สอบถามเวลามาเมืองไทยแล้วเจอค่า ATM Fee ว่าคุณคิดยังไง?

พอดีสามีอเมริกันฝากถามมาค่ะ สามีเป็นนักบินแล้วเดินทางไปยุโรป เช่นฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ แกบอกว่าเวลากดเงินออกมาไม่เสียค่ะบริการค่ะ และเวลาไปญี่ปุ่น สิงค์โปร ไม่เสียค่าบริการค่ะ เวลาบินในประเทศอเมริกาแล้วแต่ที่บางทีไม่เสียเลย เคยเสียสูงสุดก็ครึ่งหนึ่งของที่เสียที่เมืองไทย แกบอกว่าที่เมืองไทยคิดครั้งละ 150 บาท สามีบอกว่าบินมายี่สิบกว่าปีค่ากดเอทีเอ็มเมืองไทยแพงที่สุดในทุกประเทศที่แกเคยบินมา ไม่ทราบว่าเพราะอะไรที่เมืองไทยถึงคิดค่าบริการตรงนี้ค่ะ? แล้วทำใมที่ญี่ปุ่น สิงคโปร์ฮ่องกง ไม่คิด? เพื่อนนักบินสามีก็ถามดิฉันเวลาสนทนากันเรื่องค่ากดเอทีเอ็ม จขกท ก็ไม่รู้จะตอบยังไงก็ได้แต่แนะนำให้พกเงินดอลแล้วไปแลกเอา แต่ก็นั้นเหล่ะคนอเมริกันก็ชอบใช้บัตรอีก ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ผมเอาเอทีเอ็มไทยไปกดเมืองนอกก็เสียค่ากดนะครับ ก็บอกว่ามันเป็นกฏครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
สามีอเมริกันไม่ว่าอะไรเลยค่ะ ดิฉันจะกดครั้งละ 20,000 บาททุกครั้ง เพราะbank คิดค่ากดครั้งละ 150 บาท บางตู้ไม่มีใบ 1,000 มีแต่ใบ 500 กดได้ 20 ใบ 10,000 บาทก็ไม่กด เลือกตู้ที่มีใบละพันเท่านั้น เหมือนความเห็นข้างบนค่ะเป็นกฏของเขา ไม่อยากเสีย 150 บาทก็ไม่ต้องกดพกดอลล่ามาแลก


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ค่าธรรมเนียมก็ไม่ได้แพงมากนะคะ เทียบเป็นดอลล์ก็ประมาณ 5 ดอลล์ ลองพยายามกะปริมาณเงินที่จะใช้จ่ายในแต่ละทริปแล้วกดเงินแค่ครั้งเดียวจะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายครั้ง

เราอยู่สวิสใช้ธนาคารของที่นี่ กดเงินตู้ต่างธนาคารก็เสีย 2 ฟรังค์ คิดเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 70 บาท เมื่อรู้ว่าต้องเสียเราก็เลี่ยงที่จะไม่กด


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
บอกสามีใช้บัตรเครดิตดีกว่ามังครับ พี่ระวังไว้ด้วยเช็คดูว่าทำไมต้องกดเงินสด อันนี้ไม่ใช่เล่นๆนะพี่ ผมอยู่พัทยา เคยมีฝรั่งมันมามีบ้านเล็กไว้ที่นี่ เมียมันตามมาเอาเรื่องทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่โตเลย ผมเป็นคนให้เช่าคอนโด ยังจำได้มาจนถึงทุกวันนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณค่ะคุณ cupcake เวลามีไพทล์ลงที่ กทม สามีแกไม่ได้ใช้เยอะขนาดนั้นเพราะ layover ทีจะประมาณ 27 ชั่วโมง น่าจะไม่เกิน 3000 บาทเฉพาะค่ากินดื่ม ค่ารถ แล้วแกก็ไม่ชอบพกเงินสดมากๆเพราะต้องบินต่อไปประเทศอื่นๆด้วย โดยมากแล้วก็พัก ส่วนมากจะพกแต่บัตรเวลาไปลงประทศอื่นก็ไปกดเอาเงินประเทศเค้าก็ไม่เสียค่าบริการ แต่ประเทศไทยคิดเยอะที่สุดเลย สงสัยจะบอกให้แกพกเงินดอลไปแลกเอา

ขอบคุณค่ะคุณลักษณ์ แต่ที่สวิสก็ถูกกว่าครึ่งหนึ่งน่ะ คงต้องหาทาเลี่ยงด้วยวิธีอื่นจริงๆ

ขอบคุณค่ะคุณ Inven

ค่าเอทีเอ็มตรงนี้พึ่งมาขึ้นไม่กี่ปีนี้เองน่ะค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อยี่สิบปีที่แล้วแกบอกว่าไม่เสีย หรือช่วงหลังๆมีเสียแต่ไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่ถึงกับ 150 บาทต่อครั้งเหมือนจะขึ้นมาสองเท่าเลย ตัว จขกท เองไม่ได้เดินทางบ่อยเหมือนสามีก็ไม่เดือนร้อนอะไร แต่คงจะพยายามให้แกพกเงินดอลเอาล่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ปกติแล้วลูกเรือทุกคนทุกสายการบิน บินไปประเทศไหนเค้าก็ควรจะได้เพอเดียมตามค่าเงินของประเทศนั้นๆไม่ใช่เหรอ

เหตุใดคุณสามีเจ้าของกระทู้ต้องกดเงินไทยออกมาใช้เองล่ะ ทางสายการบินจะจ่ายเงินเป็นเงินไทยอยู่แล้วนี่

หากกดเงินไทยแค่3000บาทกดน้อยๆแบบนั้นมันก็ไม่คุ้มแน่นอนหล่ะเพราะโดนค่าธรรมเนียมไป150บาทก็ว่าแพง

บัตรธนาคารไทยเอามากดต่างประเทศยังต้องเสียค่าธรรมเนียมค่ากดเลยครั้งละ 200บาทเลย

แล้วมันไม่แฟร์ตรงไหน?ในเมื่อค่าธรรมเนียมการกดเงินสดก็พอๆกันทั้งบัตรไทยบัตรนอก

เพื่อนฝรั่งและสามีเราก็ไม่เคยมีใครบ่นเรื่องค่าธรรมเนียมเวลากดเงินสดออกมาเพราะมันเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องที่ต้องเสีย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
อย่าว่าแต่เอาบัตรอเมริกันมากดที่ไทยแล้วเสียเงินเลย บัตรอเมริกันแท้ ๆ เอามากดต่างธนาคาร ยังโดนคิดเงินเลย บางทีโดนจากตู้ธนาคารที่เรากด แล้วยังโดนแบงค์เราเองคิดตังค์อีก


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
^
^




เห็นด้วยกับพี่ๆ หลายคนตามเมนท์บนนะครับ
ผมมองว่าเป็นค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล
แลกกับความสะดวกที่ไม่ต้องการพกเงินสด
เพราะธนาคารไทยอยู่ได้เพราะค่าต่างๆ เล่านี้

บางที การรูดบัตร หรือกดเงินสดแต่ล่ะครั้ง
โดยเฉพาะประเทศที่ไม่คิดค่าธรรมเนียม
เขาอาจจะคิดอัตราแลกเปลี่ยนสูงกว่าทั่วไปก็ได้ครับ

เหมือน visa กับ master card ดังนี้

http://corporate.visa.com/pd/consumer_services/consumer_ex_rates.jsp

https://www.mastercard.com/global/currencyconversion/index.html


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เอาบัตรไทยมากดเยอรมันก็เสียค่าธรรมเนียม เอาบัตรเยอรมันไปกดไทยก็เสีย
อีกเหมือนกันค่ะ บัตรต่างธนาคารเสียอีกเหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ก็ปกตินะคะ อย่างที่เมกา ใช้บัตรเดบิต เอทีเอ็ม จากแบงค์ที่ออกบัตร ที่ตู้ของแบงค์ก็ฟรี แต่ถ้าไปกดจากตู้เอทีเอ็มของแบงค์อื่นก็เสียค่า Fee เหมือนกัน เวลาไปไทยกดเงินออกจากธนาคารที่เมืองไทยก็เสีย Fee เท่ากัน

เพื่อนเป็นแอร์บอกว่า เค้าใช้ เครดิตยูเนี่ยนแบงค์ค่ะ ไม่เสียค่าฟรี กดเครื่องไหนก็ได้ (เค้าบอกมาอีกทีนะคะ) ไม่แน่ใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
กดในเมกา ต่างธนาคาร เสีย สามมั่ง สี่มั่ง ไม่ได้เสียเสียค่าธรรมเนียมเหรอ บัตรเอทีเอ็มของเมกา กดที่ยุโรป ที่ไหน เสียเงินค่าธรรมเนียมทุกที่ ไม่มีไม่เสีย บวกค่าแลกเปลี่ยนด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ที่ญี่ปุ่น
บัตรเอทีเอ็มไทย กดที่ญี่ปุ่น เสียค่าธรรมเนียมครั้งละ100 บาท
บัตรเอทีเอ็มญี่ปุ่น ต่างธนาคาร กดทุกครั้ง เสียค่าธรรมเนียม
บัตรเอทีเอ็มญี่ปุ่น ธนาคารเดียวกัน หลังหกโมงเย็น หรือกดในวันหยุดทำการ เสียค่าธรรมเนียม แม้แต่ฝากเงินเข้าก็เสียค่าธรรมเนียมค่า


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
กดที่ยุโรป ปกติก้อเสียค่าธรรมเนียมนะคะ ของฟรีไม่ค่อยมีในโลก


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่เคยคิดมากเรื่องค่าธรรมเนียม ถ้ารู้ว่าเขาเก็บแพงก็จะหาวิธีอื่นแทน...


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15

ก็เคยคิดเหมือนกันว่าทำไมค่าธรรมเนียมเมืองไทยเเพงจัง เเถมมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บัตร ตปท. กดได้เเค่ครั้งละ 10,000 บาท
เเต่เห็นว่าตอนนี้ปรับไปเป็นเหมือนเดิมเเล้ว คือกดได้ครั้งละ 20,000 บาท ก็หยวนนะ fee 150 บาทต่อ 20,000 บาท


กรณีของสามี จขกท ไม่ได้อยู่นานเเต่ละครั้ง เเต่จำเป็นต้องใช้เงินสด ก็กดเต็มจำนวนเลย 20,000 บาท ใช้เท่าไหร่ที่เหลือเอามาเก็บไว้ที่บ้าน
พอได้ไฟลท์ที่จะต้องไปเมืองไทยอีก ก็รู้ตัวก่อนหน้าอยู่เเล้ว หยิบติดไปสัก 2-3 พันบาทก็น่าจะเหลือเฟือ ลองดูนะคะเป็นอีกทางเลือกนึง



ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
อันนี้เล่าๆ ให้พี่ๆคนอื่นฟังนะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเคสนี้เท่าไหร่ ผมเองเคยทำโปรเจกโรงแรมกลางกรุงเทพนี่แหละ ทีนี้ลูกค้าก็จะเป็นพวกคอปเปอร์เรท พวกนี้เดินทางธุระทางบริษัทเขาก็มีเครดิตการ์ดให้ใช้ครับวงเงินตามงบเขาเลยหละครับ กินอยู่ เที่ยวนี่สบายเงินสดไม่ต้องพกครับ แต่นานๆเข้ามันมีปัญหาขึ้นมา เนื่องจากผู้บริหารพวกนี้ดึกๆเข้า มาดผู้บริหารมันไม่เหลือแล้วแอบพาสวาขึ้นมาบ้าง แล้งพาเข้าทางที่จอดรถบ้าง หลบๆเลี่ยงๆกันเข้ามา ทีนี้เราไม่ว่าหรอกครับ ก็ชาร์จจอยเนอร์ไปเงินก็มารูดเข้ากับบัตรทีหลัง แต่ทีนี้มันไม่อย่างนั้นมันดันมีเรื่อง เงินค่าจอยเนอร์ ค่าผู้หญิงนี่มันไม่ถูกต้องบางคนนี่ถึงกับเสียหายโดนฟ้องร้อง เมียขอหย่ากันเลยนะครับ อันนัชี้ปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออกครับ เผอิญผมเคยเจอมาบ้าง พี่ๆท่านใดพ่อบ้านมีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าไม่ติดใจ ก็บังคับตรวจเลือดบ้างก็ดีครับ ผมเคยเห็นมาเยอะมากคนเราตอนดีๆก็น่านับถือ แต่พอผิดกลิ่น เหล้าเข้าปากนี่เห็นรสนิยมหิ้วสาวแล้วสยองแทนเลยครับ ลองพิจารณาด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
สามีเป็นนักบิน ค่าธรรมเนียม 150 ไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงมั๊ยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17