"รู้ไว้ก่อนมาเมกา" updated ล่าสุด

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะค่ะ
1. ถ้ามาเที่ยว ก็จะเก๋มากกกกก แต่ถ้ามาเรียน...คนละอารมณ์กับมาเที่ยวอย่างแรง( ขอบอกว่าแรงมาก ) มันเป็นอารมณ์ที่เหงา เศร้า ลำบาก เหนื่อย คิดถึงเมืองไทย คิดถึงพ่อ แม่ คิดถึงเพื่อน ( ขนาดกระเทยที่ว่าแน่แล้วนะ เดินทางไปคนเดียว ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านนำ้ ยังคิดถึงบ้านมากกก ( ยังคิดสมนำ้หน้าตัวเองอยู่ เป็นไงล่ะ อยากดีนัก คันดีนัก วาดภาพซะสวยเหลืือเกิน )
2. ถ้าได้อยู่นอกเมือง ไม่ได้อยู่ในเมือง หรือไม่ได้อยู่ใกล้ที่เรียน อย่างเช่น แอลเอ ควรเตรียมเงินส่วนหนึ่งมาซื้อรถ ค่ะ เพราะว่าการคมนาคมที่นี่แย่มาก รอรถเมล์ชั่วโมงละคัน อ้อมเหลือเกิน จอดมันทุกป้าย เฮ้อ เมืองไทยว่ารถติดละ แต่ก็ยังมีแท็กซี่ มอไซต์รับจ้างที่เราสามารถใช้บริการได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะดึกดื่นเที่ยงคืน
3. คนไทยบางคน ดีก็ดีเหลือเกิน ร้ายก็ร้ายเหลือเกิน ( _ึงจะดราม่ากันไปถึงไหน ) อิจฉา ริษยา กันเอง
4. ถ้าใครคิดว่าจะมาเรียนภาษาและทำงานไปด้วยตอนนี้ คิดใหม่ได้นะค่ะ เพราะว่าร้านอาหารไทยเค้าไม่รับคนที่ไม่มี Social. ค่ะ เพราะเค้ากลัวว่าเมื่อ Labour. มาตรวจ มันไม่คุ้ม เพราะร้านอาหารไทยโดนเพ็งเล็งเป็นพิเศษเกี่ยวกับการจ่ายค่าแรงค่ะ นอกเสียจากว่า แอบทำ ค่ะ
5. วีซ่าอเมริกาเดี๋ยวนี้ให้ง่ายมาก เพราะตอนนี้เศรษฐกิจตกตำ่มากกกกกก ไม่เก๋ เพราะนางต้องเอาคนเข้าประเทศนางให้เยอะเข้าไว้ ส่วนนักเรียนก็พิจรณาให้ง่ายกว่าเดิม แต่ไม่ได้ให้ 5 ปี ทุกคนละ นางมีนโยบายที่ว่า ขอเรียน 6 เดือน ให้ไป 8 เดือน เป็นต้น
6. ถ้าคิดจะตั้งใจที่จะมาเรียนอย่างเดียว เรียนเสร็จกลับบ้านเราเถอะค่ะ บ้านเราเก๋กว่า เก๋กว่าเยอะมากกก เห็นชะนีบางนางเรียนจบโท แต่ก็ยังเป็น wait อยู่ งงกะชีวิตนาง เรียนกว่าจะจบใช้เงินเป็นล้าน ( อันนี้ก็เรื่องของนาง นางอาจมีความสุขก็ได้ )
7. ความสะดวกสบาย ความเก๋ เมื่อมาถึงที่เมกา กรุณาทิ้งไว้ที่สนามบินค่ะ จะได้ทำให้ปลงได้เยอะค่ะ ( อยู่ที่เมืองไทย มีคนทำให้ทุกอย่าง แต่อยู่ที่นี่ต้องทำเอง ค่ะ )
สุดท้าย เมืองไทย ดีสุดล่ะ ฉันรักเมืองไทย ค่ะ ,,,, รักและคิดถึงมากกกก

ความคิดเห็นที่ 1
เห็นด้วยค่ะ มีแต่คนบ่นว่า
ทำไมต้องมาตกระกำลำบากที่เมกา
ทั้ง ๆ ที่เมืองไทยมีอะไรดี ๆ กว่าเยอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
แล้วแต่ว่า ว่าไปเจออะไรมาอะเน๊อะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เอาซะแทบจะไม่อยากไปเรียนเลยค่ะ ^^
คิดเหมือนกันระหว่างเรียนที่ไทยกับเมืองนอก
ที่อยากไปเพราะว่าอยากลองใช้ชีวิตเอง
อยู่เมืองไทยมีคนโอ๋จนเคยตัวค่ะ

ยังไงก็ไปแล้วก็สู้ๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
จขกท อยู่เมืองอะไร รัฐอะไรหรอ แล้วอยู่มากี่เดือนกี่ปีแล้ว คะ

แล้วมาเรียนภาษาหรือปริญญาโทคะ

น่าจะลองหาอะไรทำไปด้วยนะคะระหว่างเรียน อาจมีเพื่อนด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เห็นด้วยกับทุกข้อค่ะ

ยิ่งข้อแรกนะ คนไม่มาเรียนเอง ไม่รู้หรอกค่ะว่ามันเหงา มันลำบาก มันไม่ได้สวยหรูเหมือนอย่างที่คิดกัน มันไม่ได้แค่แต่งตัวสวยๆ เดินเก๋ๆ ไปเข้าห้องเรียน หรือช้อปปิ้ง

คนไทยบางคน ก็อย่างที่คุณพูด อิจฉาริษยา นินทาว่าร้าย ใส่หน้ากาก... จริงๆ มันก็มีทุกที่ แต่ลำบากที่ ในต่างประเทศ กลุ่มคนไทยจะใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะเล็กก็ไม่เล็ก เรื่องพวกนี้ถึงกันหมด (ส่วนตัว เราเนรเทศตัวเองออกจากกลุ่มคนไทย เพราะเราใส่หน้ากากไม่เป็น) ยิ่งบางคนเป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย มาเรียนต่อเอก เห็นพฤติกรรมแล้ว เป็นห่วงอนาคตสังคมไทยจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
มีส่วนจริงอยู่มากตามที่จขกท.พร่ำบอกมา ประเด็นสำคัญคือถ้ามาแล้วไม่ได้มามีชีวิตที่ดีกว่าที่เมืองไทย จะมากันทำไม ยุคมาขุดทองมันหมดไปนานแล้วสำหรับอเมริกา ทุกวันนี้คนต่างด้าวมาจากทั่วทุกสารทิศ ทุกประเทศ ทุกทวีป ปากกัดตีนถีบ แก่งแย่งกันทำมาหากินจนหาคนจริงใจต่อกันยากขึ้นทุกวัน แต่หากจับพลัดจับผลูมาแล้วก็ต้องทำใจตามที่ว่านี้มา

ส่วนที่อยากแย้งจขกท.อยู่บ้างก็อยู่ตรงที่การบริหารจิตใจของตนเองไม่ให้เหงาหรือจิตตก ผมก็เคยเป็นเมื่อตอนมาใหม่ๆ ถามตัวเองทุกวันว่ากรูมาทำไมเนี่ย... อยู่เมืองไทยก็แสนจะสบายเงินเดือนก็เกือบสองแสน มีเพื่อนมากมาย วันๆแทบไม่มีเวลาว่างเลย หมดไปเร็วมาก ชีวิตมีความสุขมากพอสมควรทีเดียว

พอมาแรกๆอยู่แบบเหงาๆ เพื่อนฝรั่งก็ไม่มีเพื่อนไทยก็หายาก นั่งดูฝนตก นั่งดูหิมะตก ลมพายุพัดแรง ท้องฟ้ามืดคลึ้มตั้งแต่บ่ายๆ จิตใจมันตก พูดได้คำเดียวว่าเหงาจังเรา

พอเวลาผ่านไป เราเริ่มรู้วิธีหาเพื่อนฝรั่ง เริ่มมีกิจกรรมประจำวัน เริ่มชอบอะไรหลายๆอย่างที่นี่ อ่ะ...วันๆมันหมดเร็วเหมือนกันแฮะ เดี๋ยวนี้มีเพื่อนฝรั่งเป็นร้อย เจอกันเกือบทุกวัน ชีวิตที่ว่าเหงาๆก็สดชื่นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ณ วันนี้ ให้อยู่ที่อเมริกาหรือเมืองไทย สำหรับผม ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ชอบหลายอย่างที่นี่ ไม่ชอบก็มี เช่นกันไม่ชอบหลายอย่างที่เมืองไทย แต่ที่ชอบก็เยอะ ทั้งหมดนี้อยากจะให้กำลังใจแก่คนเหงา ฝ่าฟันไปจนถึงจุดที่จะข้ามพ้นมันไปให้ได้ ย่อท้อถอยกลับเมื่อไหร่คุณก็แพ้ เกิดมาชาติหนึ่งตั้งใจสู้แล้ว จะยอมแพ้มันไปง่ายๆทำไม


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
อ่านแล้วก็ดูมีเหตุผล และก็เป็นจริงไม่มากก็น้อย แต่มันขัด ขัดยังไงอยู่ตรงที่ว่า :

6. ถ้าคิดจะตั้งใจที่จะมาเรียนอย่างเดียว เรียนเสร็จกลับบ้านเราเถอะค่ะ บ้านเราเก๋กว่า เก๋กว่าเยอะมากกก เห็นชะนีบางนางเรียนจบโท แต่ก็ยังเป็น wait อยู่ งงกะชีวิตนาง เรียนกว่าจะจบใช้เงินเป็นล้าน ( อันนี้ก็เรื่องของนาง นางอาจมีความสุขก็ได้ )

ตรงที่ว่า "ชะนีบางนาง" จึงอยากให้คุณ ให้เกียรติคนเหล่านี้บ้างสักนิด แม้เขาอาจจะไม่สะดวกสบายมีเงินใช้จ่ายเรื่องค่าเล่าเรียน หรือจะปัจจัยอื่นๆๆ ก็ตาม แต่คนที่คนกล่าวถึงเขาก็มีความพยายามที่จะช่วยตัวเองดีกว่าที่จะเป็นภาระให้แก่ครอบครัว


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
โคตรจะเห็นด้วยอย่างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
อืมม
คนไทยบางกลุ่มที่นี่ ร้ายจริงๆนั่นล่ะ
ยิ่งกว่าตัวอิจฉาในละครซะอีก
มาตอนแรกๆ น้ำตาเช็ดหัวเข่าเพราะคนไทยกันเองนี่ล่ะ

...

ตอนนี้ใครคิดจะทำงานในร้านอาหารยากแล้วค่ะ
เด็กไทยนี่ล่ะ ฟ้องร้านอาหารว่าให้เงินไม่ถึงมินิมั่มเรท
ร้านเค้าก็เลยต้องป้องกันตัวเองกันล่ะนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
@ AIE ส่วนไหนหรือค่ะ ที่ดิฉันไม่ได้ให้เกียรติ ดิฉันว่าหรือด่า เค้าหรือเปล่า ก็ไม่.....กรุณาแยกแยะด้วยค่ะ เรียนจบล่ะ อยู่ทำไมที่นี่ อยู่ให้เค้าดูถูกว่่าเป็นพวกชนชั้นกรรมกรใช้แรงงาน เรียนจบตั้งปริญญาโท.... กรุณากลับไปอ่านข้างบนนะคะ ว่า ความเห็นส่วนตัว ( เหนื่อยกะชะนีมองโลกสวย )


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เห็นด้วย กะ คห.7 ว่า ทำไมต้องใช้คำว่า "ชะนีบางนาง" กับการกล่าวถึง คนด้วยกัน

การศึกษาไม่ช่วยอะไรเลยนะนี่


ความเห็นส่วนตัว ในการเรียกคนอื่นว่า เป็น ชะนี นี่นะ เป็นสิ่งที่วิญูชนชนผู้มีการศึกษาเค้าทำกันหรือ

ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
@ Ssuccessfully กรุณาแยกแยะด้วยค่ะ ระหว่างการศึกษา กะ ศัพท์ของกระเทย นะคะ ชะนีบางนาง มันหยาบคาย หรือ ไปพาดพิงใครเหรอค่ะ แล้ว คำว่า กระเทย ก็เป็นคนเหมือนกันนิ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ฉันรู้มาว่า มันเป็นคำที่ กระเทย ใช้เรียกผู้หญิง ใช่หรือไม่

คุณเป็นกระเทยหรือ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
และฉันก็เป็นผู้หญิงแท้ ที่ไม่ชอบให้กระเทยมาเรียกฉันว่า ชะนี


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
โอ้ย คำว่า กระเทยนี่ก็เป็นคนเหยียดเพศ เหมือนกันนั่นแหละคุณ พวก หนุ่มออกสาวเขาจะใข้คำอะไรเรียกกันเองได้ แต่คนอื่นไม่ควรไปเรียกเขาแบบนั้น เหมือนกับที่คุณ ความสำเร็จ ไม่ชอบคำเรียกสัตว์ตระกูลลิงเเหละ

เรื่องความเก๋ จขกท อยากเก๋ต้องไปอยู่เมืองเก๋สิ จะเอาเก๋มาก เก๋รักโลก เก๋สู้ตาย มีทั้งนั้น นิวยอร์กซิตี้ ซานฟรานน่ะ ควรย้ายเมืองนะ จะสนุกขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
มานอยู่ที่ตัวบุคคลด้วยครับ
ตอนผมไปอยู่คนเดียวไม่เหงาเลยครับ
ตอนยังไม่เข้าเรียนเช้าขึ้นมาก็แบกกล้อง+น้ำ+ขนมจิปาถะ
แล้วเดินวันแรกเดินขึ้นเหนือ 2-3 ชั่วโมง
แล้วก็เดินกลับ
วันต่อมาก็ทิศใต้ ออก ตก
สลับกันไป

ยังไงฝากถึง จขกท ว่าอย่าท้อแท้คุณไม่ได้ไปไกลขนาดนั้นเพื่อร้องไห้สู้ๆ ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เป็นกำลังใจให้คุณ จขกท นะค๊ะ

สู้ๆค่ะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
@ คุณเมกิ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยครับ วิธีหาเพื่อนฝรั่ง จะได้ไปปรับปรุงตัวเองให้ไม่เหงา จะได้ไม่ท้อแท้อย่างที่หลายๆคนก็เป็นครับ ขอบคุณครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ผู้ชายเรียนจบแล้วยังทำงานเสิร์ฟไม่ยอมกลับบ้านก็มีนะ ไม่ได้มีแค่"ชะนี"


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
อยากไปอยู่แคนาดามากกว่าน่ะ ไม่งั้นก็ยุโรป


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
ชะนีไม่ได้หยาบเลยค่ะ ไม่เข้าใจว่าไฟท์อะไรกัน
มาเป็นกำลังใจให้คุณเจ้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ข้อดีของประสบการณ์ เปิดโลกกว้างในต่างแดนไม่มีเลยสินะคะ ....

อ๋อ ลืม มันไม่เก๋


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
คิดถึงเมืองไทยมาก อยากกลับบ้านเหลือใจ...


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ไม่ชอบศัพท์คำว่า"ชะนี" ที่ไม่ได้หมายถึงลิงเหมือนกัน (ความคิดเห็นส่วนตัว) พวกเพศที่สามชอบมีศัพท์เฉพาะ บางทีเราไปใช้โดยรู้ไม่ถึงการณ์ มีคนหลังไมค์มาบอกว่าให้เปลี่ยนคำด้วย เพราะว่ามันหยาบคายและทะลึ่งมาก ทั้งๆที่ความหมายที่เราใช้เป็นคำปกติ ตอนที่ใช้ก็ไม่มีบริบทไปในเรื่องอย่างนั้นเลย

ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
เมืองอะไรคะ ทำไมงานหายากจัง


ตอบกลับความเห็นที่ 25