อยากทำเรื่องบุตรบุญธรรม แม่ๆ ที่อยู่ต่างแดนปลาดิบ

สวัสดีค่ะ วันนี้มีโอกาสได้เล่าเรื่องทำ เรื่องบุตรบุญธรรม ให้เพื่อน ๆ ที่อยู่ต่างแดนญี่ปุ่น

..เล่าสู่กันฟัง...จะอ่านจบกันใหมหนอ?...^^

ล่าสุดที่ผ่านมา พลอยได้มีโอกาสกลับเมืองไทย...เมื่อปลายเดือนก.ค.2012
อยู่ถึงเทศกาลโอบ้ง กลับ15สิงหา 2012

มีลูกสาวคนไทย 1คน น้องเนเน่ ปีนี้ อายุ10ขวบ
เป็นลูกที่อยู่ใต้อำนาจแม่ทั้งหมด นามสกุลแม่

ก่อนกลับไทย ศึกษาหาข้อมูลอยู่หลายที่มากมาย ถามเพื่อนๆ ในพันธิป
และเพื่อนๆ ที่รู้เรื่องกฎหมาย
และประสบการณ์เพื่อนๆ ที่เคยเจอมาเล่าสู่กันฟัง พลอยต้องขอบคุณเพื่อนๆ มากๆ เลยค่ะ
ที่ให้คำแนะนำพลอย ตลอดเลย....พลอยก็เตรียมเอกสารทั้งหมด ไม่รู้จะช่วยได้ใหม
แต่ก็เตรียมเผื่อไว้ พลอยคงไม่มีโอกาสได้กลับเมืองไทยอีก
กลับไทยรอบนี้ น้องสามี เป็นคนจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้ค่ะ
ดีใจและตึ้นตันมากๆ พิการขาเดินไม่ได้ตั้งแต่อายุ 5ขวบ น้ำใจงามมากๆ

พลอยต้องเตรียม เอกสารให้มากที่สุด กลัวหลายๆ อย่าง
-กลัวที่จะต้องทำเรื่องนานเป็นเดือน
-กลัวที่จะต้องเจอพ่อน้องเนเน่
-กลัวจะไม่ผ่าน


ช่วงที่อยู่เมืองไทย ก็เตรียมเอกสาร ไปที่อำเภอเชียงรายเลยค่ะ...
ลองถามเปลี่ยนนามสกุลอย่างเดียวจะได้ใหมน่า...????
เจอแค่ด่านแรก...พนักงานติดต่อสอบถามแค่นั้น
บอกว่า..ถ้าทำเรื่องขอรับบุตรธรรมชาวต่างชาติ ให้ไปที่ศูนย์พัฒนาสังคม ของ อ.เชียงราย
พลอยก็ถามต่อว่า ทำที่เชียงราย ได้หรือค่ะ?..ไม่ต้องไปกรุงเทพฯ ก็ได้หรอ?
พนักงานบอกว่า ทำได้แต่ต้องเอาพ่อใหม่เด็กมาเซ็นต์รับบุตรด้วย....
เซ็นเสร็จต้องเปลี่ยนชื่อ-สกุลที่อำเภอ สถานทีเกิด ที่นี้ที่เดียว

อ้าว..ทำยังงัยหล่ะคราวนี้!! แล้วสามีจะมาไทย แค่3วันเอง เวลาแค่นี้คงไม่พอ
พลอยเลยถอดใจ 50/50ไปเลย ไม่ทำล่ะ...

สามีก็โทรมาท่วงอยู่เกือบทุกวัน ทำเรื่องเนเน่ได้ยัง ถึงใหนล่ะ ...
บอกสามีไป..โอ้ยย..มันยากนะกว่าจะได้
แล้วเธอ มาไทยแค่ 3วันจะทำเรื่องยากๆ
แบบนี้ให้เป็นเรื่องง่ายหรอ???..
สามีบอกแจ้งเรื่องที่ศาลซิ..เทศบาลญี่ปุ่นแนะนำมา
พลอยบอกว่า นั้นญี่ปุ่น ไม่ใช่เมืองไทยซักหน่อย เอะอะ!!อะไรๆ ก็ศาล..
เฮ่อออ..เพลีย

พลอยก็ติดต่อสอบถามพี่ๆ แนะนำ ถามที่กงศุล โทรถามกงศุลเชียงใหม่
พนักงานบอกว่าไม่รับเรื่องบุตรบุญธรรม รับทำเรื่องวีซ่าคนไทย-ญี่ปุ่นนะค่ะ..
(น้ำเสียงแบบ จะวีนนิดๆ แต่ก็พูดดีๆ คงแบบถามผิดทีละ อยากจะด่าเราแน่นเลย)

ทำไมอ่ะ..เราถามแค่นี้ไม่ได้หรอค่ะ
คนเรามันจะฉลาดไปหมดหรอ...อยากจะถามเพื่อเรียนรู้
ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำเลย ถามนะมันผิดตรงใหนค่ะ?>.< (อารมณ์เสีย)

ที่สุดท้าย ที่เพื่อนๆ แนะนำมา
ที่ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
255 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
เวปไซต์ http://www.adoption.dsdw.go.th



พลอยโทรถามก่อนจะไป กทม.
พนักงานบอกว่า มาแค่ 3วัน เรื่องคงไม่เสร็จ แนะนำให้อยู่เป็นเดือนเลยนะค่ะ ...

พนักงานเลยบอกสั้นๆ ว่าถ้าเป็นชาวต่างชาติญี่ปุ่น เค้ารับเด็กที่อายุไม่เกิน 6ขวบ
รับทำเรื่องบุตรบุญธรรมง่ายๆ เลย ถ้าอายุเกินจะทำเรื่องยากมากๆ...
พลอยเลยถามว่า ทำเรื่องบุตรบุญธรรมได้ที่ใหนบ้าง..
พนักงานบอกว่าทำได้ที่นี้เดียวเท่านั้น!!
ถามนานเกิน น้ำเสียงพนักงาน เหมือนขี้เกียจตอบแล้ว
พลอยก็เลย ขอบคุณค่ะ แล้วเค้าก็วางสายไป
น่ากลัววว...เหมือนเราผิดอะไร ที่ถามมากมาย เฮ่อ..
พลอยถอดใจจริงๆ เอาล่ะ จบเรื่องไปเลย ไม่ทำหล่ะเรา

ถึงวันที่ไปรับสามีที่สุวรรณ์ภูมิ ..นั่งรถบุ๊บ เรื่องลูกไปถึงใหน
พลอยอยากจะกรี๊ดดดด..แทนคำตอบจริงๆ ก็เลยอธิบายไปมันทำยากนะ มาแค่3วัน
อีกวันหนึ่ง สามีบอกจะไปทำเรื่องลูก นะ..
ทำได้ที่ใหน ..อ่อ..สามีนิ พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ งุงิๆ
พลอยเลยโทรไปกงศุล กทม. จะให้ถามคนที่พูดภาษาญี่ปุ่นอธิบายให้เค้าฟัง พลอยดันมาเจอพนักงาน ทำเสียงแบบอยากจะวีน ว่าที่นี้ไม่รับทำเรื่องบุตรบุญธรรมนะ
ต้องไปที่ศูนย์สตรีและเด็ก เขตราชเทวีซิ ..
พลอยก็ดัน โทรผิดไปรอบที่สอง ..พนักงานบอกเหมือนเดิม 555 ว่างสายโทรศัพท์เลยค่ะ (ใจร้าย)

จริงๆ พลอยอยากจะโทรไปถามที่กงศุลที่เชียงใหม่ เพราะมีสายกดเลือก สำหรับคุยกับคนญี่ปุ่น
แต่ดันโทรผิดไปลงกงศุล กทม..(ขอโท๊ดค่ะ)
พลอยก็โทรไปอีกรอบ ให้สามีคุยเลยค่ะ..คราวนี้ กระจ่างเลยสามี...เป็นยังงัยล่ะ..พนักงานพูดกับสามีดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงดีมากๆๆๆๆ เลยค่ะ >.< สงสัยคนละคนกันแน่นเลย เปลี่ยนมาคุยกับพลอยอยู่ค่ะ พนักงานแนะนำ หลายๆอย่างเลย และอธิบายให้สามีฟังอย่างละเอียด (โล่งใจ)

สุดท้ายก็ต้องไป สอบถามที่ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ถนนราชวิถี
พลอยก็คิดไปโน้น เจอหน้าพนักงาน เค้าจะใจดีใหมน่า ?
จะเหมือนคุยทางโทรศัพท์ใหมน่า?
คิดเป็นร้อยแปด ตื่นเต้น เอกสารจะทำได้ใหม
เข้าไปถึง ศูนย์แล้ว พนักงานประชาสัมพันธ์
ให้ไปรอในห้องสำหรับคนต่างประเทศค่ะ
พลอยไป มีอยู่ 3ราย พลอยรอเป็นคนสุดท้ายเลย..
เจอพนักงาน ชื่อคุณนวลทิพย์
พี่นวลทิพย์ ก็สอบถามทั่วไป เด็กคนใหน,อายุ,ชื่อสามีใหม่ สัมภาษณ์ปกติทั่วไป ไม่ดูเอกสารที่เราเตรียมมาให้เลยซักนิด แล้วเค้าบอกว่า ทำเรื่องจากญี่ปุ่นมายัง (ยังค่ะ) กรณีนี้ให้ไปถามเรื่องที่


(ISSJ) ที่โตเกียว ตามที่อยู่นี้
(อาจเขียนที่อยู่ผิด เพราะถ่ายรูปที่อยู่มานะค่ะ โทรสอบถามได้นะค่ะ)

International social service japan(ISSJ)
Mrs. Yaeko Otsuki Dircctor
Address; Nislumura Building
Room 601
6-18 Kamimeguro 3-chome,
Meguro-Ku,Tokyo 153-0051 japan
Tel; 03 3760 3471
Fax; 03 3760 3474
E-mail; [email protected]


พี่นวลทิพย์ แนะนำทุกอย่าง พูดดีมากเลยค่ะ
พลอยถามว่าต้องกลับมาเมืองไทยใหม?
ไม่ต้องกลับก็ได้ ทำที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ พนักงานจะประสานงานกันเอง
ที่ญี่ปุ่นเป็นศูนย์เอกชน ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ
รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ทำเรื่องรับบุตรบุญธรรม..
แต่รัฐบาลของเมืองไทยรับทำเรื่องบุตรบุญธรรมไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
พี่นวลทิพย์ แนะนำให้ ปรึกษาที่ญี่ปุ่นดีกว่าค่ะ ง่ายดี..(พี่เค้าใจดี) ^^
เอกสารที่พลอยเตรียมไป ไม่ได้ใช่อะไรเลย
รอทำเรื่องที่ญี่ปุ่นแล้วเค้าจะขอเอกสารส่งไปให้ที่ไทยค่ะ
เฮ่ออ!!! โล่งอก คาใจอยู่นาน เอาออกจากอกได้เลย กล้าๆ กลัวๆ
อยู่นั้นเรา..ถามที่ศูนย์ไปเลย กระจ่าง


วันที่ 15 สิงหา 2012 กลับถึงญี่ปุ่นอย่างปลอดภัย
และแล้วก็ได้คำตอบ คุณสามีโทรถามเรียบร้อยแล้วค่ะ ที่โตเกียว
พนักงานบอกว่าจะทำเรื่องบุตรบุญธรรม ไม่ต้องยกกันไปทั้งครอบครัวก็ได้ค่ะ
ไปที ค่าตั๋วบิน กลับเมืองไทยได้เลย พนักงานเค้าจะมาหาที่บ้านเลยค่ะ
ต้องไปเซ็นรับรองก็ต่อเมื่อ มีสัมภาษณ์ ให้สามีไปคนเดียวได้เลย ..
ว้าวววว!!! มันง่ายยังงี้จริงๆ หร่า

สามมีบอกอีกว่า!!! ค่าใช้จ่ายประมาณ 500,000เยน
ว๊ากกกเปงลม!! เท่า สี่คนแม่ลูกไป-กลับไทยเลยอ่ะ Y.Y
ของง่ายๆ ไม่ได้มาง่ายๆ อีกหล่ะ

แต่..ถ้ารอ ลูกอายุ ครบ 15ปี..ลูกเลือกสัญชาติได้เลย
ก็สามารถเป็นลูกของสามีญี่ปุ่นได้เลยง่ายค่ะ ..ฟรี!!
ว้าววว..แล้วเราจะหาทำเรื่องไปทำไมนิ..งง กะสามีจริงๆ เล้ย..

ส่วนลูกคนใหนถือ สองสัญชาติตั้งแต่อายุยังน้อย..
อายุครบ ยี่สิบปี ก็ต้องเลือกสัญชาติอยู่ดี..
แล้วจะให้ลูกทำเรื่องถือสองสัญชาติ ทำไมล่ะค่ะ เสียดายค่าใช้จ่ายเหมือนกันนะเนี้ย..

ตอนนี้ก็รอ ให้น้องเนเน่ ครบ15ปี เท่านั้นค่ะ
กว่าจะจบเรื่อง ยากๆ ก็ง่ายเหมือนกันเนอะ
เอามาเล่าสู่ให้เพื่อนๆ ฟังกันค่ะ ถามเพิ่มเติมหลังไมค์ได้นะค่ะ..ยินดีค่ะ^^

ถ้าสามีไม่เข้มงวด น่ารำคาญบ่อยๆ เรื่องนี้คงไม่จบแน่น ๆเลยค่ะ 555
ขอบคุณเพื่อนๆ ใจดี ที่แวะมาทักทาย ทุกคนนะค่ะ

ลูกๆ กับน้องสาว สามี จิตใจงาม จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับให้สี่คนแม่/ลูก
เดินไม่ได้ตั้งแต่อายุ 5ขวบ อยากให้แม่กะเนเน่กลับไปเที่ยวบ้าน ให้ตากะยายได้เห็นหลานๆ

ความคิดเห็นที่ 1
ดีใจด้วยนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ หาข้อมูลเกี่ยวกับการรับลูกบุญธรรมของคนที่อยู่ต่างประเทศแบบละเอียดๆแบบนี้ไม่ค่อยมีค่ะ (เราอาจจะหาไม่ดีเอง)
เคยไปติดต่อที่ราชวิถีเหมือนกันค่ะ ตอนไปเยี่ยมเมืองไทย ที่นั่นบอกว่าให้ยื่นเรื่องที่เมกา เพราะถิ่นที่อยู่ของเรา อยู่ที่เมกา และก่อนจบสิ้นกระบวนการ เจ้าหน้าที่ที่เมกาจะมาสุ่มเยี่ยมเราและเด็กที่บ้าน ส่วนเรื่องเอกสารทางนี้จะส่งเรื่องไปไทยให้ดำเนินการต่อเอง

เรากลับเมกา ติดต่อที่สถานกงศุล เจ้าหน้าที่บอกว่า คุณต้องไปยื่นเรื่องที่เมืองไทย แล้วทางนั้นจะส่งเรื่องมาให้เราดำเนินการต่อจากเค้า ทางเมกาไม่สามารถเป็นผู้รับเรื่องได้ เป็นเพียงผู้ประสานงานต่อจากไทยเท่านั้น

ขอนุญาตร่วมแชร์ประสบการณ์นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ลลิตยา
เล่าในสิ่งที่ตัวเองเจอนะค่ะ จริงๆ ก้อไม่รู้อะไรมากนะ ^^
ยินดีนะค่ะ ...


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
มีพี่ท่าหนึ่งอยู่ที่สวีเดน

ฝากเรื่องนี้มาให้ช่วยลงให้ค่ะ

ลองพิจารณาอ่านดูนะคะ

******************


ช่วยเข้าไปตอบให้พี่หน่อย เห็นหลายๆคนเข้ามาถาม แต่คำตอบและข้อมูลยังคลาดเคลื่อน มันจะทั้งเสียเวลาและโอกาส หากเดินผิดทาง

จากประสบการณ์การขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรณีที่เด็กเป็นญาติเราเอง

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เตรียมเอกสารของเด็กและพ่อแม่ที่จะรับเด็ก
นำเอกสารทั้งหมด>ไปติดต่อยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับบุตรบุญธรรม ณ.ถิ่นที่อยู่ปัจจุบัน
คุณจะได้รายละเอียดทั้งหมดว่า ต้องเตรียมเอกสารอะไร? เตรียมตัวอย่างไร?

ขอกระซิบว่าไม่ง่ายเลย ต้องทำตามสเต็พที่เขาวางไว้ ไม่มีการข้ามขั้นตอน
(ของเราทั้งคู่ เขาเช็คเราสองคนแม้กระทั่งภูมิคุ้มกันโรคร้ายต่างๆ ว่ายังมีอยู่หรือมี>แต่น้อยลง ก็ต้องไปทำวัคซีนกันใหม่ค่ะ)

กรณีที่คุณมีคุณสมบัติครบถ้วน ที่จะสามารถรับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรมได้
เมื่อหน่วยงานรับเรื่องของคุณแล้ว ก็เข้าขั้นตอนตามลำดับ แล้วแต่กฏหมายของแต่ละประเทศ

เราอยู่สวีเดนผ่านขบวนการต่างๆตามกฏหมายเกือบ5ปี เนื่องด้วยคุณสมบัติไม่ผ่าน1ข้อ
คืออายุเกิน40ปี ทำให้ต้องเข้าไปพึ่งขบวนการทางศาล
*ขบวนการรับบุตรต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน2ปี(in Sweden)

ระหว่างรอขั้นตอนนี้ คุณสามารถให้ญาติทางเมืองไทย
นำเอกสารของเด็กและของคุณ ไปยื่นเรื่องไว้>ที่ศูนย์อำนวยการรับบุตรบุญธรรม ถ.ราชวิถี ได้เลย
*หน่วยงานทางเมืองไทยจะไม่ดำเนินการใดๆ
ถ้าไม่ได้รับเอกสารยืนยันว่า>คุณทั้งสองคน>มีคุณสมบัติครบถ้วน
ในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม>จากหน่วยงาน ที่เด็กจะเดินทางเข้าไปอาศัยยังประเทศนั้นๆ

เพราะนี่คือสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่ทำขึ้นที่"กรุงเฮก" เพราะนั่นหมายถึง
เด็กจะได้รับการคุ้มครอง+สิทธิต่างๆ ตามกฏหมายของประเทศนั้นๆด้วย

หลังจากทางเมืองไทยได้รับเอกสารยืนยันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับเรื่องของคุณ
จะเรียกตัวคุณและสามีไปสัมภาษณ์ และส่งเรื่องขึ้นเสนอบอร์ด เพื่อสัมภาษณ์อีกครั้งค่ะ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเช่นกัน เพราะเขาจะมีประชุมบอร์ดใหญ่2-3ครั้งใน1ปี

เมื่อบอร์ดใหญ่ลงมติให้คุณรับเด็กได้ เขาก็จะออกเอกสารให้คุณไปจดทะเบียนตามกฏหมาย
ถ้าผ่านถึงตรงนี้ถือว่า....เสร็จสิ้นสมบรูณ์ในการรับบุตรบุญธรรม

จากนั้น...คุณก็พาเด็กไปจดทะเบียนเป็นบุตรตามกฏหมาย ที่อำเภอที่ๆเราอยู่
และพาเด็กไปขอ Resident Visa ซึ่งต้องใช้เวลาอีกเช่นกัน
เด็กอายุไม่ถึง12ปี จะได้สัญชาติอัตโนมัติตามบิดามารดา(in Sweden)

รายละเอียดเยอะมากค่ะ ถ้าคิดจะทำตรงนี้ต้องไม่เบื่อ,ไม่ท้อค่ะ
มีอะไรไม่เข้าใจควรสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรงนะคะ คุณจะได้ไม่เสียเวลาและเดินผิดทาง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เรื่องราวจากแม่บ้านสวีเดน..^^
มาจากคุณ : nongthee
ขอบคุณมากๆ นะค่ะ ที่แบ่งปันประสบการณ์
ถ้าพลอยทำเรื่องคงยาวเหมือนกันค่ะ..
แต่นี้ สามีตัดสินใจไม่ทำเพราะทางญี่ปุ่นเค้าบอกว่าเด็กอายุครบ 15ปี
มีสิทธิ์ได้เลือกสัญชาติเอง...อันนี้ก็ต้องติดตามต่อไปค่ะ ไม่รู้จะง่ายหรือยาก...

ตอบกลับความเห็นที่ 5