ในการไปเที่ยวในแต่ละประเทศ มีใครเคยเจอประสบการณ์แย่ๆจากเจ้าของท้องที่บ้างไหมครับ

เห็นมีแต่กระทู้ประทับใจ แล้วมีมั่งมั้ยครับที่ใครไปเที่ยวแล้วเจอการปฎิบัติหรือมารยาทที่ไม่ดีจากเจ้าของประเทศ

ความคิดเห็นที่ 1
เคยโดนทั้งด่าและไล่ ที่มาแย่งงานทำ ที่ร้านขายของ ในชิคาโก บอกว่าเป็นนักท่องเที่ยวก็ไม่ฟัง

เคยโดนโกงหลายครั้ง หลายวาระ ขณะโดยสารรถไฟ โดยเจ้าหน้าที่เอง ที่อิตาลี
ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
โดนตะคอกที่ท่ารถ Malaka Sentral มาเลเซีย รถกำลังจะออกเพราะคนเต็มแล้วยืนเบียดกันอยู่ กรุ๊ปเรา8คนก็จะรอคันหลัง คาดว่าจะเป็นคนจัดคิวรถ บอก go go!! เสียงดังมาก โดยเราก็อธิบายแล้วว่าเราต้องการไปคันหลังเราเกิดมาไม่เคยโดนตะคอกขนาดนั้นเลย
มีความรู้สึกไม่ดีมากๆ  เพิ่งเข้าใจคำว่า อยากแทรกแผ่นดินหนี ก็ในวันนั้นเอง
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
โดนโกงค่ารถที่ปากเซ
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เคยต่อยปากกุ๊ยชาวเมารีที่  CHRISTCHURCH , NZ

เราเดินอยู่ดีๆ เดินผ่านหน้ามัน มันด่า ฟัก you  เลยหันกลับไปให้ของลับมันแล้วก็สวนมันกลับไป ฟักยัวเซล์ฟ

เท่านั้นหละมันเดินย่างเข้ามา แต่เจอหมัดผมสวนกลับไปกึ่งปากกึ่งจมูก แล้วเพื่อนมันก็เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อนจะชุลมุน

ผมว่าไอ้พวกเมารีมันคงคับแค้นใจมากที่ประเทศถูกคนต่างถิ่นยึดไปหมด เลยเก็บกดอย่างที่เห็น
ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ที่ฮ่องกง ตอนพาลูกๆ หลานๆ ไปเดินเที่ยว แล้วเด็กๆ เมื่อย ก็เลยไปนั่งที่ขั้นบันใด เพราะหาที่นั่งไม่ได้จริงๆ เราบอกเด็กๆ ให้นั่งไปมุมนึงเพื่อที่จะไม่เกะกะคนเดินขึ้นลง เด็กๆ ก็ไปนั่งตรงมุมซ้ายสุด สักพัก มีคนมาไล่ ส่งภาษาจีนโล้งเล้ง เราก็เลยถามกลับเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เรียกเด็กๆ ให้ไปหาร้านนั่งกินขนมดีกว่า (ไปเที่ยวสี่ห้าวัน รู้สึกว่าฮ่องกงไม่มีพวกม้านั่งตามที่สาธารณะเผื่อคนเมื่อยเลย เหมือนอิตาลีไม่มีผิด เมื่อยก็ต้องเข้าไปในร้านกาแฟอย่างเดียว แถมนั่งกินนี่ราคาแพงกว่ายืนกินด้วย)

อีกครั้งที่ญี่ปุ่น ตรงโดทนโบริ ตอนเดินหาร้านอาหาร ยืนเก้ๆ กังๆ กันทั้งคณะ ไม่รู้จะไปกินร้านไหนดี ก็มีลุงคนนึงออกมาไล่ ทำนองว่าเราไปยืนบังหน้าร้าน เลยต้องรีบย้ายกันทั้งคณะ

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ทริปปากเซด้วยคน ไปนั่งที่ร้านนั่งดื่มชิวๆ แล้วไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำมี 2 ห้อง เรายืนรออยู๋หน้าประตูเพราะไม่มีที่ยืนรอข้างในมันแคบ คือเรายืนคิวต่อไปล่ะจะได้เข้าล่ะ ปรากฎว่ามีผู้หญิงท้องถิ่นเดินแซงเราเข้าไปเลย และใครมาก็เดินเข้าอื้ออึงอยู๋หน้าห้องน้ำเลยไม่มีการต่อคิวเลย เสียความรู้สึกนิดนึงเป็นแบบนี้หลายที่ที่ไปในทริบนั้น

นี่เรามีมารยาทเกินไปหรือโง่ที่ไม่แซงมันเข้าไปนะเนี้ย เซงชีวิต
ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
โดนโกง.ซื้อของที่เมืองจีน ไปซื้อยาทาแก้ปวดเมื่อย ที่ไกด์พาไป ตอนซื้อมายาเต็มขวด พอกลับมา เปิดกล่อง มียาครึ่งขวด ไม่รู้ยามันหายไปตอนไหน เจ็บใจ
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ตอนมัธยมไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพ่อ พี่ชาย พี่สาว.. ขณะกำลังยืนซื้อมันเผาอยู่หน้าโรงแรมที่พัก(ตอนกลางคืน)
ก็มีชายแก่ชาวญี่ปุ่นคนนึงเดินผ่านมา แล้วเบิ๊ดกบาลพี่สาวผม แล้วโวยวายอะไรไม่รู้ แล้วก็เดินจากไป

เราก็เลยงงๆกัน ว่าทำอะไรผิด หรือเขาไม่พอใจอะไร
ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
โสขะปิงค่ะ

1. คนชอบแซงคิว ถ้าโวยวายรักษาสิทธิของตัวเอง คนพวกนี้จะ Twist กลับ ให้คนที่ถูกรังแกกลายเป็นคนผิดแทน พวกคนชาตินี้ที่มีนิสัยชอบแซงคิว มีทุกวัย ตั้งแต่คนทำงานไปยันพวกอากู๋ อาแปะ อาซิ่ม อาม่า

คนพวกนี้มีความสามารถพิเศษที่จะสามารถแซงคิวได้อย่างหน้าด้านๆ แบบพยายามทำเนียนถ้าเผลอเสียบเลย
สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะในร้านอาหารหรู ร้านโกปี๊ ธนาคาร หรือ แม้แต่ที่สนามบิน

2. ส่วนใหญ่ ไม่พูดภาษาอังกฤษ หรือ ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง

3. คนส่วนใหญ่ไม่มีระเบียบ แต่บ้านเมืองเป็นระเบียบเพราะกฏหมายควบคุม ทางการควบคุม

4. คนชาตินี้ที่มีอายุหน่อยพวกจีนๆ มักจะชอบแกล้งชาวต่างชาติที่เป็นคนเอเชีย(ที่หน้าตาไม่ดูเป็นคนจีนมีสตางต์ หน้าตา
ไม่ดูเป็นญี่ปุ่น) เช่น ยืนขวางบันไดกั๊กที่บนรถเมล์สองชั้นไม่ให้คนต่างชาติลงง่ายๆ หรือ เช่นเวลาเดินสวนกันแล้วไม่หลบ
ไปคนละทางให้สวนกันง่ายๆ แต่จะเดินตรงกลางเพื่อกั๊กที่ไม่ให้คนอื่นเดินสวนง่ายๆ แต่คนพวกนี้กลัวฝรั่ง ไม่กล้าแกล้งฝรั่ง

5. เราเคยยืนถ่ายๆ รูปอยู่ในเมือง ถ่ายวิวท้องฟ้า ถ่ายอาคาร มีอากู๋คนนึงเดินเข้ามาหาเรามาด่าล้งเล้งเป็นภาษาฮกเกี้ยน
เราเลยด่ามันกลับเป็นภาษาไทย

ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
อินเดียเลย
สุดยอดแห่งการตื้อ ตื้อขอเงิน ตื้อขายของ-ตามติดแทบจะแนบชิดกันเลยทีเดียว
แถมไกด์ท้องถิ่นก็แสบ ลากไปแต่ร้านที่ตัวเองรู้จักให้ซื้อของแพงๆ คุณภาพห่วย
ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เคยถ่ายรูปเด็กที่สวนสาธารณะในรัสเซีย แม่เด็กหันมาเห็น ชี้หน้าเราแล้วบอกให้ลบรูปเดี๋ยวนี้เลย....
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
คห.11

ถ้าคุณไปทำอย่างนั้นในฝรั่งเศส

แม่เด็กหันมาเห็น
คุณมีสิทธิติดคุก
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เจ้าหน้าที่ตม.มาเก๊าไม่ยอมให้เราเอาน้ำหอม 200 มล. โหลดใต้เครื่อง ตอนนั้นเกทใกล้ปิดแล้ว ตะคอกเราตะคอกเอาๆ สุดท้ายเอาน้ำหอมเราโยนทิ้ง เราเลือดขึ้นหน้าแต่ทำไรไม่ได้ เลยเตะถังขยะแบบสุดแรงเท้า กลิ้งไปกับพื้น คิดๆ ดูโชคดีที่จนท. ไม่เอาเรื่องต่อ แต่ตอนนั้นโมโหจริงๆ เอะอะจับทิ้งอย่างเดียวทีคนอื่นดันให้โหลดได้
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
มาเลเซียค่ะ แย่ที่สุด ไม่ประทับใจที่สุด
เริ่มจากไปถึง kl sentral เราไม่รู้ว่าทางไป รถไฟฟ้าอยู่ที่ไหน ก็เลยถามคนแถวนั้น
มันบอก ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปข้างบน เราก็แบกของพะรุงพะรังขึ้นไป
พอไปถึงข้างบน ก็ยังหาไม่เจอ เลยจะไปถามพนักงานร้านโดนัท
พออ้าปากถาม มันไม่บอก โบกมือไล่ให้ไปถามข้างใน
พอไปถามข้างใน ปรากฏมันโบกมือไล่ให้ลงไปข้างล่าง บอกว่าไม่ใช่ที่นี่ พูดด้วยกิริยาที่ไม่ดี
เลยต้องแบกของพะรุงพะรังลงมาข้างล่าง ไม่มีบันไดเลื่อนด้วย
เจอไอ้คนที่เราถามครั้งแรก มันยืนหัวเราะเยอะใส่ เลว!!!!!

ต่อมาเรานั่งรถไฟฟ้าไปโรงแรม พอมาถึงสถานี imbi
เราก็ไม่รู้ว่าโรงแรมเราอยู่ฝั่งไหน เพราะรอบด้านมันเป็นชื่อโรงแรมหมดเลย
ก็เดินไปถามพนักงานรถไฟฟ้า นางก็เอามือเท้าสะเอวเลย และทำสีหน้ารำคาณ และชี้ๆไปทางนึง
เรากลัวโดนหลอกอีก คิดว่านางชี้ส่งเดช ก็เลยเลือกเดินไปอีกทาง
นางเอกมือเคาะกระจกเลย ป๊อก ป๊อก ป๊อก (เสียงดังนะ) แล้วพูดตะคอกใส่เราว่าให้ไปทางนี้ๆ
น่ากลัวอ่ะ นึกว่าจะโดนกะเทยต่างแดนตบซะแล้ว แต่ก็ยอมเดินไปตามทางที่นางบอก

ต่อมาทางลงรถไฟฟ้าที่นี่ สูงนะ ชันอ่ะ มีบันไดหลายขั้น แล้วของเราก็พะรุงพะรัง
เจอตำรวจมาเลยืนอยู่ 3 นาย เราก็คิดว่าน่าจะเหมือนตำรวจไทย ที่มีน้ำใจ
เลยขอให้ช่วยยกกระเป๋าลงไปให้หน่อย ปรากฏว่า เค้าปฏิเสธ และยืนหัวเราะ (หัวเราะทำไม?)

หลังจากนั้นก็เข้าโรงแรม ได้รับการบริการดีเยี่ยมเลย อาจเพราะเป็นโรงแรมหลายดาว

ตอนเย็น เราไปเดินแถวพาวิลเลี่ยน เจอกลุ่มนักศึกษามาทำแบบสอบถาม
เค้าก็มาถามเรา เราก็ช่วยตอบไป เพราะสมัยเรียนเราก็โดนทำเหมือนกัน
ถามไปถามมา จะบังคับให้เราซื้อสินค้าซะงั้น เราบอกไม่ซื้อ ไม่เอาๆๆๆ มันก็เดินตามตื๊อ เรารีบวิ่งเลย น่ากลัวอ่ะ

แล้วร้านค้า หรือ ร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งร้านดังๆ ป้ายราคาจะแปะไว้ที่ราคานึง
แต่พอเช็คบิล ปรากฏว่า ราคากลับแพงกว่าเดิม
แต่ถ้าเราไปซื้อแล้วยื่นให้เลย โดยที่ไม่พูดอังกฤษ ก็จะได้ราคาตามป้ายทันที (หน้าเราเหมือนพวกจีนมาเล)
สรุปว่า เค้าจะคิดราคาชาร์ทนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

ขากลับเราเลือกนั่งแทกซี่จากโรงแรม ดิ่งตรงไป kl sentral เลย โดยแทกซี่ฟันราคาอีก (แต่ก็โอเค ที่ไทยก็มี)

แรงมาก เมืองนี้
จะไม่ไปเหยียบอีกเด็ดขาด
ถ้าต้องไปต่อเครื่องบิน ก็จะอยู่แค่เฉพาะสนามบินเท่านั้น

จบ
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
งั้นเราก็โชคดีมาก
ไป Disneyland Paris มีเด็กแฝดใส่ชุดเจ้าหญิง เราขออนุญาตแม่เค้าก่อนถ่ายรูป เกือบไปแล้ว...

ที่จำจนตายหรือการขอวีซ่าเยอรมันนี่แหละค่ะ มีปัญหาทั้งที่ไทยและที่เบอลิน
ที่ไทยว่าเด็ดแล้ว เบอลินเด็ดกว่า

ตอนไปต่ออายุวีซ่าที่เบอลิน เจอป้าแก่ๆ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ (แต่ทำงานต่อวีซ่าให้ชาวต่างชาติ) เราเข้าไปขอต่อวีซ่าเพื่อเรียน diploma อีก 3 เดือน ป้าแกก็พูดภาษาเยอรมันมาเป็นชุดเลย ล้งเล้ง
เราเลยบอกว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เป็นภาษาเยอรมัน (ประโยคเดียวที่พูดได้)
ป้าแกตอบมาเป็นภาษาเยอรมัน เราฟังออกได้ว่า " ที่นี่ด๊อยช์แลนด์ต้องพูดด๊อยช์"

จบข่าว...... ไม่รู้จะพูดอะไรกับแกต่อ
ต้องกลับไปที่สถาบันให้เค้าช่วยโทรคุย ว่าจะเอาหลักฐานอะไรอีกนักหนา คือเพื่อนที่ไปขอด้วยกันอีก 3 คนได้หมด หลักฐานเหมือนกันเป๊ะ แต่เค้าติดต่อจ้าหน้าที่คนอื่น

กลับไปเล่าให้คนที่สถาบันฟัง เค้าก็ถามว่าติดต่อช่องไหน เวลากี่โมง เราก็เล่าให้ฟังว่าเจออะไรบ้าง fail สุดๆ เค้าเลยติดต่อนัดเวลาให้ใหม่

คราวนี้เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย พูดอังกฤษได้ เฮ้.......

แปลกใจคือทำไมเค้าถึงเอาคนที่ไม่พูดภาษาอังกฤษมาทำงานหน้าที่แบบนี้หนอ
เพื่อนเราอีกสามคนก็บอกว่าเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อก็ไม่พูดอังกฤษ
ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เคยเจอแบบความเห็น 15 แต่เจอที่ฝรั่งเศส
ุถามเป็นภาษาอังกฤษไป ตอบกลับเป็นฝรั่งเศส ผมทำหน้าไม่เข้าใจ เธอทำหน้าหยิ่งๆแล้วพูดอังกฤษว่า คราวหน้ามาฝรั่งเศส คุณควรจะพูดภาษาฝรั่งเศส

จบเลย ต้องไปหาถามทางคนอื่นต่อ


บาหลี พวกไกด์เถื่อนที่เบซากีห์ เดินๆอยู่มาโวยวายอะไรไม่รู้ใส่ผม แล้วบอกว่าที่นี่ต้องจ้างคนนำเที่ยว เลยด่าไปชุดใหญ่
ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เคยลืมเสื้อกันหนาวไว้ในห้องพักรร.ที่ลักเซมเบิร์ก เราแขวนในตู้ ตอนcheck out ลืมตรวจดู พอขึ้นรถ(ไปกับทัวร์)ออกมาได้สักระยะนึกได้ ให้ไกด์ติดต่อกลับไปรร. บอกเบอร์ห้องพักไปด้วย แต่ได้คำตอบว่า..ไม่พบ.. มึนมากเพราะเสื้อที่ลืม เป็นเสื้อผ้าฝ้ายพื้นเมือง ซื้อจากเชียงราย มันต้องสะดุดตาคนทำความสะอาดมั่งล่ะ เลยทำใจว่า เราได้เผยแพร่ผลิตภัณฑ์โอท็อปให้คนที่นั่นรู้จัก ถ้าลืมไว้ที่ญี่ปุ่นคงได้รับคืนแล้วล่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ไปนั่งร้านอาหารในฮ่องกงครั้งแรก เจอโยนจานข้ามหัว พูดน้ำลายแตกฟองอยุ่ตรงหัวเรา เฮ้อออออออ
ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
เคยที่ฮ่องกงค่ะ เดินกับพี่สาวอยู่ เหมือนมีอะไรบางอย่างหล่นแหม่ะมาบนหัว ปรากฏว่าเป็น สเลด ค่ะ แต่โชคดีพี่สาวใส่หมวกเลยรอดไม่โดนหัวตรงๆ แต่ก็เพลียอยู่ดี
ตอบกลับความเห็นที่ 19