อยากถาม เรื่อง ความแตกต่างด้านวัฒนธรรม หน่อยครับผม

กำลัง ศึกษาเรื่องความแตกต่าง ของเรื่องวัฒนธรรมน่ะคับ เปรียบระหว่าง ไทย กับ อเมริกาเลย อยากถามคนที่เคยไปเนี่ย มีอะไรบ้างคับที่แตกต่างอย่างชัดเจน (เน้นเรื่องการใช้ของ ซื้อของ บริโภค อะไรอย่างนี้ครับ)

ขอบคุนสำหรับคำตอบนะครับผม

ความคิดเห็นที่ 1
โกงน้อยกว่ามาก


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
จขกท. ลองยกตัวอย่างมาก่อนสิว่า คำว่า "วัฒนธรรม" สำหรับคุณคืออะไรบ้าง


ไม่งั้นสำหรับบางคน เขาก็จะตอบแบบ คห.1 เพราะการ "โกง" เป็นวัฒนธรรมในความหมายของเขา

....


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
"........ความแตกต่าง ของเรื่องวัฒนธรรมน่ะคับ เปรียบระหว่าง ไทย กับ อเมริกาเลย อยากถามคนที่เคยไปเนี่ย มีอะไรบ้างคับที่แตกต่างอย่างชัดเจน (เน้นเรื่องการใช้ของ ซื้อของ บริโภค อะไรอย่างนี้ครับ)



ได้เลย.................................มีความเห็นให้ดังนี้ ตามที่ท่านมาสามข้อ......


1. การใช้ของ คนอเมริกัน ที่อยู่ในอเมริกา.........ใช้ของทุกสิ่ง ทุกอย่าง อย่างรู้คุณค่าของเงินที่ซื้อหามา เช่น...น้ำมันเบนซิน สบู่....เสื้อผ้า เขาจะใช้จนคุ้ม

2. การซื้อของ......อเมริกันชนจะซื้อของเท่าที่ความจำเป็นต้องใช้...........ไม่ซื้อฟุ่มเฟือย หรือ ไม่ซื้อสุรุ่ย สุร่าย

3.การบริโภค ก็เช่นเดียวกัน ...ส่วนใหญ่ซื้อของกินแบบรู้คุณค่าของเงิน ไม่กินทิ้ง กินขว้าง แบบผู้คนในบางประเทศแถบเอเซีย


ทั้งหมด ........ ก็เพราะ ประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าวของสินค้าอุปโภค บริโภคแพงมากๆ ค่าแรงงานแพง วัสดุวัตถุดิบ แพง ... ดังนั้น ผู้คนจึงต้องซื้อ บริโภค แบบรู้คุณค่าของเงินที่ซื้อหามา......

แต่หากเป็นประเทศเยอรมันนี หรือบางประเทศในยุโรป.....ผู้คนยิ่งบริโภค หรือใช้สิ่งของที่ตนซื้อหามาแบบ " คุ้มค่า " กว่า ........คนเยอรมันจะไม่มีการกินของในจานเหลือเบอะบะ เผื่อหมา....แบบในบางประเทศแถวเอเซีย ( ประเทศไหนล่ะ ? ? ?)

คนเยอรมันจะกวาดกินสิ่งของในจานของตนจนเกลี้ยงจาน.......หากเหลือ ก็จะให้บ๋อยห่อใส่กล่องกลับบ้าน เป็นปกติ นี่คือวัฒนธรรมการกิน การอยู่ของผู้คนที่เคยผ่านความอดอยาก ยากลำบากในสงครามโลกมาแล้ว ถึงสองครั้ง


แต่ประเทศไทย...ผู้คนเคยแต่สบายๆ ...มาตลอด ใช่ไหมล่ะ ? ? ?


หวังว่าความคิดเห็นนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านเจ้าของกระทู้ ไม่มาก ก็น้อย

รอความเห็นท่านอื่น ๆ ด้วย มีประโยชน์ทั้งนั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ตอบยากนะ บางจุดก็ขึ้นกับว่าอยู่ที่ไหนในอเมริกาด้วย

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง ipad iphone อย่างเนี้ย เมืองบ้านๆ ที่เราอยู่นี่เห็นไม่บ่อยมากถ้าเทียบกับกรุงเทพ หรือเมืองใหญ่ๆใน อเมริกา
ไม่ใช่ว่ารายได้ไม่พอนะ ฐานะคนที่นี่ถือว่าอยู่ในขั้นโอเค เพียงแต่มันไม่มีกระแสว่าต้องใช้ ของที่ได้ไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่ต้องเสียไป
แต่ถ้าไปในเมืองอย่าง NYC เราก็เห็นเค้าใช้กันเยอะแยะ ทั้งๆ เอาเข้าจริงฐานะอาจจะพอแค่อยู่ไปวันๆ ก็ได้ แต่คนรู้สึกอยากใช้อยากมี


เงินห้าร้อยเหรียญ คนอเมริกาบอกว่าเยอะ จะไปจ่ายทำไมขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ฐานเงินเดือนเกิน 70-80k ต่อปี
เงิน 2 หมื่นบาท คนไทยบอกซื้อเลยผ่อนไม่มีดอกเบี้ยได้ ทั้งๆ ที่ฐานเงินเดือนไม่เกิน 3-4 หมื่นต่อเดือน


ปล ไม่ได้แอนตี้ ipad iphone นะ ยกตัวอย่างเฉยๆ
ปล2 เป็นแค่มุมมองหนึ่งมุมมองเท่านั้นนะ

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จาก คห. ที่ 2 นะครับ อย่างเช่น เรื่องความสวยงาม ฝรั่งชอบให้ผิวสีแทน โดยการไปอาบแดด แต่ ไทย กลับตรงกันข้าม ขาวเท่านั้นต้องดีดี อะไรประมานนี้ครับ หรือ เรื่องการเผชิญปัญหา เค้าจะเป็น มีปัญหาคือต้องแก้เลยคับ แต่คนไทยกลับเลี่ยง ที่จะแก้ปัญหา


ปล. หมายถึงส่วนมากนะคร้าบ ไม่ใช่ทั้งหมด


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
โอเค...งั้นก็ค่อยตอบง่ายหน่อย

เรื่องความคิดเห็นในเรื่องรูปลักษณ์ ผิวพรรณ(สี) เป็นความจริงนะ ที่ฝรั่งส่วนใหญ่(ทั้งหญิงและชาย) จะชอบผิวสีแทน ไม่ขาวเผือก(หรือเผือด) เหมือนที่พวกเขาเป็น

แต่การไปอาบแดดนั้น ไม่ได้หมายความว่าฝรั่งทุกคนจะทำเพื่อให้ตัวเองมีผิวสีแทน แต่เป็นเพราะประเทศเขาไม่ค่อยมีแดดออกบ่อยๆ การที่ผิวได้รับแสงแดด มันเป็นการดีต่อสุขภาพน่ะคุณ

ส่วนเรื่องการคิดแก้ปัญหา พวกฝรั่งเค้าจะคิดเรื่องการวางแผนป้องกันก่อน มากกว่าจะปล่อยให้ปัญหาเกิดแล้วมาตามแก้ทีหลัง เป็นส่วนมากนะคุณ ต่างกับคนไทยที่มักปากไวพูดก่อนเสมอว่า ไม่มีปัญหาๆ

ที่เมืองฝรั่ง พวกบริษัทประกันต่างๆ ถึงได้มีกลาดเกลื่อน


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
http://geert-hofstede.com/dimensions.html
ลองดูนะค่ะหวังว่าจะเป็นประโยชน์


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
วัฒนธรรมอเมริกัน VS ไทย

อเมริกันทักทายคนแปลกหน้า
โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก Hi Hello How are you

ไทยต้องเล็งกันนาน กว่าจะพูดคุยกันได้


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
"1. การใช้ของ คนอเมริกัน ที่อยู่ในอเมริกา.........ใช้ของทุกสิ่ง ทุกอย่าง อย่างรู้คุณค่าของเงินที่ซื้อหามา เช่น...น้ำมันเบนซิน สบู่....เสื้อผ้า เขาจะใช้จนคุ้ม

2. การซื้อของ......อเมริกันชนจะซื้อของเท่าที่ความจำเป็นต้องใช้...........ไม่ซื้อฟุ่มเฟือย หรือ ไม่ซื้อสุรุ่ย สุร่าย

3.การบริโภค ก็เช่นเดียวกัน ...ส่วนใหญ่ซื้อของกินแบบรู้คุณค่าของเงิน ไม่กินทิ้ง กินขว้าง แบบผู้คนในบางประเทศแถบเอเซีย"

เหอ เหอ เหอ เอาที่ไหนมาพูด
ถ้าเขาประหยัดกันจริงๆ แล้วทำไมถึงเป็นหนี้ชาวบ้าน ตั้ง $1.42 trillion ล่ะคะ
ประชากรมีแค่ 10% ของโลก แต่ทำไมใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าคนทั้งโลกรวมกันตั้งเป็นสิบเท่าแน่ะ
แล้วจะเรียกว่า ไม่กินทิ้งกินขว้างได้ยังไง

รถราแต่ละคันใหญ่โต เปลืองน้ำมันเฮือกๆ
บ้านแต่ละหลัง ใหญ่โตมโหฬาร แต่อยู่กันแค่ คนสองคน ยิ่งบ้านใหม่ๆยังงี้ หลังโตจริงๆ เปลืองทั้งค่าทำให้อุ่นให้เย็น
เปลืองทั้งค่าทะนุบำรุงรักษา


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ดิฉันเห็นด้วยกับคุณป้านี่เองนะคะ หลายอย่างอเมริกันใช้เปลืองมาก ๆ อย่างทรัพยากรไฟฟ้าเนี่ยะ เปิดทิ้งเปิดขว้าง ไม่มีใครดูทีวีก็ยังจะเปิด

แม่สามีดิฉันเนี่ยะ เพิ่งหย่าแล้วซื้อบ้านใหม่ อยู่คนเดียวค่ะ บ้านสามห้องนอน วันก่อนมาบ่นว่าทีวีในห้องนอนเสีย อยากได้ทีวีใหม่ เอ่อ ทีวีในห้องนั่งเล่นเดินมาสิบก้าวก็ถึงก็ตั้งอยู่ แต่อยากได้อีกเครื่องในห้องนอน จอเล็กๆก็ไม่เอา บ้านอยู่คนเดียวนี่แหล่ะ มึนค่ะ

ถ้าเอาภาพรวมไม่เอาคนใกล้ตัว ก็ยังเห็นนะคะว่า เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์กันบ่อย โทรศัพท์เดี๋ยวนี้ก็เป็นแฟชั่นไปแล้ว เปลี่ยนกันเป็นว่าเล่นเหมือนกัน ในดัมสเตอร์เนี่ยะ บางทีเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆดีๆ ทิ้งกันเป็นว่าเล่นนะ

ปล สมัยอยู่หอ นักเรียนไทยชวนกันไปเก็บประจำ พี่คนหนึ่งบอกนี่แหล่ะข้อดีของห้องเช่าอยู่ใกล้ดัมสเตอร์ ช่วงใกล้ปิดภาคเรียน แกจะแอบอยู่หลังประตู แอบดูทางช่องตาแมว ใครมาทิ้งของดีๆปุ๊บ แกวิ่งไปเก็บ ฮ่าฮ่า พี่คนนี้สวยนะคะ เป็นข้าราชการหลายซีด้วย

ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตอบเจ้าของกระทู้ เอาสักนิดก่อนลูกตื่น เพราะเรื่องวัฒนธรรมต่างกันมันเยอะมาก เขียนไม่หมดหรอก แต่เรื่องที่เราชอบคือ อเมริกันปลูกฝังลูกเรื่องจิตสาธารณะตั้งแต่เด็ก

ไปเล่นสวนสาธารณะเนี่ยะ พ่อแม่จะบอกลูกเสมอว่าต้องแบ่งกัน ต้องแชร์กัน แล้วคอยดูลูกไม่ให้ไปแย่ง ไปรังแกคนตัวเล็กกว่า ไปห้องสมุด ใช้เสร็จก็ต้องเก็บเข้าที่ ถ้าไปร้านอาหารก็ต้องห้ามเสียงดัง ต้องเกรงใจคนอื่น ลูกดิฉันเริ่มเสียงดังเมื่อไหร่ พ่อเด็กสั่งห่อกลับบ้านเลย ลูกจะไปเดินห้างเดินตัดหน้าตัดหลังคนอื่นไม่ได้ ถ้าทำก็ต้องขอโทษคนอื่นเค้า สอนตั้งแต่เด็กคือตั้งแต่ขวบ สองขวบเลยนะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 10