Toggle navigation
หน้าหลัก
ตั้งกระทู้ใหม่
ติดต่อเรา
Login
Register
ชีวิตคนไทยในต่างแดน
ถามเรื่องค่านิยมเรียนช่างเทคนิค ในสวีเดน เยอรมัน หรือสหรัฐฯ
ถามเรื่องค่านิยมเรียนช่างเทคนิค ในสวีเดน เยอรมัน หรือสหรัฐฯ
คนในประเทศที่อยู่ใน สวีเดน เยอรมัน หรือสหรัฐฯ เขามีค่านิยมให้ลูกหลานเรียนช่างเทคนิคแบบอาชีวะบ้านเราไหมคะ อ้างอิงจากกระทู้นี้ค่ะhttp://www.pantip.com/cafe/library/topic/K12369879/K12369879.html
ดร ยงยุทธ แฉล้มวงศ์ TDRI บอกว่า คนไทยนิยมให้ลูกเรียนเอา ปริญญา คนจบ ป ตรี ตกงานมากที่สุด แต่คนเรียนสายอาชีพกลับขาดแคลน เพราะไม่มีคนส่งลูกหลานเข้าเรียนอาจจะรู้สึกว่าต่ำต้อย
ในต่างประเทศ เป็นแบบบ้านเรารึเปล่า กรมอาชีวศึกษา ก็มีเรื่องถูกร้องเรียนการทุจริตซื้อครุภัณฑ์อีก มองไม่เห็นอนาคตประเทศจะแก้ปัญหา ค่านิยมนี้ได้อย่างไร ทั้งที่ประเทศเราขาดแคลนแรงงานฝีมือเป็นจำนวนมาก ไม่ได้ขาดคนจบ ตรี โท เอก
ความคิดเห็นที่ 1
ค่านิยมคนไทยกับใบปริญญามันมากเกินไป
ต่างประเทศ เช่นอเมริกาไม่สนใจเรืองใบปริญญา
ของให้เป็นคนดีขยันทำมาหากิน อาชีพอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ผมมีเพื่อนเป็นอาจาร์ย์ สามีเขาอาชีพขับรถบรรทุกของ ไม่เห็นแปลก
อาชีพสุจริตสามารถเลี้ยงลูกเมียได้
การเข้าศึกษามหาวิทยาลัยเมืองไทยกำหนดอายุ
แต่อเมริกาคนแก่ๆอายุ๗๐แล้ว
อยากได้ใบปริญญาก็กลับไปเรียนได้
อยากจะไปเป็นช่างก็ไปเรียนโรงเรืยนอาชีวะได้ไม่มีกำหนดอายุ
โรงเรียนอาชีวะก็ไม่มีตีกัน หรือไล่ยิงกันแบบเมืองไทยนะ
ตอบกลับความเห็นที่ 1
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 2
วันนี้ว่างขอตอบนะคะ แต่ไม่ได้อยู่ในสามประเทศข้างบนนะคะ
ประเทศที่ดิฉันอยู่ คนอายุ 18 ปีต้องเริ่มต้นจ่ายประกันสุขภาพเองแล้วค่ะ เออ...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเรียนหนังสือด้วย ประกันสุขภาพต้องจ่ายเป็นรายเดือนซุุึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่นี่มาก เกิดป่วยต้องหาหมอค่ารักษาพยาบาลแพงค่ะ พ่อแม่ถ้าสามารถส่งเสียลูกให้เรียนสูง สิ่งพวกนี้ก็ต้องจ่ายด้วย ซึ่งไม่ค่อยมีใครเค้าทำกันเยอะนะ เด็ก ๆ 17-18 เค้าก็เริ่มทำงานหาเงินเองแล้วนะ เพราะเค้าต้องการมีชีวิตอิสระคือแยกออกมาอยู่เอง
ระบบการศึกษาของที่นี่เค้าจะเริ่มดูเด็กตั้งแต่ 5 ขวบจากคะแนนผลการเรียนของทุุก ๆ ปีไปจน 12 ขวบ คะแนนที่เรียนมาตอนประถมจะตัดสินการเรียนต่อในชั้นมัธยม แล้วพอไปเรียนมัธยมเด็กที่เก่งจริงๆถึงจะไปเรียนสายวิทย์ต่ออีก 6 ปีหรือสายทฤษฎีอีก 5 ปี ส่วนมากที่เด็กจะเลือกเรียนกันที่เรียน 4 ปี (หมายถึงจบประมาณอายุ 16 ปี) แล้วไปต่อสายอาชีพ 2 -3 ปีแล้วก็เริ่มทำงานกันเลย
จะเห็นได้ว่าคนส่วนมากไปเรียนสายอาชีพโดยตรง เช่นจะไปเป็นผู้ช่วยในร้านยาก็ต้องเรียนโดยตรง จะไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กก็ต้องเรียนเทคนิคโดยตรง ข่างเสริมสวย ช่างเล็บ คนทำงานสถานพยาบาล แม้กระทั่งคนเรียงอิฐตามถนนก็ต้องมีวิชาชีพเรียงอิฐมานะคะ และสายอาชีพอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องเรียนโดยตรง
ฉะนั้นวิชาชีพเค้าจึงมีคุณภาพ เพราะคนทำงานเค้ามีหลักสุตรที่เรียนมาตรง ๆ อีกอย่างค่าแรงงานก็ได้ตามมารตรฐานการวิชาชีพที่จบมา
เราคงไม่พุดถึงระบบเมืองไทยนะคะ แค่อยากให้เมืองไทยมีระบบแบบนี้
เด็ก ๆ พอมีอาชีพแล้วถ้าหากต้องการเรียนต่อเค้าก็สามารถทำได้ ค่าเรียนสามารถเอาไปลดหย่อนภาษีได้ หรือบางที่ทำงานเค้าก็สนับสนุนจ่ายค่าเรียนให้
จบปริญาตรีที่นี่สุงนะ แต่ถ้าไม่มีงานทำก็อยู่ยากค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 3
ขอต่ออีกหน่อยนะคะ
ส่วนเด็กที่เรียนเก่งในประเทศที่ดิฉันอยู่ พอเรียนจบมัธยม 5 ปีหรือ 6 ปีแล้วก็ต้องไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ซึ่งเรียนก็หนัก ค่าใช้จ่ายก็สูง ถ้าพ่อแม่ไม่ช่วยจริงๆ คงแย่ ถึงจะเรียนทุนแต่ คชจ.ก็ยังสุงอยู่นะคะ ฉะนั้นในระยะเวลาที่เรียนก็ต้องหารายได้พิเศษมาช่วยค่าใช้จ่าย ซึ่งงานก็คือทำเสริฟอาหารหรือรับจ้างอื่น ๆ นั่นแหละ
แล้วเด็กที่เรียนมัธยมแค่ 4 ปี ถ้าเค้าเรียนดีก็เลือกเรียนต่อสูง ๆ ต่อได้ แถมทำงานได้ด้วย
และถ้าต่อสายอาชีพเลย อายุเท่ากันเค้าเริ่มทำงาน มีเงินเองแล้ว อาจจะซื้อรถหรืออาจจะเริ่มผ่อนบ้านเองแล้วก็ได้
อ้อ..แล้วเค้ายังมีผ่อนผันสำหรับเด็กที่ไม่ชอบเรียนด้วยนะคะ เช่นหลักสุตรช่างหลายหลักสุตรที่เรียนแค่ 6 เดือนหรือ 1 ปีจบ เป็นต้น
ส่วนตัวมองว่าการเรียนสายอาชีพนั้นดีนะคะ ไม่ได้ต่ำต้อยอะไร และโอกาสเรียนที่เปิดตลอด พึ่งผ่านมาไม่กี่สัปดาห์นี่เอง เพื่อนร่วมงานของดิฉันพึ่งจบหลักสูตรพยาบาลด้วยวัย 57 ปี ดิฉันงี้อึ้งค่ะ 50 กว่าแล้วยังมีจิตใจไปเรียนอีกน๊อ...
ตอบกลับความเห็นที่ 3
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้ารู้ว่าอยากทำอาชีพอะไร เค้าจะไปเรียนทางด้านนั้นเลยค่ะ
ทุกอาชีพสังคมยอมรับเท่าเทียมกัน ยิ่งสายอาชีพเน้นประสบการณ์
เค้าก้อจะไม่มาเสียเวลาไปเรียนต่อให้จบชั้น 12
ส่วนตัวคิดว่า ที่เมืองไทยนอกจากค่านิยมเรื่องปริญญาแล้ว
เด็กเองไม่รู้จักตัวเองว่าต้องการอะไรด้วย ก้อเรียนๆมันไป แล้ว
ไปเอนเข้าคณะที่คะแนนตัวเองจะเข้าได้ โดยไม่ได้ยึดว่าตัวชอบ
จริงๆหรือไม่
ตอบกลับความเห็นที่ 4
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 5
คุณTanja-nl อยู่ในฮอลแลนด์รึเปล่าคะ ปัญหาขาดแคลนช่างฝีมือ ถ้ารัฐบาลจะแก้อย่างจริงจังก็น่าจะทำได้ แต่ไม่มองว่านี่เป็นปัญหา ก็เลยเอาเวลาไปทำอย่างอื่น เช่นโครงการแจกแท็บเล็ท โครงการเรียนฟรี 12 ปี ที่ อาชีวะก็ไม่ค่อยมีเด็กมาเรียน บางโรงเรียนต้องเปิดรับสอง ถึงสามรอบ ก็ยังหาคนเรียนไม่ได้เต็มจำนวน
ตอบกลับความเห็นที่ 5
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 6
ท่าน ดร ที่พูด ท่านก็มีค่านิยมเรียนสูงๆ แล้วก็มาพูดแบบนี้ ถ้าจะให้ดีต้องให้คนเรียนช่างเทคนิค แล้วประสบต์ความสำเร็จในชีวิตมาพูด มันถึงน่าฟัง
หน่วยราชการทั้งหลายกำหนดมา ต้องจบปริญญาตรี ถ้าจะแก้ ก็ไปแก้การรับเข้าทำงานของหน่วยงานรัฐเลย เพราะเป็นตลาดแรงงานขนาดใหญ่เปิดทุกปี กำหนดว่าเบื้องต้นต้องจบช่างเทคนิค มีคุณวุฒิ ปวช ปวส ถึงมีสิทธิ์สมัคร แค่นี้แหละ เดี๋ยวเด็กแห่ไปเรียนเป็นช่างเทคนิคกันเป็นแถว แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่ อะไรๆก็ปริญาตรี แถมให้คนจบปริญญาตรี มีคุณสมบัติทุกอย่างที่เหนือกว่าช่างเทคนิคทุกด้าน แล้วที่บอกว่าคนไทย ไม่นิยมเรียนช่าง ผมว่าไม่ใคร่จะจริงน่ะครับ โรงเรียนช่างเทคนิคเปิดออกเยอะแยะไป
ตอบกลับความเห็นที่ 6
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 7
คุ่ะคุณ จขกท.ดิฉันอยู่ประเทศเล็ก ๆ ตอนบนของยุโรป
ไม่ได้มีความรู้ระดับสูง ๆ หรอกนะคะ แค่มองปัญหาแบบชาวบ้าน ๆ ธรรมดาคนนึง เรื่องค่านิยมต้องจบ ป.ตรี ขึ้นไปของเมืองไทยนั้นก็เป็นไปเพราะ คนที่เป็นสังคมไทยพ่อแม่นั้นอยากให้ลูกได้มีหน้าที่การงานดี ๆ ก็สนับสนุนให้เรียนกันไป ทั้งระบบราชการ และแรงงานไทยส่วนใหญ่นั้น รับ ป.ตรี เลยกลายเป็นค่านิยมมังคะ
เคยเป็นเด็กคนนึงเรียนสายวิทย์แล้วล้มเหลว (เอนไม่ติด) ในสมัยนั้นก็มีวุฒิ ปวท.มารองรับเด็กที่ ม.6 ที่อยากเรียนต่อสายอาชีพนะคะ แต่สถาบันการทำงานก็ไม่ค่อยจะรับรองวุฒินี้ ถ้ารับเด็ก ปวท.รับ ปวส.ดีกว่า ดิฉันว่าระบบการศึกษา ควรสนับสนุนด้านอาชีพให้มากขึ้น มีสถานบันรองรับคนเรียน รวมทั้งตลาดแรงงานด้วย ไม่ใช่ใช้คนจบวุฒิ ป.ตรีมาใช้งานสะเปะสะปะ เช่นจบ ป.ตรีการจัดการแล้วไปเป็นครู ร.ร.เอกชน เป็นต้น
พูดไปจะกลายเป็นเรื่องยาวและใหญ่ระดับชาติที่ต้องแก้ไข ผู้น้อยอย่างดิฉันมิอาจเอื้อมค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 7
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 8
เยอรมัน ถ้าเรียนสายอาชีพ(ปกติ) เด็กจะได้เงินเดือน พ่อแม่จะไม่ต้องส่ง
แล้วบางคนเรียนจบ ม.6 แล้วไม่เรียนต่อ ป. ตรี กลับมาเรียนสายอาชีพแทนก็เยอะ
ตอบกลับความเห็นที่ 8
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
Copyright 2024 by pai-nok.com