วีซ่านักเรียนอเมริกาไม่ผ่าน...จะไปรอบ2 ช่วยหน่อยคะ

ดีคะ รบกวนช่วยเราหน่อยคะ เรื่องการสอบสัมภาษณ์วีซ่านักเรียน เราเพิ่งไปสอบสัมภาษณ์มา วันที่ 20 กค 55 แต่ไม่ผ่านรบกวนแนะนำหน่อยคะว่าเพราะอะไรถึงไม่ผ่านแล้วควรตอบสัมภาษณ์ยังไงดี.
ข้อมูลส่วนตัว
เราอายุ 28 ปี. ทำงาน export officer แต่ภาษาไม่เก่งเลย พูด ฟังได้เล็กน้อย. มีใบรับรองการทำงานมีใบรับรองจากบริษัทว่าเรียนแล้วจะกลับมาทำงานที่เดิม เป็นสปอนเซอรตัวเองมีเงินในบัญชีรวมๆประมาณ 7 แสนแต่ก็ให้พี่สาวเป็นสปอนเซอร์ด้วยแต่พี่สาวมีเงินในบัญชีแค่ 3 แสนบาท

ตอนสัมภาษณ์
กงสุล: คุณไปทำอะไรที่อเมริกา
ฉัน:ไปแคลิฟอเนียเพื่อเรียนภาษาอังกฤษ
กงสุล: ไปกี่ปี
ฉัน: 1 ปี
กงสุล: เรียนจบแล้วจะทำไรต่อ
ฉัน: กลับมาทำงานที่บริษัทเดิม เพื่ออัพเงินเดือน
กงสุล: ใครเป็นสปอนเซอร์ให้คุณ
ฉัน: ดิฉันเองและพี่สาว
กงสุล: คุณรู้จักใครที่อเมริกาไหม
ฉัน: มีเพื่อนเรียนภาษาอยู่
กงสุุล: เพื่อนไปอยู่กี่ปี
ฉัน 3ปี
กงสุล: ขอชื่อและนามสกุลเพื่อนแล้วก็เซิจหา /หน้าเครียด
กงสุล: เพื่อนไปทำอะไรที่นั้น
ฉัน: เพื่อนไปเรียน /กงสุลคิ้วขมวด
กงสุล: ใครเปนคนจ่ายเงินให้คุณ
ฉัน; ดิฉันเอง
กงสุล: ยื่นเอกสารรับรองการเงินให้ จริงๆมี2 ที่ คือธ.กสิกรและกรุงเทพ. แต่หาเจอแต่กสิกร มีเงินอยู่ 10,600 $ ซึ่งกรุงเทพ มีอยู่
14,000$ แต่เราดันลืมเอาไป. เราเลยยื่นบุ๊คแบงค์ให้แทน ซึ่งเงินเรามันกระจายไว้ในบัญชีฝากประจำ 1 แสนบ้าง 5หมื่นบ้าง และก้มี 4 แสน ด้วยความตื่นเต้นเราก้ยื่นบุ๊คแบงค์ให้หมดเยอะมากประมาณ 5-6 เล่มได้. กงสุลเปิดไม่กี่เล่มก็คืนกลับมา แล้วบอกเสียใจด้วยคุณไม่ผ่านวีซ่าเพราะไม่มีการยืนยันว่าคุณจะกลับมา

ตอนขอเอกสารการเงินด้วยความตกใจที่ลืมเอกสารอีกธนาคารเลยลืมให้เอกสารพี่สาวที่เป็นสปอนเซอรอีกคนและมีจดหมายรับรองการทำงาร,รับรองการเป็นสปอนเซอร์ -_-

อยากทราบว่า. เหตุผลที่ดิฉันไม่ผ่านมีอะไรบ้าง ต้องแก้ไขส่วนไหนบ้างคะ ถ้าเป็นสปอนเซอรตัวเองแล้วคนค้ำเงินน้อยกว่าจะผ่านไหม

และใบขาวที่เค้าให้มาแจ้งว่าไม่ผ่านเพราะ ไม่มีหลักฐานแสดงความผูกพันมั่นคง และไใ่สามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีคุณสมบัติและแผนการศึกษาเหมาะสม

รบกวนแนะนำหน่อยคะ จะไปขอรอบ2 ตอนนี้กังวลมาก ไม่รู้เพราะเงินน้อย หรือเพราะเราไม่ได้โชวให้ดูว่ามีพี่สาวเป็นสปอนเซอร์ หรือพลาดเพราะบอกมีเพื่อนอยู่อเมริกา. ฝากผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยคะ

ความคิดเห็นที่ 1
น่าจะพลาดทุกข้อ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ผมก็โดนถามคล้ายเดียวกับ จขกท ครับ (ไปขอรอบที่ 2) หลังไมค์ มาได้นะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เคยสัมภาษณ์มา ผ่านได้ง่ายมากกอ่ะ
ทั้งที่ไม่มีหลักฐานไรเลยจะกลับมา

เหตุผล อาจะเป็นเพราะ (ความคิกเห็นว่นตัวนะคะ)
1. เจ้าของกระทู้ ประหม่า เกินไปรึไม่คะ?
2. อายุค่อยข้างเยอะ... อื้ม เหนคนแก่กว่านี้ก้อไปได้นะคะ
3. เรื่องเพื่อนไม่น่าเกี่ยวคะ
4. น่าจะรวมเงินเปนกลุ่มก้อน ให้ดูได้ง่าย และน่าเชื่อถือกว่านี้คะ
ค่อนข้างจะเป็นเหตุผลสำคัญ เกิน1ล้าน จะยิ่งง่ายคะ

ตอนเราไป ใช้บัญชีเดียวเลยคะ จบ ถามไม่กี่คำ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
มาช่วยค่ะ...ความเห็นส่วนตัวนะคะ...

เหตุผลสำคัญน่าจะเป็นเรื่องเงินรึเปล่าคะ เราไม่ทราบว่าเรียนภาษา 1 ปี ที่แคลิฟอร์เนีย ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ แต่เห็นด้วยกับคุณ sakusa_b ค่ะว่าเกินล้านยิ่งง่าย

ส่วนเรื่องอื่นๆ...
1. กลับมาทำงานบริษัทเดิม มีจม.รับรองด้วยค่ะแล้วรีบชี้ให้ดูเลยค่ะ. ส่วนเหตุผลเพื่ออัพเงินเดือน เปลี่ยนเป็นเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จะโปรโมทได้ เค้า require ภาษาอังกฤษ หรือต้องติดต่อกับชาวต่างชาติบ่อยๆ อะไรประมาณนี้ดีกว่ามั้ยคะ
2. ถ้ามีบัญชีหลายเล่ม แนะนำให้คลิปรวมกันไว้ค่ะ ของตัวเองอันนึง ของสปอนเซอร์ร่วมอันนึง บอก total amount ไปด้วยค่ะ เพราะท่านกงสุลอาจจะดูจำนวนเงินแต่ละบัญชี แต่ไม่บวกรวมก็ได้ค่ะ
3. รอบสอง อย่าไปโกหกว่าไม่มีคนรู้จักอยู่นะคะ ท่านคงบันทึกไปแล้วว่ามีเพื่อนอยู่น่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
คุณ romeonick : หลังไมค์ไปแล้วนะคะ
คุณ sakusa_b : ประหม่า และอาจจะตื่นเต้นพอสมควรเลยคะ ส่วนเรื่ิองเงินในบัญชีมีหลายธนาคารมากแต่ตอนนี้ขอใบรับรองรวมบัญชีเป็น ที่ละ 1 ใบอยู่คะ
คุณ CNB : คราวหน้าจะตอบตามนี้เลยคะ ขอบคุณมากคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
คุณบอกตั้งแต่ ตอนก่อนเข้าไปสัมภาษณฺ์จริง ว่า มีคนรู้จักอยู่ที่นั่นใช่มั้ยคะ??

ในความคิดเรานะคะ ... เรื่องมีคนรู้จักมั้ย .. ถ้าบอกไม่มีซะ ก็จบ พูดให้น้อย เขาก็จะได้ถามน้อยๆเช่นกัน ... พอคุณบอกมี เค้าก็ถามต่อ แถมยัง search หาชื่อเพื่อนคุณอีกตะหาก ... ยิ่งถ้าคุณเป็น ผู้หญิง และ เพื่อนเป็นผู้ชาย ...เราว่า มันยิ่งดูไม่ดี ... อีกอย่าง เราไม่ทราบนะคะ ว่า ตอนนี้ เพื่อนคุณทำอะไรอยู่ .. มี record ไว้ว่ายังไง ...

ตอนเราสัมภาษณ์ มี ผญ คนนึง เขาบอกว่า เขามีเพื่อนเรียนอยู่ที่นั่น .. ก็โดนถามต่อว่า ชื่ออะไร ถามถึงความสัมพันธ์ บลา บลา ... ตอนแรกดูเหมือนจะดี น่าจะได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ เหตุผลบอกว่า ไม่มีอะไรยืนยันว่าจะกลับไทย

ส่วนอีกคน ก็บอกว่า มี .. เป็นเพื่อน ผช และจะไปอยู่กับเขาด้วย ... กงศุลถามว่า เป้นแฟนกันใช่มั้ย เขาก็ตอบว่า เป็นแค่เพื่อนค่ะ ... กงศุลพูดเลยว่า "คุณคิดว่าผมโง่หรอ" แรงมาก ... ตอนเราออกมา เขามาเล่าให้เราฟัง เรายังตกใจเลย


อันนี้เล่าเพื่อให้คนที่มาอ่าน เอาไปพิจารณานะคะ
เราคิดว่า ในบางคน ไม่มีความจำเป็นต้องพูดว่ามีคนรู้จักที่นั่น จะดีกว่า
เราก็มีเพื่อนเรียนที่นั่น ... แต่เราก็บอกว่าไม่มี จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามว่า เขาคืออะไร อะไรยังไง

สำหรับของคุณ ถ้าเหตุผลนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ได้ ก็โกหกไม่ได้ค่ะ ขอครั้งที่ 2 ก็ควรพูดตามที่พูดไปครั้งแรก เพราะ เขาน่าจะมีการบันทึกไว้ ...
เพราะขนาด ตอนเราเข้าเมือง ตม ยังรู้เลยว่า เราพุดอะไรตอนสัมภาษณ์

ขอให้โชคดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
อ่าวเราไป W&T ต้องมีสเตจเม้นไหมคะ ของสปอนเซอร์(แม่) ใช่ไหม แล้วต้องมีขั้นต่ำเท่าไหร่อะ กลัวจังแหะ...


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ที่ I-20 บอกว่าจะเรียนนานเท่าไร ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร
ถ้าไป ๑ ปั ก็คงอย่างต่ำ ๑ ล้าน ดังนั้น ไปหาทางรวมในบีญชีเดียวกันให้ครบ มีเงินเข้าออก
ถ้าอยากจะเสี่ยงไปขอใหม่ ก็ รอ ๖ เดือน ถึง ๑ ปี บีญชีจะได้ดูดี มีหมุนเวียน
ขอให้โชคดี แล้วบอกผลด้วยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เพื่อนคุณไปเรียนภาษานานมาก 3 ปีเลย คิดในแง่ความจริง ถ้าเรียนภาษาอย่างเดียวมันไม่ควรนานอย่างนั้น ถ้าคุณได้ไปขอ 1 ปีก็จริง แต่ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะอยู่ไปเรื่อยๆ คือไม่มีเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมคุณต้องกลับมา ลองหาหลักฐานความมั่นคงหรือที่ทำให้กงสุลคิดว่าคุณต้องกลับมาแน่ๆดู


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เราว่าคุณพลาด เรื่อง "เพื่อน".....เปนหลัก


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
อ่านแล้วก็สะดุดตรงที่เพื่อนไปเรียนภาษาสามปี นานมากค่ะ ถ้าเราเป็นกงสุลก็เดาว่าคงทำงานไปด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ตอนเข้า ตม ที่อเมริกา สัมภาษณ์ไว้ยังไง ตอบให้ตรงนะครับ เพราะพาสปอร์ตโดนบันทึก
อะไรไว้บ้างก็ไม่รู้ สู้ๆครับ รอบที่สองก็ตอบไปตามเดิม แต่อาจจะทำเรื่องเงินให้ดูง่ายขึ้น
แล้วก็เรื่องเพื่อนถ้าเค้าถามก็ตอบไปตามตรงครับ เพราะมีข้อมูลโดนบันทึกไว้ชัวร์ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
- สะดุดตรง เพื่อนไปเรียนภาษาสามปีเหมือนกันนะ

- คุณมีอะไรผูกพัน + ยืนยันว่าจะกลับมามั๊ยคะ เช่น ต้องมาดูแลพ่อแม่ จดหมายยืนยัน/รับรองจากที่ทำงานว่าะต้องกลับมาทำงานต่อแน่ๆ + อื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคุณในการยื่นโชว์ จนท อะค่ะ



จนท บอกว่า
1. ไม่มีหลักฐานแสดงความผูกพันมั่นคง และ
2. ไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมี
2.1 คุณสมบัติและ
2.2 แผนการศึกษาเหมาะสม
//ก็ตามนั้น ขาดอันนี้อยู่ก็ไปเสริมมาให้เป็นจุดแข็ง ในที่คุณพูดมา ไม่เห็นคุณเมนชั่นเลยนะ ว่าจะแบบ เติมอันพวกนี้ยังไงในรอบ 2 น่ะ ก็ลองไปคิดมาเองดิว่าจะตอบโจทย์พวกนี้ยังไง แล้วเอากลับมาให้เกลาอีกที ขี้เกียจคิดให้ หลักฐานที่เราคิดมันเป็นหลักฐานในเมกา มันจะไม่ค่อยเหมือนกับหลักฐานทางเมืองไทย ลองคิดมาเดี๋ยวจะช่วยดูให้

โชคดีนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ

ขอชี้แจ้งความผิดพลาดที่คิดว่าจะไปตอบในครั้งที่2

1. ตามความเห็นเรื่องเพื่อน คือด้วยความตื่นเต้นเลยทำให้เราลืมไปและไม่นึกว่าเค้าจะถามเรื่องเพื่อนละเอียดขนาดนี้ จริงๆเพื่อนไปเรียนปรับภาษา 1 ปี และถ้าภาษาดีขึ้นจะเรียนต่อโท นะคะในสาขาบริหาร ครั้งที่2 เราสามารถตอบแบบนี้ได้ไหมคะ (ครั้งแรกที่ถูกถามเราลืมเรื่องเพื่อนไปหมดเลยจำได้แค่ว่าเพื่อนกำลังเรียนภาษาเพราะเค้าเพิ่งไปเรียนเมื่อเดือนมิถุนายน 55 ที่ผ่านมาเองนะคะ)


2. สปอนเซอร์ : ตอนนี้คิดว่าถ้าให้ ญาติห่างๆคนละนาสกุล มีฐานะเป็น น้าชาย มาเป็นสปอนเซอร์ให้จะมีโอกาสผ่านไหมคะ เพราะเค้าทำธุรกิจส่วนตัว และมีเงินหมุนเวียนในบัญชี 5 ล้านบาท (ความเป็นไปได้เรื่องสปอนเซอร์จะผ่านไหมคะ) น้าชายจะเป็นสปอนเซอร์ให้หลังจากเราเรียนจบ 1 ปี โดยภาษาแข็งแรง สามารถ พูด อ่าน เขียน ได้ เราต้องกลับมาช่วยงานเข้าในส่วน ต่างประเทศ เพราะเรามีประสบการณ์งานด้านส่งออกอยู่แล้วนะคะ


นี่คือ 2 ส่วนที่เราจะแก้ไข ในการสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 แต่ประเด็นที่เราลังเลอีกอย่างคือ เรามีจดหมายรับรองจากที่ทำงานว่าหลังจากเรียนจบจะกลับมาทำงานที่บริษัท ถ้ารอบ 2 เราแจ้งว่าเราจะลาออกแล้วหลังเรียนจบจะกลับมาทำงานกับน้าชาย แบบนี้จะดีกว่าไหมคะ


- การสัมภาษณ์รอบ 2 เราต้องซื้อพินจองวันสัมภาษณ์ใหม่ ,กรอกฟอร์ม DS160 ใหม่ และ จ่ายค่าขอวีซ่าที่ไปรษณีย์ไทย แค่ 3 อย่างนี้ถูกต้องไหมคะ

ฝากแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
รอบแรกเราก็ไม่ผ่านค่ะ แล้วเราก็ไปรอบ 2 ต้องจ่ายค่าวีซ่า และค่าพินใหม่ค่ะ เรากรอก DS160 ใหม่ด้วย ของเราเค้าก็ถามนะคะ ว่ามีคนรู้จักมั้ย เราตอบว่าไม่มีค่ะ เค้าก็ถามว่าจริงหรอ เพื่อนก็ไม่มีหรอ เราเลยบอกว่ามี เป็นเพื่อนที่ทำงานเก่า ไม่ค่อยได้คุยกันแล้ว ไปเรียนคนละรัฐกัน และเราเจอคำถามสุดท้ายค่ะ เค้าถามว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงมั้ยสำหรับครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ ตอนแรกเราก็ งงๆ เพราะฟังไม่รู้เรื่องค่ะ ตอบว่าไม่มี แล้วเราก็นึกได้เลยบอกเค้าว่ามีๆ คราวที่แล้วเราบอกว่าไปเรียนภาษา 2 ปี แต่คราวนี้เราเปลี่ยนเป็นปีนึงหรือน้อยกว่านั้น เค้าก็โอเคค่ะ ส่วนเรื่องสปอนเซอร์ เราให้น้าเป็นสปอนเซอร์ค่ะ เค้าก็ถามเยอะเหมือนกัน น้าทำงานอะไร อยู่กับน้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมน้าออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะเค้าคิดว่าคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่น่าให้เงินกับคนอื่นเยอะขนาดนี้ สำหรับรอบ 2 เรามีจดหมายรับรองที่น้าเขียนว่าจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายของเราด้วยค่ะ ยังไงลองพยายามใหม่นะคะ สู้ๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณ sour_magic (Sour_magic) ขอบคุณความคิดเห็นมากเลยคะ มีประโยชน์กับเรามากๆเลย ดีใจด้วยนะคะที่รอบ2 ผ่าน เรามีกำลังใจและความหวังมากขึ้นที่จะไปสัมภาษณ์ ^^ ขอบคุณคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เพิ่งไปขอมาเหมือนกันคะ วันศุกร์ที่ผ่านมานี้เอง 11/01/13 statement 2 ใบๆ ละประมาณ 1 ล้านบาท ลุงเป็น sponser ให้
เหตุผลที่ไม่ผลเหมือนกันคะ 214b เราอายุ 27 เรียนจบมามีงานทำมั่นคง ทำงานบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เป็นพนักงานบัญชี
จะไปเรียนที่ แอลเอ 6 เดือน แต่ก็ไม่ผ่าน โดยส่วนตัวคิดว่าเราต้องนำหลักฐานที่ให้เค้าเห็นว่าเรามีแรงจูงใจอยู่ที่เมืองไทย เรียนจบแล้วต้องกลับ
ไม่อยู่ต่อที่นั่น เค้าถามเราว่ามีแฟนมั้ย --- ไม่มีคะ :( คิดว่าผู้ ญ จะขอยากเพราะกลัวเราไปหา ผช ที่นั่นรึป่าว
ตอบกลับความเห็นที่ 17