แชร์ประสบการณ์ สัมภาษวีซ่า F1 ค่ะ

ไปสัมภาษณ์วีซ่า us มาแล้วคะ วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ เพราะว่าได้อะไรหลายๆอย่างจากที่นี่
ขอขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะคะ เราอ่านของหลายท่านมากเลยคะ แล้วเราก็ตั้งกระทู้ถามไปด้วย
มีพี่ๆใจดีหลายๆคนมาตอบ เพราะก่อนไปก็เครียดมาก ตั้งแต่วันซื้อพิน กรอกแบบ ds-160 โทรนัด เครียดจนนอนไม่หลับเลยคะก่อนวันสัมภาษณ์ 2 วันนี่ยิ่งหนัก แหะๆ --"

ที่เราไปคือเราจะไปเรียนภาษาแล้วต่อคอลเลจแล้วก้จะพยายามทำคะแนนดีดีเพื่อtransferไป u ค่ะ และนี่คือประสบกาณ์ของเรานะคะ พวกขั้นตอนอาจจะเล่าไม่ได้ละเอียดมาก
เพราะสมองตอนนั้น มึนๆมากคะ ตื่นเช้า ตอนกลางคืนก็ไม่ได้นอน เบลอเลยคะ แต่อย่าเอาแบบเรานะคะ เครียดเกินไป จริงๆควรทำใจสบายๆคะ ดีที่สุด :D

วันที่ 18 ตุลาคม 55 ไปถึง US embassy ตั้งแต่ 6เกือบ 7โมงแล้วคะ ก็ยืนรอ พอถึงเวลาก็จะมีเจ้าหน้าที่มาแยกรอบนัด เช็คชื่อ ด่านต่อไปก็ฝากพวกโทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสาร เสร็จแล้วก็เข้ามาในสถานทูต
เจ้าหน้าที่ก็จะแยกเอกสารที่เราต้องยื่นให้ท่านกงศุลเป้นแฟ้มๆให้คะ จากนั้นก็จะให้เราเดินไปช่องตามที่เค้าระบุ
ซึ่งเราเนี่ย เคยได้วีซ่าท่องเที่ยวมาแล้ว เค้าก็จะไห้ไปช่อง 14-15 เลยคะ แต่ด้วยความมึนไงคะ อ่านแล้วนะ แต่ไม่ได้เดินไป
เดินตามคนอื่นไปซะงั้นไปต่อช่องง1-3ซะงั้น (โดนเจ้าหน้าที่ติไปตามระเบียบ อิอิ) พอไปถึช่อง15ก้ไปยืนรอ ก็ไม่มีอะไรเลยคะ
เค้าก็แค่ถามว่า ใครกรอกให้ ไปทำไร นิดหน่อยเอง แล้วก็แสกนนิ้ว เป้นผู้หญิงคนไทยคะ ดูใจดี
จากนั้นเค้าก็บอกให้เราไปยืนรอสัมภาษณ์ช่อง 13 เลยค่ะ

ช่อง13เป็นฝรั่งผู้ชายนะ ดูตอนแรกๆเห็นเค้าสัมภาษณ์เยอะมากคะ กว่าจะปล่อยไปคนนึง นานมาก ตอนนั้นแอบกลัว แต่ก็บอกกับตัวเองว่า เราต้องทำได้ๆ
ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆคะ พอถึงคิวเรา เราเดินยิ้มไปพน้อมพูดว่า good morning, Sir เลยค่ะ เค้าก็ยิ้มและ good morning กลับมา
consular : associate degree ?
me : first, i will study english course then i will use english as a key to stydy in 2 years college (ตอนนี้กงท่านกงศุลแทรกขึ้นมาค่ะว่า university right ?)
me : เราก็ yes and transfer to university
consular : who is sponsoring you ?
me : my parents. my father works as a ..... of .... airways international. my mother owns bussiness
consular : (พยักหน้า) .......... statement ?
me : เราก็หยิบ statement ให้ท่านดู เอาไป2ธนาคารเลยคะ แล้วก็หยิบใบรับรองการทำงานของพ่อ
ท่านดูทุกอย่างเลย ดูอย่างละเอียด statement ก็ดู เปิดไปหน้าสุดท้าย แล้วก้อ่านใบรับรอง
consular : do you know anyone in us ?
me : my father's friend she works as a chef in restaurant . my first month i will stay with her
at the same time i will find a room or aparment near my college
consular : พยักหน้าๆ หันไปพิมๆ คงหาข้อมูลแหละคะ
(เราก็แอบเสียวๆ แต่ก็ต้องบอกไปอะคะ เพราะว่า เราใส่ที่อยู่ของคนนี้ไปใน ds-160 ไงคะ
แล้วเราก็เลยหยิบ ใบที่เราปริ้นรูปอพาร์ทเม้น + ชื่อของเค้ามาให้ท่าน ท่านก้รับไปดูๆ) จากนั้นท่านก็หันมาต่อ
consular: what kind of your mother's bussiness about?
me: she owns bussiness about electronics parts (พร้อมหยิบรูปถ่ายร้านแม่+ที่อยู่มาให้ท่าน)
consular : can you show me ........ of your bussiness ?
พูดเร็วมากคะ แต่เราเดาว่าใบทะเบียนการค้า เราเลยหยิบใบทะเบียนการค้ามาให้ท่าน ท่านก็ดูนะคะ ขนาดเป้นภาษาไทย เพราะเราไม่ได้เอาไปแปลเลยคะ แล้วท่านก็พยักหน้าๆ
consular : .... work thai restaurant ? พูดเร็วอีกแล้ว
me : No no พร้อมส่ายหัว
จากนั้นท่านก้ยืนเลยคะ แล้วก้มหน้าลงมาจ้องตาเรา แล้วพูดอย่างจริงจังเป็นภาษาอังกฤษ
consular: remember.. คุณรู้ใช่ไหม การทำงานผิดกฎหมาย ห้ามทำงานเลยนะ รู้ใช่ไหม ถ้ามีใครมาบอกก็ห้ามทำนะ แม้แต่แค่คุณเริ่มทำ 1ชม..... บลาๆ มายาวเลยคะ
เราพยักหน้า yes yes (ตรงนี้เรามองว่าเหมือนท่านอารมณ์ ดุๆสอนๆ อะคะ ฮีๆๆ)
consular : are u sure
me : yes
consular : can i trust you ? (มองจ้องลึกเข้ามาในดวงตา)
me : yes
consular : promise me ?
me : yesssss! พร้อมหัวเราะ ออกมา
consular : ah ! แล้วก็หัวเราเหมือนกัน
consular: ok bring this one to the post office
แล้วก็ยื่นไอ่แผ่นสีขาวๆอะคะ ที่เราเขียนไปตอนแรก
me : thankyou, sir
จากนั้นเราก็เดินออกมาด้วยความงง แบบนี้คือเราได้แล้วใช่ไหมคะ ใจจริงอยากจะหันไปถามท่านต่อมาก แต่แบบไม่กล้าๆ เห้นท่านหันกลับไปพิมคอม
เรา เลยเดินออกมาไปจ่ายตังงงที่ไปรษณ๊ย์ กลับบ้าน !lสมองยังมึนๆเบลอๆคะ เพราะไม่ได้นอน

เราขอถามๆพี่ต่ออีกได้ไหมค่ะ (ยังจะมีคำถามม ><)
1. แบบนี้แสดงว่าเราได้ visa แล้วใช่ไหมคะ
2. sevis fee อะคะ วันที่เราเดินทางเข้า us เราต้องมีใบเสร็จตัวจริงไหมคะ เพราะว่าใบเสร็จตัวจริงเราอยู่ที่เมกาอะคะ เราใส่ที่อยู่ที่นั่นไป เพราะคิดว่าจะได้รับเร็วกว่า --"

แต่ความจริงแล้วพี่ๆที่นี่แนะนำว่าให้บอกไม่มีคนรู้จัก แต่ที่เราบอกว่ามีเพื่อนพ่อ ก็เพราะเรากรอกที่อยู่ไปในใบ ds-160อะคะ เราว่าจริงๆท่านไม่ได้ดูที่เรื่องนี้อย่างเดียวหรอกคะ
ดูหลายๆอย่าง statement ความผูกพันกับที่ไทย บอกบอกได้ แต่เราต้องมีคำตอบที่เป้นเหตุเป้นผล ว่าเราจะไม่ไปทำงานจริงๆ อันนี้ความคิดเรานะคะ แต่ทางที่ดีบอกว่าไม่รู้จักใครเลย ดีที่สุด ค่ะ !
.
ขอบคุณทุกๆท่านมากมากนะคะที่ใจดีคอยช่วยและ ประสบการณ์ของหลายๆท่านในห้องนี้ ขอบคุณจริงๆคะ ถ้ามีประสบการ์อะไร จะเอามาแชร์อีกคะ !

ความคิดเห็นที่ 1
ขอแสดงความยินดีครับ หากเขาไม่คืน passport และไม่ได้ขอเอกสารอะไรเพิ่มเติม นั่นก็ยืนยันแล้วว่าคุณได้วีซ่าแล้ว รอรับ passport พร้อมวีซ่า ที่บ้านแล้วเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมทุกอย่างที่มี มาลุยกับสิ่งที่ต้องการที่นี่ ให้สนุกอย่างที่ต้องการครับ ไม่รู้ไปรัฐไหน แต่ขอให้โชคดี และประสพความสำเร็จตลอดการศึกษาครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอแบบนี้เลย อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ดีใจด้วยค่ะ

เข้าใจเลยว่า จขกท รู้สึกยังไงเพราะเราก็เครียดมากก่อนไป


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณ chotwattana09 ขอบคุณมากๆนะคะ วันนี้ตอนบ่ายๆเพิ่งได้วีซ่ามาสดๆร้อนเลยคะ แอบเสียวๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็คิดไว้แล้วว่าต้องสู้คะ ! ไป CA คะ

คุณ อีกออินึนเด ใช่คะ อิอิ

คุณ Hummm เครียดมากคะ ไม่อยากจะทำอะไร พอผ่านไปแล้วโล่งมาก ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ยินดีด้วยครับ ผมมาอยู่ที่นี่ได้ปีนึงแล้ว แต่กำลังจะกลับบ้านแล้วเดือนหน้า


ตอบกลับความเห็นที่ 5