ผู้ว่าฯเลยยืนกราน ไม่ถอดวิดีโอคลิปตาโขนเต้นกังนัม

ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555




ผู้ว่าฯ เลย-นายกด่านซ้ายย้ำไม่ถอดคลิปผีตาโขนเต้นกังนัม ชี้ไม่กระทบวัฒนธรรม หวังดึงต่างชาติเที่ยว

กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเทศบาลตำบลด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย จัดทำคลิปวิดีโอผีตาโขนเต้นท่ากังนัมสไตล์ เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว โดยเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทั่งชาวด่านซ้ายแสดงความไม่พอใจ มองว่าเป็นการลบหลู่วัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดกันมากว่า 400 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวดังกล่าว ทำให้จำนวนผู้เข้าชมคลิปผีตาโขนเต้นกังนัมสไตล์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมมียอดผู้ชมประมาณ 1,000 ครั้ง ปรากฏว่าเมื่อช่วงวันที่ 9 พฤศจิกายน ยอดผู้ชมกว่า 2 หมื่นครั้ง นอกจากนี้ยังมีผู้โพสต์ข้อความต่อท้ายคลิป รวมทั้งส่งข้อความผ่านเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของ จ.เลย แสดงความเห็นด้วยที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวด้วยวิธีนี้

นายสันติภาพ เชื้อบุญมี นายกเทศมนตรีตำบลด่านซ้าย ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดทำคลิปผีตาโขนเต้นกังนัมสไตล์ใช้สถานที่ถ่ายทำ 3 แห่ง คือ วัดโพนชัย พิพิธภัณฑ์ผี และถนนในตลาดเทศบาลตำบลด่านซ้าย ยืนยันว่า แม้จะมีกระแสการคัดค้านบ้าง แต่จะไม่ถอดคลิปออกจากยูทูบ เพราะจัดทำในเขตเมืองด่านซ้าย มีประชาชนและองค์กรต่างๆ รับรู้ เราทำแบบเปิดเผย อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ออกมาต่อต้าน หรือประท้วงเรียกร้องอะไร ต่างเข้าใจและพอใจที่ได้ช่วยประชาสัมพันธ์งานผีตาโขน

"ผมจะไม่ถอดคลิปออกจากยูทูบแน่นอน อีกทั้งยังไม่มีใครร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร เท่าที่ทราบในพื้นที่ก็มีเพียงคนคนเดียวที่ชอบไปยุยงชาวบ้านให้ต้าน ยืนยันว่า เทศบาลตำบลด่านซ้ายและผมไม่ผิด ไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียต่อวัฒนธรรมประเพณี เราแค่อิงกระแสเท่านั้น" นายสันติภาพกล่าว

นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเผยแพร่คลิปผีตาโขนเต้นกังนัมสไตล์ เรื่องนี้มองได้ 2 มุม คือ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชน นักท่องเที่ยวต่างชาติทราบ ถึงการสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นการเต้นที่ดูสดใสร่าเริงสนุกสนาน ไม่ผิด ไม่เสียหาย ส่วนอีกมุมหนึ่ง ผู้เฒ่าผู้แก่สูงอายุบางคนคิดว่าผิดประเพณี ไม่สบายใจ ยืนยันว่าไม่ได้ลบหลู่อะไร ซึ่งจะทำความเข้าใจกันต่อไป ขณะนี้ยังไม่มีผู้มาร้องเรียน ดังนั้นจึงไม่มีการถอดคลิปแน่นอน

"ผู้ที่ไม่สบายใจตรงไหน เรื่องอะไร มีข้อเสนอแนะอะไรบ้าง จะได้มาคุยกัน สร้างความเข้าใจกัน ไม่มีปัญหาอะไร คุยกันได้ งานผีตาโขนจัดขึ้นเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น มีเพียงแห่งเดียวของภาคอีสาน กำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2556" นายสมพงศ์กล่าว

วันเดียวกัน นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ประเด็นคลิปผีตาโขนกังนัมสไตล์ว่า ทางท้องถิ่นรายงานว่าเป็นการประชาสัมพันธ์งานผีตาโขน เขาอาจจะคิดได้หลายรูปแบบ สิ่งที่สำคัญคือรากของวัฒนธรรม การประชาสัมพันธ์ที่นำเรื่องได้รับความนิยมมาเป็นกระแสก็ว่ากันไป โดยต้องยึดหลักคำนึงถึงรากของวัฒนธรรมที่มีการสืบสานมานานกว่า 400 ปี

"กระแสกังนัมสไตล์ที่นำเข้ามาเป็นท่าเต้น ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ผมเห็นว่าควรจะปรับและดูเนื้อหารากเหง้าทางวัฒนธรรมจะดีกว่า เป็นเรื่องที่ผมได้รับมาสดๆ ร้อนๆ" นายสนธยากล่าว

รมว.วัฒนธรรม ยอมรับว่า สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำกับผู้บริหารและข้าราชการคือ จะทำอย่างไรให้คนไทยไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง เพราะวัฒนธรรมต่างชาติหลั่งไหลเข้ามามาก เป็นสิ่งที่เราต้องทำงานหนักเฝ้าดูอย่างไม่ละเลย ต้องทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะในการนำศิลปวัฒนธรรมมาเป็นโปรดักท์การท่องเที่ยวมาเชิดหน้าชูตาให้ประเทศ

ความคิดเห็นที่ 1
ส่วนตัวมองว่า ผีตาโขนเป็นการละเล่น

หรืออยากให้ผีตาโขนมารำไทย ?


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
อ่านย่อหน้าสุดท้ายแล้ว เอิ่ม...
รู้สึกว่าวธ.ยังไม่พ้นวังวนเดิมๆ คือรักษาวัฒนธรรมไทยให้คงที่เหมือนเดิม
แต่ไม่คิดว่าจะสร้างวัฒนธรรมร่วมสมัยใหม่ในไทยอย่างไรที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศและคนในประเทศ
ถ้าเป็นแบบนี้ควรเปลี่ยนชื่อเป็น กระทรวงแช่แข็งและงมงายวัฒนธรรมไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เข้าไปดูคลิปแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรใหญ่โต แต่คิดว่าไม่สมควรมากกว่า

การเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติไปเสียทุกเรื่อง จนไม่เหลือรากเหง้าไทยไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ มันไม่น่าภูมิใจเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณป้าฟูครับ การเต้นกังนัมมันไม่สมควรตรงไหน เป็นการเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติจนไม่เหลือรากเหง้าไทยตรงไหน
รบกวนอธิบายด้วยครับ

ยังไม่ต้องถามว่า รากเหง้าไทยคืออะไร อะไรบ้างที่ถือว่าเป็นไทยแท้ ไทยมีมาตั้งแต่เมื่อไร
ถ้าจะให้เหลือรากเหง้าเดิม ควรจะต้องไม่ใส่เสื้อ ไม่แปรงฟัน ถ่ายอุจจาระบนดินบนแม่น้ำลำคลอง
อย่านุ่งโจงกระเบนเพราะนั่นเป็นวัฒนธรรมขอม อย่ากินส้มตำเพราะเพิ่งมีไม่นานหลังจากฝรั่งเอามะละกอจากอเมริกาใต้มาให้คนแถบนี้ กินข้าวอย่าใช้ช้อนส้อม ควรใช้มือเปิบ

ที่แน่ๆผีตาโขนคงไม่ใช่รากเหง้าไทย เพราะวัฒนธรรมพื้นถิ่นของลาว ไม่ว่าจะเป็นลาวล้านช้าง หรือลาวล้านนา
ไทยที่เป็นประเทศไทย เพิ่งเริ่มต้นตั้งแต่สมัยร.5เองครับ ประวัติศาสตร์สั้นสุดๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ดีแล้วครับ เพราะว่าไม่เห็นมันจะผิดตรงไหนเลย ขอบคุณท่านผู้ว่ามาก ใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องดู


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
หวังว่า...คงจะเข้าใจเหตุผลนะครับ เพราะของแบบนี้มันควรยึดกับตรงที่ว่า....เหตุผลใคร-เหตุผลมัน

ผมคิดว่า....ป้าฟู ! ก็พูดถูกในอีกเหตุผลหนึ่ง นะครับ

คือ...เธอไม่ได้มาค้าน หรือต่อต้านนิครับ

" มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรใหญ่โต แต่คิดว่าไม่สมควรมากกว่า "

คำว่า...ไม่สมควร ณ ที่นี้ ผมมี คคห. ว่า......

อีกหน่อย...ถ้าเกิดสไตล์การแด๊นซ์ในลักษณะ....แร๊ป ! แล้วทีนี้ ผีตาโขน ก็จะต้องดิ้นแร๊ป เพื่อตามกระแสนั้นๆ

ok ! มันอาจจะเป็นที่หนุกหนานของคนยืนชมข้างถนน

แต่..เยาวชนรุ่นหลังๆ เด็กๆ หลานๆ ในอีกต่อๆ ไป เค้าก็จะไม่รู้ไง ว่า...จุดเริ่มต้นของผีตาโขน มันเป็นมาในลักษณะแบบไหน

ดีนะ..ที่ไมเคิล แจ๊คสันได้ตายไป หากการละเล่นแบบนี้ แล้วไปเลียนแบบของชาวต่างชาติ มันก็จะไม่ได้เป็นการอนุรักษ์กับสิ่งเดิมๆ ที่เคยเป็นอยู่....ไงครับ

ตรงนี้ไง...มันเป็นความหมายของคำว่า..." ไม่สมควร "

อยากให้แยกแยะให้ออกนะ ระหว่าง...คำว่า...ไม่ได้เสียหายอะไร กับ ไม่สมควร

คือ...มันมีความหมายคนละอย่าง ไงครับ

ประเด็นสำคัญ มันควรขึ้นอยู่.......

เวลาใครมี คคห. อะไรออกมา แล้วก็จะมีคนไม่เห็นด้วย ทีนี้ก็จะเกิดการโต้แย้งกันเกิดขึ้น หรือพูดง่ายๆ ต้องการที่อยากจะเอาชนะด้วย...ความคิด

แต่...ทำไม ไม่คิดยอมรับฟัง คคห. ของคนอื่นๆ ไว้บ้างซักนิด

เพราะคนเราในนี้ ใครบ้างครับที่เป็นฝ่ายจัดงานนั้นๆ

เสียหายอะไรตรงไหน..มั้ย ! หากมีใครไม่เห็นด้วย แต่นี้..ถึงกับเป็น-กับตายกันเชียวหรอ

มันควรเคารพในความคิดของผู้อื่นๆ กันไว้บ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 6