เด็กไทยไอคิวต่ำกว่าพม่า 5 ล้านคนหายจากโรงเรียน

Source : http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/287631



วันเสาร์สบายๆ วันนี้มาคุยกัน เรื่องหนักๆของชาติ ซึ่งเป็น

“เรื่องน่าเศร้าของเด็กไทย” และ “อนาคตของชาติไทย” กันดีกว่านะครับ อ่านข่าวแล้วผมได้แต่หดหู่ใจ ไม่รู้นักการเมืองที่รับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง และ การศึกษาของชาติจะรู้สึกอะไรหรือไม่ เพราะวันนี้ เด็กและเยาวชนไทย ที่เป็น อนาคตของชาติ กำลัง ถูกรัฐบาลทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี จาก ระบบการศึกษาที่ล้มเหลว จน “เด็กไทยสติปัญญาต่ำกว่าเด็กพม่า” ไปแล้ว

ข้อมูลนี้เป็น ผลสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาเด็กนักเรียนไทยปี 2554 และ การกระจายระดับสติปัญญารายภาคปี 2555 ของ กรมสุขภาพจิต ซึ่งสำรวจจากเด็กนักเรียนระดับ ป.1-ม.3 ในโรงเรียนทุกสังกัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 72,780 คน เมื่อเดือนธันวาคม 2553-มกราคม 2554

ผลออกมา เด็กนักเรียนไทยมีไอคิวหรือสติปัญญาเฉลี่ยอยู่ที่ 98.59 ซึ่งเป็น เกณฑ์ที่ต่ำกว่าค่ากลางตามมาตรฐานสากล ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 100 และเมื่อ เทียบสติปัญญาเด็กไทย กับ ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน แล้วพบว่า เด็กไทยมีสติปัญญาเฉลี่ยต่ำกว่าเด็กพม่า แต่ถือว่าดีขึ้น เพราะการสำรวจปี 2549 เด็กไทยมีสติปัญญาเท่ากับเด็กเขมร เท่านั้น

โอ้แม่เจ้า แล้วคนไทยจะร้องเพลงอะไรดี

ความคิดเห็นที่ 1

Quote:
""เพราะวันนี้ เด็กและเยาวชนไทย ที่เป็น อนาคตของชาติ กำลัง ถูกรัฐบาลทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี จาก ระบบการศึกษาที่ล้มเหลว จน “เด็กไทยสติปัญญาต่ำกว่าเด็กพม่า” ไปแล้ว""

************************************

กระทู้เนื้อหาน่าสนใจค่ะ เเต่อ่านเเล้วไม่ค่อยเคลียร์ตรงที่ quote ข้างบน คุณ จขกท หมายถึง เด็กไทย "ควรฉลาด" หรือ "เคยฉลาด" กว่าเด็กพม่า ใช่ไหมคะ??




ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
หมายความว่า ..
เพราะรัฐบาลละเลยการศึกษา เลยทำให้ สติปัญญาเด็กไทย สู้พม่าไม่ได้
. จะสื่ออย่างนี้หรือไม่คะ ?

จริงๆแล้ว อยากให้มองที่ตัวบุคคลมากกว่าค่ะ
เด็กๆต้องได้รับการอบรม ฝึกฝนจากทั้งโรงเรียนและครอบครัวนะคะ

เนื่องจากสภาพสังคมของเยาวชนแต่ละคนแตกต่างกัน
รวมทั้งรัฐบาลไม่สามารถ support ได้ทุกครัวเรือน
ซึ่งโรงเรียนบางแห่งก็มีตำราเรียนไม่พร้อม มีบุคลากรไม่เพียงพอ
จึงเป็นไปได้ที่การศึกษาของเด็กไทยอาจจะดู 'ด้อย' กว่าเพื่อนบ้าน

แต่ทั้งนี้หากพิจารณาตามตัวบุคคลแล้ว ..
หาก ครอบครัวบ่มเพาะ สนับสนุนให้เด็กอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 1-2 ชม.
เป็นไปได้ไหมคะ ? ที่เด็กๆจะโตมาอย่างมีประสิทธิภาพ ?
แต่ทั้งนี้ บางครอบครัวก็ไม่ใช่ตัว 'ผู้ใหญ่' เองหรอคะ ? ที่ไม่สนับสนุนลูกหลาน?
บางครอบครัวมองว่า 'การศึกษา' ไม่จำเป็นก็มีนะคะ

. การศึกษาไทย ต่อให้มีเครื่องมืออุปกรณ์พร้อม
แต่หาก เด็กขาดวินัยในตนเอง ไม่ฝึกฝน ไม่ทบทวน ไม่ขวนขวาย
ก็ไม่มีทางที่จะ 'มีสติปัญญาสูง' ได้หรอกค่ะ
เพราะฉะนั้น จึงอยู่ที่ครอบครัว และ ตัวเด็กเองนะคะ

ปล. คหสต. ค่ะ (:


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คือเรื่องไอคิวที่วัดโดยกรมสุขภาพจิต โดยใช้แบบวัด SPM พอทำความเข้าใจได้ว่านี่คือไอคิวที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเป็นพวก fluid intelligence แต่ไม่ได้วัดไอคิวที่มาจากการเรียนรู้หรือ cystalized intelligence ซึ่งมาจากการอบรมการอ่าน การเรียนหนังสือ แต่เรื่องเทียบกับพม่านี่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เทียบยังไง ใครทำวิจัย ใช้แบบวัดไหน คะแนนเฉลี่ยเท่าไหร่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมากหรือปล่าว?

เพื่อประโยชน์ทางวิชาการขอแหล่งอ้างอิงด้วยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่รู้ว่ากรรมวิธีสำรวจของพม่า เขมร เหมือนกับของเราหรือเปล่า อ่านข่าวไปก็พอรับรู้ไว้แต่อย่าไปเชื่อมากจนดูถูกทั้งกำพืดของตัวเองและเหยียดหยามเพื่อนบ้าน


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่เชื่อข่าวนี้ครับ

คิดว่าเป็นการดิสเครดิตกันมากกว่า

พม่าหรือเขมร ไม่ได้แม้แต่โรงเรียน มีเยอะมากนะครับ ไม่ทราบไปวัดกันด้วยวิธีไหน ยังไง แค่จะสำรวจมะโนประชากร ยังยากเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ก็ไม่ต่างกันแหละคะ เราไม่ได้เจริญอะไรมาก เจริญแต่ในประเทศตัวเอง -_-


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เปลี่ยนสุภาษิตเป็น"รักวัวให้ผูกรักลูกให้กอด"สิ แล้วเด็กไทยจะIQสูงขึ้น นี่คือความคิดจากผู้ใหญ่ที่แสนชาญฉลาดในบ้านเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เรียนก็ไม่ค่อยได้เรียน(เพราะคนสอนมีงานเยอะ) ให้ไปค้นงานเองจากคอมพ์แล้วก็ปรินท์มาส่งเอาคะแนน(ไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ) ตอนนี้ยังไม่ค่อยได้เขียนอีกเพราะใช้จิ้มเอาตั้งแต่เล็ก(แทปเล็ต)


ขอร้อง....เฮ้อ....พันครั้งกับอนาคตเยาวชนของชาติ
นโยบาย....ทุนนิยม....นี่มันทำลายจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ผู้บริหารบ้านเมือง ก็ไอคิวต่ำ


ประสาท เเจกบ้า แจกบอ tablet ให้เด็กป.หนึ่ง

เด็กป หนึ่งเขียนหนังสือยังเเทบไม่ได้เลย อันนี่ให้มานั่งจิ้มๆกันเเล้ว


มอมเมาตั้งเเต่เด็ก หว่านคะเเนนเสียงเอาไว้ตั้งเเต่เด็กๆเลยน่ะ

สงสารประเทศไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ตัวอย่างง่ายๆ

คลิ๊กไปเว็บจ่า ,เฟล


-ยาวไป ไม่อ่าน
-ถามก่อน หาทีหลัง
-อย่ามาด่าว่าโง่ พูดกันดีๆก็ได้

รู้สึกเลย ว่าคนสมัยนี้ IQ ต่ำลง และอนาคตเด็กๆจะเป็นอย่างไร


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คงต้องเริ่มจากครอบครัวก่อนเลย ถ้าจะให้มาปรับนิสัยกันที่โรงเรียนอย่างเดียวคงสายเกิน

ผู้ปกครองบางส่วนก็เกินไป อะไรก็ครูๆๆๆ แต่ไม่เคยมองย้อนกลับไปเลยว่าตัวเองทำเต็มที่แล้วรึยัง

ส่วนนโยบายขายฝัน ประเทศชาติจะเป็นแบบไหนไม่รู้ รู้แต่กรูขอมีอำนาจอย่างเดียวพอ

นโยบายของกระทรวงศึกษาฯ ขอความกรุณาโล๊ะหลักสูตรใหม่เลยได้มั้ย ป.1 เอาแค่คณิตฯ ไทย อังกฤษ ก็พอ

ไม่ต้องเน้ินวิชาอื่น เน้นสามตัวนี้ก็พอให้อ่านออก (เขียนได้ป่าวไม่รู้เพราะเดี๋ยวนี้เค้าจิ้มเรียน)


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ระบบโรงเรียนวัด
เด็กมาโรงเรียนบ้าง ไม่มาบ้าง ไม่ตั้งใจเรียนบ้าง งานไม่ส่งบ้าง
เด็กบางคนว่าไม่ได้ เพราะเดี๊ยวพ่อแม่มันมาด่าถึงโรงเรียน
พอสอบตก... ก็ปล่อยๆมัน ช่วยให้มันผ่านไปเถอะ ขี้เกียจสอน


ตอบกลับความเห็นที่ 12