Etihad ประทับใจกับการบริการมาก

เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2555 เรากับเพื่อนอีกสองคน ซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปเบลเยี่ยมกับ Etihad
โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่ Abu-dhabi ก็ยังร่าเริงกันตั้งแต่ check – in
ได้เพิ่มน้ำหนัก 10 กก เพราะสมัคร Etihad guest ไว้ก่อน
แล้ว อาหารบนเครื่อง อร่อย และ หนังสนุก พนักงานน่ารัก ......

วันแรกที่มาถึง สนามบิน BRU / Belgium
เรื่องเริ่มดราม่า ตอนที่ถึงเบลเยี่ยมแล้ว ที่สนามบินบรัลเซลส์ ระหว่างที่รอกระเป๋านั่นเอง!!!
เพราะเรารอกระเป๋าจน LAST BAG ก็ยังไม่มีวี่แววกระเป๋าของเรา รอเท่าไหร่ก็ไม่มา
เลยเดินไปติดต่อสนามบิน จึงได้พบว่าBOARDING PASS ของกลุ่มเราไม่มีจำนวนกระเป๋า น้ำหนักกระเป๋า
ทุกอย่างเป็นศูนย์หมด ในระบบจะเห็นว่าเราไม่ได้ LOAD กระเป๋าขึ้นเครื่อง!!!!!

ความคิดเห็นที่ 1
มันเป็นความสะเพร่าของเราเอง เพราะว่า ไม่ตรวจ BOARDING PASS ให้ดี
แต่พูดกันจริงๆ นะ เราเดินทางมาหลายครั้งก็ไม่เคยตรวจ
และไม่รู้เลยว่าต้องตรวจ(แต่ต่อไปนี้คงจำได้แม่นแล้วหล่ะ) และไม่มีหางตั๋วของกระเป๋าที่LOAD ไป !!!
โมโหมากเลยโวยไปว่า คนบ้าที่ไหนมันจะเดินทางมาต่างประเทศสิบวันโดยไม่มีเสื้อผ้ามาด้วย บ้าหรือเปล่า !!!!
เจ้าหน้าที่ต้นทางควรจะมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ อย่ามาอ้างว่าเราเดินทางบ่อยน่าจะรู้
เพราะ เราไม่ได้เดินทางทุกวัน แต่คุณทำงานอยู่กับมันทุกวัน!!!!!! (จริงๆ พูดเยอะ เพราะพูดกันหลายคน แต่จำมาได้แค่นี้แหละ )

เจ้าหน้าที่สนามบินสอบถามข้อมูล ของกระเป๋า รูปพรรณ ขนาด ให้กรอกเอกสาร และแจ้งว่าจะติดต่อกลับ
เดชะบุญที่เราทุกคนหิ้วเสื้อหนาวขึ้นเครื่อง ไม่อย่างงั้นคงต้องหนาวตายอยู่ข้างนอก
เจ้าหน้าที่สนามบินสงสารให้ถุงยังชีพมาคนละชุด มียาสีพัน แปรงสีฟัน สบู่ โลชั่นและเสื้อยืดหนึ่งตัว
ยังดีที่เรายังมีเพื่อนมารับ ให้ยืมเสื้อผ้าและเครื่องใช้ต่างๆ ถ้าเราไปในประเทศที่ไม่รู้จักใคร จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ T T

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
พอถึงบ้านเพื่อน ก็ติดต่อกลับที่Etihad กรุงเทพฯ ตามเรื่องให้
อีกวันนึงจึงได้คำตอบจากเมืองไทยว่าข่าวดีค่ะ!!!! เจอกระเป๋าแล้ว (เย้!เย้!) ยังอยู่กรุงเทพฯ (หา?)
เราก็ดีใจ มองในแง่ดี ที่มันไม่ได้ถูกขโมย หรือคนอื่นหยิบผิดไป หรือหายไปจากระบบ
แต่กระเป๋าจะได้อีกวันคือพรุ่งนี้
ตายแล้ว !!!!แต่พรุ่งนี้เราต้องไปปารีสนิ จองตั๋วรถไฟและที่พักไว้แล้ว เอาละสิทำไงดี
งั้นขอให้ช่วยส่งกระเป๋าไปที่ สนามบิน CDG เพื่อที่เราจะได้มีเสื้อผ้าและของใช้ระหว่างนั้นและถ้าส่งไปเบลเยี่ยมก็ไม่มีคนอยู่รับของ
เจ้าหน้าที่ก็รับปากจะรีบดำเนินการให้

คือต้องบอกก่อนว่า ที่มันเร็วขนาดนี้ เพราะเราตามจี้ตลอด เที่ยวไปจี้ไป กินข้าว นึกขึ้นได้ก็โทร แวะชอปปิ้ง นึกขึ้นได้ก็ตาม
โทรตามเหมือนคนเป็นโรคจิตอ่อนๆ สงสารน้องที่รับเรื่องเหมือนกัน แต่สงสารตัวเองมากกว่า
อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกลเพื่อเที่ยวแบบสนุกไม่เต็มร้อย
เราโทรตามแล้ว ส่งเรื่องเข้าหน้าwebsite ของEtihad แล้วด้วย แต่ไม่ได้คำตอบ
สุดท้ายมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่ากระเป๋าเราเดินทางออกมา คืนพรุ่งนี้ ถึงเราวันมะรืนนี้ เอาวะ... รอต่อไป


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
วันที่สองที่มาถึง Leuven / Belgium

เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องเมื่อวาน โทรมาบอกว่า กระเป๋ามาแล้วนะถึงบรัสเซลส์ น่าจะส่งให้ได้ภายในวันนี้ 99%
เย้! เย้! ก็ไม่กล้าไปไหนไกล เพราะกลัวกระเป๋ามาแล้ว ไม่มีคนรับ ตื่นเต้น! ตื่นเต้น!
สุดท้ายรอเก้อ กระเป๋าไม่มาจ้า! แล้วไง ก็ต้องโทรจิกอีกเช่นเคย
โทรเข้าไป พนักงานที่โทรมาแจ้งเลิกงานแล้ว คนรับเรื่องแทนบอก ยังไม่ออกจากกรุงเทพฯ เลย

อ้าว!!! เฮ้ย!!! อะไรกันเนี้ย!!! โทรกลับไทยอีกเป็นรอบที่ร้อย ปรากฏว่ายังไม่มาจริงๆแต่รับปากว่าจะส่งออกมาคืนนั้นกับการบินไทย ไปที่ CDG
เจ้าหน้าที่บอกว่าจะถึงเช้า น่าจะได้กระเป๋าประมาณ 8-9 โมงเช้าของวันถัดไป
ตกลงระบบหรือคนที่มีปัญหา สื่อสารกันบ้างไหมเนี้ย
ตอนนี้อารมณ์เราเหมือนลูกโป่ง พองๆ ฟีบๆ เป็นระยะๆ ถ้าเป็นโรคหัวใจ แย่ไปแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
วันที่สาม ที่มาถึง สนามบิน CDG / France

นั่งรถไฟแต่มืด ออกจากเบลเยี่ยม ไปปารีส ต่อไปสนามบิน เพื่อรอรับกระเป๋าด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม อย่างร่าเริง
คิดอยู่ในใจว่า วันนี้จะใส่ชุดอะไรดีน้า
ไปถึงสนามบินประมาณ แปดโมงเช้า ตรงดิ่งไปที่ terminal 3 ตามที่ได้รับแจ้งมา
เข้าไปติดต่อการบินไทย ผ่่นไป 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สนามบินบอกว่ากระเป๋ามาถึงแล้ว
ต้องไปรับที่แผนกกระเป๋าของEtihad ที่ Terminal 1

แม่เจ้า!!! สนามบินมันกว้างนะ เอาวะไหนๆ ก็มาแล้ว กระเป๋าได้แน่ๆ รีบไปดีกว่า
ไปขึ้น shutter ของสนามบิน และเดินอีกสองสามหอบ ก็ถึง
เข้าไปติดต่อตามกระเป๋า เจ้าหน้าที่สนามบินที่ดูแลเรื่องกระเป๋าหาย
พิมพ์อะไรไม่รู้ กุกกัก กุกกัก แล้วบอกว่ากระเป๋าออกจากกรุงเทพฯ แล้ว กำลังไปBRU ????


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
อ้าว!!! เฮ้ย!!! อะไรกันเนี้ย!!! น้ำตาจะไหล ตกลงยังไงกันแน่ ช่วยคุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้ไหม
แล้วเราก็ต้องรออีก ด้วยความหวังริบหรี่ และคำถามมากมายในใจ
สรุปว่าไง? กระเป๋าชั้นอยู่ไหน? แล้วยังไง? ต้องรอถึงเมื่อไหร่?
จะเหวี่ยงวีนเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ เพราะเค้าไม่เกี่ยว มันเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ต้นทาง
แต่ก็ต้องขู่เข็ญ ดราม่า เสียน้ำตา ผ่านไปอีกชั่วโมงกว่าๆ
สุดท้าย ก็เจอว่ากระเป๋าอยุ่ที่นี่ แต่ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 วันกว่าจะมาถึงที่นี่ เนื่องจากสนามบินเราใหญ่มาก

อ้าว!!! เฮ้ย!!! อะไรกันเนี้ย!!! มีเรื่องให้เหวออีกแล้ว รู้แล้วว่าสนามบินใหญ่ คนเข้าออกเยอะ แล้วไง?
ชั้นถ่อมาถึงนี่ เพื่อจะกลับไปนอนรอกระเป๋าที่บ้านเหรอ ไม่ได้ ชั้นไม่ยอม!!!
เพื่อนก็พยายามจะให้เจ้าหน้าที่ช่วย ให้คนเข้าไปดึงออกจากระบบการทำงานอันแสนดี ของสนามบินอันแสนใหญ่ได้ไหม
ลืมบอกไปว่า เค้าบอกว่าอีกสิบนาที (คนที่นี่ บอกสิบนาทีแปลว่าไม่ต่ำกว่าชั่วโมง)
คนของEtihad จะเข้ามาคุยเรื่องการชดเชยค่าเสียหาย
คนที่มาท่าทางอย่างเฉื่อยชา พูดจาเหมือนโปรแกรมไว้ ให้เงินค่าชดเชย วันละ 31 เหรียญยูโร !!!!
เยอะไปไหนเนี้ย ค่ารถไปมาสนามบินก็ 10 เหรียญแล้วคู๊ณณณ !!!!!!


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เค้าบอกว่าให้แค่สองวันนะ เพราะวันนี้ได้กระเป๋า (บ่ายสองแล้วนะ ยังไม่ได้กินข้าวเลย เพราะรอไอ้สิบนาทีมาสามสี่ครั้งแล้ว!!!!)
สุดท้ายได้มาคนละ 62 ยูโร ถ้าอยากได้มากกว่านี้ทำเรื่องเข้ามาที่บริษัทฯ
(ไม่ต้องมาบอกหรอกยะ ชั้นทำเรื่องแน่ๆ ไม่ใช่อยากได้เงินหรอกนะ แต่อยากให้รู้ว่าอย่าทำแบบนี้กับคนอื่นๆ อีก)
สักพัก เจ้าหน้าที่ของสนามบินเดินมาบอกว่า กระเป๋าได้แล้ว ให้เข้าไปรับได้
ยังหวังดีถามว่า กลับไปรอดีไหม เดี๋ยวส่งกระเป๋าตามไปให้ ไม่น่าเกินคืนนี้

อ้าว!!! เฮ้ย!!! งั้นชั้นขอเอากระเป๋าไปกับตัวดีกว่า เดี๋ยวจะหายอีก
เลยต้องเสียค่าtaxi อีก 50 กว่ายูโร (ไอ้ค่าชดเชยที่ให้มานะ จะหมดแล้วนะ)
สุดท้ายก็จากลามาอย่าง แย่ๆ งงๆ รวมใช้เวลาที่สนามบินไปครึ่งค่อนวัน ที่แย่มากๆ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1.ตรวจ boarding pass ให้ละเอียดก่อนเดินทางทุกครั้ง
2.อย่าไว้ใจเจ้าหน้าที่
3.สวดมนต์ก่อนโหลดกระเป๋า / ทำบุญเยอะๆ / ทำใจให้เข้มแข็ง
4.รักษาสิทธิ์ ของตัวเอง และ อย่าเชื่อทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่บอก
ควรถามสองคนเป็นอย่างน้อย แล้วค่อยประมวลผล

สุดท้ายนี้กำลังร่างจดหมายเป็นเรื่องเป็นรายเพื่อขอความเป็นธรรมจากสายการบินอยู่ค่ะ
ไม่นิ่งเฉย หรือปล่อยผ่านแน่นอน เพราะเค้าทำให้เราเสียเวลาอันมีค่าไปเยอะ
และไอ้การชดเชยเนี้ย มันก็น้อยจนน่าตกใจ ไม่พอค่าโทรศัพท์ ตามเรื่องเมืองไทยเลยด้วยซ้ำ

มาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคนที่อดทนอ่านจนจบ รุ้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง ขอโทษนะค่ะ
ยิ่งพิมพ์ ของยิ่งขึ้น นี่ขนาดรอให้ผ่านไปหลายวันแล้วนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
มาติดตามครับ เหนื่อยแทน จขกท. เลยจริง ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ได้เที่ยวแต่กระเป๋าหาย พูดไม่ออกครับสงสัยเป็นเรื่องฮิตไปซะแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
อ้อลืมความประทับใจอีกอย่าง

ขากลับ มาถึง Abu-dhabi ปรากฏว่า ดีเลย์ไป 3 ชั่วโมง และ สุดท้าย รวมเป็น 4 ชั่วโมง
ประทับใจสุดๆ ถึงไทยเที่ยงคืนกว่า แผนการผิดหมด ไม่มีคนมารับ ต้องกลับบ้านเอง
ต้องง้อTAXI ให้ไปส่ง เพราะบ้านไกลไม่พอ ความต้องการของท่าน taxi

เช้ามาทำงานแทบไม่ไหว เพราะ กลับดึก มันความผิดของชั้นเหรอ?????

ต่างกรรมต่างวาระ บางคนอาจโชคดี ไม่เหมือนเรา
ท่าทางจะไม่ถูกกับสายการบินนี้แล้ว เดี๋ยวเอาไมลืไปแลกให้หมดแล้วคงปิดงานกันไปเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆจขกท. กลับมาต้องทำบุญเยอะๆซะละ ^^ ขอบคุณที่เขียนมาเตือนกันครับ ผมเองก็ไม่เคยตรวจสอบ baggage tag เลยสักครั้ง สงสัยบินครั้งหน้าต้องตรวจซะละ ขอให้ทริปหน้าของจขกท.มีแต่ความสนุก ไม่เจออุบัติเหตุเพศภัยทั้งปวงนะครับ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
แล้วตกลงกระเป๋ามันไม่ตามไปได้ไงครับเนี่ย จนท. เช็คอินไม่ได้เอาใส่ระบบด้วยซ้ำแล้วยกขึ้นสายพาน ไหลไปกองที่ไต้ถุนกลายเป็นกระเป๋าไม่มีเจ้าของเหรอ?


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านแล้วเหนื่อยใจเห็นใจแทน จขกท. เลยครับ

ประสบการณ์อันเลวร้ายเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางของผมคือ มันโดดลงจากใต้ท้องรถทัวร์ที่ยุโรป(เชค) ในวันที่ 2 ของการเที่ยว คงโดดลงกลางทุ่ง เพราะประสานท้องที่ไม่มีข่าวคราว ต้องซื้อเสื้ออผ้า+ข้าวของใหม่ทั้งหมด สำหรับอีก 7 วันที่เหลือ บริษัทรถเอาเงินประกันมาให้ที่สนามบินในวันที่จะบินกลับเมืองไทย 800 ยูโร เสียดาย notebook อย่างเดียว เสื้อผ้าข้าวของไม่เท่าไหร่ แต่ความกร่อยนี่ในการเที่ยวนี่ ไม่อยากบรรยาย


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ทั้งเสียดายเวลา ทั้งเหนื่อยแทนจขกท.ครับ

แทนที่จะได้เที่ยว กลับต้องเอาเวลาไปตามล่าหากระเป๋า


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เราเช็ค tag กระเป๋าทุกครั้งนะ
ทำไม จขกท ไม่ตรวจดูล่ะ

เราดูตั้งแต่ชั่ง นน
ดูเค้าผูก tag กระเป๋า เอาหางตั๋วมาแปะที่ boarding pass
และดูมันถูกเตะไปที่สายพาน
ก่อนที่จะเดินออกจากเคาน์เตอร์เสมอ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
โห เยินจังค่ะ อย่างงี้คงหมดสนุกกันพอดี


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เหนื่อยใจแทนเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
น่าเห็นใจมากค่ะ...แค่ตามกระเป๋าก็หมดวันเที่ยวไปเป็นวันๆแล้ว...ยังมาเสียอารมณ์อีกเนอะ ขอบคุณที่เอาข้อมูลมาแชร์กันค่ะ จะได้ระวัง

ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เราก็ไม่เคยเช็ค tag กระเป๋าบน boarding pass เลยค่ะ

ขอบคุณที่มาเตือนนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
จขกท ค่ะ
เราว่ามันเป็นความสะเพร่าของเราเองด้วยส่วนนึง ที่ไม่ได้ตรวจ เพราะกำลังลุ้นเรื่องน้ำหนัก
และตื่นเต้นกับน้ำหนักที่ได้เพิ่ม โดยไม่ได้คาดคิด เลยลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไป

แต่มันก็ไม่น่าจะเกิด เพราะมันเป็นเรื่องที่เค้่าทำทุกวัน มันจะพลาดลืมส่งออกมาเลยเหรอ
เท่าที่ทราบจากการบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า กระเป๋าไม่ได้ถูกเอาเข้าระบบด้วยซ้ำไป

เรื่องที่เราประทับใจ ที่สุดคือเรื่องของการให้ข้อมูล ทุกคนพร้อมจะให้ข้อมูลที่ต่างกันในการตอบ

เราไม่ได้โทษเรื่องลืมกระเป๋าเรา เพราะเราก็ผิดด้วย แต่เรา โทษเรื่องของการให้บริการหลังจากนั้น
ที่ไม่มีการประสานงานกัน ตอบกันไปอย่างงั้นเอง คนนึงบอกได้วันนี้ คนนึงบอกพรุ่งนี้
คนนึงบอกว่าไปเบลเยี่ยม คนนึงบอกว่าไปปารีส ตกลงยังไง

แต่ก็ดีทำให้เราได้ประสบการณ์ ขากลับ ยืนจ้องไม่กระพริบตา เลย
ตรวจทุกใบ เช็คทุกบรรทัด ทุกข้อความ ถ่ายรูปไว้ด้วย กันพลาด
และมีเรื่องมาเล่าให้ทุกคน ดูแลตัวเองให้ดีๆ ด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
สายการบินที่ดี เรามักจะจะมองถึงแค่ความสวยหรูบนเครื่องบิน มี PTV รึเปล่า ที่นั่งหรูไหม แอร์สวยไหม

แต่เราอาจมองข้ามถึงการบริการภาคพื้น การช่วยเหลือผู้โดยสารในเวลาที่มีปัญหา และการแก้ปัญหาเวลาที่ผู้โดยสารมีปัญหาตาม station อื่นๆ

พอเราได้มีโอกาสสัมผัสกับการจัดการของสายการบินต่างๆแล้ว เรากลับรู้สึกว่าสายการบินอันดับ 1 ของโลกยังด้อยอยู่มาก เรายกให้การบินไทยเป็นสายการบินที่มีบริการภาคพื้นที่ดีที่สุดของสุวรรณภูมิ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เอาตัวอย่างมาให้ชม สำหรับท่านอื่นๆ จะได้ตรวจสอบ
ไม่ทำผิดพลาดเหมือนเรา
เต็มๆ ตา ว่ามันเป็น 0 0 0
คือไม่ได้โหลดแน่นอน

ที่เจ็บใจคือตอนไปรับเงิน เจ้าหน้าพูดว่า
คราวหน้าให้ทำประกันมาด้วยนะ จะได้เงินชดเชยมากกว่านี้

เอ่อ. เอ๋อ เลย คือ ดิชั้นไม่ได้หากินทางนี้นะค่ะ
หรือดวงดี จะหายกันบ่อยๆ ดิชั้นจำแม่นค่ะ!!!


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ดีใจด้วยกับคุณมณฑิฯที่ได้รับของคืนอย่างครบถ้วน

ต่อไปถ้าไปตปท จะต้องระวังแล้วครับ แฟนผมยิ่งชอบขนขไปเยอะด้วย..555


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ผมก็ไม่เคยตรวจสักครั้ง เหมือน จขกท แหละครับ เคยแต่กระเป๋าไป แต่ผู้โดยสาร ไม่โหลดขึ้นเครื่อง 555


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ถ้าหากว่าได้รับแท็กติดกระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่องในส่วนของผู้โดยสารแล้ว อย่าเพิ่งหลงดีใจไปค่ะว่ากระเป๋าจะมา

เมื่อหลายปีมาแล้ว ดิฉันกลับมาจากประเทศหนึ่ง เมื่อลงมาจากเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ก็ผ่าน ต.ม. ตามปกติ
แล้วจากนั้นมายืนรอกระเป๋าที่สายพาน รอแล้วรอเล่ากระเป๋าก็ไม่ออกมา จึงเดินตามหาพนักงานของ
"สายการบินด็อกเตอร์" จนเจอ

เมื่อสอบถามถึงกระเป๋า ก็ได้รับการกล่าวหาและย้อนกลับว่า ตัวดิฉันเป็นผู้โดยสารท่่ไม่รับผิดชอบ ไม่ได้ทำการโหลดกระเป๋า
ขึ้นเครื่อง แต่แค่นำกระเป๋าไปวางเอาไว้ตรงบริเวณเช็คอินเคาน์เตอร์โดยที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนใดๆ ทั้งสิ้น
กระเป๋าจึงยังคงอยู่ที่สนามบินที่ดิฉันเพิ่งบินออกมา

เมื่อเจอกล่าวหาแบบนั้น พนักงานสายการบินนั้นจึงโดนดิฉันจัดเต็มไปชุดใหญ่ และ ดิฉันได้เอาแท็กติดกระเป๋าในส่วนนั้น
ให้พนักงานคนนั้นดู และ พูดจนทางสายการบินต้องยอมจ่ายให้ดิฉันนิดหน่อยเพื่อที่จะนำไปซื้อของใช้ที่จำเป็นที่ติดอยู่ใน
กระเป๋าที่ไม่มาด้วยแต่ดิฉันต้องใช้

_รุ่งขึ้นกระเป๋ามาส่งถึงบ้าน แต่พนักงานค่อนข้างหยาบคาย ไม่มีมารยาท สอดรู้สอดเห็น
สอดส่ายสายตามองข้าวของในบ้าน และ มีการเอามือมาสะกิดด้วยในเวลาพูด ดิฉันจึงต้องโทรไปจัดเต็มที่สายการบินอีก
จากนั้นเป็นต้นมา ดิฉันหลีกเลี่ยงสายการบินนั้นมาตลอด ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่บินกับสายนี้ เพราะบินด้วยหลายหนแล้วมี
ปัญหาทุกครั้งค่ะ และทุกครั้งมักจะเกิดจากพนักงานที่ไม่มีคุณภาพค่ะ

______________________

อ่านกระทู้นี้แล้ว ขอแสดงความเสียใจกับคุณ จขกท. ด้วย และ ขอบคุณที่เอาเรื่องมาแบ่งปันกับผู้อื่นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ตรวจประจำค่ะ เพราะตอนหยิบกระเป๋าเรา เรายังพลิกดู tag เลย
แบบว่ากลัวหยิบผิด :P


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
จาก คห 19

เท่าที่เราพบมา
จนท กราวน์ จะไม่เคยเช็คข้อมูลที่ specific กับสิ่งของของเรา
เค้าตอบไปเรื่อยๆตามรูทีน หรือตอบส่งๆเดชๆให้ ผดส ได้คำตอบบางประการ
แล้วเดินออกไปที่จุดอื่นเท่านั้น

เป็นอย่างนั้นจริงๆ

อาจเป็นเพราะระบบมันซับซ้อนมาก
หรือไม่ก็ พนง ไม่รู้ว่า จะต้องทำอย่างไร


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
คุณ *Cookies* แสดงว่าเค้าไม่ได้มีมาตรการรองรับเรื่องพวกนี้เลย
ไม่มีการอบรมระบบเบื้องต้นหรือไม่มีbackline สำหรับตามเรื่องพวกนี้
นอกจากการอบรมให้ตอบแบบแผ่นเสียงตกร่อง

พอเราขอคุยกับคนที่มีอำนาจ และรู้ข้อมูลจริงๆ ก็บ่ายเบี่ยง
เราเลยโทรกลับมาไทย บอกให้ตามเรื่องให้หน่อย
เจ้าหน้าที่eithad ที่ไทยที่รับสายน่ารักมาก ถามเรามาว่า
" ไม่ทราบว่า etihad paris หมายเลขโทรศัพท์ อะไรค่ะ? "

หา!!!!!! ก่อนจะอึ้งไปพักนึง แล้วส่งโทรศัพท์ของเราให้เค้าคุยกัน อย่างเจียมตัว
เป็นระบบการทำงานที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย(ชั้น) มากเลยนะ

ตอนนี้คงรอแค่ผลการทำเรื่องcomplain เท่านั้น
ระหว่างนี้อาจจะขออนุญาต ลงภาพเที่ยว ไปพลางๆ ก่อน


ตอบกลับความเห็นที่ 27