อยากไปญี่ปุ่นแบบนี้ คิดว่าแปลกไหม ?

เป็นความคิดที่ดีมากค่ะ อยากไปแบบนี้เหมือนกัน แต่ยังไม่สามารถ

การไปใช้เวลา...ในที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ เราได้เอาสมองโล่งๆ(หมายถึงไม่ได้เอาเวลาหรือกำหนดการหรือแพลนอะไรไปบีบบังคับ) ไปถึงก็ ไปใส่ข้อมูลต่างๆ เช่น วัฒนธรรม การกินอยู่ การดำเนินชีวิต ความรู้สึกของเรา นิสัยใจคอคนต่างถิ่น ฯลฯ

ชอบค่ะ Free style ดีค่ะ

คิดเหมือนเลยคะ จะไปเดือนกุมภาก็เป็นแบบที่เจ้าของกระทู้บอกเลย แบบนี้เลยจริงๆ แหมเจอคนความคิดเดียวกันเลย

ไม่แปลกหรอก
ชะโงกทัวร์ VS. Slow Travel มันไม่เหมือนกันแต่มีเสน่ห์ทั้งสองแบบ
อยากทำบ้างนะ ลองใช้ชีวิตเหมือนการ์ตูนที่เราอ่านตอนเด็ก
ติดแต่ที่งบน้อย ถ้าจะไปทั้งทีต้องคุ้ม อยากเห็น โน่นนี่ไปหมด

เพิ่งไปทำแบบนั้นมา สนุกดี
ไม่เครียด ไม่มีจุดหมาย
อยู่กับสังคมของเค้า
ดูการใช้ชีวิต สนุกไปอีกแบบ

ไม่แปลกเลยค่ะ มีหลายคนทั้งคนไทย และ คนต่างชาติที่เขาเที่ยวกันแบบนี้ เราก็เที่ยวแบบนี้ค่ะ ไปเปลี่ยนที่กิน
เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนที่นั่งกินขนม ดื่มชา ดื่มกาแฟ นั่งไถไอแพด ไปดูละคร ไปพิพิธภัณฑ์ ไปตลาด ไปทำความรู้จักกับผู้คน
ทำความรู้จักเมืองอื่นๆ ไปตระเวณกิน ไปเปลี่ยนที่นั่งเฉยๆ เพื่อนั่งดูแดด ดูลม ดูฟ้า ดูฝน ดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูพระอาทิตย์ตก
ไปอัพเดทความเป็นไปของบ้านเมืองอื่น ไปซื้อของแต่งบ้าน ซื้อของกินของใช้ในครัว และ เราไม่ชอบเที่ยวแบบรีบๆ ค่ะ
บางทริปบางเมืองจึงเลือกที่จะไปอยู่โฮมสเตย์แทนการอยู่โรงแรมด้วย

บางทริปเนี่ยเราไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ หรืออาจจะถ่ายรูปแค่ใบเดียวเอง หรือ แค่สิบใบ เพราะบางครั้งก็ขี้เกียจถ่ายรูปค่ะ
อยากอยู่นิ่งๆ และเราไม่ใช้เฟสบุ๊ค ไม่มีบล็อก ไม่มีอินสตาแกรมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เคยทำรีวิวที่ไหนทั้งสิ้นค่ะ และ ไม่เคยถ่าย
รูปในเครื่องบินด้วย _แบบนี้แปลกกว่าไหมคะ

งั้นผมแปลกกว่าอีกครับ

ไปฮาวายสามวันสองคืนเพื่อเดินเล่นแถวหาดไวกิกิ แม้แต่ทะเลก็ไม่ได้ลงเพราะขี้เกียจ(แต่ไม่ใช่ครั้งแรกๆที่ไปก็เที่ยวนั่นโน่นนี่เยอะอยู่) ไม่นับรวมเมืองอื่นอีกบ่อยครั้ง

จำได้ครั้งหนึ่งช่วงกำลังฮิตแดนบราวน์ พกดาวินชี่โค๊ดไปด้วย ปรากฏว่าไปนอนอ่านดาวินชี่โค๊ดที่โรงแรมแล้วกลับเฉยเลย

นั่งเครื่องเกือบสิบชั่วโมง ไปกลับเกือบวัน เป็นครั้งแรกครั้งเดียวที่รู้สึกเสียดายค่าตั๋วเครื่องบิน 5 5 5

ถ้าชอบก็ทำเถอะ

เราทำแล้วมีความสุขก็ OK ละ

แปลกหรือเปล่า? อย่าสนใจเลย

ไม่แปลกเลยค่ะ แนะนำให้ลองดูค่ะ
เรื่องค่าใช้จ่าย ระหว่างไป 10 วัน กับ 1 เดือน ต่างกันไม่มากเลยค่ะ สำหรับเราน่ะ ค่าใช้จ่ายพอๆกันเลย
อยู่นานจะหนักค่าที่พัก แต่ค่าใช้จ่ายรายวันไม่มาก เพราะไม่เทียวทุกวัน
อยู่นานพักพวก service apartment ทำอาหารเองได้ เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆครบ เหมือนอยู่บ้านเลย
เราอยู่คนเดียวค่าใช้ค่าแพงหน่อย แต่ถ้ามีคนมาด้วยก็ประหยัดได้อีก

ตอนนี้กำลังอยู่ญี่ปุ่นมาได้ 10 กว่าวันละค่ะ เพลนมาอยู่ที่นี้ เดือนกว่านิดๆ
เคยมาญีุ่ปุ่นก่อนหน้านี้มาแล้ว 2 ครั้ง ประมาณครั้งละ 10 วัน รู้สึกว่าสนุกมาก แต่เหนื่อยค่ะ ออกเที่ยวทุกวัน

รอบนี้มาแค่เปลี่ยนที่นอน จริงๆ ค่ะ ขออยู่แค่ที่โตเกียว อาจไป day-trip เช้า-เย็น แล้วกลับบ้าน
แนะนำให้เลือกที่พัก อยู่ในย่านที่คุณชอบเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียค่าเดินทางอีก

ตอนนี้พักอยู่ตรง อากิบะ เลย ชอบมาก เดินดูของเล่น ไปเรื่อยๆ ตอนออกไปหาไรกิน
ออกไปเที่ยวที่อื่นบ้าง แต่ไม่ทุกวันค่ะ วันไหนฝนตก ก้อเดินเล่น นอนเล่น แถวนี้

อย่าง 2-3 วันนี้นอนเล่นอยู่บ้าน เดินออกไปกินข้าว นั่งกินกาแฟร้านสตาบัก ชิลมาก
เย็นกลับมาดูละคร ออนไลน์ เล่นเน็ต ดูข่าว ย้อนหลัง เหมือนอยู่กรุงเทพ

ถ้ามาญี่ปุ่น แนะนำ เช่า pocket wifi เพิ่มด้วยนะคะ
มีแล้วสะดวกมาก iphone ต่อ wifi คุย line กะเพื่อน check-in facebook ได้ทุกที่
โทรกลับไทยผ่านพวก โปรแกรม fring บน iphone ค่าโทร นาทีละแค่ 50 สตางค์
ถ้ารับสายโทรเข้าแบบ roaming นาทีล่ะ 25 บาท
สรุปคือไม่ขาดการติดต่อสื่อสารแน่นอน
มาอยู่ญี่ปุ่น ก้อติดต่อ พูดคุย กัยเพื่อนๆ ปกติผ่าน line กะ facebook
แถบไม่ต่างกะตอนอยู่ไทยเลยค่ะ

ไม่แปลกเลยค่ะ เหมือนๆคนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอยู่ทุกวัน ก็ทำได้ค่ะ

ทำไมจะไม่มีคนทำครับ แสดงว่าเพื่อนๆคุณไม่เคยคุยกับพวกฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยเลยอะสิ

ฝรั่งมาเที่ยวไทยทีนึงสองสามเดือน อยู่เมืองๆนึงสองอาทิตย์บ้าง เป็นเดือนบ้าง มีให้เห็นมากมาย

จขกท.แปลกหน่อยตรงที่เป็นคนเมืองค่าครองชีพถูกไปอยู่เมืองค่าครองชีพแพง
แค่นั้นเอง...ส่วนคนอื่นเขาค่าครองชีพแพงมาอยู่เมืองค่าครองชีพถูก

มีเงินซะอย่างจะแคร์อะไร????

ปีที่แล้วผมไปอยู่โตกียว 25 วัน + คาวาคุจิโกะ 3วัน นี่ก็เพิ่งไปโตเกียว 11 วัน กลับมาเมื่อวาน

ถ้าความคิดแบบนั้นเรียกว่า "บ้า" !!!

ผมก็คงบ้าไปนานแล้วครับ ^_^



จำไว้อย่างหนึ่งนะครับ คนเรานั้นไม่เหมือนกัน ยิ่งความคิดยิ่งต่างกัน



เวลา.... เป็นของคุณเอง
เงิน......ก็เป็นของคุณเอง


แล้วใยต้องไปต้องฟังเสียงนกเสียงกา ^_^


ปล.กล้องถ่ายรูปพกไปเพียงเพื่อบันทึกความทรงจำในช่วงเวลานั้นเท่านั้นเอง !!!

ไม่แปลกครับ

ไม่แปลกค่ะ เรากับแฟนอยากจะไปอยู่ญีปุ่นสัก 2อาทิตย์ แพลนตอนเช้าไปเที่ยวชิวๆแล้วตอนเย็นไปซุปเปอร์เค้าเพราะเห็นแล้วว่าของกินดูอลังการมาก กลับบ้าน นั่งชิวๆดูทีวีทำอาหารกินกันแบบชิวๆ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำเลยค่ะ อยากไปชิวๆเหมือนกัน

ทำได้ทุกอย่างเลย
แต่หากไม่มีแพลน ต้องมีเวลาพอ
และค่าใช้จ่ายแบบค่อยไป ค่อยคิดโดยไม่แพลน ต้องเผื่อไปเยอะเลย
อาจจะกินอะไรไม่ลงก็ได้นะ ค่าอาหารแพงกว่าบ้านเราเกือบ 10 เท่า
หากไม่ติดค่าใช้จ่ายน น่าสนุกดีออก
แต่ต้องชิวๆนานแค่ไหนล่ะ
เพราะญี่ปุ่น ครั้งเดียวไม่เคยพอ

ไปเลยทำเลย ถ้าใจปรารถนาค่ะ

ดีออก เที่ยวเดินดูบ้านเมืองเค้า เห็นชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น
เราชอบดูบ้าน ดูร้านเค้า บางทีผ่านโรงเรียนอนุบาล ก็ได้เห็นเด็กอนุบาลน่ารักม๊าก เห็นคุณตาคุณยาย ออกมาเดินเล่น
กลับมา ภาพน่ารักๆเหล่านั้นก็ยังติดตาอยู่ อธิบายคนอื่นไม่ได้ว่าไปเที่ยวอะไรมา แต่เราชอบอ่ะ

ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย ใครๆที่มีเวลาว่างเยอะๆทำแบบนี้ได้ก็นับว่าโชคดี เชื่อว่าคนหลายคนอยากทำแบบนี้ แต่ไม่มีเวลามากกว่า

อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกมา สำหรับผมไม่ถือว่า มาอยู่เฉยๆ เพราะลิสที่คุณพูดมาว่าจะทำ ยาวเกินกว่า 15 วันของคุณจะพอ

เป็นผม มาอย่างนี้ขอครึ่งปีเป็นอย่างต่ำครับ 15 วันน้อยไป

นั่นไง

มาโพสแบบนี้ดีแล้ว เจอเพื่อนเลย คุณไม่โดดเดี่ยวค่ะ เราก็ทำแบบนั้น อิอิ

ตื่นเวลาที่อยากตื่น ปกติเราไม่ใช้นาฬิกาปลุก ลำบากสุดก็ตอนที่ต้องไปขึ้นเครื่องตอนเช้าถ้าเลือกไฟลท์ไม่ได้

ไปเดินซูเปอร์มาเกตท้องถิ่น ไม่ใช่แหล่งรวมซื้อของของนักท่องเที่ยว ซื้อผักผลไม้ที่ไม่เหมือนบ้านเรามาเก็บไว้ทานในตู้เย็น

ออกกำลังกายหนักหนักเพื่อไปกินกินกินของอร่อยประจำท้องถิ่น

แค่ต้องมีเวลา อิสระเสรีเหนืออื่นใดค่ะ ชิลชิล นั่นล่ะการพักผ่อนที่แท้จริง

อยากทำแบบนั้นมากกกก เหมือนกันค่ะ แต่เราอยากไปทำนองลงเรียน อย่างภาษาหรืออะไรสักอย่างขำๆ เน้น พักผ่อนกับเที่ยว

ปล. เราไปญี่ปุ่น 3 วัน 2 คืน ไม่บ้ากว่าหรอ 555

ดีออกค่ะ หลายๆ ทริปที่มีเวลาหน่อยเราก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน บางทีไปเที่ยวเพื่อเก็บๆ ที่เที่ยวให้ครบมันก็เหนื่อยนะ

เราชอบเที่ยวแบบไม่ต้องวางแผนอะไรมาก วันนี้นึกอยากไปไหนก็ไป นึกอยากไปนั่งริมทะเลทั้งวันก็ทำ หรือเหนื่อยแล้ว
ขอไปนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ที่พักหรือร้านกาแฟ ก็ไปนั่งมันซะครึ่งวัน นึกอยากเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เที่ยวชมร้านเล็กๆ
ชมเมือง แล้วก็ไปกินร้านที่ชาวบ้านเค้าไปกินกันจริงๆ ไม่ต้องวางแผนว่ามานี่แล้วชั้นจะต้องไปโน่นนี่นั่น ต้องไปกินร้านโน้น
ร้านนี้อะไรแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงก็ทำได้แค่ไม่กี่ทริปหรอกค่ะ ถ้าทริปไหนมีเวลาน้อย 3-4 วันก็ต้องพยายามยัด
ตารางเข้าไปให้ครบเหมือนกัน

ว่าแต่ ยินดีต้อนรับสู่โลกของนักเดินทางนะคะ รูปนี้เป็น motto การเดินทางท่องเที่ยวของเราเลยแหละ จิ๊กมาจาก Tumbr ค่ะ

ไม่แปลกหรอก เจ๋งเลยล่ะนั่น!!

ทำประจำ ไปไหน ขอนั่งนิ่งๆ สูดอากาศ ดูฟ้า รับลม
ไม่อัดโปรแกรมนู่นนี่นั่นเยอะ

ตอนเราไปญี่ปุ่น เราวางแพลนไว้ซะดิบดีว่าวันนี้ต้องไปที่นี่ที่นั่น
แต่เอาเข้าจริงแพลนแตกหมดเลย ^^
ไม่ใช่ว่าทำตามแพลนไม่ได้ แต่ไม่อยากทำค่ะ
ด้วยความที่เดินทางคนเดียว เลยทำตามใจตัวเองได้ตลอดทริป
บางวันที่ตื่นเช้า (โดยเฉพาะช่วงที่ไปเกียวโต) ก็จะเห็นวิถีชีวิตของผู้คนยามเช้าที่เป็นคนท้องถิ่นจริงๆ
บางวันเราขี้เกียด เราก็ตื่นสาย ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินย่านช็อปปิ้งแบบเบาๆ


ตลอดหลายอาทิตย์ที่ตั้งใจจะไปเป็นนักท่องเที่ยว กลับกลายเป็นว่าใช้ชีวิตเหมือนคนท้องถิ่นซะงั้น
อันนี้ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่คนญี่ปุ่นเองก็ปฏิบัติกับเราแบบนั้นค่ะ ^^
อาจเป็นคนเอเชียเหมือนกัน หน้าตาก็โทนๆเดียวกัน เค้าเลยแยกไม่ออก
มันเลยทำให้เราไม่รู้สึกแตกต่างจากคนอื่น ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับที่นี่
ทุกๆวันของเราเลยผ่านไปอย่างอบอุ่นและมีความสุขมาก

กำลังจะทำเช่นกันค่ะ
แต่ไปฝึกงานด้วย ^^

ฮ่าๆๆๆ แสดงว่าคนห้องนี้บ้าเยอะครับ..............

แรกๆที่ไปญี่ปุ่นใครๆเขาก็เที่ยวกระจายครับ แทบจะเก็บให้มันหมดทุกที่ด้วยซ้ำ

หลังๆไปบ่อยๆ อืมมมม...อยู่เฉยๆบ้างก็ได้

จนถึงวันนี้คนที่เที่ยวญี่ปุ่นบ่อยมากๆ หรือไปมาหลายรอบ สิ่งที่คิดตามมาก็คือ

ความอยากครับ.... อยากที่จะเจอญี่ปุ่นจริงๆ อยากไปลองใช้ชีวิตดูบ้าง ไม่ได้อยากไปเที่ยว

แต่อยากสัมผัสกับญี่ปุ่นในอีกมุมนึงที่ไม่ใช่แค่ท่องเที่ยว ใครๆก็เป็นครับ

ผมคนหนึ่งล่ะที่เป็น ผมทำสวนกล้วยไม้อยู่ตอนนี้เลยอยากไปวูฟสวนกล้วยไม้ที่โน่นสักครั้งในชีวิต

อยากไปแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับกล้วยไม้บ้านเราน่าจะสนุกดี....

ดังนั้นไม่แปลกสักนิดครับ...




***** tex *****

พึ่งไปทำแบบนี้มาเลยค่ะ เที่ยวแบบไม่เน้น ไว้จะมารีวิวนะคะ

อยากทำแบบนี้เหมือนกัน...จะมีโอกาสไม๊นะ

เคยคิดจะไปเที่ยวแบบนั้นระหว่างรอเปลี่ยนงานแต่ดันได้งานก่อน แต่ตอนไปเรียนที่ญี่ปุ่นผมก็เที่ยวสไตล์นั้นแหละครับ ขี่จักรยานกับพกกล่องท่องจังหวัดที่ตัวเองอยู่คนเดียว ขี่ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก บางครั้งขี่หลงก็มี หรือบางทีเสียดายค่ารถไฟเข้าเมืองก็ขี่จักรยานเข้าเมืองไปนั่งที่หน้าสถานีรถไฟดูคนเดินไปเรื่อยๆ สนุกดี

ผมว่าไปเที่ยวแบบนี้ก็ไม่แปลกนะ เพราะสไตล์ใครสไตล์มัน ชอบแบบไหนทำแบบนั้นเลยครับ คุณจะสนุกและสบายใจกับเงินที่เสียไปแน่ๆครับ

เพิ่งไปญี่ปุ่นเมื่อตค.55 เที่ยวแบบตามใจฉันเหมือนกัน มีวันนึงวางแผนจะไปที่หนึ่ง แต่ฝนตกแต่เช้ารอรถเมล์นานเลยเดินเข้าห้างแถวนั้น หาของกินอร่อยๆซะเลย บางวันไปเดินช้อปปิ้งในที่ๆไม่ใช้ร้านทัวร์ลง นั่งรถไฟมองดูคนที่นั่นเขาใช้ชีวิตแบบไหน ไม่ต้องวางแผนอัดที่เที่ยวจนแน่นแบบโปรแกรมทัวร์แล้วจะพบว่า ความสนุกทำได้ไม่ยากค่ะ คิดแบบนี้ไม่แปลกหรอกค่ะมีคนทำเยอะ

นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่เราอยากทำที่ญี่ปุ่น คงต้องใช้เวลาซักสองอาทิตย์ ไปย่านนั้น ย่านนี้ กินของอร่อยๆ นั่งจิบกาแฟ ดูบ้านเมือง ดูผู้คน แต่ก็นะ ค่าใช้จ่ายแพงลิบลิ่ว พอมีโอกาสได้ไปที ก็อัดโปรแกรมซะเยอะเลย ฮ่าๆๆ

สำหรับผม ที่พึ่งออกลองเที่ยวตามชนบทญี่ปุ่น (ก็ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหรอก)

มันต่างจาก ที่ท่องเที่ยวตามแหล่งยอดนิยมจริงๆครับ

ลองไปดูตามชนบทจริงๆครับ ปั่นจักรยานเที่ยว ไปเรื่อย มันสนุกมาก
ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆสนุกจริงๆ

ไปมาครั้งนึงแล้ว20กว่าวัน ประทับใจทุกอย่าง ดิ้นรนอยากไปอีก
คราวนี้เลยจัดไปเดือนนึง อยากไปใช้ชีวิตไปหาเพื่อนที่นั่น เป็นความรู้สึกดีสุดๆไปเลย
ชีวิตเกิดมาครั้งเดียว พยายามใช้ทุกนาทีให้มีความสุขค่ะ

แพลนที่ผมจะไปก็ไม่ได้มีอะไร อยากไปกินราเมง กินเนื้อโกเบ กินซูชิ

ไม่ไปดูด้วย ดอกไม้ ใบไม้ วัด เต้นระบำ....etc.

อยากไปเดินตลาดสดญี่ปุ่นเฉยๆ หาของกิน

มีเวลา มีเงิน ก็ทำไปเลยค่ะ อยากทำเหมือนกันแต่เวลาน้อยตังค์น้อยอ่ะนะ

เราชอบ สโลว์ทัวร์เหมือนกัน ไปนั่งนานๆจนมีคนท้องถิ่นมาคุย ก็สนุกดีนะ

มีเวลา มีตัง ก็ทำเลยเช่นกัน ไม่มีใครรู้พรุ่งนี้่จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ชีวิตของเรา ใช้สะ อิอิ