ตกลงไอ้การให้อาหารปลาในทะเลนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่???

คือได้ิยินมานานละว่า ไอ้การเอาขนมปังไปให้ปลาในทะเลมันมารุมตอดเนี่ย มันไม่ดีต่อปลา เสียนิสัย แถมขนมปังก็ไม่ใ่ช่อาหารตามธรรมชาติของปลา ปลากินเข้าไปก็อาจจะป่วยหรือเกิดการกลายพันธุ์ อะไรต่อมิอะไร บลา บลา บลา เยอะแยะ

แต่....

ทำไมยังเห็นรายการท่องเที่ยวทางเคเบิ้ลบางรายการ ก็ยังพาพิธีกรไปจุ่มน้ำทะเลอันดามันแล้วเอาขนมปังไปให้ปลาอยู่?

ทำไมยังเห็นคลิปฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยปีนี้ เอาขนมปังให้ปลามารุมตอดแล้ววี๊ดว้ายกระตู้วู้อยู่?

ตกลงมันเป็นเรื่องที่ควรทำหรือไม่ควรทำกันแน่? ถ้าไม่ควร ทำไมไม่เห็นมีการห้ามปรามอะไรเป็นเรื่องเป็นราว? คือไม่หวังจากราชการเท่าไหร่ (เพราะหวังไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไร ราชการไทย) แต่ก็ไม่เห็นมีองค์กร NGO หรืออะไรออกมารณรงค์สักอย่าง เหมือนมาบ่นๆ กันแล้วก็ปล่อยเลยตามเลยไป

หรือมันไม่ใช่เรื่องใหญ่? อยากทำอะไรก็ทำไป เมืองไทย Land of smile อยู่แล้ว


ที่ถามนี่ไม่แน่ใจจริงๆ เพราะไม่มีความรู้มาก ใครมีความรู้บอกทีเหอะ คาใจชะมัด
ความคิดเห็นที่ 1

ไม่ดีแน่นอนค่ะ

เหมือนให้อาหารสัตว์ป่านั่นแหละ

แต่อีกหลาย ๆ คนก็ยังทำกันอยู่  ไม่รู้ว่าไม่รู้ หรือไม่สนใจ หรืออย่างไร

เราเคยไปตรังเมื่อปีก่อน  คนขับรถตู้เองที่บอกให้ซื้อขนมปังไว้ให้ปลา (ก่อนลงทะเล) แต่เราไม่ซื้อ 

เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ  แต่ถ้าละเลยก็อาจเกิดผลต่อไปข้างหน้านะ

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
มันอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนนะ ต่อให้รณรงค์ยังไง ถ้าคนเราไม่มีจิตสำนึกก็เปล่าประโยชน์ ในเมื่อบางทีพวกทัวร์หรือพวกเรือรับจ้างนี่เองแหละที่เตรียมขนมปังให้นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวโยนขนมปัง ปลากรูมาเป็นฝูง นักท่องเที่ยวเห็นก็ดีใจ วี๊ดๆว้ายๆ ปลาเยอะชะมัด ถ่ายรูป โพสต์โชว์อวด แฮปปี้สุดๆ ผู้ประกอบการก็ดีใจที่นักท่องเที่ยวชอบ วินๆ ทั้งสองฝ่าย
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2-1
วินๆ แต่ฝ่ายมนุษย์นะสิครับ ระบบนิเวศน์บรรลัยก็ช่างมันรึไงครับ ทุกวันนี้จะเห็นลิงออกมาโดนรถชนข้างถนนเยอะมากก็เพราะติดนิสัยมาขออาหารนักท่องเที่ยวกินนี่ละ แถมอาหารที่ให้บางอย่างก็ไม่เหมาะกับสัตว์ป่าเหล่านั้น อย่างขนมปังที่มีน้ำตาลมากกว่าในธรรมชาติ มีส่วนทำให้ฟันของสัตว์เหล่านั้นผุแบบที่ไม่เคยผุตามธรรมชาติ แค่นี้ชีวิตมันก็อยู่ยากละ ไหนจะก่อโรคที่ปกติไม่เคยเป็นกันอีก -*-
ความคิดเห็นที่ 3
NGO ไม่ได้ตังทำอะไรไม่เป็นหรอกครับ ต้อให้มีบริษัทผลิตอาหารปลาทะเล มาจ้าง NGO ถึงจะขยับได้
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ครับทั้งคห 1 และ 2 พูดถูกเลยครับ
หน่วยงานต้นสังกัดไกด์ก็ไม่บรรจุในหลักสูตร ก่อนออกบัตรไกด์

บริษัททัวร์ต้นสังกัดก็ตัวดี ไม่ได้สนใจวัฐจักรของปลาเหล่านี้เลย
กลับกันวิภาวดีขาเข้า กลับส่งเสริม
หรือทำไม่รู้ไม่เห็นการให้อาหารปลาเหล่านี้ได้อย่างไร?

หารู้ไม่ว่าปลาเหล่านี้ไม่ได้ชอบกินขนมปังเลย
มันชอบกินโจ๊กหมู ไม่ใส่ไข่ต่างหาก 555
ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่ดีครับ แต่เพราะนักท่องเที่ยวส่วนมากนั่นแหละตัวการ จากภาพที่โพสต์ทะเลสวย น้ำใส ปลามากมายรอบตัว คนเห็นแล้วก็อยากไปเที่ยว ดูปลาเยอะๆ ไปถ่ายรูป เลยมีการให้อาหารล่อปลา แล้วทำต่อๆกันมา แก้ยากแล้วละครับ
และกระทู้เรื่องนี้ก็มีมาตลอดเช่นกัน ...
และว่ากันว่า มันทำให้ระบบนเวศน์เสีย เพราะปลาที่เข้ามากินอาหารเป็นฝูงๆนั่นคือปลาสลิดหินบั้งเขียว มันจะเข้ามาและอยู่เป็นเจ้าถิ่นเลย นิสัยดุร้ายและไล่ปลาชนิดอื่นในบริเวณนั้นหนีไปหมด ถ้าสังเกตุดู ปลาที่เข้ามากินอาหารจะมีปลาสลิดหินทั้งนั้น เมื่อปลาชนิดอื่นหายไปหมด มันก็จะเสียสมดุลย์ของระบบนิเวศน์...
ไม่รู้นะ ผมก็อ่านมาอีกที แต่เหมือนไม่ค่อยมีใครสนใจอะไร เห็นใครไปเที่ยวก็ยังให้อาหารกันแทบทั้งนั้น
ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
จริงค่ะ ปลาที่มารุมๆเราก็ปลาสลิดหินบั้งเขียวทั้งนั้น
ปลาชนิดอื่น แค่เราเข้าใกล้ก็ว่ายหนีไปหมดแล้วค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าอยากได้ทะเลที่ไม่มีคนให้อาหารปลา ไปหมู่เกาะสุรินทร์ครับ
ไกด์ที่นี่ค่อนข้างได้รับการอบรมมาดีครับ ผมไปมาปีที่แล้วไม่เจอพฤติกรรมอย่างที่ว่าเลย
ท่านอธิบดีกรมอุทยานคนใหม่ ช่วยเข้มงวดกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและไกด์ที่เข้าไปในเขตอุทยานด้วยนะครับ
บรรจุไว้ในนโยบายเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เราว่าไกด์ บ.ทัวร์ก็มีส่วนนะ แทนที่จะช่วยกันรณรงค์ กลับเรียกลูกค้าซื้อขนมปังก่อนลงเรือซะงั้น -_-"
ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ลองดูกระทู้นี้คะ
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/03/E10328435/E10328435.html

เราต้องช่วยกันคะ เริ่มจากตัวเองแล้วบอกคนใกล้ๆตัว
ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่ดีแน่ๆเลย    เหมือนที่คนให้อาหารลิงแถวถนนขึ้นเขาใหญ่อ่ะ  ให้กันทำไมไม่รู้  ลิงเห็นรถคนตอนนี้ไม่กลัวแล้ว  วิ่งมาหาเลย   โดนรถทับตายก็มี   เง้อ.....

พวกเรากำลังเห็นแก่ตัวค่ะ  แค่อยากให้ปลาเข้ามาใกล้เรา  ให้เราจับเล่น  ถ่ายรูปสวยๆ
แต่ไม่มีใครออกมาบอกเลยว่า  ปลาทะเลกินขนมปังเข้าไปแล้วมันมีผลเสียอะไรต่อเค๊าหรือไม่   เช่น  อ้วน    ^^'

สำนึกดีเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรมี   เรื่องพื้นๆ เช่นการไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด
ไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ   ไม่จับสัตว์จากที่อยู่เพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อถ่ายภาพ (เช่น จับปูไก่ หรือปูเสฉวน ซึ่งอยู่ในป่า  มาวางที่ชายหาด  ไกด์ที่เกาะตาชัยก็ห้ามอยู่)
การเดินย่ำไปในที่ๆไม่ควร อย่างแปลงต้นไม้ดอกไม้  ทุ่งกระเจียว  หรือปีนขึ้นไปถ่ายรูปบนป้ายบอกสถานที่
ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ปล.  ตอนนี้เราเปลี่ยนนิสัยการทาครีมกันแดดแล้ว  ลองอ่านดูค่ะ

"ห่วงว่าธรรมชาติที่มีอยู่จะหายไปเพราะบางที่นักท่องเที่ยวไปเยอะ วันก่อนเพื่อนพูดถึงอ่าวมาหยา เขมบอกว่าถ้าไปจะถ่ายรูปต้องถ่ายใกล้ๆ เพราะแบ็คกราวน์เป็นคนและเรือ ทัศนียภาพหายหมดเลย เพราะเขาไม่จำกัดนักท่องเที่ยว

ตอนนั้นไปเกาะอาดังราวี โกรธมากเห็นนักท่องเที่ยวทิ้งกล่องโฟมลอยเต็มไปหมด เขมถ่ายรูปประจานในเฟสบุ๊ค แล้วเอาไปใส่ในเฟสบุ๊คททท.ด้วยนะ ว่าทำไม่อบต.ไม่ดูแล ถ้าเราไม่ช่วยกันดูแลรักษาอีกหน่อยก็คงแย่ คนรุ่นหลังจะไม่มีโอกาสได้ดูถ้าไม่ช่วยกัน ก็เข้าใจว่าผู้ประกอบการต้องการหารายได้ ทำไมทุกที่ไม่จำกัดคนว่าวันหนึ่งสามารถดำน้ำได้กี่คน เรือได้กี่ลำ ก่อนลงต้องไปเซ็นชื่อว่าบริษัทนี้มีคนไปกี่คน เพื่อรักษาธรรมชาติ

อย่างเวลาทาครีมกันแดดต้องทาให้ซึมก่อนครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยดำน้ำ แต่หลายคนก็ทาแล้วลงน้ำความมันลอยอยู่ในน้ำแล้วไปเกาะปะการัง ทำให้ฟอกขาวเร็วขึ้น"

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/society/20121215/482017/มล.กัลยกร-เกษมศรี-ชวนเที่ยวเกาะ.html
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ทำผิดตามๆกันมานาน จนชิน จนไม่รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
มันอยู่ที่ไกด์ด้วย เราไปหลีเป๊ะไกด์ห้ามให้เลย และตามด้านข้างๆเรือก็จะติดป้ายว่าห้ามให้อาหารปลา แต่บางทะเล(แถวๆอันดามัน) ปะการังตายหมดแล้ว เมื่อปะการังตายหมดก็ไม่มีจุดขายไกด์เลยเอาขนมปังให้ปลากินเพื่อให้ลูกค้าตื่นเต้นที่เห็นปลามากันเยอะๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 13