ใครอยู่อเมริกาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มั่งคะ

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนฉันกลับบ้านดึกมากบ้านอยู่ San Diego ค่ะ เพื่อนมาส่งบ้านเกือบตีสองเพื่อนเลี้ยวรถออกไปแล้ว ฉันกำลังจะไขประตูเกต

เข้าไปในบ้าน ทันใดนั้นก็มีผู้ชายแม๊กชิกันตัวลำ่ๆแต่งตัวดูดีเดินตามหลังฉันเข้ามาพร้อมบอกว่า"คุณมีโทรศัพท์ไหมผมขอยืมใช้โทรศัพท์คุณ

หน่อย" เค้าพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใก้ลฉันรีบบอกว่าไม่มีค่ะ เค้าก็ถามต่อ"งั้นโทรศัพท์ในบ้านคุณล่ะมีไหมผมขอยืมโทรหาภรรยาผม

หน่อยพอดีมือผมแบตหมด" เค้าพูดพร้อมโชมีอถือรุ่นเก่าๆให้ฉันดู(ไม่ใช่ไอโฟนนะคะไม่รู้ยี่ห้ออะไร) ฉันยืนลังเลอยู่แป๊ปนึงเลยบอกเค้า

ว่า"OK งั้นคุณรออยู่ตรงหน้าประตูเกดนี่แหละเดี๋ยวฉันหยิบโทรศัพท์บ้านมาให้คุณโทรนะ" แล้วฉันปิดประตูเกดเดินเข้าบ้านไปหยิบโทรศัพท์มา

ให้ชายคนนั้น และระหว่างที่ชายคนนั้นใช้โทรศัพท์อยู่ฉันก็กลับเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะไปเข้าห้องนำ้เพราะทนไม่ไหวดื่มเบียร์มา2แก้วใหญ่ๆ พอ

ทำธุระในห้องนำ้เสร็จฉันรีบเดินออกมาที่หน้าบ้านเพื่อที่จะมาเอาโทรศัพท์คืนจากชายแปลกหน้าคนนั้น พอเดินออกมาเค้าพูดขึ้นมา "โทรศัพท์

มันไม่workนะคุณคุณมีโทรศัพท์เครื่องอืนอีกไหมหรืออาจจะเป็นเพราะปั๊กโทรศัพท์เสียบไม่แน่นหรือเปล่าคุณช่วยตรวจดูให้ผมอีกทีได้ไหม"

ฉันเห็นท่าไม่ดีเลยรีบบอกไปว่าไม่นะโทรศัพท์บ้านฉันไม่เคยเสียนะฉันใช้มันอยู่ทุกวันอยู่ดีดีวันนี้ทำไมวันนี้มันเสียฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันฉัน

เสียใจด้วยนะฉันคงช่วยคุณได้เท่านี้แหละ" พูดเสร็จฉันก็แง้มประตูเกดเอาโทรศัพท์ฉันคืนมาจากชายแปลกหน้าคนนั้นแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านล๊อก

ประตูแต่ยังไม่กล้าเปิดไฟฮ่าๆ แล้วฉันก็แอบยืนดูที่หน้าต่างหลังบ้านก็เห็นแสงไฟจากรถเข้ามาในชอยแต่แต่รถไม่วิ่งผ่านชอยไปชอยบ้านฉัน

มันเป็นชอยทะรุนะคะซึ่งรถสามารถวิ่งผ่านแล้วออกอีกทางได้ ฉันเลยคิดว่าแสงรถคันนั้นน่าจะเลี้ยวเข้ามารับชายคนนั้นหรือเปล่า แล้วเค้าคือ

พวก18มงกุฏหรือไม่ หรือว่าเค้าเดือดร้อนหลงทางแบตรี่โทรศัพท์หมดติดต่อภรรยาให้มารับไม่ได้จริงๆรึว่ายังคะ เพื่อนๆคิดว่ายังไงกันคะกะ

เรื่องเรื่อง ฉันก็อยู่เมกามานานตั้งแต่เด็กจนแก่ขนาดนี้พึ่งจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกค่ะ เลยงงว่ามันคืออะไรกันแน่ และถ้าฉันเอา

ดอโฟนของฉันให้เค้ายืมแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น? แล้วจู่ๆทำไมโทรศัพท์บ้านฉันมันก็เสียไปซะงั้น ทั้งๆที่ฉันก็ไม่เคยแตะต้องหรือใช้มันเลย ที่มี

โทรศัพท์บ้านไว้เพราะเผื่อยามฉุกเฉินเรียก911ได้สะดวกและรวดเร็วกว่ามือถือ ฉันได้ยินโทรศัพท์บ้านดังอยู่ทุกวันวันละหลายๆรอบแต่ฉันไม่

เคยยกหูรับเพราะรู้ว่าพวกขายของทางโทรศัพท์นั้นเยอะมาก พอมาเมื่อคืนเอาโทรศัพท์ให้ชายแปลกหน้าคนนั้นยืมมันกลับดับไปเฉยๆวะงั้น

แต่ก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ให้เค้าไปฉันไม่ได้เช็คนะคะว่าโทรศัพท์มันเสียหรือไม่เสียอะค่ะ เพื่อนๆคิดว่าไงคะใครเคยเจอแบบดิฉันบ้างคะ

ความคิดเห็นที่ 1
You are so lucky. At 2 AM, you do not talk to stranger who try to get into your house. Call 911 for him if he really need help.


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
nothing's good after midnight.


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เห็นด้วยกับคุณ kiewsai ว่าให้โทรหา 911 ถ้าจะช่วยเหลือคนนั้น ถ้าไม่เป็นพวกมิจฉาชีพเค้าคงจะไม่ปฏิเสธ โชคดีนะครับที่ไม่เป็นอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เคยมีผู้หญิงเคาะประตูบ้านตอนตี 2-3 ที่เห็นเป็นผู้หญิงเพราะดูผ่านทางหน้าต่าง เลยโทรบอกตำรวจ ตำรวจบอกว่าห้ามเปิดประตู ขอที่อยู่เรา อีกห้านาทีตำรวจมา เดินหาทั่วแต่ไม่เจอตัวแล้ว ทางที่ดีอย่าเปิดประตูดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่โดนทุบหัวก็ดีแล้วครับ

เคยทำงานอยู่แถว hillcrest เพื่อนที่ทำงานอยู่ด้วยเลิกงานประมาณ 4 ทุ่ม จอดรถไว้หลังร้านอาหาร เดินไปจะขึ้นรถ โดนทุบหัว ทรัพย์สินอยู่เหมือนเดิม กระโหลกร้าว แต่ไม่ตาย


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
คุณกล้าหาญและโชคดีมาก ที่แมรี่แลนด์เขาปล้นกันโดยขับรถไปชนแล้วรอให้เหยื่อลงมาจากรถ

จำไว้ให้ดี กลางคืนเกิดอุบัติเหตุอย่าลงจากรถจนกว่าตำรวจจะมา


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณทุกท่านมากเลยค่ะ คือดิฉันก็ไม่ได้กล้าหาญอะไรหรอกนะคะ ย้ายมาอยู่SD(ย้ายลงมาจากSFค่ะ)ก็3ปีกว่าแล้วไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลยค่ะ ต่อไปเวลาจะเข้าบ้านคงจะอดสยองไม่ได้ซะแล้วสิ
แต่ดิฉันจะระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เตือนและให้สติดิฉันนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เห็นชื่อจขกทเลยเข้ามาแจม ชอบคำว่า ดอโฟน แหะๆเจ๊พึ่งเคยได้ยินนี่แหล่ะ ไอโฟนรุ่นใหม่ที่เมกาหรือปล่าวจ๊ะ ไม่ต้องสงสัยคอมนู๋คงไม่มีแป้นภาษาไทยแน่ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ฮ่าๆ คุณRinta เจ้กว่าจะพิมเสร็จนั่งซะเอวแข็งหมดเลยนะคะ ถ้าเจ้ตกคำไหนไปก็อ่านผ่านไปหรือเต็มให้เจ้ด้วยนะคะฮิฮิ คนแก่ก็ยังงี้แหละค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
น่ากลัวจังค่ะ วันหลังรีบวิ่งเข้าบ้านไปเลยนะคะ ไม่ต้องไปคุยด้วยแล้ว

เคยดู Criminal Minds มาแนวๆนี้เลยค่ะ สุดท้าย โดนฟาดด้วยที่เขี่ยไฟในเตาผิง ตายยกครัวเลยค่ะ
จะว่าเราดูหนังมากไปก็ได้ค่ะ แต่มาเซ้าซี้แบบนี้ น่าสงสัยค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
สวัสดีค่ะ คุณเชอร์รี่คนงาม หุ่นงาม_ขออนุญาตเรียกคุณชอบดื่มwineค่ะ ว่าคุณเชอร์รี่นะคะ

ดิฉันไม่ได้อยู่อเมริกา แต่เข้ามาอ่านด้วยคน อ่านจบแล้วตกใจแทนค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณเชอร์รี่โชคดีมากๆ
แล้วนะคะ ที่ไม่โดนผู้ชายคนนั้น จี้ ปล้น แล้วฆ่า ข่มขืนค่ะ (อย่าโกรธนะคะที่บอกตรงๆแบบนี้)

เราเห็นคุณเชอร์รี่บ่อยๆ จากห้องแป้งนะคะ ขอให้คุณเชอร์รี่ระวังเนื้อระวังตัวด้วย จากลักษณะที่ผู้ชาย
คนนั้นเข้ามาฟอร์มขอใช้โทรศัพท์กับคุณ เราว่าเขามาดูลาดเลาค่ะ และเขาคงแอบเห็นคุณเชอร์รี่มานานแล้ว

คุณอย่าลืมว่าคุณแต่งตัวใช้ข้าวของแพงๆ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา กระเป๋า อีกทั้งรูปร่างหน้าตา
ของคุณก็สะดุดตา

วันหน้าขอให้เพื่อนที่ขับรถมาส่ง อย่าเพิ่งขับออกไปจนกว่าคุณจะเข้าไปในบ้านค่ะ

แต่ต้องระวัง ถ้ารั้วบ้านไม่สูง หรือเข้าง่าย อาจจะมีคนปีนเข้าไปรออยู่ด้านใน หรือในบ้านนะคะ
เราว่าคุณเชอร์รี่ติดกล้องวงจรปิดในบ้่านแบบที่คุณสามารถเช็คทางมือถือได้แล้วค่ะ

ดิฉันไม่ได้ตื่นตูม แต่อยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยเอาไว้ก่อน ผู้หญิงอายุ 60, 70, 80
ทั่วโลก หรือเด็กแค่ไม่กี่ขวบ ทั่วโลก เขายังโดนข่มขืนหรือโดนประทุษร้ายทาวเพศกันได้เลยค่ะ
นับประสาอะไรกับคนงาม หุ่นงามอย่างคุณเชอร์รี่

คุณเชอร์รี่ไปทำบุญได้แล้วค่ะ หรือไปบริจาคเงินให้คนยากไร้ด่วน นับว่าบุญมากที่คุณรอดมาได้

ปูลู ดิฉันได้ดูรีวิว DUC เที่ยวยุโรปของคุณนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
โชคดีที่สุดแล้วคะ ขนาดกลางวัน เรายังไม่อยากคุยกับคนแปลกหน้าเลย
ถ้าอยู่คนเดียว ติดสัญญาณกันขโมยได้แล้วคะ กันไว้ดีกว่าแก้
มีเหตุการณ์ยืมโทรศัพท์เหมือนกัน ตอนกลางวันนี่แหละ
มีวัยรุ่น เดินเข้ามาขอยืมโทรศัพท์ในร้านอาหาร พอให้ยืมก็ไม่ได้สนใจอะไร ทำโน่นทำนี่ไป เผลอแป๊ปเดียว คว้ากล่องใส่เงินทิปวิ่งหนีออกประตูร้านไปเลย น้องตกใจ รีบวิ่งตามไป ตะโกนให้คนช่วย คนแถวนั้นก็ดีใจหาย รีบโทรตามตำรวจให้ คนเดินผ่านมาก็ถามว่ามีอะไร จะวิ่งตามโจรให้
ไอ้โจรก็ดันฉลาดซะ วิ่งข้ามไปรอรถเมล์ฝั่งตรงข้ามร้าน รถเมล์มาพอดี น้องเราตะโกนด่าโจร คนขับเลย เปิดหน้าต่างถาม พอรู้เหตุการณ์ ก็ปิดประตูไม่รับโจรขึ้นรถ ทิ้งไอ้โจรไว้ที่้ป้ายรถเมล์ สุดท้ายตำรวจมาจับได้พอดี
เพิ่งจะโดนทัณบนมา คราวนี้เลยได้เข้าคุกสมใจ แลกกับเงินไม่กี่สิบเหรียญ
เราก็ได้แต่เตือนน้องว่า ครั้งหน้าปล่อยมันไป อย่าไปวิ่งตาม เดี๋่ยวเจออาวุธสวนมา จะคุ้มกับเงินนั้นไหมเนี่ย
ปล. ช่วงนี้ให้เพื่อนแวะผ่านมาเยี่ยมเยียนกันบ่อย ๆ นะคะ ให้โจร นึกว่าเราอยู่กันหลายคน วางแผนไว้หลาย ๆ ทาง คนแต่งตัวดีไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
^
^




คุณชอบดื่มwineค่ะ เปลี่ยนมาดื่มbeerแล้วเหรอครับ lol
วันไหนเพื่อนบ้านตำบักหุ่งอีก อย่าลืมชวนน้องมะพร้าวนะครับ
น้องมะพร้าวคิดถึง San Fran เอ้ย! San Diego พอๆ กับพี่ Cherry





ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
แถวบ้านเก่าเจอบ่อย ตะก่อนชอบตะลอน ๆ กลับบ้านดึกค่ะ

ตอนประมาณเกือบตี 1 มี hispanic แหละค่ะ บอกขอเงินจะไปขึ้นรถกลับบ้าน อิฉันก็บอกว่าไมต้องหรอก ตอนนี้ดึกไม่มีรถเมล์ เดี๋ยวให้เพื่อนไปส่งให้ เพื่อนเป็นตำรวจกำลังมานัดไว้จะกลับบ้านตอนนี้ จะเอากุญแจมาให้ ลืมไม่มีกุญแจเข้าบ้าน

เท่านั้นแหละค่ะ วิ่งเลย ที่มาจริงอ่ะ พ่อบุญธรรมค่ะ ท่านเอากุญแจมาให้จริง ๆ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
เราอยู่อเมริกาเหมือนกันค่ะ
แต่โชคดีหน่อยที่แถวบ้านเป็นที่ปลอดภัยสูง crime ไม่มีเลย
แต่เราดูพวก wicked attraction, disappeared, locked up อะไรพวกนี้
โอ้ยยย หัวใจจะวายตาย


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณ Been There DT ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่เข้ามาเตือนและแอบเห็นDUCของเชอรี่ด้วย วันนี้ทั้งวันเชอรี่ยังไม่กลับบ้านเลยค่ะตื่นมา10โมงเช้าก็มานั่งๆนอนๆอยู่บ้านเพื่อนเล่นเนตทั้งวันเพราะแอบกลัวบ้านตัวเองชะงั้น
เดี๋ยวจะให้เพื่อนขับไปส่งบ้านแล้วค่ะ แต่จะให้เค้ารอให้เชอรี่เข้าบ้านไปก่อน และมาคิดอีกทีก็สยองมากเลยนะคะเพราะที่ผ่านมาเชอรี่นอนเปิดหน้าต่างทุกคืนค่ะ แต่เมื่อคืนนี้ล๊อกทุกบานเลยเพราะกลัวค่ะ
เรื่องทำบุญเชอรี่ทำอยู่ตลอดค่ะตามสถานที่ต่างๆและก็กาชาติด้วยบริจาคตลอดค่ะ ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะคะไม่แน่เชอรี่อาจย้ายกลับไปอยู่SFดีกว่าค่ะเพราะรู้สึกปลอดภัยมากกว่าเพราะเชอรี่อยู่เมืองโน้นมา20ปีแล้วค่ะ

คุณแม่ไข่หก ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวนะคะเชอรี่ประมาทไปนิดนึงเพราะความใจดีขี้สงสารคนค่ะฮ่าๆ แต่โชดดีอย่างที่ทุกท่านว่าแหละค่ะ ต่อไปเชอรี่จะระวังตัวให้มากขึ้นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
น้องมะพร้าวหวัดดีจ้าเมื่อไหร่มาเที่ยวSF ล่ะจ๊ะ แล้วSDล่ะเมื่อไหร่ลงมาเพื่อนเจ้หลายคนบนถึงyouอยู่นะ

ท่านอื่นๆขอบคุณมากๆเลยนะคะที่เข้ามาแชร์ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ลืมบอกน้องมะพร้าวไปว่า พอดีเมื่อคืนเจ้ไปทาน ร้านญี่ปุ่นย้างเลยดื่มsupporo สดเย็นๆไปสองแก้วจ้า ส่วนred wine นั้นเจ้จะหยุดดื่มได้ไงในเมื่อชีวิตนี้ขอยอมตายถวายชีวิตเพื่อสิ่งที่เจ้ชอบขนาดนี้ หลักฐานอยู่นี่จ๊ะมาดื่มด้วยกันไหม


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจอเมริกาไม่ได้ต้องระวังตัวเยอะ ๆ นะคะ ขนาดแถวบ้านมีเพื่อนบ้านเป็นตำรวจ 8 หลัง ใกล้ ๆ กันเราเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ 10 เดือน เคยเจอคนมากดกริ่งขอบริจาคเงินเกี่ยวกับเด็กอะไรนี่แหละช่วงใกล้ค่ำ เราบอกว่าเราไม่มีเงินสดหรอก มันบอกเอาเป็นเช็คก็ได้ เราก็บอกเช็คก็ไม่มีไม่เคยใช้ มันโมโหเราบอกว่าเงินสดไม่มีติดบ้านเลยหรือไง (ก็แล้วเรื่องอะไรตรูจะบอกม..ละไอ้เวร) มันบอกว่าทุกบ้านบริจาคทุกหลัง เราเลยบอกมันว่ารอเดี๋ยวนะเดี๋ยวไปหยิบให้ แต่เรารีบล็อคประตูแล้วโทรหาตำรวจค่ะ ไม่เกิน 5 นาทีตำรวจมาแต่หาตัวมันไม่เจอแล้วอ่ะ แถวบ้านนี่เป็นแหล่งปลอดภัยสูงแล้วนะยังไม่วายมีแบนี้

จขกท รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยนะคะ เราก็ชอบดูพวก Criminal Minds ดูจนบางทีจิตตกเหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
สวัสดีค่ะคุณเชอร์รี่ เราเข้าใจที่คุณเขียนมาค่ะ ว่าทำไมไม่อยากอยู่ในบ้านที่พักแต่ไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อนแทน
ส่วนตัวเราเคยมีประสบการณ์แนวๆ นี้ค่ะขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดนะคะ
เพราะมันผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว เราย้ายออกมาที่นั่นทันทีหาที่อยู่ใหม่เลย

บร๊ะเจ้า คุณเชอร์รี่นอนเปิดหน้าต่างด้วยเหรอคะ อันตรายมากนะคุณ เลิกทำเถอะค่ะ
เราเข้าใจนะ ว่าคนเราถ้าอยู่ในที่ๆ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจนเคยชิน ก็จะทำให้ไว้ใจอะไรไปหมด
และไม่ระแวดระวังภัย หรือคาดไม่ถึงนะคะ ว่าอะไรแบบไหนที่เราไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้บ้าง

เมื่อกี้เราออกไปนั่งดื่มกาแฟมา เรานึกถึงเรื่องของคุณเชอร์รี่ที่มาเล่าในกระทู้นี้ เราคิดได้อีกแบบด้วยว่า
คนร้ายอาจจะเคยเห็นคุณเชอร์รี่ใส่ชุดว่ายน้ำ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายรูปทำ DUC หน้าคอมฯ นะคะ
เขาอาจจะแค่โรคจิตเฝ้ามองคุณมานาน ตอนนี้อาจจะยังไม่ลงมือ แต่มาหยั่งเชิงดูก่อน

เราคิดแบบแย่ๆ เลยนะคะ "The Worst-Case Scenario" เลย ถ้าเขาจับตัวคุณเชอร์รี่ไปขังเอาไว้
แบบที่มีข่าวออกมาบ่อยๆ ในยุโรป ที่ผู้ชายจับผู้หญิงไปขังเอาไว้เพื่อบำเรอในเรื่องทางเพศนะคะ
คุณเชอร์รี่จำได้ไหม เคสที่เกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรีย ที่พ่อจับลูกสาวไปขัง แล้วแม่(ภรรยา) รู้เห็นเป็น
ใจด้วยหน่ะค่ะ

เราว่าคุณเชอร์รี่มีความสุข และเป็นตัวของตัวเองมากกว่าตอนอยู่ซานฟรานค่ะ ลำพังตัวเราเป็นผู้หญิง
เรี่ยวแรงก็น้อยกว่าผู้ชายแล้วค่ะ แล้วคุณเชอร์รี่ก็ตัวเล็กนิดเดียว สูงไม่ถึง 160 ซ.ม. ด้วยชิมิคะ
แล้วไหนจะวันๆ กินแต่ผัก หญ้า ปลา ผลไม้อีก คุณจะเอาแรงที่ไหนไปสู้เขาคะ

เราเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้กับตัวเองมากกว่า 1 ครั้งในชีวิตนี้ค่ะ แต่เราโชคดีที่รอดมาได้ทุกครั้ง
เพราะเราไม่เชื่อคนง่าย ใช้ไหวพริบและความช่างสังเกตที่ทางบ้านสอนให้มีติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ
พาตัวรอดมาได้ และเราไม่ไว้ใจคนง่ายๆ ค่ะ

คุณเชอร์รี่เทคแคร์นะคะ ถ้าเป็นอะไรไปเดี๋ยวดิฉันอดดู DUC สวยๆ งามๆ ในห้องแป้งค่ะ จุ๊บๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
^
^
^
คุณเชอร์รี่เทคแคร์นะคะ ถ้าเป็นอะไรไปเดี๋ยวดิฉันอดดู DUC สวยๆ งามๆ ในห้องแป้งค่ะ จุ๊บๆ

นั่นซิคะคุณ Been there, DT ดิฉันก็เป็นแฟนคลับแอบอ่าน DUC คุณเชอรี่เธอเป็นประจำ ถ้าช่วงไหนเธอหายไปก็จะ google search หาเลยทีเดียว ขนาดเป็นผู้หญิงยังอดถวิลหาเธอไม่ได้ ก็เธอทั้งน่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเองซะขนาดนี้

เห็นคุณเชอรี่ดิฉันนึกถึงคุณเพ็ญพักตร์ ศิริกุล ไอดอลที่ดูแลตัวเองดีและวัยทำร้ายเธอไม่ได้จริงๆ นับถือค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
คุณ ThaiSilk ดิฉันชอบคุณต่าย-เพ็ญพักตร์ ขวัญใจของคุณนิวัติ กองเพียร เกจินู้ด เช่นกันค่ะ
เคยเจอตัวจริงของคุณต่ายด้วย เธอสวยมากๆ ค่ะ ตอนที่ดิฉันเจอ เธอแต่งตัวธรรมดามากๆ
เสื้อเชิร์ทพับแขน กางเกงยีนส์ ไม่แต่งหน้า คุณต่ายมากับลูกชายค่ะ เธอสวยจริงๆ ผิวดีจริงๆ
และใช่ค่ะ คุณเชอร์รี่คล้ายคุณต่ายมากๆ ค่ะ และคุณต่ายตัวจริงก็ตัวเล็กค่ะ ไม่ใช่คนสูงเลย
คุณต่ายสูงราวๆ 160 ซ.ม. ราวๆ นั้นค่ะ

ดิฉันหน่ะ ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกัน เวลาเห็นคุณเชอร์รี่ทีไร โดยเฉพาะเวลาที่เธอใส่ชุดว่ายน้ำ
หัวใจของอิฉันจะวายให้ได้เลยค่ะ

คุณเชอร์รี่เป็นคนที่แต่งตัวดี มีรสนิยม ดิฉันชอบกระเป๋าชาแนลใบเก่าแก่ของคุณเชอร์รี่ ที่เธอหิ้ว
มาตั้งแต่เป็นสาวๆ ค่ะ และดิฉันมีกระโปรงทรงตัวเอสั้นๆ และรองเท้าบู้ทสีดำเหมือนกับของคุณเชอร์รี่เลย
เคยใส่ตอนสาวๆ ค่ะ

นาฬิกาของคุณเชอร์รี่สวยทุกเรือน_

อ้อ อยากจะเตือนคุณเชอร์รี่ด้วยว่า คนที่อาจจะประสงค์ร้ายหรืออาจจะเข้ามาทำมิดีมิร้ายกับคุณ
ตอนที่เขาเอาโทรศัพท์บ้านแบบไร้สายของคุณไป เขาอาจจะเอาอะไรไปติดไว้ก็ได้นะคะ เช่นกล้องเล็กๆ
หรือ ไมโครโฟนเล็กๆ ที่คุณอาจจะไม่ทันสังเกต หรือ จริงๆ แล้วเขาอาจจะทำให้โทรศัพท์ของคุณเสีย
หรืออาจจะแอบตัดสายข้างนอก หรือในบ้าน เวลาเข้าบ้านขอให้ตรวจสายโทรศัพท์ให้ดีค่ะ ว่ามันยังต่อ
อยู่หรือเปล่า ใช้ได้ไหม

มือถือชาร์จแบตเอาไว้ให้เต็มตลอด คอมฯ ไอแพด ชาร์จแบตเอาไว้ให้เต็มตลอดนะคะ แต่ดีที่สุดเลย
คุณควรย้ายออกไปอยู่ที่อื่นได้แล้วค่ะ

ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และชอบไปประเทศยากจน ไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้นในเรื่องของ
ความปลอดภัยและเรื่องเล่ห์กลของคนที่สามารถมาได้ในรูปแบบต่างๆ หลายๆ อย่างอาจจะเป็นสิ่ง
ที่คาดไม่ถึงด้วยซ้ำไปค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
คุณปลาสลิดแดดเดียว เชอรี่ฟังเรื่องของคุณแล้วก็น่ากลัวปนน่ารำคาญนะคะ บอกตรงๆว่าเชอรี่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิตจริงๆค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นสาวเปรี้ยวชอบเที่ยวดึกเป็นบางครั้งแต่ไม่เคยเจออะไรแปลกๆแบบนี้ในชีวิตมาก่อนค่ะ เพื่อนๆบอกว่าเชอรี่มองโลกในแง่ดีและสีชมพูเกินไปที่ช่วยเหลือผู้คนไม่เลือกหน้าอันนี้ยอมรับค่ะว่านิสัยเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ต่อนี้ไปคงต้องระวังและรีบเผ่นหากเจอเหตุการณ์ในทำนองนี้อีกครั้งค่ะ

คุณ Been there DT ขอบคุณอีกครั้งนะคะคือเชอรี่มาอยู่เมกาตั้งแต่อายุ19จนป่านนี้ทุกๆคืนไม่ว่าบ้านหลังไหนหรือที่ใดที่เชอรี่พักเชอรี่ก็ชอบนอนเปิดหน้าต่างค่ะ เป็นคนแพ้พัดลมและเปิดแอร์ก็ไม่สบายอีกเลยต้องอยู่กะอากาศธรรมชาติดีที่สุดสำหรับสุขภาพเชอรี่ค่ะ เลยเคยชินกะความปลอดภัยอย่างที่คุณว่าค่ะส่วนเรื่องทานอาหารและเชอรี่ตัวเล็กๆนิดเดียวนั้นต้องขอบอกว่าคุณเก่งจังเลยค่ะที่สังเกตุได้ขนาดนั้นฮ่าๆ ขอบคุณที่ชมเรื่องรสนิยมค่ะเชอรี่ชอบใช้ของตามใจตัวเองโดยไม่นึกว่าคนรอบข้างจะคิดกับเรายังไง อยู่บ้านว่างๆก็ชอบถ่ายรูปเล่นใส่ชุดนั้นชุดนี้ชุดว่ายนำ้บ้างอะไรบ้างตามประสาคนว่างเกินไปอะค่ะ(ความสุขเล็กๆน้อยๆของคนแก่เนอะ) เชอรี่ต้องมีความสุขให้ได้มากที่สุดในแต่ละวันค่ะเพราะไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าไหร่ พรุ่งนี้เชอรี่จะเช็คดูโทรศัพท์อีกทีว่ามันยังเสียอยู่รึเปล่าส่วนตอนนี้ยังไม่กล้าไปยุ่งกะโทรศัพท์บ้านเลยอ่ะค่ะฮ่าๆ(เป็นเอามาก) ยังไงก็ขอบคุณคุณมากๆนะคะที่ให้กำลังใจเชอรี่ทำให้เชอรี่รู้สึกอบอุ่นจังเลยค่ะ อย่างน้อยๆเชอรี่ก็ยังมีเพื่อนที่รู้จักเชอรี่มากขนาดนี้ เพื่อนที่เห็นตัวตนกันจริงๆทุกๆวันที่เจอกันอยู่ขณะนี้ยังไม่ค่อยจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเชอรี่เหมือนกะคุณเลยปลื้มใจและอบอุ่นมากเชอรี่คงหลับสบายคืนนี้ไม่วาดกลัวแล้วค่ะ

คุณThai silk โหถึงขนาด Google หาเลยเหรอคะทำเอาเชอรี่ยิ้มซะแก้มแดงเลยค่ะแอบเขินปนดีใจที่มีแฟนคลับ(ลับๆรึเปล่าคะ)
แอบปลื้มเราขนาดนี้ขอบคุณมากๆเลยนะคะ พรุ่งนี้เชอรี่จะปรึกษาคุณแม่เรื่องย้ายกลับไปSFดีกว่าค่ะ รึไม่ก็ย้ายบ้านใหม่ไม่เอาแล้วล่ะย่านนี้อย่างที่คุณ Been There DT บอกแหละชายคนนั้นอาจซุ่มดูเชอรี่อยู่นานแล้วก็เป็นได้ ไม่เอาแล้วค่ะคืนนี้เชอรี่ปิดหน้าต่างนอนและล๊อกด้วยค่ะ เชอรี่ขอขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะที่เป็นห่วงเชอรี่ค่ะต่อไปจะพยายามดูแลตัวเองให้มากกว่านี้เดี๋ยวต้องหาบอดี้กาดร์ด่วนแล้วมั้งคะเนี่ยอิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
อ่านแล้วน่ากลัวจังครับ......สงสัยคุณ Cherry. คงจะมีหน้าตา เป็นอาวุธ เลยรอดพ้นจากคืนนั้นมาใด้ครับ ขนาดมีเวลาต่อรองกันตั้งนาน จากมือถือถึงโทรศัพท์บ้าน ถึงขนาดให้ช่วยดูปลั๊กเสียบ ยังรอดพ้นมาใด้ โชคดีมากครับที่หลังอย่าให้มีแบบนี้อีกนะครับ ขอเตือนด้วยความเป็นห่วงแลัห่วงใยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
คิดว่าคนดีๆมีมารยาทเค้าไม่น่าจะมาเซ้าซี้ถามเอาช่วยเหลือใดๆกับผู้หญิงตัวคนเดียวในช่วงดึกๆขนาดนั้นอ่ะคะ แถมมาถึงก็เข้าประชิดตัวเลย อ่านแล้วกลัวแทน เราเองเคยเช่าบ้านอยู่คนเดียวเหมือนกันค่ะ เคยเจอคนปีนเข้าโรงรถตอนดึก (แต่ยังไม่เข้าบ้าน) วันรุ่งขึ้นเราแจ้งตำรวจคุยกับเจ้าของบ้านขอติดกล้องวงจรปิดเลยค่ะ และการเปิดหน้าต่างนอนนี่เราว่าอันตรายมากเลยค่ะ ของเราถ้าไม่อยู่ชั้นสี่ขึ้นไปจะไม่กล้าเปิดหน้าต่างค่ะ (ในกรณีที่หน้าต่างไม่ติดเหล็กดัด) ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่ขอปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ แต่ในกรณีนี้เราว่าย้ายที่อยู่เลยค่ะ อย่างที่ความเห็นด้านบนๆว่า ผู้ชายคนนั้นน่าจะแอบสังเกตคุณมานานแล้วค่ะ อยู่ที่เดิมดูไม่น่าปลอดภัยเลย รักษาตัวด้วยค่ะ เป็นห่วง


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26


Free Thai Legal Hotline (1-800) 914-9583 USA only

น้องเชอร์รี่คะ

เหตุการณ์ที่เล่ามาเกิดขึ้นในยามวิกาล และไม่เมคเซ้นส์ที่มีชายแปลกหน้าเข้ามาพูดด้วยถึงหน้าเกทก็จริงอยู่

แต่เท่าที่ทราบ ซานดิเอโก้ เป็นเมืองปลอดภัย ย่านต่างๆมีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับการตั้งถิ่นฐานของเม็กซิกันมาช้านาน



ไม่อยากให้สรุปไปในทันที ว่า เป็นมิจฉาชีพมา แม้ว่ารูปการณ์จะชวนให้คิดโยงใยไปในทางลบได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ถ้าถึงขนาดต้องย้ายกลับมาซาน ฟรานฯ จากเหตุการณ์ที่ยังสรุปผลไม่ได้ อาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก



พี่คิดว่า น้องเชอร์รี่ ควรตั้งสติ ในตอนนี้ ลดความกลัวลงมาในระดับป้องกันภัย

และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การดำเนินชีวิต ที่ออกเที่ยวนอกบ้าน จนเกินเวลาไปมาก



การกลับดึกเกินไป เป็นสาเหตุที่นำให้ภัยในยามราตรี มาถึงสตรีสาวได้โดยง่าย

ไม่ใช่เพราะมีคนวิกลจริตจ้องรอจะตะครุบเหยื่อเท่านั้น



การแก้ปัญหา ชั้นต้น ต้องเริ่มที่ตนเอง อยู่ด้วยความไม่ประมาท และระมัดระวังในทุกฝีก้าวเพราะอยู่คนเดียว



ปกติในอเมริกา มีระบบเนเบอร์วอทช์ เพื่อนบ้านช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาอยู่แล้ว

หากว่าอาคารที่อาศัย มีประตูชั้นนอกและใน มีระบบการป้องกันที่เข้มแข็ง

ย่อมไม่เป็นเรื่องที่ต้องตระหนกถึงขนาดย้ายบ้านหนี



ปัญหานี้ ไม่ได้อยู่ที่แหล่งพัก ที่อ่านดู เชอร์รี่เองประมาทต่อสถานการณ์

และเป็นคนที่ใจอ่อน อ่อนหวาน หวังดีและมีเมตตาต่อคนอื่นๆมากจนลืมนึกถึงความปลอดภัย



ครั้งก่อน สามปีที่แล้ว น้องเกือบจะให้ความช่วยเหลือกลุ่มต้มตุ๋นหญิงไทยในเน็ท ที่มาหลอกล่อไปพบฝรั่งเว็บแชทหาคู่

จำได้ไหมคะ กล้าหาญถึงกับจะไปช่วยหญิงแปลกหน้าในเน็ท ที่เป็นนกต่อ จะมาล่อหนูออกไปสู่ระบบทรชนนั่นเลย



ภัยมาได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการพรีเซ้นท์ภาพ ในชุดว่ายน้ำ การนำเสนอออกสื่อ โดยไม่มีระบบป้องกันที่บริบูรณ์

ยุคสมัยนี้ เราไม่ทราบว่าใครดูอยู่บ้าง คนที่คิดจะหาประโยชน์จากบุคคล หรือแม้แต่จากกระทู้ที่เขียนเล่าเรื่องนี่ก็ตาม

บางคนอยากแบ่งปัน แต่คนมากมาย ไม่ได้มีแต่เฉพาะคนที่หวังดี ความคิดของผู้คนนั้นซับซ้อนยากจะจัดการได้หมด





เชอร์รี่เป็นคนน่ารักมาก และจริงใจต่อผู้คน มีฐานะดี หน้าตาสวยงดงาม เสน่ห์และความน่าพิสมัย

บางครั้งเป็นทางนำภัยได้นั้น พึงระวัง ทั้งผู้คนในบอร์ดสาธารณะ ก็ใช่ว่าจะเข้ามาด้วยความห่วงใยเสมอไป



คนที่มีจิตสำนึกในทางจริยธรรมสูง ถ้าเป็นคนดีหวังดีต่อน้อง ย่อมจะพากันอยากช่วยเหลือให้เชอร์รี่ปลอดภัยด้วยกันทั้งนั้น

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกถ้อยคำความเห็นที่มาปรากฎในทางเป็นห่วงเป็นใย จะหมายถึงความจริงใจและมิตรภาพที่บริสุทธิ์เสมอไป



เชอร์รี่ อย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่แสวงหาเส้นทางสร้างชื่อหรือหน้าตาในเว็บบอร์ด ไม่ว่าเพศไหน หรือจะมาในลักษณะหวังดีเพียงไร

ทำนองเดียวกับที่น้องเจอเหตุการณ์ข้างนอกที่เกือบจะนำผลร้ายมาให้ตนเอง อยู่หลายรอบ



การแก้ปัญหาอยู่ที่ใจของน้องเอง ต้องการคำปรึกษาที่พึ่งพิงหรือความช่วยเหลือ ให้เลือกคนที่ไว้ใจได้ คนใกล้ชิดที่ไม่เคยทำร้ายหนู คือคุณแม่แน่นอน

สถานการณ์เช่นนี้ เป็นภัยต่อสตรีสาวทุกคน ความกลัวย่อมมีมากมายไปได้หลายฉากทั้งที่เหมือนในภาพยนตร์ และทั้งที่จินตนาการเอาเองผสมก็ด้วย





อยากให้เชอร์รี่ปรึกษาผู้ใหญ่ เรื่องการย้ายที่อยู่ใหม่ให่รอบคอบนะคะ
ทีอาศัย อย่างสะดวกทันสมัย ในหลายแอเรีย มีระบบความปลอดภัยหลายชั้น

น้องหาหมู่บ้าน หรือตึกที่มีไพรเวซี่ดีกว่า มีบัตรเข้าออกสำหรับรถส่วนตัว คนนอกเข้ามาไม่ได้

ถ้ามีเกท ประตูอีเลคทรอนิค มีระบบโฟนอิน หรือมีการควบคุมโดยการ์ดพิเศษ จะเหมาะสำหรับสถานภาพของน้องมากกว่า

โชคดีที่น้องมีโพเทนเชี่ยล ที่จะเลือกได้ โดยไม่มีปัญหาในด้านค่าใช้จ่าย เลือกทำเลที่ย่านอาศัยหรูแค่ไหนก็ได้อยู่แล้ว



ถ้าเชอร์รี่ อยากจะมีความสุขในทุกๆวันให้มากที่สุด ชอบดื่มไวน์ และใช้ชีวิตอย่างหรรษาตลอดเวลา

แนะนำให้หาสมาคมที่มีกิจกรรมตรงใจน้องมากที่สุด และอย่าเผลอดื่มสิ่งมึนเมาจนเข้าขั้นดูแลตนเองไม่ไหว



ในตอนที่หนูเอาโทรศัพท์ออกไปให้คนแปลกหน้ายืม เวลาตีสอง

นับว่าเป็นการกระทำที่เสี่ยงอย่างยิ่ง แล้วยังกลับมาเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ ทำอะไรก็ไม่รู้ พูดกับใครก็ไม่รู้

หากจะกลับมาถามความเห็นในบอร์ดแบบนี้ ก็คงต้องประเมินไปในทิศทางเดียวกันหมด ว่า เป็นการช่วยเหลือที่เข้าข่ายอันตรายอย่างยิ่ง

แม้นว่าเคราะห์ร้าย คนที่จะเสียใจกว่าใคร ก็คือคุณแม่ของน้อง และพวกเราทุกคน ที่รักและเป็นห่วง อยากให้เชอร์รี่คำนึงในข้อนี้ให้มากๆ

พี่นึกว่า น้องย้ายไปอยู่ใกล้ทางบ้านแล้ว จะมีคนดูแลตลอดเวลา อย่างที่น้องบอกไว้

ทั้งเรื่องสุขภาพที่ต้องดูแลพิเศษกว่าคนทั่วๆไป และจิตใจที่่่อ่อนไหว



ถ้าเชอร์รี่ ต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ

ให้หาคนไว้ใจได้สักคน ไปแจ้งความไว้ที่ตำรวจก่อนนะคะ อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันว่าถ้าเขาย้อนกลับมาใหม่ มีบันทึกไว้แล้ว

พยายามอธิบายรูปพรรณสัณฐานของคนแปลกหน้า ทางการเขาจะวาดและนำเข้าระบบตรวจสอบ

โทรศัพท์ นำไปให้เจ้าหน้าที่ หาร่องรอยลายนิ้วมือ เผื่อว่า จะเป็นกลุ่มแก็งสเตอร์นะคะ เขาจะช่วยหนูได้เป็นรูปธรรม สำหรับการป้องกันค่ะ

และถ้าจะให้ดี แจ้งเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ไปได้เลย เพราะไม่เห็นว่าชายคนนั้นติดต่อไปที่ไหนอย่างไร

ถ้าเขาโทร.ไปเข้ากลุ่มที่ทำงานร่วมกับเขาเป็นทีม ตอนนี้เขาก็สามารถโทร.มาบ้านหนูได้ตลอดเวลา



กรณีที่คิดจะย้ายบ้านหนี พี่ว่ายังไม่จำเป็น คนไม่เคยมาเห็นสิ่งแวดล้อมในอเมริกา อาจจะพากันตกใจ เหมือนไร้สติ

เชอร์รี่ต้องเข้มแข็ง และปกป้องตนเองให้รอดให้ได้ เพราะจะไม่มีใคร มาให้กำลังใจน้องไปได้ทุกกรณี และไม่ใช่ตลอดเวลานะคะ

หลังจากที่ย้ายลงไปแล้ว น้องได้่ดำเนินการแจ้งที่อยู่ใหม่กับหน่วยงานกงสุลหรือยังคะ

นั่นจะเป็นที่พึ่งของชุมชนไทยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ติดต่อไปที่ หน่วยงานคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศนะคะ ถ้าหนูวิตกกังวลมากขึ้น

ให้คุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยสงเคราะห์ ของท้องที่ ซึ่งมีบริการชุมชน เชอร์รี่จะได้รับการช่วยเหลือเป็นรูปธรรมค่ะ



สำหรับการติดต่อกับผู้คนในพื้นที่ออนไลน์ ความชื่นชมความหลงใหลในความงามความน่ารักนั้น เป็นส่งที่ทำให้ทุกคนพึงพอใจอยู่แล้ว

แต่ ในกรณีที่เชอร์รี่ จะเปิดรับความหวังดีจากคนทั่วไป อย่าประมาทเป็นเด็ดขาด เช่นเดียวกับที่ช่วยเหลือชายแปลกหน้าในยามวิกาล

เพราะใครอ่านกระทู้บ้างเราก็ไม่รู้ มาดีมาร้ายก็ยากที่จะเห็น ยิ่งถ้าเป็นกระทู้ลักษณะที่เชอร์รี่แสดงความอินโนเซ้นท์ต่อคนแปลกหน้า

ยิ่งหมายความว่า คนที่เข้ามาหาหนู จะมีทั้งผู้ที่ห่วงใยรักใคร่จริงๆ และมีทั้งคนที่หวังจะสร้างฐานไว้กระทำการบางอย่างหรือหลายอย่าง

ตามที่มีประวัติสืบค้นได้ ขอให้เชอร์รี่ ใช้เหตุการณ์ที่น่ากลัวของยามค่ำคืน เป็นอุทาหรณ์สอนใจตนเองให้ตระหนักในภัยที่มีรอบทิศทาง

เรื่องการทำร้ายร่างกาย จากชายแปลกหน้า ถ้าเกิดขึ้น อาจจะไม่น่ากลัวเท่ากับการที่มีคนครอบครองจิตใจของน้องไว้ได้

เพราะเชอร์รี่ แสดงให้เห็นว่าต้องการความอบอุ่น ต้องการคนปลอบใจให้ความชื่นชม นี่คือสิ่งที่จะนำภัยมาสู่ชีวิตได้ทุกเมื่อ



คุยกับคุณคลิกดูหรือยังค่ะ ขอความรู้ทางกฎหมายจากพี่วดี ขอคำแนะนำจากพี่กุ้งบีเอ็ม และคนที่รักน้องมานานมากๆจะเหมาะสมกว่า



ภัยในเว็บบอร์ด ส่วนมากเกิดจากการไว้ใจคนที่มาแสดงความรักอย่างหยดย้อยนี่แหละค่ะ



ในกรณีอื่นๆ พี่จะข้ามไป ไม่ได้คิดเลยว่าจะลงมาให้ความเห็น แต่พี่ยังรัก ห่วงใยและคิดถึงน้องเสมอ แม้ว่าจะไม่ติดต่อหรือพูดคุยกัน

พี่ไม่ใช่คนที่ชอบพูดกับคนไปทั่วๆ ตลอดเวลา หรือลงมาเล่าชีวิตประจำวัน แม้แต่ในเอฟบี พี่ก็ระมัดระวังไม่ได้เปิดให้กับคนสาธารณะ



ดีใจที่เห็นเชอร์รี่กับน้องมะพร้าว กลับมาห่วงใย ช่วยเหลือกันเหมือนแต่แรก พี่อยากให้น้องๆทุกคนมีความสุข ช่วยเหลือกันเหมือนเดิมตลอดไปค่ะ



กรณีของการแจ้งความไว้กับหน่วยงานทางการ น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดี อย่างน้อยมีอะไรน้องก็จะได้รับการดูแลทันท่วงที จากคนที่มีอำนาจดำเนินการ

แต่อย่าลืมว่า เหตุอันเกิดจากภัยราตรี ไม่ใช่ว่าสุดวิสัยป้องกัน เพียงแค่เชอร์รี่ จะงดเว้นจากการออกนอกบ้านดึก หลังสองยามก็ค้างไปเลยกับเพื่อนจะดีกว่า

ถ้าเป็นคนที่ค้างด้วยไม่ได้ ก็ให้มีความเป็นผู้นำตัวเอง กลับมาบ้านให้ได้ในเวลาที่เหมาะสม บอกคนใกล้ชิดว่าไปไหนกับใคร จะกลับมาถึงในเวลาไหน

ติดต่อกับคุณแม่ให้ท่านทราบ พี่อยู่ไกล ไม่สามารถลงมาหาได้ แต่คิดว่า น้องเชอร์รี่ มีเพื่อนดีๆหลายคน น่าจะมีสักคนที่ช่วยน้องให้พ้นจากความกลัวนี้ไปได้



เข้ามาโพสต์รูปวิวทิวทัศน์บ้างสิคะ และช่วยคุณแม่ทำงาน เชอร์รี่จะได้ช่วยคนอีกเยอะ อย่างที่น้องเคยพยายามจะให้เงินกับนักเรียนที่ขาดแคลน

ไปทำงานกับหน่วยอาสาสมัคร ปรับเปลี่ยนตนเอง ออกมาเป็นหญิงเข้มแข็งดูบ้าง เชอร์รี่จะได้พบสิ่งใหม่ๆดีๆ มีประสบการณ์ในการเป็นคนที่ปกป้องดูแลคนอื่น

ทำงานที่องค์กรช่วยเหลือเด็กกำพร้า หรือสถานสงเคราะห์ มีสิ่งที่เราต้องทำเพื่อคนอื่นอีกมากมาย จนจะไม่มีเวลามาดื่มกินเที่ยว กลับบ้านดึกเกินความจำเป็นเช่นนั้น



ทุกเหตุการณ์ในชีวิต เราต้องพึ่งพาตนเอง ดูแลตนเอง และอย่าเที่ยวโทษว่าคนรอบๆ หรือใครก็ตามแต่

ความสุขความเจริญอยู่ที่ตัวของเราทั้งสิ้นที่จะเป็นผู้กำหนด พี่ได้เพิ่มประสบการณ์ให่้กับตนเอง ด้วยการเพิ่มความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ชุมชนและออกไปทำภาคปฏิบัติด้วย

เพราะโลกเปลี่ยนไปหมุนไปทุกวันนะคะ เชอร์รี่ ต้องพร้อมเผชิญ และแก้ปัญหาในที่ที่เกิด อย่าหนี อย่าให้การตัดสินใจของคนอื่น มาเป็นตัวกำหนดเส้นทางของเราได้




คนที่ดูเหมือนมาร้าย พูดจาเหมือนมาทำลายกำลังใจ อาจจะกลายเป็นมิตรที่ดีที่สุด และคนที่เหมือนจะเป็นมิตรสนิทใจ กลับอาจลงท้ายเป็นคนที่ทำร้ายเราอย่างยากที่จะหยั่งถึง
นี่เป็นประสบการณ์ชีวิต เฉพาะบุคคคล ไม่ว่าหนูจะพบใคร นอก หรือในเว็บ พบทั้งเห็บเหาหมัด พบทั้งปีศาจนางฟ้า การวิ่งหนี จะทำให้หนูต้องหนีไปตลอด อย่าหนีค่ะ คนเหมือนกัน



ตัวพี่ เมื่อพบผู้มีทีท่าไม่ชอบมาพากล ถึงขนาดเอาข้อมูลไพรเวซี่ เช่นที่อยู่ของเราไปแปะโพสต์ไว้ในที่สาธารณะ พี่ได้แจ้งความไว้แล้วค่ะ เพราะเราไม่สามารถหยั่งรู้จิตใจของใครได้ทั้งสิ้น



ขอคำปรึกษาทางกฎหมายจากหน่วยงานคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ และปรึกษากับไทยลีกัลฮ้อทลายน์

Thai Legal Hotline (1-800) 914-9583 ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

หากมีอะไรเกิดขึ้น เป็นความเสียหายกับทรัพย์สิน หรือที่อยู่ หรือนำให้เกิดความไม่ปลอดภัยใดๆก็ตาม ประชาชนมีสิทธิ์แจ้งความและขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เหมาะสมและมีอำนาจค่ะ

เป็นสิทธิมนุษยชน และเป็นสิทธิของพลเมือง ที่จะได้รับความคุ้มครองทรัพย์สิน ชื่อเสียง และสิ่งที่เป็นพื้นฐานของชีวิตทุกอย่าง ไม่ว่าใครจะกลั่นแกล้ง ทางใจ หรือทางกายก็แล้วแต่

หมายเลขที่ให้ไว้นี้ เป็นหน่วยงานให้คำปรึกษาฟรี ทางกฎหมาย ของคนไทยทั่วสหรัฐอเมริกานะคะ ฟรีค่ะ เจ้าหน้าที่กงสุลได้นำมาเผยแพร่ให้่ชุมชนไทยทราบ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

พี่ได้นำประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์ไปแล้ว และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีทั้งความรู้ความพร้อม อาศัยในสหรัฐฯ ช่วยคนได้ในความเป็นจริงค่ะ
ลักษณะนี้ ไม่มีการหลอกลวงแอบแฝง และไม่มีการใช้กระทู้เป็นบันไดในการสร้างประโยชน์อย่างแน่นอน แต่เป็นการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ ซึ่งราชการได้มีบริการไว้ให้อย่างเสมอภาค



หวังว่าจะได้ประโยชน์แก่ผู้รับสาร อื่นๆ ในสหรัฐฯ หากว่าโทร.ไปแล้ว ถ้าสายไม่ว่าง หรือยังไม่มีผู้รับ ให้ฝากข้อความไว้ได้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ในระบบจะติดต่อกลับไปเองใน ๑ วัน
(แต่ถ้าเป็นเหตุด่วน อันตรายถึงชีวิต ภัยฉุกเฉิน ๙๑๑ เท่านั้น)


ตอบประเด็นที่หนูถาม เหตุการณ์ผู้ร้ายเข้ามาในชีวิต จะเกิดได้ไม่มากนัก สำหรับคนที่คิดล่วงหน้า ว่าจะไปไหนอย่างไรกับใคร มีแผนการรัดกุม และมีทางออกให้กับสิ่งที่อาจจะนำปัญหามาให้
การที่จะมีคนปีนรั้วข้ามเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านอย่างง่ายๆ ทั้งที่เป็นบ้านของคนมีฐานะดี และจัดการป้องกันไว้แล้วทั้งทางเทคนิคและในแง่วินัย แสดงว่าความเสื่อมมาถึงสังคมอย่างแท้จริง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่เชอร์รี่ ที่ต้องพบเรื่องแบบนั้นนะคะ

ปกติ ผู้ร้ายที่กระทำการไม่สำเร็จในรอบแรก จะไม่ย้อนมาหาเหยื่อรายเดิมในเวลากระชั้นชิด และจะไม่ใช้รูปแบบเก่า ถ้าเขาเป็นทรชนมืออาชีพ


แม้จะกลับมาซานฟรานฯ ก็ยังคงต้องเลือกหาทำเลที่ปลอดภัย
และรักษาตนเองให้ดีที่สุดอยู่ดีค่ะ


ขอคุณพระคุ้มครองเชอร์รี่คนดีตลอดไป


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
อยู่เมกามานานตั้งแต่เด็กจนแก่ขนาดนี้
รูปใน คคห ๑๘ ก็ยังไม่เหี่ยว
เก่งจังแฮะ ที่พิมพ์ไทย ได้ซะยาว
สงสัยคงเมาเบียร์เมาไวน์ จึงยอมให้มีเหตุการณ์แบบนี้
จำไว้ก็แล้วกัน ไม่ว่าชายหรือหญิงชาติไหน แต่งตัวดีหรือไม่ดี ไม่ว่าเวลาไหน
มาขอใช้โทรศัพท์ ก็อย่าไปยอมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากเสียทรัพย์หรือเสียตัว
นี่ก็เพิ่งเกิดจริงๆ เมื่อค่ำวันที่ ๑๘ เข็นถังขยะไปริมถนนหน้าบ้าน เพราะรถขยะจะมาตอนเช้า
ก็มีเด็กเมกซิกัน ๑๐ กว่าขวบ ถีบจักรยาน ขอใช้โทรศัพท์ว่า จะโทร ไปตามพ่อ
เราก็บอกว่า ไม่มี เพราะคิดว่า ถ้าเด็กเชิดโทรศัพท์ แค่วิ่งตามก็ไม่มีทางทันแล้วนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
คุณพี่ Idealist ขอบพระคุณมากจริงๆค่ะ ถ้าให้หนูเดาคุณพี่คงเป็นคุณพี่คนเดิมที่เคยให้ความช่วยเหลอหนูเมื่อก่อนไม่ให้หนูโดนหลอกเรื่องสาวไทยออนลายในครั้งนั้น ถ้าเป็นคุณพี่คนนั้นของหนูหนูขอสวัสดีคุณพี่อีกครั้งนะคะหวังว่าคุณพี่คงสบายดี หนูนึกและคิดถึงคุณพี่อยู่เสมอไม่เคยลืมค่ะ

กลับมาเข้าเรื่องของหนูเชอรี่ดีกว่าค่ะ วันนี้หนูตื่นมา10โมงครึ่งยังไม่ทันล้างหน้าก็เปิดมาเจอข้อความของคุณพี่และทำให้หนูคิดได้หลายๆอย่างค่ะ หนูไม่ควรหนีปัญหาจริงๆด้วยแหละ ส่วนเรื่องแจ้งความไว้นั้นหนูจะไปทำค่ะเพื่อความปลอดภัยของตัวหนูเองในอนาคต ส่วนเรื่องออกเที่ยวยามวิกาลนั้นปกติหนูออกไปทานดินเนอร์และจะเข้าบ้านไม่เกินสี่ทุ่มค่ะ และก็ไม่เคยเจออะไรแปลกๆแบบนี้นะคะเพราะย่านที่หนูอยู่เป็นย่านดีพอสมควรค่ะ หนูอาจจะตื่นตูมเกินไปเพราะมันเกิดขึ้นครั้งแรกกับหนูค่ะ และโชดดีที่รอดมาได้หรือเค้าอาจจะไม่ใช่มิฉาพีชก็ได้นะคะ หรือไม่พระเจ้าคงคุ้มครองหนูอยู่ เรื่องทั้งหมดหนูยังไม่กล้าบอกคุณแม่หรอกค่ะเพราะมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทีนี้ชีวิตอิสระของหนูก็หมดกัน หนูจะแก้ปัญหาด้วยตัวหนูเองค่ะคุณพี่ หนูย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้เพราะเพื่อนหนูอยู่ที่นี่หลายคนค่ะ หนูไม่เคยLAเลยให้ตายสิเมืองมันใหญ่อากาศก็ไม่ดีรถก็ติดแถมอยู่ที่โน่นหนูคงไม่มีอิสระภาพเป็นของตัวเองด้วย หนูเก่งขึ้นเยอะนะคะมาอยู่นี่ลำบากมากกว่าอยู่SFเยอะเพราะต้องช่วยเหลือตัวเองเรื่องยานพาหนะหนูขึ้นรถเมลไปเที่ยวเมืองเลยค่ะฮ่าๆ ผู้คนที่เมืองนี้ friendly ดีค่ะหนูชอบเสียแต่ยังไม่มีร้านอาหารไหนที่อร่อยถูกใจหนูเลย จริงอย่างที่คุณพี่ว่านะคะเรื่องการเลือกคบคนหรือภัยมาถึงตัวได้่ง่ายเพราะหนูใจดีมีเมตตาเกินไป ต่อไปหนูจะใจร้ายมั่งแล้วล่ะ ส่วนเรื่องช่วยเหลือผู้คนนั้นหนูทำเวลาหนูบินไปไทยค่ะ ญาติผู้น้องของหนูเป็นคูรสอนอยู่ต่างจังหวัดหนูก็ช่วยเหลือเด็กๆผ่านทางน้องสาวอยู่บ่อยๆ เวลาน้องต้องการอุปกรณ์ใดๆที่ทางโรงเรียนไม่มีหนูก็ช่วยน้องสาวไปค่ะ ช่วยจนคุณคูรที่โรงเรียนของน้องบอกว่าอยากเห็นตัวจริงคนใจดีจังอิอิ

อีกเรื่องนึงที่ใครๆบอกกะหนูว่าคนบางคนถ้าไม่เคยเจออะไรเลวร้ายมาก่อนในชีวิตก็จะด้อยประสบการณ์และอ่อนต่อโลกและไม่ทันเกมของผู้คนในสมัยนี้ หนูก็ว่าจริงค่ะ หนูเคยโดนมาบ้างเหมือนกันนะคะ แต่หนูถือว่าช่วยเหลือคนด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่มีอะไรแอบบแฝง เวลาหนูได้ช่วยเหลือคนอื่นๆแม้มันจะแค่เล็กๆน้อยๆหนูรู้สึกมีความสุขทางจิตใจมากค่ะ แต่ต่อไปนี้หนูจะระวังตัวให้มากเป็นพิเศษ ทำอะไรคิดให้รอบครอบกว่าเดิมค่ะ
ขอบคุณคุณพี่มากนะคะสำหรับข้อมูลศูนย์ช่วยเหลือคนไทยหนูจะเก็บเบอร์ไว้หากหนูมีเรื่องเดือดร้อนค่ะ หนูซาบซึ้งและเคารพคุณพี่เสมอนะคะ
หนูจะเข้ามาอัพเดทให้คุณพี่ฟังนะคะว่าจัดการอะไรยังไงไปบ้าง เดี๋ยวขอตัวออกไปช้อปปิ้งคลายเครียดก่อนนะคะ เขียนไปเขียนมาเครียดซะงั้นน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
คุณ ธนิตาคะ ขอบคุณค่ะที่ชม หนูชอบดื่มชอบเที่ยวแต่หนูก็ขยันดูแลผิวพรรณตัวเองด้วยค่ะ ค่ะหนูจะจำไว้ค่ะว่าต่อไปจะไม่เชื่อใครอีกแล้วค่ะหนูพิมกว่าจะได้มาแต่ละคำก็นานมากค่ะเพราะการศึกษามีน้อยอ่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
สวัสดีค่ะทุกท่านเชอรี่เข้ามาอัพเดทเรื่องราวว่าไปถึงไหนแล้ว และหนูขอขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยและให้คำแนะนำกะเชอรี่นะคะ เมื่อวานนี้เชอรี่เดินตรวจดูบริเวณหมู่บ้านที่เชอรี่อยู่ถัดไปอีกสองซอยก็พบป้ายนี้ค่ะ พอเห็นอย่างนี้เลยตัดสินใจไปแจ้งความไว้แล้ว และเบอร์โทรศัพท์บ้านก็เปลี่ยนเรียบร้อย และมีการติดระบบรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะที่ให้คำแนะนำและพยายามอ่านภาษาไทยของหนู พิมไทยไม่เป็นเลยนั่งจิ้มเอาทีละตัวฮ่าๆแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้งเพราะความพยายามเรียนทุกวันค่ะ เดี๋ยวนี้พิมเร็วขึ้นกว่าเมื่อสามปีก่อนโน้นค่ะ
คุณธนิตาคะหนูไม่ได้ขี้เมาขนาดนั้นนะคะฮ่าๆ หนูดื่มแบบมีสติทุกครั้งค่ะ ขอโทษที่แอบมีแนบแนมคุณจากคหข้างบนนะคะ ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณด้วยนะคะ วันนี้ความรู้ปลอดภัยและมีความสุขกลับมาอีกครั้งและรู้สึกโล่งอกมากๆเลยค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
น่ากลัวจัง แต่ปกติทุกบ้านจะมีเซฟตี้นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32


พี่ดีใจที่เชอร์รี่กลับมาเล่าว่าแก้ปัญหาไปอย่างไร และสบายใจแล้ว

น้องๆทุกคน ที่เคยสละเวลา แรงใจ แรงคิด ช่วยเหลือโครงการดีๆให้บอร์ด
พี่ระลึกถึงอยู่เสมอ คำว่ารักและห่วงใยของพี่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ

ถ้าน้องหรือเพื่อนคนไหน มีความทุกข์ อยากได้คำแนะนำ พี่จะกลับมานะ

แต่เวลาอยู่ดีมีสุขแล้ว พี่ยินดีด้วย อยู่ในความสงบ ยิ้มด้วยแต่น้องไม่เห็น
ขอบคุณเช่นกัน ที่น้องเข้าใจพี่ และยังไม่ลืมกัน มาเที่ยวทางนี้เมื่อไรบอก

พี่ได้อัพเดทเกี่ยวกับซานฟรานฯไว้ข้างบน วันนี้จะไปทำบุญเข้าพรรษาค่ะ
ขอให้อยู่ดีมีความสุขนะเชอร์รี่




ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ดีใจที่ไม่มีเรื่องนะคะพี่เชอร์รี่


ตอบกลับความเห็นที่ 33