แม่บ้านญี่ปุ่น มีใครต้อง"อดทน+เหงา" บ้างไหมค่ะ

เราเป็นแม่บ้านญี่ปุ่นค่ะ อดทนท๊กเรื่องเลยจริงๆ ตั้งแต่ท้องต้องไปโรงพบาลเองยันคลอด เพราะสามี ไม่ว่าง ไปทำงาน ทุกวันนี้เจอหน้ากันน้อยมาก เช้ามา6โมงก็ไปทำงานแหละ กลับบ้านมาก็ 3-4ทุ่มโน้น เหงาๆๆ ดีที่มีลูกด้วย แบบนี้คือ ปกติของสามีญี่ปุ่นใช่ไหมค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
คุณอยู่ที่ไทยยังเหงา คนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นเหงากว่าคุณมาก ธรรมดาไหมแล้วแต่คนแล้วแต่งานที่ทำ ส่วนตัวไม่เหงาธรรมดาแต่ไม่ชอบอยู่ที่ญี่ปุ่นมากกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
มายกมืออีกคนค่ะ อยากกลับเมืองไทยใจจะขาด


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คงไม่ใช่แค่แม่บ้านญี่ปุ่น แม่บ้านประเทศอื่น ก็เหงาเหมือนกัน
อยู่ที่ไหนก็ไม่คุ้นเคยเหมือนบ้านเราที่เมืองไทย ที่ไทยเรามีครอบครัวพร้อมหน้าตา
มีเพื่อน อาหาร สถานที่ที่เราคุ้นเคย แต่ที่ๆเราอยู่มีสามี ซึ่งเราเลือกแล้วที่จะมาร่วมทุกข์ สุขกับเขา
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็คิดอยากกลับเมืองไทยอยู่เหมือนกัน แต่สงสารสามี ก็หาอะไรทำไปให้ไม่ว่างไป
วันนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว
โชคดีที่คุณมีลูกก็ได้ยุ่งๆไป เราแต่งงานมาอยู่ที่นี้ พยายามยังไงก็ไม่มี
เลยต้องหาธุรกิจทำ ไม่งั้นคงลากลับไทยไปนานแล้วโชค


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
มีแต่เรื่องต้องอดทนแต่หาเวลาเหงาไม่ได้
เพราะต้องตัดสินใจและรับผิดชอบแทบทุกอย่างในบ้าน
จริงๆ ความอดทนมันถึงที่สุดแล้วเพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสม
มองทางไหนก็พวกเขาทั้งนั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่เหงาค่ะเพราะเราติดเน็ท ตื่นเช้ามาก็นั่งหน้าคอมฯ อ่านกระทู้ อ่านนิยาย ตั้งแต่เช้าจนถึงเข้านอนเลยค่ะ
ตอนท้องแรกสามีพาไปโรงพยาบาลค่ะ แต่เราเข้าไปพบหมอคนเดียวสามีไม่เข้าไปด้วยภาษาญี่ปุ่นก็งูๆปลาๆ ท้องสองเราขับรถไปหาหมอเองค่ะ ก่อนคลอด2อาทิตย์สามีถึงได้ขับรถให้
ตอนอยู่บ้านก็เหมือนอยู่ใครอยู่มันค่ะ เรานั่งหน้าคอมฯ ลูกดูทีวี สามีก็ดูทีวีอีกห้องหนึ่ง ดูช่องเดียวกันนะคะแต่คนละเครื่อง เราก็อยู่อย่างนี้มา10กว่าปีแล้วมีความสุขดีค่ะ ยิ่งวันไหนสามีมีงานเลี้ยงเราไม่ต้องทำอาหารเย็นยิ่งชอบมากเลยค่ะ(อันนี้เข้าแนวแม่บ้านขี้เกียจ)


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นครอบครัวสมัยใหม่ อยู่กันสองคน ยังไม่มีลูก ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องให้อดทนค่ะ ไม่รู้จักคนไทยที่นี่เลยแต่ก็ไม่เหงาค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าเบื่อลองหาอะไรทำดูไหมคะ? อย่างเช่น งานพิเศษอะไรทำนองนั้น
สามีเรากลับดึกมากค่ะ ตีสอง ตีสาม ไม่ก็ไม่กลับเลยนอนที่บริษัทเลย
เช้าก็ไปทำงานปกติทุกวัน

เราคิดว่าเราเข้าใจเขานะ เราสิแอบรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ปล่อยภาระให้เขารับผิดชอบในขณะที่ตัวเราอยากทำอะไรก็ทำ
ลองคิดว่าสามีเองก็เหนื่อยแต่เขาก็ยังตั้งใจไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูคนในครอบครัวสิคะ

เรื่องไปไหนต้องไปคนเดียว เราคิดว่าต่อให้อยู่ที่ไทยกับสามีคนไทยเองเขาก็ไม่เอาใจใส่มากเท่าไหรหรอกค่ะ
และที่ไทยอาจจะสะดวกกว่าแค่ตรงที่ภาษาสื่อสารได้คล่องกว่าเพราะเป็นภาษาของเราเอง

ตอนนี้เรายังไม่มีลูกค่ะ ตั้งใจว่าอยากหาอะไรๆทำให้พอใจก่อนค่อยมีเลยยังไม่ค่อยยุ่งมากค่ะ
มีเวลาว่างๆเราก็ลงเรียนเพิ่มเติม เล่นเนต ลองหัดทำอาหารแปลกๆดู ไปร้องคาราโอเกะบ้าง ช้อปปิ้งแบบเดินดูอย่างเดียว ลองอย่างเดียวไม่ซื้อบ้าง

และเรามองว่าการทำอะไรเองได้เท่ออกนะคะ

ปล.เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 5 ค่ะ
ของเราอยากให้สามีมีงานเลี้ยงทุกวันเลยด้วย จะได้ไม่ต้องคิดเมนูกับข้าวว่าทำอะไรดี OTL


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
สำหรับเรา อยู่เมืองนอกกับเมืองไทย สภาพจิตใจไม่แตกต่าง


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
คห 5 ถูกใจอิชั้นมากกกกกก ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่เหงาค่ะ แต่เบื่อ อยากอยู่เมืองไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
แม่บ้านสิงคโปรค่ะเหงาสุดๆไม่มีเพื่อนไม่มีญาติครอบครัวสามีก็แบบไม่ชอบคนประเทศิอืนอะไรแบบนี้แต่สามีดูแลรักและให้กำลังใจดีมากกก ยังไม่มีน้องเลยเหงามากก แต่ทนคะสามีไปทำงาน10am กลับ11pm คะสามีไปทำงานมีงานทำก็ดีกว่า สามีอยูบ้านไม่มีงานทำก็จะทำให้เราพอกลุ้มค่าใช่จ่ายครอบครัวไปด้วยเเก็บเงินสำหรับในอนาคตตอนแกนะค่ะ ก็อดทนนะคะเพื่อว่าจะได้มีเงินเก็บครอบครัวตอนแกไป ที่นี่มีสโมร ที่ไปเรียนทำเค็กเล่นโยคะ เราออกไปวิ่งรอบหมู่บ้านแก้คิดถึงเมืองไทยอดทนเพราะมีลูกลูกจะได้มีการศึกษาที่ดี จะได้ไม่ลำบากเหมืนเรา เหงาก็ร้องไห้ คะแล้วจบเป็นแม่บ้านแล้วก็ืต้องอดทนคะเล่นเน็ตเล่นเกมส์ดูละครไทยจากยูทบ ดูผีดูการทำอาหารวิธีแต่งหน้าอะไรก็ว่ากันไปคะ เหงาก็อึดอัดก็ร้องไห้ได เพื่อปลดปล่อย.จะได้เบาลงแต่ก็อดทนค่อยๆปรับให้อยู่/ด้


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ประเทศอบอุ่นพี่น้องเยอะน้องๆๆมาไถ่เงินบ่อย นอนๆอยู่ดีๆตอนตี1 น้องโทรมา ตีกับสามี ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลมาจ่ายค่ายาหน่อย


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
นึกว่าเป็นคนเดียว555
อยากให้สามีทำโอที. อยากให้มีงานเลี้ยงและทำงานอาทิตย์ละ6วัน

ไม่เหงาหรอกค่ะ เน็ตมี เบื่อก็ออกไปข้างนอก. ช้อปปิ้ง. นั่งอ่านหนังสือร้านกาแฟ. นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองใกล้ๆก็สนุกดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เราก็เป็นแม่บ้านอยู่ที่สิงคโปร์คะ ตอนนี้ท้องเกือบ 4 เดือนเระ สามีเราเป็นคนไทย เลยคุยกันง่าย ความชอบเหมือน ๆ กันคะ

ปกติ 9 โมงเช้า สามีก็ออกไปทำงานแล้วคะ แต่ก่อนออกไปสามีจะปลุกเรา หอมแก้ม ก่อนไปทุกวันคะ ...บางวันก็ทำงานกลับดึก บางทีตี 3 ยังมีเลยคะ
เราก็ปรับตัวให้เข้ากับเวลาเค้า ...อย่างวันไหนเค้าต้องทำงานกลับดึก ก็จะทำข้าวกล่องไปนั่งกินที่ออฟฟิคเค้า หรือไปนั่งทานที่ร้านด้วยกัน (โชคดีที่บ้านกะออฟฟิคอยู่ไม่ไกลมาก เดินช้าๆ 30 นาทีก็ถึง) แล้วก็เอาหนังสือไปอ่าน นั่งรอกลับบ้านด้วยกัน

บางคืนเราก็อยู่รอที่บ้านจนดึก เตรียมขนม ผลไม้ น้ำเย็น ๆ เปิดคอม ไว้ให้เค้า ...เห็นเค้าทำงานกลับมาเหนื่อย ๆ ก็สงสาร เราก็สรรหาพวกตะเกียงน้ำมันหอมระเหย จุดผ่อนคลายให้เค้า เปิดเพลงเบา ๆ แล้วก็หาน้ำมันมะกอกหอม ๆ มานวด ๆ คลึง ๆ ให้ผ่อนคลาย ...เช้าตื่นมาเค้าก็แจ่มใสนะคะ บอกว่ามีแรงสู้งานต่อเลย (ทำแบบนี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้วยคะ เค้าจะรู้สึกว่าเราเอาใจใส่เค้า ถึงตอนนี้เราจะท้อง เราก็ยังทำให้อยู่ เหมือนอยู่เรือลำเดียวกันต้องช่วยกันพาย อันไหนเราทำได้ก็ทำ)

เมื่อก่อน ก่อนเราท้อง เราหาพวกควิลล์เย็บกระเป๋ามาทำเล่นคะ เพลิน ๆ ดี(ที่ญี่ปุ่นน่าจะนิยมนะคะ เพราะเราใช้แพทเทิร์นของญี่ปุ่นนี่แหละ ผ้ามาซาโกะ) แต่ตอนนี้เราท้องที่บ้านสามีเราเค้าห้ามไม่ใช่เย็บปักถักร้อยอ่าคะ ...ก็เลยหันมาอ่านหนังสือ วาดรูป อ่านเว็บ ก็เพลิน ๆ ดีคะ แล้วเปิดทีวีทิ้งไว้ ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง ก็เพลินดี ^^

แล้วป๊าม๊าแฟนก็เคยสอนบอกว่าว่าง ๆ นั่งสวดมนต์บ้าง ลูกจะได้ซึมซับตั้งแต่อยู่ในท้อง โตมาจะได้สอนง่าย แล้วก็จิตใจจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เครียด (เราก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง แหะๆ แต่เวลาสวดเสร็จก็รู้สึกใจปลอดโปร่งดีนะคะ)

สรุปแล้ว เราพยายามทำตัวให้วุ่น ๆ ทำโน่นทำนี่ หาไรมาทำเพลิน ๆ ทำให้ไม่เหงาอ่าคะ คิดถึงสามีก็ส่ง sms หาบ้าง บอกว่าคิดถึงนะ อยากกินไรเย็นนี้...อะไรแบบนี้อ่าคะ

*** ถ้าเราพิมพ์อะไรไปแปลก ๆ ทำให้ไม่พอใจ ต้องขอโทษนะตรงนี้ด้วยนะคะ เราเองก็ไม่ค่อยได้โพสต์อะไร อาจใช้ภาษาบ้าน ๆ แปลก ๆ เล่าไปเรื่อยเปื่อยอ่าคะ แหะๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
คุณ OnedaeX'mas ค่ะ เราจะไปโกรธได้ไงล่ะค่ะ เมื่อก่อนเราก็ทำอย่างนั้นนะค่ะ เตรียมนู้นนี้ให้ แต่เค้าเป็นพวกติดนิสัยทำแล้วต้องทำต่อไปเลย พอไม่ทำมีงอน ตุ๊บป๋องๆ เราไม่พยายามออกไปข้างนอกค่ะ จะเก็บเงิน พูดง่ายๆว่า งกนั้นแหละ 55 ก็มีไปบ้างนะไม่น๊านนนนนทีไป จริงๆก่อนแต่งเราหวานมากนะหลังแต่งก็เปลี่ยนไปตอนแรกรับไม่ได้เลยย ทำไมไม่แคร์ บลาๆๆ นานๆเข้าก็เข้าใจค่ะ แต่แค่เหงาเฉยๆเท่านั้นเอง อยากกระชุ่มกระฉวยในชีวิตรักบ้าง อิ อิ

คุณ peterpancake ค่ะ ตอนนี้เราย้ายมาอยู่ไทยกันแล้วค่ะ อยากไปอย่างนั้นบ้างนะแต่มันร้อนและเดิมๆน่าเบื่อมาก ตอนที่อยู่นู้นมันเป็นเรื่องที่มีอะไรให้ค้นหาเยอะเลยไม่เคยเบื่อ พอกลับมาไทย ย้ายมาอยู่แถวๆใกล้กรุงเทพ มัน่าเบื่อมากกกกก อาหารก็แพง

สรุป ยายแก่มาบ่นชีวิตคู่ไม่กระชุ่มกระฉวยเท่าน้นเอง 555


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เวลาเบื่อๆไม่กระชุ่มกระชวย เราหาเรื่องอำสามี เช่น สามีกลับดึก เราก้อแอบรออยู่ข้างประตู พอเขาเปิดประตูเข้ามา เรารุกฆาต กระโดดล็อคคอ จุฟๆๆๆๆ สามีขำอย่างฮา เพราะคู่เราปกติไม่ค่อยหวาน แต่สามีบอกว่า กลับเหนื่อยๆ เจออะไรแปลกๆแบบนี้บ้างมันก็สดชื่นดีนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
พอเริ่มทำงานอยู่บ้านแล้วเริ่มเหงาค่ะ เบื่อๆเหมือนกัน ตอนทำงานนอกบ้านสนุกกว่าได้เจอเพื่อนร่วมงาน นอกเวลาทำงานก็นัดกันเที่ยว แต่เสียตรงต้องตื่นเช้า

สามีทำงานกลับบ้านมาก็มาหากินเองค่ะ ไม่ต้องเตรียมให้ ก็ดีตรงนี้เพราะไม่ชอบทำกับข้าว ใครว่างๆอยู่แถว NYC มาคุยกันได้นะ ชอบเดินเที่ยวกับแวะทาน high teaค่ะ

เป็นกำลังใจให้แม่บ้านทุกคนเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
อยู่ฮอกไกโดค่ะ ไม่ค่อยมีคนไทย เหงามาก แฟนก้อทำงานยุ่งตลอด บางอาทิตย์ทำงานทุกวัน เบื่อเหมือนกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อยู่โตเกียวมาอยู่กับสามีอยู่กันสองคนตายาย ก็เหงาแต่ก็ต้องหาอะไรทำเราตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้วก็ต้องทำใจนะค่ะเพราะอยู่เมืองไทยไม่มีคู่มันก็เหงานะค่ะ มีคู่เราก็ต้องเติมในสิ่งที่เราขาดไปนะค่ะเราชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยและตรงต่อเวลาของที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่ว่าไทยไม่ดีแต่เราอยู่มานานแล้วมาหาอะไรบั่นปลายในชิวิตใหม่ดูบ้างถึงที่นี่อะไรมันจะน่ากลัวไปบ้างแผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด นิวเคลียร์ อะไรอะไรที่ร้ายๆที่เคยผ่านมาแล้ว เขาก็เข้มแข็งกันเนอะยังช่วยเหลือกันดี อายุเยอะก็ยังทำงานได้ถ้าคุณมีแรงทำงานไม่ว่าเรื่องแก่ แต่คนไทยเกษียณก็ให้กลับไปใช้ชิวิตที่บ้านแล้ว เหงาก็หางานทำจะได้ไม่ว่างคิดมากนะค่ะ อ่านหนังสือ เล่นเน็ต ดูทีวิ ไปเดินเที่ยว ไปช้อปปิ้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 19