ไปเที่ยวภูเขาหิมะ Perisher Blue มา ก็เลยเอารูปมาฝากครับ (Mini Review + Galleries)

ก็จบลงด้วยความสวยงามและเหนื่อยล้ากับ Snow Trip 2012 ที่ผมพาเด็กๆ ในก๊วนรวมทั้งสิ้น 55 ชีวิต ไปเที่ยวภูเขาหิมะประจำปี

ปีนี้เราก็ไปที่ Perisher Blue รัฐ New South Wales ประเทศ Australia เช่นเคย

Perisher Blue เป็นภูเขาหิมะที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างจาก Sydney ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร นั่งรถกันไปประมาณ 6 ชั่วโมง เราออกเดินทางกันตอนเที่ยงคืน ไปถึงตีนเขาหกโมงเช้า รวมเวลาเช่าชุดและแวะพักกลางทางแล้วก็ไปถึงบนภูเขาตอนประมาณเกือบๆ แปดโมงเช้า

สำหรับคนอื่นๆ ผมไม่รู้ว่าทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง แต่ผมกับเพื่อนอีกสองคนได้พิชิตยอดเขา 2 ลูก ลูกแรก Smiggin Summit ความสูงเท่าไหร่ไม่รู้ ส่วนอีกลูกนึงคือ Blue Cow Summit (ภาพประกอบ) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1994 เมตร (สูงจากพื้นที่จอดรถประมาณ 300 เมตร) ดูเหมือนว่าจะเป็นไอ้บ้าแค่ 3 คนเท่านั้น ที่เดินขึ้นไปด้วยเท้า คนอื่นเค้านั่งกระเช้าขึ้นไปกันหมด ภูมิใจมาก 555

อันที่จริง ผมอยากจะไปต่ออีกลูกนึงคือ Perisher Summit ที่สูง 2004 เมตรแต่เห็นแก่คไปด้วยเพราะหมดแรงกันแล้ว ประกอบกับโดนเจ๊ๆ โทรตาม ก็เลยตัดสินใจเดินกลับลงมา อิอิ

เอาล่ะ ผมจะเริ่มอัพรูปให้ดูกัน ณ บัดนาว รวมทั้งคำอธิบายเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับลิงก์ไปยัง Gallery ของรูปชุดนั้นๆ ในตอนท้ายครับ

ความคิดเห็นที่ 1
ครั้งนี้พวกเราโชคดีที่ผู้จัด (ซึ่งก็คือผมเอง) มีประสบการณ์มากขึ้น รู้ช่องทางต่อรองต่างๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารถที่ถูกกว่าปกติถึง 500 ดอล แล้วก็ค่าเช่าอุปกรณ์ที่เช่าแบบ Group Booking ทำให้ได้ราคาถูกกว่าเช่าแยกตามปกติร่วม 30% ทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับทุกคนถูกกว่าไปเที่ยวกับทัวร์ที่เค้ามีโฆษณาทั่วไปมาก แฮปปี้ดี๊ด๊ากันถ้วนทั่ว อิอิ

มาถึงร้านเช่าอุปกรณ์เล่นหิมะ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เจ้าของร้านก็ให้ทุกคนมานั่งสัมนาย่อย บอกขั้นตอนว่าจะต้องเดินไปไหนก่อนหน้าหลัง ทำให้การเช่าอุปกรณ์ในวันนี้เป็นไปอย่างเรียบง่ายและรวดเร็วไม่วุ่นวาย ไม่หงุดหงิด

Monster Sports Full Gallery
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768237624157833153


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เช่าอุปกรณ์เรียบร้อยเสร็จสรรพ เราก็ขึ้นเขากันไป ใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาที ก็มาถึงที่จอดรถสำหรับรถ Coach เพราะเค้าไม่ให้รถใหญ่ไปจอดที่ลานจอดรถหลัก

ตรงนี้เรียกว่า Smiggin Holes เป็นหมู่บ้านย่อมๆ ร้านค้านิดหน่อย แล้วก็เป็นพื้นที่เล่นสกีอยู่ข้างๆ มีคลาสสอนเล่นสกีและ Snowboarding ด้วย (จริงๆ มีสอนหลายที่ แต่ตรงนี้จะสงบหน่อย)

ไปครั้งนี้ผมไม่ได้เล่นอะไรเลยเพราะตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะไปปีนเขาถ่ายรูป ก็เลยจัดเต็มกันเลยทีเดียว

Smiggin Holes Full Gallery
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768242444967073361


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตามที่ได้พูดไว้หลายครั้งตั้งแต่ต้นว่าผมมาครั้งนี้มาปีนเขา ดังนั้นรูปถ่ายของผมก็เลยมีมุมที่จะแตกต่างจากที่คนส่วนใหญ่จะได้ถ่ายกัน เพราะคนที่จะขึ้นเขามาส่วนใหญ่ก็คือคนเล่นสกีกับบอร์ด ซึ่งร้อยละเกือบร้อยก็นั่งกระเช้าขึ้นมา ก็จะไม่ค่อยได้มาถ่ายรูปตามพื้นที่ที่ไม่ใช่กระเช้าหรือเส้นทางการเล่นสกี ส่วนคนที่ไม่ได้เล่นบอร์ดหรือสกี ปกติก็จะอยู่ข้างล่างกัน ดังนั้นมุมมองก็จะเป็นมองจากข้างล่างขึ้นมา

แต่พวกผมไม่มีอุปกรณ์อะไรมาเป็นภาระ ดังนั้นจึงเดินดั้นด้นไปได้ทุกที่ตามแต่แรงขาจะอำนวย 555

เป้าหมายแรกสำหรับวันนี้คือยอดเขา Smiggin Mountain ที่อยู่ข้างที่จอดรถบัสของเรานี่แหละ ผมไม่แน่ใจว่าสูงเท่าไหร่ แต่น่าจะประมาณ 200 เมตร จากพื้นที่ลานจอดรถ (ประมาณ 1900 เมตร จากระดับน้ำทะเล)

Smiggin Mountain Full Gallery:
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768247933936791729


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ลงจากภูเขาลูกแรก ก็มาถึงเป้าหมายที่สอง ยอดเขา Mt Blue Cow ภูเขาวัวน้ำเงิน

ทางเดินขึ้นไปที่ภูเขาลูกนี้ค่อนข้างชันและลื่นเป็นพักๆ น้องที่ไปด้วยเริ่มหมดแรงข้าวต้ม ถึงกับคลานเป็นระยะๆ 555

Mt Blue Cow Full Gallery:
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768253668219129217


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ผ่านไปพักใหญ่ เราก็มาถึงจุดสุดยอด Summit ของ Mt Blue Cow อันที่จริง ที่ยอดเขานี้ จะมีลิฟต์ (กระเช้า) ขึ้นมาถึงเกือบถึง Summit เป็นที่ๆ คนขึ้นมากันมากมาย ทุกคนล้วนมองพวกผมเหมือนตัวประหลาด เพราะว่านอกจากจะไม่มี Ski หรือ Board เหมีอนคนอื่นแล้ว พวกผมก็ยัง 1) ไม่ใส่เสื้อกันหนาว 2) ไม่สวมหมวก 3) ไม่ใส่ถุงมือ และที่สำคัญเดินปีนเขาขึ้นมา ไม่ได้นั่งกระเช้ามาเหมือนชาวบ้านเค้า ทำให้แลดูเหมือนพวกบ้าเป็นอย่างยิ่ง 555

Mt Blue Cow Summit Full Gallery:
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768258747415674801


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
หลังจากขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของ Mt Blue Cow แล้ว ใจผมอยากจะเดินต่อไปลูกที่ 3 ถัดไป เพราะมันดูแล้วสูงกว่าลูกนี้อีกพอสมควร แต่เห็นสภาพน้องที่ไปด้วยแล้วอดสงสารไม่ได้ อีกทั้งเพื่อนๆ ที่เล่นปุ้งกี๋กันอยู่ข้างล่างก็โทรตามยิกๆ ให้ลงไปได้แล้ว ก็เลยคิดว่า วันนี้พอแค่นี้ก็แล้วกัน ก็เลยตัดสินใจเดินลงมา

ใช้เวลาอีกพักใหญ่ก็มาถึงข้างล่าง บริเวณที่เป็นที่ทำการหลักของ Perisher Valley ก็จะมีทุกอย่าง ของกิน ที่เช่า ขาย และซ่อมอุปกรณ์ ไปรณษีย์ รวมทั้ง สถานีรถไฟลอดภูเขาไปอีกสองเมืองที่เป็น Ski Resort เหมือนกัน

Perisher Valley Full Gallery:
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768260605119583985


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ปิดท้าย Review ของผมวันนี้ ด้วย Gallery เล็กๆ จากพื้นที่สำหรับเล่น Toboggan หรือที่เราเรียกกันเป็นภาษาไทยว่า ปุ้งกี๋ ซึ่งอันที่จริงมันคือกระบะพลาสติกที่ให้นั่งแล้วก็เลื่อนลงมา

ปีนี้มีของเล่นใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างนึงคือห่วงยางหมุนได้ ไถลลงมาเร็วมากพอสมควร ผมว่าจะลองเล่น แต่ก็มัวแต่ถ่ายรูปจนเพื่อนกลับกัน ก็เลยขี้เกียจแล้วก็กลับมากับเพื่อนๆ

ก็เป็นอันว่าขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ หวังว่ารูปถ่ายสวยมั่งไม่สวยมั่งจาก Galleries ต่างๆ ที่ผมดั้นด้นปีนเขาไปถ่ายมาให้ชม จะให้ความบันเทิงแก่เพื่อนๆ ตามสมควรครับ

มีคำแนะนำติชมอะไรก็ยินดีน้อมรับทุกความเห็นนะครับ

Toboggan Playground Full Gallery:
http://plus.google.com/photos/102308850447378142650/albums/5768264445730780977


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
สวยจังเลยคะ มิน่าละคุณพี่ดอสไม่ตอบเมลล์เรสักที มัวแต่ไปเริงร่านี่เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ตามมาชมด้วยคนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
แล้วไม่หนาวหรือคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ตอนแรกก็หนาวครับ แต่พอเริ่มเดินๆ ไป เหงื่อออกซะงั้น ก็เลยถอดกันหมดเลย เวลาใครตะโกนมาถามว่าไม่หนาวเหรอ ก็พากันบอกว่า Born here Born here 555


ตอบกลับความเห็นที่ 11