ภาษาไม่แข็งแรง

ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ จะไปเรียนภาษาที่อเมริกา แต่ตอนนี้ภาษายังไม่แข็งแรงเลย พูดได้บ้าง ฟังได้บ้าง นิดๆหน่อยๆ (ครั้นจะให้ไปเรียนภาษาที่เมืองไทย คงไม่ทันแล้ว เพราะกำลังจะไปแล้วค่ะ)

ถ้ามีคำแนะนำในการใช้ชีวิต การเรียนที่นั่น ได้บ้างก็ยังดี

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

ความคิดเห็นที่ 1
คำแนะนำแรกคือ พูดภาษาไทยตอนอยู่อเมริกาให้น้อยที่สุดครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เห็นด้วยครับ แล้วก็อย่าอาย ฟังไม่รู้เรื่อง ถามซ้ำๆ จนชินกับภาษาเค้า พูดช้าๆ ไม่ต้องรีบ ชัดๆให้เค้าฟังเข้าใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คห.แรกถูกเลย เป็นคำแนะนำแรกๆที่ผู้ใหญ่หลายท่านให้ผมไว้ก่อนเดินทางมาเรียนต่อที่ยุโรป

อย่าพยายามเจอคนไทย (แต่ไม่ไ้ด้แปลว่ารังเกียจ) เพราะคนไทยไม่ได้ช่วยให้เราพัฒนาภาษา คนไทยไม่ได้ช่วยแก้รูปประโยคหรือ accent ที่ผิดได้ีีีดีเท่าฝรั่ง (ไม่ได้แปลว่าคนไทยไม่เก่งนะครับ) ที่สำคัญความเป็นไทยทำให้เราพูดอะไรตรงๆไม่ได้

คนไทยหลายคนแชร์บ้านกันเพราะคิดว่าอุ่นใจ ไม่ต้องปรับตัวมาก ทำกับข้าวไทยเหมือนกัน ไม่ต้องมีคนร้องยี้!เวลาได้กลิ่นน้ำปลากะปิ แต่เวลามีคนทำบ้านรก สกปรก เปิดไฟทิ้งไ้ว้ ใ้ช้ห้องน้ำไม่เอาฝารองนั่งขึ้น ไม่เก็บเศษผมหรือเศษหนวดที่โกนในอ่างล้างหน้า ฯลฯ คนไทยทนๆๆๆๆๆๆๆอย่างเดียว ไม่พูดเพราะกลัวขัดใจ แล้วเลยกลายเป็นอยู่ด้วยความเก็บกด (ทั้งๆที่เสียตังค์) ขอแนะให้แชร์บ้านกับฝรั่ง ถึงแม้จะเหมือนซื้อล็อตเตอรี่เพราะมีโอกาสเจอคนไม่ถูกจริต แต่เราพูดกับเขาตรงๆได้ "นี่ๆเธอ กินข้าวแล้วล้างจานด้วยอย่ากองไว้ในอ่างแบบนี้ ฉันใช้ต่อไม่ได้" "ไฟห้องที่เธอไม่ได้อยู่ ออกมาแล้วปิดด้วย ค่าไฟแพง ฉันต้องจ่ายเหมืือนกัน" ประโยคแบบนี้เ็ป็นประโยคต้องห้ามในบ้านคนไทย แต่คุณจะพูดได้อย่างมีความสุขในบ้านฝรั่ง

แต่ไม่ได้หมายความว่าให้หนีจากคนไทย คบหาเจอะเจอได้เอาไว้เป็นเพื่อนคุย เพื่อนปรับทุกข์เวลาคิดถึงบ้าน แต่ไม่ใช่ชวนกันสร้าง"สมาคมสยาม" เจอกันสามเวลาหลังอาหาร

เรื่องฝึกภาษา ขอให้เข้าประจันหน้ากับฝรั่งในทุกสถานการณ์ พูดถูกพูดผิดก็ต้องพูด และถ้าอยู่ในสักพักหนึ่งพอมีเพื่อนฝรั่งที่ไว้ใจสนิทกันก็บอกเขาเลยว่า "ถ้าฉันพูดผิด ออกเสียงผิด stress แปร่งพิสดาร ให้บอกให้แก้ด้วย เพราะถ้าเพื่อนไม่แก้แ้ล้วใครจะแก้"

อยู่บ้านอย่าเปิดแต่ยูทูปดูละครไทย (อันนี้รู้สึกว่าหลายคนเกินไปแล้วจริงๆ รู้หมดว่า"แรงเงา"ถึงไหน พระเอกทำอะไร แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเมืองหรือรัฐที่ตัวเองอยู่มีเหตุการณ์ประท้วงหรือเหตุการณ์น่าสนใจอะไรบ้าง) เปิดโทรทัศน์ไว้ฟังสำเนียง รายการที่ควรดูคือ "ข่าว" เพราะคุณได้เห็นภาพและเสียงพร้อมๆกัน ไม่รู้คำศัพท์แต่เห็นภาพก็เป็นการฝึกเดาได้ วันนี้ฟังออกสองประโยค ผ่านไปหลายๆเดือนคุณจะฟังได้ยาวขึ้นอย่างไม่เชื่อตัวเอง รายการ soap opera คนมีภูมิปัญญาที่นั่นไม่ค่อยดู แต่เราต่างชาติควรดูไว้บ้างเพราะเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ทั้ง slang สำนวนน่ารู้ ภาษาตลาด ภาษาจิ๊กโก๋ท้องถนน บางคำไม่เข้าใจ หาใน dict ก็ไม่เจอก็จดมาถามเพื่อน ได้ความรู้ไปอีกอย่าง อาจสลับบรรยากาศด้วยการเปิดวิทยุคลอเวลาทำกับข้าวเพื่อฟังข่าวสาร สำเนียง เพลง ฯลฯ ด้วย

นี่เป็นคำแนะนำ่ส่วนหนึ่ง..จากพี่แก่คนหนึ่งซึ่งมาอยู่ยุโรปตั้งแต่ยุคที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์แพงมหาโหด และ fade จากวงคนไทยเพื่อทุ่มเทให้เรื่องเรียน โดนเม้าท์ว่ารักสันโดษไม่เอาคนไทย...แต่สุดท้ายความภูมิใจที่ได้คือ...เอาตัวรอดได้ (แต่"กลุ่มรักเมืองไทย"หลายคนร่วงและร่อแร่) และมีภาษาที่เจ้าของภาษาชมว่าพูดภาษาเขาได้อย่างคนมีความรู้และการศึกษา หรือถูกจิ๊กโก๋เจ้าถิ่นแซวก็ยังฟังออกเถียงได้

ขอให้โชคดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
อย่าอายค่ะ พูดไปเลย ผิดถูกดิฉันเชื่อว่า เจ้าของภาษาเขาพยายามเข้าใจนะ
ดูทีวี ฟังวิทยุ อ่านหนังสือ ฝึกทุกวัน เดี๋ยวก็เจ๋งค่ะ
สำหรับตัวดิฉันเอง ติดต่อกับฝรั่ง ไม่เข้าใจอะไรก็จะถาม ให้เขาพูดช้าๆหน่อย หรือไม่ก็ให้เขาใช้ศัพท์ที่เข้าใจง่ายๆ อะไรทำนองนี้แหละค่ะ และจะบอกเขาเสมอว่า ดิฉันพร้อมเรียนรู้ภาษา เรียนรู้เรื่องต่างๆ กรุณาแนะนำด้วย แล้วยิ้มหวานๆ สวยๆ เสน่ห์ญไทย ฝรั่งช ญ ตกหลุมทั้งนั้นแหละค่ะ
จขกทสู้ๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
การเรียนรู้ขึ้นอยู่กับคนแต่ละคน ค่ะ อยากจะบอกว่า ดิฉันก็อยู่บ้านคนไทย แชร์ห้องคนไทย แต่ดิฉันพูดภาษาอังกฤษค่ะ ไม่เห็นแปลกนิค่ะ ...งั้นเด็กต่างจังหวัดที่พูดภาษาอังกฤษเก่งๆๆ เค้าอยู่กับฝรั่งหรือเปล่าล่ะค่ะ คิดแต่ว่ามาเมืองนอกแล้วต้องได้ภาษากลับไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพยายามและความเอาใจใส่ เวลาออกเสียงให้ใส่จริตเข้าไปเยอะๆๆเลยค่ะไม่ต้องอาย


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ที่พี่ข้างบนว่ามาโดนใจเราเลยค่ะ เรื่องสังคม thai town 555
จขกท ต้องลองหากิจกรรมที่จะช่วยให้เราสนใจภาษามากขึ้นด้วยค่ะ ฟังเพลง ดู series หรือ join club ภาษาอังกฤษ
หัดอ่านดิก อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังข่าว เพราะจะช่วยให้ได้ภาษาที่เป็นทางการด้วยค่ะ
ถ้า จขกท ตั้งใจไปเรียนภาษา ก็เป็นโอกาสดีแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวล ถ้ามีปัญหาก็ให้ปรึกษาครูที่ รร ค่ะ
เพราะครูที่สอนภาษาเค้าเจอเด็กต่างชาติมาเยอะ เค้าเข้าใจค่ะ
แต่ถ้าจะไปเรียนต่อ uni หรือไปทำงาน อันนี้อีกเรื่องนึง เพราะจะต้องการ skill ทางภาษาที่ดีมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

อันนี้เล่าให้ฟังนะคะ ของเรากลับกัน คือเราคิดว่าเรามีพื้นฐานทางภาษาค่อนข้างดี แต่ชอบมีปัญหาด้านการพูดอยู่บ่อยๆ
อย่างเมื่อก่อนเราจะมีเกร็งนิดๆเวลาเจอฝรั่งแปลกหน้า แต่เวลาพูดกับเพื่อนฝรั่งที่สนิทกันก็จะพูดได้ลื่นไหล
หรือเวลาพูดกับคนชาติอื่นที่ไม่ใช่ native speakers จะพูดได้ดีเป็นพิเศษ

เราลองสังเกตุตัวเองแล้วสรุปได้ว่า ความมั่นใจ เป็นสิ่งสำคัญมากเวลาพูดภาษาอังกฤษค่ะ
อีกอย่างเราเป็นคนชอบพูดรัวๆและพูดในลำคอ ก็ต้องพยายามปรับให้พูดช้าและชัดขึ้นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
หลานสาวไปเรียนที่เมกา ฉันห้ามแชร์ห้องพักกับนักเรียนไทย แกก็ไปแชร์กับนักเรียนญี่ปุ่น อย่างน้อยก็ยังได้คุยกันด้วยภาษาอังกฤษ ส่วนสำเนียงก็ต้องไปฝึกฝนเอาจากสิ่งเแวดล้อมอื่นๆ เช่นการคุยกับนักเรียนอเมริกัน และฟังข่าวจากการ ฟังวิทยุและดูทีวีเป็นต้น


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ดูหนัง ฟังข่าว ฟังเพลง ภาษาอังกฤษล้วน ๆ และทุก ๆ วันค่ะ
และพยายามคุยสื่อสารกับเพื่อนต่างชาติให้มากที่สุด


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
บางคำออกเสียงยาก หรือ มีคนสอนให้พูดให้ถูก เช่นคำที่มีหลายพยางค์ จะต้องออกเสียงอย่างไร ผมจะออกเสียงคำๆนั้น สิบ ยี่สิบ ครั้ง เพื่อเวลาพูดเราจะได้ไม่ต้องคิด ให้มันออกมาโดยอัตโนมัติ

การเรียนนั้น ทุกๆอย่างขึ้นกับตัวเรา ถ้าเราใส่ใจ พยายามพัฒนาตัวเอง จะแชร์ห้องกับใครก็ไม่สำคัญมากนัก จะกับคนไทย หรือ คนชาติอื่น ก็แล้วแต่ แต่ถ้าเราพยายามเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่บังคับให้เราใช้ภาษาอื่น นอกจากภาษาไทย ย่อมจะดีกว่า ได้รับการฝึกฝนมากกว่า เพราะฉะนั้น ถ้าเลือกได้ เลือกไปอยู่กับคนต่างชาติจะดีกว่า

มีความเห็นอันนึงที่บอกให้อ่าน dictionary ผมเห็นก็มีแต่คนไทยแหละครับ ที่อ่านกัน ตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว คนชาติอื่นที่เค้าเรียนภาษาอังกฤษ ไม่เห็นมีใครเค้าทำกัน

ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
จขกท ก็ลองไปเป็นวาลันเทีย ตาม ห้องสมุด/วายเอ็มซีเอ/โรงเรียนเด็กเล็ก หรือเสิร์ชเองงานวาลันเทีย ในเว็บวาลันเทียดอทคอมมั๊ง หรือใน เครกลิสท์ก็ได้

ได้ ปสก ดี ได้ทำประโยชน์ด้วย ได้ภาษาด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
#9 หมายถึงความเห็นของเราหรือเปล่าคะ

เรื่องอ่านดิกเนี่ย เราก็ไม่ทราบว่าคนไทยคนอื่นชอบทำเหมือนกันหรือเปล่า
เพราะเป็นความชอบส่วนตัวสมัยเด็กๆที่ต้องอ่านดิกก่อนนอน (คือสมัยก่อนตอนยังไม่มี talking dict หรือ online dictionary เราก็นั่งอ่านหนังสือไปเปิดดิกไป
จนไม่มีอะไรจะให้อ่านแล้ว ก็เลยอ่านดิกมันซะจนติดเลย 555) ซึ่งคิดว่ามันให้ผลดีกับเราพอสมควร
แต่ก็ไม่ได้จำได้ทุกคำ อันนั้นก็เกินไป แต่นับว่าทุกวันนี้ใช้ดิกน้อยมาก จนถึงไม่ใช้เลย
และแม้แต่เพื่อนฝรั่งหรือ housemates ที่เป็นนักศึกษา เวลาทำ assignment ยังชอบมาถามศัพท์ระดับยากน้อยถึงยากมากกับเราบ่อยๆ
ทุกวันนี้ได้แต่เศร้า อุตส่าห์มาแชร์บ้านกับเพื่อนฝรั่ง แทนที่เราจะได้เป็นฝ่ายถามมัน มันดันมาถามเราซะงั้น 555


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
I think using talking dictionary accompany by listen to radio news broadcasting and news channels on tv such as CNN or BBC are actually very helpful.


Although some might be too arrogant to accept that learning various words in the same meaning apart from technical words helps for academic writing. Imagine you have to write 5000 words essay, you can't keep open the new paragraph the same way you did previously. So, if you learn more then you will know more.


More importantly, you have to use English in every way while living there as much as you can even when you are thinking about something inside your head. Try to make new friends especially foreign friends (the one that will have good influence on you of course, not the junky ones).


Good luck.


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
จขกท: จะไปเมื่อไรค่า ไปรัฐไหน เราก็ใกล้แล้วเหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 13