วีซ่าฝรั่งเศสค่ะ ได้ตั๋วมาฟรีแต่ไม่แน่ใจเรื่องขอวีซ่าค่ะ

หาข้อมูลจากหลายสำนัก เข้าใจว่าทางสถานทูตเน้นเรื่องสถานะการเงินที่จะต้องมีความมั่นคง มีจำนวนมากพอครอบคลุมตลอดการเดินทาง หรือมีหน้าที่การงาน มีรายรับประจำแน่นอน ฯลฯ

จขกท. ประเมินเอกสารหลักฐานส่วนตัวและข้อจำกัดต่างๆแล้ว คิดว่าไม่น่ารอดค่ะ ถ้าเพื่อนๆให้ความเห็นว่ามีโอกาสน้อย เราจะได้ตัดใจ ไม่ต้องเสียเวลาเข้ากรุงเทพฯ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมขอวีซ่าไปฟรีๆค่ะ รบกวนช่วนพิจารณาด้วยนะคะ


ข้อมูลส่วนตัว

- อายุ 26 ปีค่ะ
- ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ ไปแค่ใกล้ๆค่ะ
- อาชีพทำเบเกอรี่ขายส่งตามออเดอร์ เช่าร้าน ตกแต่งเรียบร้อยและพร้อมเปิดหน้าร้านเต็มรูปแบบช่วงต้นปีหน้าค่ะ ยังไม่ได้จดทะเบียนการค้า
ที่จริงคุณแม่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนเราเป็นแค่ลูกจ้าง ได้ค่ายังชีพจากคุณแม่อีกที รายได้ไม่แน่นอนค่ะ 555 (T_Tอายนะนี่)
- สมุดบัญชี statement สลิปเงินเดือน ไม่มีค่ะ บร๊ะเจ้า
คุณแม่เพิ่งเกษียณอายุราชการค่ะ
- ได้ของขวัญจากคุณแฟน เป็นตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสช่วงคริสมาตถึงปีใหม่นี้ค่ะ เค้าไม่ทราบว่าบ้านเราขอวีซ่ายากมากก็เลยไม่ได้บอกล่วงหน้า เป็นไงล่ะ เซอไพรส์สุดยอด
- แฟนอายุ 23 ปีค่ะ กำลังเรียนต่อปริญญาโท เช่าอพาร์ทเมนท์อยู่ที่ Poitier ค่ะ ครอบครัวเค้าอยู่ที่ Reunion Island วางแผนจะพาเราไปเที่ยวปารีสค่ะและจะพาไปเยี่ยมพ่อแม่เค้าที่ Reunion ด้วยค่ะ



คำถามนะคะ



- ขอวีซ่าแบบไหดีคะ ระหว่าง

1. ท่องเที่ยวระยะสั้น โดยจองโรงแรมเอง
2. ท่องเที่ยวระยะสั้น แต่พักกับ host
3. ไปเยี่ยมระยะสั้น มีจดหมายเชิญ



- ถ้าขอแบบท่องเที่ยว เราไม่มีเสตทเม้นหรือบัญชีรายได้ แม้แต่สมุดเงินฝากก็มีเงินเป็น 0 ค่ะ จะให้ผู้ปกครองเป็นผู้ค้ำประกันพอไหวไม๊คะ เช่น ระบุว่าผู้ปกครองเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วต้องมีจำนวนเงินในบัญชีเยอะมากขนาดไหนค่ะ ไปประมาณ 15-20 วันค่ะ


ส่วนแผนการเดินทางเรายังไม่ทราบเลยค่ะ ถ้าต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว เดี๋ยวจะไปถามเจ้าบ้านว่ามีแผนเดินทางยังไงบ้าง แล้วจะเขียนแนบไปด้วยค่ะ


- จดหมายแนะนำตัวควรระบุด้วยไม๊คะว่าเราต้องกลับมาดำเนินกิจการร้าน (คือเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ไปโดดวีซ่า) แต่ปัญหาคือเราไม่มีหลักฐานเงินเดือนหรือภาระหนี้สินที่เป็นชื่อเราเลยค่ะ เป็นชื่อคุณแม่ทั้งหมดค่ะ หลักฐานที่พอคิดออกก็คงเป็นรูปร้าน รูปสินค้าที่เราทำขายทุกวัน และคงให้คุณแม่เขียนจดหมายรับรองว่าเราทำงานให้ค่ะ


- เรื่องที่พัก หลักๆคือพักที่อพาร์ทเม้นท์ของแฟนที่เมือง Poitier แล้วให้เค้าจัดการเรื่องที่พักในปารีสค่ะ กรณีนี้ต้องให้ทาง host ขอหนังสือรับรองการให้ที่พักด้วยใช่ไม๊คะ (Attestation d'accueil)


- หรือว่าเราควรจะจองโรงแรม (แล้วยกเลิกทีหลัง) โดยไม่ต้องระบุว่าจะพักกับ host เพื่อเลี่ยงกรณีที่เจ้าบ้านต้องขอหนังสือรับรองค่ะ (ซึ่งทางสถานทูตคงจะประเมินค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โอกาสที่จะได้วีซ่าคงยากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าคะ)


- ถ้าจะขอแบบไปเยี่ยมระยะสั้นและมีจดหมายเชิญ ปัญหาคือแฟนไม่ได้ทำงานและเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ค่ะไม่ใช่บ้านตัวเอง จะให้แฟน หรือผู้ปกครองเค้าเป็นคนทำหนังสือเชิญดีกว่ากันคะ เข้าใจเอาเองว่าวีซ่าประเภทนี้จะพิจารณาหลักฐานของทางฝ่ายผู้รับรองเป็นหลัก สาวไทยไม่ต้องมีเงินในบัญชีเป็นล้านๆก็มีสิทธิไปได้ เพราะทางสถานทูตจะดูที่ความมั่นคงของ host มากกว่าว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้หรือไม่ ประเด็นนี้คิดเองเออเองค่ะ แหะๆ


- กรณีให้ host มีจดหมายเชิญ นอกจากหนังสือรับรองการให้ที่พักจากทางการฝรั่งเศสที่เค้าต้องไปขอเองแล้ว ต้องใช้หลักฐานอะไรอีกบ้างคะ เช่นเอกสารเงินเดือน statement ของเค้า หรือของผู้ปกครองด้วยใช่ไม๊คะ และจดหมายเขียนรับรองว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด (แฟนยังไม่บอกค่ะว่าจะออกให้หมดไม๊ แต่ถ้ามันจำเป็นสำหรับการขอวีซ่า เดี๋ยว จขกท.จะใช้วิชามารบังคับให้เขียนค่ะ 55 ) ถ้ามีทั้งเอกสารการเงินของผู้ปกครองเรา และ เอกสารการเงินของฝ่ายเค้า ช่วยกันสองทาง น่าจะมีโอกาสมากกว่าไม๊คะ


- อีกประการคือต้องระบุความสัมพันธ์และเหตุผลที่เค้าเชิญเราด้วยใช่ไม๊คะ เรากับแฟนเพิ่งคบกันเองค่ะ กลัวว่าหลักฐานจะไม่แน่นพออีก


ขอโทษมากๆเลยนะคะที่เขียนยาว อ่านแล้วคงสับสนมิใช่น้อย จขกท.ก็งงมากค่ะ รบกวนท่านผู้มีจิตศรัทธาแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
แบบเยี่ยมน่าจะดีค่ะ แต่ติดคือไม่มีอาชีพที่ระบุว่าต้องกลับมา เขาอาจกลัวหนี ส่วนค่าใช้จ่ายให้แฟนหรือแม่รองรับก็ได้ เอาบัญชีคุณไปด้วย ถ้าบอกว่าเพื่อนเชิญน่าจะดี แต่ต้องมีจดหมายระบุความสัมพันธ์ เป็นเพื่อนอะไรยังไง เขียนบอกเขา ถ้าแฟนเคยมาไทยก็เอาพาสปอตที่มีตราประทับเข้าออกไทยถ่ายเอกสารมาด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
คุณ YoleCk_TammY ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่กรุณาอ่านและให้คำแนะนำ
เราก็กังวลเรื่องไม่มีอาชีพแน่นอนนี่แหละค่ะ แฟนถามเหมือนกันว่าระบุเป็นเพื่อนเชิญดีกว่าไม๊ค่ะ และแฟนไม่เคยมาเมืองไทยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ระวังมากๆ น่าเป็นห่วง ที่จะถูกหลอกสุดๆ เพราะ คุณเองก็ไม่เคยพบเขามาก่อน เขาเรียน ป โท แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหน พาไปหาครอบครัวที่ Reunion Island แค่ไปหาเขาที่ Poitiers ก็น่าห่วงอยู่แล้ว เพราะคุณคงเสียตัว คุณอาจจะไม่ถือ แต่เขาอาจหลอกเอาอย่างอื่น หรือ เอาคุณไปขายตัว ก็ได้
ในเมื่อเขาจะให้ของขวัญคุณ เป็นตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศส และเขาไม่เคยมาเมืองไทย คุณให้เขาใช้เงินค่าตั๋วนั้น
มาหาคุณที่ไทยดีกว่า เพราะฝรั่งเศสมาไทย ไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าให้ยุ่ง
ขอให้โชคดึ แล้วตั้งกระทู้บอก หรือหลังไมค์ ว่าเป็นอย่างไร นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เห็นด้วยกับคุณธนิตาค่ะ ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ ปรึกษากับคุณแม่หรือยังคะ ถ้าลูกเราจะไปเราไม่ให้ไปค่ะ บังเอิญเพิ่งดูเรื่อง taken จบเลยยังอิน เรื่องขอวีซ่าของเราตอนขอ(แต่ไม่ใช่ฝรั่งเศส) ก็ไม่มีงานทำค่ะ แต่แต่งงานแล้วให้สามีเป็นสปอนเซอร์ ก็ได้วีซ่าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
คุณหนู จขกท. คะ เมื่ออ่านเนื้อกระทู้แล้ว และ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณให้มาใน คห. 2 แล้ว อย่าโกรธดิฉันนะคะ
ที่จะบอกว่า.....ทางสถานทูตฝรั่งเศสคงจะปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวของคุณแน่นอนหนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ

โดยเฉพาะโพรไฟล์ของแฟนทางอินเทอร์เน็ทแฟนทางไกลของคุณเนี่ยน่าสงสัยมากๆ ค่ะ เช่น ไม่ได้ทำงาน เรียนปริญญาโท
อายุแค่ 23 แต่มีิเงินซื้อตั๋วเครื่องบินระยะทางไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ-ปารีสให้คุณด้วย และจะพาเที่ยวปารีส
พาขึ้นเครื่องไปเกาะรียูเนี่ยนอีก ทางบ้านเขาคงฐานะดีมากๆ และ เขาคงเป็นคนที่ใจดีมากๆ เลยนะคะ

ที่ว่าแฟนของคุณไม่เคยมาเมืองไทยมาก่อนเนี่ย แล้วบอกว่าเพิ่งจะคบกัน_แล้วคุณหนู จขกท. กับเขาเคยเจอตัวจริงกัน
มาก่อนที่ประเทศอื่นหรือเปล่าคะ

ระวังตัว ระวังใจด้วยนะคะ และ ให้หากระทู้เกี่ยวกับพวกสแกมทางอินเทอร์เน็ทอ่านค่ะ

หรือถ้าหากวีซ่าของคุณเกิดผ่านขึ้นมา ก่อนที่จะบินไปฝรั่งเศส แฟนทางไกลของคุณอาจจะส่งอีเมลมาบอกคุณว่า
จะส่งเพื่อนฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยให้มาพบกับคุณเพื่อที่จะฝากของ 1 กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่องไปให้เขาที่ฝรั่งเศสด้วย
หรืออาจจะมีเพื่อนของเขาอยากจะฝากของขวัญกล่องหนึ่งที่สำคัญมากๆ และมอบหมายให้คุณนำไปให้ที่ฝรั่งเศสค่ะ

กรุณาหาข่าวเกี่ยวกับคนต่างชาติที่มาหลอกหญิงไทยเป็นแฟน แล้วให้ตั๋วบินไปเมืองนอกแล้วหลอกให้หิ้วของผิดกฏหมาย
ข้ามชาติด้วยนะคะ

แฟนของคุณคงรวยมากจริงๆ ปารีสไม่ใช่เมืองที่ถูกนะคะ ค่าครองชีพสูงค่ะ ค่าที่พักแพง ค่าอาหารแพง
ค่ายานพาหนะแพง ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองหมดค่ะ

อย่าโกรธนะคะที่แวะมาเตือนแต่ไม่ได้ช่วยให้คำแนะนำเรื่องเตรียมเอกสารขอวีซ่าเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
- ขอบคุณ คุณ ธนิตา คุณ ole&porche และคุณ Been there, done that! มากๆเลยนะคะที่เป็นห่วงและกรุณาแนะนำอย่างตรงไปตรงมา ซึ้งใจจริงๆค่ะ


จขกท. ขออนุญาตเล่านอกเรื่องนะคะ

ใจนึงหนูก็อยากไปเที่ยวปารีส ถ้ารอเก็บเงินเองคงไม่ได้ไปง่าย ๆ
แต่อีกใจก็กลัวโดนหลอก เคยอ่านเรื่องสแกมเหมือนกันค่ะ
เรื่องเสียตัว ถึงจะบอกแฟนตลอดว่าที่เมืองไทยถือมากนะ
เค้าเข้าใจและบอกว่าจะรักษาเกียรติเรา แต่ไปถึงโน่น ว่ากันตามตรงโอกาสมันก็มี

คุณแม่ท่านรับรู้ตลอดตั้งแต่เริ่มรู้จักเป็นเพื่อนกัน
ที่จริง พวกเราอยากให้เค้าเป็นฝ่ายมาเมืองไทยก่อนอยู่แล้วค่ะ
เรื่องนี้ยังไม่ได้ปรึกษาคุณแม่ค่ะ ลองมาหาข้อมูลเองก่อนแล้วค่อยไปปรึกษาท่านอีกที

แผนเดิม แฟนจองทริปมาเมืองไทยปลายปีค่ะ จองไว้ตั้งแต่สามเดือนก่อน
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้แฟนเพิ่งปรึกษากับคุณแม่เค้า
ท่านเลยว่าทำไมไม่ชวน จขกท. บินไปเที่ยว Christmas ที่ฝรั่งเศส น่าจะสนุกกว่า
คือ เค้าเข้าใจว่าบ้านเราสามารถขอวีซ่าง่ายๆเหมือนบ้านเค้าค่ะ เลยเก็บเป็นความลับไม่บอกเราล่วงหน้า
สรุป แทนที่แฟนจะจ่ายค่าตั๋วของตัวเองมาไทย ดันเอาไปซื้อตั๋วบินไปฝรั่งเศสให้เราแทนค่ะ (เวรกรรม)


จขกท. คุย skype กับคุณแม่เค้าเกือบทุกวันค่ะ ท่านเอ็นดูห่วงใยเราและครอบครัวมากค่ะ
ชวนไป Reunion ตลอด ถึงขนาดคุยว่าฉัน renovate บ้านไว้รอยูแล้วนะ ยูต้องมา
ส่งรูปมาให้เราดูด้วยค่ะว่าช่างต่อเิติมบ้านไปถึงไหนแล้ว หนูจะปฏิเสธตรง ๆ ก็เกรงใจค่ะ
ที่บ้านเค้าทำธุรกิจส่งออกวนิลลาค่ะ ไม่ได้ร่ำรวยมหาศาลแต่ก็่น่าจะพอไหวค่ะ
แม่เค้าเห็นเราเปิดร้าน ทำขนมขาย ก็เกิดไอเดียจริงจังมากถึงขนาดบอกว่าเดี๋ยวจะเปิดร้านเบเกอรี่ที่ Reunion อยากจ้างเราไปทำงานด้วย ต่อยอดผลิตภัณฑ์ (โอเวอร์ไปไม๊นี่ --")


การเดินทางไป Reunion คุณแม่เค้าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ
ส่วนแฟนทำงานพิเศษตลอดค่ะ มีบัญชีเงินฝากประจำ
ลงทุนเล่นหุ้น สะสมทองคำอะไรทำนองนี้ด้วยค่ะ
แต่ยังไงคิดว่าไม่น่าจะมากพอ น่าจะต้องให้พ่อแม่เค้าซัพพอร์ตอีกทีค่ะ


ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะที่สละเวลาให้คำแนะนำ
ก่อนตั้งกระทู้ก็คิดว่าเคสหนูคงขอวีซ่ายากมาก
แถมพี่ๆเป็นห่วงขนาดนี้ ใจเสียไม่อยากไปเที่ยวแล้วค่ะ ฮ่าๆ

.

ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอพูดตรงๆด้วยความห่วงใย ให้เค้ามาก่อนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจดีกว่าค่ะและถ้าแม่เค้าเอ็นดูน้องขนาดนั้นไม่น่าจะปฏิเสธที่จะมาพบน้องทั้งครอบครัวค่ะ ถึงเค้าจะเป็นคนต่างชาติถ้าย้องอธิบายเค้าต้องเข้าใจในจุดนี้ค่ะ ถ้าบ้านเค้าทำธุระกิจคิดว่าฐานะดีระดับนึงทีเดียว ทำไมน้องไม่ลองบอกเค้าว้าต้องการให้คุณแม่ไปด้วยล่ะคะิไปคนเดียวคุณแม่ไม่อนุญาต เค้าอาจจะส่งตั๋วอีกใบมาให้ก็ได้ค่ะ ให้ข้อคิดนะคะขนาดตัวแฟนน้องเองพ่อแม่เค้ายังไม่ให้มาเมืองไทย แล้วน้องหู้หญิงคนเดียว อายุน้อยด้วยน่าเป็นห่วงมากค่ะ ขอให้ตัดสินใจให้มากๆค่ะเกิดอะไรขึ้นตัวคนเดียวไม่มีใครช่วยได้นะคะ

เล่าประสบการณ์ของเพื่อนพี่เจอกันในเน็ตนี่แหละแต่เพื่อนพี่ให้เค้่าบินมาก่อน เพื่อพิสูจน์ความจริงใจเค้าก็มาถือว่าผ่านหลงจากนั้นก็คบหากันมาเรื่อยๆ ทางโน้นมาเมืองไทยปีละ 2-3 ครั้ง ครั้งละไม่นานเท่าไหร่ แต่ก็สม่ำเสมอจนคบกันได้ 2 ปีเพื่นพร่ถึงจะเดินทางไปบ้านเค้าค่ะ ขนาดเพื่อนพี่ 30 แล้วนะยังไม่กล้าเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ให้เขามาหาหนู จขกท. ก่อนค่ะ มาเจอกันที่เมืองไทยก่อน เชิญครอบครัวของเขามาด้วยค่ะ
ถ้ารักกันจริง จะคบกันจริง คุณต้องสร้างโพรไฟล์ในการคบกันก่อน ใช้เวลาสร้างความสัมพันธ์ในฐานะแฟนให้มากกว่านี้ก่อน
จากนั้นถึงจะมีโพรไฟล์ในการคบกันเอาไปนำเสนอสถานทูตในรูปแบบของเอกสารและเหตุผลในการขอวีซ่านะคะ
รอไปสักปีสองปีก่อนค่ะ ไปมาหาสู่กันให้มากกว่านี้ก่อน ให้เขามาเมืองไทยบ้าง หรือคุณกับเขาไปเจอกันตามประเทศอื่นๆ
ที่คุณไม่ต้องขอวีซ่าบ้าง

แล้วแฟนของหนู จขกท. และครอบครัวเนี่ยเป็นคนเกาะรียูเนี่ยนเหรอคะ เชื้อชาติไหนเอ่ย เชื้อชาติฝรั่งยุโรป หรือ อาฟริกา
หรือ จีน หรือ อินเดียคะ หรือเป็นครอบครัวคนฝรั่งเศสที่ไปทำกิจการอยู่เกาะรียูเนี่ยน

จากเมืองไทยคุณสามารถบินไปกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ผ่านทางสิงคโปร์ เพื่อไปเมอริเชียส จากเมอร์ริเชียสบินไปรียูเนี่ยนค่ะ
หรือ มีสายการบินที่บินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และ เกาะรียูเนี่ยนนะคะ คบกันก่อนสักปีนึง ให้เขาและครอบครัวเขามาหา
คุณที่บางกอก และที่จังหวัดของคุณก่อน แล้วจากนั้นให้ทางครอบครัวของเขาเชิญคุณไปเกาะรียูเนี่ยนค่ะ
จะง่ายกว่าการที่เขาจะเชิญคุณไปฝรั่งเศสนะคะ ในเคสของคุณเนี่ยต้องให้ครอบครัวเขาเชิญค่ะ ให้ครอบครัวของเขารับรอง
เป็นโฮสท์ให้ ไม่ใช่ให้ตัวเขาเชิญวีซ่าถึงจะผ่านค่ะ _พอไปรียูเนี่ยนแล้ว อีกทริปนึง ค่อยไปฝรั่งเศสค่ะ

หรือง่ายๆ เลยนะคะ ถ้าอยากไปฝรั่งเศสมาก หรือถ้าเขาอยากให้คุณไปฝรั่งเศสจริงๆ ให้เขาออกเงินซื้อทัวร์จากเมืองไทย
ให้คุณ คุณไปเที่ยวปารีสกับทัวร์ค่ะ คณะทัวร์จากเมืองไทยนี่แหละ แล้วให้เขามาพบคุณตัวเป็นๆ ค่ะ แต่คุณต้องไปกับทัวร์
กลับกับทัวร์นะคะ

มีคำแนะนำแค่นี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
คุณ ann_aa

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่เป็นห่วง หนูเข้าใจค่ะ
คิดว่าแฟนก็เข้าใจค่ะว่าต้องเป็นฝ่ายเสียสละมาหาเรา
เค้าว่าเรียนจบปีหน้าจะมาอยู่เมืองไทยเพื่อช่วยเราทำร้าน ศึกษานิสัยใจคอกัน
อนาคตถ้าเราต้องการอยู่ที่นี่ เค้าจะเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่เมืองไทยเอง
(พระเอกเกินไปมั้ง พ่อแม่เธอคงยอมหรอกนะ -_-")

ขอนอกเรื่องอีกนะคะ เผื่อพี่ๆจะกรุณาชี้แนะเพิ่มเติมค่ะ

พ่อแม่เค้าห่วงลูก ไม่ค่อยอยากให้มาเมืองไทย อันนี้จริงค่ะ
ครั้งแรกที่รู้ว่าเราเป็นคนไทย พ่อแม่เค้าก็อึ้งค่ะ เพื่อนๆเค้าด้วยค่ะ
เพราะแทบไม่รู้จักประเทศไทย รู้แค่ด้านเดียวว่าเราเป็น Sex Tourism
เค้าอ่านเจอว่าถ้าชาวต่างชาติเดินอยู่คนเดียว จะโดนผู้หญิงไทยรุม เพื่อเสนอขายบริการ
ในสายตาคนบ้านเค้า การมาเที่ยวบ้านเราคือมาหาความสนุก มาเที่ยวผู้หญิงเท่านั้น
หนูหน้าชาเลยค่ะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะด้านนึงของสังคมเรามีแบบนั้นจริง
พอมีโอกาสเลยพยายามนำเสนอด้านบวก สถานที่ท่องเที่ยว ธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย
ส่งรูปตอนเรารำไทยไปให้ดู เพราะแม่เค้าเข้าใจว่า specialty ของผู้หญิงไทย คือ การเต้นโคโยตี้ เต้นระบำหน้าท้องค่ะ ฮ่าๆ

กว่าพ่อแม่เค้าจะยอมรับก็ใช้เวลาพูดคุยกันพอสมควรค่ะ ต้องขอบคุณแฟนที่ให้เกียรติและชื่นชมเรามาก

อย่างไรก็ดี หนูยังตะขิดตะขวงใจอยู่ตลอดว่ามันจะสมบูรณ์แบบเกินไปหรือเปล่า
เค้าอาจจะหลอกก็ได้ สุดท้ายดีแตก คงต้องดูกันนานๆอย่างที่คุณ ann_na เป็นห่วงค่ะ

เคยมีแฟนคนไทย(เชื้อสายจีน) มาแล้ว 2 คน
เค้าไม่เคยให้เกียรติเรา ไม่เคยให้เกียรติพ่อแม่เราเลยค่ะ
ดูถูกด้วยซ้ำว่าจน ต่างจังหวัด ไม่รู้เวรกรรมอะไรบังตา ถึงทนคบอยู่ได้ตั้งนานค่ะ
ช่วงแรกที่คุยกันกับแฟนคนปัจจุบัน หนูระแวงสร้างกำแพงเยอะมาก เจ็บแล้วต้องจำ
ไม่อยากใ้ห้ใครดูถูกอีกค่ะ โดยเฉพาะดูถูกพ่อแม่เรา อันนี้ยอมไม่ได้
ยิ่งจะคบกับชาวต่างชาติ คนไทยด้วยกันเองนี่แหละค่ะที่จะมองไม่ดี
แฟนก็อดทนและทำความเข้าใจค่ะ แต่คงต้องให้ทนไปอีก หลายปี ฮ่าๆ
เท่าที่คุยกันเค้าก็เป็นคนดี มีน้ำใจถามไถ่ถึงคนที่บ้านเราเสมอ
คุณพ่อหนูไม่สบาย คุณแม่แฟนทราบเรื่องก็โทรมาให้กำลังใจ
แนะนำวิธีรักษาแบบธรรมชาิติบำบัด คุณพ่อคุณแม่แฟนเป็น therapist ด้วยค่ะ

ทุกอยางมันดูดีเว่อร์ไปมากค่ะเมื่อเทียบกับที่่ผ่านมา อยู่ไกลกันขนาดนั้นแต่เค้าไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่าห่างเลย แต่ก็อีกแหละค่ะ อาจจะช่วงโปร ยังใหม่ อะไรก็ยอม
พูดนอกเรื่องไปเยอะ อย่าถือสาหนูเลยนะคะ แหะๆ



คุณ Been there, done that!

คุณกรุณาหนูมากเหลือเกินค่ะ ขอบคุณจากใจนะคะ
ได้อ่านที่คุณเขียนแนะนำในกระทู้อื่นเรื่องการขอวีซ่า ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ
อยากเป็นคนเก่งและมีโอกาสไปท่องโลกกว้างบ้างจังค่ะ (อันนี้เพ้อฝันแล้วค่ะ)
เดี๋ยวจะลองหาหนังสือของคุณตงคิ้วมาอ่านค่ะ ถึงไม่ได้ไปเมืองนอก
ก็อ่านเอาไว้เป็นเกร็ดความรู้ประดับสมองเน๊อะคะ

คุณแม่แฟนเสนอเหมือนกันค่ะว่าบินตรงไปรียูเนียนทำเรื่องง่ายกว่าหรือเปล่า
แต่แฟนอยากพาเราไปปารีสช่วงเทศกาล เค้าเองก็ตื่นเต้นอยากไปค่ะ

จากเหตุลประการทั้งปวงที่คุณแนะนำ ว่าควรจะต้องเป็นไปตามลำดับอย่างไร
เพื่อสร้างความเชื่อถือให้ทางสถานทูต และเพื่อความปลอดภัย เพื่ออนาคตของตัวหนูเอง
หนูเข้าใจ และคล้อยตามค่ะ เป็นประโยชน์มากจริงๆ
คืนนี้จะคุยกับแฟนว่าไม่สะดวกที่จะไปคนเดียว ส่วนเรื่องให้ส่งตั๋วมาสองใบ
หนูไม่อยากรบกวนเค้าขนาดนั้นค่ะ จะขอให้เค้ามาเมืองไทยก่อนตามที่พี่ๆแนะนำค่ะ

ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ

.

ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
แวะมาให้กี๊ฟ คห.4
เคยไปปารีสคนเดียวมาหลายครั้งแล้ว แต่พอได้ดูเรื่อง taken1 กลับคิดว่าที่ผ่านมานี่เราระมัดระวังตัวน้อยมากไปเลย

จขกท ลองไปหาดูนะคะ หนังก็สนุกใช้ได้เลย ถาคแรก


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
แม่ จขกท. อนุญาตให้ไปเหรอคะ
ที่ถามไม่ใช่อะำำไร พี่เองก็มีแพลนจะไปเยี่ยมแฟนที่เยอรมนีช่วงคริสมาส
เราเคยเจอกันแล้วครั้งนึงที่ต่างประเทศ(พร้อมแม่เค้าด้วย)
แต่เค้ายังไม่เคยมาไทย
แม่พี่ไม่ให้ไปอ่ะ บอกว่าเราเป็นลูกผู้หญิง
พี่อายุ 32 เคยเดินทางไปยุโรปคนเดียว มีหน้าที่การงานมั่นคงแ้ล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านแล้ว น่าห่วง จขกท มากขึ้น เพราะ มีอย่างที่ไหน
ที่แผนเดิม แฟนจองทริปมาเมืองไทยปลายปีค่ะ จองไว้ตั้งแต่สามเดือนก่อน
แล้วทำไม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้แฟนเพิ่งปรึกษากับคุณแม่เค้า
แล้วก็เชื่อแม่ ให้ชวน จขกท. บินไปเที่ยว Christmas ที่ฝรั่งเศส แทน
คนที่เขาตั้งใจหลอกคนอื่น เขาก็ทำแบบนี้ แหละ
แล้วที่ว่า ดันเอาไปซื้อตั๋วบินไปฝรั่งเศสให้เราแทน นั้น มีหลักฐานอะไร ให้เห็นกันบ้าง
แล้วที่ว่า คุยกันทางคุย skype กับคุณแม่ นั้น คุยกันด้วยภาษาอะไร เคยเห็นหน้ากันบ้างหรือเปล่า
ขอเบอรฺ์โทรจริงๆ ทั้งของ แฟน ของแม่ แล้วลองโทรไปดู และบอกมา ก็คงรู้ว่า เขาอยู่กันจริงๆ แถวไหนนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
คุณ JangMinJi : ขอบคุณค่ะ Taken1 ดูแล้วค่ะ ใครได้ดูก็อินนะคะเรื่องนี้


คุณ Love Vida : จขกท. ขออนุญาตตอบว่า หนูเคารพทุกความเห็น และทัศนคติที่แตกต่างกันนะคะ การคิดเยอะๆ คิดให้รอบคอบถึงความถูกต้องเหมาะสมทุกด้าน ก็เป็นเรื่องที่สมควรกระทำอย่างยิ่งค่ะ เช่น เราเป็นลูกผู้หญิง ไปหาผู้ชายถึงที่มันไม่งาม ต่อให้เคยพบกันมาแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่มีคนกลางต้องไปอยู่กันสองคน ไหนจะความกังวลเรื่องอื่นๆอีก มั่นใจเหรอว่าไปแล้วปลอดภัย เดินทางไกลต่างบ้านต่างเมือง หากเกิดอะไรขึ้นใครจะช่วยเหลือ ใครจะรับผิดชอบ ฯลฯ


จขกท. เข้าใจมุมมองของคนเป็นพ่อเป็นแม่นะคะ มันน่าเป็นห่วงไปทุกเรื่องจริงๆ ยิ่งกรณี จขกท. ขนาดพี่ๆในที่นี้ก็ยังกังวลและเป็นห่วงแทนเลยว่าจะเจอพวกต้มตุ๋นสิบแปดมงกุฎหรือเปล่า คุณแม่ จขกท. ก็เป็นห่วงมากเช่นกันค่ะ เมื่อสักครู่เพิ่งคุยกันอีกครั้ง คุณแม่ท่านให้ จขกท. ตัดสินใจเองค่ะ เพราะท่านว่าหากมองใน "มุมบวก" มันก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปเห็นโลกกว้าง ว่ากันตามตรง ด้วยศักยภาพและข้อจำกัดต่างๆ หากให้ไขว่คว้าไปด้วยตัวเองคงยากค่ะ


โดยส่วนตัว ถ้าตัดเรื่องความไม่ปลอดภัยทั้งหลายทั้งปวงออกไป มีโอกาสก็อยากไปเที่ยว ไปหาประสบการณ์ ไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆค่ะ เพราะไม่ได้ตั้งโจทย์การเดินทางว่าเพื่อไปหาผู้ชายค่ะ ดังนั้นในอนาคต ถ้ามีงานดีๆ มีเงินเยอะ ๆ ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ปีกกล้าขาแข็งกว่าตอนนี้ ก็อยากไปเองค่ะ ส่วนแฟน ถ้าถึงเวลานั้นยังคบกันอยู่ จขกท. มองว่าก็เป็นข้อดีที่มีคนท้องถิ่นพาเที่ยว แค่นั้นค่ะ มุมมอง จขกท. อาจจะแคบ ไม่รอบคอบ และน่าตระหนกตกใจไปบ้าง อย่างไรก็ขออภัยด้วยค่ะ



คุณ ธนิตา : ขอบคุณที่เป็นห่วง จขกท. นะคะ

หลักฐานว่ายกเลิกตั๋วมาไทยแล้วซื้อตั๋วให้เราแทน จขกท.ไม่มีค่ะ ยังไม่ได้คาดคั้นขอดูเอกสารอะไร แค่บอกเล่าตามที่รับรู้จากแฟนอีกทีค่ะ เมื่อคืนเค้าพูดว่า ทีแรกตั้งใจจะบอกเราก่อนคริสมาตแค่หนึ่งอาทิตย์ด้วยซ้ำ ประมาณว่าส่งตั๋วมาปุ๊บ ให้เราขึ้นเครื่องบินไปเลย ก่อนหน้านี้เค้าเคยมีแฟนเป็นสาวเกาหลีค่ะ คบกันสี่ปี (ข้อนี้ จขกท. ทราบมานานแล้วค่ะ) เค้าเคยชินกับคนเกาหลีซึ่งไม่ต้องขอวีซ่าไปเที่ยวฝรั่งเศสค่ะ (จุดนี้โมโหมากปรี๊ดแตกไปเลยค่ะ ชั้นคนไทยนะยะ 55)

ที่ถามว่าทำไมแฟนเชื่อแม่เค้าง่ายจัง หนูเรียบเรียงเหตุการณ์ด้วยตัวเองเพื่อตอบคำถามนี้นะคะ คือ ก่อนหน้านี้แฟนยังไม่ได้บอกแม่เค้าค่ะว่าจะมาเมืองไทย แฟนเคยพูดว่าขืนรีบบอกคงไม่ได้ไปแน่ๆ รอจังหวะให้พ่อแม่มั่นใจในตัวเราก่อนว่าไม่มีปัญหา


ขออนุญาตนะคะหากความเห็นนี้ทำให้ไม่ถูกใจ แต่ขึ้นชื่อว่าประเทศไทย ผู้หญิงไทย ทางโน้นเค้าก็ห่วงลูกเค้าไม่ต่างจากทางเราค่ะ แรกๆนี่เกร็งมากค่ะ พูดผิดพูดถูก เพราะท่านก็ดุๆ หวงลูกชายมากด้วยค่ะ (^^") แต่หลังจากได้พูดคุยบ่อยๆจนสนิทสนม ถึงขั้นเอ็นดูเรา พ่อแม่แฟนก็เลยเอ่ยปากเชิญว่าอยากให้มาเที่ยวที่บ้านค่ะ จขกท. กับแฟนก็เฉยๆยิ้มๆไปค่ะ (ส่วนใหญ่เปิดกล้องคุย skype พร้อมกันสามคนค่ะ) เราคิดว่าท่านชวนตามมารยาทก็เลยไม่ได้ตอบอะไรมาก ตอบแค่ว่าหนูต้องทำงาน ยังไม่สะดวก คุณแม่แฟนก็ยังถามอยู่บ่อยๆค่ะว่าจะมารึเปล่า อยากให้มา เดี๋ยวฉันจัดการเองไม่ต้องคิดมาก ฉันมีเงิน ทำนองนี้ค่ะ สุดท้ายพอแฟนเฉลยว่าเดี๋ยวจะมาเมืองไทยนะ แม่เค้าก็โวยวายนิดหน่อยค่ะ ^^" แล้วก็โน้มน้าวแกมบังคับให้ลูกชายเค้าเปลี่ยนแผน แล้วเชิญเราไปฝรั่งเศสแทน ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความสมัครใจเรา และถ้าคุณพ่อคุณแม่เราอนุญาตนะคะ


เรื่องที่อยู่ของพ่อแม่แฟนที่เกาะรียูเนี่ยน หนูมีเพียงรูปถ่ายบ้าน รูปครอบครัวแฟนตอนไปเที่ยว ตอนมีงานเลี้ยงที่บ้าน รูปแฟนตั้งแต่ตอนเป็นเด็กที่รียูเนี่ยน ตอนโตและย้ายมาเรียนที่ปารีส และ Poitier รูปถ่ายอพาร์ทเม้นท์ ฯลฯ ทุกวันนี้เค้าก็ชอบใช้ไอโฟนถ่ายรูปส่งมาเรื่อย ๆ ค่ะ เช่นว่าตอนนี้อยู่กับเพื่อนนะ ทานข้าว ไปเที่ยวโน่นนั่นนี่ กลับถึงบ้านแล้ว ทำนองว่าอยากรายงานตัวตลอด กลัวเราไม่ไว้ใจค่ะ ฮ่าๆ แ้ล้วก็มีคลิปรายการโทรทัศน์ช่อง TV5MONDE ที่ไปสัมภาษณ์ครอบครัวเค้าที่บ้าน เรื่องส่งออกวนิลลา ประมาณนี้ค่ะ แฟนส่งให้ดูตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่ยังไม่ได้ชอบกันน่ะค่ะ ส่วนเวลาคุยกับคุณแม่แฟน ก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ปนฝรั่งเศสบ้างค่ะ


ขอบคุณทุกท่านมากๆที่เป็นห่วง และให้คำแนะนำ จขกท. ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ยิ่ง จขกท พูดถึงเรื่องแฟนคนนี้มากขึ้น ก็ยิ่งเป็นห่วงว่าจะโดนหลอกมากขึ้น เพราะถ้าคนเขารวยจริง เขาคงไม่อวดว่า มี ทีวี ไปถ่ายทอด เกี่ยวกับกิจการที่บ้านของเขา แล้วรายการ ทีวี ที่เขา เอามาอวดนั้น เป็นของใครก็ได้ แถมอาจมีการตัดต่อ เอารูปเขา รูปแม่ เข้าไปก็ได้ เช่นเดียวกับ เรื่องรูป ที่ซ่อมโน่นซ่อมนี่ ก็เช่นกัน
แล้วยิ่ง มาอ้างว่า คิดจะทำเซอร์ไพรส์ โดยซื้อตั๋วล่วงหน้า ให้ก่อนคริสมาต แค่ ๑ อาทิตย์ ก็ยิ่ง ไม่น่าเชื่อใหญ่ เพราะต่อให้ใครที่มีวีซ่าแล้ว หรือ ไม่ใช้วีซ่า จะเดินทางไป ตปท ไกลๆ ที่ไม่เคยไป ใน ๑ อาทิตย์ ได้อย่างไร
เขาคงหลอกคนเกาหลีไม่ได้ จึงคิดจะมาหลอก จขกท
ขอให้โชคดี แล้วตั้งกระทู้ใหม่ หรือ หลังไมค์ บอกผลด้วยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
อย่าไปเลยค่ะ โลกมันอาจไม่สวยอย่างที่น้องคิดไว้นะคะ ให้เค้ามาหาน้องที่เมืองไทยก่อนดีกว่าไม๊ บางทีเราเจอตัวจริงเค้า เค้าอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราหวังก็ได้นะคะ

ทำอะไรที่เซฟตัวเองไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เป็นห่วงน้อง จขกท. นะคะ และเห็นด้วยกับหลายๆความคิดเห็นที่ให้ฝ่ายชายมาเมืองไทยก่อนค่ะ และอยากถามน้อง จขกท มากๆว่า น้องรู้จักกับแฟนนานเท่าไรคะ...เพราะพี่เองก็เป็นคนนึงที่มีแฟนเป็นคนฝรั่งเศสค่ะ เราใช้เวลาคุยกันกว่า 2 ปี และเขาเป็นฝ่ายที่บินมาหาพี่ที่เมืองไทยก่อนค่ะ พอเราทำความรู้จักกันโดยอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ เราถึงยอมที่จะเรียกกันว่า "แฟน" ได้เต็มปากกันทั้งสองคน
พี่เองเป็นห่วงน้องนะคะ และอยากชวนน้อง จขกท.คิดนะคะ...อาจเหมือนเราเห็นแก่ตัวไปหน่อย...ว่า ถ้าเขาจริงใจ และมีตัวตนจริงๆ รักเราจริงๆ เขาต้องเป็นฝ่ายมาไทยค่ะ และพี่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องต้องห่วงน้องแน่นอนค่ะ เพราะการไปที่นั่น หาคนไทยยากมาก ถ้าเกิดอะไรขึ้น ใครจะช่วยเหลือน้องคะ ถ้าเขาเกิดเป็นคนไม่ดีและยึดพาสปอร์ตน้องไว้น้องจะทำอย่างไร(พี่อาจมองคนในแง่ร้าย ต้องขออภัย) และเห็นด้วยกับท่านนึงที่ยกตัวอย่างเรื่องให้ช่วยหิ้วกระเป๋าเอาไปให้ที่ต่างประเทศ สรุปข้างในเป็นยาเสพติด มันเคยมีเรื่องจริงเกิดขึ้นนะคะ น้องลองไปหาอ่านตามบล็อกต่างๆนะคะ ใช้ google ค้นหาดูนะคะ หาข้อมูลเยอะๆ ก่อนตัดสินใจ และการเป็นสะใภ้คนต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ชายฝรั่งเศสนี่ต้องศึกษาภูมิหลังของว่าที่สามีในอนาคตเลยนะคะว่าเป็นอย่างไร บางคนโชคดีก็ได้คนดีรักครอบครัว บางคนแย่หน่อยก็ได้คนใจแคบ(ลองไปหาอ่านดูเรื่องสะใภ้ฝรั่งเศสนะคะ)คิดเยอะๆ แต่ไม่ใช่คิดมากจนฟุ้งนะคะ ใช้สติและพิจารณาทุกอย่างแบบไม่เข้าข้างแฟนหรือตัวเราเอง...ชีวิตของน้องๆเป็นคนกำหนดเองนะคะ มันพลิกในชั่วพริบตาเดียวเองค่ะ พี่และทุกๆท่านที่เข้ามาคุย มาให้ข้อมูล เพราะห่วงใยค่ะ ขอให้น้องโชคดีนะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 16