เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆในไทยแต่ขาด........

ช่วงวันหยุดปีใหม่ หยุดสงกานต์ ลอยกระทง  คนไทยหลายๆคงนึกถึงจังหวัดเชียงใหม่เป็นอันดับแรกๆ อย่างช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี่ มีแต่คนไปเชียงใหม่กันทั้งนั้น เชียงใหม่มีอะไรหลายๆอย่างน่าดึงดูด วัฒนธรรมล้านนา อากาศ อาหารการกิน ธรรมชาติ

แต่ที่ขาดไปสำหรับผมคือ Even ใหญ่ๆการจัดมหกรรมกิจกรรมที่มันแปลกใหม่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ และการประชาสัมพันธ์ที่มากกว่านี้ เช่น

สงกานต์
อาจจะจัด ปารตี้โฟม สวนน้ำจำลอง ที่ใหญ่ที่สุด หรือ ชุดล้านนาเดย์อ่ะไรอย่างเงี้ย

ปีใหม่
เช่น กิจกรรมลอยโคมข้ามปี คอนเสริตรวมศิลปินแบบที่โบนานซ่าเค้าทำ

ตอนนี้อาศัยแค่เท่าที่มีอยู่ผมว่ามันอาจจะไม่พอ ต้องหาอะไรเพื่อดึงคนให้มามากขึ้น เพราะคนที่มาเชียงใหม่จะได้กลับมาเที่ยวซ้ำบ่อยๆ

อยากฝากถึงผู้ว่าเชียงใหม่จริงๆในฐานะคนเชียงใหม่ เชียงใหม่มีศักยภาพเพียงพอ ทั้งโรงแรมและการขนส่ง ทั้งอากาศและทางบก แต่ปัจจุบันรายได้ที่ได้จากการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ถือว่าน้อย สังเกตุได้เลยจากโรงแรมใหญ่ๆขึ้นมาก็เจ๊งกันไปตั้งหลายเจ้า ถึงอยู่ได้ก็ถือว่าไม่ค่อยดี
ความคิดเห็นที่ 1
ผมว่าถ้ามี คนคงเยอะมากๆ แค่นี้ช่วงเทศกาลก็แย่งกันกินกันอยู่แล้วครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
อย่าเลยครับ แค่นี้รถก็ติดจนคนเชียงใหม่ไม่อยากออกบ้านแล้ว

แล้วไอ้ลอยโคมข้ามปีนี่ ไม่เห็นด้วยอย่างแรง แค่นี้ ตื่นเช้ามาก็มีโคมเรี่ยราดสกปรกตาเต็มไปหมดแล้วครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
แต่ป้า(คนเชียงใหม่)กลับไม่คิดอย่างนั้น  ขนาดว่าไม่มีโปรโมทไม่มีอีเว้นส์อะไรใหญ่โต  เทศกาลต่างๆ ก็ทำให้คนมาเชียงใหม่เยอะแยะ  อยู่แล้ว   ..


และที่จขกท. บอกมา อย่าง ปารตี้โฟม สวนน้ำจำลอง  มันก็ไม่เหมาะกะเมืองที่ดั้งเดิมมีประเพณีวัฒธรรมที่ดี สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุ  ส่วนเรื่องการแต่งกายคนเมืองเชียงใหม่แท้ๆเค้ารู้อยู่แล้วค่ะว่าช่วงเทศกาลไหนต้องแต่งตัวอย่างไง  อย่างน้อยคุณไปเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์  จะเห็นผู้ชายเค้าใส่เสื้อม่อฮ้อม  ผู้หญิงก็นุ่งซิ่นกันไปวัด ไปใส่บาตร  จะมีบ้างที่เป็นพวกเด็ก ไม่ก็วัยรุ่นที่จะไม่แต่งนั่น อาจเป็นเพราะไม่สะดวกในการเล่นน้ำ  ...


ของดีเมืองเชียงใหม่  เค้ามีดีมากเกินพออยู่แล้วค่ะ  ...  ไม่ต้องมีแรงจูงใจอื่นมาช่วยหรอก
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ปาร์ตี้โฟม...แล้วก็สาวจริงมั้งไม่จริงมั้ง..ใส่กางยีนส์สั้น..ใส่เสื้อสีขาว..เวลาเปียกน้ำแล้วเห็นทะลุทะลวงโดยไม่ต้องจินตนาการ + บวกท่าเต้นคันหู อันเร่าร้อน

     มันเข้ากับเชียงใหม่หรือครับ ???



โคมลอยก็เช่นกัน ช่วงลอยกระทงเขาก็ลอยกันมากพอแล้ว ธุดงค์สถานเขาก็จัดเป็นเรื่องเป็นราวทุกปี   คนที่ดูแลคลังก๊าซ คลังน้ำมัน เขาบ่นกับเรื่องนี้อยู่  



ระบบขนส่งที่คุณว่าเพียงพอนั่นแหละ  มันไม่เพียงพอ ไม่มีซะมากกว่า รถแดงก็ฟันราคานักท่องเที่ยว...

จะไปสถานที่่่ท่องเที่ยวนอกเขตเมืองเชียงใหม่ เดินทางแสนยาก  บ้านถวาย บ่อสร้าง น้ำพุร้อนสันกำแพง พืชสวนโลก  

แค่ลงรถไฟ รถทัวร์ ก็เตรียมใจโดนเฉือดโดยสองแถวแดงไว้เลย
ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
อย่าคิดแต่จะได้ค่ะ  คิดด้วยว่าจะเสียอะไรบ้าง
ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ผมเกิด โต เป็นชาวเชียงใหม่แท้ๆ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เท่าที่มีผมว่ามันดีอยู่แล้วครับ
แต่งชุดพื้นเมืองเค้าก็มีกันอยู่แล้วนะครับ สงกรานต์ (เขียนแบบนี้นะครับ) เค้าก็เชิญชวน
ให้ใส่ชุดผ้าเมืองอยู่แล้ว ส่วนปาร์ตี้โฟม์ มันคงไม่เหมาะกับเมืองเชียงใหม่หรอกครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เห็นด้วยกับ..ป้าเกษ เช่นกันครับ

เชียงใหม่...มันเป็นอะไรๆ ที่เด่นดังมาแต่ชาติปางก่อนแล้ว..ละครับ

ทางภาคเหนือ....คนส่วนใหญ่ก็จะต้องเน้นเชียงใหม่เป็นอันดับแรก อยู่แล้วครับ

ไม่ว่าจะการเดินทาง....ขับรถส่วนตัวก็ไปง่าย  รถไฟก็สุดปลายทาง  เครื่องบินต่อวัน..ก็เพียบ ที่พัก..ไม่ต้องพูดถึง..ทุกตรอกซอย

คหสต. นะ !  ผมอยากจะให้คนไทย..กระจายไปเที่ยวแหล่งอื่นๆ กันบ้างเถอะ  เพราะอีกหลายๆ จังหวัด..ก็ยังมีความเป็นธรรมชาติให้หลงเหลืออีกเยอะ

แต่ก็อย่างว่า...ละครับ ! หากใครมาถาม หากเราบอกไปว่า...เราไป ชม. มา  อึกคนก็จะรู้กว่า....คนไป ชม. แจ๋วอ่ะ

น่าน - แพร่ - แม่ฮ่องสอน - ฯลฯ   มันเป็นจังหวัดที่ไม่ใช่ศูนย์กลางไง ผู้คนถึงนิยมไปกันน้อย หากเปรียบเทียบกับ ชม.

ความชอบของแต่ละคน..ย่อมไม่เหมือนกัน

สิ่งที่คุณเสนอมา..มันเป็นการละเล่น มันเป็นการโชว์อย่างหนึ่ง มันไม่ได้เป็นการไปสัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยมนัก ซึ่ง...หากมีแบบนั้นมากๆ บ่อยๆ มันก็จะหมดความเป็นวัฒนธรรมอย่างที่..ป้าเกษ บอกออกมา..ไงครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ขออนุญาต ไม่เห็นด้วย กับ จขกท อย่างแรงครับ

ที่เชียงใหม่ขาดตอนนี้ก็คือ  ระบบขนส่งสาธารณะ ที่มีประสิทธิภาพต่างหากครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของเจ้าของกระทู้สักนิด

หากต้องการแบบนั้นไปเที่ยวที่อื่น เราคนเชียงใหม่มีจุดแข็งอยู่ที่ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ไม่ใช่วัฒนธรรมแบบปาหี่

เห็นด้วยกับความเห็น 8 มากระบบรถแดงครองเมือง ควรจะได้รับการจัดการมากกว่า
ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
การจราจร นรกสุดๆยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนโอ้ยไม่ไหวง่ะ ขนส่งมวลชนก็หาได้น้อยมาก เรียกรถแดงอย่างเดียว บางทีก็เบื่อขี้เกียจต่อราคา
ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
บอกตามตรง ทุกวันนี้ไม่ต้องมี อีเวร อีแหวะ อะไร ถึงวันหยุดทีไรผม และคนเชียงใหม่ หลายๆ คนแทบจะไม่ออกบ้านเลยครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ดูจากกิจกรรมที่ จขกท. เสนอมา ผมว่า จขกท. ตั้งกระทู้ล่อเป้าซะมากกว่า เดาว่าคนเข้ามาตอบคงไม่เห็นด้วยเกือบทั้งหมดรวมทั้งผม

เพราะกิจกรรมที่กล่าวถึง ไม่ถูกกาละเทศะ คือ ไม่เหมาะสมทั้ง สถานที่ และช่วงเวลา (ขออภัยไม่ได้มีเจตนาก้าวล่วง จขกท. เป็นเพียงความคิดเห็น)
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ผมคนกรุงเทพฯ อยู่และเติบโตมากับกรุงเทพฯ เห็นความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้า ในรอบหลายสิบปี ผมยังเสียดาย "เวนิสตะวันออก" ที่ฝรั่งเคยเรียก เคยบันทึกให้ลูกหลานได้อ่าน แล้วพยายามเดินทางมาดูว่า อะไรคือ เวนิสตะวันออก

สำหรับเชียงใหม่ แค่นี้สำหรับผมวิเศษสุดแล้วในสายตาของผม  เพียงแต่ต้องขจัดสิ่งไม่ดีออกไป หรือปรับอะไรให้เหมาะสมกว่านี้ เช่น การเดินทางพื้นฐาน โดยรถสาธารณะที่ต้องปรับปรุงให้เป็นระบบมากกว่านี้ ยังมีการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอยู่

เมืองที่มีของดีอยู่แล้วแค่รักษาไว้ก็เพียงพอแล้ว แต่เมืองที่ไม่มีอะไรจะขาย เช่น สิงคโปร์ ก็ต้องพยายามสร้างจุดขายใหม่ขึ้นมาครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆในไทยแต่ขาด >>> บ้านผม


อยากมีซักหลังนึง แถวๆ แม่โจ้ สันทราย เนาะ


อิ อิ
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
สิ่งที่คุณคิดเขาเรียกว่า การพัฒนาแบบไร้ทิศทาง ครับ
มีแต่จะทำให้เสื่อมลงเรื่อยๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ผมว่าจัดกิจกรรมปีใหม่แบบโบราณก็น่าสนใจนะครับ ให้แต่งชุดม่อฮ่อมกันทั้งเมือง ตักบาตรพระแบบชาวเหนือแท้ๆ
เพราะใครๆก็ว่าจะดูเชียงใหม่เมื่อ30ปีที่แล้วต้องไปหลวงพระบาง
ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เห็นหัวข้อกระทู้ สิ่งที่แว้บเข้ามาในหัวคือ ขาดการขนส่งสาธารณะที่ดี ต่างหาก
ไม่ใช่ที่มีอยู่นี้ไม่ดีนะ แต่มันไม่ดีมากๆต่างหาก ไม่เป็นระบบระเบียบ ต้องให้นักท่องเที่ยวคาดเดาตลอดเวลา
ส่วนจะให้กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมันก็เป็นเรื่องดีนะ แต่ไม่ใช่อะไรที่มันแปลกใหม่หรือแหวกวัฒนธรรมเดิมๆ
ผมว่า ประเพณี และวัฒนธรรมอันเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ของเชียงใหม่นี่แหละ ที่เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาน่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
อย่าเลยครับ ทุกวันนี้เบื่อมากเวลา เทศกาลที่ผ่านมา มอเตอร์ไซด์โอ๊ยๆ จากทั่วประเทศ มาซิ่งกันทั่้งคืน  
ทางขึ้นดอยสุเทพ  โยนขยะทิ้งข้างทางแบบเห็นๆ

นักท่องเที่ยวมาปลดปล่อยมากกว่า ไม่ได้มาเพื่อเข้าหาวัฒนธรรม และธรรมชาติ ส่วนปีใหม่ สวดมนต์ข้ามปี น่าจะดีที่สุด
ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อะไรที่มีเสน่ห์ของมันอยู่ในตัว ไม่ต้องไปเติมแต่งก็มีคนชื่นชม นิยมอยู่แล้วค่ะ
เชียงใหม่มีวัฒนธรรม ประเพณีเก่าแก่ มีเสน่ห์ แค่นี้นักท่องเที่ยวก็เยอะทุกเทศกาลอยู่แล้วค่ะ
เราควรจะเห็นใจคนในพื้นที่ดีกว่านะ ความเจริญเข้ามา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป ถึงเวลาหยุดยาว เทศกาลรถติดมากก แย่งกันกิน/เที่ยวกันหมด
...อะไรที่ส่งเสริมมากเกินไปมันมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดีนะคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
คุณ จขกท. เอาสมองส่วนไหนคิดครับ พวก event พวกนั้นน่ะ
สักแต่จะเอาแต่รายได้ แต่ไม่คำนึงถึงความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยว
อีกหน่อยก็จะไม่เหลือเอกลักษณ์อะไรอีกเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
อยากให้ทำท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้าง แบบเจ้าของกระทู้ว่า ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่หรอก ที่ไหนก็มี เหมือนเปลี่ยนสถานที่กินเหล้าม
ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
เอ่อ กิจกรรมแต่ละอย่างที่ว่ามา มันกิจกรรมหลักลอยที่เขาใช้โปรโมทสถานที่เพื่อแจ้งเกิดที่เที่ยวใหม่ๆนี่ครับ เชียงใหม่นี่ติดลมบนจนไม่ต้องโปรโมทอะไรแล้วมั้ง แล้วการที่นักท่องเที่ยวเขารู้จักเชียงใหม่ดีมากๆอยู่แล้ว การที่ไปทำอะไรที่มันเปลี่ยนไปจากที่เขารู้จักก็เหมือนการเปลี่ยนภาพพจน์ คุณจะได้ลูกค้าใหม่แต่คุณจะเสียลูกค้าเก่า ซึ่งชั่งดูแล้วไม่คุ้มเสียครับ เหมือนที่ฝรั่งเขาไม่เที่ยวปายเหมือนเมื่อก่อนเพราะปัจจุบันมันหลุดสเป็กเขาไปแล้ว

ส่วนโรงแรมที่เจ๊งไปส่วนใหญ่มันเรื่องกลไกตลาดครับ ไม่ใช่เพราะนักท่องเที่ยวน้อยลงปริมาณนักท่องเที่ยวมันมีแต่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ธุรกิจโรงแรมมันโตเกินดีมานด์เอง พอมันล้นตลาดลูกค้าก็มีสิทธิ์เลือก อันไหนดีกว่า ถูกกว่า เขาก็ได้ลูกค้าไป ส่วนที่ไม่ถูกใจนักท่องเที่ยวพอก็เจ๊ง เชียงใหม่ตลาดคนละอย่างกับหัวหินพัทยา ที่นักท่องเที่ยวแบบมากินนอนในจุดๆเดียว แต่เชียงใหม่ไม่มีกระจุกนอนแบบนั้น นักท่องเที่ยวกระจายไปทั่วตามป่าเขาและแหล่งท่องเที่ยวที่กระจายไปทั่วจังหวัดที่เกิน 10 ล้านไร่ ทำให้โรงแรมใหญ่ๆในเมืองจุดเดียวไม่ซัพพอร์ตพื้นที่ที่กว้างใหญ่ขนาดนั้นได้ นักท่องเที่ยวเลยนิยมการย้ายไปนอนที่พักขนาดเล็กตามจุดท่องเที่ยวเป็นแห่งๆไปมากกว่า ถ้าต้องคอยตีกลับโรงแรมในเมืองก็ไม่ได้เที่ยวพอดี

แต่ประเด็นขนส่งสาธารณะนี่เห็นด้วยกับหลายๆความคิดเห็นว่ามันเพียงพอแต่มันไม่พอดีกับความต้องการ ตัวเลือกมันน้อย เหมือนบังคับให้ใช้รถสองแถวหลากสีเป็นทางเลือกเดียวในการเดินทาง ซึ่งบางส่วนมันยังเป็นระบบเจรจาอยู่ ไม่ใช่การเดินทางราคาตายตัวแบบแท็กซี่หรือบัส ซึ่งเจ๊คนนั้นเขาไม่ยอมให้เกิดซักทีอุ้มแต่ฐานเสียงรถแดงอยู่นั่น ใครมาเชียงใหม่แบบนักวางแผนงบการเดินทางถึงต้องมาคอยตั้งกระทู้ถามว่าจะไปนั้นไปนู้นต้องประมาณเท่าไหร่ จะได้เจรจาถูก!!! คือถ้าอันอื่นมันยากก็ขอแค่อันเดียวก็ได้ จากสนามบินเข้าเมืองเนี่ยเห็นนักท่องเที่ยวมาลงทีต้องมาต่อรองราคากับรถแดงทีมันยังไงๆอยู่ ยังไม่ทันจะเดินเข้าบ้านก็โดนรีดกันตั้งแต่ประตูรั้วแล้วเรอะ ประทับใจฝรั่งครับเจ้านาย
ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
จขกท ลืมตัว t อ่ะ

เดี๋ยวมีคนอ่านผิด
ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
คิดเหมือนหลายคหเลยครับที่ว่า สิ่งที่ต้องรีบคิดแก้ไขอย่างเร่งด่วนคือ จัดระบบการขนส่งมวลชนให้ดีเสียก่อน เรื่องนี้ควรคิดทำมากกว่าจะมาคอยนั่งคิดอีเว้นท์ต่างๆเรียกคนมาเที่ยวเสียอีก จะมีประโยชน์อะไรถ้ามีคนมาเที่ยวมากมายแต่ต้องมาเจอรถติด โดนรถโดยสารหลอกฟันแพงๆ ผู้บริหารเมืองเชียงใหม่คิดอะไรที่เป็นขั้นเป็นตอน เป็นระบบ อย่างที่เค้าเรียกว่า ความคิดตกผลึก เป็นมั้ยครับ แต่อย่าเอาจขกทไปร่วมคิดด้วยนะครับ กลัวจะไม่มีคนไปเหยียบเชียงใหม่อีก

ขอเพิ่มอีกนิดว่า ขอร้องให้คนเชียงใหม่อย่านิ่งดูดายอยู่เงียบๆ ช่วยเรียกร้องให้เกิดระบบขนส่งมวลชนที่ได้มาตรฐานเสียทีเถิด อาจจะผ่านช่องทางการเลือกตั้งก็ได้ ยังไงกลุ่มคนขับรถแดงคงมีจำนวนน้อยกว่าคนที่ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน อย่าให้พวกนี้ครองเมืองตลอดไปเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ในฐานะคนเชียงใหม่เช่นเดียวกับ จขกท. สิ่งที่ต้องกระทำอย่างเร่งด่วนในตอนนี้ คือ "หยุด" กิจกรรมทุกสิ่งอย่าง ที่จะทำลายสิ่งที่ปู่ย่า ตายายสร้างขึ้นมา (นั่นเป็นสิ่งที่คนเชียงใหม่ในปัจจุบัน ใช้ "หากิน" อยู่ตอนนี้) และหันมาดูแลเอาใจใส่ ให้มากกว่านี้อีกมากๆ

ล่าสุดโครงการก่อสร้างคอนโดขนาบคูเมืองด้านนอกฝั่งแจ่งหัวลิน กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน (บวกกับอีกหลายคอนโด หลายห้างสรรพสินค้า) ดูน่ากลัวพิลึก
ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
เชียงใหม่มีเสน่ห์ด้วยตัวของมันเองครับ ทั้งอาหาร อากาศ ย่านเมืองเก่า วัดวาอาราม  ธรรมชาติ ฯลฯ แค่นี้ก็ทำให้คนกลับไปเยือนได้เรื่อยๆทุกปี

แทบไม่จำเป็นต้องจัด event อะไรมาปรุงแต่งให้เสียเอกลักษณ์เหมือนเมืองท่องเที่ยวหลายๆแห่งเลย แทนที่จะทำแบบนั้นผมว่าอนุรักษ์สิ่งดีๆที่มีอยู่เอาไว้ดีกว่า
ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
เบี้องหลังอย่าเลย

แค่นี้ก็กินกันจะตายอยู่แล้ว

เสียดายภาษีชาติค่ะ อย่าให้บอกเลยว่าใครกินกันบ้าง

ถ้ามีการให้บริษัทจัดงาน แค่วิจัยแม่ข่าตอบอย่างเด็ก 3 ขวบยังเอาไป 200 ล้าน(ไม่ต้องวิจัยใคร ๆ ก็รู้ )  ถ้าจัดงานใหญ่โตขนาดนั้นน่าจะกินกันตายเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ปาร์ตี้โฟมแนะนำ บุรีรัมย์ครับ อาโออิมาเอง
ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ขอโทษที่เห็นต่างค่ะ จขกท.
เชียงใหม่มีวัฒธรรม และความสวยอยู่แล้วค่ะ แค่นี้นักท่องเที่ยวก็แห่กันมาตลอดอยู่แล้ว

ทุกวันนี้ไม่มี มหกรรมงานอย่างที่คุณเสนอ รถยังติดยังกะ กทม.เลยค่ะ
และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ปาร์ตี้โฟม เอามาทำไม ?? เอามานุ่งน้อยห่มน้อย ล่อเป้าอีกแล้ว ?
และลอยโคม ทุกวันนี้เฉพาะลอยกระทง โคมยังตกตามหลังคาบ้านบ้างต้นไม้บ้าง เกลื่อนเลยค่ะ ทำให้เครื่องบิน ดีเลย์อีกด้วย

"ทุกวันนี้เชียงใหม่ สวยและเพียงพอแล้วค่ะ"
ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
ควรบริหารจัดการเรื่องถนน หนทางก่อนที่จะมีงานใหญ่โต  ก่อนนะค่ะ

แค่ปกติ  ก็ไม่อยากเดินทางออกไปไหนแล้วค่ะ   แค่ประชากรที่อาศัยอยู่

ในเชียงใหม่   ก็แย่งกันใช้ถนนอย่างมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
แค่นี้คนก็เยอะพอแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
ผมคนเชียงใหม่ กลับชอบที่เป็นอยุู่นี่ คือเชียงใหม่ เป็นเมืองที่ event เยอะมากพออยู่แล้ว แต่เป็น งานไม่ใหญ่

ลองไล่ดูเถิด เชียงใหม่ มีกิจกรรมทุกสัปดาห์ เพียงแต่ จขกท ไม่ติดตามข่าวสารให้รอบด้านเอง รู้จักแค่งานโฟม เลยไม่รู้ว่า เชียงใหม่เขามีอะไรบ้าง ทั้งงานแบบพื้นเมือง หรือ งาน jazz งานลอลลูนที่จัดโดยฝรั่ง การแข่งขันคริกเก๊ตระดับโลก สงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง งานชนกว่าง ยี่เป็ง มหกรรมกีฬาแห่งชาตินึครพิงค์เกมส์ งานไม้ดอกไม้ประดับ เคาน์ดาวน์ อย่างปกติธรรมดา ก็ต้องมีถนนคนเดินทุกเสาร์อาทิตย์

พูดได้เต็มปากเต็มคำได้ว่า เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่เทียวได้ตลอดปี ไม่เชื่อลองเสริชดู คำว่า เชียงใหม่ ในห้องบลูนี่ก็ได้ ทุกวันจะต้องเจอโพสถามเรื่อง เที่ยวเชียงใหม่ อยู่ไม่ขาด

จัดเล็กๆ บ่อยๆ แบบนี้ดีกว่างานยักษ์ ให้คนมาแออัด แย่งกันเที่ยว แย่งกันกิน แย่งกันขับถ่าย จนไม่มีเวลาซึมซับความงามของเชียงใหม่
ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ความสงบ ไม่วุ่นวาย อยู่สบายก็เป็นจุดขายของเชียงใหม่เช่นกัน ...
ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
จขกท. ยังวัยรุ่นอยู่แน่เลยค่ะ คงคิดแบบวัยรุ่นทั่วไปน่ะคะ
พอเห็นคนเยอะ ก็คิดว่าน่าจะมี คงคึกคักได้อีก
(อย่าว่าหลายเด้อ)
ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
ส่วนตัวแล้วมีความคิดว่าไม่จำเป็นต้องจัดงานอีเวนท์อะไรเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว อย่างไงก็มีอะไรเช่นธรรมชาติ ป่าเขาอย่างอื่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อยู่แล้ว ถ้าจะจัดควรจะไปจัดจังหวัดอื่นที่แหล่งท่องเที่ยวยังไม่ดังจะดีกว่า รถจะได้ไม่ติดด้วย
ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
ไม่มีความจะเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย  มันฉาบฉวย ไร้วัฒนธรรม  สิ่งดีๆ มีอยู่แล้วมากมาย ที่เชียงใหม่  ขาดแต่การจัดการที่ดีแค่นั้น
ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
คห. 1-26

ตอบไปหมดแล้ว.. เสี้ยงอํก เสี้ยงใจ๋

โคม.. เป๋นป๋าเวนียี่เป็งตะอั้นเน้อหล้า.. ขออย่านำไปใช้แบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือนอกเทศกาล หรือ จุดประทัด มะถบ อนุโลมตรุษจีนได้อีกงาน วันดีคืนดี ได้ยินเสียงบอกไฟจ๊างฮ้อง ในงานหนึ่ง ตกกะใจ เพราะเขาใช้จุดในงานศพ.. ต้องระมัดระวัง..

ถ้ามีงานแต่งกายพื้นเมือง รับรอง จะเพ๊อะแน่ๆ เพราะจะมีคนประดิษฐ์ประดอยชุดพื้นเมืองแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน.. แล้วจะปวดหัวเพิ่ม.. ตามวัด พวกเราก็แต่งพื้นเมืองอยู่แล้ว..

ช่วยอบรมพวกรถแดงกันดีกว่า.. พวกนี้ทำลายวัฒนธรรม..

ปล. ช่วงเทศกาล ข้าเจ้าขออยู่บ้าน ถ้าจะออกบ้าน ก็ออกไปตลาดแต่เช้ามืดดีกว่า ^-^
ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
เชียงใหม่ มีเอกลัษณ์ ที่สวยงามอยู่แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องเสริมแต่งอะไรที่มันเป็นวัฒนธรรมสมัยใหม่เข้ามา
ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
สำหรับเราแล้ว

เชียงใหม่ สวยและมีดีอยุ่ตรงที่เป็นเมืองที่มีรากเหง้า มีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ มีผู้คนที่อ่อนหวาน มีคนที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ทุกอย่างมันหล่อหลอมออกมาเป็นเชียงใหม่ที่งดงามอยู่แล้วค่ะ บางทีสิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปเสริมเติมแต่งให้มันเปลี่ยนแปลงจากที่เป็นอยู่เดิม เพียงแค่ปรับปรุงในสิ่งที่ไม่โอเคอย่างเช่น รถแดงที่โขกค่าโดยสารเท่านั้นเอง ระบบขนส่งที่ดีกว่านี้

เราเชื่อว่า คนไปเชียงใหม่ ล้วนแต่อยากเจอวัฒนธรรมที่สวยงามในแบบฉบับเดิมค่ะ เสน่ห์ของมหานครเชียงใหม่อยู่ตรงนี้หล่ะค่ะ อย่าได้เอาอะไรมาปรุงแต่งให้มากนักเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
เราคนเชียงไหม่

ยังไม่อยากเข้าตัวเมืองในวันหยุดเลยค่ะ

หาที่จอดรถก็ยาก

ถนนก็เต็มไปด้วยรถรา

เบื่อมากๆ

ไม่ได้อยากไปไหนเลย ....ยังดีที่อยู่รอบนอก
ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
แบบที่ จขกท เสนอมานั่น ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่ มันเหมาะสำหรับ
เมืองใหม่ ที่ไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเลย
เมืองแบบนี้ เค้าจำเป็นต้องสร้างเรื่องราว เพื่อพาคนมาเที่ยว

แต่ เชียงใหม่ เค้ามีของดีดั้งเดิมเยอะมากอยู่แล้ว จะมีปัญหา
ก็ตรงที่การรักษาให้ คงอยู่ ไม่กลายพันธ์เละเทะต่างหากล่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
จขกท

ขอโทษคับ ผมลืมคิดถึงวัฒนธรรมเก่า ของที่มันดีอยู่แล้ว มัวแต่คิดเรื่องสร้างจุดเด่น จุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว คือผมเห็นว่าเชียงใหม่ช่วงหยุดยาวน่าจะมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ไปกว่าเดิม คือที่ผมได้ยินมาจากเพื่อนๆพี่ๆหลายคนเค้าชอบพูดว่าเชียงใหม่ไปทุกครั้งก็เหมือนเดิมอะไรทำนองนี้ ซึ่งมันอาจจะไม่ซะทุกคน และอาจจะไม่ถูกใจคนเชียงใหม่เท่าไร ถ้าคนจะเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ยิ่งทำให้รถติดมากขึ้น

ถ้าเชียงใหม่มีการจัดการเรื่องขนส่งมวลชนให้ดีกว่านี้ แล้วรถไม่ติดอย่างปัจจุบันคงทำให้คนเก็นด้วยกับผมไม่มากก็น้อย คือผมคิดว่าเราจะเก็บของเก่า อาศัยจุดขายเดิมๆมันอาจจจะไม่เพียงพอ คือต้องการสื่อคือ รักษาจุดเด่น วัฒนธรรมดีๆไว้ให้คงอยู่ แต่ก็เพิ่มจุดเด่นเข้าไป แต่เพื่อเศรษฐกิจ รายได้มากขึ้นของคนในเชียงใหม่ เพราะรายได้คนเชียงใหม่น้อยถ้าเทียบกับจังหวัดอื่นๆ  

คือผมอาจจะมองด้านเศรษฐศาสตร์มากไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ลืมวัฒนธรรมเดิม สิ่งที่มีค่าดีอยู่แล้ว อยากให้เราทำได้เหมือนญี่ปุ่น เมืองจะพัฒนาไปมากเท่าไรก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมที่ดีไว้ได้คงเดิม แล้วถ้าเรามีรายได้ที่มากขึ้นก็สามารถนำเงินกลับไปบูรณะโบราณสถานหรือว่าสร้างส่งเสริมในด้านอื่นๆอีกมากมาย

ผมอาจจะเห็นต่างจากหลายท่านแต่แค่คิดต่างไปคงไม่ว่ากันนะคับ

อีกอย่าง ปารตี้โฟมที่ผมบอกเนี่ย ทำไมมีแต่คนคิดไปในแนวลบอ่ะคับ ผมคงอธิบายไม่เคลียรเอง คือ ก็ลักษณะเป็นแนวมหกรรมฟองสบู่ ที่มันจัดให้ใหญ่ ไม่ใช่เล็กๆเหมือนที่จัดบ่อยๆข้างกาดสวนแก้ว ให้เด็กๆผู้ใหญ่ได้สนุกสนานคลายร้อนช่วงสงกานต์ มีสวนน้ำเคลื่อนที่ได้ยิ่งดีคับ ดีกว่าไปโดดเล่นตามคูเมือง หลายคนกลัวเรื่องการแต่งกายก็ควบคุมสิคับ ใครแต่งไม่มิดชิดก็ไม่ให้เข้า ผมว่าถ้าทำให้ดีมันทำได้นะผมว่า

ขอบคุณคับ
ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
ไม่ไหวครับรถติดมากๆ ปกติผมขับรถจากนิมมานกลับบ้านใช้เวลา 2-3 นาทีเองนะครับ ปัจจุบันใช้เวลาร่วม 10 กว่านาที วันไหนรถติดนี่เกือบ 20 นาทีเลยทีเดียว ไม่ไหวแล้วครับเชียงใหม่ตอนนี้เหนื่อยมากๆ ไม่อยากออกบ้านไปไหนเลยจริงๆ เสาร์อาทิตย์นี่ไม่อยากไปห้าง ไม่อยากไปที่คนเยอะๆ อยากอยู่ชิวๆ เหมือนเมื่อก่อน ..
ตอบกลับความเห็นที่ 43