Toggle navigation
หน้าหลัก
ตั้งกระทู้ใหม่
ติดต่อเรา
Login
Register
ศึกษาต่อต่างประเทศ
มันเป็นไปได้มั้ยคะที่ว่าเรียนจบป.เอกแล้ว แต่จะขอทุนเรียนโทหรือเอกอีก
มันเป็นไปได้มั้ยคะที่ว่าเรียนจบป.เอกแล้ว แต่จะขอทุนเรียนโทหรือเอกอีก
ถ้าสมมติว่าเรียนกำลังเรียนป.เอก หรือเพิ่งจบป.เอก แต่อยากขอทุนเรียนโท หรือเอกอีกใบ มันพอจะมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยคะ ถ้าหากเรายังอายุไม่มาก (ไม่เกิน 30)
คือว่าตอนนี้เราศึกษาเรื่องหนึ่งอยู่แต่เป็นมุมของเอเชีย ซึ่งหัวข้อนี้เป็นเรื่องที่ทางยุโรปให้ความสนใจและมีการศึกษามาก พอดีเราได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับมหาลัยทางยุโรป แล้วเรารู้สึกว่ามันใช่เลย น่าสนใจมาก มันค่อนข้างต่างจากมุมของเอเชียที่เราเคยเรียน เราอยากเปิดมุมมองความรู้ของตัวเองเพิ่มอีก แล้วก็สนใจทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิตของทางนู้นด้วย เลยอยากไปเรียน หรือใช้ชีวิตที่นู้นบ้าง แต่ก็มีปัญหาคือเรื่องทุนทรัพย์ ถ้าจะให้ไปเองคงไม่มีค่าใช้จ่ายพอ ส่วนทุนต่างๆ ก็มีเป็นทุนโท-เอก พวกโพสด๊อกที่ให้ค่าใช้จ่ายโคฟเวอร์หมดมันมีน้อยกว่า แล้วพอดีสาขาที่เราจบโทมามันไม่เข้าพวกด้วย เลยคิดว่าถ้าเป็นไปได้อยากไปเรียนโทใหม่ ซึ่งสาขาใหม่ที่จะเลือกเรียนจะเชื่อมวุฒิตรี กับเอกเราให้มันไปทางเดียวกัน หรือจะให้เรียนเอกอีกใบก็ได้ เรายินดี
แบบนี้ถ้าไปขอทุน มันพอจะมีโอกาสมั้ยคะ และถ้าจะขอทุนต่อโท เราควรจะบอกเขามั้ยว่าเราจบเอกแล้ว หรือถ้าเราไม่บอก แล้วในประวัติเราช่วงที่มันว่างเว้นไป 3-4 ปี เขาก็ต้องสงสัยว่าเราหายไปไหน เราจะทำยังไงคะ มีใครเคยได้ทุนซ้ำ หรือมีคนรู้จักที่ขอทุนเรียนซ้ำมั้ยคะ มันพอจะมีโอกาสเป็นไปได้มั้ย
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องอื่นไม่รู้นะคะ ไม่มีประสบการณ์ แต่ขอเตือนไว้อย่าง อย่าโกหกคณะกรรมการเลือกค่ะ ยิ่งเป็นประวัติที่มันชัดเจนโจ่งแจ้งอย่างประวัติการศึกษาเนี่ย คิดไม่ออกเลยว่าคุณจะไปปิดยังไงให้มิด (ยกเว้นแต่คุณจะเป็น CIA)
คืออย่าคิดว่าเค้าจะสืบประวัติคุณเองไม่ได้นะคะ แค่คุณไม่บอกไม่ได้หมายความว่าจะจบอยู่แค่นั้น คนเขาออกเงินให้คุณเรียน เขาคงไม่แ่ย่ชายตาแลประวัติคุณผ่าน ๆ แล้วก็ให้ตังคุณหรอก ยิ่งมีพิรุธซะรูเบอเร่อขนาดนั้น ยังไงเขาต้องรู้แน่ แล้วก็จะคิดไปได้สองทาง ทางแรกคือคุณสะเพร่าเผลอเรอ (อย่างหนัก) อย่างที่สองคือประวัติคุณช่วงนั้นมันอาจจะแย่มากสุด ๆ ซะจนไม่กล้าใส่ลงมาใน profile ไม่ว่าจะทางไหนคุณก็อ่วมแน่ทั้งสองทางค่ะ
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าการมีดีกรีเอกมาแล้วไม่น่าจะเป็นอุปสรรคอะไรต่อคุณเลย เผลอ ๆ จะเป็นจุดแข็งของคุณด้่วยซ้ำไป อย่างน้อยก็เป็นเครื่องการันตีว่าคุณมีคุณสมบัติถึงพอจะเรียนเอกได้ เนื่องจากเคยผ่านมาได้แล้วจนจบ ถึงจะต่างสายกันก็เถอะ ส่วนตัวคิดว่ามีแต่ได้ด้วยซ้ำไปค่ะ แต่ทั้งนี้รอความเห็นของท่านต่อไปดีกว่าค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 1
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 2
เรื่องแบบนี้ ทำไม จขกท ต้องสมมุติด้วย รอให้ถึงเวลาจริงๆดีกว่านะ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณมากค่ะ
เรื่องโกหกจริงๆ เราคงไม่กล้าหรอกค่ะ เพราะอย่างที่บอก ช่วงที่ว่างเว้นไปเรียน เขาก็ต้องสงสัย แล้วถ้าเกิดได้ไปเรียนขึ้นมา ยังไงต้องมีคนรู้แน่นอน
เรียนคห. 2 คือเราอยากไปเรียนมากๆ จริงๆ นะคะ เลยต้องคิดและก็วางแผนล่วงหน้า เพราะถ้าไม่เรียนต่อก็ต้องวางแผนเรื่องงาน แต่อยากได้ทุนเรียนอีก ก็ต้องเตรียมตัวขอทุน เตรียมหาข้อมูลล่วงหน้า ซึ่งเราไม่มั่นใจเลยว่าจะได้
ขอบคุณทั้งสองท่านมากนะคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 3
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 4
หลักทั่วไปของการพิจารณาให้ทุน ทีใช้เป็นแนวทางการทำงานของกรรมการ
คือ ความเหมาะสม และยุติธรรม
เกณฑ์ทั้งสองจะไปด้วยกัน
ถ้าคุณสมบัติของผู้ขอทุน อย่างใดอย่างหนึ่งดี อีกอย่างมักจะดีด้วย
ความเหมาะสม ประกอบด้วย:
ความเหมาะสมด้านการเรียน
บุคคลิกภาพ.......ดูยากมาก ตอนสัมภาษณ์ดี หลังได้ทุนอาจเปลี่ยนไป
ความต้องการของหน่วยงานที่รองรับหลังจากเรียนจบ
ความยุติธรรม ประกอบด้วย:
ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์ความเหมาะสมแล้ว
ไม่ไปขัดขวางโอกาสของคนที่เหมาะสมกว่า
สมมติเช่นกัน
ถ้าผมเป็นกรรมการพิจารณาทุน
ความเหมาะสม:
ด้านการเรียน ความสามารถไม่ใช่ปัญหา อย่างน้อยกำลังเรียน ป. เอก อยู่
บุคคลิกภาพ ติดใจทัศนคติแบบกินรวบของเจ้าของกระทู้
และ commitment ต่อการเรียน อนาคตอาจเปลี่ยนอีก หากมีอะไรดีกว่า
สรุป ผมติดใจประเด็น บุคคลิกภาพ ของคุณมากที่สุดครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 4
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 5
ตอบคห.4 นะคะ
มูลเหตุที่เราอยากเรียนโทอีกใบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเราพื้นความรู้ทางด้านนั้นไม่แน่นด้วยค่ะ เลยอยากไปเริ่มเรียนตั้งแต่ทฤษฏีพื้นฐาน ประกอบกับว่าที่ผ่านมาเราเต็มอิ่มแล้วกับศาสตร์ตะวันออก เราอยู่กับเรื่องตรงนี้มาแปดปีแล้ว พอเราได้ไปเห็นการศึกษาเรื่องนี้ของทางตะวันตก มันแปลกออกไป รวมไปถึงรูปแบบการเรียน การเปิดกว้างทางความคิด การเป็นตัวของตัวเอง มันเป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทายมาก มันไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่านะคะ แต่เป็นสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยเจอหน่ะค่ะ มันเลยออกแนวตื่นเต้น สนใจ และมันคงจะดีถ้าเราได้มีโอกาสเรียนรู้ทั้งในมุมของตะวันตกและตะวันออก ได้เห็นความเหมือน-ความต่าง
ถึงแม้ว่าเราจะกำลังเรียนเอกอยู่ แต่บอกตามตรงเลยนะคะ ว่าเราไม่ใช่คนเก่ง เรียนไม่เก่งเลย ที่ผ่านมาต้องอดทน และพยายามอย่างมาก เรามีความตั้งใจค่ะ แอดไวเซอร์เราทราบดีว่าเราไม่ใช่คนเก่ง เราเรียนข้ามสาขา เราไม่มีพื้นความรู้ แต่เรามีความพยายาม เราพยายามจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาเราก็รู้ว่าตัวเราพัฒนาขึ้นมาก เหมือนมีดที่ต้องค่อยๆลับ ถึงจะคม
ส่วนเป้าหมายในชีวิตเราจริงๆ อยากกลับไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยค่ะ ซึ่งมันคงจะดีกว่า ถ้าวุฒิตรี - โท - เอก เป็นไปในแนวทางเดียวกัน วุฒิตรีกับเอกของเราเป็นสาขาเกี่ยวกับสังคมศาสตร์ แต่วุฒิโทเป็นสาขาวรรณคดี มันโดดออกมาซึ่งเราก็มีเหตุผลนะคะว่าทำไมเราถึงเรียนสาขานั้น แต่ถ้าจะให้อธิบายตรงนี้ก็คงยาว แหะๆ
ตอนนี้เราได้ทุนเรียนป.เอก จากรัฐบาลประเทศหนึ่งอยู่ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เราคิดว่ามันคือที่สุดแล้ว เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วสำหรับเรา เราคิดว่าในชิวิตนึง คนเราคงไม่โชคดีอะไรหลายๆครั้ง เราเคยได้ทุนแล้ว โอกาสที่จะได้ทุนอีกคงน้อย ถึงแม้จะคนละทุน คนละประเทศกันก็ตาม กรรมการคงคิดว่าเอาโอกาสนี้ไปให้คนอื่นดีกว่า หรือกรรมการอาจจะมองว่าจบแล้วจะมาเรียนอีกทำไม เราก็ไม่รู้ว่าเราคิดถูกมั้ยนะคะ แต่เราคิดว่าคนส่วนมากคงคิดแบบนี้และเราก็เข้าใจค่ะ ว่าควรจะกระจายโอกาสให้คนอื่นบ้าง ในส่วนการพิจารณาให้ทุนเราก้ไม่ทราบว่ากรรมการคัดผู้สมัครยังไง แต่ถ้าการที่จบแล้วมาขอทุนเรียนใหม่ไม่มีผลกับการขอทุน หรือถ้ามีเหตุผลที่ดีหรือมีคุณสมบัติที่เหมาะสมก็มีโอกาสที่จะได้ทุน เราจะได้เดินหน้าอย่างเต็มที่ แต่ถ้าโอกาสน้อยเราจะได้เตรียมใจค่ะ
ยังไงต้องขอบคุณ คห.4 อีกครั้งนะคะ ^^
ตอบกลับความเห็นที่ 5
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 6
ผมอยากทราบว่า เคยคิดไหมคับว่า เรียนจบแล้วจะทำอะไร
ตอบกลับความเห็นที่ 6
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
Copyright 2024 by pai-nok.com