เรียนภาษาอเมริกาโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว

คือเราอยากจะไปเรียนต่อที่อเมริกาแต่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้ไหม เลยอยากไปลองเรียนภาษาสั้นๆดูก่อน ทราบมาว่าวีซ่าท่องเที่ยวสามารถลงเรียนภาษาเป็นนักเรียน part time ได้ ปัจจุบันเรามีวีซ่าท่องเที่ยว 10 ปี เคยไปเที่ยวมาแล้ว 1 ครั้ง เป็นระยะเวลาแค่ 1 อาทิตย์ ตอนนั้น ตม เค้าไม่ได้แสตป์ว่าให้เราอยู่ได้ถึงเมื่อไร อยากจะขอคำแนะนำว่า
1. ถ้าเราจะเข้าประเทศอเมริกาอีกครั้ง เราควรบอก ตมที่โน่นเลยดีไหมว่าเราจะมาอยู่ 6 เดือนเพื่อเรียนภาษา part time. เรากลัวว่า เค้าจะแสตมป์ให้เราแค่ 1 เดือน หรือ 3 เดือนอ่ะค่ะ
2. หลังจากเราที่เรียนจบ 6 เดือนแล้ว หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ถ้าเราตัดสินใจว่าอยากจะเรียนโท แล้วเรากลับมาขอวีซ่านักเรียนที่เมืองไทยจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของเราหรือเปล่า
3. ถ้าเราขอวีซ่านักเรียนไปเลยแต่เราบอกว่า เราจะไปเรียนภาษาก่อน..ยังไม่แน่ใจว่าจะต่อโทที่โน่นหรือเปล่า จะทำให้เราได้วีซ่าสั้นลงไหมค่ะ คือเรากลัวว่าถ้าเราได้วีซ่าแค่ปีเดียว หรือแค่ระยะเวลาที่เราบอกว่าจะเรียนภาษา สุดท้ายเราก็ต้องขอใหม่อยู่ดี ในกรณีที่ตัดสินใจว่าจะเรียนโท เราติดบ้านค่ะ คิดว่าคงกลับบ้านทุกปี

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบและคำแนะนำล่วงหน้านะค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ

1. ตมฺจะเป็นคนกำหนด ว่าคุณอยู่ได้นานเท่าไหร่ ซึ่งถ้าคุณบอกคุณจะมาเรียน ภาษาเป็นเวลาถึง6เดือน ตม. จะถามคุณว่าทำไมไม่ทำวีซ่านักเรียนมา การทำวีซ่าท่องเที่ยวมาเรียนจะเรียนได้แค่ 16 hrs/wk แต่ข้อดีของวีซ่าท่องเที่ยวคือคุณไม่ต้องรักษาสถานะการเป็นนักเรียน ขาดเรียนเกิน 20%ของจำนวนเวลาที่ลงเรียนได้ แต่ถ้าที่มี elective class ที่น่าสนใจ บางโรงเรียนอาจไม่ให้คุณลงเรียน

2.เราคิดว่า การทำแบบที่คุณบอกนั้นดีแล้ว เป็นการเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่น่ามีปัญหา

3.ส่วนใหญ่ คนที่ไปเรียนแค่ภาษาไม่ได้บอกว่าจะเรียนโท ก็ได้ระยะตามนั้น แต่ถ้าเงินในบัญชีคุณพอต่อการเรียนโท มันก็ไม่เสียหายถ้าคุณจะบอกไปเลยว่าจะเรียนโทต่อ เรียนไม่เรียนค่อยว่ากันอีกที


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เอาแค่ข้อแรกก่อน ทันทีที่ จขกท บอก ตม ว่า จะมาเรียนภาษาไม่ว่าจะพาร์ทไทม์ฟลูไทม์ก็ตาม ทันทีนั้น ตม ก็จะเชิญเข้าห้องที่เรียกว่าห้องเย็น และก็จะจบลงที่เขาไม่ให้เข้าเมือง ไม่ทราบไปได้ข้อมูลอะไรมา ว่าวีซ่าท่องเที่ยวสามารถเรียนภาษาพาร์ทไทม์ได้? วีซ่าท่องเที่ยวเขาให้มาเที่ยวชั่วคราวเฉยๆ จะเรียนจะฝึกงานอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ผิดวัตถุประสงค์ของวีซ่า ที่คนเคยเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแล้วไปลงวิชาเรียนๆกันนั้นนะ หาก ตม รู้จะถูกจับส่งกลับและห้ามเข้าประเทศอีก ความผิดเฉกเช่นเดียวกับ มาวีซ่าท่องเที่ยวแต่แอบไปทำงาน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
มาตอบข้อสามค่ะ แต่เราทำเมื่อสองปีที่แล้วนะคะ
เราไปเรียนเดือนเดียว เขาให้วีซ่าเรามา ๕ ปีค่ะ... แบบจัดเต็มเลยทีเดียว(สงสัยคงเห็นว่าถ้าในห้าปีนี้อยากกลับไปอีกจะได้ไม่ต้องมาทำวีซ่าใหม่กระมัง อิอิ)


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
1. ถ้าเราจะเข้าประเทศอเมริกาอีกครั้ง เราควรบอก ตมที่โน่นเลยดีไหมว่าเราจะมาอยู่ 6 เดือนเพื่อเรียนภาษา part time.
->> วีซ่าท่องเที่ยว ไม่สามารถสมัครเรียนได้
2. หลังจากเราที่เรียนจบ 6 เดือนแล้ว อยากจะเรียนโท กลับมาขอวีซ่านักเรียนที่เมืองไทยจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของเราหรือเปล่า
->> ถ้าได้อยู่ถึง 6 เดือน มีผลว่าไม่ผ่านแน่นอนคะ เพราะใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้าไปแล้วอยู่เที่ยวถึง 6 เดือน คำถามต่าง ๆ จะตามมาว่าอยู่ทำอะไร ถ้าตอบไปว่าอยู่เรียนภาษา คงจะเดินกลับออกมาพร้อมกับ passport และกระดาษ 1 ใบว่าไม่ผ่านอนุมัติ
3. ถ้าเราขอวีซ่านักเรียนไปเลยแต่เราบอกว่า เราจะไปเรียนภาษาก่อน..ยังไม่แน่ใจว่าจะต่อโทที่โน่นหรือเปล่า จะทำให้เราได้วีซ่าสั้นลงไหมค่ะ
->> วีซ่านักเรียนที่คุณได้ไม่ว่าจะเป็น 3 เดือนหรือ 5 ปี จะมีข้อกำหนดเหมือนกันคือ อายุขอวีซ่าที่ได้จะขึ้นอยู่กับ I-20 ของโรงเรียนที่คุณเข้าเรียน ถึงคุณได้วีซ่า 3 เดือน ถ้าได้ลงเรียนแล้ว จะลงเรียนระดับต่อไป ก็ต้องขอให้โรงเรียนออก I-20 เพื่อให้ต่ออายุวีซ่าให้คุณได้เรียนต่อ ไม่จำเป็นจะต้องได้ 5 ปีในครั้งแรก
ถ้าอยากมาเรียนขอวีซ่านักเรียนให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องเสี่ยงในกรณีต่าง ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
Pleasure, Tourism, Medical Treatment - Visitor Visas (B-2) - As examples, if the purpose of your planned travel is recreational in nature, including tourism, vacation (holiday), amusement, visits with friends or relatives, rest, medical treatment, activities of a fraternal, social, or service nature, and participation by amateurs, who will receive no remuneration, in musical, sports and similar events or contests, then a visitor visa (B-2) would be the appropriate type of visa for your travel. If you are going to the U.S. primarily for tourism, but want to take a short course of study which is recreational (and not for credit towards a degree), and the course is less than 18 hours per week, this is permitted on a visitor visa. As an example, if you are taking a vacation to the U.S., and during this vacation you would like to take a two-day cooking class for your enjoyment, and there is no credit earned, then this would be permitted on a visitor visa. A consular officer will determine the visa category you will need based on the purpose of your travel, and your supporting documentation.
ที่มา : http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_1262.html

ก็ไม่ห้ามนี่ครับ ถ้าเป็นคอร์สระยะสั้น ไม่เอาเครดิต และไม่เกิน 18 ชม./สัปดาห์
ส่วนจขกท. ถ้าอยากจะเรียน ผมว่าทำวีซ่านักเรียนมาเลยดีกว่า ตรงประเด็นกว่า และถ้าในอนาคตวางแผนจะเรียนโทต่อ ตอนสัมภาษณ์ก็บอกไปเลยว่าวางแผนไว้ การถือวีซ่าท่องเที่ยวแล้วเดินเข้าไปหาตม.แล้วบอกว่าขออยู่นานๆเพราะจะเรียนเนี่ย เป็นผมผมก็ไม่ให้เข้าครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
Special Instructions for B-1,B-2 Visitors Who Want to Enroll in School.

Is it permissible to enroll in school while in B-1/B-2 status ?

No, it is not. The regulations, at 8 CFR 214-2 (b)(7) , specifically prohibit study in the United States while in B-1 or B-2 status.

ที่มา www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543fd1a/?vg...

จขกท โพสว่าอยากจะมาเรียนภาษาเป็นพาร์ทไทม์ โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว ถ้าเชื่อว่าเรียนได้ ก็ตอนจะเข้าเมือง ตม ถามว่า สูเจ้าจะมาทำอะไร อยู่กี่วัน และที่ไหน? ก็จงตอบเขากลับไปเลยว่า ข้าฯ จะมาเรียนภาษาพาร์ทไทม์ลองดูสักหกเดือน หากดีก็จะขอเรียนต่อถึงปริญญาโน่นเลย แล้ว ตม ท่านให้อยู่ได้อย่างไรอย่าลืมเข้ามาตั้งกระทู้อีกนะ อย่าเบี้ยวละ Be honest !


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
อ้อ แล้วอย่าลืม Quote เอา คห ข้างต้นที่โพสไว้ในเวปว่า ถ้าเรียนไม่เกิน 18 ชม/อาทิตย์ และไม่เอาเครดิต (เรียนภาษาที่ไหนมีเครดิต ??) สามารถจะเรียนได้ หากโดน ตม ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธการเข้าเมือง งานนี้ควรจะต้องพิสูจน์กันด้วยของจริง ที่ไม่ใช่อิงนินาย จะได้เป็นกุศลและวิทยาทานแก่คนรุ้รต่อๆไปที่จะได้หรือไม่ได้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ในสถาบันภาษาที่เราเรียนอยู่ตอนนี้ มี นักเรียนที่ ถือ B-2 วีซ่าอยู่ประมาณ 70% ของนักเรียนทั้งหมด ที่ทราบเพราะ ตอนที่เขาประชุม นักเรียนทั้งหมด เขาได้ประกาศเกี่ยวกับความต่างระหว่าง คนถือ F-1 กับ B-2 ว่า คนที่ถือ B-2 ขาดเรียนได้มากกว่า 20% แต่จะไม่ได้ ใบเซอร์ และนอกจากนี้ ผู้ที่ถือ B-2 ก็ยังไม่ได้เครดิตเพื่อนำไปยื่นเพื่อศึกษาต่อ หรือเพื่อสอบlicense อะไรก็ตาม นี้คือ เครดิตที่คุณthanik215พูดถึงค่ะ

ซึ่งคนถือ B-2 ส่วนใหญ่เขาก็ลงเรียน ครอส ภาษาและวัฒนธรรม เรียนกันไม่นาน 2-5 wks แต่เวลาเรียนจริงๆ ก็เรียนกับพวกF-1ปกติ และตอนเย็น โรงเรียนก็มีจัดพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ดูบอสบอล อะไรมาณนี้

เราคิดว่า การเรียนที่ คุณ Rapier เอามาแปะไว้ น่าจะหมายถึง การเรียนที่จริงจังในระดับมหาลัย หรือเรียนเฉพาะวิชาชีพ เช่น ดนตรี ทำอาหาร ที่ต้องถือ M-1 มากกว่าอะค่ะ

แต่การจะบอกว่า ฉันมาเรียนภาษานะ คงดูไม่สมเหตุสมผล แต่ถ้าบอกว่า ลงเรียนครอส ภาษาและวัฒนธรรมสั้นๆเอาไว้ (สั้นมาก น้อยกว่า3เดือน) น่าจะได้

แต่ทั้งนี้ คุณจะไปพูดถึงมันทำไม แม้เราจะไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีก็ตาม แค่บอกมาเที่ยวก็จบ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ไปดูมาแล้วครับ http://ecfr.gpoaccess.gov/cgi/t/text/text-idx?c=ecfr&rgn=div5&view=text&node=8:1.0.1.2.18&idno=8#8:1.0.1.2.18.0.1.2
ตรงตามที่ Rapier บอก ไม่เถียงในส่วนของความน่าเชื่อถือของข้อมูล

แต่ก็แปลกที่ข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาล 2 แห่งนั้นให้ไม่ตรงกัน (ตรงข้ามกันด้วยซ้ำ) รวมถึงในทางปฎิบัติจริงนั้นก็ไม่ตรงกันด้วย เอาเท่าที่ผมรู้ และเป็นข้อมูลปัจจุบันด้วย สถาบันภาษาส่วนใหญ่ ช่วงปิดซัมเมอร์ นักเรียนเกินครึ่งถือวีซ่านักท่องเที่ยว พอช่วงระหว่างปีการศึกษาก็น้อยลง แต่ก็อยู่ราวๆหนึ่งในห้าอยู่ดี ถ้าไม่สามารถทำได้จริงๆอย่างที่ Rapier และผิดข้อกำหนดของรัฐบาลกลางออกไว้ ทำไมสถาบันภาษาเหล่านี้ถึงกล้ารับคนที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าเรียน? แต่ละคนที่เข้ามาเรียนก็เรียนกันแค่ไม่กี่สัปดาห์แล้วก็บินกลับประเทศ

เรียนสัปดาห์ละไม่เกิน 18 ชม. - เรียน 8.30a - 12.00p = 3.5 ชม./วัน x 5 = 17.5 ชม./สัปดาห์ ไม่เกิน 18 นี่ครับ

เรียนไม่เอาเครดิต - ก็เรียนภาษาอย่างเดียวเฉยๆ เปล่าๆ certificate ก็ไม่เอา ไม่ได้เรียนเพื่อโอนหน่วยกิตเข้ามหาวิทยาลัย หรือเรียนเพื่อ waive คะแนนสอบภาษาอังกฤษเพื่อสมัครเรียนมหาวิทยาลัย มันไม่ถือว่า "ไม่ได้และไม่เอาเครดิต" เหรอครับ?

ส่วนจขกท. ขอย้ำอีกที ถ้าจุดประสงค์หลักคือ "เรียน" อะไรก็ตาม ไปขอวีซ่านักเรียนเถอะครับ ส่วนกรณีที่เราถกกันอยู่นี้เนี่ย สำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวนานๆ แล้วว่างเกิน เบื่อ ก็เลยจะลงเรียนเพื่อไม่ได้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ก่อนอื่น คุณ คห 8 ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ว่าสถาบันที่คุณเรียนภาษาอยู่เนี่ย 70% ถือวีซ่า B2 อยู่ที่ไหน?จะหลังไมค์มาก็ได้นะครับ อ้อ แล้วใบเซอร์ที่ว่าเนี่ย มันไม่ใช่ Academic credit นะครับ อีกอย่างตามกฏหมาย INA รร ที่ได้รับอนุญาตให้ออกใบ I-20 ได้นี่จะรับ ใคร นร ต่างชาติเข้ามาเรียนโดยไม่มีวีซ่า นร หรือ F/M/J ไม่ได้เด็ดขาด

คห 9 การจะอ้างว่าเรียนโดยไม่เอาใบอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่....Immigration เขาถืออยู่ข้อนึงว่า ถ้าผู้เดินทางเข้ามามี An intention to remain (in the US) เขาก็สามารถใช้ Discretion ของ จนท ในการปฏิเสธเข้าเมืองได้ (ด้วย ก. ผิดวัตถุประสงค์ในการเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ข. มีเจตนาหรือส่อเจตนาในการอยู่ระยะยาว) แฮะๆ อันนี้ไม่ได้ ว่าเองเออเอง ผู้มีหน้าที่โดยตรงเขาบอกมานะ

เพิ่มเติมคำว่า "อยู่ที่ไหน?"

ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ถูกทั้ง 2 ท่านนั่นแหละค่ะ...

กรณีนี้จขกท. อยากจะมาเรียน "6 เดือน" ซึ่งใช้วีซ่าท่องเที่ยวไม่ได้ แต่ถ้ามาเรียนระยะสั้นคือ 1-2 สัปดาห์นั้นได้ค่ะ... ดังนั้นต้องว่ากันตามที่คุณ Rapier บอกค่ะ

การเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่ทุกคนจะได้รับอนุญาตให้อยู่ได้นานถึง 6 เดือนนะคะ การเข้าอเมริกานั้นเขาดูที่ "เจตนา" ค่ะ...ถ้าจะมาเรียนก็ขอวีซ่านักเรียนให้ถูกต้องไปเลยค่ะ ถ้ามีแผนจะเรียนต่อโทก็ระบุแผนการศึกษาลงไปด้วย

ถ้าจขกท.บอกตม.ว่าจะมาเรียนโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว ก็ไม่ได้เข้าแน่นอนค่ะเพราะว่าถือวีซ่าผิดวัตถุประสงค์ ไม่มีใครการันตีได้ว่าจขกท.จะมาเรียนหรือมาทำงาน...แต่แน่ๆ ตั้งใจจะอยู่ถึง 6 เดือน...


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
คุณ Rapier คะ เราส่งชื่อ โรงเรียนไปให้แล้วนะคะ ใครต้องการชื่อ แจ้งมาได้ค่ะ


ถ้าผิดกฎหมายจริง ดังนั้น นักเรียนที่มาเรียนส่วนใหญ่ก็ทำผิดกฏหมายอยู่ และที่หนักไปกว่านั้น โรงเรียนก็ทำผิดด้วยใช่มั้ยคะ เราว่า ไม่ใช่แค่โรงเรียนเราที่เดียวที่ทำแบบนี้ โรงเรียนอื่นก็ทำ พวกสถาบันภาษาที่เริ่มเรียนได้ทุกๆวันจันทร์

ส่วนเรื่อง academic credit ที่ว่า คือ การสามารถเอา credit ที่เรียนจากโรงเรียนภาษานี้ไปเข้ามหาลัยในบางที่ได้ เช่น เรากำลังจะสอบlicenseตัวนึงอยู่ เราแค่มีใบเซอร์จากโรงเรียนภาษาว่า ภาษาอังกฤษของเรานั้นอยู่ในระดับที่ผ่านมาตรฐานแล้ว เราสามารถสอบได้ เป็นต้น

ไหนคุณก็รู้จักกับผู้ที่ทำหน้าที่โดยตรง ก็น่าจะลองถามถึงรายละเอียดของข้อมูลในสองเวปว่าทำไมไม่เหมือน และต่างกันอย่างไร

คุณBlackmagicW ตามที่เราบอกไว้ข้างต้นว่า คนจะเรียนภาษา แต่ถือวีซ่า B-2 ก็ไม่ควรอยู่นานๆเช่น 6เดือน ควรอยู่น้อยกว่า 3 เดือนด้วยซ้ำ (เพื่อนคนตุรกีที่เราคลาสเดียวกับเรา เรียนมาแล้ว8 weeks และจะเรียนอีก 2 weeks รวมเป็น 10 พอดี ก่อนกลับไปเรียนมหาลัยตามปกติที่เขาเรียนอยู่ )

และเราคิดว่า ทุก คห บอกให้ จขกท ทำวีซ่า F-1 เถอะ ถ้าจะอยู่นานขนาดนั้น


แก้ไข ชื่อ โรงเรียนซึ่งไม่ควรเปิดเผย

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะค่ะ ตอนนี้เราตัดสินใจแล้วว่าจะขอวีซ่านักเรียนค่ะ
ตามความเห็นข้างบนที่บอกว่าเราสามารถระบุได้ว่าเรามีแพลนที่จะเรียนโทต่อหลังจากเรียนภาษาจบ เพื่อที่จะทำให้มีโอกาสได้วีซ่ายาวขึ้น แบบนี้เราต้องระบุชื่อมหาลัยที่เราต้องการจะเรียนเลยหรือเปล่าค่ะ และเราสามารถเรียนที่สถาบันสอนภาษาที่ไม่ใช่สถาบันของมหาลัยที่เราสนใจไปก่อนได้ไม๊


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ทำวีซ่าให้ตรงประเภทดีกว่าครับ ไปเรียนก็ทำวีซ่านักเรียนเวลาไปสัมภาษณ์วีซ่า เค้าถามก็ตอบไปตามที่เราลงทะเบียนไว้และก็บอกไปว่าอาจจะเรียนต่อโทในอนาคตครับ

ปล.พูดความจริงดีที่สุดครับ สู้ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตอนสัมภาษณ์ เค้าไม่ถามว่าคุณจะเรียนที่ไหนค่ะ แต่ด้วยประสบการณ์ ส่วนตัวของเราแล้ว เรียนภาษาในมหาลัยที่จะเรียนโทเลยจะดีกว่าค่ะ

แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจจะเรียนโทที่ไหน ก็น่าจะเรียนภาษาในมหาลัยอยู่ดีค่ะ เพราะการมาเรียนที่ต่างประเทศ มันไม่ใช่แค่คุณภาพที่เราต้องคำนึงถึง มันยังมีเรื่องสังคม เพื่อนๆ กิจกรรมในมหาลัยและอื่นๆ ที่จะเป็นตัวช่วยนอกห้องเรียนอีกค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
แอบเข้ามาเก็บข้อมูลค่ะ ก่อนหน้านี้เราก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับ คุณ จขกท. เลยค่ะ ขนาดที่ว่าเกิดคำถามตรงกันทั้ง 3 ข้อเลยค่ะ (กะจะไปเรียนประมาณ 6 เดือนเหมือนกันอีกค่ะ --")

เข้ามายืนยันว่าวีซ่าท่องเที่ยวลงเรียนภาษาได้นะคะ เพียงแต่ว่าจุดประสงค์ตอนเข้าประเทศตอนแรกของเราเป็นการมาเที่ยว เพื่อเยี่ยมพี่สาวตามวีซ่าค่ะ เลยผ่าน ตม. มาแบบไม่มีปัญหา (เรามีวีซ่าท่องเที่ยว 10 ปี ไปอยู่มา 3 เดือนกว่าค่ะ)
แล้วก็ตาม คุณ thanik215 คห. 9 เลยค่ะ เราไปลงเรียนภาษาที่สถาบันสอนภาษา
เพื่อแก้เบื่อ และหาโอกาสใช้ภาษาให้มากขึ้น ลงไป 1 คอร์ส ก็ 1 เดือนค่ะ (ในสถาบันก็มีทั้งที่เป็นวีซ่าเรียน และท่องเที่ยวนะคะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคอร์สที่เราไปลงเรียนว่าเป็นแบบ full time รึเปล่าด้วย)

ปล. ตอนนี้ก็ได้ขอสรุปเดียวกันกับ คุณ จขกท. ค่ะ ว่าจะทำวีซ่า F-1 ไปเรียนภาษาเหมือนกันอีกแล้วค่ะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
คห.10 ได้ชื่อไปแล้ว อย่าลืมกลับมาตอบด้วยนะว่าโรงเรียนทำผิดกฏหมายมั๊ย?


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ได้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเช็คทั้งกับทาง รร และ USCIS แล้ว ได้ข้อมูลจะมาอัพเดทให้ทราบ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
เอาละ ข้อมูลต่อไปนี้คือคำตอบจากทาง USCIS

US Immigrgation law allows enrollment in classes full-time or part-time for a number of non-immigrant visa types such as E-2,L-2 and H4.

US Immigration law also prohibits any full-time study for students who enter the US in the visa waiver programme. The law also prohibits full-time study for students on B1/B2 tourist visas. These students will not be allowed to enroll in full-time units. Tourists on B1/B2 tourist visas, and tourists in the U.S. on the visa waiver program may take part-time course units IF the followingcriteria are met: a) enrollment in a university's summer sessions course(s) will be SOLELY FOR RECREATIONAL PURPOSES; b) course(s) will not exceed 18 hours per week, AND WILL NOT BE USED FOR CREDIT TOWARD A DEGREE, DIPLOMA OR CERTIFICATE; c) the course(s) are ONLY INCIDENTAL TO THE TOURIST'S VISIT TO THE U.S. , AND ARE NOT THE MAIN PURPOSE OF THE VISIT.

อ่านแล้วแปลให้ถูกๆเอาเองแล้วกันว่า ถูกผิดหรือไม่อย่างไร?

หมายเหตุ กรณี รร ภาษาในฟลอรอด้าก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่โดนปิดไปเร็วๆนี้ ช่วยไปศึกษารายละเอียดแล้วกันว่า มันเกี่ยวข้องกันใหมอย่างไร?

ย้ำครับว่า อ่านแล้วแปลให้ตรงตามเจตจำนงค์ของข้อกฏหมาย 8 FCR 214.2(b)(7) ก็แล้วกัน ส่วน รร ใดจะอ้างข้อกฏหมายว่าให้เรียนได้แค่พาร์ทไทม์ ก็อ้างกันไป (เพราะอยากได้เงิน) ส่วนเมื่อโดนตรวจแล้วก็คงจะตัวใครตัวมัน


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
อ่านแล้ว ก็ไม่เห็นผิดนี่ครับ

วีซ่า B1/B2 สามารถลงทะเบียนเรียนได้ถ้า 1.เรียนเพื่อนันทนาการเท่านั้น 2.เรียนไม่เกิน 18 ชม./สัปดาห์ และ ไม่เอาเครดิตจากการเรียนไปใช้ในการศึกษาต่อ 3.การเรียนไม่ใช่จุดประสงค์หลักในการเดินทางเข้าประเทศ

18 ชม.มัน full-time ตรงไหน? แล้วถ้าบอกว่า part-time.. มันเกิน 18 ชม. ตรงไหน?

ในกรณีทั่วไป ไม่ผิดเลยซักนิดครับ จะโรงเรียนภาษาที่ไหน จะใครก็ได้ ถ้ามาเที่ยวแล้วเวลาเหลือ ว่าง เลยไปลงเรียน ก็ลงได้ไม่มีปัญหา

แต่ถ้าเอาเฉพาะกรณีของจขกท.ที่ออกตัวแต่แรกว่าต้องการมาเรียนไม่ใช่มาเที่ยว อย่างนี้ไม่ถูกแน่ๆ ก็ควรที่จะไปขอวีซ่านักเรียนจะดีกว่า

ตกลงเราถกเรื่องนี้กันในกรณีไหนครับ? เพราะที่ผมตอบมาทั้งหมดแต่แรก ผมใช้กรณีทั่วไปครับ



อีกอย่าง ผมไม่ได้จะตรรกะวิบัติว่า ใครๆก็ทำกัน = ถูกต้องและทำได้ ผมเพียงแค่ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงมาประกอบเท่านั้น เพราะจุดที่ผมเห็นว่าขัดแย้งกันที่สุดและผมชี้ให้เห็นไปแล้วคือ "ข้อมูลในเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐบาลกลางให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน หรือไม่ชัดเจนพอ" ถ้า Rapier รู้จักกับผู้มีหน้าที่โดยตรง ก็รบกวนแจ้งเรื่องนี้ให้เขาทราบด้วย ทางนั้นจะได้ประสานงานแก้ไขข้อมูลที่แผยแพร่สู่สาธารณะให้ถูกต้อง ชัดเจน และไม่ผิดเพี้ยน จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในอนาคต


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
คุณ Rapier คะ

ตามที่อ่านแล้ว เราคิดว่า ข้อความที่คุณเอามาโพสนั้น น่าจะเอาไว้บอกตัว"คุณ"เองมากกว่าค่ะ

เพราะมันส่งเสริม ข้อความใน คห.ที่5 ของ คุณ Thanik215 โดยตรง

แล้ว โรงเรียนอะไรใน ฟลอริด้า โดนปิดคะ เพราะ สาเหตุอะไร?

และโรงเรียนใดอ้างกฎอะไรคะ? ในเมื่อทั้งนักเรียนและโรงเรียนไม่ได้ทำผิดอะไร นักเรียน(นักท่องเที่ยว)มาเที่ยว เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาในระยะเวลาสั้นๆ และเรียนไม่เกิน สัปดาห์ละ 18 ชั่วโมง .. โรงเรียนมีโปรแกรม วัฒนธรรมและภาษาไว้รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวเหล่านี้



แต่ถ้าคุณจะหมายถึงกรณีของ จขกท แล้ว ...... กลับไปอ่านข้างบนอีกที (ซึ่งส่วนใหญ่พิมพ์เป็นภาษาไทยด้วย) ไม่มีใคร สนับสนุนให้ จขกท ถือวีซ่าท่องเที่ยวแล้วเข้ามาเรียน นานขนาดนั้น(หก เดือน) มีแต่คนบอก ทำวีซ่านักเรียนมาเถิดดดดดดดดดดด


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ผมเห็นด้วยกับคุณ Rapier นะครับ

ตรง
"IF the followingcriteria are met"

กับ "criteria" ตรงนี้ครับ
"SOLELY FOR RECREATIONAL PURPOSES"

ประมาณว่า "ได้" ถ้าเงื่อนไขต่อไปนี้สมบูรณ์
ทีนี้ต้องถามว่าเรียน "ภาษา" เป็น SOLELY FOR FOR RECREATIONAL PURPOSES หรือไม่?

ซึ่งส่วนตัวผมก็ว่าไม่น่าจะใช่


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ถามอีกนิดนะค่ะ หวังว่าคงมีคนเข้ามาแนะนำอีกนะ ในกรณีที่เราขอวีซ่านักเรียนไปแล้ว แล้วเราได้วีซ่า 5 ปี ถ้าเราไปเรียนภาษาได้ประมาณ 3 เดือนแล้วกลับมาเมืองไทย ถ้าหลังจากนั้นอีกประมาณ1 ปี เราต้องไปเรียนต่อจริงๆ เราใช้วีซ่านักเรียนทีjมีอยู่ได้เลยไม๊ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
@aomsink#23 ไม่ได้ครับ กรณีย้ายโรงเรียนหรือเปลี่ยนโรงเรียน ต้องทิ้งช่วงไม่เกิน 5 เดือนครับ ถ้านานกว่านั้นต้องขอวีซ่าใหม่เลย

Students Away from Classes More Than Five Months
Students in or outside the U.S., who have been away from classes for more than five months, will likely need a new visa to enter the U.S.

ที่มา: http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_1268.html#13

@DreamGlider#22 ผมก็เห็นด้วยครับ ถ้าพิจารณากรณีของจขกท.เท่านั้น แต่คำตอบผมผมตอบในกรณีทั่วไป ว่ามันได้ ในขณะที่คำตอบของ Rapier นั้นผมอ่านยังไงก็เข้าใจว่าจะหมายถึงกรณีทั่วไปว่าไม่สามารถทำได้ด้วยซ้ำ อย่างนี้แล้วจะให้ผมพยักหน้าเห็นด้วยได้ยังไง ในเมื่อข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐบาลบอกอีกอย่างนึง ในเมื่อข้อมูลที่ผมรู้นั้นเป็นอีกอย่างนึง ???

ถามว่าถ้าเป็นคนที่ไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยเข้ามาอ่าน"คำตอบแรก"ของ Rapier เขาจะเข้าใจแบบไหนระหว่าง 1.วีซ่าท่องเที่ยวลงเรียนอะไรไม่ได้เลยทั้งนั้น ผิดกม. ผิดวัตถุประสงค์ ผิด ผิด ผิด หรือ 2.วีซ่าท่องเที่ยวจะลงเรียนได้ถ้าเรียนเพื่อสันทนาการ และไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะมาเรียน ???

เพราะผมเข้าใจแบบที่ 1 ไง ผมถึงต้องเข้ามายกข้อมูลแย้งว่าทำได้ ข้อมูลผมก็มีที่อ้างอิง ไม่ได้ยกมาลอยๆ ผมกลัวคนอื่นจะอ่านแล้วเอาไปเข้าใจแบบผิดๆ เข้าใจผิดคนเดียวไม่ว่า เอาไปบอกต่อให้เข้าใจผิดกันมากมายนี่แย่เลย

edit เพิ่มลิงค์

ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
rapier ผมว่าคุณ อีโก้สูงเกินไปนะ
เค้าคุยกันเรื่องข้อกฏหมายว่า วีซ่าท่องเที่ยวสามารถลงเรียนได้ไหม มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ไม่ได้บอกว่าให้ขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อมาลงเรียน ย้ำนะ ถ้าไม่เข้าใจกรุณาอ่านอีกรอบ

ส่วนคุณจะมามั่วเรื่อง ตม. กับ ความตั้งใจของ จขกท.ที่อยากจะไปเรียน หลงประเด็นครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
คุณ phukiyuan ชัดเจนและตรงประเด็นดีค่ะ

คุณ DreamGlider ตีความแคบเกินไปมั้ยคะ .. มองอะไร ทำใจให้กว้างๆค่ะ จะได้มองเห็นหลายๆทางที่อยู่ข้างหน้า

การเรียนภาษามันมีหลายจุดประสงค์ค่ะ ภาษาคือ ส่วนย่อของวัฒนธรรม ดังนั้น การเรียนภาษาก็เหมือนการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างหนึ่งได้ เหมือนเรียนทำอาหาร เรียนดนตรี ที่ซึ่งอนุญาตให้เรียนได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าท่องเที่ยว (ในระยะเวลาสั้นๆ)


ถ้านึกไม่ออก ยกตัวอย่าง เพื่อนคนนึงให้ค่ะ

เพื่อนคนนึงมีคุณป้าเป็นหมอ ทำงานอยู่แอลเอ
หลังจากเรียนจบ ป.ตรี ก็คิดว่าจะมาเที่ยวและมาอยู่กับคุณป้าซักพัก เพราะมีวีซ่าท่องเที่ยวอยู่แล้ว

หลังจากมาได้ไม่นาน เนื่องจากคุณป้าไม่ค่อยมีเวลา และจากที่เคยมั่นใจว่าจะเที่ยวเองได้ ก็ทำไม่ได้ ภาษาไม่ดีพอ คุณป้าจึงแนะนำให้ไปลงเรียนภาษาตอนเช้า และได้รู้จักเพื่อนใหม่ จะได้ ไปเที่ยวกับเพื่อน และฝึกภาษาไปในตัว

เพื่อนจึงไปลงเรียนครอส language and culture ของสถาบันภาษาแห่งหนึ่ง เรียนตอนเช้า สัปดาห์หนึ่ง ไม่เกิน 18 ชม.

สรุป เพื่อนภาษาดีขึ้น มีเพื่อนเที่ยวไม่ต้องรบกวนคุณป้า
เพื่อนไม่ได้ต้องการ เครดิตใดใดจากการเรียนภาษาเพราะ ยังไงก็กลับไทยไปทำงานที่บริษัทคุณพ่อ คุณแม่เขา


ถาม - เขาทำผิดกฎหมายข้อไหน? แม้แต่ เจตนาเขาก็ไม่ผิดเลยด้วยซ้ำ

แล้วคุณคิดว่าคนแบบนี้ ไม่มีเลยหรอ คนที่จะปรับเปลี่ยนแพลนและความคิดเมื่อมาเจอสภาพแวดล้อมที่แท้จริง?



ในทางกลับกัน ถ้าไม่มี คุณThanik215 มาแย้งข้อมูลของคุณRapier

แล้วคนที่มีเจตนาแบบเพื่อนเรา เข้ามาอ่านและหาข้อมูล คิดว่า มันทำไม่ได้จริงๆ ... เหมือนกับทำให้เขาเสียโอกาสไป หรือ อาจต้องทำอะไรยุ่งยากมากกว่าเดิมด้วย


ก่อนที่จะ ฟันธง หรือ บอกว่า "ไม่" หยุดคิดซักนิดค่ะ โลกเปลี่ยนไปทุกวัน อะไรที่เคยรู้ มันอาจไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ทำใจยอมรับความจริงว่าเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แม้จะอายุมากและอยู่มานานแค่ไหน


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ถึง #24

link ของคุณมันเปิดไปหน้า Student Visa นะครับ
http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_1268.html#13

ถึง #26

ผมอาจจะแคบในความคิดของคุณแต่อยากถามว่าสิ่งที่ผม Quote มัน "ถูก" หรือ "ผิด" ครับ?

คำว่ามองโลกให้กว้างของคุณหมายถึงมอง "ข้าม ๆ" มันไปบ้างหรือเปล่า
ก็เพราะคำ ๆ เดียวนี่แหละ มันสำคัญเพราะมันอยู่ใน "ข้อกำหนด" ไงครับ
ถ้าไม่สำคัญเขาจะใส่มาทำไม?

จากตัวอย่างที่คุณว่า ผมถามหน่อย วิชา language and culture เองเป็น
"SOLELY" FOR RECREATIONAL PURPOSES หรือไม่?

"SOLELY" นะครับ ถ้าไม่ "SOLELY" ตามข้อกำหนดมันก็ "ผิด" ใช่ไหมครับ?

คุณถามว่าทำผิด กม. ข้อไหน คุณก็เห็นอยู่แล้ว "ใช้ visa ผิดประเภท" ไงครับ

ผม "ตีความ" ตามข้อกำหนดซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนที่ถือ visa ท่องเที่ยว "ทุกคน" ต้องทำตาม

ถ้าคุณอยู่ที่อเมริกา คุณก็น่าจะคุ้นกับวิธีคิดแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ

จากตัวอย่างหรือความเห็นของคุณ

"การเรียนภาษาก็เหมือนการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างหนึ่งได้"
ผมเข้าใจ แต่ course ภาษา กับ course ทำอาหาร อะไรเป็น
"SOLELY" RECREATION ครับ?
ภาษามันสีเทา ๆ แต่ ทำอาหารนี่อาจจะได้ แต่อย่างน้อยก็ดูเป็น recreation มากกว่า
course ภาษา ผมพูดถูกไหม?

อีกอัน

"เพื่อนจึงไปลงเรียนครอส language and culture ของสถาบันภาษาแห่งหนึ่ง เรียนตอนเช้า สัปดาห์หนึ่ง ไม่เกิน 18 ชม.

สรุป เพื่อนภาษาดีขึ้น มีเพื่อนเที่ยวไม่ต้องรบกวนคุณป้า
เพื่อนไม่ได้ต้องการ เครดิตใดใดจากการเรียนภาษาเพราะ ยังไงก็กลับไทยไปทำงานที่บริษัทคุณพ่อ คุณแม่เขา

ถาม - เขาทำผิดกฎหมายข้อไหน? แม้แต่ เจตนาเขาก็ไม่ผิดเลยด้วยซ้ำ

แล้วคุณคิดว่าคนแบบนี้ ไม่มีเลยหรอ คนที่จะปรับเปลี่ยนแพลนและความคิดเมื่อมาเจอสภาพแวดล้อมที่แท้จริง? "

.
.

เวลาเขาดูคนทำผิดเขาดูการกระทำที่สำเร๊จแล้วครับ ไม่ได้ดูเจตนา
เพื่อนคุณทำผิดไหม ผมตีความตามในข้อกำหนด
ถ้า course ที่เพื่อนคุณเรียนเป็น "SOLELY" RECREATION -> ไม่ผิดครับ
แต่ถ้าไม่ "SOLELY" ก็ "ใช้ visa ผิดประเภท" ครับ
.
.
.
ผมถามหน่อย ถ้าคุณเป็น ตม. เมกา คุณจะทำอย่างไรครับ?
.
.
.

ปล. ผมอายุยังไม่มากนะ (หรือคุณ Rapier หว่า?)


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ขอโทษ #24 ครับ ผมคิดว่าตอบของเรื่อง visa ท่องเที่ยว


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
#24

ผมเห็นด้วยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
คุณ DreamGlider คะ

คำว่ามองโลกให้กว้างของคุณหมายถึงมอง "ข้าม ๆ" มันไปบ้างหรือเปล่า
ก็เพราะคำ ๆ เดียวนี่แหละ มันสำคัญเพราะมันอยู่ใน "ข้อกำหนด" ไงครับ
ถ้าไม่สำคัญเขาจะใส่มาทำไม?

ตอบ ไม่ใช่ค่ะ การที่คุณนิยามครอสเรียนภาษา ว่า เป็นไปในทางเดียวต่างหากที่ แคบ ... ไม่ได้เกี่ยวกับการมองอะไรข้ามๆไปเลย เราคิดว่า คุณก็คงอยู่อเมริกาเหมือนกัน คุณเลยมักเจอคนอีโก้สูงที่ทำผิดแล้ว บอกให้คุณมองข้ามๆไปเถอะ ซึ่งเราไม่ได้หมายถึงแบบนั้น

--->ทีนี้ต้องถามว่าเรียน "ภาษา" เป็น SOLELY FOR FOR RECREATIONAL PURPOSES หรือไม่?

ซึ่งส่วนตัวผมก็ว่าไม่น่าจะใช่ <-----

อันนี้ต่างหากที่เราหมายถึง มันบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ที่แคบ เหมือนคนมองอะไรด้านเดียว มีแค่ ขาวกับดำ ... (ทั้งๆที่ คห หลังคุณก็หาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วว่า สีเทาก็มี)


ครอสเรียนภาษา มันมีตั้งหลายรูปแบบ
แล้วถ้ารูปแบบหนึ่งในนั้น คือ การเรียนแบบสบายๆ ไม่มีแยกด้วยซ้ำว่า เมื่อไหร่เรียน speaking, reading, listening, grammar เรียนรวมๆ โดยใช้เกมส์เป็นสื่อในการสอนให้ผู้เรียนเกิดความสนุกและเข้าใจตาม ทั้งนี้ ยังพาผู้เรียนออกนอกสถานที่ เพื่อเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ กิจกรรมและวัฒนธรรมของอเมริกันชน ซึ่งกิจกรรมก็มีทุกวันนะ แบบนี้ ยังไม่เรียก "RECREATIONAL" หรอคะ ไม่เห็นมีความเครียด ไม่มีสอบเพื่อจะเอาใบเซอร์หรือเครดิตไปใช้ทำอะไรด้วยซ้ำ



ถ้า course ที่เพื่อนคุณเรียนเป็น "SOLELY" RECREATION -> ไม่ผิดครับ --- อันนี้ คุณก็ตอบตัวเองแล้วนิคะ และมันก็สรุปสั้นๆแค่นี้แหละค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
ถึงคุณ I-am-Friday

"ทั้งๆที่ คห หลังคุณก็หาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วว่า สีเทาก็มี"

>>>>>>> แล้ว SOLELY นี้เป็น "สีเทา" ได้ด้วยหรือครับ

"ถ้า course ที่เพื่อนคุณเรียนเป็น "SOLELY" RECREATION -> ไม่ผิดครับ --- อันนี้ คุณก็ตอบตัวเองแล้วนิคะ และมันก็สรุปสั้นๆแค่นี้แหละค่ะ"

>>>>>>> ตกลงมันใช่หรือไม่ใช่ล่ะครับ

คุณไปเอาใบปลิวจากโรงเรียนหรือส่ง Link มาให้ดูหน่อยสิครับจะได้ชัด ๆ ไปเลย
อยากเห็นจังว่า course นี้เค้าจะบอกเลยหรือว่า

"เรียนรวมๆ โดยใช้เกมส์เป็นสื่อในการสอนให้ผู้เรียนเกิดความสนุกและเข้าใจตาม ทั้งนี้ ยังพาผู้เรียนออกนอกสถานที่ เพื่อเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ กิจกรรมและวัฒนธรรมของอเมริกันชน"
เลยเหรอ

หรือว่าคุณใช้แค่ความรู้สึกของตัวเอง ไม่เห็นมีอ้างอิงจากไหนเลย

"ไม่เห็นมีความเครียด ไม่มีสอบเพื่อจะเอาใบเซอร์หรือเครดิตไปใช้ทำอะไรด้วยซ้ำ" ขำอะครับ

อย่างนี้เพื่อนผมไปเที่ยวเมกาผมบอก อยากเรียนอะไรไม่เครียดก็เอาเลย 555


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
ถึง คห 25 Pukiyuan เราไม่ได้อีโก้สูงหรือไอ้โก้ต่ำ ตัวคุณเองไปอ่านทุกข้อความที่โพสมาตั้งแต่ต้นก่อน จขกท เริ่มแรกถามว่า ลงเรียนภาษาด้วยวีซ่าท่องไท่ยวได้หรือไม่? ก็มีคนตอบว่าได้หากเรียนแค่พาร์ทไทม์ เราก็ไปเอาข้อกฏหมาย USCIS ซึ่งเป็นข้อกฏหมายเข้าเมืองและสัฐชาติสหรัฐอันเกี่ยวกับวีซ่าทั้งชั่วคราว (นร) และถาวรทุกประเภท แล้ว Pukiyuan คุณไปหลุดมาจากที่ไหนว่า หลงประเด็นหือ ? ตุวคุณเองนะอยู่เมกามากี่นานแล้วละ รู้ไม๊ว่าประเทศนี้ ใครเป็นใครเกี่ยวดองหนองยุ่งกันแค่ไหน อย่างไร? อย่าได้กล่าวกันพล่อยๆ เพราะคำตอบไม่เป็นที่พึงพอใจ เรามาตอบในที่นี้ ตอบด้วยข้อมูลมีที่มาที่ไปทั้งนั้น

ถึง คห 21 I-am-Friday เราไม่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลเพื่อบอกตัวเอง เพราะเราไม่ได้ต้องการเรียนภาษา ว่าแต่คุณเถอะ ได้ที่โพสแย้งไว้ใน คห 12 ว่าตัวเองกำลังจะเรียนเพื่อเอาใบเซอร์เพื่อไปลงเรียนในมหาลัยบางที่ได้ (ที่โพสเพื่อจะยำว่า รร ที่ตนลงเรียนด้วยวีซ่าท่องเที่ยวนี้ เขาก็สอนเพื่อออกใบเซอร์ติฟิเคตได้) เอาเถอะ ใครจะเชื่อว่าเรียนได้ก็จงเรียนต่อไป หากโดนตรวจขึ้นมาและถูกพบว่ามันผิด ก็โชคดีมีชัย ตัวใครก็ตัวมันแล้วกัน

อ้อ แล้วเรียนภาษานี่ ว่างๆก็หัดแปลภาษาอังกฤษให้ตรงตามเจตนารมณ์ของเจ้าของภาษาที่แต่งด้วยนะคร้าบ


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
คุณ DreamGlider คะ
กลับไปอ่าน คหที่ 8 ค่ะ
เราอยู่ในโรงเรียนนี้ เราก็เห็นมันเรียนกันแบบนี้ ทุกวันๆ เมื่อวานมันก็พาไปดูบาสบอล วันอาทิตย์พาไป อควาเรี่ยม ..

คุณต่างหากที่ใช้ความรู้สึกตัวเอง (แล้วคุณอ้างอิงจากไหน)
"ภาษามันสีเทา ๆ แต่ ทำอาหารนี่อาจจะได้ แต่อย่างน้อยก็ดูเป็น recreation มากกว่า
course ภาษา"

ถ้ามีคนคนนึง เรียนครอสทำอาหารเพื่อเอาไปประกอบอาชีพล่ะ? recreational อยู่มั้ย?
ถ้าจะจริงจัง ทำไมไม่ทำ M-1 มา?

recreational ---- นันทนาการ --- กิจกรรมที่ทำให้เกิดความสนุก คลายเครียด ได้ประสบการณ์


อย่างนี้เพื่อนผมไปเที่ยวเมกาผมบอก อยากเรียนอะไรไม่เครียดก็เอาเลย 555 -- สงสารเพื่อนคุณ อย่าไปแนะนำอะไรเขาเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
เอ้า คห Tanik 215 จะอ้างว่าวีซ่า นร มาลงเรียนเป็นสันทนาการ ไม่ได้มีจุดประสงค์โดยตรงที่จะมาเรียน ทีนี้ คำถามก็จะเกิดขึ้นได้ว่า 1.เข้าไปเรียนใน รร ที่เปิดสอนภาษาอังกฤษเป็นหลักนั้น เรียนเพื่อสันทนาการหรือ? 2. ผู้เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวมาเมกาแล้วเที่ยวที่ไหน กี่นาน แล้วจึงเข้าไปลงทะเบียนเรียนเพื่อสันทนาการ?

คำถาม-คำตอบเหล่านี้ เมื่อถูกตรวจสอบจากทาง USCIS เขาคงจะพิจารณาตามเจตนารมณ์ของข้อกฏหมาย เราคงไม่สามารถไปตอบแทนเขาได้หรอกว่า ถูกผิดแค่ไหนอย่างไร? ก็หวังว่า เมื่อถึงเวลาเราท่านคงจะได้รับรู้กัน


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
คุณ Rapier
แค่คำพูดที่ คห ล่าสุดนี้ก็พอรู้ค่ะว่า อีโก้สูงไม่สูง .. หนักกว่า คห ข้างบนๆอีก

เราเรียนด้วย F-1 ค่ะ ไม่เห็นมีที่จุดไหน ที่เราบอกว่า B-2 จะได้ใบเซอร์??

เราไม่คิดว่าคุณจะเข้ามาเก็บข้อมูลหรอกค่ะ ... เพราะ ท่าทางคุณค่อนข้างจะรู้ไปซะหมด จะมาเก็บข้อมูลทำไม

สุดท้าย ถ้าคุณภาษาอังกฤษดีนัก ก็กลับไปอ่าน ข้อความที่คุณโพสเองให้เข้าใจเจตนารมของเจ้าของภาษาด้วยนะคะ

ป.ล. ไม่เข้ามาดูแล้วนะคะ ออกทะเลไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดแล้วค่ะ

ถ้าใครมาอ่านก็สรุปว่ามันทำได้ล่ะค่ะ โรงเรียนที่เราเรียนมีสาขาทั่วโลก เค้าไม่มาปล่อยให้ตัวเองต้องมาเสียชื่อเสียงเพราะ เรื่องผิดกฎหมายหรอกค่ะ

*ไม่ได้แก้ไขคำผิด ไม่ได้อยู่เมืองนอกจนลืมภาษาไทย พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกหน้ามืดตามัว

ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
คุณ rapier ครับ ผมอ่านตั้งแต่แรกและอ่านหลายครั้งแล้วนะ

จขกท. เขียนว่า ทราบมาว่าวีซ่าท่องเที่ยวสามารถลงเรียนเป็นpart time ได้

แล้วในคห.2คุณก็ตอบว่า ไม่ทราบไปได้ข้อมูลอะไรมาว่าวีซ่าท่องเที่ยวลงเรียนพาร์ทไทม์ได้?? จะเรียนจะฝึกงานอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
แล้วหลังจากนั้นคุณก็โชว์เหนืออีกหลายความเห็น ให็quoteบ้างล่ะ รู้จักคนนั้นคนนี้จะขอชื่อโรงเรียนบ้างล่ะ

คนที่เข้ามาโต้แย้งกะคุณ เค้าคุยกันเรื่องนี้ ส่วนจขกท. เค้าก็เข้าใจไปตั้งนานแล้วไม่ได้อ่านคห.13หรอ ว่าเค้าจะไปขอวีซ่าเรียน แล้วคุณยังไม่เข้าใจอีกหรอว่าคุณหลงประเด็นตรงไหน

v
v
ถึง คห 25 Pukiyuan เราไม่ได้อีโก้สูงหรือไอ้โก้ต่ำ ตัวคุณเองไปอ่านทุกข้อความที่โพสมาตั้งแต่ต้นก่อน จขกท เริ่มแรกถามว่า ลงเรียนภาษาด้วยวีซ่าท่องไท่ยวได้หรือไม่? ก็มีคนตอบว่าได้หากเรียนแค่พาร์ทไทม์ เราก็ไปเอาข้อกฏหมาย USCIS ซึ่งเป็นข้อกฏหมายเข้าเมืองและสัฐชาติสหรัฐอันเกี่ยวกับวีซ่าทั้งชั่วคราว (นร) และถาวรทุกประเภท แล้ว Pukiyuan คุณไปหลุดมาจากที่ไหนว่า หลงประเด็นหือ ? ตุวคุณเองนะอยู่เมกามากี่นานแล้วละ รู้ไม๊ว่าประเทศนี้ ใครเป็นใครเกี่ยวดองหนองยุ่งกันแค่ไหน อย่างไร? อย่าได้กล่าวกันพล่อยๆ เพราะคำตอบไม่เป็นที่พึงพอใจ เรามาตอบในที่นี้ ตอบด้วยข้อมูลมีที่มาที่ไปทั้งนั้น

พอมาคห.32 คุณตัดคำว่าพาร์ทไทม์ออกไปเพื่อ?
ผมก็ไม่เคยบอกว่าคุณข้อมูลมั่วซั่วนะ เพียงแต่มันไม่ได้มีแค่ข้อมูลคุณด้านเดียวหรอกที่จะถูกเสมอ นี่แหละคืออีโก้ของคุณ
ส่วนเรื่องผมจะพูดพล่อยๆหรือเปล่า เชื่อว่าคนอื่นที่เข้ามาอ่าน เค้าน่าจะรู้แหละว่าใครพูดพล่อยๆกว่ากัน (อาจจะรู้มานานแล้วด้วยซ้ำ)

ผมอ่ะไม่เคยอยู่อเมริกาเหมือนคุณหรอก ถ้าคุณอยู่นานเกินไปอย่าลืมลงเรียนภาษาไทยเพิ่มด้วยละ ดูแล้วคุณคงยังไม่ค่อยแตกฉานภาษาไทยนะ
อยู่เมกามากี่นานแล้วละ ถามผมเงี้ย นึกว่าคุยกะฝรั่งอยู่ 555


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
@Rapier#34
พิมพ์ชื่อผมผิดนะครับ thanik215 ครับ

quote คำพูดผมมาผิดหรือเปล่าครับ? (หรือจะอ่านผิดอย่างไรไม่ทราบได้) ผมไม่ได้บอกว่าวีซ่านักเรียนมาลงเรียนสันทนาการเลยสักนิด ผมบอกว่าวีซ่านักท่องเที่ยว สามารถลงเรียนได้ ถ้าเรียนเพื่อสันทนาการ โดยที่ไม่ได้มีความต้องการจะมาเรียนตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ ดังนั้น

1.เข้าไปเรียนใน รร ที่เปิดสอนภาษาอังกฤษเป็นหลักนั้น เรียนเพื่อสันทนาการหรือ?
- ถือเป็นสันทนาการ เพราะการเรียนภาษาถือเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างหนึ่ง และถ้าโรงเรียนเปิดให้ลงเรียนได้ มันก็ควรจะไม่ผิดกฎ เพราะโรงเรียนจะต้องผ่านการตรวจสอบจากภาครัฐแล้วว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎ... อีกอย่าง ถ้าจะใช้ตรรกะของคุณ ดังนั้นการไปลงเรียนในโรงเรียนที่สอนทำอาหารอย่างเดียว สอนภาษาสเปนอย่างเดียว สอนเต้นรำอย่างเดียว หรืออะไรก็ตามที่ได้ชื่อว่า"โรงเรียน" มันก็ผิดทั้งหมดใช้ไหมครับ Rapier?????

2.ผู้เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวมาเมกาแล้วเที่ยวที่ไหน กี่นาน แล้วจึงเข้าไปลงทะเบียนเรียนเพื่อสันทนาการ?
- ไม่รู้ครับ ไม่มีกฎระเบียบข้อไหนบอกไว้ และไม่มี"ใคร"สามารถระบุได้ รู้แต่ว่า ถ้าถือวีซ่าท่องเที่ยวเข้าประเทศมาแล้ว จะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับตม.แล้วครับ PERIOD. แต่จะให้ขยายความกว่านี้ก็ได้ หลานญาติผมที่ LA พอเรียนจบตรีก็มาอยู่กับญาติผม 4 เดือน มาเที่ยวนี่หละ ถือวีซ่าท่องเที่ยว แต่ญาติผมต้องทำงาน(เป็นพลเมืองอเมริกัน) พาไปเที่ยวได้แค่เสาร์-อาทิตย์ เจ้าตัวก็ขับรถไม่เป็น วันธรรมดาก็เลยต้องแกร่วอยูกับบ้าน เพราะ LA มันกว้างเหลือเกิน ระบบขนส่งก็แย่ ไปไหนก็ลำบาก... ก็ไปลงเรียนภาษาที่สถาบันใกล้บ้าน ได้เพื่อนฝูงมากมาย ได้ฝึกภาษามากกว่าตอนอยู่กับญาติ และได้เที่ยวเพราะมีเพื่อนที่มีรถ... พอถึงกำหนดครบ 4 เดือนก็กลับไทย เผชิญชีวิตจริงอันโหดร้ายกันต่อไป ไม่ได้เอาใบเซอร์ไปสมัครเรียนต่อ ไม่ได้สมัครเรียนโทต่อ ถามว่า... อย่างนี้ recreational หรือไม่?

อีกเรื่องคือ สรุปว่า Rapier จะพูดถึงเรื่องนี้ในกรณีทั่วไป หรือกรณีเจ้าของกระทู้ครับ? ผมจะได้คุยถูกมุมมอง เพราะผมตอบในกรณีทั่วไปมาแต่แรกแล้ว และผมก็เข้าใจว่าคำตอบของ Rapier นั้นหมายถึงกรณีทั่วไปเช่นกัน (ถ้าไม่ใช่ ก็ขออภัย และขอความกรุณากลับมาชี้แจงด้วย ผมตอบไปแล้วว่าเห็นด้วยด้วยซ้ำถ้าจะหมายถึงกรณีของจขกท.) ซึ่งถ้าหมายถึงกรณีทั่วไปจริง "ผมเถียงหัวขาดเลยว่าวีซ่าท่องเที่ยวสามารถลงเรียนอะไรก็ได้ทั้งนั้น" คุณจะมายกนู่นยกนี่ว่าไม่อนุญาตหรือห้ามทำ แต่สุดท้ายก็เป็น quote ของคุณเองที่ระบุว่าสามารถทำได้ (#19) ซึ่งคุณก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับอยู่ดีว่าสามารถทำได้ เอาแต่ตอบวกวน อ้อมค้อม และเอาแต่ขู่ให้กลัว

ขอคำตอบเดียวเลยครับ ตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ไม่วกวน.. ในความเห็นของ Rapier ตกลงว่าผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว สามารถสมัครเรียนภาษา หรือจะเรียนอะไรก็ตามแต่ "ได้"หรือ"ไม่ได้"ครับ??????????????????????? ขอคำตอบว่า "ได้" หรือ "ไม่ได้" เท่านั้นนะครับ เหตุผลเสริมหรือคำพูดวกวนอะไรเหล่านั้นจะตอบมาก็ได้แต่เอาไว้ข้างหลัง แต่ไม่มีจะดีมาก

edit แก้พิมพ์ผิด

ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
คุณ I-am-Friday คุณไม่เห็นตอบคำถามเลยว่าคอร์สที่คุณบอกน่ะอยู่ที่ไหนในโลกนี้

ขอ link ก็ได้

เอาแต่ปาว ๆ ว่าทำได้ ๆๆๆๆๆๆ

ใช่มันทำได้เพราะอะไร โรงเรียนนั้นมันไม่สนใจจะดู เอาตังอย่างเดียวไง

ตอนสมัครน่ะถามเขาหรือเปล่าว่า visa ท่องเที่ยวเรียนได้ไหม
หรือแค่โชว์จดหมายว่าเราอยู่ที่นี่เฉย ๆ

ไหนมาตอบหน่อยสิ ไม่เห็นจะออกทะเลเลย

คุณเริ่มก่อนนะ มาต่อให้จบสิ


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
ถึง I-am-Friday

อยากได้อ้างอิงก็นี่ครับ

http://www.immigrationdirect.com/visas/visitor/b2-tourist-visa.jsp

....
short course of study that is recreational and not for credit towards a degree, and the course is less than 18 hours per week, then this is allowed on a B2 visa. An example of this is if one is taking a vacation to the U.S., and during that time they wish to take a two-day cooking class for their enjoyment, and no credit is earned, then this would be permitted on a B2 visa.
....

ถ้าเรียนภาษาเป็น recreation ได้ทำไมไม่มีตัวอย่างล่ะครับ

คุณแค่บอกว่าพาออกไปเที่ยว เล่นบาส ก็เป็น recreation แล้วเหรอครับ 555

ถ้างั้นแล้ว
course DRIFT-BY-HIP-101
"going downhill by using your hip (left or right)"
นี่ก็น่าจะเป็น recreation นะครับ 555

แค่นี้แยกไม่ออกเหรอครับ

ทำได้แต่จริง ๆ มันผิด (คนทำกันทั้งนั้น เพราะงั้น ไม่ผิด)

กับ

ทำได้และไม่ผิด

I-Am-Friday คุณถือตรรกะแบบไหนครับ?


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
ขอตอบ DreamGlider นิดนึงนะครับ เพราะผมว่าคุณเริ่มจะหลงประเด็นแล้ว ผมตอบด้วยความเห็นของผมนะ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ I-Am-Friday ไม่ได้จะดึงกลับมาประเด็นหลักด้วย เพราะมันจบไปนานแล้ว แต่จะเคลียร์ประเด็นที่หลงออกไปนั่นแหละ

@DreamGlider#31
"คอร์สที่คุณบอกน่ะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ขอ link ก็ได้"
- คอร์สแบบที่ I-Am-Friday บอกน่ะ ผมก็เคยเรียนคล้ายๆกันครับ สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยที่ LA เรียน 8.30a - 2.00p หลังจากนั้นในบางวันจะมีกิจกรรมต่างๆเช่นพาไปดูทีมบาสของมหาลัยแข่งลีก บางทีเป็นทีมฟุตบอล เสาร์อาทิตย์บางวันเป็น city tour ไปดาวน์ทาวน์ ประเด็นคือ รูปแบบที่ว่าเนี่ย "มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ครับ" ผมยืนยันแทนให้ก็ยังได้ สิ่งที่จะต่างคือ ที่นั่น LA เดินทางไม่สะดวกและสิ้นเปลือง เลยไม่มีบ่อย แต่เมืองที่ I-Am-Friday อยู่ อาจจะเดินทางสะดวกกว่ากันมาก จึงสามารถจัดกิจกรรมพาไปนู่นไปนี่ได้บ่อยกว่าก็เป็นได้ ซึ่งไอ้รูปแบบที่ว่าเนี่ย มันตรงกับคำว่า Language & Culture เป๊ะเลยว่าไหมครับ? หรือคุณไม่ทราบว่าเบสบอล บาสเก็ตบอล (อเมริกัน)ฟุตบอลเนี่ยเป็น culture ของคนอเมริกัน? หรือจะให้คนอเมริกันออกมาเต้นรำพื้นบ้านโชว์ถึงจะเรียกว่า culture ครับ?

"อย่างนี้เพื่อนผมไปเที่ยวเมกาผมบอก อยากเรียนอะไรไม่เครียดก็เอาเลย 555"
- ก็บอกได้นี่ครับ ไม่ผิดอะไร จะแนะนำ จะแซว จะพูดเล่น หรือจะบิวท์จริง ก็ไม่เห็นจะมีใครห้ามทำและไม่เห็นจะผิดตรงไหน เพราะมันขึ้นอยู่กับเพื่อนคุณว่าจะทำหรือไม่ และถ้าเพื่อนคุณจะทำมันก็ไม่ผิดซะหน่อย ถ้าเพื่อนคุณใช้วีซ่าถูกประเภท เข้าประเทศถูกทาง และทำตัวถูกกฎหมายนะไม่มีใครมายุ่งกับเพื่อนคุณหรอก

@DreamGlider#38
"ใช่มันทำได้เพราะอะไร โรงเรียนนั้นมันไม่สนใจจะดู เอาตังอย่างเดียวไง
- ตอนสมัครน่ะถามเขาหรือเปล่าว่า visa ท่องเที่ยวเรียนได้ไหม
หรือแค่โชว์จดหมายว่าเราอยู่ที่นี่เฉย ๆ "

พูดอย่างนี้มานี่พิจารณาถี่ถ้วนแล้วหรือยังครับ? สถาบันภาษาแทบทุกที่รับวีซ่าท่องเที่ยวเข้าเรียนระยะสั้นหมดแหละครับ หลายๆแห่งมีสาขาอยู่ทั่วอเมริกา คุณคิดหรือว่าเขาจะตั้งใจทำผิดกฎหมายให้โรงเรียนโดนเล่นงาน? คุณคิดหรือว่าสถาบันชื่อดังจะรับผู้เรียนเข้าเรียนโดยไม่ดูประเภทวีซ่า ในเมื่อมันมีทั้งวีซ่านักเรียนที่ต้องออก I-20 ให้ และวีซ่าท่องเที่ยวที่ต้องระวังเรื่องชั่วโมงเรียน? คุณไปสนใจทำไมครับในเมื่อประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ต้องเป็นผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ในประเทศแล้ว แล้วอยากลงเรียนฆ่าเวลา ถึงไปสมัครเรียน ถ้าสมัครก่อนไปอย่างนี้ก็สงสัยได้ว่าไม่ได้มีเจตนาไปเที่ยว ก็สมควรจะไปขอวีซ่านักเรียนแทนซะ

โชว์จดหมาย ไม่ทราบว่าจดหมายอะไรครับ?

@DreamGlider#39
จะอ้างอิงทั้งทีรบกวนขอ source ที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้หน่อยดีกว่าไหมครับ? เว็บไซต์ที่คุณแปะมานั้นเป็นของเอกชนและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับหน่วยงานของรัฐของอเมริกาเลย เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆมาไว้เท่านั้น ประโยคและคำพูดต่างๆก็ถูกเขียนขึ้นเอง อาจจะถูกหรืออาจจะผิดก็ไม่ทราบได้ คิดว่าถ้าเคยเขียน research paper หรือ dissertation ก็น่าจะเข้าใจในเรื่องนี้ดี

"ถ้าเรียนภาษาเป็น recreation ได้ทำไมไม่มีตัวอย่างล่ะครับ"
- ตัวอย่างของกิจกรรมในประโยคที่ยกมาก็ถูกเขียนขึ้นเองโดยไม่มีการอ้างอิงถึงที่มาที่ไปว่ายกมาจากไหน ถึงประโยคจะน่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่มีที่มาที่ตรวจสอบได้ เราก็ไม่ควรเชื่อนะครับ และถึงแม้จะเป็นความจริงมันก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่างตัวอย่างเดียวที่ยกมาเท่านั้น ( "AN EXAMPLE" มี an นำหน้า = มีสิ่งเดียว example ไม่เติม s = เป็นเอกพจน์; = ตัวอย่างเดียวเท่านั้น ) ถ้าเอาตามตรรกะของคุณ อะไรที่ไม่ใช่ 2-day cooking class ก็ถือว่าไม่ใช่ recreational ทั้งหมดเลยใช่ไหมครับ? อย่างนั้น 1-day cooking class ก็ไม่ใช่ recreation สินะ นี่คุณเข้าใจคำว่า"ตัวอย่าง"ถูกต้องแน่นะครับ?

"course DRIFT-BY-HIP-101 "going downhill by using your hip (left or right)" นี่ก็น่าจะเป็น recreation นะครับ 555"
ถ้ามันเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำไมมันจะเป็น recreation ไม่ได้ครับ? ทำไมคุณถึงใช้บรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินว่าอะไรเป็นอะไรไม่เป็นล่ะครับ? การที่คุณคิดว่าการ drift by hip มันเจ็บตัว มันไม่สนุกแน่ๆ มันเลยไม่สมควรจะเป็น recreation หรือ? ผมว่ามันเป็นความเห็นส่วนตัวของคุณคนเดียว คนอื่นอาจจะสนุกก็ได้ คุณไม่มีสิทธิ์ยัดเยียดความเห็นส่วนตัวให้ใครทั้งนั้นครับ ขอถามหน่อย คิดว่าบันจี้จัมป์หรือ x-games เป็น recreation ได้หรือไม่? ถ้าคุณตอบว่าไม่ได้เนี่ย ผมว่าคุณมีปัญหาในเรื่องมุมมองแล้วหละ คุณอาจจะมองอะไรในมุมที่แคบเกินไป ไม่เปิดใจเปิดตาเปิดสมองกว้างๆ คิดรอบด้าน คิดในมุมของคนอื่นบ้าง ว่ามันมีความเป็นไปได้อะไรอย่างไรบ้าง

edit แก้พิมพ์ผิด

ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
#thanik215

เอาทีละข้อนะครับ

@DreamGlider#31
"คอร์สที่คุณบอกน่ะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ขอ link ก็ได้"
- คอร์สแบบที่ I-Am-Friday บอกน่ะ ผมก็เคยเรียนคล้ายๆกันครับ สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยที่ LA เรียน 8.30a - 2.00p หลังจากนั้นในบางวันจะมีกิจกรรมต่างๆเช่นพาไปดูทีมบาสของมหาลัยแข่งลีก บางทีเป็นทีมฟุตบอล เสาร์อาทิตย์บางวันเป็น city tour ไปดาวน์ทาวน์ ประเด็นคือ รูปแบบที่ว่าเนี่ย "มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ครับ" ผมยืนยันแทนให้ก็ยังได้ สิ่งที่จะต่างคือ ที่นั่น LA เดินทางไม่สะดวกและสิ้นเปลือง เลยไม่มีบ่อย แต่เมืองที่ I-Am-Friday อยู่ อาจจะเดินทางสะดวกกว่ากันมาก จึงสามารถจัดกิจกรรมพาไปนู่นไปนี่ได้บ่อยกว่าก็เป็นได้ ซึ่งไอ้รูปแบบที่ว่าเนี่ย มันตรงกับคำว่า Language & Culture เป๊ะเลยว่าไหมครับ? หรือคุณไม่ทราบว่าเบสบอล บาสเก็ตบอล (อเมริกัน)ฟุตบอลเนี่ยเป็น culture ของคนอเมริกัน? หรือจะให้คนอเมริกันออกมาเต้นรำพื้นบ้านโชว์ถึงจะเรียกว่า culture ครับ?

>>> ผมบอกให้เอา link ของสถาบันมาเลย งงไหม แบบที่เอามาเปิดแล้วไปที่ web ของสถาบันนั้น ๆ น่ะ
จะได้ดูข้อกำหนดของ course นั้น ๆ จริง ๆ เลย

"อย่างนี้เพื่อนผมไปเที่ยวเมกาผมบอก อยากเรียนอะไรไม่เครียดก็เอาเลย 555"
- ก็บอกได้นี่ครับ ไม่ผิดอะไร จะแนะนำ จะแซว จะพูดเล่น หรือจะบิวท์จริง ก็ไม่เห็นจะมีใครห้ามทำและไม่เห็นจะผิดตรงไหน เพราะมันขึ้นอยู่กับเพื่อนคุณว่าจะทำหรือไม่ และถ้าเพื่อนคุณจะทำมันก็ไม่ผิดซะหน่อย ถ้าเพื่อนคุณใช้วีซ่าถูกประเภท เข้าประเทศถูกทาง และทำตัวถูกกฎหมายนะไม่มีใครมายุ่งกับเพื่อนคุณหรอก

>>> อันนี้คือประชดนะ เอาจริง ๆ ก็คือถ้าเพื่อนผมมาเที่ยวแต่อยากจะเรียนผมก็จะบอกว่าถ้าเรียนภาษามันผิด แต่ถ้าจะเรียนก็ทำได้ ได้ยังไงเดี๋ยวจะตอบรวมกับข้างล่าง

@DreamGlider#38
"ใช่มันทำได้เพราะอะไร โรงเรียนนั้นมันไม่สนใจจะดู เอาตังอย่างเดียวไง
- ตอนสมัครน่ะถามเขาหรือเปล่าว่า visa ท่องเที่ยวเรียนได้ไหม
หรือแค่โชว์จดหมายว่าเราอยู่ที่นี่เฉย ๆ "

พูดอย่างนี้มานี่พิจารณาถี่ถ้วนแล้วหรือยังครับ? สถาบันภาษาแทบทุกที่รับวีซ่าท่องเที่ยวเข้าเรียนระยะสั้นหมดแหละครับ หลายๆแห่งมีสาขาอยู่ทั่วอเมริกา คุณคิดหรือว่าเขาจะตั้งใจทำผิดกฎหมายให้โรงเรียนโดนเล่นงาน? คุณคิดหรือว่าสถาบันชื่อดังจะรับผู้เรียนเข้าเรียนโดยไม่ดูประเภทวีซ่า ในเมื่อมันมีทั้งวีซ่านักเรียนที่ต้องออก I-20 ให้ และวีซ่าท่องเที่ยวที่ต้องระวังเรื่องชั่วโมงเรียน? คุณไปสนใจทำไมครับในเมื่อประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ต้องเป็นผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ในประเทศแล้ว แล้วอยากลงเรียนฆ่าเวลา ถึงไปสมัครเรียน ถ้าสมัครก่อนไปอย่างนี้ก็สงสัยได้ว่าไม่ได้มีเจตนาไปเที่ยว ก็สมควรจะไปขอวีซ่านักเรียนแทนซะ

โชว์จดหมาย ไม่ทราบว่าจดหมายอะไรครับ?

>>> ตอบ >>>

ถ้าสถาบันภาษาแทบทุกแห่งทำอย่างที่คุณว่าหมายถึงคุณสามารถเดินไปบอกว่าผมถือ visa ท่องเที่ยวนะ ผมอยากจะเรียน ผมเรียนได้ไหม พวกที่บอกว่าทำได้ทำอย่างนี้หรือเปล่าเวลาไปสมัคร?

ในความเป็นจริง สิ่งที่พวกนี้ทำก็คือ

มันมี course ที่เปิดให้เฉพาะคนที่อยู่ที่นี่เรียน เช่น free esl course ของ truman
http://www.ccc.edu/colleges/truman/departments/pages/tuition-free-esl.aspx
http://www.ccc.edu/colleges/truman/departments/Pages/Adult-Education.aspx
ดูจาก course description จะเห็นว่าพวก F,M,J หรือ short-term visitors ไม่เหมาะ (not appropriate)
ใช่ไหม แต่ทำไมพวกถือ visa ท่องเที่ยว หรือ พวกแมกที่ดำดินมาไม่มี visa ด้วยซ้ำเรียนกันเกลื่อน

วิธีก็คือ

เวลาสมัครพนักงานเขาไม่ขอดู visa ไงครับ เขาจะดูว่าคุณอยู่ที่นี่หรือเปล่า โดยสามารถแสดง
จดหมายที่มีชื่อผู้สมัครอยู่ได้ แค่นั้นก็ได้เข้าเรียนแล้ว ...

... ถึงได้บอกว่าทำได้แต่มันผิดไงครับ ...

@DreamGlider#39
จะอ้างอิงทั้งทีรบกวนขอ source ที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้หน่อยดีกว่าไหมครับ? เว็บไซต์ที่คุณแปะมานั้นเป็นของเอกชนและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับหน่วยงานของรัฐของอเมริกาเลย เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆมาไว้เท่านั้น ประโยคและคำพูดต่างๆก็ถูกเขียนขึ้นเอง อาจจะถูกหรืออาจจะผิดก็ไม่ทราบได้ คิดว่าถ้าเคยเขียน research paper หรือ dissertation ก็น่าจะเข้าใจในเรื่องนี้ดี

>>> ตอบ
web site เป็นของเอกชนคุณบอกไม่เชื่อถือก็ใช่ครับ แต่ผมยกตัวอย่างให้ดูว่าที่มันดูเจ๋ง ๆ ว่าเป็น recreation น่ะมันแบบนี้นะ เพราะ web นั้นเค้าขายคำปรึกษา ถ้าเค้าพิมพ์อะไรที่มันจะเข้าตัวได้
เขาจะพิมพ์ทำไม? ผมพยายามบอกว่า cooking น่ะมันดูเป็น recreation มากกว่าเรียนภาษา
ชัดไหมครับ


"ถ้าเรียนภาษาเป็น recreation ได้ทำไมไม่มีตัวอย่างล่ะครับ"
- ตัวอย่างของกิจกรรมในประโยคที่ยกมาก็ถูกเขียนขึ้นเองโดยไม่มีการอ้างอิงถึงที่มาที่ไปว่ายกมาจากไหน ถึงประโยคจะน่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่มีที่มาที่ตรวจสอบได้ เราก็ไม่ควรเชื่อนะครับ และถึงแม้จะเป็นความจริงมันก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่างตัวอย่างเดียวที่ยกมาเท่านั้น ( "AN EXAMPLE" มี an นำหน้า = มีสิ่งเดียว example ไม่เติม s = เป็นเอกพจน์; = ตัวอย่างเดียวเท่านั้น ) ถ้าเอาตามตรรกะของคุณ อะไรที่ไม่ใช่ 2-day cooking class ก็ถือว่าไม่ใช่ recreational ทั้งหมดเลยใช่ไหมครับ? อย่างนั้น 1-day cooking class ก็ไม่ใช่ recreation สินะ นี่คุณเข้าใจคำว่า"ตัวอย่าง"ถูกต้องแน่นะครับ?

>>> ตอบ
1. คุณกำลังเล่นคำ
2. ผมเปรียบเทียบ class 2 class ว่าอันไหนเป็น recreation อันไหนไม่เป็น
3. ถ้าเรียนภาษาเป็น recreation ก็ให้ไปหามาว่ามี web ไหนเขาบอกอย่างนั้น



"course DRIFT-BY-HIP-101 "going downhill by using your hip (left or right)" นี่ก็น่าจะเป็น recreation นะครับ 555"
ถ้ามันเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำไมมันจะเป็น recreation ไม่ได้ครับ? ทำไมคุณถึงใช้บรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินว่าอะไรเป็นอะไรไม่เป็นล่ะครับ? การที่คุณคิดว่าการ drift by hip มันเจ็บตัว มันไม่สนุกแน่ๆ มันเลยไม่สมควรจะเป็น recreation หรือ? ผมว่ามันเป็นความเห็นส่วนตัวของคุณคนเดียว คนอื่นอาจจะสนุกก็ได้ คุณไม่มีสิทธิ์ยัดเยียดความเห็นส่วนตัวให้ใครทั้งนั้นครับ ขอถามหน่อย คิดว่าบันจี้จัมป์หรือ x-games เป็น recreation ได้หรือไม่? ถ้าคุณตอบว่าไม่ได้เนี่ย ผมว่าคุณมีปัญหาในเรื่องมุมมองแล้วหละ คุณอาจจะมองอะไรในมุมที่แคบเกินไป ไม่เปิดใจเปิดตาเปิดสมองกว้างๆ คิดรอบด้าน คิดในมุมของคนอื่นบ้าง ว่ามันมีความเป็นไปได้อะไรอย่างไรบ้าง

>>> ตอบ
ไอ้ course นี้มันมีที่ไหนในโลกนี้ล่ะครับผม make ขึ้นมาแหย่คุณ I-Am-Friday
ภาษาไทยก็คือ "แถ"ลงเขาด้วยสีข้าง (ซ้าย หรือ ขวา) น่ะครับ
... เฮ้อ ... ไม่นึกว่าจะต้องมาอธิบายมุกตัวเอง



แล้วก็อีกอย่างผมไม่ได้ยัดเยียดความคิดอะไรให้ใครทั้งนั้น
ใครอยากจะเชื่ออะไรก็ตามสบาย

ผมถามว่าที่ผมพูดน่ะถูกไหม ถ้าไม่ถูกก็แย้งมา

ผมไม่หลงประเด็นนะครับ
.
.
ทำได้แต่จริง ๆ มันผิด (คนทำกันทั้งนั้น เพราะงั้น ไม่ผิด)
กับ
ทำได้และไม่ผิด
.
.
ผมว่ามันทำได้แต่จริง ๆ มันผิด นี่คือประเด็นครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
อ้อ อีกอย่างพวก course แบบ x-games เช่น
ไปเที่ยวเล่นสกีตาม snow resort แล้วมีอบรม
อย่างนี้มันก็สำหรับ recreation แหง ๆ อยู่แล้ว
คุณจะไปโดดร่ม เค้ามีอบรมนิดหน่อย มันก็ recreation
คุณจะไปเช่า segway ขี่เค้ามีอบรม ก็ recreation
.
.
.


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
และอีกอย่างผมไม่เคยทำ research หรือ dissertation ครับ
ผมไม่เคยทำ Ph.D. ผมแค่เขียนตามความจริงครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
ถ้าจะมีใครกลับมาดู เราได้วีซ่านักเรียนแล้วนะค่ะ ได้มา 5 ปี ทำเองทุกขั้นตอน ไม่ยากอย่างที่คิด ขอบคุณทุกคำตอบและคำแนะนำนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 44