..... One' Day in HongKong .....



พึ่งผ่านโปร 9 บาท ของหางแดงมาหยก ๆ หลาย ๆคนคงหงายเงิบกันไปเลยทีเดียว

ไ อ้ ที่คิดว่าถูก ก็กลับแพงอย่างไม่น่าเชื่อ หางแดงเอาเลข 9 ตัวเดียวมาล่อนี่หว่า ฮา ๆ

เอาเถอะครับ ไม่ว่าอย่างไร โปรหางแดงก็มีคนเข้าดู และได้รับความสนใจอยู่ดีซิน่า (ไม่รู้จะบ่นไปทำไม)

--

{ Where Where is Where Where } ไหน ๆก็ ไหน ๆแล้ว ขอ ข า ย ทริปฮ่องกงที่พึ่งไปมาบ้างดีกว่า

จริง ๆไป 5 วัน 4 คืนนะครับ แต่มีเวลาไำหว้พระแค่วันเดียว แถมรีบ ๆ กันอีกต่างหาก T^T

นอกนั้นก็ึไม่พ้น ทริปช๊อปปิ้ง - ทริปแม่ชะม้อยตะลุยกิน - ทริปหน้ามืดโยกสล็อต (@มาเก๊า) แล้่วกลับมานอนสลบตา่ยคาห้อง ฮา

ไปกี่ที กี่ที ก็วนเวียนอยู่ประมาณนี้ (โดยเฉพาะช๊อปปิ้ง อันนี้ยังไงก็พลาดไม่ได้ ต่อให้เดินขาลากยิ่งกว่าเข้าฟิตเนสก็ตาม)

อย่างน้อยไปครั้งนี้ก็ได้ไปไหว้พระบ้างน่ะ เผื่อท่านจะช่วยให้เฮง ๆ ถูก Jackpot กับเค้าบ้าง :)) - แต่ที่ไหนได้ อย่าให้เล่าเลย >///<

--

ถึงมีเวลาแค่วันเดียว แต่ก็เก็บภาพมาได้ค่อนข้างเยอะ ยังไงจะทะยอยอัพโหลดให้ชมกันนะครับ

วัดที่ไปก็มีทั้ง วัดพระใหญ่เกาะ Lantau - วัดหวังต้าซิน (Wong Ta Sin) - วัดกังหัน (Che Kung) สองวัดหลังนี้อยู่เกาลูนนะครับ

ส่วนวัดนางชี (Chi Lin) ไม่ได้ไป เพราะกลัวกลับมาดู SOL ไม่ทัน (เห็นแสงสีสำคัญกว่าก็อย่างงี้ละ...เชอะ)

--





ปล. ภาพแนวตั้งมีบ้าง แต่กด ไว้ก็ไม่เสียหลายนะครับ ^^"

ความคิดเห็นที่ 1
เริ่มจากการเตรียมตัวก่อนไป...

การเดินทางในฮ่องกงคงหนีไม่พ้น MTR เป็นแน่ ๆ



ฮ่องกงก็เหมือนเมืองใหญ่ ๆอีกหลาย ๆที่ ที่บ้านเมืองเค้าเจริญแล้ว ระบบการคมนาคมดีเยี่ยมเข้าถึงหมด

สถานีทุกสถานีเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งช๊อปปิ้งใหญ่ ๆทั้งสิ้น แทบไม่ต้องใช้บริการ TAXI เลยทีเดียว

ใครเคยนั่งแท็กซี่ที่ฮ่องกงบ้าง ขอบอกว่าขับเร็วมาก ไม่รู้ต้นตำหรับ Fast and Furious หรืออย่างไร

Taxi ที่นี่คิดราคาจุ๊กจิกมาก เยอะกว่าสิงคโปร์อีก ต้องทำใจ ขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถ โดนบวกเพิ่มไปอีกเกือบ 100$HK T^T


ปล. อยากให้เมืองไทยมี BTS/MRT สถานีวัดพระแก้ว/สนามหลวง/ท่าพระอาทิตย์/ไชน่าทาวน์/สะพานเหล็ก/สะพานพุทธ บ้างอะไรบ้าง

--

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
วัีดต่าง ๆก็จะอยู่ตาม MTR ไปง่าย สะดวก แทบไม่ต้องเดิน

วัดพระใหญ่ - อยู่ฝั่งเกาะ Lantau ใกล้สนามบินมาก ๆ นั่งรถไฟฟ้าไปลง Ngong Ping 360' ชมวิวเพลิน ๆ แป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว

วัดหวังต้าซิน หรือหวังต้าเซียน (Wong Ta Sin) - อยู่ฝั่งเกาลูน ขึ้นจากสถานี Wong Ta Sin ได้เลย



วัดกังหัน (Che Kung) - อยู่ฝั่งเกาลูนเช่นกัน ติด ๆกับวัดหวังต้าซินนั่นแหละครับ ถ้าใครมีความเชื่อเรื่องสะเดาะเคราะห์ แนะนำให้ไปให้ได้นะครับ

ส่วนตัวเลือกพักที่ The Kowloon Hotel @จิมซาจุ่ย เพราะใกล้แหล่งท่องเที่ยว และแหล่งช๊อปปิ้ง เดินไปดู SOL ยังได้เลย ^^"

--

ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ก่อนอื่นคงต้องขอขอบคุณโปรหางแดงตั้งแต่ปีที่แล้วก่อนเลย ที่ผมสามารถต่อสู้แย่งชิงด้วยร่างอันบอบบาง จนได้ตั๋วราคาถูกมาได้ :))

แต่ที่ไม่สบอารมณ์คือ ทำไมต้องย้ายมา ดอนเมือง !!!!

ช่องเช็คอินทั้งเล็ก ทั้งน้อย แถมยังเปิดอยู่ไม่กี่ช่อง พนักงานก็มีไม่กี่คน ผมเห็นวิ่งวุ่นไปหมด ประกาศเปิดช่องพิเศษตลอดอยู่เนือง ๆ

ยิ่งไฟร์ทเช้าตอนตี 5 นี่คนเยอะมว๊ากกกก ไม่รู้จะมาใจตรงกันอะไรช่วงนี้กันหมด แนะนำว่าเผื่อเวลาไปซัก 2ชม.ได้เลย เผื่อเช็คอินไม่ทัน

ยิ่งเรื่องห้องน้ำไม่ต้องพูดกันเลย สกปรกสุด ๆ โถก็เหลือง กดชักโครกไม่ได้ แถมมี อุนจิ ลอยอร่ามเกือบทุกห้อง.... แ ห ว ะ !!!


ปล. เรื่องของเรื่องคือ (กระซิบเบา ๆ) ช๊อป Duty Free น้อยมาก เดินช๊อปไปสะใจ มีแต่คนบ่น เดินแล้วเดินผ่านไปเลย ฮา

--


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เอาน่ะ เค้าก็ย้ายมาแล้ว ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจละครับ

แค่หวังว่าเค้าจะปรับปรุงบ้าง อะไรบ้าง ถ้ามันไม่พร้อมจริง ๆก็อย่าพึ่งมาก็ได้... อารมณ์เสีย !!!!!

อีกจุดที่น่าปรับปรุง คือ ติดตั้งเครื่องเช็คพาสพอร์ตสำหรับคนไืทยเหอะครับ ที่สุวรรณภูมิก็มีแล้ว ทำไมที่ดอนเมืองไม่มี ทั้ง ๆที่คนไทยใช้บริการเยอะกว่าอีก

ชาวต่างชาติก็ไปเข้า ตม. เหมือนเดิม แต่คนไทยไม่ควรมายืนต่อแถวแล้ว หมดสมัยไปแล้วนะครับท่าน

--


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ตัดฉากกลับมาทั้งฮ่องกงดีกว่า (ติ๊งต่างว่าถึงแล้วนะ ฮา) --

วันนี้ตั้งใจไปไหว้พระ ก็เริ่มที่พระใหญ่ก่อนเพราะไกลที่สุด ถ้าคิดว่าเริ่มออกจากโรงแรม

จากจิ่มซาจุ่ย ควรเผื่อเวลาไว้เยอะหน่อยนะครับ ออกกันแต่เช้าดีกว่า แดดไม่ร้อน แถมคิวก็ไม่ยาว

อย่าลืมว่าเราต้องมาต่อ Ngong Ping Cable Car อีกร่วม ชม. นะครับ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เนื่องจากเป็น MTR สายวิ่งข้ามเกาะ เลยมีวิวข้างทางให้ดูด้วย ผิดกับสายที่วิ่งภายใน เพราะจะเห็นแต่อุโมงค์มืด ๆ

ออกมาเจอแสงสว่างบ้าง จะได้หา่ยอึดอัด ระยะทางจริงมันไกลอยู่แหละ แต่รถไฟวิ่งเร็วมาก แถมแอร์ฺเย็นสุด ๆ นั่งไปนั่งหลับไปก็เยอะ

ก่อนจะถึงสถานี Ngong Ping จะผ่่าน Disney Land ก่อนนะครับ ใครจะพาน้อง ๆ (อิ)หนู ๆไปเที่ยวก็ตามสะดวก

แ่ต่ ไ อ้ ผมมันหมดวัยไปละ ขอผ่านดีกว่า เก็บตังค์ค่าเข้ามากินหนังเป็ดกรอบ ๆ คุ้มกว่าเยอะ ฮา

--


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
แค่ 40นาที จากจิมซาจุ่ยก็มาถึงแล้วละครับ ไกลพอสมควร แต่ไม่ได้เหนื่อยอะไร

ออกมาก็เจอห้างดังเลยทีเดียว ใหญ่มว๊ากกกกก... แถมมีแต่ของถูกลดราคา เพราะเป็น outlet ใครชอบแบรนเนมนี่พลาดไม่ได้

แต่ตอนนี้เค้าคงยังไม่เปิด เข้าไปเมื่อไหร่คงโดนพี่ รปภ. หามออกมาเป็นแน่

...แล้วค่อยเจอกันตอนขากลับนะ ตอนนี้วิ่งไปเคเบิ้ลคาร์ก่อน กลัวคนเต็ม :P

--

ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
มาแต่เช้า คนน้อยจริง ๆครับ แปป ๆก็ได้ซื้อตั๋วแล้ว ไม่ต้องต่อคิวยาว ๆ

คหสต !!! ใครที่คิดว่าจะมาตั้งแต่วันแรก ลงเครื่องปุ๊ป ฝากของ แล้วมาไหว้พระเลย ผมไม่แนะนำจริง ๆนะ ถึงจะซื้อตั๋วมาก่อนก็เหอะ

ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน คนก็เยอะ ผมเห็นบางคนหอบกระเป๋าเดินทางมาด้วยซ้ำ กลับไปโรงแรมก่อนเหอะครับ ตื่นเช้า ๆค่อยมาอย่างผมดีกว่า :))

--


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คิดถึงฮ่องกงครับ
ขอตามมาด้วยชมด้วย ^ ^

ผมก็มีคิวช่วงเดือนธันวานี้ อย่าลืมแนะนำของกินอร่อยๆ ด้วยนะครับ รอกินอยู่ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
นี่ขนาดมาเช้าแล้วนะ ยังมีคนต่อคิวกันเนือง ๆ

แต่ข้อดีอีกอย่างคือเราไม่ต้องไปนั่งแย่ง cable car กับใคร

บางคันขึ้นกันแค่ 2-3คน มีที่เหลือเฟือ ไม่โดนเบียด ไม่ต้องกลัวล่วง




ปล. อย่าลืมเลือกไปยืนหลังหมวย ๆชาวฮ่องกง เผื่อได้ขึ้นคันเดียวกัน จะได้ชวนกันเม๊ามอยตามประสาเพื่อนสาวระหว่างทาง ฮา

--

ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
แป๊ะราคาตั๋ว cable car ไว้ให้ด้วยแล้วกันครับ ซื้อหน้างานก็ประมาณนี้ แต่ซื้อในเวปถูกกว่า

อย่างที่รู้กัน cable มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบมาตรฐาน กับแบบลิฟท์แก้ว (Crystal car)

แบบลิฟท์แก้วจะเป็นกระจกทุกด้าน ไม่เว้นแม้แต่พื้น นั่งไปก็หวิวไป เสียวลมพัด ก ร ะ โ ป๊ ก ปลิว ราคาก็จะสูงกว่าหน่อย ถือเป็นค่าทำเสียว

แนะนำว่าขาไปซื้อลิฟท์แก้ว ขากลับกลับแบบธรรมดา เพราะจะสวนกระแสกับคนอื่น ไม่ต้องยืนรอคิวนาน คนน้อยกว่าเยอะัครับ


ปล.ชื่อลิฟท์แก้วผมตั้งเอง ไม่ได้รับการอนุมัติแต่อย่างใด ฮา ๆ

--

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เย้ ๆ ออกเดินทางได้ซักที บั๊บบายเอาท์เล็ตของเรา เดี๋ยวจะกลับมาถลุง (เงินตัวเอง) นะ

หันกลับไปก็เจอหมอกจาง ๆ ยังลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือโรงแรมหรู ที่ตรงนี้คงอยู่สูงจริงเชียว

เวลาอยู่บนเคเบิ้ลก็ทำตัวตามสบายนะครับ ถ่ายรูปได้ปกติ แต่ขออย่างเดียว อย่ากระโดด !!! ก รู เ สี ย ว

โดยเฉพาะใครขึ้่นกับเด็กจีน แรก ๆก็ดูน่ารักหรอก แต่ซนเ้ป็นลิงจริง ๆ ทั้งกระโดดทั้งขย่ม ผมนี่นั่งเหงื่อซึมเลยทีเดียว - -"

--


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

ปล. เห้นด้วยกับ คห8 มากๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
นึกถึงเด็กแล้วอยากจับหยดยาสลบ ทำเอาเคเบิ้ลผมป่วนไปหมด อยากตะกายกระโดดลงตรงนั้นเลย (ก็ยังดีกว่าสลิงขาดละ ฟ ร่ ะ)

ลักษณะของเคเบิ้ลจะไหลไปตามลวดสลิง และมีสถานีพักเป็นระยะ ๆ

วิวระหว่างทางสวยจริง ๆครับ ผ่านทั้งเขตเมือง-ทะเล และภูเขา โดยเฉพาะภูเขาที่ยังคงสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม

--


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ผมชอบการจัดผังเมืองฝั่งนี้นะ ถึงจะมีตึกรามบ้านช่อง แต่ก็ยังอนุรักษ์ธรรมชาิติอยู่

ถึงจะตัดต้นไม้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด เค้ายอมอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

ไม่เหมือนบ้านเรา มีแต่เขาหัวโล้น ตัดถนนทีพี่ ล่ อ ไปซะครึ่งเขา แล้วจะเอาพื้นที่สีเขียวมาจากไหน

(ไ อ้ั เด็กนั่นกำลังเหวี่ยงหัวอยู่ข้าง ๆ - -")

--


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เพิ่งกลับมาจากฮ่องกง อากาศแย่มากเลยไม่ได้ไปนั่งกระเช้านองปิงเลยเสียดายมาก เห็นจขกท.ได้นั่งแล้วเสียดายเล็กๆ คราวหน้าคงต้องจัดใหม่


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
รูปนี้สำหรับ น้องนิชคุน ผมดูหนังแล้วมโนไปว่าน้องคงชอบวิ่งมาราธอนมาก ว่าง ๆลองมาวิ่งขึ้นเขาดูนะ

สำหรับใครที่ไม่อยากนั่งเคเบิ้ลเพราะกลัวเฉียว ตุ้ ด แนะนำให้ "เดิน" แทนครับ ไม่ใกล้ ไม่ไกล แค่ครึ่งค่อนวันเอง สูงว่าภูกระดึงบ้านเราไปซักหน่อย ฮา

แต่ตามรายทางผมก็เห็นคนที่เดินขึ้นมาสักการะเยอะนะครับ คนจีนเชื่อว่าวิธีนี้คงได้บุญมากกว่า ไม่ก็เป็นการแสดงความเคารพที่ชัดเจนกว่า

ส่วนตัวเอง คงไม่เอาด้วย ฉ้านมาเที่ยวนะ ไม่้ได้อยากมานอนหยอดน้ำเกลือตอนขาลง - -"

--


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
โว้วว ๆ ๆ มองเห็นพระใหญ่มาแต่ไกลแล้วครับ ห ญ่ า ย ย ย สมชื่อจริง ๆ

(ไ อ้ เด็กนั่นกำลังกระโดดโลดเต้น พร้อมชี้มือชี้ไม้ให้แม่ตัวเองดู - พระใหญ่ครับ ผมไม่ขออะไรแล้ว ขอผมรอดออกไปก่อนเถอะครับ T T)

--


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
(ไ อ้ เด็กนั่นอีกแล้ว กำลังปีนเก้าอี้พร้อมแนบหน้าติดหน้าต่าง อารมณ์อยากดูใกล้ ๆ แต่รู้ไหม มันทำให้เคเบิ้ล "เอียง" นะ อิ นู๋ T T)

จขกท กำลังเสียวล่วง ไม่อยู่ในอารมณ์บรรยาย @_@

--

ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เฮ้อออออ... โล่งใจ !! ในที่สุดก็ได้หลุดพ้นจากเคเบิ้ลคาร์สุดสยิวซักที - -"

หวังว่าขากลับคงไม่เจอน้องเค้าอีกนะ อารมณ์ประมาณ - ช่วยไป (น่ารัก) ไกล ๆหน่อย

พอลงจากเคเบิ้ลมาแล้ว สิ่งแรกที่เจอคือบริเวณร้านอาหาร และกิจกรรมแรกที่ทำก็คือ "หาอะไรทานเหอะ ก รู หิว"

ฝากรูปนี้ทิ้งไว้ตอนเที่ยง ๆละกัน ใครหิวบ้าง ยกมือขึ้น \\^^//

จขกท. ขอตัวไปหาอะไรใส่ท้องก่อนนะครับ เดี๋ยวกลับมาชวนเดินเล่นกันต่อนะครับ :))

--

ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
เข้ามาปาดทันไหมอ่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
กลับมาแล้วคร๊าฟ

แถวนี้ร้านอาหารเยอะ มว๊ากกก ร้านอาหารจีนดัง ๆก็มีนะครับ หมู เห็ด เป็ด ไก่ มันเยิ้ม ๆมีเพียบเลย

ติด ๆกันก็มีร้านขายของที่ระลึก เดินเจอร้านขายของญี่ปุ่น ก็ยังสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับฮ่องกง

สำหรับคอกาแฟก็หายห่วง มีสตาร์บั๊คให้นั่งกินชิืว ๆเช่นกัน

--


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
กินอิ่มแล้วก็ถึงเวลา "เดิน" ซักที

จากปลายทางเคเบิ้ลคาร์เดินไปองค์พระใหญ่ค่อนข้างไกลหน่อย แถมพอไปถึงต้องเดินขึ้นบันไดอีกหลายขั้น ยังไงก็เตรียมตัวกันหน่อย

อ่อ สาย ๆหน่อยแดดค่อนข้างแรง แนะนำให้นำร่มติดตัวไปด้วย เดี๋ยวผิวจะดำคล้ำ ต้องไปนอนให้หมอเอาเพชรมากรอให้อีก

--


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ประตูแต่ละแห่งที่เดินผ่าน ถือว่ามีความหมายในแง่ของฮวงจุ้ยทั้งสิ้น

อย่างที่ทราบว่าฮ่องกงเป็นเมืองแห่งฮวงจุ้ย และวัดพระใหญ่ก็ถือเป็นศูนย์รวมของพลัง เำพราะมีทั้งภูเขา และทะเลล้อมรอบ

ที่นี่จึงเหมาะจะเป็นแหล่งรับแรงอธิษฐานที่มากมาย (ไม่ใช่แรงเงานะเธอ ?!?)

--


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
และองค์พระใหญ่ก็ตั้งอยู่อยู่ยังจุดศูนย์กลางของพลังงานพอดี

จุดที่ผมถ่ายรูปตรงนี้ คือจุดที่เป็นพื้นที่สำหรับอธิษฐานขอพร เพราะเปิดรับพลังฟ้าดิน พร้อมส่งไปยังศูนย์รวมพลัง ซึ่งก็คือองค์พระใหญ่นั่นเอง

ใครที่มาก็ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ที่จะมานั่งอธิษฐานตรงจุดนี้



--


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ส่วนลานโล่ง ๆตรงนี้เป็นจุดรับไอแดด (ไม่ใช่แผงโซล่าเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์นะ)

แต่เป็นจุดที่เชื่อว่าเปิืดรับพลังฟ้า ต้องเคลียร์พื้นที่ให้โล่ง ห้ามมีเงาไม้ ให้คนเดินได้ัรับพลังงานได้อย่างเต็มที่



เพื่ออะไร ฟ ร่ ะ ???

--


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
โอ้ยยย กว่าจะเดินผ่านกลุ่มควันฉะโมงโฉงเฉงออกมาได้ เล่นเอาเมายากันไปเลย

ฉ้านไม่ใช่ยุงนะ จะได้มาจุดธูปไล่กัน แล้วธูปที่นี่ไม่ใช่อันเล็ก ๆ เหมือนจะแข่งกันใหญ่ ยังกะจุดรับพรรษาสามเดือน - -"

โผล่ออกมาได้ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาขึ้นบันไดละครับ ไ อ้ ที่กินมาเมื่อกี้ จะได้ย่อยก็ตรงนี้แหละ

บันได สูง มว๊ากกกกก แถมชันอีกต่างหาก... เอา ฟ ร่ ะ สู้ เ ฟ ร้ ย

--


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
เย้ ๆ เห็นองค์พระละครับ ใหญ่กว่าที่คิดนะ เทียบกับคนนี่เป็นมดไปเลย

จริง ๆแล้วจุดประสงค์ขององค์พระใหญ่ ไม่ใช่สร้างเพื่อให้คนสักการะบูชาหรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้นนะครับ ^^"

--


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
แต่จริง ๆแล้ว ใต้ฐานขององค์พระ ยังมี "ห้องแห่งความลับ" ฮา ๆ (อย่างกับแฮรี่พอตเตอร์)

จริง ๆคือเป็นสถานที่เก็บเถ้ากระดูก หรืออัฐิ ของผู้ล่วงลับ โดยมีองค์พระใหญ่เป็นเสมือนเทพคุ้มครองและนำทางไปสู่แสงสว่าง



--


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
ไม่น่าเชื่อนะครับ ใต้ฐานขององค์พระ จะซ่อนด้วยห้องถึงสี่ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีสิ่งน่าสนใจแตกต่างกันไป

อย่างชั้นแรกเป็นที่เก็บเถ้ากระดูก ชั้นบน ๆก็จะเป็นภาพวาดประวัติศาตร์ฮ่องกง หรือไม่ก็เป็นแหล่งรวมพระไตรปิฏกพร้อมภาพประกอบที่สวยงามมาก ๆ

พอเราขึ้นมาถึงชั้นบนสุด สามารถเดินออกมาภายนอกได้ ก็จะเห็นวิวอย่างนี้แหละครับ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
ส่วนมากจะมีแต่พวกขึ้นมาถ่ายรูป เพราะในส่วนของการจุดธูปขอพรจะอยู่ด้านล่าง (ไม่ต้องเดินขึ้นมานะ)

รอบองค์พระ ถูกประดิษฐานรายล้อมไปด้วยเทพธิดา ที่หยิบยื่นสิ่งสักการะให้ด้วยท่าทีที่อ่อนน้อม

แปลกนะ ที่นี่เค้าไม่ยักจะชอบปิดทองคำเปลวกัน ถ้าเป็นบ้านเราไม่ได้ ป่านนี้เหลืองไปทั้งตัวละ :))

--


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
อ่อ ลืมบอกไปว่าใต้ฐานองค์พระเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำทุกชั้นนะ

เดิน ๆไประวังด้วยนะครับ คนเฒ่าคนแก่ชอบขึ้นมาสวดมนต์บนนี้

เสียงสวดมนต์ กับเถ้ากระดูกมันวังเวงพิกล แต่ยอมได้ เพราะข้างนอก โ ค ต ร ร้อน

--


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
ลาจากพระใหญ่ด้วยภาพนี้แล้วกันครับ ถ่ายบน Ngong Ping 360 ^^"

--


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
จากนั้นเราเดินทางกันต่อ...

เป้าหมายต่อไปคือวัดกังหัน (Che Kung) อยู่ที่สถานี Tai Wai กลับไปฝั่งเกาลูนนู้นเลน :))

--


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
การเดินทางก็เช่นเดิมนะครับ เลือกที่จะนั่ง MTR สบายสุดครับ

จากสายสีเขียว Airport มาต่อสายสีแดงจิมซาจุ่ย และต่อสายสีฟ้าอ่อนอีกที แค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วละครับ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
พอเรามาถึงสถานี Tai Wai ก็ไม่มีอะไรมากแล้วครับ แค่เดินออกไปเจอโลกภายนอก ตัววัดก็อยู่ไม่ไกล

เห็นหลังคาสีแดง ๆเมื่อไหร่ นั่นแหละครับ ใช่เลย ^^"

--


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
มาแปะชื่อและกิ๊aไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่าน ขอแว๊บไปทานข้าวแป๊บนึง

ปล. รูปสวยมากค่าา ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
วัดกังหัน หรือ Che Kung Temple ตัววัดเป็นสีแดง เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้่แชกง ซึ่งอดีตเป็นองค์รักษ์ของฮ่องเต้สมัยราชวงค์ซ่ง

เชื่อกันว่าวัดกังหันจะช่วยในเรื่องการแก้ชง แก้เคราะห์ร้าย คล้ายกับการหมุนของกังหันให้ลมเปลี่ยนทิศ

ส่งเสริมให้กระแสลมแห่งโชคชะตาที่ดี พัดผ่านเข้ามาให้ตัว ฉนั้นใครที่เชื่อเรื่องโชคราง ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
ผนังรอบด้านของวัด ตกแต่งด้วยรูปสัตว์เทพทั้ง 4 อันแต่แก่ มังกร (อยู่แล้วละ - -") พญาหงส์ เสือ และเต่า

โดยเชื่อกันว่า สัตว์เทพทั้ง 4 ตนนี้ เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง เจริญรุ่งเรือง มั่นคง และอายุมั่นขวัญยืน

เห็นไหมครับ ว่าทุกอย่างมีความหมายทั้งนั้น คนจีนละเอียดอ่อนต่อเรื่องพวกนี้มาก

--


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
ตอนผมไป แน่นอนต้องเจอขณะทัวร์คนไทยแน่ ๆ ฮา

ยังไม่ทันคิดจบ เสียงภาษาไทยก็ดังมาแต่ไกลเชียว

"ตามธงแดงมาเลยนะเค่อะ เรากำลังเข้าไปไหว้องค์เทพแชกง อย่าแตกแถวนะเค่อะ เดี๋ยวจะหลงกัน"

(มันจะหลงยังไง ฟ ร่ ะ ทางเข้าทีทางเดียว แล้วเจ้รู้ไหม ข้างในเค้าสวดมนต์กันอยู่ เพลียจริง ๆ -"-)

--


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
คนไทยเยอะ มว๊ากกกก และเสียงดัง มว๊ากกกก

ใครว่าคนจีนชอบโหวกเหวก รู้ไว้เลยนะ ว่าคนไทยก็ไม่แพ้กันหรอก

คุยกันจุ๊กจิก ชอบเดินไปทั่ว เข้าไปได้ก็กระจายตัว ไม่สนใจว่าเค้ามีลำดับขั้นตอนยังไง

ไม่ทันไร อิ เจ้ อายุราว 40 ก็ตะโกนถาม "ธูปอยู่ไหน จะไหว้แล้ว"

(เจ้รู้ไหมว่าเค้ามีพิธีรีตรอง และข้างในเค้าก็กำลังสวดมนต์กันอยู่ ก รู ละหน่ายยยย)

--

ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
อีกสักรูปแล้วกัน กับด้านหน้าทางเข้าวัด

ด้านซ้ายคือบริเวณที่ขายธูป เทียน และด้านขวาคือที่ขายของที่ระลึก ส่วนตรงไปตรงกลางคือลานไหว้พระ ด้านในคือองค์เทพแชกงนะครับ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
เฉพาะเข้าไปแล้ว แนะนำให้ไปซ้ายมือก่อนนะครับ

ซื้อธูป เทียนแล้วทำตามกรรมวิธีที่เค้าบอก

ไม่ต้องกลัวไม่รู้เรื่อง สำหรับคนไทย มีภาษาไทยให้อ่านตลอดทุกขั้นตอน

จุดธูปกี่ดอก ปักตรงไหนบ้้าง ไปไหว้ตรงไหนก่อน จากนั้นทำอะไรต่อ เป็น step 1-2-3

ปล. มาทั้งทีอย่าลืมไปหมุนกังหันละครับ เอาโชคเอาลาภเข้าหาัตัว ^^"

--

ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
สรุปคนไทยสบายสุด ฮา ๆ

คนขายเค้าพูดภาษาไทยได้เป็นบางคำเหมือนกันนะครับ แกชวนผมคุย แต่บ่นให้ฟังว่าคนไทย "ขี้งก" บางทีเอาธูป ไม่จ่ายเงิน หรือจ่ายเงินแต่ขอเพิ่ม

บางทีแกเจอคนไทยเดินกันมั่ว ขนาดมีป้ายก็ไม่อ่าน ปักผิดปักถูก ไม่ได้สนใจเลย - -"

แล้วตามธรรมเนียม ด้านในเค้ามีระฆังให้ตีก่อนจะกลับ เพื่อบอกกล่าวเทพเจ้า

แนะนำว่า ไม่ต้องไปตีเสียงดังสนั่นถึงชั้นฟ้านะ เทวดาท่านหนวกหู เอาแต่พอดี แล้วอย่าปล่อยเด็กเข้าไปเล่น เพราะมันจะตีอย่างกับคอนเิสิร์ตบอดี้แสลม T T

--


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
สำหรับวิธีการไหว้องค์เทพแชกงคือ เมื่อเข้าไปภายใน และยืนอยู่เบื้องหน้าองค์เทพแชกงแล้ว

ให้ตั้งจิตอธิษฐานโดยอย่าหลบตา หรือก้มหน้า ให้มองจ้องไปในดวงตาของท่านตรง ๆ จากนั้นค่อยมาหมุนกังหันลมโดยใช้มือข้่างซ้าย

"มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาไม่ดี ส่วนถ้าดีอยู่แล้วก็ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย"

และจบขั้นตอนด้วยการลั่นระฆังบอกเทพเจ้านะครับ



--


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
จริง ๆแล้วอยากบอกว่า การตั้งมั่นทำความดีนั่นแหละครับ ที่จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา

เทพเจ้าอาจช่วยส่งเสริม แต่หากจิตใจเราสกปรก ต่อให้ส่งเสริมขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์

--


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
เสร็จแล้วก็ออกมาด้านนอกดีกว่า อยู่ด้านในนอกจากเมาควันธูปแล้ว ยังเมาเสียงคนไทยโวยวายอีก

เจอฟ้าใส ๆอย่างนี้แล้วค่อยดีหน่อยนะครับ ^^"

--


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
ว่าแล้วก็ไปต่อกันที่วัดสุดท้าย ไม่ว่ายังไงก็ต้องมาให้ได้ ถือเป็นการตามรอยละคร "กี่เพ้า" ที่พี่แอน ทองผสม (ไม่รู้ผสมอะไร ?!?) เล่น

>> เ้ค้าชื่อ แอน ทองประสม (ไ อ้ โ ง่ !!!)

วัดที่ว่านั่้นคือวัดหวังต้าเซียน อยู่ที่สถานี Wong Ta Sin ห่างจากวัดกังหันมาหน่อย

ติดกับวัดนี้เป็นศูนย์การค้าแอร์เย็นฉ่ำอีกแล้ว หลังจากเดินทางเหนื่อย ๆใครอยากตากแอร์ก่อนไปผจญฝูงชนก็ไม่ว่ากัน :))

--

ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
ถึงเป็นวัดเก่าแก่ แต่ก็อยู่ใจกลางเมือง ที่ล้อมรอบไปด้วยตึกใหญ่น้อย รวมทั้งห้างสรรพสินค้า

เป็นวัดที่คนเยอะมาก ทั้งไทย จีน ฮ่องกง และชาวต่างชาติ เพราะถือว่ามีชื่อเสียง

รอบ ๆวัดมีเหล่าอากง อาม่ายืนขายธูปเทียน เหมือนเด็กดอยมาแบมือขอตังค์

แนะนำว่า อย่าซื้อเด็ดขาด มันแพงมาก และที่สำคัญ ในวัดเค้ามีธูปฟรี เทียนฟรี บริการนะ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
ผมถ่ายมาแต่ทางเข้านะครับ เพราะข้างในคนเยอะมาก ไม่อยากถือกล้อง

ด้านหน้าก็เห็นปริมาณนักท่องเที่ยวแล้ว ด้านในเยอะกว่าหลายเท่า

มีเรื่องหนึ่งที่ต้องทราบ ด้านในเค้ามีลานโล่งให้เซียมซี (เซียมซีที่นี่ขึ้นชื่อว่า แม่น มาก มีบริการแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย) ซึ่งต้องเสียตังค์ หรือบริจาคเพื่อเสี่ยงเซียมซี

พี่ไทยก็ไม่เคยฟังใคร เค้าอุตส่ากั้นรั้ว พี่แกก็ดันทุรังดันรั้วจนล้ม แล้วก้ามข้ามไปอย่างกับม๊อปต่อต้านรัฐบาล (แอบการเมืิอง นิสนุง) จนพี่ รปภ. ต้องมาเชิญตัวออกไป

แล้วพี่แกยังมาบ่นว่าทำไมเข้าไปไม่ได้ ขอร้องเหอะ ดูรอบข้างเค้าบ้างว่าเค้าทำอะไรอยู่ ภาษาอังกฤษก็มีเขียนบอก อ่าน ๆกันบ้างนะครับ - -"

--

ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
ก่อนกลับก็อย่าลืมมาลูบเจ้ามังกรตัวนี้นะครับ อยู่หน้าวัดเลย

เชื่อว่าจะนำโชคลาภและโชคดีมาให้ครับ

--


ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
จบวันพอดีครับสำหรับ 3 วัดนี้

จริง ๆอยากไปต่อวัดนางชี แต่มันเย็นมากแล้วครับ มีโปรแกรมไปชม SOL ต่ออีก

เลยตัดสินใจกลับโรงแรมพักผ่อนซักหน่อย แล้วค่อยออกมาเดินช๊อปปิ้ง (ต่อ) ฮา

The Kowloon เป็นโรงแรมที่ดีมากโรงแรมหนึ่ง เพราะอยู่ใจกลางแหล่งช๊อปปิ้งของจิมซาจุ่ยจริง ๆ แถมใกล้ MTR และสามารถเดินไปชม SOL ได้ด้วย

--


ตอบกลับความเห็นที่ 53
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 54
ผมเดินออกมาด้านหลังก็เจอ Nathan Rd. แล้วครับ ห้างเพียบ ของกินเพียบ

สำหรับสาว ๆ ขอแนะนำร้านนี้เลยครับ "Bonjour" กับ "SASA" แทบจะอยู่ติดกัน

เค้าขึ้นชื่อเรื่องเครื่องสำอางค์ และ Skin care ราคาถูก มว๊ากกกก



สารภาพว่าวัน ๆก็เดินหาร้านนี้เป็นว่าเล่น เพราะแต่ละที่ ของจะไม่เหมือนกัน แนะนำที่ Time Square @คอสเวย์เบย์ นะครับ ช๊อป Bonjour เยอะมาก

--

ตอบกลับความเห็นที่ 54
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 55
## ความเห็นนี้ถูกลบ ##
ตอบกลับความเห็นที่ 55
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 56
เดิน ๆมาเจอ Lady Dior ที่สวยมาก

ตอนกลางวันเดินมาเจอก็ตกใจกับความใหญ่แล้วนะ แต่ตอนกลางคืนตกแต่งไฟแล้วยิ่งสวยแหะ

--

ตอบกลับความเห็นที่ 56
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 57
สภาพข้างเคียงก็ไม่ต่างกัน เห็น LV ยิ่งสวย ทั้งไฟ ทั้งการตกแต่ง ดูหรูไปหมด

รู้เลยว่าเศษฐกิจที่นี่ดีจริง ๆ คนออกมาต่อแถวซื้อแบรนเนมกันอย่างกับตลาดนัด - -"

ฮ่องกงจึงยังเป็นฐานใหญ่ของตลาดแบรนเนมในเอเชียอีกแห่งหนึ่ง (ถ้าไม่นับ JP/SG)


ปล. จำได้ว่าตอนไปเดิน SG เคยเห็นแย่งซื้อ GUCCI กันอุตลุด อย่างกันบาทสองบาท T T

--


ตอบกลับความเห็นที่ 57
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 58
แล้วก็มาถึงหอนา่ฬิกาซักที ผมเลือกจุดนี้เป็นจุดชมการแสดง SOL

ยังมีอีก 2 จุดนะครับ จุดแรกคือบริเวณ Avenue Star กับ อีกจุดคือนั่งเรืออกไปชมกลางน้ำ (ฟรีนะ แต่ต้องจองก่อนสองวัน ฮา) ^^"


ปล. เครดิตภาพจาก HongKong FanClub นะครับ -/\-
--

ตอบกลับความเห็นที่ 58
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 59
จุดตรงหอนาฬิกาจะเป็นลานโล่ง ๆ ที่ยกสูงขึ้นมา สามารถเห็นวิวได้กว้าง แถมเป็นจุดที่ทีการแสดงแสงสีด้วยนะครับ


ปล. เอา J1 มาลองงานกลางคืน อยากร้องไห้เพราะ noise กระจายไปป่ะ ???

--

ตอบกลับความเห็นที่ 59
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 60
ลากันด้วยภาพนี้แล้วกันครับ The Symphony of Light (SOL)

มัวแต่ดู ถ่ายไม่ค่อยทัน ฮา ๆ

แนะนำให้ไปถึงก่อนเวลาสัก ชม. งานแสดงเริ่ม 2ทุ่ม ลองไปถึงซักทุ่มกว่า ๆก็ได้ครับ เพราะจะได้จับจองที่นั่งดีดี


ปล. ส่วนตัวเฉย ๆกับการแสดงนะ แค่ตึกเปิดไฟ กับยิงเลเซอร์ สู้ City of dream ที่มาเก๊าก็ไม่ได้ อลังการกว่าเยอะเลย ^^"

--

ตอบกลับความเห็นที่ 60
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 61


แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 61
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 62
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 62
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 63
มาเที่ยวฮ่องกงด้วยคนคะ
ไม่ได้ไปนานมากแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 63
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 64
ตามมาเที่ยวฮ่องกงด้วยครับ เห้นแล้วอยากห้อยเคเบิลบ้างจัง

คงเสียวน่าดู


ตอบกลับความเห็นที่ 64
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 65
รูปสวยยยยยย

เรื่องเล่าดี

เอาไปห้ากระโหลกครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 65
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 66
รีวิวตลกดีครับ ฮ่องกง กลางวันยังร้อนใช่มั้ยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 66
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 67
ข้อมูลช่วงการเดินทางมีประโยชน์มากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 67
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 68


ลุ๊งลิ๊ง ยินดีมากครับ ตามมาเลย

ขนมหลายชั้น รีวิวของกินขอเป็นโอกาสหน้านะครับ ก้มหน้ากินอย่างเดียว เลยไม่ถ่ายรูปไว้เลย ฮา ๆ

LukieKwan ฮา ๆผมว่าแล้วต้องมีคนเห็นด้วยซิน่า ไปเที่ยวทั้งที สบาย ๆดีกว่าเนอะครับ ^^"

oummini ไปครั้งเดียวไม่เคยพอซักทีนะครับ อากาศช่วงนี้เห็นว่าเย็น ๆแล้วเนอะ

snas89Pink ทันอยู่ครับ ยินดีให้ปาดทุกด้านเลย :))

ฝนสุดท้ายเมื่อปลายกันยา ขอบคุณมากครับ ได้เข้ามาอ่านต่อหรือยังครับ ^^"

กัปตันลูกชุบ ขอบคุณที่แวะมาชมนะครับคุณลูกชุบ

ออร์-ฟิ-อุส_orpheus ขอบคุณที่แวะมาชมเช่นกันครับ

Invisible Angel ผมว่าต้องหาโอกาสไปอีกรอบละครับ แต่โปรยังหงายเงิบอยู่เลย อิอิ

ชานมชงเอง ผมว่าไ่ม่น่าจะสู้มหากาพห์รีวิวฮ่องกงของคุณชานมได้หรอกครับ :))

Spi_zy ฮาาา ขอบคุณมากครับ ว่าแต่คะแนนเต็มนี่กี่กะโหลกครับ หวังว่าคงไม่ใช่จาก 100 นะ

tottui กลางวันร้อนแดดครับ แต่กลางคืนเย็น ๆแล้ว (ตอนช่วงที่ผมไปอะนะ)

Bpearl ยินดีที่เป็นประโยชน์ครับ พยายามรวบรวมให้ได้มากที่สุด เผื่อใครจะจำไปใช้ต่อ ^^"


ขอบคุณทุก ๆความเห็นมากครับ -/\-


ตอบกลับความเห็นที่ 68
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 69
ให้รายละเอียดเยอะดีจังค่ะ ภาพก็สวย ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 69
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 70
สนุกมากครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 70
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 71


mirbig เป็นคนเก็บรายละเอียดเยอะไปหน่อยอะครับ เวิ่นเว้อไปเรื่อย ฮา ๆ

Akey_Akey ขอบคุณมากครับ ^^"


ขอบคุณทุก ๆความเห็นมากครับ -/\-


ตอบกลับความเห็นที่ 71
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 72
รีวิวเยี่ยมอย่างนี้อย่าลืมมารีวิวบ่อยๆนะัครับ เนื้อหาน่าติดตามมาเลย อ่านสนุกมีอารมณ์ขันดีเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 72
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 73
ภาพสวยคมชัดทุกภาพเลยค่ะ
มาเที่ยวฮ่องกง ต้องพูดเสียงดังๆ แข่งกับคนจีนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 73
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 74
เพิ่งไป HK กับหางแดงมาเหมือนกัน
เคืองหางแดงที่สุดก็ตอนขากลับ ปล่อยให้ไต่บันไดลงมาต่อรถ ฝนก็ตกปรอยๆ เซ็งเลย
ส่วนนกแอร์ที่ตามหลังมาได้ใช้งวงช้างสบายไป

ถ่ายรูปสวยจัง ถามว่าเห็นหมาๆ บนลาน ก่อนปีนบันไดไปไหว้พระใหญ่ไหมคะ ตัวใหญ่ฟูน่าดู ไม่รู้ใครเลี้ยง

สำหรับเราแล้ว HK ของไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ เดินกันปวดเอวปวดขาตั้งแต่ครึ่งวันแรก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่อยากได้กอเอี๊ยะมาแปะรอบเอว


ตอบกลับความเห็นที่ 74
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 75


ลูกจ้างมืออาชีพ ๆขอบคุณมากครับ

noviechan คนจีนชอบตะโกนโวยวาย แต่คนไทยชอบตะโกนเอานู้นเอานี่ ฮา ๆ

be_NgaM ความรู้สึกเดียวกันครับ กลับถึงโรงแรมแล้วอยากแช่น้ำอุ่นให้หายเมื่อย อิอิ

ขอบคุณทุก ๆความเห็นมากครับ -/\-


ตอบกลับความเห็นที่ 75
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 76
ไม่มีรูปสาวหมวยฮ่องกงให้ดูบ้างหรอครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 76