ผู้รู้เชิญทางนี้ วีซ่าเมกา วีซ่าญี่ปุ่น (ขอจากไทย และขอเมื่ออยู่ ตปท)

ปลายเดือน พย จะไปญี่ปุ่นคนเดียว ครั้งแรก สิบแปดวัน

คำถามหนึ่ง อยากทราบว่า สถานะเราตอนนี้ วีซ่าน่าจะผ่านไหมคะ

-ทำงานอิสระ (แต่ขอใบรับรองการทำงานและเงินเดือนเพื่อขอวีซ่าจากบริษัทได้)
-มีสถานะเป็น นศ ป. โท (มีใบรับรองการเป็น นศ จาก มหาลัย)
-มีบ้านที่ผ่อนอยู่ (เอาหลักฐานแนบไปด้วย)
-ประกันชีวิต (ไม่รู้เกี่ยวไหม แต่แนบกอ๊ปปี้ให้ไปด้วย)
-มีทรัพย์สินรวมทั้งหมด เจ็ดหลัก
แบ่งเป็น
เงิดสดในบัญชีรวมกัน หกหลัก + ตลอดหกเดือนที่ผ่านมา ทำสเตทเม้นให้มีเงินเข้าออกดูดีพอสมควร
ที่เหลือเป็นหุ้น กองทุนทอง+น้ำมัน หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล ประกันชีวิต
-ในพาสปอร์ต มีเคยไป สิงคโปร์ กัมพูชา บาหลี ฮานอย มาเล และจีนสองครั้ง
และเล่มเก่า มีวีซ่าอินเดีย แต่ตอนนั้นขอแล้วไม่ได้ไป


คำถามสอง ปีหน้าประมาณกลาง กพ เราจะไปอยู่จีน เพื่อเรียนภาษา
ทีนี้ ไปนู่น เราก็คงขยันหาตั๋วโปรเป็นปกติวิสัย เพราะชอบเที่ยว
อยากทราบว่า ถ้าเราอยู่จีน แล้วจะบินเข้าเมกา
เราจะทำวีซ่าจากจีนเลยได้ไหม ต้องทำยังไงบ้าง

ถ้าไม่ได้ เราก็คิดว่าประมาณกลางเดือน ธค หลังกลับจากญี่ปุ่น อยากจะขอวีซ่าเมกาต่อ
โดยที่เป็นการขอแบบรอตั๋วโปร (ไม่มีแผนเที่ยวแนบไปแบบตอนขอวีซ่าญี่ปุ่น)
มีแนวโน้มจะได้ไหม

(เราหวังว่าเผื่อฟลุกได้วีซ่าสิบปี เวลาเจอตั๋วจะได้สอยแล้วบินจากจีนไปเลย
เพราะเพื่อนเราตอนนั้นทำงานเอกชน เป็นเซล ก็มั่นคงดี
เคยไปมาแล้วหลายประเทศ แต่เข้าเมกาครั้งแรก ขอแล้วก็ได้สิบปีมาเฉยเลย)

หรือว่า เราต้องทำยังไงเพื่อให้ได้ ต้องทำแผนเที่ยวไหม บลาๆๆ
แล้วก็ ปกติวีซ่าเมกา มีนัดสัมภาษณ์ใช่ไหมคะ
เราต้องนัดล่วงหน้านานแค่ไหน
คิวยาวไหม


คำถามสาม เหมือนกับคำถามสอง
แต่เปลี่ยนประเทศ เป็น ขอ multiple ญี่ปุ่น

คือกะว่า จะขอซ้ำ ช่วงเดือน มค
เพื่อเผื่อไว้ ตอนเราไปจีน แล้วเจอตั๋วโปรไปญี่ปุ่นถูกๆ จะได้สอยเลย
มีแนวโน้มจะได้แค่ไหนอะคะ
แล้วก็ Multiple เนี่ย เข้าได้ทีละแค่สิบห้าวันใช่ไหมคะ
แบบนี้ เราขอ One time repeater เวลาที่จะไปจริงๆดีกว่าหรือเปล่า
เพราะบางทีเราชอบไปชิวนานๆ
แต่ก็อีกนั่นแหละ ขอแบบนี้ ตอนเราอยู่ที่จีนได้ไหมอะ
ต้องทำยังไงบ้าง

ใครมี ปสก ขอวีซ่า สองประเทศนี้ จากประเทศอื่นบ้าง
แชร์หน่อยนะคร้าา


ขอบคุณล่วงหน้าค่า

ปล
สรุปสั้นๆ คือ เราจะขอวีซ่า ญี่ปุ่น สำหรับเดือน พย
พอ เดือน ธค ขอวีซ่าเมกา
และ เดือน มค ขอวีซ่าญี่ปุ่นอีกรอบ
เป็นสามวีซ่า ค่ะ


ความคิดเห็นที่ 1
ข้อแรก ผ่านได้ไม่ยาก
เอาใบรับรองการทำงานกับมหาลัย
ใช้แต่บัญชีออมทรัพย์ยื่น
แนะนำให้ยื่นเป็นมัลติเพิลตั้งแต่แรกเลย แต่ก็ติ๊กไว้ว่าถ้าไม่ได้มัลติเพิล ก็ขอเป็นซิงเกิล

ข้อสอง แนะนำให้ขอจากไทยง่ายกว่า
เพราะกงสุลในไทยรู้จักเมืองไทย/คนไทยดี คุยง่ายกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
น่าจะผ่านครับเตรียมเอกสารดีๆ แนะนำให้ขอจากไทยไปเลยครับสำหรับวีซ่าเมกา


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณที่เข้ามาตอบค่า

รอฟังท่านอื่นต่อไป


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้ามีวีซ่านักเรียนที่จีน ก็ขอได้ แต่ตอนขอวีซ่า (นักเรียนที่จีน) ควรเหลือมากกว่า 3 เดือน (หรือบางประเทศ 5-6 เดือน แล้วแต่สถานทูต) แต่ะควรมีหลักฐานการเงิน และความผูกพันกับประเทศไทย หรือเป้าหมายในอนาคต (อันใกล้) อธิบายให้เขาได้ เวลาถาม เพราะ คุณไม่ได้เป็น permanent resident ที่จีน หากระยะเวลาที่ไปเที่ยว เป็นช่วงสั้น ๆ เช่น กำหนดเรียน 2 ปี แต่ไปเที่ยว ในครึ่งปีแรก ยังไงก็ต้องกลับมาเรียนต่อแน่นอน ก็ไม่มีปัญหาอะไร คือ สถานะคุณ ถ้าจะขอจากจีน คือ "นักเรียน" โดยทั่วไป สถานะนักเรียนในต่างประเทศจะยังไม่มีรายได้มั่นคง ก็จะอ้างพ่อแม่เป็น คนสปอนเซอร์ได้ โดยแสดงหลักฐานการเงินของพ่อแม่ แต่ หากคุณมีบัญชี มีเงินมั่นคงแล้ว ก็ใช้บัญชีตัวเองได้

หลักฐานต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็เข้าเวบสถานทูตอเมริกาประจำประเทศจีนเลย เพราะว่า requirement อาจต่างกันนะ เราจะพิจารณาคุณจาก condition ที่จีน อะ ยกตัวอย่าง อยู่ไทยเงินเดือน 2 หมื่นบาท พร้อมเงินเก็บซักแสนห้า ขอวีซ่าไปยุโรป อเมริกา อังกฤษ ได้ไม่มีปัญหา แต่อยู่ประเทศที่ค่าครองชีพแพง เงินเดือนสองหมื่น ถือว่าน้อย (แถมเงินเก็บเป็นก้อนไม่ค่อยมี) ก็เป็นเหตุให้ไม่ได้วีซ่าได้ ตัวอย่างมีมาแล้ว เพื่อนเราเอง เพราะเราไม่ได้อยู่เมืองไทย และเราขอวีซ่าไปเที่ยวจากต่างประเทศตลอด แต่วีซ่าที่อยู่ต่างประเทศของเราเป็นวีซ่าทำงานนะ คือมีรายได้ แสดง มีสถานะการทำงานที่มั่นคง

เวลาเราจะขอไปเที่ยวไหน สถานะวีซ่าทำงานของเราต้องเหลืออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน แต่บางสถานทูต กำหนดไว้เลยว่า ให้วีซ่าเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
เช่น นักเรียน อังกฤษ วีซ่า valid Dec 2012 จะไปขอวีซ่าเชงเก้นเดือน พย ก็ไม่ทันแล้วอะ ต้องขอเดือน May, June, July อะไรก็ว่าไป


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ผมขอวีซ่าอเมริกา จากสถานทูตอเมริกันในโอซาก้า ได้ 10 ปีครับ
มีใบรับรองการทำงานจากบริษัทในญี่ปุ่น

แนะนำให้ขอ multiple visa ญี่ปุ่นก่อนครับ
พอกลับจากเดินทางไปญี่ปุ่นแล้วค่อยขอ visa อเมริกาในเมืองไทยครับ
โอกาสได้จะสูงกว่า

ตามความเห็นผม ไม่ควรขอในจีน เนื่องจากคุณไม่มีภาระอะไรที่จะต้องกลับไปเมืองจีน
การเรียนก็เป็นแค่เรียนภาษา ไม่ใช่เรียนปริญญา หรือทำงานมั่นคงในจีน
สถานทูตสามารถมองได้ว่าคุณไม่มีความผูกพันเพียงพอที่จะต้องกลับมา
เทียบกับขอจากเมืองไทย โดยมีใบรับรองการทำงาน จะดีกว่า

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
จากข้อมูลในข้อ 1 ผมว่าวีซ่าผ่านครับ เอาใบรับรองการทำงาน และใบรับรองนักศึกษายื่นพร้อมกันเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
แวะมาอ่านค่ะ

น่าจะขอวีซ่าอเมริกาในเมืองไทยนะคะ เพราะสถานทูตอเมริกาในจีนอาจจะมีกฎที่ต่างจากเมืองไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ขอช่วยตอบเฉพาะวีซ่าอะแมริกาแล้วกันนะคะ ^^

อยากจะแนะนำว่า ขอวีซ่าอเมริกาในไทยดีกว่าค่ะ ตามหลักฐานข้างบน ได้แน่นอน ชัวร์ เพราะ
สถานะทางการเงินก็โอเค ประสบการณ์การท่องเที่ยวก็มีมากมาย

สำหรับเรื่องคิวขอวีซ่า หมั่นเข้าไปดูบ่อยๆ เพราะถึงแม้จะมีการจองคิวที่ยาวนาน
แต่ก็จะมีคนยกเลิกคิวอยู่เสมอ (ตอนเราโชคดีมาก รอแค่อาทิตย์เดียวเองอ่ะ)

และการสัมภาษณ์วีซ่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
เราเลือกสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย (แต่เค้าก็จะให้ฝรั่งที่พูดไทยชัดมาก มาสัมภาษณ์)
เค้าถามเราเพียง 5 คำถาม (จริง ๆ) บ้านอยู่ไหน ทำงานที่ไหน จะไปที่ไหน เมื่อไหร่ พักกับใคร
เราคิดว่าถ้าเราตอบด้วยความมั่นใจ ว่าเราจะไปท่องเที่ยวจริง ๆ ไม่คิดไปฮู้ดที่ประเทศเค้า ก็ได้แน่ ๆ 10 ปี สบายแฮร์

และที่สำคัญ เรามีแค่ใบรับรองการทำงานไปเท่านั้น (เผอิญทำงานรัฐวิสาหกิจ ใช้แค่นี้)
ไม่มี statement ใด ๆ ทั้งสิ้น หากจะขอดู คงจะอายแย่ เพราะทั้งบัญชีเหลืออยู่เงินอยู่หลักร้อย
55555

ขอให้ได้และเที่ยวให้สนุกนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณทุกท่านมากค่า

สรุป ขอทุกอย่างจากไทยไปดีกว่า

และ ควรขอ วีซ่าญี่ปุ่นเดือน พย
แล้วประมาณเดือน ธค ก็ขออีกที เป็นแบบ Multiple
พอได้ Multiple ญี่ปุ่น แล้วค่อยขอของเมกา ซักประมาณ กลาง มค

แบบนี้ เปอร์เซ็นได้ น่าจะมากกว่าขอ ญี่ปุ่น เมกา ญี่ปุ่น ใช่ไหมคะ

ว่าแต่ วีซ่าญี่ปุ่นขอสองรอบ ห่างกันแค่สองเดือน จะเป็นไรไหมอะคะ
แล้วก็ขอครั้งที่สองนี้ ก็ต้องทำแผนเที่ยวแนบไปเหมือนรอบแรกด้วยหรือเปล่า
ในเมื่อเรายังไม่รู้ว่าจะำไปเมื่อไหร่ เพียงแต่ขอไว้เผื่อตั๋วโปร
สถานทูตจะมองว่าแปลกๆไหมอะคะ



รอผู้รู้ท่านอื่นมาเสริมอีกค่า

ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
รบกวนถาม คคห 4, 5 , 6 ,8

วีซ่า เมกา สิบปี เราต้องทำแผนเที่ยวแนบไปด้วยไหมอะคะ

แล้วเราเลือก ว่า จะเอาสิบปี ได้หรือเปล่า
หรือว่า เราเลือกไม่ได้ เพราะสถานทูตจะเลือกให้เอง

ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ขอญี่ปุ่นทีเดียวเดือน พย เป็นมัลติเพิลค่ะ อันนี้ควรจะมีแผนเดินทางแนบ

จากนั้นก็ขออเมริกา เอกสารตามที่สถานทูตระบุไม่จำเป็นต้องมีแผนเที่ยวค่ะ
แต่ควรรู้ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน กี่วัน ยังไง ทำไม พักกับใคร ที่ไหน

ระยะเวลาวีซ่าอเมริกาเลือกไม่ได้ค่ะ อาจจะได้ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 5 ปี 10 ปี
แล้วแต่กงสุลพิจารณา

จริงๆ ขอวีซ่าอเมริกาก่อนขอญี่ปุ่นยังได้เลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เห็นด้วยกับท่านอื่นๆ นะครับ ว่าควรจะขอวีซ่าอเมริกา ที่ประเทศไทยจะดีกว่านะครับ

ส่วนเรื่องวีซ่าผมว่า ถ้ามีใบรับรองจากที่ทำงาน ผมว่าไม่น่ากังวลทั้ง 2 ประเทศ

อย่างวีซ่าอเมริกา ตอนผมไปขอเค้าขอดูแค่ใบรับรองจากที่ทำงาน เอกสารอย่างอื่นที่

อุตส่าห์เตรียมไปซะเยอะ ก็ไม่ดูเลยครับ แถมถามคำถามเดียวด้วยครับว่า "ไปทำอะไร"

ก็บอกแค่ว่า "ไปเที่ยว" ก็ได้วีซ่า multi 10 ปี (ช่วงหลังๆ ผมเห็นคนที่ไปขอวีซ่าอเมริกา

ก็ได้ 10 ปี กันแทบทุกคนนะครับ ยังไม่เห็นคนได้น้อยกว่า 10 ปี เลยครับ)

ส่วนวีซ่าญี่ปุ่น ผมว่ายิ่งของ่ายกว่าอเมริกาอีกครับ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน แค่เตรียมเอกสาร

ตามที่สถานทูตกำหนดก็ผ่านแล้วครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เข้ามาตอบเกี่ยวกับvisaญี่ปุ่นค่ะ(จากกระทู้ที่แล้ว)

แนะนำให้เขียนเป็นจม.คร่าวๆว่าไปทำไมแล้วก็อาจะบอกว่าสนใจจะไปเที่ยวเมืองไหนหลักๆด้วยก็ได้^^
ดูprofileแล้วน่าจะผ่านค่ะ ขอให้โชคดีเน้อ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
มาตอบให้แล้วค่ะ

ตอนไปยื่นวีซ่า ใช้เอกสารแค่ที่กำหนดในหน้าเว็บอะค่ะ
เพื่อนเอาแผนเที่ยวคร่าวๆไปเผื่อ แต่เขียนแค่ว่า เวลากี่โมง-กี่โมงอยู่ที่ไหน แค่นี้เองค่ะ พอไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ เค้าดึงออกนะคะ

อ้อ เพิ่มเติมค่ะ พวกบรรดาเอกสารทะเบียนบ้าน หรือใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ไม่ต้องลงรับรองสำเนานะคะ ด้วยความแสนรู้ของเรา ลงรับรองไปทั้งหมด พอเตรียมเอกสารกำลังจะยื่นจึงเห็นว่าไม่ต้องลงรับรอง รีบเปลี่ยนเอกสารแทบไม่ทันแน่ะ ดีที่เตรียมไปสองชุด แต่ว่าถ้าพลาดที่ JVAC ก็มีให้ถ่ายเอกสารค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ผมว่าแบบนี้น่าจะผ่านสบายครับ พูดถึงแต่เรื่องวีซ่าญี่ปุ่นนะ

ส่วนเรื่องแผนเที่ยวไม่ต้องทำครับ ผมขอทุกครั้งไม่เคยใช้ซักครั้งทั้งแบบซิงเกิ้ลและมัลติเปิ้ลครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
สำหรับวีซ่าอเมริกา ไม่ต้องทำแผนเที่ยวใด ๆ ไปเลยค่ะ
ขอเพียงให้มั่นใจ ย้ำ มั่นใจ ในการตอบคำถาม ว่าเราไป "ท่องเที่ยว"
เที่ยวที่ไหนบ้าง เมื่อไหร่ พักกับใคร เตรียมคำตอบให้ดี แค่นี้ก็พอแล้น อิอิ

สำหรับระยะเวลาที่ได้ ไม่สามารถเลือกได้ค่ะ
แต่แอบมีข้อสังเกตนิดนุง ตอนที่มีเหตุการณ์ที่มันไม่ค่อยสงบเกี่ยวกับอเมริกา
เค้าจะไม่ค่อยให้ง่าย ๆ หรือ ให้นาน ๆ เช่น พี่ชายเรา หลังเหตุการณ์ 911 พี่เราก็ได้มาแค่ 1 ปีเอง
แต่เราทำเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็ได้ 10 ปีมา หุหุ

ดังนั้น ช่วงนี้ที่มันมีการประท้วง ก็แอบกลัวว่าเค้าจะไม่ให้ง่าย ๆ เหมือนกันนะนี่


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ดูจากโปรไฟล์คุณวีซ่าญี่ปุ่น น่าจะผ่านสบายๆเลย ขอแบบมัลติเพิ่ลไปเลยค่ะ ส่วนอเมกา บางคนมีเป็นสิบสิบล้าน มีอสังหาริมทรัพย์อีก ยังไม่ผ่านก็มีขึ้นอยู่กะโชคด้วยมั้งคะ แต่สำหรับคุณเราว่าคงไม่ยาก ถ้าขอวีซ่า ใบรับรองการทำงานกับใบรับรองการเป็นนักศึกษา แนบคู่กันไปเลย สนับสนุนอีกเสียงให้ขอที่ไทย ไปทำวีซ่าญี่ปุ่นก่อนเพราะอาทิตย์เดียวก็รู้ผล พอในเล่มพาสปอร์ตมีวีซ่าญี่ปุ่นแล้ว ตาม คห เรา เครดิตจะดีเวลายื่นวีซ่าอเมริกา เพราะวีซ่าอเมริกา เดาไม่ออกเลย ต้องลุ้นเอา แต่ช่วงหลังนี้จะเริ่มๆผ่านกันเยอะ

ส่วนแผนที่ท่องเที่ยวคุณควรมีข้อมูลอยู่ในใจ ถ้ากรณีวีซ่าอเมริกาอาจได้คำถามนี้ด้วย
ถ้าของญี่ปุ่นตอนยื่นเขาไม่ถามอะไรมาก อาจจะทำหนังสืิอแนะนำตัวแล้วบอกว่าจะท่องเที่ยวที่ไหนบ้างแนบไปด้วยหรือไม่แนบตัวนี้ไปก็ได้
อย่าลืมว่า เวลาเราไปยื่นเอกสาร หรือโดนสัมภาษณ์เราไม่รู้จะเจอใคร เจ้าหน้าที่ทางสถานทูตแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนละเอียดยิบถามนุ่นนี่นั่น บางคนก็ดูไล่ตามเอกสารถ้าครบก็จบ กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทัน

ขอให้โชคดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
วีซ่าญี่ปุ่นน่าจะขอไม่ยากค่ะ ตาม คห.ด้านบนบอก ใบรับรองทำงาน+เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย
ขอเป็น Multiple ไปเลยก็ได้ค่ะ เพราัะยังไงพย.นี้ก็มีแผนการเดินทางแน่นอนแล้ว
ครั้งหน้าไปได้ตั๋วโปรก็ไม่ต้องไปยื่นอีกค่ะ Multiple ใช้ได้ไม่เกิน 3 ปี
อยู่ได้สูงสุด 90 วัน (น่าจะขึ้นอยู่กับ ตม.ปั้มให้เท่าไหร่ด้วยค่ะ)

ส่วนวีซ่าอเมริกาขอจากไทยไปน่าจะดีกว่าค่ะ
เตรียมเอกสาร จองคิว เตรียมแผนเผื่อไว้ก็ดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
แวะมาฟังครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
สำหรับวีซ่าญี่ปุ่นดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ เรายื่นเอกสารไปน้อยกว่า จขกท. อีก
แผนท่องเที่ยวก็ไม่ได้ทำค่ะ แหะๆ

ส่วนวีซ่าอเมริกา คิวค่อนข้างยาว ควรนัดคิวตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
สำหรับญี่ปุ่นผมว่าผ่านครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ขอบคุณทุกท่านค่า

สรุป แผนเที่ยว( แบบละเอียดทุกวัน เช่นขึ้นรถไฟที่ไหน จากไหนไปไหน ค่าใช้จ่ายแต่ละวันเท่าไหร่)
ของทั้งญี่ปุ่นและเมกา ไม่ต้องทำ

เอาแค่ จม แนะนำตัว แล้วก็บอกว่า จะไปไหนบ้าง คร่าวๆ แลวก็แต่ละวันพักเมืองไรก็พอเนอะ

ขอสองคำถามสุดท้าย
1 แล้วใบจอง รร กับตั๋วเครื่องบิน ของญี่ปุ่น ต้อง แนบไปไหมคะ

2 เห็นหลายความเห็นบอกว่า ให้ขอ multiple ไปเลย
มานจะดีเหรอคะ
ขอครั้งแรก เค้าจะมองว่าไม่น่าเชื่อถือไหมอะ

ไม่ได้ขึ้นมานี่ มีเฮน้าา ตั๋วเครื่องบินก็จ่ายแล้วด้วย แง้วววว

รอผู้มี ปสก คอนเฟิร์มต่อปายยย


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ไม่ต้องทำก็ได้คะ... แต่เพื่อความสบายของตัวเองทำแนบได้ก็ได้สำหรับไปครั้งแรกของญี่ปุ่น เช่นวันแรกไปไหน (คร่าวๆ แค่ชื่อสถานที่พอ ไม่ต้องบอกวิธีเดินทาง) นอนที่ไหน เบอร์โทรโรงแรม ไล่วันแรกจนวัดกลับ แค่นี้พอแล้ว ครั้งต่อไปไม่ต้องทำแล้วค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ขอโทษนะคะ ที่มาตอบช้าเพราะช่วงนี้เน็ทไม่ค่อยดีค่ะเข้าเวปไม่ค่อยได้
คิดว่าน่าจะได้คำตอบไปแล้ว อันนี้คือที่เราพิมพ์ไว้นานแล้วแต่ไม่ได้ส่ง คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้าง


ไม่เคยขอวีซ่าอเมริกาจากญี่ปุ่นค่ะ และก็ไม่เคยขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ถ้าให้แนะนำก็คือขอไปพร้อมๆกันเลยค่ะจากเมืองไทย ไม่ต้องไปขอต่างประเทศหรอกค่ะยุ่งยาก อย่างน้อยๆขอจากไทย กงศุลยังพอพูดภาษาไทยได้นะคะ
โดยเอาเอกสารการยืนยันตัวตนเราว่าจะกลับมาเป็นหนี้ต่อในเมืองไทย หรือหลักทรัพย์อะไรก็ตามที่เรามีเตรียมไปให้หมด

โดยส่วนตัวมีประสบการณ์แต่วีซ่าอเมริกา.....เท่าที่ดูเอกสารแล้วก็น่าจะผ่านได้ไม่ยากเห็นด้วยเหมือนๆกับคห 1 มีเอกสารอะไรเตรียมไปให้หมดค่ะ เพราะญี่ปุ่นกับอเมริกา หรือว่าวีซ่าเที่ยวทั่วๆไปน่าจะมีหลักเกณท์การเตรียมเอกสารเหมือนๆกันค่ะ ใช้เอกสารของเราชุดเดียวกันได้เลย (ยกเว้นใบสมัคร) แต่รู้มาว่าวีซ่าญี่ปุ่นถ้าสถานทูตขอเอกสารเพิ่มและเราส่งไปเพิ่มเติมได้ แต่อเมริการถ้าเค้าเรียกถามขึ้นมาเอกสารสำคัญแล้วไม่ครบนี่จบนะคะ กลับบ้านไปพร้อมพาสปร์อทแน่

ส่วนวีซ่าอเมริกาไม่จำเป็นจะต้องมีตั๋วเครื่องบินนะคะมีแค่แผนการคร่าวๆว่าจะไปเที่ยวไหนนอนไหน ไปเมื่อไหร่ กลับเมื่อไหร่ กับหลักฐานการยืนยันตัวตนว่าเราจะกลับมาประเทศไทย หรือไปประเทศอื่นต่อก็ตามแต่

แต่เคยมีประสบการณ์ขอวีซ่าเดือนนึง2ประเทศ คืออเมริกากับออสเตรเลีย ขอพร้อมๆในเดือนเดียวกัน
เราเลือกขอวีซ่าอเมริกาก่อนเพราะเรามีแผนการว่าจะไปอเมริกาก่อนแล้วอีก3 เดือนต่อมาไปออสเตรเลียค่ะ
โดยที่ไปซื้อพินโค๊ทของวีซ่าอเมริกาก่อนเพื่อที่จะจองคิวและเลือกวันสัมภาษณ์ และในขณะเดียวกันก็ไปเอาเอกสารจากสถานทูตออสเตรเลียมาอ่าน ว่าต้องการเอกสารอะไรบ้าง

พอได้รับpassportส่งกลับมาจากสถานทูตอเมริกาแล้วเราก็ไปยื่นออสเตรเลยต่อในวันต่อมาค่ะ (แทบจะไม่ได้เชยชม T^T) ใช้เอกสารชุดเดียวกันกับยื่นอเมริกาค่ะ และกะเวลาดีๆตอนเราได้วีซ่าของออสเตรเลียมีลุ้นว่าจะไม่ทันบินไปอเมริกา แต่โชคดีที่มาตามเวลา

ส่วนวีซ่าของแต่ละประเทศเค้าจะนับตั้งแต่วันขอนะคะเค้าไม่ได้นับวันไปค่ะ ถ้าขอวันที่ 24 กย.2555 เพื่อจะไปในวันที่ 1 ตค 2555 ได้วีซ่า1ปี เพราะฉะนั้นวีซ่าก็จะหมดอายุวันที่ 23 กย. 2556 (วีธีขอก่อนวิธีขอก่อน ก็อาจจะเจอภาวะงานเข้าได้ ถ้าเจอสถานทูตไหนดูเอกสารแล้วเค้าให้วันน้อยๆมาเช่น 1 เดือน วิธีนี้นี่จบเหตุแน่ค่ะ )ไม่งั้นก็บอกตอนสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาว่าเรามีแผนการว่าจะไปญี่ปุ่นก่อน ต่อจากนั้นก็ไปอเมริกา แล้วกลับมาเมืองไทยก็ว่าไป จากที่เค้าพิจารณาว่าจะให้แค่ 3 เดือนถ้าเหตุผลพอก็ยืดออกไป 6 เดือน หรือ10ปีก็แล้วแต่

ส่วนถ้าเจอตั๋วถูกๆแล้วจองเพื่อนเราบินหางแดงไปญี่ปุ่นก็จองตั๋วกันก่อนแล้วค่อยยื่นวีซ่านะ ญี่ปุ่นเค้าจะให้วันแป๊ะๆเลย ขอไป12 วัน ได้มา 15 วัน วิธีขอก่อนนานๆคิดว่าใช้กับประเทศนี้ยากแน่ๆ นอกจะเป็นคนที่เข้าออกญี่ปุ่นเป็นประจำอยู่แล้ว อันนี้น่าจะได้ multiple visa แต่ส่วนมากจะได้แค่ single visa

ขอให้โชคดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
เอ่ออออ เริ่มมีประเด็นใหม่ ตรงที่ว่า

ส่วนวีซ่าของแต่ละประเทศเค้าจะนับตั้งแต่วันขอนะคะเค้าไม่ได้นับวันไปค่ะ ถ้าขอวันที่ 24 กย.2555 เพื่อจะไปในวันที่ 1 ตค 2555 ได้วีซ่า1ปี เพราะฉะนั้นวีซ่าก็จะหมดอายุวันที่ 23 กย. 2556


แบบนี้ ถ้าเราขอวีซ่าญี่ปุ่น 1 ตค แล้วผ่านขึ้นมา

สถานทูตให้ 18 วัน ตามที่ขอ

มันมิหมดอายุ 18 ตค เหรอคะ. เอ่ออ มันใช่เหรอคะ หรือเราเข้าใจอะไรผิดไป

(เห็นหลายท่านบอกไม่ต้องทำแผนเที่ยว เราเลยกะจะยื่นเอกสารในเร็ววันนี้
แต่เดินทาง 22 พย โน่น)

ตกลงมันยังไงคะนี่ เง้อออออ


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
คห.25
หมดอายุ 1 มกราปีหน้าค่ะ ขอแล้วต้องไปญี่ปุ่นภายใน 3 เดือน แต่ระยะเวลาอยู่ในญี่ปุนได้แค่ 18 วัน


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
เข้ามาตอบที่คุณcinta ถามมานะค่ะ

เราขอวีซ่าไม่เคยแนบแผนการท่องเที่ยวไปเลยค่ะ ก็ผ่านตลอด เราคิดว่าสำหรับคนที่เอกสารชัดเจนไม่ต้องแนบก็ได้ ส่วนคนที่เอกสารไม่ชัดเจนเช่นคนทำงานฟรีแลนด์ หรือว่างงาน ก็ควรที่จะทำแผนการท่องเที่ยวแนบไปด้วยค่ะ ของ จขกท. ขอใบรับรองข้อ 1,2 ก็น่าจะผ่านนะค่ะ

ตอบ คห 25.. วีซ่่ามีอายุ 3 เดือนนับจากวันที่อนุมัติค่ะ ถ้าได้ 1 ตุลา ก็จะหมด 1 มกราค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ขอบคุณค่า เราเ้ข้ามาดูเรื่อยๆ เผื่อใครมาเพิ่มเติมอีกเน้ออ


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ทุกคำตอบที่คุณ cinta คงได้คำตอยหมดแล้วนะค่ะ ^^
โดยส่วนตัว ไม่เคยขอวีซ่าจากต่างประเทศค่ะ
เคยแต่ขอที่ประเทศไทย
- เคยขอวีซ่าญี่ปุ่นไม่มีการแนบแผนการเดินทาง ไม่ได้แนบตั๋วเครื่องบินด้วย (แต่จองแล้ว) แต่เนื่องจากมีพี่อยู่ญี่ปุ่นไปเรียนนะค่ะ จึงขอหน้าวีซ่าที่มีการปั้มเข้าประเทศญี่ปุ่นของพี่เค้ามาค่ะ แค่นั้น และหลักฐานต่างๆที่บอกในเว็บค่ะ
- วีซ่าอเมริกา หลักฐานต่างๆ ที่เตรียมไป มีหลักฐานการทำงาน,การศึกษา และสมุดบัญชี แค่นี้ค่ะ แต่ทริกในการตอบคำถาม พยายามแสดงตนให้เค้าเห็นว่า ยังไงคุณก็จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยแน่นนอน ^^ ก็ได้วีซ่ามา 10 ปีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
เรื่องวีซ่าประเทศอื่นๆ ผมไม่สันทัดนัก ท่านอื่นๆ คงให้ข้อมูลไปแล้ว
ขอตอบที่ถามมาแล้วกันนะครับ

เรื่องวันเดินทาง คิดว่าต้องใส่ น่าจะใส่ประมาณคร่าวๆ ไป เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทางตามวันที่ระบุก็ได้
เรื่องเงินเดือน ยังไงถ้าคุณจะเขียนจดหมายแนะนำตัว อธิบายลักษณะงานฟรีแลนซ์ ก็น่าจะระบุรายได้ประมาณต่อเดือนไปด้วย เพื่อความน่าเชื่อถือ

จดหมายแนะนำตัวของผมระบุบรายได้ต่อเดือน (ประมาณ) ไปครับ
ตอนกรอก DS160 ผมก็กรอกว่า Not Employed แต่ก็บอกว่าเป็นฟรีแลนซ์ รายได้ต่อเดือนเท่านี้
ใส่ให้ตรงกับจดหมายแนะนำตัวที่จะเขียน

โชคดีนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
ขอบคุณค่า

แล้วเรื่่องเิงินเดือนที่ระบุใน จม แนะนำตัว
ก็ไม่ตรงกับยอดที่เข้าจริงๆในธนาคารใช่ไหมคะ

เพราะทำฟรีแลนซ์ แต่ละเดือน ยอดเงินย่อมไม่เท่ากัน

แบบนี้คือไม่มีปัญหาเนอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
เข้ามารายงานผล
เผื่อคนอื่นผ่านมาเจอ

เมื่อวานไปยื่นวีซ่าญี่ปุ่นมาแล้ว
ขอแบบมัลติเพิีล เก้าสิบวัน (เพราะทริปแรกนี้ ดันจองตั๋วไปซะสิบเก้าััวัน!! - ช่างกล้า!! )

เมื่อกลางวันวันนี้ สถานทูตโทรมา บอกว่าได้แบบซิงเกิ้ล นะคะ

เย่ๆ ^_____^


ส่วนเมกา กะว่าได้เล่มคืนจากสถานทูตญี่ปุ่น แล้วจะไปขอวันจันทร์หน้าจ๊าา

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมา
^___^

ปล เรื่องเงินเดือน
ยอดใน จม แนะนำตัว ที่ทำงานเขียนให้ว่า 30000-40000 บาท ตามที่เรารีเควสท์
แต่ยอดในบัญชีธนาคารไม่ตรงหรอก
เพราะแต่ละเดือนเงินเข้าไม่เท่ากัน


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
รายงานผลต่อเนื่อง ตกลงวีซ่าเมกาผ่านแล้ว ไปสัมภาษณ์มา
วันที่สามสิบ ตค รอบสิบโมง
ไปถึงเก้าโมงครึ่ง สิบเอ็ดโมงก็เสร็จแระ ไวดี

ทีนี้ก็รอลุ้น ว่าจะได้สิบปีอ๊ะัเป่า วิ้วๆ

ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
ได้แล้วค่ะ หนูได้กับเขาแล้วค่ะ
สรุปว่าได้สิบปีแร้ววค่า เย่ๆ

สัมภาษณ์วันอังคาร พาสปอร์ตถึงบ้าน วัน พฤ
เร็วดีแท้

แต่เราไม่อยู่บ้าน เลยให้ไปรษณีย์มาส่งใหม่วัน ศ
ลุ้นแทบแย่ 555

ตอบกลับความเห็นที่ 34