ว่าด้วยการเขียน essay แบบ analysis เวลาเรียนโทเมืองนอก จำนวนทฤษฎีควรคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์

ถามนะคะนิดว่า สมมติรายงานมี 10,000 คำ จำนวนหน้าของทฤษฎีควรมีอย่างน้อยเท่าไรถึงจะไม่น้อยไป

คือพอบอกจุดยืนของเราว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แล้วเราก็ต้องเอาทฤษฎีมาอ้าง แล้วค่อยแสดงตัวอย่าง
แล้วตอนเล่าเรื่องตัวอย่างของเรา ต้องมีทฤษฎีสอดแทรกอยู่ในทุกย่อหน้าไหมคะ เพราะตอนยกตัวอย่าง มันต้องมีหลายประเด็น เลยกลัวว่ายกตัวอย่างแล้วมันจะกลายเป็น descriptive ล้วนๆ ไม่มี analysis เลย เพราะมันไปอยู่ตอนแรกๆ หมดแล้ว

อาจารย์บอกเรา descriptive เยอะไป เหมือนเล่าไป 7-8 หน้ารวด แล้วค่อยมาใส่ทฤษฎีตอนท้าย แถมไม่ถึงหน้าด้วย คะแนนเลยน้อยมาก แทบตกเลยก็ว่าได้

ความคิดเห็นที่ 1
มันไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวครับ คำแนะนำคือให้อ่าน paper เยอะๆแล้วสังเกตวิธีการเขียนทั้งแบบบรรยายและการตั้ง argument แล้วนำมาปรับใช้กับงานเขียนของเราครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
นี่พูดถึง Paper หรือว่าเป็นรายงานครับ? เพราะการเรียนรายงานแบบ Report กับ Paper หลักในการเขียนคนละเรื่องกันนะครับ มีส่วนคล้ายคลึงกันบ้าน แต่ในแนวการเสนอไม่เหมือนกันเลย

การเขียนรายงาน หรือว่าลักษณะการเขียน Thesis นั้น เน้นที่จะต้องอธิบายโดยละเอียด ตั้งแต่ต้นจนจบ คือ เริ่มจาก Fundamental เลยว่า มัน Base on กฏไหน ทฤษฏีใด และต้องมีการอธิบาย หรืออย่างน้อยก็ citation มาโดยละเอียด ว่าของใครเอามาจากหนังสือ หรือแหล่งไหน แล้วค่อยไล่ไปถึงสิ่งที่เรา analyse มา ว่าง่ายๆ อธิบายพิ้นฐานในบทแรกหรือบทสองบทเดียวครั้งเดียว โดยละเอียด โดยไม่จำเป็นต้องมาอธิบายทฤษฏีเหล่านี้ในบทหลังจากนั้นอีก หากคุณได้เอ่ยถึงตั้งแต่เริ่มแรกไปแล้ว ก็แค่ refer ถึงว่า มาจากบทนี้ หน้านี้ หรือหากต้องการจะเปรี่ยบเทียบกับทฤษฏีที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ก็ citation ไปว่า มาจากหนังสือเล่มนี้ หน้านี้ หรือมาจาก Paper ของคนๆนี้ๆ ก็ว่าไป แล้วแต่แหล่งของคุณเลย ซึ่งนั่นหมายความว่า ไม่จำเป็นต้องอธิบายอีกครั้งเช่นกัน ไม่งั้นรายงานก็ยาวโดยใช่เหตุครับ สำคัญที่คุณต้องอธิบาย analysis ของคุณโดยละเอียด เป็นเหตุเป็นผล และมีแหล่งอ้างอิง (citation ที่ผมว่าไปนั้นล่ะ) ที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่มาแบบลอยๆ คิดเอง เขียนเอง แล้วคิดว่า ถูกแน่ๆ อันนั้นไม่ผ่านแน่นอนครับ แล้วที่สำคัญที่สุด หากก๊อปของใครมา ต้องลง Citation ให้ชัดเจน เป็นการซื่อสัตย์ต่อตนเอง และผู้ที่คิดและเขียน original เองด้วยครับ ไม่มีใครว่าอะไรแน่นอนครับ หาก citation ไป ดีกว่าเค้าอ่านเองแล้วเจอว่า มันไม่ใช่ของที่เขียนเอง ก๊อปคนอื่นมา และไม่ใส่แหล่งให้ สุดท้ายก็จบรายงานที่สรุปผลครับ

ส่วนการเขียน Paper นี้ ผู้เขียนจะ assume ไปเลยว่า ผู้อ่านนั้นมีความรู้ Fundamental แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องเขียน Fundamental ยาวยืด อาจจะแค่หัวข้อเดียว หรือ 2 สั้นๆที่สำคัญจริงๆ แล้วก็ข้ามไปถึงผลที่เราต้องการจะ publish เลย อันนั้นคือส่วนที่สำคัญที่สุด แล้วก็สรุปครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2