<<ในประเทศเอเชียด้วยกัน นักเรียนไทยในต่างแดนเป็นชาติที่ปรับตัวยากที่สุดจริงหรือครับ>>

เนื่องจากเจ้าของกระทู้ได้เข้าไปอ่านบทความใน เว็บผู้จัดการออนไลน์
ได้พบกับความเห็นของท่านนึงซึ่งน่าสนใจดีทีเดียว
ขอยกมาสักท่อนนะครับ ความคิดเห็นที่ 20

"ถ้าใครเคยมาเรียน หรือมาอยู่ที่อเมริกาจะรู้เลยว่า คนไทย เป็นคนที่ปรับตัวได้ยากที่สุด
และน่าจะเป็นคนเอเชียที่ปรับตัวได้ยากที่สุดด้วย ปัญหาหลัก คือ ภาษา
ปัญหารอง คือ การปรับตัว คุณจะเห็นคนเกาหลีคบกับคนผิวดำ
ส่วนคนจีน และคนอินเดียนั้น มีอยู่ทุกที่ แต่คนไทยจะหลบมุมอยู่เงียบ ๆ สวงนคำพูด สงวนท่าที ร่วมกิจกรรมน้อย
"

อยากถามความคิดเห็นของนักศึกษาหรือท่านอื่นที่ได้ไปใช้ชีวิตพบปะกันเพื่อนต่างชาติ ในประเทศใหญ่ๆ เช่น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ฯลฯ
เผื่อเป็นประโยชน์กับน้องๆหรือบุคคลอื่นที่กำลังเตรียมตัวไปศึกษาต่อต่างประเทศครับ

**และขอถามเพิ่มเติมครับ ในมุมมอง ความรู้สึกของนักศึกษาไทยหรือคนไทยในต่างแดน
เพื่อนชาติไหนครับที่คนไทยปรับตัวเข้ากับเขาง่ายที่สุด น่ารักที่สุดครับ

http:ager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000126968

ความคิดเห็นที่ 1
I think Thais are quite shy in nature, especially in a foreign language environment.


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เราเห็นด้วยค่ะ จากประสบการณ์ในการเคยอยู่ต่างแดนในฐานะนักเรียนมาก่อน หรือการพบปะคนไทยทั่วๆ ไป
ทั้งในและนอกประเทศ จากประสบการณ์ในการเป็นคนเดินทาง

เราพบว่าการพูดคุยกับคนแปลกหน้าคนไทยด้วยกัน หรือการเมคเฟรนด์กับคนไทยด้วยกันยากมากๆ ค่ะ

เราชอบคนจีนแผ่นดินใหญ่ กับคนอินเดียนะคะ คนพวกนี้ปรับตัวง่าย ไม่เรื่องมาก โดยเฉพาะคนอินเดียเนี่ย
เฟรนด์ลี่มาก ตลก มีอารมณ์ขัน

คนใต้หวันก็เฟรนด์ลี่ นิสัยดี ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม คนเกาหลีก็ไม่เจ้าเล่ห์ค่ะ แต่ผู้หญิงเกาหลีอาจจะมีอิจฉาริษยาบ้าง

คนฟิลิปปินส์ก็เข้ากับคนอื่นได้ดี สนุกสนาน ใจกว้าง ชอบร้องรำทำเพลง ชอบเข้าสังคม

คนไทยหน่ะ ที่สนิทกันยาก เพราะมีเส้นแบ่งบางๆ ที่มอวไม่เห็นอยู่หลายเส้นค่ะ เช่น

1. แบ่งเขาแบ่งเราในเรื่องของถิ่นกำเนิด หรือถิ่นที่มา แบ่งภูมิภาค แบ่งตามภาษาท้องถิ่น

2. แบ่งตามสีผิว เช่นผิวคล้ำ ผิวดำ ผิวขาว จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนไทยด้วยกัน

3. แบ่งตามฐานะครอบครัว อาชีพของครอบครัว

4. แบ่งสถานะกันที่สถาบันที่จบมาจากเมืองไทย

5. คนไทยในเมืองนอกแบ่งสถานะกันเองจากสถานะในประเทศที่ตนเองไปอาศัยอยู่ เช่นว่า ใครถือวีซ่าอะไร
วีซ่านักเรียน วีซ่าถาวร หรือใครได้สัญชาติได้พาสปอร์ตของประเทศนั้นๆ แล้ว แม้กระทั่งการได้ไปอยู่ในต่างแดนแล้ว
แต่ยังมีการแบ่งชนชั้นแบบไทยๆ อยู่

มีคนไทยมากมายชอบแบ่งเขาแบ่งเราค่ะ บางครั้งแบ่งชนชั้นกันตามอาชีพก็มี

เราเล่าให้ฟังก็ได้ค่ะ เราเพิ่งเจอมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันนี่เอง ตอนบอร์ดดิ้งขึ้นเครื่องที่ประเทศหนึ่ง เราเพิ่งเจอคนไทย
ด้วยกัน แสดงกิริยากับเราเหมือนเราไม่มีตัวตน เหมือนเราเป็นธาตุอากาศ แต่คนไทยคนนั้นกลับแสดงท่าทีเป็นมิตรกับ
ฝรั่งที่ยืนอยู่ข้างๆ เรา คนไทยคนนั้นปฏิเสธที่จะทำเป็นไม่ได้ยินภาษาไทยที่เราพูดด้วย แต่เธอพยายามโชว์ออฟเต็มที่
ว่าเป็นคนไทยที่มาจากเมืองนอก และ พูดภาษาอังกฤษได้ เธอพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทย

เมื่อเจอกิริยาแบบนั้นแล้ว เราจึงทำตัวเป็นผู้ดีเดินตรอก พยายามไม่พูดอะไรเลย ไม่พูดทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
เพื่อที่เธอคนนั้นจะได้สบายใจได้ต่อไปว่าเธอสามารถมั่นใจได้ว่าเธอมีดีกว่าคนอื่นๆ อยู่คนเดียว

เราขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดนะคะ ว่าเจอที่สนามบินไหน ไฟล์ทไปไหน และเธอคนนั้นเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศ
อะไร

และเราขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเพิ่มเติมให้คุณ จขกท. ฟังว่า อีกสาเหตุที่ทำให้คนไทยปรับตัวยาก เมื่อไปอาศัยอยู่
ในต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะได้สัญชาติแล้วก็ตาม หรือยังไม่ได้ก็ตาม หรือต่อให้อาศัยอยู่ในต่างแดนมากี่ปีแล้วแต่

แต่ก็ยังไม่สามารถเข้ากับประเทศอื่นๆ หรือคนชาติอื่นๆ ได้ เพราะความคิดยังเป็นไทยอยู่มาก ไม่เปิดรับความคิดอื่นๆ
ไม่เปิดรับวัฒนธรรมอื่น ไม่เปิดรับภาษาอื่น ไม่เปิดรับผู้อื่น และคนไทยเซ้นท์ซิทีฟมาก หลายๆ กรณีชอบคิดไปเอง
ชอบคิดแทนคนอื่น แล้วตอบเอง เออเอง สรุปเอง โดยที่ไม่เคยถามผู้อื่น หรือไม่รู้จักผู้อื่น แต่ด่วนสรุปเอง
จุดนี้เป็นจุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนไทยเข้ากับคนชาติอื่นๆ ไม่ค่อยได้ค่ะ เพราะความคิดไม่เปิดกว้าง
สังคมไม่กว้าง และ คนไทยบางส่วนไม่ชอบหาความรู้เพ่ิมเติม ไม่ชอบอะไรที่มีประโยชน์หรือไม่ชอบอะไรที่เป็นความรู้
และหลายๆ คนอ่านหนังสือน้อย ไม่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ไม่ติดตามความเป็นไปของโลก

หลายๆ คนนอกจากจะอ่านหนังสือน้อยแล้ว ก็ยังอ่านอะไรไม่ค่อยแตกฉานอีก เหล่านี้เป็นอุปสรรคในการเข้าสังคม
หรือเป็นอุปสรรคในการเปิดรับอะไรใหม่ๆ และ เป็นอุปสรรคในการรู้จักผู้คนใหม่ๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ส่วนเรื่องสงวนท่าที สงวนคำพูด เป็นอุปสรรคเช่นกันค่ะ เราพบว่าคนไทยมากมายที่สงวนคำพูด สงวนท่าทีนั้น
หลายๆ ครั้งหน่ะ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่สงวนเอาไว้ เพราะหลายสาเหตุด้วยกัน

1. กลัวพูดไม่เหมือนคนอื่น กลัวทำไม่เหมือนคนอื่น เมื่อไม่เหมือนคนอื่น จึงกลัวที่จะแตกกลุ่ม กลัวถูกแบ่งแยก
กลัวโดดเดี่ยว เพราะจะทำให้รู้สึกไม่มั่นคง

2. กลัวพูดผิดไป กลัวทำผิดไป แล้วจะโดนคนหัวเราะเยาะ หรือรู้สึกเสียหน้า รู้สึกว่าโง่ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
คนไทยคิดไปเองทั้งนั้น เพราะคอนเส็พท์ของคนไทยคือต้องเพอร์เฟ็คสุดๆ ต้องเป็นคนดีสุดๆ เพื่อที่จะซ่อนอะไร
อีกหลายๆ อย่างเอาไว้ ภาพพจน์สำคัญเสมอสำหรับคนไทย

3. ผู้หญิงคนไทยบางคน ไม่กล้าแสดงออกอย่างที่ตัวเองอยากจะแสดง เพื่อตบตาคนอื่นว่าเป็นคนเรียบร้อย
ตบตาผู้อื่นว่าเป็นลูกแมวเชื่องๆ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น

4. คนไทยหลายคนไม่ชอบแสดงออก แต่ชอบให้ผู้อื่นแสดงออก เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่รู้จักตนเอง แต่ตนเองรู้จักผู้อื่น
เป็นวิถีแบบไทยๆ ในเรื่องของ Information, เรื่องของการมีอำนาจเหนือผู้อื่น


____________________________

นอกจากคนไทยแล้ว เรามีความคิดเห็นจากประสบการณ์ว่า คนสิงคโปร์ โดยเฉพาะเชื้อสายจีน ก็เข้ากับผู้อื่นได้ยากค่ะ
เพราะขาดทักษะในเรื่องของการเข้าสังคม ขาดทักษะในการพูดคุย ขาดทักษะในเรื่องของมารยาทสังคม และ ไม่เอื้อเฟื้อ
เผื่อแผ่ค่ะ

__________________________

ข้างบนๆ และ คห. 2 พูดถึงข้อเสียนะคะ แต่ข้อดีมีค่ะ

คนไทยในต่างแดนที่ดีๆ นิสัยดีๆ ยังมีอยู่ค่ะ

หรือคนไทยที่เฟรนด์ลี่มีค่ะ แต่ขอไม่กล่าวถึงรายละเอียดใน คห. นี้นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เพิ่มเติมนะคะ นักเรียนนักศึกษาไทยในต่างแดน หรือคนไทยในต่างแดน หลายๆ คนเข้ากับผู้อื่นยาก
ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ ไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าแสดงออก เพราะ หลายๆ คนก่อนมาเมืองนอก ไม่เคยเดินทาง
ไปต่างประเทศมาก่อน หลายๆ คนเคยชินกับการอยู่กับครอบครัว เคยชินกับการที่มีคนในครอบครัวมาบงการ
หรือชี้นำการดำเนินชีวิตให้ ไม่เคยชินกับการอยู่ด้วยตนเอง ไม่เคยชินกับการตัดสินใจอะไรด้วยตนเอง
ไม่เคยใช้ชีวิตด้วยตนเองมาก่อน จึงทำให้ไม่กล้าแสดงออก และสังคมไทยไม่ชอบให้คนแสดงความคิดเห็นค่ะ
หรือถ้าจะแสดงความคิดเห็นก็ควรจะต้องให้คนหมู่มากเห็นด้วย โดยที่ขาดการเคารพสิทธิในการแสดงออกและสิทธิในการ
แสดงความคิดเห็นของผู้อื่่น จึงทำให้คนไทยบางครั้งนั้นเลือกที่จะไม่แสดงออกเลยเพื่อจะได้เป็นที่รักของคนอื่นๆ ค่ะ

เราเคยเจอคนไทยมามากมายที่ทำตัวนิ่งๆ ทำท่านิ่งๆ หรือ คนไทยที่ทำตัวเป็นลูกแมวเชื่องๆ หรือทำมึนๆ
แต่จริงๆ แล้วเขารู้มากกว่าที่เขาแสดงออกมาเพื่อตบตาให้ผู้อื่นตายใจ และ ไว้เนื้อเชื่อใจค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
อ่านความคิดเห็นของคุณ Been there, done that! แล้วได้อะไรเยอะเลย
แต่ไม่สามารถให้กีบได้ครับ เสียดายจริงๆ

ซึ่งหลักๆแล้วคงเป็นเรื่องภาษาและวัฒนธรรมที่ติดตัวเรามาแต่เกิดนะผมว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนลูกเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ไปขอให้ครูประจำชั้นออกหนังสือรับรองว่าลูกมีความเหมาะสมที่จะไปเรียนต่อในโรงเรียนเมื่อเรียนจบชั้น 13 แล้ว สามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้
ครูผู้สอนบอกว่า นักเรียนที่จะเข้าเรียนต่อในโรงเรียนข้างต้น ต้องเป็นคนกล้าแสดงออก แต่ลูกคุณเป็นเด็กเงียบๆ คงไปเรียนต่อ รร ที่ว่าไม่ได้
ผลสุดท้ายครูประจำชั้นก็ออกหนังสือรับรองให้
ลูกเรียนจบชั้น 13 เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยและจบ ระดับปริญญาโท วิชาเศรษฐศาสตร์ ได้งานทำในประเทศลักเซ็มบวร์ก


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เท่าที่เจอกับตัวเองนะเด็กไทยปรับตัวเก่งมาก ส่วนใหญ่มีเป็นส่วนน้อย แล้วแต่คนมากกว่าค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คุณเจ้าของความเห็ฯเค้าออกแนวมั่วๆเหมาๆ อคติเยอะเกิน

ดิฉันไม่เห็นว่ามีนักเรียนต่างชาติชาติไหนในโลกที่จะไม่เกาะกลุ่มกัน

คนจากประเทศไหนเค้าก็ไปกันเป็นกลุ่มกับเพื่อนประเทศเดียวกันทั้งนั้นไม่ว่าหัวดำหัวทอง เกาะกลุ่มชาติเดียวกันเหมือนกันหมด ยกเว้นพวกมีแฟนข้ามชาติ

พวกนี้จะไปกับแฟน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนี้ปรับตัวเก่งกว่า เรื่องของความรักมันหาเหตุผลไม่เจออยู่แล้ว

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็ไม่เห็นว่าจะมีชาติไหนเลิกกินอาหารบ้านตัวเองแล้วไปกินแต่อาหารบ้านคนอื่น

ถ้าใครอยู่หอรวมก็จะรู้ดีว่าคนชาติไหนเวลาทำอาหารกินเค้าก็ทำอาหารชาติเค้า ไม่ได้ไปทำอาหารแปลกประหลาดอื่นๆ

ละเม็งละคร ข่าวอะไรต่างๆ ชาติไหนพัฒนาแล้วเค้าก็จะมีช่องทีวีวิทยุของเค้าเผยแพร่ไปทั่วโลกให้พลเมืองเค้าได้ดูได้ชมกัน

ใครไม่ได้ดูข่าวคราวของบ้านเมืองตัวเองผ่านสื่อบ้านตัวเองสิจะถูกมองว่าแปลก มาจากประเทศชายขอบ

...ส่วนตัวแล้วดิฉันมองว่าเพื่อนนักเรียนต่างชาติที่เข้ากับคนอื่นยากคือเพื่อนที่มาจากอิสราเอล ทุกคนนิสัยดี น่ารักมากแต่เพราะเค้ามีกฎข้อบังคับทางศาสนาหลายอย่าง

ทำให้ไม่สามารถไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนอื่นๆชนิดถึงไหนถึงกันได้ ข้อจำกัดนี้ทำให้เค้ารวมกลุ่มกันเองจนกลายเป็นโดดเดี่ยวตัวเองไปโดยปริยาย

...เกี่ยวกับคนไทย ดิฉันไม่ทราบถึงเนื้อแท้ว่าคนไทยปรับตัวเก่งหรือไม่

แต่เท่าที่เห็น ดิฉันมองว่าคนไทยไปอยู่ไหนก็อยู่ได้ มีปัญหาน้อย ไม่เรื่องมาก ชุมชนต่างถิ่นเองก็ไม่เคยได้ยินว่ามีที่ไหนไม่อยากต้อนรับคนไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ในแง่ภาษา นักเรียนไทยอาจปรับตัวได้ช้า
หรือไม่เก่งเท่าชาติอื่น
จะพูดก็ขัดๆเขินๆ เขียนก็ผิดถูกๆ

แต่อย่างน้อยในช่วงเวลา ที่ผมยังเป็นนักเรียนในต่างประเทศ
ไม่เคยได้ข่าว นักเรียนไทย(และเวียดนาม)
โดนส่งกลับบ้านกลางคัน อย่างชาติอื่น
และอาจารย์ยังไว้ใจ ให้ไปนอนเฝ้าบ้าน
เมื่อเดินทางไปต่างประเทศนานๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เห็นด้วย คนไทยไปไหนไม่ค่อยเป็นตัวปัญหา อยู่ไหนก็ได้ กินอะไรก็ได้
เพราะคำว่า เกรงใจ นี่แหละ บางทีอะไรจะเกรงใจมากมายขนาดนั้น

ขนาดคนเก่ง ยังเก่งเงียบ ๆ เลยค่ะ พอคนชมครูบาอาจารย์ชม ยังมีหน้าแดงให้เห็น ที่คนชาติอื่นยังอวดตัวต่อได้อีก

ที่จริง ข้อเสียอันเดียวที่เห็นคือ คนไทยพูดภาษาอังกฤษบางคำไม่ชัด พอสื่อสารแล้วมีการถามกลับจะอาย แค่นั้นเองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คนจีน เกาหลี เกาะกลุ่มกันมากกว่า เพราะจำนวนเยอะกว่าด้วย

คนไทยมีหลายแบบ แต่หลายคนก็ติดไม่ค่อยยอมพูดภาษาอังกฤษเวลารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ

ตามความเห็นข้างบนเลย โดนมาเอง กลับไปเที่ยวเจออาจารย์แกขอให้อยู่บ้านเฝ้าหมาให้แกด้วย

ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เราเคยเจอคนไทยมามากมายที่ทำตัวนิ่งๆ ทำท่านิ่งๆ หรือ คนไทยที่ทำตัวเป็นลูกแมวเชื่องๆ หรือทำมึนๆ
แต่จริงๆ แล้วเขารู้มากกว่าที่เขาแสดงออกมาเพื่อตบตาให้ผู้อื่นตายใจ และ ไว้เนื้อเชื่อใจค่ะ

.
.
.
.

อุ่ย เหมือนพูดถึงเราเลยค่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
http://www.timeshighereducation.co.uk/story.asp?storycode=410274 จะเหมารวมก็ไม่ได้หรอกค่ะ แต่รู้จักอยู่หลายๆคนเหมือนกันที่มาเรียนโทปีนึงแล้วได้แต่เพื่อนคนไทย ทำงานกลุ่มก็ทำด้วยกัน ไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน ทำวิทยานิพนธ์ส่งยังช่วยกันทำเลย -_-'
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เหมือนจะมีแต่แนว ๆ เด็ก ๆ ที่มาเรียนอย่างเดียว ขอตอบในฐานะคนวัยทำงานแล้วที่มาทั้งเรียนต่อและมีครอบครัวบ้างนะค่ะ

เท่าที่เจอ น้อง ๆ นักศึกษาไทยค่อนข้างจะปรับตัวง่ายนะค่ะ ออกจะป๊อปซะด้วยซ้ำ เพราะได้ยินเสียงชื่นชมจากบรรดาอาจารย์ให้ได้ยินบ่อย ๆ ว่าคนไทยน่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส เก่ง มีน้ำใจ เข้ากับเพื่อน ๆ ได้ง่าย เสียแต่ส่วนใหญ่จะเจอคบแต่เพื่อนทางเอเชียเหมือนกัน ไม่ค่อยจะได้เพื่อนเจ้าของถิ่นกันซักเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจ คนที่นี่เปิดรับยากมาก คุยได้ ทำงานด้วยได้ แต่ไม่ขอสนิทว่างั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตอนเราไปแลกเปลี่ยนมีแต่คนบอกว่าเด็กไทยเฟรนด์ลี่มาก
เวลาเห็นเด็กบางชาติที่มาคนเดียวไปทักเค้าก่อนประจำ

ส่วนเรื่ิองปรับตัวก็ไม่เห็นยากอะไรนะค่ะ อย่างอาหารฝรัางยังเอามาทำกินแบบไทยๆได้เลย 5555


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เท่าที่มายังไม่เจอปัญหาอะไรค่ะ จะมีเพื่อนซาอุที่ชอบคุยภาษาถิ่นกันเองในห้องประจำ ในระหว่างเรียน ทั้งๆที่ อ. เตือนแล้วว่าให้พูดแต่ภาษาอังกฤษ

ส่วนคนไทยด้วยกันก็เห็นปรับตัวกันได้ทุกคนไม่เห็นใครมีปัญหาแหะ รึเราเจอคนไทยไม่เยอะก็ไม่รู้


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ผมมองว่าคนไทยเข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะครับ เหมือนที่คห 10 ว่าไว้เรื่องความเกรงใจ มันทำให้ conflict ลดลงไปเวลาเข้าสังคมหรืออยู่ร่วมกับคนอื่น ลึก ๆ แล้วอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยจริงใจ แต่ มันดึงดูดคนอื่น (โดยมากฝรั่ง) ให้เข้ามาหาได้ง่ายกว่าชาติอื่น

คนไทยยิ้มง่ายครับ ถือว่าเป็นข้อดีเมื่อไปเจอกับสังคมใหม่ ๆ

เรื่องปรับตัวยาก มันแล้วแต่คนมากกว่า

อย่างการแบ่งชั้นวรรณะ มันเป็นเรื่องของสังคมอยู่แล้วครับ เกิดมาแบบนี้มันก็ติดตัวไปแบบนี้แหล่ะ ชาติอื่นก็มีครับ เราไม่รู้เฉย ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ไม่จริงค่ะ ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน
คิดว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะคะ

ส่วนตัวไปเรียน NZ ตั้งแต่อายุ 12 เป็นเด็กไทยคนเดียวในรร.
มีเด็กญี่ปุ่น เกาหลี จีน หลากหลาย แต่เราเป็นเด็กเอเชียที่มีเพื่อนเยอะที่สุดในโรงเรียนและครูทุกคนรู้จัก

แอบคิดว่าคนไทยเข้ากับคนง่ายด้วยซ้ำ เพราะเราจะชอบยิ้ม
ตอนไปอยู่แรกๆ ไม่เข้าใจอะไรก้ยิ้มไว้ก่อนเลยค่ะ เป็นมิตรกับทุกคน
จะฝรั่ง จะเมารี เราได้หมด จัดไป อย่าให้เสียที่พ่อแม่ให้โอกาสมาเรียน ปรับตัวง่ายมาก ไม่ใช่ว่าไม่คิด ไม่พูด แต่ถ้าเป็นเรื่องง่ายๆ อย่าง กินอะไร ทำอะไร เราไม่ซีเรียส ไม่จุกจิกค่ะ เพื่อนๆ เราก้ไม่เคยดูถูก เชื้อชาติอะไร ผิวสีอะไร คุยได้หมดเลย

แล้วแต่คนจริงๆ ค่ะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
คิดว่าปรับตัวยากเรื่องการเรียนค่ะ เพราะเหมือนบ้านเราฝึกมาอ้อมๆ ให้รับข้อมูลอย่างเดียว เวลาเรียนเลยไม่กล้าแสดงความเห็น ไม่กล้าโต้แย้ง

แต่เรื่องความเป็นอยู่ คิดว่าคนไทยปัญหาน้อยนะคะ
ส่วนเรื่องคบเพื่อน ที่คบแต่คนเอเชีย เพราะคนผิวขาวบางส่วนเค้าไม่อยากจะคบเรามากกว่าค่ะ 5555


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ถ้าเป็นเรื่องการเข้าสังคม ความเป็นมิตร ยังไงคนไทยถือว่าไม่ได้แย่นะคะ
เด็กไทยที่ที่เราอยู่มีเพื่อนหลากลายชาติมาก คนรู้จักเยอะ อาจารย์ก็รัก
ขนาดเราเป็นคนขี้อายมากกกกก ยังมีคนให้ความสนใจเข้ามาคุยด้วยเยอะแยะ
ไอ้เราก็อายไม่รู้จะทำตัวยังไง ได้แต่ยิ้ม แหะๆ

แต่ยอมรับว่าเด็กไทยปรับตัวเรื่องภาษายากค่ะ
เทียบกับประเทศทางเอเชียด้วยกันเราค่อนข้างช้ากว่าเค้า
ตัวเรานี่ช้าลงหลุมเลย ตอนเตรียมภาษาก็ง่อยที่สุดในห้อง
สงสัยจะแก่เกินเรียนภาษาที่สามแล้วมั้ง555
เข้ามหาลัยเป็นนักเรียนต่างชาติคนเดียวในคลาสอีก ง่อยไม่รู้จะง่อยยังไง
ถึงจะเป็นอย่างนี้อาจารย์ก็เอ็นดูเรานะ เรียกเราว่าแม่ตุ๊กตาน้อย 555


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เห็นด้วยกับหลายๆ คห.ข้างบนนะครับ. ตอนนี้ผมมาอเมริกาได้ 7เดือนแล้ว ตอนนี้เรียนอยู่ middle จะเข้า ไฮสคูลปีหน้า.

เรื่องภาษาครับ เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผม ผมมีพื้นฐานมาจากไทย ค่อนข้างแน่น เพราะรร.ผมสอน EP แต่พอมาใช้จริง มันไม่กล้าครับ ไม่กล้าพูด เพราะสำเนียงมันเพี้ยน. แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วครับ

2. เรื่องธรรมเนียมครับ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนขี้อาย เห็นใน รร. เด็กส่วนมาก กอดกัน จูบกัน ซึ่งมาแรกๆ อยู่ที่ไทย จะกอดกันส่วนมากก็จะเป็น แฟนกันซะมากกว่า.

3.สภาพจิตใจครับ อันนี้หนักสุด คิดถึงคนที่ไทยครับ มันจะคิดขึ้นมาเองว่า มีหลายสิ่งที่ยังไม่ได้ทำที่ประเทศไทย

.. ขอบคุณครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
เราว่าคนจีน ปรับตัวยากกว่าอีก
ส่วนใหญ่ ไม่พูดกับฝรั่งเลย เกาะกลุ่มกันสุดๆ
คนไทยยังพูดกับแขก กับชาติอื่นบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
คิดว่าเป็นมาจากพื้นฐานครอบครัวและปมในคนนั้นมากกว่าค่ะ

เท่าที่พบก็เคยเจอ ประเภทข้าพเจ้าเริ่ดมากกกกกกกกกกก
กับ คนดีจริงๆๆ อีกคนพยามยามประจบ
555555555555
แต่ที่...แท้แน่นอนคือ...เมื่อมีโอกาสไปเรียน
ก้อควรฝึกภาษานั้นให้เข้มแข็ง สมกับเงินที่ลงทะเบียนเรียนนะค่ะ
แตกกลุ่มไปคบต่างชาติบ้างก็ดีค่ะ
ไม่ใช่เช้าไปกะพี่ไทย
กลางวัน ทานกะพี่ไทย
นั่งเรียนกะพี่ไทย
เย็นกลับกะพี่ไทย
นอนห้องเดียวกะพี่ไทย

อย่างนี้เสียดายค่าเรียนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 23