำงานอะไร กรอกเองรึเปล่า ขอให้ตอบไปตามจริงนะคะ

พอผ่านด่านเจ้าหน้าที่คนไทยมา เค้าจะหนีบบัตรคิวมากับพาสปอร์ตเรา แล้วก็ส่งเราต่อเข้าห้องสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกัน เราก็นั่งรอนะคะ รอเรียกหมายเลข พอถึงคิวเราตื่นเต้นมากมายเพราะได้มายืนรอช่องเจ้าหน้าที่ผู้หญิง แอบกลัวค่ะเพราะเห็นเค้าถามคนก่อนหน้าเราเยอะแยะ นานด้วย ภาษาไทยแข็งแรงเชียว แต่หน้าตาเค้ายิ้มแย้มดีนะคะ ไม่หน้าบูด แต่พอเอาเข้าจริงถึงคิวเรากลับได้เจ้าหน้าที่ผู้ชายตู้ข้างๆ เค้าก็ถามเรานะคะว่า

จนท: พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย
เรา: ได้ค่ะ
แล้วเค้าก็พูดภาษาอังกฤษกับเราตลอดเลย ใจความประมาณว่า
จนท: จะไปเรียนภาษาอังกฤษใช่มั้ย
เรา: ใช่ค่ะ
จนท: ก็ดูคุณใช้ภาษาอังกฤษได้ดีนะ แล้วจะไปเรียนทำไมอีก
เรา: หนูใช้ภาษาแบบทางการไม่ค่อยได้ค่ะ เลยอยากไปพัฒนาให้เป็นเรื่องเป็นราว
จนท: คีย์ข้อมูลไปพักนึง เงยหน้ามามองเรา ผมว่าคุณแย่แล้วนะ
เรา: ทำไมคะ??!!
จนท: เมืองนี้มันน่าเบื่อมาก สัญญานะว่าคุณต้องไปเที่ยวเมืองอื่นด้วย
เรา: ค่ะ -*-
จนท: ใครออกเงินให้ครับ
เรา: แม่ค่ะ
จนท: ขอดู Statement ของแม่ด้วยคร้บ
เรา: ยื่นให้ทั้งหนังสือรับรองที่ทำงาน และสมุดบัญชี
จนท: อ๋อออ แม่ทำงานที่นี่หรอ
เรา: ค่ะ
จนท: เมืองที่เราจะไปบ้านนอกนะ น่าเบื่อนะ
เรา: ไม่เป็นไรค่ะ จะได้ประหยัดกว่าอยู่เมืองใหญ่ค่ะ ช่วยแม่ประหยัด
จนท: คุณเป็นลูกสาวที่ดีมาก ช่วยแม่ประหยัด ลูกสาวผมไม่ประหยัดเลย
เรา: ค่ะ -*-
จนท: วงนิ้วโป้ง (Thumb) ลงบนเครื่องสแกนด้วยครับ
เรา: ข้างไหนคะ
จนท: ผมบอกว่า Tongue (ลิ้น) แล้วก็แลบลิ้นออกมา
เรา: เห้ย ไม่ได้ค่ะ
จนท: ล้อเล่นครับ นิ้วโป้งข้างซ้ายครับ
เรา: -*-
จนท: คีย์ๆข้อมูล ผมชอบคุยกับผู้สมัคร จะได้ไม่น่าเบื่อกับงานตัวเองครับ
เรา: ค่ะ
จนท: เอาใบสีฟ้านี่ไปยื่นที่ไปรษณีย์ข้างนอกนะครับ ขอให้เอ็นจอยเมืองที่จะไปอยู่นะครับ
เรา: ขอบคุณมากค่าา

แล้วก็เดินยิ้มออกมาเลยค่าาา

เจ้าหน้าที่ไม่น่ากลัวเลยนะคะ ขอให้ตอบทุกอย่างตามจริง ค่อยๆพูด ถ้าเค้าไม่ถามก็เงียบๆไว้ค่ะ คิดว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนพูดภาษาไทยได้ ใครภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงไม่ต้องกลัวนะคะ เจ้าหน้าที่ที่เราเจอวันนี้มุกกระจายมาก จะให้เราสอนพูดคำว่านิ้วโป้ง ปิงปอง -*- คลายเครียดจากเครื่องวีซ่ามาเครียดกับการสอนเจ้าหน้าที่ออกเสียง ป.ปลา แทนค่ะ -*-

เขียนมาซะยืดยาว อย่างน้อยก็ขอให้คนที่กำลังเครียดได้อ่านให้เป็นประโยชน์และคลายเครียดไปได้บ้างนะคะ ^^ เพราะก่อนเราสัมภาษณ์ก็เครียดน่าดูเหมือนกัน

ความคิดเห็นที่ 1
จขกท.

พอดีเรากำลังรอคิวนัดสำภาษณ์จากทางเอเจ้นนะคับกลัวๆเหมือนกันเห็นบอกว่าสำภาษณ์หินมากๆนะไม่รู้ว่าเราจะรอดเปล่าแบบว่าภาษาอังกิตไม่ค่อยเก่งอย่างมาก
เราขอถามนิสนึ่งนะครับ เงินในบัญชีประมาณ 5-6 แลนนี้โอกาสวีซ่าผ่านใช่เปล่าครับ

แล้วเขาถามนานไหม๊อ่ะครับแล้วถาตอบไม่ได้พูดไทยไปยด้เปล่ากลัวแาะกังวนมากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขออนุญาตช่วย จขกท ตอบนะคะ

- อังกฤษไม่เก่งไม่เป็นไรค่ะ จนท พูดไทยพอได้ และฟังภาษาไทยรู้เรื่อง
- 5-6 แสน ถ้าไป 3- 6 เดือนก็ครอบคลุมค่าใช้จ่าย ไม่น่ามีปัญหานะคะ
- ถามนานหรือไม่ อยู่ที่ประวัติที่เรากรอกไป และเอกสารที่เตรียมไปด้วยอ่ะคะ
คือถ้าทุกอย่างครบ ก็น่าจะถามเหมือนๆคนอื่น แต่ถ้ามีอะไรขาดเค้าก็จะถามเพิ่มเติม
(เท่าที่สังเกตนะคะ) แนะนำว่า ให้ตอบสั้นๆแต่รัดกุมและตรงประเด็นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณ จขกท ที่มาเล่าให้ฟัง
ช่วยบอกเพิ่มเตืมหน่อยนะ ว่าเรียนจบอะไร มากีปี ทำงานอะไรมานานเท่าไร ขอไปเรียนภาษาอังกฤษนานเท่าไร เงินใน Statement เท่าไร พอได้หนังสือเดินทางคืนก็ช่วยบอกว่า ได้ วีซ่ากี่ปี
แบบนี้ คิดว่าคงมีประโยชน์มากขุึ้น ขอบคุณนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณ nake_nook คะ
ไม่ทราบว่าคุณได้ใบ I-20 จากโรงเรียนรึยัง เพราะตอนที่เราสมัครเรียนไป ก่อนที่เค้าจะส่งใบ I-20 มาให้ เค้าจะขอดู Statement ของเราและตัวก้อปปี้พาสปอร์ตค่ะ ถ้าคุณให้เค้าดูไปแล้ว แล้วเค้าส่งใบ I-20 มาให้แล้ว แสดงว่า Statement ของคุณใช้ได้ไม่มีปัญหาค่ะ ก็ไม่ต้องกลัวตอนสัมภาษณ์ที่สถานทูตนะคะ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้ใบ I-20 ให้ลองส่ง Statement ไปให้โรงเรียนพิจารณาดูก่อนนะคะ
เค้าถามนานมั้ย ก็ไม่นานนะคะ ไม่เกินห้านาที ตอบให้ตรงประเด็นเข้าไว้ค่ะ ภาษาไม่ต้องห่วงนะคะ พูดไทยปนอังกฤษได้ อันไหนไม่มั่นใจตอบไทยไปเลยค่ะ มั่วอังกฤษไปเด๋วไขว้เขว

คุณ immeeLy คะ
อิอิ ขอบคุณนะค้า มาช่วยกันตอบ

คุณ ธนิตา คะ
เราเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีและรับปริญญาไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เองค่ะ จบทางด้านการบินมา ไม่เคยทำงานเลยค่ะ ตอนที่เรากรอก DS-160 เรากรอกไปนะคะว่าขอไปเรียน 1 ปี เพราะใบ I-20 ที่ทางโรงเรียนให้มาเขียนว่าหลักสูตรนี้ควรใช้เวลา 1 ปีในการสำเร็จหลักสูตร แต่จริงๆแล้วเราจะเรียนกี่เดือนก็ได้ค่ะ แต่ใจจริงเราอยากเรียนแค่ประมาณ 6 เดือน ตอนสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่อเมริกันถามว่าจะไปนานเท่าไหร่ เราก็ตอบไปว่าอย่างน้อย 6 เดือนค่ะ เงินใน Statement เรามี7หลักค่ะ เดี๋ยวถ้าได้วีซ่ามาแล้วจะบอกอีกทีนะคะว่าได้นานเท่าไหร่


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จขกท.

I-20 เราคิดว่าน่าจะได้มาแล้วนะครับเพราะเราทำผ่านเอเจ้นนะครับ แต่พอได้อ่านหลายๆความคิดก็สบายใจขึ้นมาเยอะนะครับต้องขอบคุณมากๆสำหรับการมาแชร์ประสบการณ์นะครับ แต่ I-20 นี้เขาออกให้ตอนเราสมัคและส่งแบงค์การันตรีไปตอนแรกอันนี้ผมเข้าใจถูกใช่เปล่าครับผม


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
คุณ nake_nook ใช่ค่า I-20 จะออกให้ตอนเราสมัครและได้โชว์หลักฐานทางการเงินค่า สู้ๆนะคะ ฮึบๆ



วันนี้ไปรษณีย์มาส่งแล้วค่ะ ตื่นเต้นมาก เปิดซองๆ รายละเอียดหน้าวีซ่าบอกไว้ว่า Issued Date 25OCT2012 และ Expiration Date 23APR2013 สรุปว่าได้ประมาณ 6 เดือนค่า ทั้งๆที่ในใบ I-20 เขียนเอาไว้ว่าต้องใช้เวลาจบหลักสูตร 12 เดือน แต่ตอนสัมภาษณ์เราบอกไปว่าเราจะอยู่อย่างน้อย 6 เดือน เค้าเลยให้มาแค่นี้ -*-


ตอบกลับความเห็นที่ 6