เตือนเพื่อนๆ ที่ชอบซื้อของแบรนด์เนมกลับไทยค่ะ

เราเป็นคนนึงที่ชอบซื้อของแบรนด์เนมเวลาไปเที่ยว เพราะราคาถูกกว่าในไทยมาก
(ยิ่งสาวๆ ที่ชอบซื้อกระเป๋าเหมือนเรานี่น่าเป็นห่วง)
รอบก่อนที่ไปญี่ปุ่นก็หอบหิ้วมา แบบกังวลใจ แต่ก็โชคดีที่ไม่มีปัญหาอะไร
เข้าช่องเขียว ไม่โดนสแกน ไม่โดนตรวจอะไรเลย แต่ของเพื่อนเราไม่เป็นอย่างนั้น!!

เค้าเพิ่งกลับมาถึงไทยเมื่อเช้า และบอกว่าโดนตรวจเกือบทุกคน เปิดกระเป๋าดูกันละเอียดมากๆ
และที่สำคัญแม้แต่ของใช้แล้วก็ยังโดน ซึ่งตอนแรกจะถูกยึดของ
แต่พยายามต่อรองจนเหลือจ่ายเงินเป็นชิ้น ชิ้นละประมาณ 4-5 พันบาท ซึ่งมูลค่าที่จ่ายไปหลายหมื่นบาทเลย
**เพิ่มเติม** เค้าโดนหมดค่ะ ทั้งของใหม่ ของใช้แล้ว ของที่เพื่อนฝากซื้อ สรุปว่า  เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง  เอากระดูกมาแขวนคอ ต้องจ่ายไป แล้วไม่รู้จะเก็บกับเพื่อนได้ไหม

จึงอยากเข้ามาแจ้งข่าวเพื่อนๆ ในห้องนี้ว่า ใกล้ปีใหม่แล้ว อาจจะมีมาตรการณ์อะไรที่เข้มงวดกว่าเดิม

เพื่อนๆ ระมัดระวังด้วยนะคะ

ด้วยรักและหวังดีจ๊า ^^
ความคิดเห็นที่ 1
ของใช้แล้วก็ยังโดน?  

มึนเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ใกล้สิ้นปี
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
สงสัยอีกหน่อยอะไรที่ซื้อในไทยต้องเตรียมใบเสร็จติดตัวไปด้วยเดี๋ยวโดนตรวจจะได้มียืนยัน จ่ายภาษีในประเทศไปแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ได้ข่าวมาเหมือนกันครับว่าของที่ใช้แล้วยังโดน  ไม่รู้มีมาตราฐานอะไรมาตัดสิน
ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
บ้าไปแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าเราไม่ยอมจ่าย แต่ขอสู้คดีได้มะ
ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ที่ดอนเมืองผมกลับมาใันที่ 10 โดนทุกคน ถ้าสะพายเป้ใบเดียวแล้วทำหน้าแอ๊บแบ๊วๆไม่โดน จะโดนดึงตัวออกไป ผมยังบ่นในใจ แถวมันไม่ยาวตาย5เลยหรอเนี่ย ประเทศอื่นยังไม่ถึงขนาดนี้เลย แถมตรงนั้นทีป้ายเกี่ยวกับกฏหมายการดูหมิ่น จนท อีก

เจริญพร
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ของใช้แล้ว เช่นอะไรบ้างคะเครื่องสำอางเหรอคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ของใช้แล้วที่จริงใหม่แต่เจตนาทำให้เหมือนใช้แล้วหรือเปล่า พวกกระเป๋าไรงี้ หรือใช้แล้วจริงๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
@iamfine_thanks ไม่มั่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเรา เราจะเคลียร์ให้ได้ตรงนั้นเลย
เพราะรู้ๆ อยู่ว่าเค้าต้องการอะไร จะได้จบเรื่องด้วยค่ะ ดูยังไงๆ ก็ชนะยาก ถ้าเค้าจะเอา ก็คือจะเอา

@sugar_least ไม่ใช่ค่ะ ของเพื่อนเราที่โดน เป็นกระเป๋าสตางค์ ผ้าพันคอ รองเท้าแบรนด์เนมค่ะ
ถ้าเครื่องสำอางค์ คิดว่าคงไม่มีปัญหา ถ้าไม่ขนมาเยอะๆ แบบรู้ว่าเอามาขายแน่ๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
หมายความว่า ถ้าเราหิ้วหลุยส์ ใส่นาฬิกาฟิลิปส์ แม้จะเป็นของใช้แล้วที่ซื้อมานาน เราก็มีสิทธิโดนสุ่มตรวจเหรอคะ ช่วยอธิบายที เห็นกระทู้แนวนี้หลายกระทู้
ชักสงสัยนะคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
@superkoy ของใช้จริงๆ ค่ะ กระเป๋าสตางค์กับรองเท้าคือ ใส่แล้ว เปื้อนแล้ว ไม่ได้มีเจตนาเอาไปขายต่อหรืออะไรแน่นอน
ส่วนผ้าพันคอ เป็นของที่เอาไปจากไทย ด้ายก็รันไปแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นของใหม่ แกะมาใส่เพื่อผ่านด่านนะคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
น่ากลัวจังเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
บุญของนักท่องเที่ยวกระเป๋าเบาหวิวอย่างเรา... ไม่มีอะไรให้เครียด
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ช่วงนี้สงสัยศุลกากรโดนคำสั่งจากเบื้องบนให้ทำยอดมั้งครับ
รัฐบาลต้องการรายได้ด่วนก่อนถังแตก
ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าโดนจับที่ด่านศุลกากรแบบเข้าช่องเขียวแล้วโดนยึดของเนี่ย
เป็นคดีอาญานะครับ มีโทษจำคุกปรับแล้วก็ต้องขึ้นศาลด้วยถ้าหากว่าต้องทำตามกฏหมายจริงๆ
ที่เจ้าหน้าที่ให้คุณจ่ายเงินภาษีได้เนี่ย ถือว่าหยวนๆนะครับ

ส่วนของใช้แล้วนี่ก็ไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน ถ้าอยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเองก็ต้องยืนยันในศาลนะครับ


ผมอยาก comment เรื่องศาลศุลกากรไทยหน่อย
ผมคิดว่ามันช้ามากจนไม่มีใครอยากเสียเวลากับคดีพวกนี้ แต่ในต่างประเทศศาลศุลกากรเขาไวมากๆ สองสามวันคดีตัดสินแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
หา!! ใช้แล้วยังโดนเหรอคะ?!?

ถ้าจริงนี่ไม่ไหวนะ เราเป็นคนที่ชอบซื้อของใหม่ ใช้ไปเที่ยวเมืองนอกอ่ะ (ถ่ายรูปมาจะได้ดูดี)

เกิด จนท. สงสัยว่าเป็นของใหม่ แต่ไม่มีใบเสร็จมาโชว์ ก็จะโดนเหรอคะ???

เป็นมาตรการหาเงินรูปแบบใหม่หรือไงเนี่ย น่ากลัว -*-
ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
สงสัยมากเหมือนกันครับ

ใครพึ่งกลับมาช่วยรายงานเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
คิดเหมือนกัน ว่าเร่งทำยอดตามใบสั่งเบื้องบน
ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ถ่ายรูปของใช้แล้วก่อนออกประเทศไว้เลยครับ หน้ายักษ์เลย จะได้เถียงมันได้
ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
ดีนะ เราเป็นพวกซำเหมา ของแบรนด์ถ้าจะพกไปก็คงมีแต่ macbook iPad กับกล้อง dslr เท่านั้น อ้อ อาจจะมีนาฬิกาข้อมือกับน้ำหอมอีกสักขวด และก็รองเท้าผ้าใบ ต้องใส่ดีๆ เพราะเดินเยอะมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
นโยบายสนับสนุนให้ซื้อของก๊อป?
ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ใช่ค่ะ

เราเพิ่งกลับมา ที่ดอนเมือง ไฟลท์ก็ดึกแล้ว ห้าทุ่มเที่ยงคืน

มีป้าคนหนึ่งมาต้อนให้คนก่อนหน้าเรา เอาของเข้าเครื่อง

ส่วนเราสะพายเป้ หน้าเหลอหลา

ป้าดึงตัวออกมาสบายๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
เป็นเรื่องปรกติค่ะ
ใกล้สิ้นปี ยังไม่ได้ยอดต้องเร่่งทำยอดจ้าาาา
ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ชั่วร้ายมากเลย สงสารคนที่เค้าตั้งใจจะไปซื้อของเบรนเนมกลับมาใช้แต่ต้องโดนจับ
ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
แย่จังครับ เพิ่งจะมีกระทู้ดราม่าเรื่องนี้ไปหยกๆ

ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ หากไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาทก็ไม่โดนถูกต้องหรือไม่คะ

หรือ สองหมื่นบาทคะ  อย่างนี้ ถ้าหิ้วกล้องถ่ายรูปไป ตัวนึงนี่สองหมื่นบาทแล้ว ขากลับเขาจะนับด้วยหรือเปล่าคะ

มีคนบอกว่า ถ้ามีของมีค่าอะไรให้เอาไปดีแคลร์ ก่อนออกนอกประเทศให้หมด แต่ไม่ค่อยมีใครทำกัน จริงหรือไม่

ใครรู้ตอบทีค่ะ ใคร่อยากรู้มาก
ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
แต่พยายามต่อรองจนเหลือจ่ายเงินเป็นชิ้น ชิ้นละประมาณ 4-5 พันบาท ซึ่งมูลค่าที่จ่ายไปหลายหมื่นบาทเลย
**เพิ่มเติม** เค้าโดนหมดค่ะ ทั้งของใหม่ ของใช้แล้ว ของที่เพื่อนฝากซื้อ สรุปว่า  เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง  เอากระดูกมาแขวนคอ ต้องจ่ายไป แล้วไม่รู้จะเก็บกับเพื่อนได้ไหม

ูููููุ^^^^^^^^^^^^^^
แสดงว่าผู้เดินทางหิ้วสินค้าแบรนด์เนมเข้ามา "หลายชิ้น" ใช่ไหมครับ
แล้วเป็นของใหม่ที่เพื่อนฝากซื้อ กี่ชิ้นเหรอครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
หลังๆเริ่มบ่อยเกินไปแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
สงสัยเหมือนกันเนี่ย หลังๆเหมือนจะตรวจบ่อยมาก

ใครมีรายละเอียดหรือกฏหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ขอดูหน่อยได้ไหมครับ

อย่างนี้ของที่ใส่ไปจากเมืองไทยจะทำยังไงละ แค่กล้องก็เกินหนึ่งหมื่นแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
เพื่อนเอากระเป๋าเข้ามาสองใบ โดนตรวจจับ ปรับไปสี่หมื่นค่ะ ออกใบเสร็จมาให้ดูเป็นที่ระลึกด้วย
ของที่เอามามีกระเป๋าChanel1ใบ กับกระเป๋าคลัช YSL ทั้งๆที่เอามาใช้เอง

อีกคนแฟนเพื่อนซื้อนาฬิกามาจากฮ่องกงค่ะ Panerai เกือบสองแสน ซื้อปุ๊บใส่ปั๊บ
พอกลับเข้าประเทศ โดนขอตรวจ จนท.ถามหากล่องกับใบเสร็จ ก็รีบยื่นให้ดูว่ามีหลักฐานการซื้อมาจริง
นั่นแหละโดนเลยปรับ5หมื่น ขอต่อรองเหลือสามหมื่นค่ะ เดินออกมาแบบมึนๆงงๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
เราเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค 55 ที่ผ่านมา กระเป๋า 4 ใบ เราก็ซื้อน่ะ แต่ก็ไม่เห็นตรวจอะไรผ่านฉลุย มีซื้อเสื้อกันหนาว 2 ตัว,กางเกงยีนส์ลีวาย์แท้ 3 ตัวซื้อจาก Shop ,ร้องเท้า Timberland 3 คู่ ,แล้วก็ รองเท้า ONITSUKA TIGER 2 คู่ แล้วก็มีขนมโมจิสาระพัดโมจิหลายกล่องมากและขนม ช็อคโกแลต อีก 5 กล่อง มีเป็นถุงอีก 4 ถุง และก็ขนมอื่นๆอีกค่ะ ของฝากเพื่อนๆ ญาิติๆ เฉพาะขนมก็ 2 กระเป๋าใหญ่แล้ว  ก็ปรกติดีค่ะ ไม่เห็นจะโดนตรวจอะไรเลยค่ะแม้นแต่คนเดียว (ไปเที่ยวญีปุ่นกับญาิติ 6 คน)

***ขากลับเดินผ่านฉลุย แบบสะบาย สะบาย มีแวะเคาเตอร์ Duty Free ซื้อน้ำหอมกลับบ้านอีกหลายขวดเลยค่ะ อยู่เคาเตอร์น้ำหอม เกือบชั่วโมงค่ะ เลือกกันอยู่นาน เคาเตอร์น้ำหอมก็ อยู่ตรงหน้าตม.เลยค่ะ คนที่มา Fight เดียวกันก็กลับบ้านกันหมดแล้วมีแต่เรากับญาิติ 6 รถเข็นจอดอยู่หน้าที่เคาเตอร์น้ำหอมค่ะ พอซื้อเสร็จเข็ดรถออกมา เจ้าหน้าที่ตม.ยืนอยู่ 7 คน ยืนยิ้มให้ แถมมีแซวเราอีกค่ะ คุยด้วยเมื่อเป็นญาติกันเลยค่ะ   มาเล่าให้ฟังค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ค่าตำแหน่งยุคนี้วิ่งมาแพงครับต้องรีบหาทุนคืน ของปลอมทะลักประเทศไม่ตรวจจับ เล่นจับแต่ของแท้เรียกเงิน
ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
ถ้าซื้อของมาเพื่อใช้เอง อย่าเอากล่องหรือถุงใส่มาด้วยครับ เพราะถ้ามีกล่องบรรจุ มันหมายความว่าเป็นของใหม่เอาไปขายต่อได้

ถ้าไม่มากชิ้นเกินปกติ เอามาใส่บนตัวหรือถือเป็นของใช้มาเลย อย่างกระเป๋าถือ รองเท้า เข็มขัด
ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
มีคนบอกว่าตัวเองเคยโดน กะโน้ตบุ๊คที่ซื้อในไทยเนี่ยหล่ะค่ะ ขากลับเข้ามาโดนด้วย
เจ้าหน้าที่บอกว่า ก่อนออกไปต้องไปดีแคลร์ก่อน กรี๊ดดดดดดดดด

อย่างนี้เราถือว่าตั้งใจจะจับเพื่อหาเงินแล้วค่ะ แย่จริงๆ ขอบคุณมากเลยที่มาเตือนค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35-1
แล้วถ้ามีใบเสณ้จที่ซื้อจากไทย แต่ไม่ดีแคล์หล่ะคะ จะโดนด้วยมั้ย
ความคิดเห็นที่ 36
อยากรู้เงื่อนไขแบบชัดเจนค่ะ ว่ากำหนดไว้ว่าอะไร ยังหาอ่านไม่เจอเลย

ว่ากำหนดเป็นวงเงินนำของเข้า ไม่เกิน 10,000 หรือ 20,000

นับมูลค่าของทั้งหมดรวมกันหรือนับเป็นชิ้น งงอยู่เลยค่ะ

ขอถามด้วยว่า ถ้าซื้อพวกกระเป๋า harrods ใบเล็กๆ ราคาไม่เกิน 300-400 บาท

แต่ซื้อประมาณ 10 ใบ ไว้มาแจกเพื่อน อย่างนี้จะโดนเรื่องภาษีมั้ยคะ

ปล.หาข้อมูลให้เพื่อนค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 36