จะไหวไหม GMAT Toefl

ตอนนี้กำลังเริ่มจะทำงานตรวจสอบบัญชีอ่ะครับ 1ใน Big4 แล้วกะว่า 3-4 ปีหน้าจะไปต่อ MBA ต้องการ
Toefl 110+ กะ GMAT 750+ (ฝันไว้)
Toefl 100+ กะ GMAT 710+ (อยากได้ประมาณนี้)

ตอนนี้มีเวลา 3-4 ปีในการเตรียมตัวครับซึ่งหากใครเปนออดิทก้อน่าจะรู้ว่างานมันหนักแค่ไหน ไหนจะต้องสอบ CPA อีก พวกพี่ๆๆ ทุกท่านคิดว่าเวลาขนาดนี้พอไหมครับหรือว่ามันฝันไป
ปล.1 เออผมจบบัญชีมาจากม.เอกชนแห่งหนึ่งย่านวิภาวดีครับ เกรด 3.7+
ปล.2 เคยลองเทส TOEIC ที่บ้านเอง(ทำเหมือนสอบจริง) ได้คะแนน 700-800+ ตลอด

คำถาม
1. ท่านคิดว่าเวลาขนาดนี้พอไหมครับ
2. คะแนนขนาดนั้นเข้ายูท๊อบ 5 US ได้ไหม หากจะเอาชัวร์ต้องได้คะแนนเท่าไหร่หรือต้องมีอะไรเพิ่มมัั้งครับ สำหรับโปรไฟล์แบบผม
3. คะแนนขนาดนั้นเข้ายูท๊อบ 5 UK ได้ไหม หากจะเอาชัวร์ต้องได้คะแนนเท่าไหร่หรือต้องมีอะไรเพิ่มมัั้งครับ สำหรับโปรไฟล์แบบผม
4. หากขอทุนโปรไฟล์ขนาดไหนจึงจะมีสิทธิได้รับ เพราะผมกังวลว่าคณะกรรมการจะโน้มเอียงกับชื่อเสียงมหาลัยครับ
5. หากพวกพี่ๆมีอะไรแนะนำเพื่อให้โปรไฟล์ดูดีขึ้นช่วยแนะนำด้วยน่ะครับกลัวว่า ปัญหาของชื่อเสียงมหาลัยจะเป็นปมด้อยของผม จึงต้องหาจุดเด่นมาทดแทน (ผมยอมรับในชื่อเสียงของมหาลัยผมน่ะครับ แต่กลัวคนอื่นไม่ TT)
6. หากเป็น MSC Finance กับ Financial Engineering ก้อ GMAT ป่ะครับ

ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าเป็นอย่างสูง ^^ แนะนำได้หมดน่ะครับยินดีรับฟัง

ความคิดเห็นที่ 1
พี่ตอบในฐานะที่เป็นเหมือนน้องนะคะ 55+
พี่เคยเป็น Audit ใน Big4 มาก่อนเหมือนกัน เกรดพอๆกับน้อง แต่เป็นม.รัฐบาล พี่ทำมาสามปีครึ่ง เพิ่งจะลาออกมาเมื่อต้นปีนี้
พี่ว่าอย่างน้อยน้องก็ดีที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะสอบใน 3-4 ปีข้างหน้า
พี่คิดว่าถ้าตั้งใจทันแน่ๆค่ะ ทั้ง TOEFL + GMAT

พี่คิดว่าน้องคงตั้งใจเอา CPA แน่ๆใช่ไหมค่ะ เพราะว่าตอนพี่ทำงาน
พี่เริ่มสอบหลังจากอยู่มา 1ปีครึ่ง เพราะตอนแรกกลัวจะอยู่ไม่รอด 55+
ถ้ามั่นใจพี่แนะนำว่าวิชาไหนสอบได้ให้สอบไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ เช่น บัญชี ที่ไม่ต้องเก็บชั่วโมงก็สามารถสอบได้เลย >> อันนี้เห็นรุ่นน้องของพี่บอกมา เพราะว่าตอนพี่สอบยังไม่มีกฎสภาบังคับเรื่องนี้ค่ะ
เพราะว่ายิ่งเป็นเด็กเวลาจะยิ่งมีเยอะ โตขึ้นเท่าไหร่ เวลาของตัวเองน้อยลงเท่านั้น

สำหรับ TOEFL พี่ว่า 100+ ไม่ยากเท่าไหร่ ถ้าน้องค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆ อย่างเช่น การฟังข่าวภาษาอังกฤษทุกวัน หรือ อ่านบทความตามหนังสือพิมพ์วันละบทความ ค่อยๆเก็บความรู้สะสมไปเรื่อยๆ พี่ว่าคะแนนน่าจะได้ไม่ยากเกินมือน้อง
พี่ยืนยันว่า TOEFL ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษเลย อันนี้พูดจริงๆ เพราะประสบการณ์จากที่พี่เรียนมา พี่พบแล้วว่าไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเองว่าขยันฝึกแค่ไหน เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเสียเงินเรียนแพงๆนะคะ
TOEIC ง่ายกว่า TOEFL ค่ะ คิดว่าคงบอกไม่ได้ว่าได้ TOEIC เยอะแล้ว TOEFL จะถึง 100 เลยหรือเปล่า ลองเอาหนังสือ TOEFL มาอ่านแล้วฝึกก่อนดีกว่าค่ะ

ส่วน GMAT
พี่แนะนำให้อ่านบทความของสองท่านนี้นะคะ
http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2011/12/H11432238/H11432238.html
และ http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2012/02/H11669955/H11669955.html
ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม GMAT Club เป็นคำตอบที่ดีมากค่ะ มีหลายๆอย่างให้อ่าน ทุกอย่างของ GMAT หาอ่านได้ที่นี่ ไม่น้อยเลยทีเดียว

คะแนน GMAT ไม่ใช่ทุกอย่างในการสมัครเรียน MBA นะคะ ยังมีอีกหลายอย่างที่ทางมหาลัย เค้าพิจารณาคะ

เอาจริงๆนอกจากคะแนน GMAT จะสูงแล้วเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา แต่ยิ่งกว่านั้นคือการเขียน SOP, Essay ให้ดึงดูดใจกรรมการ ให้กรรมการอ่านแล้วรู้สึกอยากรับเราอ่ะค่ะ >> อันนี้พี่ก็ว่ายาก ไม่รู้จะเขียนยังไง น้องลองค้นๆตัวอย่าง SOP ดูนะคะ

ส่วน Letter of recommendation ก็มีผลค่ะ ถ้าจะเข้ามหาวิทยาลัยดังมากๆ คนที่เขียนให้เรา นอกจากจะตำแหน่งใหญ่แล้ว ก็ต้องเขียนดันเราเว่อร์ๆเหมือนกันค่ะ ถ้าน้องสนิทกับพาร์ทเนอร์มาก ตอนเข้าไปทำงาน ก็จะดี ^^ แต่ส่วนใหญ่เราพาร์ทเนอร์จะรู้จักเราก็ตอนเราเป็น incharge แล้วเค้าเข้ามาคลุกคลีกับเรา เนื่องจากส่วนใหญ่พาร์ทเนอร์จะติดต่อกับแค่เมเนเจอร์โดยตรงค่ะ ไม่ค่อยมาถึงเราหรอก ถ้าคิดว่าพาร์ทเนอร์ดูจะไปไม่ถึง ก็หาระดับ Senior manager ที่สนิทๆเข้าไว้ค่ะ พี่ว่าคนเขียนควรจะเป็นคนที่รู้จักเราเป็นอย่างดีและพร้อมที่จะช่วยเราเขียนค่ะ เค้าจะเขียนให้เราเต็มที่จริงๆ

พี่ว่าProfileน้องไม่ได้แย่นะคะ แล้วถ้าได้ GMAT+TOEFL ตามที่คาดหวังเนี่ย รวมถึง SOP/Essay/Recommend ดีๆ ก็น่าจะได้มหาวิทยาลัยดังๆอยู่

ส่วนเรื่องขอทุน อันนี้พี่ไม่รู้ว่าน้องหมายถึงว่าจะขอทุนจากมหาวิทยาลัยหรือว่าขอทุนบริษัทไปเรียน แต่พี่คิดว่าน่าจะหมายถึงมหาวิทยาลัยมากกว่า เพราะว่าบริษัทไม่มีทุนให้เรียนอยู่แล้วอ่ะค่ะ ในส่วนมหาวิทยาลัยต้องเข้าไปดูว่าเค้ามีแจกหรือเปล่า แต่เข้าใจว่าถ้า top5 ไม่น่าจะมีแจกทุน MBA เพราะว่าเป็นคอร์สหาเงินเข้ามหาวิทยาลัย 55+

MSc Finance กับ Financial Engineering ก็ GMAT ค่ะ เห็นน้องที่รู้จักบอกมา แต่ถ้าจะเอาชัวร์ๆลองไปค้นตามมหาวิทยาลัยแต่ละที่ดูนะคะ

ป.ล.พี่แนะนำได้แค่นี้นะคะ แต่ถ้าอยากรู้อะไรลองถามมาได้นะคะ ถ้าตอบได้จะตอบให้ค่ะ พี่จะสมัครปีนี้เหมือนกัน แต่ว่า GMAT ก็ยังไม่ค่อยดีเลย พี่ตกม้าตายที่พาร์ท Verbal ทุกรอบ >///<

ถ้าเกิดวางเป้าหมายไว้ขนาดนี้ อย่าถอยนะคะ สามปีทำได้แน่ๆ ถ้าเกิดฝึกฝนทุกวันไปเรื่อยๆ
โชคดีนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอเสริมหน่อยนะครับ ผมว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่า GMAT หรือ TOEFL ที่คาดไว้คือ profile ที่จะไปใช้ในการเขียน SOP หรือ PSเพราะถึงเวลาหนึ่งที่ผู้สมัครทั้งหมดคะแนนพวกนี้ไม่ได้หนีกัน ที่ทำให้เราโดดเด่นกว่าคนอื่นคือ ps และ letter of recommendation โดยเฉพาะ ps หากเราไม่สามารถสร้าง profile ให้ดูโดดเด่นได้ก็ลำบากอ่ะครับ เพราะที่ได้ยินมา ผู้สมัครบางรายคะแนน Toefl ไม่ได้สูงมาก แต่ profile แบบทำอะไรมาหลายอย่างกิจกรรมของมหาวิทยาลัย เป็นอบรม หรือมีความรู้หลายด้านที่มี certificate พวกนี้ทำให้เราดูแตกต่างครับ ถ้าเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ profile จะได้สวยครับ
ส่วนชื่อเสียงมหาวิทยาลัย คิดไปก็เท่านั้นครับ ทำให้ดีที่สุดก็พอ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ใช่ครับ เพราะมีตัวอย่างคนไทยหลายคนที่เคยเข้า U Top Ten MBA ของอเมริกาด้วยคะแนน GMAT ไม่ถึง 700 เพราะว่ามี profile ดี

ต่อให้ได้ GMAT 780 ก็ไม่ได้รับรองว่าจะเข้า U Top ได้ มันแค่บอกแนวโน้มที่คุณสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้และไม่มีปัญหาด้านการคำนวน (เป็นต้น) แค่นั้นเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
พวกคนยิว อินเดีย GMAT 750+ เป็นเรื่องปกติครับ

เราก็ GMAT ไม่ถึง 700 ยังเข้า Top 10 ได้เลย

มันต้องดูหลายๆอย่างเลยครับ แต่ทำได้ มันก็ดี


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
มันมีหลายปัจจัยค่ะ

ดิฉันจบมอสามย่านคณะสีฟ้า เกรดแบบ 2.4x คร้านจะไปทำงานบิีกโฟร์เขาก็ไม่เอา จนสุดท้ายได้งานที่บ.ไอทีบิ๊กบลู
คะแนนสอบโทอิก8xx มันจิ๊บๆ สอบไอเอวมาสองหนละมันยังแค่หกอ่ะ ตอนนี้เลยยังทำงานไม่ไปไหน

พยายามเข้านะคะความพยามยามเท่านั้นจะช่วยได้ เพราะเพื่อนสนิทเขาก็จบมอสามย่านเกียรติหนึ่ง ทำงานที่บิ๊กโฟร์ปีนึง ไอเอว7.5 GMATหกร้อยปลายๆ เขาก็ติดยูอันดับสามที่อังกิดนะคณะดังด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุนทุกท่านที่เข้ามาช่วยตอบครับ เออ ผมอยากรู้ว่าMBA ของ INSEAD มันไม่ดีหรอครับเหนติดท๊อบเท็นแต่ทำไมคนไทยไม่ค่อยมีใครรู้จักกันเลยล่ะครับ พี่ที่รู้จักกันยังบอกว่าเอาไม่ติดท๊อบเทนของ US ยังดีกว่า จิงไหมครับ ???

ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขออนุญาตให้ความเห็นนะครับ
ที่ทำงานบางแห่ง เค้าไม่ได้รู้ข้อมูลละเอียดหรอกครับ ว่ามหาวิทยาลัยไหนดังด้านไหน แต่ถ้าเป็นบรรษัทข้ามชาติหรือองค์กรของรัฐ เค้าจะทราบข้อมูลตรงนี้ดีครับ เช่น กรณี LSE ซึ่งดังมากแต่คนไทยส่วนใหญ่ (หมายถึงยกเว้นกรณีองค์กรข้างต้น) อาจจะไม่รู้จัก แต่หากบอก manchester หรือ liverpool อันนี้ชัดครับ ดังนั้น ผมว่าขึ้นอยู่กับว่า เรามีแผนตัี้งใจจะทำงานกับองค์กรแบบไหนและวางแผนชีวิตยังไงอ่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7