ขุนเอย..ขุนสถาน สู่ศรีน่าน ขึ้นดอยสมอดาว (น่าน แพร่) @ น่าน

เราขับรถเอง เลยขอเน้นเส้นทางแบบละเอียดหน่อยนะคะ
   
    วิ่งเส้นสายเอเชียค่ะ (เส้น 32 ไปบรรจบเส้นหมายเลข 1 ตอนใกล้นครสวรรค์) ออกกันแต่เช้า
ถนนโล่ง วิ่งง่ายเพราะไปวันธรรมดา จอดแวะแค่ปั๊ม ถ้าวิ่งจาก กทม.ไม่เกิน 3 ชม.น่าจะถึงนครสวรรค์
         พอลงสะพานเดชาติวงศ์ จะเจอแยกแรกให้เลยไปก่อน จนเจอแยกที่สองค่อยเลี้ยวขวาไปทางพิษณุโลก เป็นเลี่ยงเมืองค่ะ(เส้น117)  ถนนยัง4 เลนอยู่ วิ่งผ่านพิจิตรจนถึงพิษณุโลก แต่เราไม่เข้าพิษณุโลกนะคะ
เพราะอยากทำเวลาให้ถึงน่านก่อนค่ำ เลยวิ่งเลี่ยงเมืองพิษณุโลกค่ะ
       เราเลือกเลี้ยวซ้ายเลี่ยงไปทางตะวันตก เพราะเห็นว่าถนนเป็น 4 เลน
ขับง่ายกว่าทางตะวันออกที่เป็นเลนสวน จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆจนเห็นเส้นที่ทล.11 ตัดผ่าน
ก็เลี้ยวซ้ายอีกรอบเข้าทล.11  มุ่งหน้าสู่อุตรดิตถ์  
           แต่ใครไม่เคยไปให้เลี่ยงขวาไปตะวันออกน่าจะง่ายกว่า เพราะตรงอย่างเดียวเข้าเส้น 11 เลย

วิ่งเส้น 11 ถนนดี ขับเร็วต่อเนื่องได้ค่ะ ไปจนเข้าเขตอุตรดิตถ์

ช่วงจะเข้าเด่นชัย จ.แพร่ เริ่มเป็นทางขึ้นเขากันแล้วค่ะ ถนนดียังเป็น4 เลนอยู่ เร็วได้ตามสมควร
แต่เวลาเข้าโค้งระวังนิดนึง เพราะโค้งเยอะและโค้งยาวมาก
วิ่งมาจนถึง สามแยกเด่นชัย ให้เลี้ยวขวาเข้าเส้น 101 ไป แพร่-น่าน ค่ะ

เที่ยงกว่าแล้ว แถวนี้มีร้านอาหารหลายร้านเลย เราเลือกสวนไซทองค่ะ
ร้านอยู่ฝั่งขวามือต้องยูเทรนกันหน่อย ที่นี่เน้นอาหารพื้นบ้าน ที่ขึ้นชื่อคือ
ส้กรอกเตาดิน แถวนี้มีไส้กรอกเตาดินขายอยู่หลายร้านเหมือนกัน จะเข้าร้านไหนอ่านป้ายร้านดีๆนะคะ  
เราไปกันสองคน เลยสั่งแค่ไส้กรอก(ไส้อั่ว)เตาดิน น้ำพริกอ่อง ไก่อบ และกาแฟมาทานกัน
บริการตัวเองค่ะ สั่งอาหาร จ่ายเงิน และรอรับอาหารและหยิบช้อนกันเอง

อิ่มแล้วไปกันต่อ ยังเป็นเส้น 101 ไปน่านเหมือนเดิม
ถึงตัวเมืองแพร่เราเบี่ยงขวาเลี่ยงเมืองแพร่ไปก่อน เดี๋ยวขากลับค่อยมาแวะเที่ยวกันค่ะ
         
ผ่านร้องกวางมาแล้วกำลังจะเข้าเขต เวียงสา จ.น่าน ได้เวลาวิ่งเลนสวนแล้ว วิวสวยแต่ชมมากไม่ได้

เพราะโค้งเยอะมากกก ป้ายเตือนโค้งแล้วโค้งอีก

เพราะโค้งเยอะมากกก ป้ายเตือนโค้งแล้วโค้งอีก
ถ้าเจอรถช้า แซงยากค่ะ เพราะโค้งบังทางตลอด วิ่งวกไปวนมาอยู่ตามเขากันเกือบสองชม.

เกือบบ่ายสี่ก็ถึงน่านค่ะ
       คืนแรกของทริปนี้ เราพักกันที่น่านเกสเฮาส์ ตั้งอยู่ ถ.มหาพรหม มีสองชั้น ชั้นล่างเป็นโถงรับแขก
ชั้นบนแบ่งเป็นห้องพัก คนที่มาพักส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง แนว backpack มาพักแล้วเช่ามอไซค์เที่ยวกัน
เป็นห้องราคาไม่แพงแค่ 350 บาท  มีแอร์และเครื่องอำนวยความสะดวกครบ มี wi fi ด้วย
และที่ชอบมากกกคือมีแผนที่เที่ยวในตัวเมืองและรอบเมืองให้ด้วย สบายเลย

        ส่วนชั้นดาดฟ้าเป็นจุดชมวิว ขึ้นไปดูยอดเจดีย์หรือหลังคาบ้านคนเมืองน่านได้ค่ะ 555

ขอติดรถไปเที่ยวด้วยจ้า

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

หลังจากจัดแจงเก็บข้าวของเรียบร้อยก็ออกเดินชมสถานที่ต่างๆของตัวเมืองน่านทันที
เริ่มต้นด้วย วัดหัวข่วง จากที่พักเดินไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ วัดอยู่ถนนเดียวกันเลย

ฝั่งตรงข้ามวันหัวข่วงก็เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน

เก็บภาพต้นลีลาวดีหน้าพิพิธภัณฑ์ซะหน่อย ใบร่วงหมดแล้ว

แดดยามเย็นสุดยอด เดินสบายๆ ไม่ร้อนเลยค่ะ

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เป็นวัดพระธาตุช้างค้ำ

ส่วนด้านข้างคือวัดภูมินทร์

สี่แยกเดียวเที่ยวได้หลายวัดเลย ด้านในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสี่องค์ หันหน้าไปทั้งสี่ทิศค่ะ
ไม่ว่าเราจะขึ้นทางบันไดฝั่งไหนก็จะเห็นองค์พระเหมือนกัน วัดนี้มีภาพวาดผาผนังที่สวยงาม

จากวัดภูมินทร์เดินเข้าซอยไปเรื่อยๆก็ถึง วัดมิ่งเมือง เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน
ตัววิหารออกแบบลวดลายวิจิตรงดงาม

ลวดลายโบสถ์

หลังคา รูปปั้น ออกแบบงดงาม ประทับใจค่ะ

เช้าวันที่สอง มื้อเช้าเลือกร้านอาหารของเกสเฮ้าท์  เล็งเมนูไว้เมื่อวาน โอเคเลยค่ะ

มื้อนี้เริ่มต้นด้วย คาปูชิโน่ หอมอร่อยยยย และชุดอาหารเช้า  ชอบขนมปังค่ะ เป็นโฮลวีทงาดำ อร่อย ^^

ส่วนเพื่อนสั่งคาปูชิโน่และแพนเค้ก  รายการอาหารมีทั้งอาหารจานเดียวของไทยและแนวสากลเอาใจฝรั่ง
หันไปหันมาที่นั่งอยู่ด้านในก็ฝรั่งทั้งน้านน มีเราและเพื่อนสองคนที่หลงเข้ามา 555

อิ่มแล้วก็เก็บข้าวของ ออกเดินทางต่อ ที่แรกของวันนี้ก็คือพระธาตุแช่แห้
วิ่งเส้นน่าน-แม่จริม (1168)  ตรงเข้ามาเจอ พญานาคเฝ้าพระธาตุอยู่ด้านนอก

พระธาตุแช่แห้งเป็นพระธาตุ

ประจำปีเถาะ(กระต่าย)ค่ะ ใครเกิดปีนี้ อย่าลืมแวะมากราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคลกันนะคะ

ออกจากพระธาตุแช่แห้ง ย้อนเข้าเมืองแล้วกลับไปทางเส้น 101 จะมีป้ายเลี้ยงขวาเข้า

เส้น 1025 เพื่อขึ้นไปยังพระธาตุเขาน้อย อยู่ไม่ไกลค่ะห่างจากเมือง 2-3 กิโล
เป็นจุดชมวิวขึ้นชื่อของเมืองน่าน ทางขึ้นตัวพระธาตุชันเหมือนกัน แต่เป็นระยะสั้นๆ

ไหว้สักการะองค์พระธาตุเขาน้อย

แล้วเดินอ้อมมาทางด้านหลังของพระธาตุ

มีวิหารหลวงพ่อทันใจ ให้ไหว้บูชา

และแล้วก็มาถึงจุดชมวิวที่ห้ามผ่านเลยไป

ภาพพระยืนหันหน้า มองไปยังตัวเมืองน่าน

เมืองเล็กๆ ที่โดนขุนเขาโอบล้อมไว้ จนหลายคนมองผ่านไป

แต่ท่านไม่เคยมองผ่าน

พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน

ยังคงเฝ้าดูเมืองแห่งนี้เรื่อยไป

เป็นสถานที่ที่ประทับใจมาก สวยงามจริงๆค่ะ
มาแล้วอย่าลืมแวะนะคะ พระธาตุเขาน้อย

ลงจากเขาน้อยก็เที่ยงกว่าแล้ว ย้อนอีกนิดกลับมาหาข้าวกลางวันทานกันในเมืองต่อ

เลือกร้านวันดา อยู่ถนนข้าหลวง เลยวัดภูมินทร์ไปแยกหรือสองแยกได้แล้วเลี้ยงขวาวิ่งเข้าไปสุดซอยก็เจอค่ะ อยู่ใกล้ๆแม่น้ำน่าน

เมนูชวนชิมจัดขนมจีนและข้าวซอย แถมหมูสะเตะอีกซักชุด พออิ่มท้อง

ก่อนแวะตุนเสบียงเตรียมเดินทางไปจุดหมายหลักของทริปนี้ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
กลับมาเส้น 101 อีกครั้ง แล้วตรงยาวประมาณ 20 กิโลถึงเวียงสา ดูแผนที่จาก GPS แนะให้ไเส้นลัดสุดคือ
เส้นเวียงสา นาน้อย(ทล. 1026) แล้วไปเข้า 1216 ไปอุทยานอีกที เราและเพื่อนเลยตัดสินใจเอาเส้นนี้
เพราะไม่อยากย้อนไปร้องกวางให้เสียเวลาเหมือนกัน
จากเวียงสาเลี้ยวซ้ายไปนาน้อยประมาณ 30 กิโล ตอนนี้ถนนเป็นเลนสวน ทางคดเคี้ยวน่าดู