[ญี่ปุ่น] กลับมาจากญี่ปุ่นแล้วคร้าบ

หลังจากที่ไปเที่ยวอยู่ 30 วัน ก็กลับมาได้ 2 วันละครับ กำลังง่วนกับการจัดของ และแจกจ่ายอยู่เลย รูปที่แนบมานี้ คือของทั้งหมดที่ผมแบกกลับมาไทยครับ วันกลับนี้หิ้วกันทรมานสังขารมากๆครับ ช็อปเพลินไปนิดนึง แหะๆ เห็นอะไรๆมันก็น่าซื้อไปหมดเลยยยยย

เป็น 30 วันที่สนุกมากๆครับ รูปภาพทั้งหมดหลังจากลงคอมฯแล้ว มีประมาณ 6000 กว่ารูป ไม่รู้จะคัดเลือกรูปมาโพสต์ยังไงดีเลย ฮ่าๆ แต่ถ้าเริ่มจัดรูปเสร็จ ผมอาจจะแวะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมกันขำๆนะครับ

กลับมาจากญี่ปุ่น ก็อดไม่ได้จริงๆที่จะเอาอะไรบางอย่างของบ้านเรา(ในแง่ลบ) ไปเทียบกับบ้านเค้า บอกตรงๆว่า อยากให้บ้านเราเอาแบบอย่างที่ดีๆของเค้ามาใช้กันบ้างเหมือนกันครับ

ความคิดเห็นที่ 1
คืนก่อนกลับ ผมได้ขอยืมตาชั่ง ที่โรงแรม เพื่อเอามาชั่งดูซิว่า น้ำหนักของผมจะเกิน 30 กิโลไหม เพราะไม่งั้นจะโดนปรับได้

รร.ก็ให้ตาชั่งนี้มาครับ ผมก็ชั่งหลายรอบมาก ก็ได้ 29 กิโล โดยที่ผมไม่ได้ฉุกใจคิดเล๊ยยยยว่า ตาชั่งเก่าแบบนี้ จะโอเคไหม

พอไปถึงสนามบิน เช็คอินปั๊บ น้ำหนัก 34 กิโล เย้ เกินมา 4 กิโล การบินไทยปรับผม โลละ 25 เหรียญ รวมแล้ว 100 เหรียญสหรัฐ หรือก็คือ 3000 บาท เย้ๆ ขอร้อง อ้อนวอนยังไงก็ไม่ให้ (พนง.ญี่ปุ่นผู้หญิง) ก็เลยโดนไปเต็มๆ

แถมเค้าจะไม่ให้เอากล่องกันดั้มของผมขึ้นเครื่องด้วยนะบอกว่า "ใส่ที่เก็บของด้านบนไม่ได้หรอก ไม่ให้ขึ้น ต้องเสียค่าเก็บในตู้อีก 3000 บาท" ผมบอกไปว่า "ผมขอลอง ถ้าไม่ได้ ผมจ่ายให้บนเครื่องบินเลย" พนง. ก็ยึกยักอยู่แปบนึง กว่าจะตัดสินใจให้ผมลอง พร้อมกับโทรไปบอก แอร์คนอื่นๆมั้งให้เตรียมเจอผมไรงี้ (แต่ผมคิดในใจ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้แอร์ไทยช่วยหน่อยก็ได้แล้ว หรือเลวร้ายสุดๆ ผมก็แกะเอาของข้างในใส่ถุง พับกล่อง ก็แค่นั้น)

ผมก็ไปรอผ่านประตูเป็นคนแรกเลยครับ พอประตูเปิดปับ รีบวิ่งไปที่เก้าอี้เลย เอากันดั้มไปลองวาง ปรากฎว่า ใส่ได้ ที่เหลืออีกตรึม ใจชื้นขึ้นเยอะ นึกว่าจะโดนอีกแล้วววว

กล่องมันดูเหมือนใหญ่ครับ แต่เอาเข้าจริงๆ มันก็ขนาดพอๆกับกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่คนอื่นๆหิ้วกันขึ้นไปนั่นแหละ เพียงแต่ภาพมันทำให้ดูยิ่งใหญ่เกินตัว ฮ่าๆ

กันดั้มตัวนี้ ราคาถูกกว่าไทยเกือบ 3000 บาท ผมเลยหิ้วมาเลย เล็งมานานแล้วที่ไทยเนี่ยแต่ไม่กล้าซื้อเพราะเฉียดหมื่น แต่พอมาเจอค่าปรับ ไปๆมาๆ เท่าที่ไทยเลย ก๊ากๆ T_T


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ตั้งแต่วันแรกๆที่ไปญี่ปุ่น มีอย่างนึงที่ผมอยากลองให้ได้ก็คือ การนั่งแท็กซี่ ถึงแม้หลายคนจะบอกว่า แพงๆ ซึ่งผมก็ยอมรับว่าแพงนะ แต่ก็อยากลอง

วันที่ต้องเดินทางจาก รร. ไป Keisei Ueno station ผมใช้บริการแท็กซี่ครับ (เข้าทาง) เพราะแบกไม่ไหวจริงๆ ของขนาดนั้น

ซึ่งพอเป็นการโทรเรียกเนี่ย จะมีค่าบริการเพิ่มเติมอีก 400 เยน แล้วแท็กซี่ก็เริ่มต้นที่ราคา 710 เยน (แรงใช้ได้)

พอแท็กซี่มาถึง เค้าก็เดินมาช่วยถือกระเป๋า ยกไปจัดบนรถ แล้วก็เปิดประตูให้ ปิดประตู ขับออกไปด้วยความนุ่มนวล ใส่ชุดเรียบร้อยมาก

สิ่งที่ผมประทับใจคือ เค้าคงจะคันคออยากจะไอ แต่พยายามไอเบามากๆๆครับ กลัวว่าจะรบกวนเรา (ไม่รู้เป็นทุกคันป่าวนะ) ซึ่งผมไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้ในแท็กซี่บ้านเรา ฮ่าๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
นี่ครับหน้าตาบัตร Keisei Line ไปยังนาริตะ โดยรวมๆแล้วผมชอบ NEX มากกว่านะครับ รูปทรงสวยกว่า เก้าอี้คล้ายกัน แต่ NEX เหมือนจะวิ่งนิ่มกว่าครับ

แต่สำหรับความสะดวกในการเดินทาง ใกล้อันไหนก็ใช้บริการอันนั้นแหละครับ เพราะสัมภาระเยอะ จะหิ้วไปไหนมาไหนก็ลำบาก ผมเลยใช้ Keisei ดีกว่าต้องแบกไปขึ้น NEX ที่ Tokyo St. น่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
แล้วยังไงพบกันในรีวิวแบบขำๆ โอกาสหน้านะครับ ขอไปค้นๆรื้อๆ รูปดูก่อนนะคร้าบ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
มารีวิวเร็วๆ นะคะ จะรอชม และเก็บข้อมูลจะไป เมย. ปีหน้่าค่ะ delta ให้โหลดได้ 1 ชิ้น ไม่เกิน 23 โล/คน เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
มารอชมค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
นั่ง Shinkansen Hayabusa สนุกมั้ยครับ...รอชมรูปต่อนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เรื่องน้ำหนัก เราเกือบจะโดนแต่ที่คันไซค่ะ เกินไป 3 โล แต่เจ้าหน้าที่ยอมให้ดึงออกได้ เลยยอมแบกไปเอง

แต่ที่นาริตะ เราเกินไป 5 โล เค้าก็ให้นะคะ สงสัยเจอคนใจดี

เราก็บินทีจีค่ะ แต่ eco สุดๆ ได้แค่ 20 โลเอง ทำไงจะได้ 30 คะเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
โห เที่ยวญี่ปุ่นตั้งเดือนนึง น่าอิจฉาจังครับ

คงเป็น 1 เดือนในการเดินทางที่มีความสุขมากๆ เลยนะครับ

รอชมรีวิวด้วยครับ

@คุณ Seawalker เป็นสมาชิกบัตรเงิน ROP จะได้น้ำหนักสัมภาระเพิ่มอีก 10 ก.ก. รวมเป็น 30 ก.ก. ครับ

ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
รอชมครับ รีวิวของที่แบกกลับมาด้วยก็น่าสนุกดีนะครับ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คห7 คุณหนุ่มเมืองกรุงครับ ผมหลงรัก Hayabusa เลยละครับ สวยไม่พอนะ เก้าอี้ก็ดี แถมยังวิ่งได้เร็วและ "นุ่ม" สุดๆครับ สะเทือนน้อยมากๆๆ เจ๋งชะมัดเลยละครับ (หลังจากที่นั่งมาเป็นสิบ อิอิ)

คห 9 สนุกและมีความสุขมากครับ "ประทับใจ" ใช้คำนี้ได้เลยจริงๆครับ

คห10 ของที่แบกมา จะเป็นขนม 1 กระเป๋าครับ ที่เหลือคือ โมเดลวันพีช ของเล่นจุกจิกวันพีช จิ๊กซอวันพีช ฮ่าๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
สัมภาระจัดเต็มมากครับ 555


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
รอชมนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
แวะกลับมาอีกรอบด้วยความอิจฉามากมาย... ^^
อยากไปเป็นเดือนแบบนี้บ้างจังเลยยยยยค่าาาา... ^^
ยังไงรอชมรีวิวของความประทับใจนะคะ... :)


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
เห็นสัมภาระขากลับ เลยต้องมาตีตั๋วรอดูรีวิว ^__^

Hayabusa มันเริ่ดมากเหรอคะ

เสียดายว่ารอบวิ่งน้อยมาก ถ้าจะนั่งต้องปรับตารางเที่ยวแน่ๆ เฮ้ออออ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณเจ้าแก้วค่ะฯ ตอนเราไปเห็นเอา Hayabusa มาวิ่งแทน Hayate บางแล้ว เราฟลุ๊คได้นั่งครั้งนึง แต่เราไม่แน่ใจว่าเวลาไหนบ้างอะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เที่ยว 30 วันในญี่ปุ่นนี่น่าจะพก pedometer หรือเครื่องนับก้าวเดินนะครับ
จะได้รู้ว่าเราเดินไปหลายแสนก้าวเลยทีเดียว

แต่ก่อนผมพกประจำเพื่อดูว่าเดินจากไหนไปไหนใช้กี่ก้าว
และในแต่ละวันที่ผมไปเมืองนั้นเมืองนี้เดินไปกี่ก้าว


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เที่ยวนานจัง เห็นแล้วอิจฉาเลยครับ :)

ปล.ครั้งหน้าผมแนะนำ AIR CHINA กับ UNITED AIRLINES ครับ เขาให้กระเป๋าโหลดได้ 2 ใบ ใบละ23 กิโลครับ รวมกันก็ได้น้ำหนักที่ 46 กิโลเลยครับ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ตื่นมาปวดหัวกับการต้องคิดว่า "จะกินขนมอะไรก่อนดีนะ" จังเลยครับ ฮ่าๆๆ นู้นนี่นั่นโน่น อร่อยไปโม้ดดดเลย

คห.17 ครับ เสียดายครับที่ผมไม่ได้พกไป แต่คิดว่าแต่ละวันเดินเกิน 8 กิโลแน่ๆ ยิ่งบางวันเที่ยวหลายที่ผมว่า 10 กิโลอัพแน่ๆเลยครับ โดยไม่รู้ตัวจริงๆว่าเดินเยอะ นอกจากอาการปวดเมื่อยที่เท้าที่สาหัสเหลือเกิน (อาศัยแช่น้ำร้อนกับทายานวดเอา)

อากาศเย็นๆ เดินยังไงก็สบายครับ มันสดชื่น อากาศสะอาด ถนนสะอาด ฟุตบาทกว้างเดินไม่เกะกะกัน ไม่มีหมาข้างถนนมาไล่เห่า ไม่มีขี้หมาให้หลบ ไม่มีมอไซด์แว๊นๆให้หนวกหู ไม่มีรถจอดเกะกะข้างทาง ทางม้าลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนเดินเท้าจริงๆ แต่ละคนให้เกียรติกันและกัน ไม่แซงคิว และมีน้ำใจ .....

ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
เก่งมากอ่ะ

เราไปไหนได้ไม่เกิน 2 อาทิตย์ มันจะคิดถึงบ้านแบบจับใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
จขกท ไปเดือนนึง หิ้วของมาได้เยอะมาก แข็งแรงจริงๆครับ ผมไปเที่ยว 12 วัน ขากลับหิ้วขนมจนเมื่อยเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
คห 21 ครับ ตลอดทั้งทริป ผมก็มีแค่กระเป๋าสีน้ำเงิน กับ เป้ เท่านั้นเอง (ใบในรูปซื้อใหม่ เพราะใบเก่าขาดที่นู้นเลย) ที่เหลือคือมาช้อปปิ้งเอา 3 วันสุดท้ายครับ เพราะนอน โรงแรมเดิมตลอด เก็บของได้

ถ้าต้องแบกขนาดนี้ไปมา ผมคงตายไปแล้วอย่างสงบที่นู้นครับ ฮ่าๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
คนขับแท๊กซี่ รถเมล์ รถไฟ ในญี่ปุ่นใส่ชุดเท่ห์มาก สุดยอดเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
เห็นสัมภาระแล้วทึ้งมากเลย
เราโดนประจำ เรื่องปรับน้ำหนักเกินเนี้ย ไม่ค่อยรอดหรอก แต่ตอนซื้อมันห้ามใจไม่ได้นี้หน่า ว่ามั๊ย
ลืมไปเรื่องนึง อิจฉามว๊ากกกกก ได้ไปตั้งเดือนนึง เป็นความฝันสูงสุดเลย เราเคยไปมากสุด 13 วัน พอกลับมา แป๊ปๆก็อยากไปอีก เราใช้วิธีไปครั้งละ 7-8 วัน แล้วไปบ่อยหน่อย ไม่คุ้มค่าเครื่องบินเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ผมโชคดีนิดนึง น้ำหนักการบินไทยเกินไป 8 กก. แถมเป็น 2 ใบ ตอนแรกกะว่าจะจ่ายแล้ว แต่เขาไม่ปรับ แถมยังมีแท๊ก Priority ให้ด้วย .... ก็เลยเป็นงง


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
คห 24 ครับ ขนาดผมไปนานๆ ผมยังรู้สึกอยากกลับไปอีกเลยครับ คราวหน้าอยากไป ฟุกุโอกะ (ไปหาเพื่อนใหม่คนญี่ปุ่น) เค้าอาสาพาเที่ยว พากินของอร่อยน่ะครับ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็อยากไป ฮอกไกโด เหมือนกัน

คห 25 ติวเตอร์ตู่ โชคดีสุดยอดครับ ผมพยายามตื้อแล้ว ยังไงเค้าก็ไม่ให้ ลดให้ซักนิดดดก็ยังดี แหะๆ แต่ผมก็ผิดกฎเค้าเองด้วย ก็ว่ากันไปตามน้ำละครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
เราโดนน้ำหนักเกินตลอดเลยค่ะ หอบเป็นบ้าหอบฟางประจำ แต่ไม่เคยยอมจ่ายค่าน้ำหนักเกินเลยค่ะ โหดเกิน ><
ยอมแกะของออกมาส่ง ปณ.ในสนามบินตามกลับมาไทยค่ะ เอาพวกเสื้อผ้าที่ใช้แล้วกับของไม่สำคัญส่ง

10 กิโล ส่งทางเรือ ก็ประมาณ 5000 yen ค่ะ แต่ประมาณ 3 สัปดาห์นะคะ กว่าจะได้ของ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ที่ airasia มีโปร ตั๋ว+โรงแรม ลองจองดูถูกเกิ้น รร 5 ดาวด้วยญี่ปุ่นนะ 20000 กว่าเองเป็นไปได้หรือคะ ใครรู้ตอบหน่อย อยากจองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
เห็นกระเป๋าแล้ว สุดยอดมากค่ะ คนเดียวทั้งหมดเลยใช่มั๊ยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
รอรูปนะจ๊ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
คนเดียวเพียวๆเลยครับ คห29

คห28 ต้องเช็คดีๆนะครับ แต่อาจจะเป็นไปได้ครับ

คห27 ผมก็คิดจะส่ง พัสดุแหละครับ แต่มันต่างกันไม่กี่ร้อย(สำหรับผม) เลยอยากให้เรื่องมันจบๆไป ไม่อยากแยกของหรือรอของอีกเป็นอาทิตย์น่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
รอดูรูปและรีวิวของคุณค่ะ
คงเป็นมหากาพย์การเดินทางที่ยิ่งใหญ่แน่ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 32