F1 วีซ่านักเรียน อเมริกา DS160 part Work/Education/ trainning information

เรากรอก ds160 ตรงส่วน Work/Education/Trainning information ไม่เห็นมีช่องให้ใส่ education กะ trainning เลย คือเราทำงานมาแล้วสองที่ ตรงส่วน present เราใส่ที่ทำงานปัจจุบัน ตรงส่วน prevoius เราใส่ที่ทำงานที่เก่า พอ click "next" ก็เป็นหน้า security and background information
เรากดapply ไปแล้ว มานั่งนึกดูว่าเราขอวีซ่านักเรียนเค้าน่าจะถามเรื่องการศีกษาบ้าง รบกวนผู้ร้ช่วยตอบหน่อยนะคะ

- คือเราจะไปลองเรียนภาษาดูและยังไม่แน่ใจอาจจะต่อโทหลังจากนั้น ขอถามอีกนิด เรื่องเอกสารรวมถึงขั้นตอนนะค่ะ

1 กรอก ds 160 => กรอกไปแล้ว apply ไปแล้ว (มือไวใจเร็วไปหน่อย) แต่สงสัยเรื่อง ...
1.1 education background info ..ต้องใส่ป่าวค่ะ ถ้าต้องใส่ มันอยู่ตรงไหน
1.2 sponcer : เราใส่ parent ชื่อแม่ไปค่ะ ในสเตทเมนท์แม่ มีอยู่ประมาณ 1.4 ล้าน ถ้าเราจะเรียนโทต่อ อาบอกว่าจะช่วยออก เราควรใส่ชื่ออาไปในฟอร์มเปล่าค่ะ หรือว่า ขอแค่sponcer letter + statement จากอาไปในวันสัมภาษณ์ก็พอ
1.3 เราใส่ intend length of stay in US ไป 3 ปี เพราะเผื่อเวลาถ้าเราจะเรียนโทไปด้วย แต่ใน I-20 ระบุ 1 ปี สงสัยเพราะเราลงเรียนไปแค่ 6 เดือน หรือเงินน้อยไปก็ไม่รู้ แบบนี้ผิดป่าวค่ะ
1.4 ถ้าเราควรจะต้องแก้ ตาม 1.1/1.3 เราต้อง regist ds 160 form ใหม่รึเปล่า เพราะเรากด apply ไปแล้ว กลับไปแก้ไม่ได้ หรือ เราสามารถไปแก้ที่สถานทูตได้

2. I-20 ==> ทางโรงเรียนเพิ่งส่งมาให้ตอนวันพฤหัส ใช้ usps อีก 7 วันน่าจะถึง ใช้สำเนาในวันสัมภาษณ์ได้ไหมค่ะ เราให้เค้าสแกนส่งมาทางเมล์ จะมาจ่ายพวก sevis fee ก่อน

3. Sevis fee ==> ใช้ใบเสร็จที่เราprint ออกมาเลยใช่ไม๊ค่ะ เราเลือกexpediteไป แต่ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไร

4. ซื้อ pin จองวันสัมภาษณ์ ==>ซื้อแล้ว แต่ยังจองไม่ได้ต้องรอวันจนทร์ ไม่รู้จะมีวันว่างใกล้ๆหรือปาว

5 จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า ==>จะไปจ่ายวันจันทร์ค่ะ

6. ไปสัมภาษณ์

7. ซื้อตั๋ว ควรจะซื้อก่อนไม๊ค่ะ หรือรอให้วีซ่าผ่านก่อนดี (กลัวตั๋วแพง)

เอกสารที่ต้องใช้ในวันสัมภาษณ์

1. passport
2. confrimation of DS-160
3. sevis fee
4. I-20
5. statement ของ sponser + ของตัวเอง (เงินในบัญชีเราไม่ไม่ถึงแสนอ่ะค่ะ แต่เราซื้อหุ้นกะกองทุนไว้ เอาไปให้เค้าดูได้ไหมค่ะ)
6. จดหมายรับรองการทำงานของตัวเอง ไม่รู้มีประโยชน์ป่าว เพราะเรายื่นใบลาออกไปแล้ว effective 31 Oct ..ใน I-20 ระบุวันเริ่มเรียน 26 Nov. เค้าจะถามเราไหมเนี่ย
7. จดหมายรับรองการทำงานของ sponser
8. รูปถ่าย (เอาไปเผื่อๆ)
9. transcript (เอาไปเผื่อๆ)


ตอนแรกเรากะจะไปลองอยู่ลองเรียนด้วยวีซ่าท่องเที่ยว แต่ไม่อยากใช้วีซ่าผิดประเภทและเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมา เลยต้องขอวีซ่านักเรียนใหม่ค่ะ อะไรๆมันเลยดูรีบไปหมดเพราะเรายื่นใบลาออกแล้ว ไม่อยากว่างนาน

ยังไงรบกวนผู้รู้ช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคำตอบและคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ






ความคิดเห็นที่ 1
ตอบข้อ 1.2, 1.3 ครับ
เอา statement ไปให้พอที่ระบุใน I-20 ใบแรกก็พอครับ แล้วถ้าไม่แน่ใจจะต่อโทหรือเปล่าให้ใส่ระยะเวลาแบบรวมต่อโทไว้ดีแล้วครับ เพราะจะได้ VISA ทีเดียวเลย 5 ปี ถ้าเลือกยื่นน้อยตอนนี้แล้วเปลี่ยนใจตอนหลังจะยุ่งครับ เวลาสัมภาษณ์ก็บอกว่าไปเรียนภาษาก่อน แล้วจะสมัครป.โทต่อหลังเรียนจบ เค้าอาจจะถามรายละเอียดนิดหน่อยพวกจะเรียนอะไร, ที่ไหน, เคยสอบโทเฟลหรือยัง ก็เตรียมคำตอบไว้หน่อย

เพิ่มเติมว่าถ้าหลังจากเรียนจบภาษาจะต่อโท จะต้องขอ I-20 ใหม่ ถึงตอนนั้นอาจจะต้องยื่น statement ใหม่ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของป.โท(เฉพาะปีแรก)ครับ (ต้องมี statement ให้ทางมหาวิทยาลัยก่อนครับ เค้าถึงจะออก i-20 ใบใหม่ให้)

ข้ออื่นๆ นี่ไม่แน่ใจครับ ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เอกสารต่างๆ น่าจะใช้ของจริงนะครับ

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
1.2 ทางจนท. จะขอดู Bank Statement ทั้งหมด และ Letter of Sponsership ครับ
1.3 ค่อยๆทำทีละอย่างนะ ถ้าตั้งใจไปเรียนภาษาก็ใส่ 1 ปีไป แต่ถ้าคุณจะไปเรียน Master Deg. คุณก็ต้องวางแผนไว้ให้ครบถ้วนและชัดเจน ก็ใส่ไป 3 ปี จนท.เขาก็จะถามเพิ่มเติมในรายละเอียด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการเดินทางไปของตัวคุณเองน่ะครับ
1.4 เซฟเป็นไฟล์ออกมา แก้ไขได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องไปเริ่มต้นทำใหม่ครับ

2. ใช้ I-20 ตัวจริงครับ ใจเย็นๆนะ

3. ปริ้น Sevis Fee Received ที่ได้จากในเน็ตเอามาใช้ได้เลย

4. เข้าไปดูวันไว้ก่อนดีกว่าครับ รอเอกสารครบ จากนั้นก็จอง

7. ราคาไม่หนีกันมากครับ ยกเว้นใกล้วันเดินทางมากๆๆๆ ถ้าห่างเป็นเดือนก็ไม่เปนไร รอให้ทุกอย่างเรียบร้อย ได้ F-1 ก่อนแล้วค่อยไปจองตั๋ว

---
คุณจขกท. วางแผนและทำตามขั้นตอนได้ดีมากครับ แต่ใจเย็นๆลงอีกหน่อยก็ดีนะครับ ดูรีบๆร้อนๆนะ
ผมมาช้าไปไหมเนี่ย ><"

ตอบกลับความเห็นที่ 2