ห้าม! "ติ๊ก เจษฎาภรณ์" ถ่ายเนวิเกเตอร์ "ดอยหัวเสือ" อทช.อินทนนท์ หวั่นเสียหาย

จากมติชนออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ได้เข้าพบกับนายเสริมยศ สมมั่น ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เพื่อขอชี้แจ้งกรณีที่ บริษัทสบายดีคลับ สตูดิโอ จำกัด ผู้ผลิตรายการ "เนวิเกเตอร์" ซึ่งมี ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี พระเอกชื่อดังเป็นพิธีกร ได้ขออนุญาตกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชถ่ายทำรายการ โดยจะใช้พื้นที่กิ่วแม่ปาน ดอยหัวเสือ ดอยผาตั้ง ทุ่งนาขั้นบันได และน้ำตกอีกหลายแห่ง ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย.นี้ แต่ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ไม่อนุญาตให้ถ่ายทำบริเวณดอยหัวเสือ เนื่องจากสภาพพื้นที่มีความเปราะบางเสี่ยงต่อความเสียหาย แต่มีผู้ใหญ่หลายคนโทรศัพท์มาขอให้คณะเข้าไปถ่ายทำ ตนจึงเข้ามาพบกับผู้บังคับบัญชา เพื่อขอคำชี้แนะในการปฏิบัติ เพราะกลัวจะเกิดปัญหาที่ได้มีการแจ้งจับพระเอกหนุ่ม ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่และบุกรุกพื้นที่ป่าภูคิ้ง ในการถ่ายทำรายการดังกล่าว

ส่วนสาเหตุที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ดอยหัวเสือนั้น หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ระบุว่า เพราะเป็นพื้นที่โซนธรรมชาติ มีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธ์อาศัยอยู่ เช่น เลียงผา แพะภูเขา ชาลาแมนเดอร์ นกกินปลี ที่เป็นของหายากที่สุดในโลก มีที่นี่แห่งเดียว มีผีเสื้อภูตาล ที่มีมูลค่าตัวละ 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำ ซึ่งเราอนุรักษ์ไว้ห้ามให้ใครบุกเข้าไป แม้รายการดังกล่าวจะเป็นรายการที่ดีนำเสนอธรรมชาติให้ประชาชนได้รู้ แต่ต้องคิดว่าเมื่อคนยิ่งรู้ก็ยิ่งอยากเข้าไป

ด้านนายเสริมยศ สมมั่น ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวว่าตอนที่ทีมงานขออนุญาต ในหนังสื่อก็ระบุว่าพื้นที่ไหนเข้าได้พื้นที่ไหนเข้าไม่ได้ ทุกอย่างเป็นข้อกำหนดยอมรับว่ามีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาขอให้ทีมงานเข้าไปในหลายพื้นที่ ที่ห้ามเข้า ก็ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ไหนเข้าได้ อำนวยความสะดวกเต็มที่ ที่ไหนห้ามเข้าเราก็ไม่ให้เข้าโดยเด็ดขาด ผู้ใหญ่ที่โทรศัพท์มาขอก็พยายามอธิบายให้เข้าใจถึงเหตุผลที่ไม่ให้เข้าไป ตอนนี้ก็จะเฝ้าดูอย่างเข้มงวด หากมีการบุกรุกเข้าไป จะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

ความคิดเห็นที่ 1
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353030210&grpid=03&catid=19

อช.ดอยอินทนนท์ ไม่ใช่ อทช.อินทนนท์ นะมติชนเอ๋ยยยย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
"ตั้น"ยันไม่ถ่าย "เนวิเกเตอร์" ที่ดอยหัวเสือ แจงแค่อยากทราบเหตุผลโดนห้าม

นายพิเชษฐไชย ผลดี หรือ “ตั้น” นักแสดงชื่อดังน้องชาย ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ แจงกรณีโดนเบรกถ่ายรายการเนวิเกเตอร์ที่ดอยหัวเสือ เผยแค่อยากรู้เหตุผล ยันทำรายการเพราะอยากนำเสนอสถานที่สวยงามของไทย


วันนี้ ( 15 พ.ย.) นายพิเชษฐไชย ผลดี หรือ “ตั้น” นักแสดงชื่อดังน้องชาย ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี เปิดเผยในฐานะโปรดิวเซอร์รายการ “เนวิเกเตอร์” ว่า ได้ทำหนังสือขออนุญาตถ่ายทำรายการ “เนวิเกเตอร์” ที่ดอยหัวเสือ เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ จริง แต่ในเมื่อเขาไม่อนุญาตให้ถ่าย ก็คงไม่ไปถ่ายแต่แค่อยากทราบเหตุผลเท่านั้นเอง คือ เขาบอกว่าจะไปเที่ยวก็ได้ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรายการ ตนทำรายการนี้มา 8 ปี เราทำถูกต้องตามกฎระเบียบทุกอย่าง จะเอาใครไปบังคับใครได้ เจตนาคืออยากจะนำเสนอสถานที่สวย ๆ ของเมืองไทย

จุดเริ่มแรกเลยคือไปเจอพี่คนหนึ่งเขาเป็นกะเหรี่ยงอยู่ที่หมู่บ้านแม่กลางหลวง แล้วเขาก็แนะนำสถานที่นี้ ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม เขาบอกว่ามีฝรั่งขึ้นไปผจญภัยกันเยอะ แต่คนไทยไม่ค่อยมี เราก็อยากนำเสนอในแง่มุมนี้ ให้คนไทยได้รับรู้ ชาวบ้านที่นั่นก็อยากให้ไป อย่างน้อยเขาก็จะได้มีรายได้จากการเป็นลูกหาบ หรือการเป็นมักคุเทศน์ให้เรา เราไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย ไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์


ตนได้ดำเนินเรื่องไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นคนดำเนินเรื่องเองทุกอย่าง ไม่อยากให้เอาพี่ติ๊กมาโยงด้วย พี่ที่เป็นหัวหน้าอุทยานเขาก็พูดดีกับตนมาก เขาให้เหตุผลว่าเป็นพื้นที่เปราะบาง แต่ตนไม่เข้าใจคำว่าเปราะบางนี่คืออย่างไร เขาบอกเจ้าหน้าที่น้อยจะดูแลไม่ทั่วถึง เขาบอกว่าเดี๋ยวรายการเนวิเกเตอร์ถ่ายออกไปแล้วคนจะมาเที่ยวกันเยอะ แต่ก็ชี้แจงไปว่าเราสามารถบอกได้ว่า การจะมาเที่ยวที่นี่ต้องขออนุญาตก่อนหรืออะไรก็ว่าไป แล้วระหว่างที่ดำเนินเรื่องอยู่เขาก็เก็บเงินค่าถ่ายทำไปแล้ววันละ 2,000 บาท ก็ไม่รู้ว่าไม่ได้ไปถ่ายแบบนี้จะไปเอาเงินคืนได้หรือไม่ และพอมาเป็นข่าวแบบนี้แล้วคงไม่พยายามที่จะไปถ่ายทำแล้ว


จาก http://www.dailynews.co.th/


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เข้ามาดูพี่ติ๊ก เอ๊ย!!!! มาอ่านข่าว ^_^


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
กลัวไปเจอตอหรือเปล่า ถึงได้ห้าม


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ผีเสื้อตัลละล้าน โอ้ว ออกข่าวขนาดนี้ต้องมีคนคิดแอบเข้าไปแล้วละ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
"เพราะเป็นพื้นที่โซนธรรมชาติ มีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธ์อาศัยอยู่ เช่น เลียงผา แพะภูเขา ชาลาแมนเดอร์ นกกินปลี ที่เป็นของหายากที่สุดในโลก มีที่นี่แห่งเดียว มีผีเสื้อภูตาล ที่มีมูลค่าตัวละ 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำ ซึ่งเราอนุรักษ์ไว้ห้ามให้ใครบุกเข้าไป แม้รายการดังกล่าวจะเป็นรายการที่ดีนำเสนอธรรมชาติให้ประชาชนได้รู้ แต่ต้องคิดว่าเมื่อคนยิ่งรู้ก็ยิ่งอยากเข้าไป"

ในแง่การอนุรักษ์ ก็มีเหตุผลนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เขาห้ามก็อย่าไปดิ
จะไปฝืนทำไม

ทำรายการ
ไม่เข้าใจหรือว่า
มันจะทำให้คนแห่กันไปมากมาย
ถึงจะบอกว่า ต้องขออนุญาต
แต่ก็จะมีคนมีเส้นที่พาคณะเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตนั่นแหละ
แล้วอย่าคิดว่า มีน้อยนะ
มีมากเชียวละ

ขอให้มีที่เก็บไว้สำหรับสงวนพันธุ์บ้าง
ที่เที่ยว มีเยอะแยะแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
หลายคนก็ไปลุยมาแล้วไม่ใช่หรือ ดอยหัวเสือเนี่ย...


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
รายการบอกว่า เขาบอกไปเที่ยวได้ แต่ห้ามถ่าย ชาวบ้านบอกฝรั่งไปเที่ยวกันเยอะ

กรมอุทยานบอกว่า ไม่อนุญาตให้ใครเข้าทั้งสิ้น

ความจริง คือ กรมอุทยานไม่สามารถบังคับคนที่ฝืนกฏได้ แต่บังคับกับคนที่ขออนุญาตถูกต้องได้

มันเลยมีคนฝืนกฏเยอะ จ่ายเงินเยอะ เพราะกฏไม่ได้ แต่ฝ่าฝืนกฏได้


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
สรุปว่างัยอยากรู้นะ

นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้ แต่ห้ามเข้าไปถ่ายทำรายการ

หรือว่า ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปเที่ยวแล้ว...


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ไปลุยมาแล้วเหมือนกัน มันสวยและหลากหลายจริงๆ...แต่ สัตว์หายากเหล่านั้น ไม่ได้เห็นนะ 555

เข้าใจว่าทำไม ไม่ยอมให้เข้าไปถ่ายทำ...เพราะพอภาพความสวยงามเสนอออกไป คนก็แห่กันมา แล้วคนที่มา ก็มีทั้ง "เที่ยวแล้วอนุรักษ์" แต่ประเภท "เที่ยวแล้วทำลาย" ไร้จิตสำนึกก็มี...ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่หลายที่แล้วครับ

ตัดไฟแต่ต้นลมก็ดีครับ ป่าไม้ที่สมบูรณ์ของเราจะได้คงเหลือ อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
สรุปตามนั้น... คนเข้าไปต้องมีอภิสิทธิ์เท่านั้น

รายการดีๆ ชวนเชิญให้คนรักการอนุรักษ์ เที่ยวป่าอย่างถูกต้อง
มีการดำเนินการขออนุญาตเข้าไปอย่างถูกต้อง กลับห้ามไม่ให้เข้า

ว่าแต่สงสัยเหมือนตั้นค่ะ...ว่าคำว่าเปราะบางคืออะไร
เจ้าหน้าที่น้อยจะดูแลไม่ทั่วถึง..คืออะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เข้าไปต้องขออนุญาต เสียค่าใช้จ่าย และทางอุทยานจะจัดเจ้าหน้าที่ นำทางและดูแลไม่ให้เราไปล้ำธรรมชาติมากนัก

แต่ก็ชอบมีพวกแอบเข้าไป แอบจับ อาจจะทำลายโดยไม่รู้ตัว เจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้ ดูแลไม่ทั่วถึง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
จริงๆ ก็พอเข้าใจเหตุผลทางกรมอุทยานนะครับ
แต่ก็เข้าใจจุดประสงค์ของทางรายการเนวิเกเตอร์เช่นกัน

ผมว่า ถ้ารายการเนวิเกเตอร์ จะปรับรูปแบบรายการ หรือแยกเป็นอีกรายการนึงจะดีมั้ย

คือ เนวิเกเตอร์ จะเป็นแนวส่งเสริมการท่องเที่ยวไปเลย พื้นที่ที่ไปถ่ายทำนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าไปเที่ยวได้แน่นอน ไม่ใช่พื้นที่เปราะบางที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

ส่วนอีกรายการนึง เป็นรายการสารคดีเน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติเลย ไม่ส่งเสริมให้คนไปเที่ยวที่นั่น
แต่ให้รู้ว่ามีธรรมชาติแบบนี้หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยและควรหวงแหนรักษาไว้
มีการควบคุมการถ่ายทำโดยเจ้าหน้าที่ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ซึ่งรายการอันนี้ ผมว่าจะทำให้ขออนุญาตกรมอุทยานหรือหน่วยงานอื่นๆ เข้าไปถ่ายทำได้ง่ายขึ้นครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
สงสัยกลัวคนแห่กันไป


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ผมเห็นด้วยกับอุทยาน คนที่ฝ่าฝืนก็ต้องกวดขันจับกุม มาอ้างไม่ได้หรอกใครๆก็ไป แล้วต้องไปได้


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ผมว่าอะไรที่ผิดก็ทำให้ถูกก็น่าจะหมดปญหานะครับ เช่น จดหา เจ้าหน้าที่ หรือ ชาวบ้าน นำทางนักท่องเที่ยวให้เปฯเรื่องเป็นราว มีการจองล่วงหน้าก่อนโดยการทำหนังสือถึงอุทยาน จำกัดไปเลยว่า เปิดช่วงไหนของฤดูกาล ปริมาณนักท่องเที่ยววันละกี่คน กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวให้ชัดเจน
ไม่ใช่ปล่อยไปแบบนี้ คนไม่อยากไปแต่อยากดูก็มีนะครับ ถึงเวลาคนอยากไปถ้าไม่รู้จักเจ้าหน้าที่ หรือ แอบลักลอบเข้าไปก็ไปไม่ได้ สรุปเคยมีคนเข้าไปแต่ได้เฉพาะที่แอบเข้าไป แบบนี้มันไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่นะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ถ้าทางอุทยานจะสามารถเข้มงวดได้อย่างนี้ทุกกรณีก็คงจะดีครับ เพราะความสำคัญของธรรมชาติและระบบนิเวศน์ มันไม่ใช่เพื่อให้คนเข้าไปท่องเที่ยว แต่ควรจะเป็นไปเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรให้คงอยู่ไว้มากกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
สรุปว่า ไปเที่ยวได้ ถ้ามี จนท.นำทาง

ใช่ป่ะ...

มีคำถาม รายการของคุณติ๊ก ไม่ยอมให้ จนท นำทางหรือว่าอย่างไร ถึงไม่อนุญาต

หรือว่าไปเที่ยวได้ แต่ห้ามถ่ายทำรายการ...

มาตรฐานของ จนท อยู่ตรงไหน


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ผมว่าออกข่าวอย่างนี้ประชาชนคงรับทราบมากกว่าถ่ายทำแล้วละครับ

จริงๆถ้าจะอยากอนุรักษ์ ก็ไม่น่าออกข่าวนะเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เป็นรายการที่ดี แต่ถ้าตรงไหนเค้าห้ามก็อย่าไปถ่ายเลยครับ ที่สวยงามเยอะแยะ
ดอยหัวเสือ ปรกติก็ไม่ค่อยมีคนธรรมดาเข้าไปอยู่แล้ว ยกเว้นกลุ่ม ที่ ศึกษาสัตว์ นก พันธ์ไม้


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
คนเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่ได้เข้า
คนลักลอบเข้า ได้เข้า

แล้วใครมันจะขออนุญาตละค่ะ

ทางที่ดี ใครอยากดูก็พาเค้าไปดู แต่ห้ามถ่ายทำห้ามเผยแพร่

แล้วก็หาทางสกัดพวกทำผิดที่ลักลอลเข้าไป

ไม่ดีกว่าเหรอ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ทางอุทยานก็ทำถูกแล้วนิครับ

ที่ห้ามถ่ายทำรายการ เพราะว่า กลัวว่าจะมีนักท่องเที่ยวแห่กันเข้าไป
ทำให้ จนท. ดูแลไม่ได้

ซึ่งก็มีส่วนจริงครับ เพราะสมัยนี้ชอบแห่ตามกันไป ที่ไหนเค้าว่า สวย ไปแล้วชิลล์
ก็แห่ตามกันไปเพื่อถ่ายรูปลงอวดใร FB หรือ IG กัน ส่วนน้อยที่ไปแล้วจะคำนึงถึงการอนุรักษ์ ระมัดระวังในการกระทำการต่างๆ ที่จะกระทบกับสิ่งแวดล้อม


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ถ้าต่างประเทศเป็นแบบนี้ คงต้องปิด discovery ch กับ national geo


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ปีที่แล้วรายการนี้เขาเคยมีปัญหามาครั้งหนึ่งแล้ว
เกี่ยวกับการแอบเข้าไปถ่ายทำในอุทธยานแล้วแอบเข้าไปเกินในที่ ๆ เขาอนุญาต ประมาณนี้ จนเป็นหลายกระทู้ดังในห้องเฉลิมไทย เฉลิมกรุง โดนกันทั้ง 2 ฝ่าย จนคุณติ๊กต้องล๊อคอินเข้ามาตอบเองเลยเพราะเหมือนจะผิดจริง
คราวนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะยังขัดข้องหมองใจกันอยู่หรือเปล่า..


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
คห.25 คะ มีข้อมูลชัดเจนค่ะ
ทั้งข่าว ทั้งรายการข่าว3มิติ ทั้งรายการของนายสรยุทธ ก็มีให้ฟังกันชัดเจนว่า"ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ของภูคิ้ง"ค่ะ
และเรื่องก็จบในชั้นเจ้าพนักงานสอบสวนว่าไม่มีอะไรเกิด ไม่ได้ดำเนินคดีค่ะ

ส่วนในกรณีนี้ เขาไม่ให้เข้า คุณตั้นก็แจ้งแล้วนี่คะ ว่าไม่ต้องการจะเข้าไปถ่ายทำอีกแล้ว
แต่เขาอยากทราบ"เหตุผลชัดๆ"ค่ะ
เพราะให้ท่องเที่ยวได้ แต่ถ่ายทำรายการไม่ได้ มันคืออะไร?

มีเหตุผลก็บอกทางทีมงานเขาไปก็แค่นั้นค่ะ

ปล. หัวหน้าอุทยานดอยอินทนนท์นี่คิดแบบเดียวกับรษก.หัวหน้าอุทยานภูคิ้งเลยนะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
อยากทราบเหมือนกันว่า...

ทำไมเข้าไปเที่ยวได้ แต่เข้าถ่ายทำรายการไม่ได้...

พื้นที่เปราะบาง....ที่ว่าทำไมปล่อยนักท่องเที่ยวเข้าไป...หรือว่าทางรายการต้องการอะไรมากกว่าที่เป็นข่าว


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
จริงๆ สมัยก่อน ประมาณ 10 กว่า 20 ปีก่อน ก็มีรายการสารคดี "ธรรมชาติ" ผลิตโดย บ.แปซิฟิค
เค้าเข้าไปถ่ายทำในป่าลึก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นพื้นที่เปราะบางหรือเปล่า
แต่เป็นสารคดีแนวอนุรักษ์ธรรมชาติผีมือคนไทยที่ดีมากๆ
ถ่ายทำชีวิตของสัตว์ป่า พรรณพืช ที่หาดูได้ยากมากๆ
และใช้เวลารวมถึงความยากลำบากในการถ่ายทำเป็นอย่างสูง
ผมชอบดูมากๆ ภาพสวย มีสาระเต็มเปี่ยม เพลงประกอบก็เพราะ

แต่ปัจจุบัน แทบจะหาสารคดีฝีมือคนไทยแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว

ของดีในบ้านเราแท้ๆ แต่คนไทยไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น
แล้วจะปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์หวงแหนธรรมชาติในหมู่คนไทยได้อย่างไร


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
คือ ต้องการ ให้เหลือเป้นเพียง เรื่อง เล่า ปากค่อปาก ต่อไป ว่า สมบูรณื มีโน่นนี่ แต่ ก็ ไม่มีอะไรหลงเหลือให้ ลูกหลาานได้ดู

สารคดี เอามาเป็นเครื่องมือ ช่วยในการ อนุรักษ์ จะไม่ดีกว่าเหรอ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
สรุปว่าเรื่องผู้ใหญ่มาขออะไรนั่นไม่จริงนะคะ ล่าสุดหน.อชท่านชี้แจงแล้วว่าเป็นการเข้าใจผิดนะคะ
จบข่าวค่ะ จบจริงๆเพราะรายการยังไม่ทันไปเลยคาดเดาเอาเองเออเองทั้งสิ้นค่ะ
http://www.dailynews.co.th/politics/167076
“ปรีชา”ปัดไม่เกี่ยว“เนวิเกเตอร์”ขอเข้า“ดอยหัวเสือ” อินทนนท์
วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา 12:29 น.

“ปรีชา” ปัดไม่เกี่ยว“เนวิเกเตอร์”ขอเข้า “ดอยหัวเสือ” อินทนนท์ กรมอุทยานฯ ระบุไม่อนุญาตเด็ดขาด หน.อินทนนท์อ้าง เข้าใจผิด ไม่มีผู้ใหญ่โทรมาขอ

วันนี้(16 พ.ย.) ที่กรมป่าไม้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรายการ “เนวิเกเตอร์” ของพระเอกชื่อดัง “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” เป็นพิธีกรได้ขออนุญาตถ่ายทำรายการในเขตอุทยานแห่งชาติอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถ่ายทำในบริเวณพื้นที่ดอยหัวเสือจากหัวหน้าอุทยานฯ โดยมีการอ้างรายการดังกล่าวได้ให้ผู้ใหญ่โทรไปขอร้องให้เข้าไปถ่ายทำได้นั้น ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ จะอนุญาตให้เข้าหรือไม่ก็ว่าไปตามกฎระเบียบ ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก และตนคงไม่ใช่คนที่โทรไปสั่งหรือขออะไรแน่นอน


ด้านนายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว และยืนยันว่ากรมอุทยานฯ ไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำรายการในบริเวณพื้นที่ดอยหัวเสือเด็ดขาด เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีความเปราะบาง และเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายทางชีวภาพสูง แต่พื้นที่จุดอื่นๆ ที่ทางรายการขออนุญาตเข้าไปถ่ายทำนั้นไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าทางผู้ผลิตรายการระบุว่าได้รับข้อมูลว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความสวยงามและมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าไปเดินป่าผจญภัยจำนวนมากนั้น นายเริงชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่สามารถเข้าไปได้แน่นอน หากใครเข้าไปได้ก็คงเป็นการลักลอบเข้าไปซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะไปดูแล แต่หากพบก็ต้องถูกดำเนินคดี ทั้งนื้พื้นที่ดังกล่าวสามารถเข้าไปได้ในลักษณะของการศึกษาวิจัยเท่านั้น


ด้านนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ หัวหน้าอุทยานฯ อินทนนท์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด ความจริงเราอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำในพื้นที่ได้อยู่แล้ว เพราะตนก็มีความรู้สึกที่ดีกับรายการดังกล่าวเพราะเจตนาของรายการคือต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติ และในการเข้ามาถ่ายทำรายการในระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย.นี้ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกให้แล้วในทุกจุดที่จะเข้าไป เพียงแต่ไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ดอยหัวเสือจุดเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เปราะบาง ทั้งนี้ที่ผ่านมาคงเป็นความเข้าใจผิดว่ามีผู้ใหญ่โทรมาขอร้องให้อนุญาตให้เข้าพื้นที่ดอยหัวเสือได้ และตนก็คุยเพียงกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่เป็นผู้ประสานงานของบริษัทผลิตรายการเท่านั้น ไม่ได้คุยกับคนอื่น

***

สรุปอีกที - ตกลงรายการเนฯแค่ทำเรื่องขอเข้าไปทำรายการ เมื่อไม่ให้เข้าก็ไม่ได้ไป เรื่องก็ควรจะเงียบไม่มีเรื่องอะไร รายการก็ไปหาสถานที่อื่นตามปกติ แต่ที่เป็นข่าวเพราะใครอย่างไรอันนี้ไม่ขอต่อแล้วค่ะ สงสารรายการจริงๆไม่ทราบเค้าจะแก้ข่าวให้มั้ย เดาว่าไม่

เห็นมีคนโยงคราวที่แล้วภูคิ้ง ขอให้ข้อมูลนะคะเผื่อท่านที่ไม่ได้ตามข่าว คราวที่แล้วก็โดนมากกว่านี้อีก แต่สรุปก็คือรายการได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าถ่าย แต่มาถึงพื้นที่หน.ไม่ให้จึงไม่ได้ไปในที่ที่ไม่ให้ไปแต่ถ่ายในบริเวณที่ไปได้ และนำเทปไปให้กรมฯซึ่งพิจารณาให้ออกอากาศได้แต่ก็ไม่ได้ออกคะ และรายการหรือคุณติ๊กก็ไม่ได้มีความผิดใดๆตำรวจไม่สั่งฟ้องเลยค่ะ ไม่มีอะไรเลยแต่รายการโดนด่าและเสียค่าใช้จ่ายที่งดออกอากาศ และก็ไม่มีการแก้ข่าวใดๆให้เลยค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
แปลกแฮะ รายการดีมีสาระ บุกป่าฝ่าดง พร่ำบอกให้ผู้คนช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ต้นน้ำขุนเขา ระบบนิเวศน์ เพราะป่าอยู่คนจึงอยู่แต่เหตุไรเล่าบางทีถูกนำมายำสะหงายเงิบเลยทีเดียว น้องติ๊ก น้องตั้นจ๋าพี่อยากให้รายการนี้มีต่อไปอย่านอยด์นะคะคนดีของคิดสะว่"ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เนวิเกเตอร์ติ๊กตั้น พิสูจน์ใจ(โหมดรำพึงรำพรรณแบบเบาๆๆ)

ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
เรื่องพวกนี้มันทำให้ต้องถามถึงจุดยืนของรายการ ว่ารายการเนวิเกเตอร์ จะเป็นรายการด้านใด

ถ้าเป็นรายการนำเที่ยวธรรมชาติ ก็ไม่ควรขอไปถ่ายทำในจุดสงวน ให้ไปถ่ายทำในพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วไป อย่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านี่จบเลย ไม่ต้องไปขอเข้า เพราะจุดประสงค์ที่แบบนี้คือการ "รักษาพันธุ์สัตว์" ชัดเจนอยู่แล้ว
ถึงแม้จะยอมให้คนทำเรื่องเข้าไปได้เป็นกลุ่มๆ ก็จริงอยู่ แต่ในใบอนุญาตล้วนแต่เขียนว่า "เข้าไปศึกษาธรรมชาติ" ไม่ได้เข้าไปท่องเที่ยว

แต่ถ้าจะทำแนวสารคดีธรรมชาติ ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบรายการไม่ให้เจอลึกไปด้านความสวยงามของวิว แต่ให้ลงลึกในข้อมูลของระบบนิเวศน์ แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในระบบ อาจจะระบุสถานที่ได้ แต่ไม่ใช่ถ่ายออกมาไปนั่งซดกาแฟกระป๋องอยู่ริมผา แต่ระบุเพื่อให้ผู้ชมรู้ว่า สถานที่นั้นๆ มีพืชพันธุ์สัตว์ป่าอะไรที่สำคัญและมีความเป็นอยู่อย่างไร ซึ่งต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลเชิงลึกและใช้เวลาถ่ายทำนาน(ซึ่งรายการของประเทศไทยไม่ถนัดที่จะทำอะไรแบบนั้น เข้าใจ)
เพื่อจุดประสงค์ให้คนดูตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศน์ในป่าแหล่งนั้นๆ ทำให้สื่อถึงการอนุรักษ์ ได้ดีกว่าการให้ดูภาพสวยๆ แล้วบรรยายแค่ความงดงาม นั่นมันทำให้คนอยากจะไปเพยียบย่ำมันมากกว่าที่จะตระหนักถึงการอนุรักษ์


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
พี่น้องเนวิเกเตอร์คู่นี้น่ารักดี

เครดิต http://www.youtube.com/watch?v=zGp5lGt4Q8s


http://www.youtube.com/v/zGp5lGt4Q8s
ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
คนไม่มีโอกาสไปก็คงพลาดโอกาสดีๆที่ได้ดู


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
อาจมีตออยู่ในนั้น !!!!
ผีเสื้อตัวละ1ล้านเชียวนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
ไม่เข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่จะให้ข่าวทำไมในเมื่อยังไม่ได้เข้าไปถ่ายทำเลยกับแค่ขอเหตุผลก็ตอบไปก็สิ้นเรื่อง จะทำให้เป็นข่าวใหญ่โตไปทำไม ถ้าทางรายการฝ่าฝืนก็จับแล้วค่อยให้ข่าวก็ได้ ทำแบบนี้เพราะอะไรอยากดังว่าจะจับดาราดังอย่างงั้นหรือเหมือนคราวที่แล้วเลย อย่าทำให้รายการดีๆต้องหายไปเลยยิ่งตอนนี้หาคนทำรายการอย่างนี้ไม่มีแล้วเพราะไม่มีผู้สนับสนุนที่ให้ความสนใจมากนักกับอะไรที่ไม่ใช่ด้านบันเทิง


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
แปลกแต่จริง รายการดีๆมีสาระ บุกป่าฝ่าดง พร่ำบอกให้ผู้คนช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ต้นน้ำขุนเขา ระบบนิเวศน์ เพราะป่าอยู่คนจึงอยู่แต่เหตุใดเล่า... ภูเขาหัวล้นเป็นลูกๆๆลูกแล้วลูกเล่า จนน้ำท่วมเดือดร้อนกันทั้งประเทศไม่เกิดจิตสำนึก นี่แหละประเทศไทย
ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
สรุปว่ามันก็เป็นเช่นนั้นแล


ถ้าผมได้เข้าไป"ศึกษาธรรมชาติ" แล้ว จะเอามารีวิว ให้ชม นะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
พี่ติ๊ก+พี่ตั้นยังไม่ได้เข้าไปถ่ายเลย แค่อยู่ในขั้นตอนขออนุญาตพูดคุยกันเท่านั้น ทางรายการก็ไม่คงไม่ทราบว่าที่ไหนจะสามารถขึ้นไปได้บ้าง แล้วทำไมต้องเอาข่าวมาบอกนักข่าวให้เป็นเรื่องขึ้นมาด้วยนะ?
เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็คงเกิดจากความเข้าใจผิดกัน เพราะตอนแรกทางรายการได้ขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติตามกฎเรียบร้อยแล้ว แต่พอเรื่องถึงอุทยานดอยอินทนนท์ไม่ยอมให้ถ่ายทำ เป็นใครก็คงงงเหมือนกันว่า สรุปสามารถเข้าไปถ่ายทำได้หรือไม่?

แต่ที่จริงแล้วทางอุทยานก็น่าจะมีวิธีจัดการกับผู้ที่มาท่องเที่ยวนะคะ เพราะยังไงจะขึ้นไปเที่ยวได้ก็ต้องผ่านเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว

สุดท้ายเป็นคนไทยก็อยากเห็นที่สวยงามของเมืองไทยจ้า เพราะคงไม่มีโอกาสไปเที่ยวแบบนี้ได้

เป็นกำลังใจให้รายการเนวิเกเตอร์คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
เซง เน๊าเน่า

เจ้าหน้าที่ดัดจริต มารักธรรมชาติ ซะงั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
นี่เหรอ...ยังไม่เคยไปเหมือนกันครับ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าสภาพพื้นที่มีความเปราะบางเสี่ยงต่อความเสียหาย


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
เรื่องของเรื่องประเด็นข่าวนี้ คือดอยหัวเสือ ซึ่งทางเจ้าหน้าห้ามถ่ายทำรายการ เนื่องจากเป็นพื้นที่เปราะบาง
และเมื่อห้ามทางรายการเนวิเกเตอร์ก้อไม่ได้ฝ่าฝืนหรือบุกรุกแต่อย่างใด
และทางคุณตั้นก็บอกแล้วว่าไม่ไปคือไม่ไป เพียงแต่ต้องการเหตุผล ว่าเพราะอะไร ทางเจ้าหน้าที่แจงไปก็เท่านั้น
แต่กลับกลายเป็นข่าวใหญ่โตประหนึ่งว่ารายการบุกรุกไปซะแล้ว

ถ้าเป็นดิฉันก็คงสงสัยเหมือนกันว่านักท่องเที่ยวไปเที่ยวได้ แต่รายการถ่ายทำไม่ได้ นี่หรือเปราะบาง
ทั้งๆ ที่รายการนี้เป็นรายการที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ ทุกครั้งที่รายการนำเสนอจะมีเจ้าหน้าที่ไปด้วยทุกครั้ง ทุกเทป ทางเจ้าหน้าที่เองก็มีการให้ข้อมูลและความรู้สอดแทรกในรายการเช่นเดียวกับคุณติ๊ก
เราชื่นชอบและชื่นชมการทำงานด้วยหัวใจรักธรรมชาติของพี่น้องคู่นี้ และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่
เพราะทั้งสองฝ่ายมีเจตนารมณ์เดียวกันคือรักษา หวงแหน และอนุรักษ์ธรรมชาติ
แต่อย่าลืมนะค่ะ สิ่งดีๆ สวยงามของเมืองไทยใช่ว่าทุกคนนักจะได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง หลายท่านก็ใช้วิธี
ติดตามได้ทางทีวีเท่านั้น และหนึ่งในรายการที่นำเสนอตอนนี้ เนวิเกเตอร์คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการนำเสนอเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ขอเป็นแรงใจและกำลังใจให้กับทีมงานรายการเนวิเกเตอร์ทุกท่าน จะรอชมทุกเทปทุกตอนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
อย่าไปคิดมาก พวกเรามันคนไทยเราไปเที่ยวต่างประเทศดีกว่า เพราะว่าอุทยานต่างๆของเราเขาเอาไว้ให้พวกฝรั่ง ตังค์เยอะเค้าเข้า ส่วนพวกเราก้อไม่ต้องง้อครับเขาไม่ให้เข้าก้อไปดูของต่างประเทศเลยไป๊ ยังมีอีกหลายอุทยานที่ติดต่อขอเข้าแบบลับๆได้ พวกฝรั่งเท่านั้น พวกมีเงินยัด อย่างพวกเราหมดสิทธิ

ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
ดูข่าวนี้แล้วก็ลองไปเทียบกับเรื่องที่ฝรั่งแอบไปแค้มปิ้งกางเต็นท์นอนค้างที่อ่าวมาหยาทั้งๆที่เป็นจุดห้ามค้างคืนดูนะครับ
หึๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
สรุปว่า นักท่องเที่ยวที่เคยเข้าไปที่ดอยหัวเสือ(ซึ่งผมคิดว่ามีหลายท่านใน BP)

พวกท่านทำผิดกฏหมายนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟ....


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
ผมขอเว้าซื่อๆเลยนะ

1.ไอ้รายการนี้นี้มันเป็นรายการ มันเป็นรายการท่องเที่ยวธรรมด๊าๆ แม้ว่าจะออกตัวว่าอนุึรักษ์ธรรมชาติบลาๆๆ

ที่เห็นๆดูมา เห็นแต่ชอบทำภาพสวยๆเวอร์ๆ หาโลเกชั่นให้ผู้ดำเนินรายการเดินไปเดินมา สลับกับวิว เท่านั้นจริงๆ เท่าที่ผมดูมา ถึงแม้จะมีบทพูดโน่นนี่นั่นก็เหอะ

มีเทปนึง เห็นว่าไปเที่ยวเขื่อนไรนี่แหระ เออแปลกดี ผู้ดำเนินรายการ ขับเรือติดเครื่องยนต์เที่ยว

เออแล้วบรรยายโน่นนี่นั่น ถามหน่อย จะมีนักท่องเที่ยวสักกี่คน มีเรือยนต์ ขับเที่ยวในเขื่อน
แทนที่จะซึมซับธรรมชาติได้ดี พอเสียงเครื่องยนต์มา สัตว์มันก็ไปไหนต่อไหนแล้ว


2.ผมละเกลียดจริงๆ เวลาไปไหนทำอะไร ชอบเอาผู้ใหญ่มาขู่โน่นนี่นั่น ระบบแบบนรี้เมื่อไหร่จะหมดไปสักที (ผมว่ามันมีจริงๆละผู้ใหญ่สำหรับรายการนี้) ถึงแม้ว่าข่าวล่าสุดว่าจะเป็นการเข้าใจผิด(มันก็ต้องพูดแบบนี้ไม่งั้นตัวเองจะโดนเอง สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย)

3.อย่างที่บาง คห .บอก ถ้ามีกฏก็ทำตามกฏไป เพราะแบบนี้ ชาติไทยมันถึงไม่เจริญ เพราะชอบแหกกันอยู่บ่อยๆ

4.สำหรับ บาง คห ที่บอกว่า นักท่องเที่ยวเข้าได้ อันนี้ไม่มีข้อมูล ขออภัย



สรุป อย่าไปสนใจกันเลยครับ กับรายการประเภท นี้ ดูรายการของท่านปองพล ดีกว่าได้ความรู้เยอะดีกว่า รายการแบบนี้เป็นไหนๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
รายการหน่ึงๆคงไม่สามารถตอบโจทย์คนดูได้ทุกคน มีชอบก็ต้องมีไม่ชอบ คนท่ีไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัส เช่นสภาพร่างกายไม่อํานวย แค่ดูภาพสวยๆก็มีความสุข 
ส่วนดอยหัวเสือ ไม่ให้เข้า ไม่ให้ถ่ายทําก็ตามแต่จนท.แล้วกัน 


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
# 46
แล้วแต่ความชอบคับ ถ้าได้ติดตามจะเห็นว่าบางตอนก็ติดตามนักวิชาการไปศึกษาวิจัยในป่า ดูรายการตอนไปตามควายป่าหรือยัง? ตอนนั้นพูดถึงการอนุรักษ์ ไม่ได้เที่ยวอย่างเดียว


อ่านจากการให้สัมภาษณ์ครั้งแรก ผู้ใหญ่ให้ข่าวว่าทางคุณติ๊กขอให้ผู้ใหญ่ช่วยเข้าไปถ่ายทำที่ดอยหัวเสือ ข่าวออกมาล่าสุดกลายเป็นหน.อช.ซึ่งเป็นอีกท่าน เข้าใจผิดว่ามีคนโทรมาขอทั้งๆที่ติดต่อกับทางทีมงานหญิงเพียงคนเดียว ไม่ได้คุยกับคนอื่น
หากผู้ที่อ่านแต่พาดหัวข่าว ตามข่าวแต่ช่วงแรกๆหรืออ่านไม่ถึงล่าสุดก็จะไม่รู้ว่าข้อสรุปเป็นยังไง ผู้ถูกพาดพิงเสียหายกันไป

ทางอุทยานทำตามหน้าที่ เรื่องพื้นที่เปราะบางแล้วไม่ให้เข้าก็เห็นด้วย ซึ่งควรจะมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรายการใดๆหรือนักท่องเที่ยว

สรุปจากข่าวทางรายการทำเรื่องขออนุญาต แต่ไม่ผ่าน คุณตั้นก็ชี้แจงว่าไม่ได้เข้าไป ก็ไม่น่าเป็นข่าวได้นะเพราะอยู่ระหว่างขออนุญาตและยังไม่ได้เกิดอะไรขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
ถ้าประเทศไทย มันหาที่ถ่ายทำลำบาก ลองหาแถวเพื่อนบ้านดูก็ดีนะ เดี่ยวก็เปิดสมาคมอาเซี่ยนแล้ว ปัญหาอาจน้อยกว่า ตื่นเต้นกว่าด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
สังคมเรามันก็มีทั้งคนที่ทำตามกฏ และ ฝ่าฝืนกฏ
ที่บอกว่าเห็นขึ้นไปกัน นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างนึงนอกเหนือจากกรณีภูคิ้ง
ที่พากันขึ้นไปกันเองโดยการให้บริการของคนในพื้นที่ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่

- ที่ภูคิ้งขึ้นโดยใช้เส้นทาง อบต. บ้านโนนทอง
- ที่ดอยหัวเสือขึ้นโดยใช้เส้นทาง ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (บ้านแม่กลางหลวง)
ทั้งสองที่ ขึ้นโดยไม่ได้ขออนุญาต และตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติหรือพรบ.สัตว์ป่า
ถ้าเจอนักท่องเที่ยวที่เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงาน ทำได้แค่เพียงเชิญออกจากพื้นที่เท่านั้น

อนาถแท้กับ กม. บ้านเราเมืองเรา

ต่อให้รู้กันขนาดนี้ ก็ยังจะเถียงกันไปไม่จบไม่สิ้นเชื่อเหอะ

ศึกในก็ต้องรบกับ ขรก.กังฉิน
ศึกนอกก็ต้องรบกับ ดาราดัง + แฟนคลับ

เหนื่อยแทนคนป่าไม้ตงฉินซะจริง


ตอบกลับความเห็นที่ 50