โดนปฏิเสธVISAอเมริกามาครับ ทำยังไงดีเครียดครับ

ขอคำแนะนำครับ

เรื่องของเรื่องคือ
ผมจะไป อเมริกาครับในช่วงปลายปี ประมาณ3 อาทิตย์ไปกับพี่ที่รู้จักอีกคนนึงอีกคนหนึ่งที่เค้าเป็นคนไทยเคยไปเรียนที่อเมริกาและจบมาทำงานที่นั่นก็เลยได้เป็นcitizenที่นั่น ผมจึงเลือกไปกะเค้าเพื่อจะๆด้แนะนำทางไปได้สะดวก
และผมมีเพื่อนเรียนโทอยู่ที่นั่นด้วย
เลยมีแพลนว่าถ้ามารัฐที่เพื่อนอยู่ก็จะไปพักอพาร์ทเม้นของเพื่อน แต่ถ้าไปเที่ยวที่อื่นก็จะไปพักโรงแรมตามปกติครับ
ตัวผมเพิ่งเรียนจบทำงานมาประมาณปีกว่าๆแล้ว และมีใบรับรองทำงานพร้อม
รวมถึงstatementก็ให้ที่บ้านโอนมาให้1เดือนก่อนจะสัมภาษณ์ เป็นตัวเลขประมาณ2XX,XXX

ทีนี้ตอนสัมภาษณ์เป็นแบบนี้ครับ

เจ้าหน้าที่: ไปทำไรที่นั่น
ผม:ไปเที่ยวครับ
จนท: ไปไหนบ้าง
ผม: NY Boston
จนท:ไปช่วงไหน
ผม: 15Dec-5Jan,13
จนท:เคยไปไหนบ้าง
ผม:ฮ่องกงปีละครั้ง
จนท: ทำงานที่ไหน
ผม:บลาๆๆๆๆ
จนท:เงินเดือนเท่าไหร่
ผม:25XXX
จนท:ไปกับใครกี่คน
ผม:กับเพื่อนอีก1คน
จนท: เชคในระบบ ใช่เพื่อนคนนี้ไหมนายXXX
ผม:ป่าวครับ เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนที่อยู่ที่อเมริกาเรียนโทอยู่(ผมกรอกชื่อเพื่อนที่อยู่ในอเมริกาในds160)
จนท:เพื่อนคุนนาย XXXเปลี่ยนชื่อมารึป่าว
ผม:ผมจำๆได้ว้าเพื่อนเคยเปลี่ยนชื่อนานแล้วตั้งแต่อยู่มัธยมเลยบอกว่าเคยเปลี่ยนแต่จำชื่อเก่าไม่ได้
จนท:ไล่ถามว่าชื่อ เอไหม บีไหม ซีไหม
ผม:ไม่ใช่ครับผมจำไม่ได้
จนท:แล้วไปกับใคร
ผม:ไปกับนายY (ที่เคยบอกตอนต้นว่าเค้าเป็นcitizen). แต่ผมบอกชื่อจริงไปไม่ได้บอกนามสกุลเพราะผมจำนามสกุบลพี่Yไม่ๆได้
จนท:นายY คือใครรู้จักได้ไง และอายุเท่าไหร่
ผม:บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนท:เค้ามีวีซ่ายัง
ผม: เค้าไปเรียนและทำงานที่นั่นนานแล้วเค้าน่่าจะมีวีซ่าถาวร
จนท: นั่งพิมมมมอยุ่นานมากและถามอีกว่าเค้าเปลี่ยนชื่อรึป่าว
ผม:ไม่ทราบครับ ไม่น่าเปลี่ยน
จนท:เค้าชื่อนี้แน่ใช่ไหม...และพิมอยุ่อีกนานนนนมากกกก
ผม:ใช่ครับชื่อนี้
จนท: นั่งพิมอะไรสักอย่างเมือนค้นหานานกกกก และบอกว่าเสียใจด้วยหลักฐานไม่เพียงพอให้กลับมาใหม่อีกครั้ง
ผมเสียใจมากที่ไม่ได้ขอถ่ายpassport บัตรประชาชนพี่Yเค้าไปให้จนทดูอ้างอิงเพื่อหาข้อมูล
สิ่งที่เจ้าหน้าที่ดู
จนทขอดูแค่ ใบรับรองบริษัทvisaแค่นั้น


(Pointนี้ จากที่ถามพี่Yตอนหลัง พี่บอกว่าพี่เค้าเป็นus citizen จึงไม่มีvisa...ผมไม่ได้แจงจนทครับว่าพี่เปนcitizen เพราะผมไม่รู้ )

1.ผมควรทำอย่างไรดีครับจากเหตุการณ์ครั้งนี้
2.ผมพลาดหรือทำอะไรผิดไป เหตุผลเค้าปฏิเสธ ผมคือเรื่องเพื่อนที่เค้าพยายามหาข้อมุลหรือเปล่า และเรื่องพี่Yรึป่่าวที่เค้าหาvisaไม่เจอรึป่าว
3:เค้าจะบันทึกข้อมุลครั้งนี้รึป่าว แล้วเค้าจะใช่ข้อมุลนร้มาถามครั้งหน้าไหม
4:ถ้าผมไปสัมภาษณ์ครั้งหน้าผมต้องทำอะไรเพื่อกันเค้าถามบ้าง
5: ถ้าผมสัมภาษณ์ครั้งหน้า ผมเปลี่ยนแปลงรายละเอียดได้ไหม โดยไม่ต้องแจ้งว่าพักกับเพื่อนหรือแจ้งว่าไม้รุ้จักใครที่นั่น และไปหาโรงแรมเอง และแจ้งคนที่ไปด้วยว่าเป็นคนอื่นไม่ใช่พี่คนนี้
ผมสามารถแจ้งอีกข้อมุลได้ไหมในการสัมภาษณ์รอบสอง ที่ผมถามแบบนี้เพราะว่า ผมเห็นมีคนคอยบอกว่าให้แจ้งว่าไม่รุ้จักใครที่นั่น แต่ผมด้วยความซื่อและอยากบอกตามความจริงจึงบอกไปตรงๆ

รบกวนช่วยด้วยครับ

คิวเดือนนี้ยังว่างอีกไหมผมอยากกลับไปอีกครั้งมาก

ความคิดเห็นที่ 1
จุดพลาดที่ยิ่งใหญ่คือ การไปอ้างว่ามีเพื่อนไปเรียนและทำงานใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนกลายเป็นซิติเซ่น เพราะการอ้างแบบนี้กงสุลก็จะคิดไปได้ว่า ผู้ยื่นวีซ่าเมื่อได้ไปแล้วก็คงทำแบบเดียวกับเพื่อนแล้วกลายเป็นซิติเซ่นที่นี่ไม่กลับไป การไปอ้างว่ามีคนรู้จักโดยเฉพาะไปเป็นวีซ่า นร แต่แล้วกลับทำงานและกลายเป็นซิติเซ่น มันไปขัดกับเจตนารมณ์ของการขอวีซ่าชั่วคราว

เรื่องข้อมูลนี้กงสุลเขาเรคคอร์ดไว้แน่นอนแล้ว จะขอใหม่ก็ต้องเตรียมตามที่เขาบอก คือหลักฐานไม่เพียงพอ อะไรที่ไม่เพียงพอก็ต้องเตรียมไปให้เพียงพอ แล้วลองขอใหม่


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้างั้นผมควรทำไงดีครับ
ครั้งหน้าผมจะแจ้งได้ไหมครับว่าเพื่อคนอื่นจะไปกับผมแทน ไม่ใช่เพื่อนที่เปนcitizenไปแทน และเลือกไปที่รัฐอื่นแทนจะๆด้ไม่ต้องพักกับเพื่อนตัวเองที่เรียนโทอยู่

พอแนะแนวทางให้ผมได้ไหมครับ ขอบคุณครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คุณจะไปเปลี่ยนข้อมูลเป็นเพื่อนคนอื่นหรือไปที่อื่นเพื่อมาสนับสนุนเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น กลับจัยิ่งเป็นการตอกยำว่าคุณจะต้องไปให้ได้ คือไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล กงสุลก็จะยิ่งปฏิสธเข้าไปอีก สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือ Your home country tie ความผูกพันที่มีของตัวเองในเมืองไทย ว่าไปแล้วข้าฯ จะต้องกลับมาตายรังแน่ๆ ยกตัวอย่างให้เห็นอีครั้งนึง (เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้) มีคนรู้จักแกเป็นแม่ค้าขายของในปากคลองตลาด มีพวกมาชวนไปทัวร์วัดไทยในแอลเอ แกไปขอวีซ่าโดยในบัญชีมีเงินแค่ 6-7 หมื่นบาท แต่แกหอบเอาใบเช่าแผงในตลาดที่แกมีไว้ปล่อยให้คนเช่าอยู่หลายแผงไปแสดงกับกงสุลว่า แกมีความผูกพันในเมืองไทยที่ไปแล้วต้องกลับมาแน่นอน เพราะแกต้องกลับมาเก็บค่าเช่าแผงของแก แกได้วีซ่ามาสิบปี ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่ไปด้วยกัน มีเงินในบัญชีคนละไม่ตำกว่าหกหลัก กลับไม่ผ่าน เป็นแม่ค้าเหมือนกัน แต่ไม่มีใบสัญญาเช่าแผงไปแสดง


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เขา Record ไว้แล้ว ยากที่เขาจะเชื่อ
ถ้าคุณบอกชื่อคนอื่นที่จะไปด้วย เขา check ก็รู้คนที่จะไปด้วยมี visa หรือยัง
ยิ่งคุณ make ชื่อไป ยิ่งติดบ่วง หนักเข้าไปอีก

คุณจะแจ้งใหม่ว่า ไปเมืองอื่น ก็เหมือน เชือกรัดตัว ยิ่งดิ้นยิ่งแน่น


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
มีทางเดียวยื่นเหมือนเดิม
แล้วเอาข้อมูลเพื่อนคนที่จะไปด้วยที่เป็นซิติเซ่นนะ
บวกกลับความผูกพันธ์ที่คุณมีต่อเมืองไทยถ้างวดนี้ไม่ผ่านก็คงต้องรออีกนาน


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
จริงๆ บอกว่ามีเพื่อน มาเยี่ยมเพื่อนไม่น่าจะเป็นปัญหานะ เพื่อนเราก็เพิ่มมาเยี่ยมเรา บอกว่ามาเยี่ยม ใส่ขื่อเราเลยว่ามาพักกับเรา

คุณอาจจะตอบไม่เคลียร์เรื่องกำหนดการเดือนทาง ใบรับรองงานมีเขียนวันลาเรียบร้อยมั้ย อาจจะช่วยได้
หาทางเน้นหลักฐานการกลับมาเป็นสำคัญ กับลำดับการไปเที่ยวทำแผนให้ดีๆ ไปเลย
จะไปอีกแค่เดือนสองเดือนแต่ยังไม่แน่ใจอะไรเลยก็ไม่น่าเชื่อ

เงินอยู่ๆ เข้าบัญชีก็อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่น่าพูดถึงเพื่อนทั้งสองคนเลย ชื่อนามสกุลเราก็ไม่รู้ชัดเจนจุดนี้น่าพลาดที่สุด ประมาณว่าเป็นเพื่อนกันแต่ไม่รู้ชื่อได้ไง

เงิน 200,000 กับตำแหน่งงานเราว่าโอเคแล้วสำหนับวิซาท่องเที่ยว


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
-มีใบลางานไหมค่ะ ในใบรับรองเขียนด้วยไหมว่าจะกลับมาทำงานวันไหน
-ไปครั้งหน้าเอาเอกสารของเพื่อนไปด้วยให้หมด หรือให้เพื่อนเขียนจดหมาย
ใส่ชื่อนามสกุล ที่อยุ่ ที่เรียน เบอร์ติดต่อให้พร้อมค่ะ เป็นการอุดช่องโหว่ของรอบนี้
-เตรียมแพลนเที่ยวไปให้พร้อม วันไหนไปไหน ไปเมื่อไหร่ กลับเมื่อไหร่


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าอยากจะเสี่ยง ไปขออีก ก็ทำตาม คคห ๘ แล้วก็ควรจะบอกว่า ใช้เงินของตัวเองเที่ยวอาทิตยฺิ ละแสน
โดยไม่พักกับใคร ทำแผนการเดินทางและเที่ยวให้ดี
ขอให้โชคดี แล้วบอกผลด้วยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คุณไปอ้างนายY แต่คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวนายyเลย แม้แต่นามสกุล กงศุลเขาถามว่ารู้จักกันอย่างไร ความชัดเจนตรงนี้ก้อน่าจะมีปัญหาแล้ว แม้แต่เพื่อนอีกคน คุณก้อไม่มีรายละเอียดเขาเหมือนกัน แล้วไปเอาชื่อเขาใส่ไปทำไม ตอบคำถามเขาไม่ได้ ถ้าคุณอยากเสี่ยงลองอีกครั้ง คุณต้องเอารายละเอียดของเพื่อนถ่ายเอกสารแนบไปด้วย ทั้งสองคน หน้าวีซ่าหรือใบซิติเซ่น พาสปอร์ต รายละเอียดของทั้งสองคน ให้มากที่สุด เพราะจะเปลี่ยนแปลงอะไรอีกไม่ได้ เพราะเขาลงข้อมูลไว้หมดแล้ว ถ้าเพื่อนมีการเปลี่ยนชื่อ ต้องรู้ชื่อเดิมเขาด้วย และทำไมถึงเปลี่ยน ตามคห 1 4 7 8 9 บอก ขอให้โชคดี เราก้อเคยโดนปฏิเสธมาเหมือนกัน กลับมาทำการบ้านใหม่ตั้งคำถาม แล้วตอบให้ได้ อย่าอื้อ อ่าต่อหน้าเจ้าหน้าที่ มีพิรุธทันทีในสายตาเขา ....


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
มองตาท่านกงสุล ตอบคำถามชัดเจน ข้อมูลที่อ้างถึงต้องแม่น และเป็นจริง ท่านกงสุลอาจจะมีข้อมูลของเพื่อนคุณอยู่ในมือโดยที่คุณไม่รู้ก็ได้ ครั้งหน้าขอให้โชคดีนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
อย่าไปเครียด ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
มีคนรู้จักบอกได้ค่ะ ของเราทั้งแม่ทั้งน้องสาวเราเลยอยู่ที่นั้น เคสนี้ยังดูยากกว่าอีก ^ ^" แม่กับน้องเราตอนนี้ถือใบเขียวทั้งคู่ด้วย

บอกความจริงให้หมด เค้าถามอะไรต้องตอบให้ได้ เท่านั้นแหละ คุณตอบคำถามเค้าไม่ได้เลย เค้าเลยไม่ให้ผ่าน(มั๊ง)


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
agree with everyone
you should post all the questions before an interview, not after.


ตอบกลับความเห็นที่ 14