ทริป อินดี้ กะ ติสท์ ตัวพ่อ @ Japan part 1

กลับมาจากทริปญี่ปุ่น เดือนมิถุนายน ก็มีข่าวว่าจะให้ทำ multiple visa ผมอ่านจากคุณสมบัติแล้ว ไอ้เราก็ไม่ได้ขี้ริ้ว ขี้เหร่อะไร ก็กะว่าจะยื่นดู แต่ !! เจ้าพาสปอต หายไป ประวัติของ ช้านนนน แม่เจ้า หายหมด คุณสมบัติ ตกไป ในใจก็คิดว่า ช่างเหอะ ยื่นแบบ 90 วันก็ได้ เริ่มใหม่ แต่พอวันไปถึง ความบ้าในตัวเริ่มบังเกิด สรุป แต่งเรียงความ ภาษา อังกฤษ เกรด D สมัยเรียน ไป เกือบ 2 หน้า ชอบอย่างนั้น ชอบอย่างนี้ วันรุ่งขึ้น โทรมาเลยจ้า ไม่ผ่านนะคะ คุณไม่มีคุณสมบัติข้อไหนเลยที่จะผ่าน T_T ชีวิตเริ่มเศร้า เป็นกังวล แย่ละ แล้วเถียงไปเยอะด้วย ว่าผมมีนะ copy passport และ visa เดิม แต่เขาบอกว่า ยังไงก็ต้องตัวจริงเท่านั้น เถียงอีก ก็มันหายอ่ะ จะทำไงละ สรุป วันไปรับก็ได้แบบ 90 วัน มาแทนครับ โล่งไป เอาเป็นว่า เดี๋ยวขอมัลติเพิล ใหม่ อย่าได้แคร์

ผมไปทริปครั้งนี้ ตั้งแต่ 7 พย ถึง 14 พย ครับ เริ่มออกเดินทาง ด้วย สายการบินแห่งป้า เอ้ย แห่งชาติ ครับ พอดี เห็นบนเครื่อง มีแต่ 40 อัพอ่ะ หุหุ ไฟล์ท tg 640

ก่อนขึ้นเครื่องไปหาอะไรรองท้องก่อนครับ ไฟล์ท ออก 22.35 เดินซื้อของให้เพื่อนๆตาม order เสร็จก็ไปเข้า ในคิงพาวเวอร์ เลาจ์ครับ ในฝั่ง บัตรทอง ก็มีอาหาร เป็นข้าวต้มปลา และ ซาลาเปา ขนมปัง น้ำ และ เครื่องดื่มครับ ข้าวต้มอร่อยนะ ชอบๆ

นั่งกินจนเพลิน วิ่งหูตูบมา gate แทบไม่ทัน แห่กๆๆ

หลับๆ ตื่นๆ แบบว่าไม่ชอบ ไฟล์ท เวลานี้ครับ เพราะว่า ไม่ได้นอนอ่ะ เพราะว่า เขาจะมีเสริฟ อาหารว่าง เป็น ครัวซอง เครื่องดื่ม ประมาณ 45 นาที หลัง เครื่องออก และ ก่อน 1.45 นาที ก่อนลง จะมีอาหารเช้าซึ่งคือ ราวๆ ตีสาม เวลาของประเทศไทย ไอ้ครั้นจะไม่กิน ก็เห็นว่าจะไม่คุ้มครับ >_<"

แสงแรกของวัน นั่งนึกๆดู ทริปเที่ยว วันนี้ กะว่า ลงเครื่อง จะเอากระเป๋าไปเก็บ โรงแรม และไป nikko ต่อ และเย็นๆ ไปเดิน shinjuku ครับ แล้วกลับมานอน ทริปค่อนข้างโหดมาก

เครื่องถึง เวลา ท้องถิ่น ราวๆ 6.15 ครับ หลังจากผ่าน ตม เสร็จปุ๊บ รอรับกระเป๋า พอได้กระเป๋า ผมก็มาล้างหน้า แปรงฟัน พร้อมลุยกันอย่างโหด ในช่วงเช้า จุดแลกตั๋ว JR PASS ยังไม่เปิดนะครับ ให้แลกตั๋วจาก หน้าทางเข้า N'EX ได้เลย และออกตั๋ว N'EX ไปพร้อมกันเลยครับ

ประมาณ 1 ชม จาก นาริตะ เดินทางด้วย N'EX ก็จะมาถึง สถานี โตเกียวครับ เดินทางต่อ ไปด้วย JR line เพื่อไปลง สถานี ryogoku ครับ แถวนี้ เห็นว่าไม่ค่อยมีคนไปพักเท่าไร นัก เพราะยังไม่เห็นรีวิวเลย ย่านนี้ ของกินเยอะครับ และไม่ไกลจาก สถานีใหญ่ทั้ง tokyo ueno ครับ ผู้ที่ใช้ Jr pass น่าสนใจมากครับ เดินทางมาจาก สถานี โตเกียวราว ๆ 10 นาที พอลงสถานี ย่านนี้เป็น แหล่งแข่งซูโม่ชื่อดังของ โตเกียวครับ ตรงหน้าสถานี เป็น สนามแข่งเลยครับ คืนนี้ ผมจะมานอนที่ รร pearl hotel ryogoku tokyo ครับ

หน้าสถานี จะเป็น สนามแข่งซูโม่อันยิ่งใหญ่ ครับ

เมื่อมองจากบนสถานี จะเห็นรร อยู่ไม่ไกลครับ รร นี้ ติดสะพาน คล้ายๆทางด่วน และ ติดน้ำนะครับ เดินไป ตรง อาซาฮี ได้อ่ะ แต่ไกลพอดูครับ ใกล้ย่าน อากิฮาบาระ ด้วยครับ รร จะมีแต่พนักงานออฟฟิส และ เด็กๆนักเรียน มานอน

ราวๆ 10 โมง ผมนั่งรถไฟจาก tokyo ไป nikko แวะ เปลี่ยนสถานีที่ UTSUNOMIYA ซึ่งผมจะแวะ ไปหา เกี๊ยวซ่า ที่ขึ้นชื่อ ของเมืองนี้กันครับ ใครพอมีเวลา อยากให้ลองแวะกันนะครับ อย่าเห็นเป็นเพียงทางผ่านละ

เผอิญว่า มาไม่ทันรอบรถไฟครับ เลยต้องรอ เดินเล่นและไปหาเกี๊ยวซ่ากิน ซึ่งร้านดัง อยู่ในห้างติดกับสถานีเลยครับ ขึ้นไปชั้น สามครับ แต่ๆ ผมไม่ได้ไปอ่ะ เพราะว่า เจอมนต์ สะกด ของร้านแรก เลยจัดไป 12 ชิ้น แล้ว เดินขึ้น รถไฟ อย่างงง ๆ

ใครมาด้วย JR ต้องเดินไปทาง tobu nikko นะครับ เพราะที่นั่นมีทั้ง ป้ายรถเมล์และ information แต่ก่อนเดินไปอย่าลืมดูตารางรถไฟขากลับนะครับ จะได้เผื่อเวลาถูก ช่วงเย็นเด็กๆนักเรียน จะเยอะมาก แทบเป็นลมครับ เพราะน้องแต่ละคน มีแต่เหงื่อ แต่ถ้าหากใครชอบกลิ่นเหงื่อเด็กๆอย่างผม ต้อง จัดครับ 555

หน้าสถานี JR Nikko อันสวยงามครับ

วิวภูเขา ลูกนั้น ระหว่างเดินไป ป้ายรถเมล์ ขาสั่นครับ แบบว่า ปิ๊งเลยอ่ะ

ถึงหน้า tobu nikko เข้าไปขอแผนที่และถามเรื่องรถ และ พาส ต่างๆได้ครับ

มองไปจะเห็นป้ายรถเมล์อยู่ตรงหน้าเลยครับ รีบพุ่งไปครับ ด่วนเลย

ตามรูปเลยครับ เข้าแถวให้เป็นระเบียบ ชอบมากครับ อยากให้บ้านเรามีวินัยอย่างนี้บ้างครับ ตามป้ายนะครับ จะเป็นป้ายที่ 2c

เข้ามาเกาะดู..

ตามคำแนะนำให้ผมลง ป้ายที่ 85 แล้วเดินย้อนลงมา เพราะว่า ผมแพลนจะเที่ยวเฉพาะ world heritage เท่านั้นครับ แต่แม่เจ้าาาาาาาาาา หน้าหนาว ปิดแค่ 16.30 ผมมีเวลาแค่ 3 ชม เท่านั้น จะพอป่ะละ ฉะนั้น ตามมีตามเกิดครับ นี่เป็นตารางการวิ่งรถเมล์ครับ ถ้าใครไปเหมือนผม ลง 85 เดินย้อนลงมาเรื่อยๆครับ จนมาสุดตรงสะพานแดงครับ แต่ เหตุ จาก บนรถเมล์ไม่มีคนครับ และคนขับบอกให้ผมลง ป้าย 83 ผมก็เชื่อคนง่าย พร้อม ทำตามคำบัญชา สรุปผมลงหน้า วัดรินโนจิ เลยครับ แต่โชคร้าย มีการซ่อมแซมตัววัดครับ แต่ก็ยังให้เข้าชมครับ

ภายในยังเปิดให้ชมตามปกติครับ และก็เก็บ ค่าเข้าชม ปกติครับ 1000 เยน ตามนี้ครับ

คุณ nupepey --> ขอให้ร่ำ ขอให้รวยนะครับ เข้ามาในกระทู้นี้

สิ่งที่เห็นคือเปลือกนอกครับ ถ้าอย่างเห็นคุณค่า ข้างใน คุณต้องเข้ามาชม ครับ แต่ภายในห้ามถ่ายรูปครับ จึงอยู่ในความทรงจำครับ

มุมใบไม้แดงภายในวัด และ ที่ห้อย แผ่นป้ายครับ ดู คลาสสิกอ่ะ

อาคารด้านหลัง อาคารหลักครับ มีพวกเครื่องรางขาย ตรึมเลยอ่ะ

นอกจากใบไม้แดง แล้ว ยังมี ใบไม้เหลืองครับ ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้า

ทางขึ้นไปศาลเจ้าโทโชกุ โทริอิ ที่ดูผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครับ

เจดีย์ ห้าชั้นครับ วันที่ไป ขนาดเป็นวันธรรมดา ลุงๆ ป้า ๆ ตา ๆยายๆ ยังไปกันตรึมครับ

ลิง สาม ตัว อันโด่งดัง ใน ท่า ปิดตา ปิดหู ปิดจมูก ไม่ให้ได้ยินเสียงใคร ถ้าปิดประตู ได้ดั่งใจ จะอยู่ข้างใน สองคนกับคุณ เอ้ยยย นั่นเพลงละ

เดินเข้ามาทางด้านบน เพื่อไป โทโชกุ แต่ แทบชอค ปิด ซ่อมแซม อีกแล้วครับท่าน แทบร้องไห้อ่ะ

มาดูเจ้าแมวขี้เซา กันครับ ตอนแรกสองจิต สองใจ ก็ค่าเข้าไม่รวมในตั๋วอ่ะ ว่าจะเข้าดีไหม แต่ก็เอาเหอะ ข้ามน้ำข้ามทะเล จะมางก เพื่อ ?? เลยควักเหรียญ ออกมาจ่ายไปครับ

กลับละครับ เพราะได้เวลา 16.30 เริ่มจะปิดกันหมด ขากลับ ผมเดินลงมาตามทางครับ เพื่อไปสะพานชินเคียวครับ เดินเลาะกำแพงวัดมาเรื่อยๆตามหาป้าย 82 ครับ

มุมนี้สวยมากอ่ะ แต่ตอนไป ไม่มีเหยื่อมาช่วยผมถ่ายรูปเลยอ่ะ อยากมีหนังหน้าตัวเองปรากฏ ตรงนี้บ้างอ่ะครับ

ตามไปเกาะล้อเจ้าจำปีสีม่วงไปเที่ยวด้วยคนนะค๊า

ตามรูปครับ ป้าย รถเมล์ 82 แล้วเดินเลาะตามทางข้างล่างมาเรือ่ยๆเลยครับ

คุณ จอมโจรปล้นใจ เกาะดีๆระวังปลิวนะครับ

เดินเรื่อยมาตามทางนี้ อาจจะดูเงียบๆนิดนึงครับ เดินระวังหลังด้วย ใครมาคนเดียวแบบผม ได้เตรียมวิ่งถูก หุหุ

เมื่อคุณเดินมาจน สุดทาง สิ่งที่เห็นตรงหน้าจะเป็นเยี่ยงนี้ครับ

คอมเป็นไรไม่รู้อ่ะ อัพรูปไม่ได้ ไว้มาต่อนะครับ

เศร้าจังว้าจะพาคุณแม่ไปดูซะหนอยเพราะตอนไปปลายปีที่แล้วหิมะตกสวยมากๆ T^T

รอดู review Nagano ค่ะ ^^