เที่ยวจีน ใบไม้เปลี่ยนสี ฉงชิ่ง-เฉินตู-จิ่วไจ้โกว-หวงหลง ตุลาคม55

เดินทางโดยโปรหางแดง จองไว้ตอนเปิดโปรใหม่ๆจองไว้นานๆๆแล้ว บินถึง ฉงชิ่ง

ออกจาก สนามบินเลี้ยวซ้ายเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆ จะเจอทางลงรถไฟฟ้าที่ทางลง 2 สาย3
แต่มารู้ตอนกลับว่ามี shuttle bus คอยรับส่งจาก Domestic สนามบินภายในประเทศมาที่นี่ และที่ภายในประเทศก็มีทางลง รถไฟฟ้า สามารถซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงได้ที่สนามบินภายในประเทศ ได้ไม่ต้องไปแย่งที่ สถานีรถไฟความเร็วสูง Chongqing bei คนเยอะมากๆๆ

ทางลงรถไฟฟ้า

ออกจากสถานีรถไฟฟ้า เพื่อมาต่อรถไฟความเร็วสูง ที่สถานี ฉงชิ่งเหนือ (ฉงชิ่งเบย)

ตอนที่นั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินเพื่อมาต่อรถความเร็วสูงนั้นได้เจอพี่อ้อ กับพี่เจี๊ยบ ก็ได้แนะนำเรื่องต่างๆ ในการเที่ยวในจีนข้อควรระวังให้ผมกับแฟนและลูก พี่เค้ามาบ่อยพูดจีนได้ ความประทับใจแรกครับ

ที่ขายตั๋ว หันหน้าเข้าอาคารผมเข้าไปช่องขวามือสุดครับ เจ้าหน้าที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ จีนอย่างเดียวครับ (มีภาษาอังกฤษตอนบอกว่า no seat) มีจอมอนิเตอร์ โชว์ ขบวนรถให้ดูที่ช่องขายตั๋วว่าจะจองขบวนไหน แนะนำว่าให้ทำการบ้านมาก่อน หาข้อมูลให้แน่นก่อนว่าจะไปที่ไหน รถขบวนไหน ออกตอนไหน และหา เผื่อไว้ด้วยครับถ้าไม่ได้เที่ยวที่ต้องการมีเที่ยวไหนอีก ดังตัวอย่างที่ผมทำเป็น ตารางเที่ยวรถ ตามตารางที่ผมใช้ชื้อตั๋วไปยังสถานที่ต่างๆ โดยการ จิ้มที่ตารางที่ผมทำไป แล้วก็บอกว่า “ เฉินตู ซาน เพี่ยว “ แปลว่า เฉินตูสามใบ ต้องใช้พาสปอตร์ด้วยน่ะครับ เด็กครึ่งราคา แต่ซื้อครั้งแรกไม่รู้เลยเสียเต็มราคา เราต้องบอกเองว่าเด็กครับ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจเค้าดูแค่หมายเลขพาสปอตร์

(กระดาษแผ่นนี้ไปเที่ยวจีนตลอดทริปกับผมและครอบครัว และกลับไทยพร้อมกัน
หาข้อมูลให้ดี เตรียมตัวในการเดินทาง

ออกจากสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเดินตามป้ายมาขึ้นแทกซี่ เอารูปโรงแรมและที่อยู่ให้แทกซี่ดูครับ เค้าก็พามาถูกครับ
แต่สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปที่โรงแรมได้ครับ แล้วเดินอีกนิดหน่อยก็ถึงแต่ผมเลือกแบบสบายนั่งแทกซี่ 30 Y

ถึงแล้ว Traffic inn hostel ด้านหน้าเป็นร้านอาหารไทย hostel ต้องเดินผ่าน Hotel เข้าไปด้านข้างครับ (แนะนำครับโรงแรมนี้พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ บริการเป็นกันเองครับ เวลาจองห้องในจีน ต้องมีค่ามัดจำด้วย 100 y จะได้คืนตอนเช็คเอาท์ครับ ต้องเก็บใบเสร็จไว้น่ะครับเดียวไม่ได้คืน) ด้านหน้าเป็นป้ายรถเมลย์ ผมนอนคืนละ 900 บาทห้องน้ำในตัวครับ สามคนพ่อแม่ลูก

บรรยากาศด้านหน้าโรงแรมตอนกลางคืน เดินออกจากโรงแรม เลี้ยวขวาเดินไปสถานีรถบัสได้ครับใกล้นิดเดียว จองตั๋วไปจิ่วไจ้โกวที่นี่ครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายเดินไปจนถึง แยก แล้ว เลี้ยวขวาข้ามสะพานเดินไปเรื่อยๆ จะเจอสถานีรถไฟฟ้า ชื่อ
Jinjiang Hostel จากสถานีนี้ไป ตลาด Jinli night Fair และ สถานีรถไฟความเร็วสูงได้

บรรยากาศ

แผนที่ จาก google

ตามมาดูใบไม้เปลี่ยนสีด้วยครับ

วิธีการไป Jinli night Fair จาก Traffic Inn ให้ใช้รถไฟใต้ดิน ทางเข้า C ที่สถานี Jiniang Hotel สาย1 ไปต่อรถสาย2 ที่สถานี เทียนฟุ Tianfu Square (ถ้าออกที่สถานีนี้จะเจอกับ รูปประธานเหมายืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมือง) ต่อสาย2 ไปที่ Tonghuimen ออกทาง C แล้ว จะเห็นร้าน PizzaHut อยู่หน้าตึกเดินเข้าซอยข้าง pizza เลยครับประมาณ 300-400เมตร ถึงแล้วครับอยู่ด้าน ขวามือมีอยู่ 3 ซอย มีผับบาร์เยอะครับร้านขายของฝาก เหมาะที่จะเดินตอนหัวค่ำ

บรรยากาศที่ Jinli night ประมาณนี้ครับ มีคนเดินเยอะเวลาถ่ายรูปต้องเร็วนิดหนึ่งครับ มีคนต่อคิวแทบทุกที่ มุมสวยๆ

สถานีรถบัสที่เฉินตู ที่จะไปจิ่วไจ้โกว ครับ ผมเดินออกจากที่พักตอนเช้า 6.30 เพื่อออกมาซื้อตั๋วไปจิ่วไจ้โกวได้รถเที่ยว 8.30 แล้วเดินกลับไปโรงแรม พอใกล้เวลาก็เดินมาใหม่ ครับ อันนี้ไม่มีตั๋วให้ดู เพราะพอคนขับเก็บตั๋วแล้วไม่ได้คืน พอเข้าในสถานีแล้วก็คอยดูเวลาเค้าเรียก ไปจิ่วไจ้โกว ออกไปด้านนอกเพื่อขึ้นรถ ต้องดูป้ายเอาครับว่าคันไหน ถ้าไม่ชัวร์ให้ส่งตั๋วให้เค้าดูเลยถ้าไม่ใช้เค้าก็จะบอกเอง รถบัสไม่ได้จอดเรียงกันประมาณว่าจอดตรงที่มีที่ว่าง เป็นอย่างงี้แทบทุกที่ ที่จิ่วก็เป็น ต้องดูป้ายเอาเอง

สังเกต เวลาหน้ารถให้ดีน่ะครับ เวลาดูให้เทียบกับตั๋วของเรา

ระหว่างทาง ร่องรอยของแผ่นดินไหว มีทั้งสะพานที่หัก และไม่ได้ใช้ บ้านอยู่ในแม่น้ำ หินถล่มลงมาปิดทาง ถ่ายจากในรถ ถนนยังมีทำบางช่วง น่าจะซ่อมจากแผ่นดินไหว ครับ รถขับไม่ไวเลยถึงจิ่ว ช้าครับ

วิวข้างทาง และร้านอาหารที่แวะให้กินข้าว เป็นบุบเฟต์ 25 Y ผมไม่รู้เลยสั่งมาสอง ก็ได้ตะเกียบมาสอง คู่ แต่เห็นคนจีนมาสอง สั่งหนึ่ง ก็กินกันได้ ตักกันพูนๆๆเลยครับ กินกันเร็วมาก แป๊ปเดียวหมด

ถาดหลุมครับ มีตะเกียบให้

แนะนำให้พกช้อนไปด้วยครับ อาหารจืดๆผัดมันๆ พอกินได้ ที่นี่เวลารถจะออกคนขับจะเรียกครับ เท่าที่ดู ก่อนออกรถเค้าจะนับคนก่อนว่าขึ้นมาครบหรือยัง

เรามาถึงจิ่วไจ้โกวกันเย็นแล้ว ประมาณหกโมงกว่าได้ครับ เริ่มมืดแล้ว เดินลากกระเป๋าจากท่ารถบัสผ่านทางเข้าอุทยานจิ่วไจ้โกว ไปอีกจนถึงโรงแรมที่จองไว้ ชื่อ : Zhuoma Youth Hostel จองกับ HostelBookers.com จองผ่านเน็ต ไม่แนะนำเลยครับไม่น่าพักเท่าไหร่มีเรื่องตื่นเต้นด้วย เราพักที่นี่กัน 4 คืน จองไว้นานแล้วหลังจากได้ตั๋วโปรหางแดง ได้ราคาถูก ประมาณ 660 Y จองไว้แบบ สามเตียง แต่เวลาเช็คอิน พาไปห้องสองเตียง ที่เป็นห้องใครก็ไม่รู้ ประมาณว่าให้เจ้าของห้องที่อยู่ประจำออกไป ให้เราไปนอนแทน มีทั้งถุงเท้าตู้รองเท้า เครื่องมือเครื่องใช้ประจำวันของเจ้าของห้องเพียบ มีรูปเจ้าของห้องด้วย ฮ่า เลยโวยไป ทางโรงแรมก็บอกว่าวันนี้ไม่มีห้อง จะเปลี่ยนห้องให้พรุ่งนี้ (วันนี้ตรูต้องทนนอนไปก่อน) วันต่อมา ได้เปลียนห้อง สามเตียง แต่ ...... ยิ่งกว่าเดิมอีก เตียงเก่าพื้นสกปรกยิ่งกว่าห้องที่ได้ตอนแรก (นึกในใจตรูไม่น่าเปลี่ยนเลยห้องเก่าดีกว่า) มีเครื่องซักผ้าให้ด้วย มีกาต้มน้ำเก่าๆ ห้องนี้อยู่ในตรอก ด้านข้าง เดินลงไปห้องอยู่ด้านล่าง สามารถเดินจากตรอกข้างๆ Lobby ก็ได้ ผ่านที่ทำอาหารของโรงแรม บรรยากาศหน้ากลัว ตรงกันสาดด้านบนประตูห้องเป็นที่ตากผ้าปูที่นอน ปากตรอกมีวงไพ่นกจอก คืนที่สองมีเหตุการณ์ตื่นเต้น เริ่มต้น ด้วยหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ก็เดินซื้อน้ำแถวนั้นเห็นไฟฟ้าที่ร้านขายของมันกระพริบ พอกลับเข้าห้องไฟฟ้าดับ พรึบ ดีน่ะพกไฟฉายไปด้วย ได้ใช้แก้ขัด น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เดินเที่ยวมาทั้งวันแล้ว เลยตัดสินใจไม่อาบน้ำ นอนเลยดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยอาบ ตอนนั้นเวลาประมาณ 9.30 ก็ไม่ได้ปิดไฟ เพราะไฟมันดับก่อนให้ปิด ได้นอน สามเตียงแล้วคนละเตียง ห้องพักมีหน้าต่างอยู่ข้างประตูมีเหล็กดัด แต่กระจกแตก ต่อจากนั้น 10.30 ไฟติด ก็นอนต่อ และแล้วเหตุระทึกก็มาเยือน เวลา 11.30 มีเสียงคนโวยวายนอกห้อง มาที่ประตู หมุนลูกบิดเขย่าๆ เราก็นึกว่ามีอะไร ไปแย้มผ้าม่านดู แล้วก็มีผู้ชายชี้มือโวยวายเสียงดังชี้มาที่เรา แล้วมันก็เดินไป ต่อจากนั้น เที่ยงคืนนิดๆ ก็มาแบบเดิมอีก มาเขย่าประตู เหมือนจะพยายามเข้าห้อง ตอนนี้ไม่เป็นอันนอนแล้วครับ แล้วก็มีมีอีกรอบ ตอน ตีหนึ่ง กว่าๆ มาที่ประตูห้องเหมือนเดิม ครับ หมุนๆลูกบิด เขย่าๆ ดึงประตู โครมครามๆ (แต่ที่นีเวลาผมนอนจะเอาเก้าอี้ไปขัดไว้ที่ประตูตรงลูกบิด ทั้งสี่คืนที่นอนที่นี่เพื่อกันไม่ให้ใครเปิดเข้ามาในห้อง โรงแรมไม่มีโซ่คล้องประตู ) เป็นอันว่าหลับๆตื่นๆ ไม่เป็นอันนอนกันเลยครับ ผวาไปทั้งคืน พอเช้ามาก็ไปที่lobby แจ้งกับพนักงานว่าเมื่อคืนมีเหตุการณ์แบบนี้ ขอเปลี่ยนห้องกลับเป็นสองเตียงอย่างเดิมก็ได้รู้สึกปลอดภัยกว่า แล้วบอกกับพนักงานว่าไอ้ห้องสามเตียงของคุณไม่ปลอดภัยเลย มีคนพยายามจะเข้าห้องมาตั้ง3ครั้ง พนักงานหันไปคุยกันแล้วก็บอกกับเราแบบง่ายๆเลยว่าเปลี่ยนให้ ไม่เหมื่อนวันแรก ที่ขอเปลี่ยนห้อง เหมือนกับเค้ารู้ว่า มีอะไรสักอย่าง หรือเคยมีเหตุการณ์ แบบนี้ ครับ แล้วคืนที่สามกับสี่ เราก็ได้ห้องที่ดีกว่าสองคืนแรก เป็นห้องโรงแรมจริงๆ ไม่ใช่ไปเอาห้องของใครมาให้เรานอน แฟนบอกว่าสงสัยเราจองมาถูกเลยบริการแบบถูกๆ แต่ก็ทำใจไว้แล้ว เพราะก่อน จะเดินทางได้ email มา ยืนยันห้องพักว่าเราจะเข้าพักแน่นอนเวลาเย็น ก็ไม่มีการตอบกลับ ยังบอกกับแฟนว่าถ้าไปถึงแล้วมันบอกว่าไม่มีห้องคงต้องเดินหาที่อื่น เป็นโรงแรมที่แย่มากๆ ไม่แนะนำ ครับ

เรื่องตื่นเต้นเรื่องที่ 1 ครับ โรงแรมไม่ดี ไม่ปลอดภัย แต่พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้

มีตู้ถุงเ้ท้ารองเท้าในห้องด้วย

สภาพภายในห้อง มีที่เก็บของ ของเจ้าของห้องด้วย

ผมเข้าอุทยานสองวัน วันแรกไปตอนเช้าคนเยอะมาก วันที่สองไปสายๆเพราะไปซื้อตั๋วรถที่จะไปหวงหลง วันที่สองทางเข้าคนไม่แน่น แบบสบายๆ เพราะกรุปทัวร์ จะมากันตอนเช้า การซื้อตั๋วที่อุทยานต้องซื้อทุกวันที่เข้า ไม่มีแบบสองวันแล้ว เด็กครึ่งราคาค่าเข้า ค่ารถเต็มราคา มีแผนที่ภาษาอังกฤษ แต่ต้องเดินไปหยิบเอง

หลังจากเที่ยวในจิ่วไจ้โกวสองวัน คิดว่าเดินหลายกิโลมาก วันที่สามก็ไปหวงหลง ก็นั่งรถบัสจากท่ารถที่จิ่วไจ้โกวไปหวงหลง ค่ารถคนล่ะ 45Y รถออก 7.30 ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมง รถวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลต่อชั่วโมงไม่เกินนั้น บนรถระหว่างทางมีจอดด้วยเพราะ มีอุบัติเหตุข้างหน้า เพราะมีหิมะตกเลยต้องจอดติดอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็เลยลงไปถ่ายรูปกับหิมะ ข้างถนน เห็นรถแทกซี่ที่มีคนเหมามา ต้องเอาโซ่มาใส่ล้อเพื่อให้วิ่งบนหิมะไม่ลืน
วันนี้เรามาถึงหวงหลง ตอน 11.00 เพราะเสียเวลาเยอะ

คนประมาณนี้เลยครับแน่นเอียดแย่งขึ้นรถ รูปนี้แค่ด้านเดียวน่ะครับ มีแบบนี้อีกด้าน

รูปในอุทยาน

น้ำตก