"กระดูกคนละเบอร์" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง (เรื่องท่องเที่ยวค่ะ)

จขกท. วางแผนไปเที่ยวเชียงใหม่ 1-5ธค.
เราก็มาตามระบบทั่วไป.. จองปกติ

เครื่องบิน..ตั๋ว0บาท แอร์เอเชีย จองข้ามปี
ที่พัก...จองที่ยอดนิยม ม่อนม่วน อ่างขางเนเจอร์ ก็ต้องจองกันล่วงหน้าหลายเดือน
รถเช่า..แหม ช่วงนี้แพงเหลือหลาย..เอางี้ เราบิน แล้วจ้างเด็กขับรถเราขึ้นไปเชียงใหม่ซะเลย(มืออาชีพค่ะ เด็กของเต้นท์รถมือสองของพี่ชายแฟน ที่ต้องไปรับรถต่างจังหวัดประจำ)... (วิธีนี้ เพิ่งเคยใช้ ขำชะมัด) แต่ประหยัดค่าเช่ารถไปได้เยอะมาก
แล้วก็อ่านๆๆ ศึกษาสิ่งที่อยากไป อยากทำ อยากกิน อยากนอนพัก...เหนื่อยชะมัด

ปลายสัปดาห์ก่อน..พ่อโทรมาบอกว่า...ป๊าอยากไปเชียงใหม่ ช่วงหยุดรัฐธรรมนูญ จะไปด้วยกับเรา (พ่อจำผิดว่าเราไปรัฐธรรมนูญ)

เราก็รีบหาตั๋วเครื่องบิน ,ที่พัก (ซึ่งต้องแบบสบายๆดีๆ) , รถเช่า สำหรับช่วงนั้น ซึ่งกระชั้นชิดมาก...แต่สรุปว่า หาไม่ได้เลยค่ะ ก็ต้องบอกพ่อไป (รู้สึกผิดในใจมาก ตั้งแต่วันนั้น)
ตอนนั้นยังคิดว่า คนสูงวัย ที่มีกิจการงาน และระบุวันว่างล่วงหน้าไม่ได้ เค้าวางแผนเที่ยวยังไง.. ซื้อทัวร์เหรอ ???


พ่อเราเป็นคนเพื่อนเยอะ กว้างขวาง..และวันนี้ ก็เห็นการจัดการของคนรุ่นใหญ่ ..นับถือจริงๆ

สรุปว่า ทริปเรียบร้อยแล้ว..ไป 6-12ธค.(นานกว่าเราซะอีก)
-ไปกัน 8คน (โอ้โห คนเยอะกว่าเราอีก น่าสนุกจัง)
-เพื่อนฝูงในวัย 70+ ก๊วนเดียวกัน (รวมพลได้ไงเนี่ย เร็วจัง)
-ไม่ต้องห่วงเรื่องอายุ เพราะในก๊วน มีหมอไปด้วย, เอาลูกชายเพื่อน ไปดูแล 1คน...ทริปดูดีจัง
-เครื่องบิน สบม. ในก๊วน มีลูกเขยทำการบินไทย...ได้ตั๋วมาเสร็จสรรพ (เส้นทางลัดมีเสมอ)
-รถ มีเพื่อนที่เชียงใหม่ เอารถตู้อย่างดี มาให้ใช้ฟรี พร้อมคนขับ (คอนเน็คชั่นเลิศอ่ะ)
-ที่พัก มีคอนโดเพื่อน สำหรับ8คน ..พักฟรีได้เลย (โอ้โห ที่พักแบบนี้ ไม่เคยมีในสารบบของเรา)
- ปาย/ อ่างขาง/อินทนนท์ ก็จองได้ด้วย - เส้นสายอะไรกันเนี่ย (ไม่ได้ถามละเอียด คุยกันสั้นๆ)

วางหูโทรศัพท์ แล้วได้แต่ถอนใจ.....เฮ้อออออ

กระดูกคนละเบอร์จริงๆ

ความคิดเห็นที่ 1
กระดูกเบอร์ใหญ่ๆ เนี่ย เป็นสิ่งที่มากับอายุ มากับประสบการณ์จริงๆ ค่ะ
และ คนรุ่นใหญ่เนี่ย เขาไม่เกี่ยงที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อความสบายในด้านต่างๆ ถ้าเขาสามารถจ่ายได้นะคะ

เมื่อเร็วๆ นี้ดิฉันเพิ่งได้อ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับเรื่องการทำการตลาดกับกลุ่มกระดูกเบอร์ใหญ่ๆ เนี่ยแหละค่ะ
เป็นบทความที่ดีมากๆ เลย และ กลุ่มกระดูกเบอร์ใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงๆ เนี่ย เป็นสิ่งที่นักการตลาดอยากเอาชนะใจ
มากที่สุดค่ะ เพราะถ้าทำให้กลุ่มนี้ติดใจได้ เขาจะจงรักภักดี และ จ่ายไม่อั้นค่ะถ้าของดีจริง และ คนกลุ่มนี้จะรู้ทัน
โฆษนา รู้ทันนักการตลาด รู้ทันเซลส์ค่ะ เพราะประสบการณ์เยอะ การศึกษาสูง หูตากว้างไกล ฯลฯ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เข้าตำรา อาบน้ำร้อนมาก่อนหลาย ๆเที่ยวเลยค่ะ 55555


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
จริงๆแล้วจะพูดว่ากระดูกคนละเบอร์ก็น่าจะได้ แต่จริงๆก็เหมือน2ความเห็นนั่นแหละครับ
ยกตัวอย่าตัวเองก็ได้ สมัย10ปีก่อนโน้นก็ตระเวณเที่ยวทั่วไทย โดยเดาสุ่มเอานี่แหละไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่รู้ว่าเพื่อนสมัยเรียนมันอยู่ที่ไหน โทรศัพท์ก็ไม่สะดวกเหมือนเดี๋ยวนี้
แต่พอสมัยนี้การติดต่อสื่อสารมันทันสมัย เพื่อนที่เรียนด้วยกันไม่เคยเจอกันเป็น10ปีก็เจอกันในเน็ตได้ จากข้อมูลที่ถ่ายทอดถึงกัน ทำให้รู้ว่าไอ้นี่มันอยู่นั่นไอ้นั่นมันอยู่นี่ ก็เลยสบายในการเที่ยวคือคนรุ่นใหญ่ก็ให้เพื่อนนั่นแหละจัดการให้ เพราะรู้ข้อมูลดีที่สุด
คนที่ค่อนข้างโชคร้ายคือคนที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวดังๆ ต้องคอยแสตนด์บายรอจัดการให้เพื่อน คนเชียงรายก็พึ่งส่งเพื่อนกลับออสเตรเลียไปแหมบๆ เพื่อเก่า(และแก่)จากLaจะมาอีกละ มกรา เราก็ต้องจัดการให้ แต่เวลาเราไปเขาก็จัดการให้หมด ปีที่แล้วไปเที่ยวเวียงจันทร์-วังเวียง เพื่อนที่ไปทำงานที่โน่นจัดการให้เรียบทุกอย่าง สะบายดีเลยเรา นี่คือข้อดีของคนรุ่นใหญ่ครับ อีกหน่อยก็รุ่นหลังนี่แหละจะเข้ามาแทนที่


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
นกไม่มีขนคนไม่มีเพื่อน ลำบากค่ะ มีเพื่อนฝุงไว้เยอะก็ดีอย่างนี้เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เพิ่งไปงานศพแม่เพื่อนสมัยมัธยม นานๆเจอกันที คุยกันยังไงก็ไม่จบ
เลยว่าจะจัดไปค้างทะเลซักคืน จะได้เม้าท์กันต่อ น่าจะสรุปกันที่บ้านกลางอ่าว (ชื่อที่พัก)
พอพูดชื่อนี้ขึ้นมา เราบอกแพง ง ง ง
อาจารย์โพล่งขึ้นมาเลยบอกเพิ่งไปมาเอง เจ้าของเป็นลูกศิษย์ครูทุกอย่างฟรีหมด ><'

แอบหวังว่า....อีกหน่อยเราคงมีอย่างท่านบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ด้วยวัย ด้วยหน้าที่การงาน เพื่อนมิตรสหายที่ดีเป็นอย่างงี้เองค่ะ
ความพร้อมเรื่องปัจจัยก็มี สบายๆเลยหล่ะค่ะ ^_^


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ตรงข้ามกับบ้านผมเลย ถ้าพ่อแม่จะไปเที่ยว ต้องปรึกษาลูกๆ ก่อน เพราะพี่ชาย
ทำธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนตัวผม เที่ยวบ่อยมากแต่ยังไม่ครบทุกจังหวัด


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
กระดูกอาจจะมีส่วน แต่ส่วนสำคัญที่สุดคือต้องมีตัง
ถ้ามีกระดูกแต่ไม่มีตังก็เท่านั้นครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
รุ่นใหญ่ก็เงี้ยะและ...กระดิกนิ้วหน่อยเดียว เรียบร้อย...55555555
ส่วน คห.2 "เข้าตำรา อาบน้ำร้อนมาก่อนหลาย ๆเที่ยวเลยค่ะ 55555" มันก็ไม่แน่เสมอไปนะ บางเรื่องเด็กรุ่นใหม่ก็ทำได้ดีกว่า เดี๋ยวนี้มันมีเครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว ไวกว่าเยอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
5555


นับถือคุณพ่อเจ้าของกระทู้ค่ะ ^_^


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เหมือนก๊วนพ่อแม่เราเลยค่ะ
จัดทริบที เราอึ้งงงงงงงง
อาหาร ที่พัก ที่เที่ยว รถ แบบว่า ได้ดังใจทุกอย่าง
สองปีที่แล้ว เค้าจัดทริบไปเหนือกัน ไปรถตู้ กลับเครื่อง
ตั้งชื่อทริบว่า เยี่ยม้พื่อนก่อนลาพัก หมายถึง ไปตระเวณเยี่ยมเพื่อนฝูงที่จังหวัดต่างๆ ก่อนพักยาว เพราะคิดว่าคงไม่มีเรี่ยวแรงนั่งรถไปไหนนานๆกันแล้ว
บางคนถึงกับบอกว่า ทริบยาวทริบสุดท้ายของชีวิตแล้ว
ไปสองอาทิตย์ แม่เจ้า
ปรากฏว่า ได้พักที่พัก และอาหารแบบ สุดยอดของจังหวัด ตามแต่มุมมองของเพื่อนเค้าในจังหวัดนั้นๆ
ได้ตั๋วเครื่องบินราคาทัวร์
รถตู้ที่เช่าก็แบบ จากจังหวัดนี้ ไปจังหวัดนี้แล้วเปลี่ยน ให้เพื่อนหาให้

ทั้งหมด ได้จากการวางแผนที่ดี ลึกซึ้ง และคอนเนคชั่นที่ยอดเยี่ยมค่ะ

ล่าสุด จะไปกันอีกแล้ว
ง่ะ ไหนว่าทริบสุดท้ายของชีวิตไงพ่อ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
^_^ นั่นสิ....กระดูกใหญ่ๆ เก๋าๆ ทำเราอึ้งไปหลายที

ขำที่พ่อบอก..ต้องเอาไอ้หมอไปด้วย..เดี๋ยวหัวใจวายบนดอยทำไงฟะ อายุรวมกันเกือบ600ปี


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ฮาๆๆ อ่านแล้วนึกถึงแม่เราเลยค่ะ

จะไปเชียงใหม่ก็มีเพื่อนแม่
จะไปเลยก็มีเพื่อนแม่
จะไปเที่ยวเกาะเพื่อนแม่ก็ติดต่อให้ มารับบ้าง บางที่เอาเรือมาเลย
แม่จะไปปาย ไม่ต้องจองห้องพัก เพื่อนแม่มีบ้านตากอากาศอยู่
จะไปไหน มีรถบริการแค่โทรกริ๊งเดียว เฮ้ย แกเอารถมารับชั้นหน่อยสิ
ถึงตัวเพื่อนไม่อยู่ บางทีก็ฝากลูกน้อง ฝากลูก มารับก็มี

มารับ พาไปกินข้าว หาที่พักให้เสร็จสรรพ

ล่าสุด เพื่อนแม่ยังครอบคลุมถึงต่างแดนด้วย
แม่ไปออสเตรเลียมีคนมารับพาเที่ยว หาที่นอนให้เรียบร้อย ไปคนเดียว เปรี้ยวคนเดียว

ยังนึกๆ อยู่เลยว่า แก่ๆ เราจะมีเพื่อนฝูงที่สามารถพึ่งพาไหว้วานได้ขนาดนี้ซักกี่คน


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
วิธีคิดเราอาจจะแตกต่างกันหน่ะครับ

อย่างคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา อาจจะคิดว่ามีเพื่อนฝูง ก็เลี้ยงดูปูเสื่อเต็มที่
ถ้าเค้ามาเยี่ยมก็เลี้ยงดูปู่เสือเขา แต่ถ้าเราไปหาเค้าเค้าก็ต้องทำแบบเดียวกัน
อาจจะเหมือนกับวัฒนธรรมทางจีน เวลาญาติมานี่ดูแลดีมากๆ ....

แต่ในมุมมองของคุณรุ่นใหม่
ส่วนใหญ่ผมคิดว่าเน้นการพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก
โดย 'ไม่ต้องการให้เป็นภาระของใคร' แม้เราจะมีเพื่อนอยู่จังหวัดนั้นก็ตาม

ตัวอย่างเช่น เพื่อนเก่าเรา บ้านอยู่ที่นี่ เราอาจจะไปทานข้าวด้วยกันซักมื้อ
แต่คงไม่ถึงขนาดไปนอนบ้าน หรือรบกวนให้ไปพาเที่ยว เพราะต่างคนต่างมีครอบครัว
มีธุระของตัวเอง จนทำให้เขารู้สึกว่าเราเป็นภาระนั่นเองครับ ....
(คือตัวเพื่อนเองอาจจะไม่รู้สึกอะไร แล้วคู่สมรสเขาหล่ะ เค้าแฮปปี้ด้วยหรือเปล่่าเอ่ย?)


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
แซวหมอยุ่งนิดนึง
เลี้ยงดูปูเสื่อ..หมอยุ่งเขียนว่า เลี้ยงดูปู่เสือ ..ความหมายเพี้ยนไปเลย

เรามองว่า เคสนี้ คงไม่ได้ไปเบียดเบียนหรอกค่ะ...เราเองก็ไม่สะดวกใจ ถ้าใครมาพักบ้านเรา

แต่ดูเหมือน..เครื่องบิน ก็จ่ายค่าตั๋วจริง... รถตู้ ก็ว่างให้เอาไปใช้ได้
..คอนโด ก็เป็นคอนโดตากอากาศ ไม่ได้อยู่เป็นจริงจัง
ไปเที่ยว ก็ใช้รีสอร์ท ..เพียงแต่มีโควต้า หาจนได้ ..
ไม่ได้ไปพักบ้านใคร ที่เค้าอยู่อาศัยประจำวันค่ะ

แหม..คนแก่ๆ เก๋าๆ ตั้ง8คน คงไม่ใช่เข้าไปสิง ..นอนปูเสื่อบนพื้น บ้านเพื่อนแบบวัยรุ่นอย่างเราๆ แล้วนั่งล้อมวงจกกินข้าว แบบที่หนุ่มสาวกระทำได้ค่ะ...คงละแบบกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
อย่างตั๋วเครื่องบิน ..รุ่นเก๋าๆ เค้าก็คงไม่ได้ถ่างตาจิ้มโปร 0บาท อย่าง จขกท.
แต่เค้าก็ใช้ การบินไทย ..จ่ายๆไป ไม่ชอบยุ่งยาก..เอาให้ได้ไป ให้รวมก๊วนได้ ...
ในก๊วน วัย70+นี่ มีคนเคยเป็น DD การบินไทยด้วย (แต่เกษียณแล้ว และไม่ได้ไปรอบนี้ จึงไม่รบกวน..ให้ลูกเขยคนนึงไปจัดการ)

เราเอง ก็ไม่ได้เข้าใจชีวิตแบบพ่อเราหรอกค่ะ...เรามันพวกจนๆ ขี้งกๆ
..เด็กยุคเรา ใช้ข้อมูลเป็นฐานค่ะ พวกเค้าใช้คอนเน็คชั่นเป็นฐานค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ไม่เกี่ยวกับกระดูดซะทั้งหมดหรอกครับ ตังล้วน ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
วิธีคิดแบบหมอยุ่งไม่ผิดนะ แต่มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่นี้

เรากลางเก่ากลางใหม่ เข้าใจทั้งสองฝ่าย คนรุ่นเก่า ๆ เวลาเขาสนิทสนมกัน เขาสนิทกันจริง ๆ เรื่องคู่สมรสก็เหอะ เพราะเวลาสนิทกันนั้น เขารู้จักกันทั้งครอบครัว ตั้งแต่ปู่ยันหลาน เพราะคนไทยสมัยก่อนครอบครัวใหญ่ ทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบลรู้จักกันหมด

แต่สมัยนี้เป็นครอบครัวเดี่ยว พอแต่งงานก็แยกออกมาหมด ความสัมพันธ์ตรงนี้เลยหมดไป
ยกตัวอย่าง อย่างเรารู้จัก หมอยุ่ง ฯ กับแฟน แต่กับพ่อแม่ไม่สนิท ญาติคนอื่นก็ไม่รู้จัก

แต่ถ้าเป็นเพื่อนสมัยเรียน พ่อแม่เขาสามารถรู้จักเพื่อนลูกทุกคน พวกเราสามารถไปกินไปนอนที่บ้านได้เป็นเดือน แถมรู้จักญาติไปครึ่งตำบล โดยที่เขาก็ไม่ได้มองว่าเราไปเบียดเบียนหรือรบกวน เพราะเขาถือว่าเราเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง หายไปมีแต่ถามหาว่าทำไมไม่มา คิดถึง

ส่วนเรื่องของ จขกท. แอบอิจฉาที่คุณพ่อเก่ง สามารถมาก อิอิ
หันมามองแม่เรา ไม่ได้มีอะไรกับเขาเลย เงินก็ไม่ คอนเน็คชั่นก็ไม่ การศึกษาก็แค่ประถม
แต่แม่อุตส่าห์เลี้ยงลูกสี่คนมาเพียงลำพังได้ ไม่รู้ทำได้ไง สมัยนี้สาว ๆ สวย ๆ รวย ๆ เค้ายังต้องหาสามีรวย ๆ กันเลย
วันนี้เราเลยต้องหาข้อมูลในเน็ต งึ่ก ๆ งั่ก ๆ จะพาแม่ไปเที่ยวกับเราแค่สองคน เพราะไปเที่ยวกับทั้งบ้านพร้อมกันไม่ได้ ต้องมีคนเฝ้าหมา 55555555

ตอบกลับความเห็นที่ 18