นัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว แต่มีคำถามสำหรับเอกสาร USA VISA ค่ะ

สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามท่านผู้รู้หน่อยนะคะ เรามีแพลนจะเดินทางไปอเมริกาเดือนเมษา ปีหน้าค่ะ

เดินทางกับเพื่อนอีกหนึ่งคนค่ะ ตอนนี้เราเตรียมเอกสารทั้งหมดประมาณนี้

ใบคอนเฟิร์ม DS160
ใบนัดสัมภาษณ์
ใบเสร็จการจ่ายเงินค่าสมัครวีซ่า
พาสปอร์ต
ทะเบียนบ้าน
บัตรประชาชน

เอกสารส่วนตัวดังนี้ค่ะ
ของเรา
- หนังสือรับรองการทำงาน ระบุตำแหน่ง วันที่เริ่มงาน วันลา วันที่จะกลับมาทำงาน
- สมุดบัญชีตัวจริง <<< อันนี้แหละค่ะที่อยากถามว่าเราจำเป็นต้องไปขอ Statement กับทางธนาคารหรือไม่คะ หรือสามารถถือตัวจริงไปได้เลย
และอีกอย่างที่ว่าสมุดต้องมีอายุ 6 เดือนนี่เค้านับยังไงคะ พอดีเราพึ่งเปลี่ยนบุ๊คใหม่ แต่ถ้านับวันที่ลงรายการแรกจนถึงวันที่สัมภาษณ์ก็ครบ 6 เดือนน่ะค่ะ แต่ถ้านับเป็นรอบเดือนจะไม่ครบค่ะ

ของเพื่อน (นักศึกษา ป.โท)
- หนังสือรับรองจากมหาวิทยาลัย
- สมุดบัญชีตัวจริง 2 เล่ม คือ เล่มนึงแม่ส่งค่าขนมให้ทุกเดือน อีกเล่มเป็นเงินเดือนพาร์ททามค่ะ
ปัญหาคือ เค้าไม่ได้อัพสมุดสม่ำเสมอ แบบนี้ต้องขอ Statement ด้วยใช่ไหมคะ

อื่นๆก็พวกพันธผูกพันธ์ เรากะว่าจะนำพวก ใบจองคอนโด ตั๋วเครื่องบินที่ซื้อล่วงหน้าไว้สำหรับไปฮ่องกง เกาหลี ปีหน้าไปด้วยน่ะค่ะ
เผื่อท่านกงสุลเค้าจะเห็นว่าเราจะกลับมาจริงๆ ไปเที่ยวจริงๆ ไม่ได้จะไปทำอะไรที่ผิดกฏหมายน่ะค่ะ ดีรึเปล่าคะ หรือต้องนำอะไรไปเพิ่มจากนี้อีกรึเปล่าคะ รบกวนแนะนำ??

สุดท้ายคือเรากะเพื่อน กรอกใบฟอร์มว่าออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดค่ะ (ก็ออกเองจริงๆอ่ะ) ที่กลัวคือการเป็นนักศึกษาของเพื่อนเรา แต่มาบอกว่าออกค่าใช้จ่ายเองจะมีปัญหาไหมคะ
ป.ล. เราสองคนไม่มีเงินเก็บเป็นก้อนใหญ่ๆหรอกนะคะ ได้มาก็ใช้ๆ ชอปๆ และชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ แบบนี้จะผ่านไหมคะ

ขอบพระคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ

ความคิดเห็นที่ 1
ทั้งสองคนขอ statement ไปเผื่อก็จะดีนะคะ เจ้าหน้าที่บางคนขอดู บางคนก็ไม่ดู เหลือดีกว่าขาดค่ะ
Book bank มีบันทึก 6 เดือนก็โอเคแล้วค่ะ มีหลายเล่มก็โชว์หลายเล่มได้นะคะ
ใบจองคอนโด ตั๋วเครื่องบิน ไม่จำเป็นนะคะ ไม่มีผลอะไรเลย อย่าเพิ่งซื้อตั๋วนะคะ จองไว้ก่อนได้ เอาใบจองมาแนบ แต่เค้าไม่ค่อยดูอ่ะค่ะ
ในบัญชีจำนวนเงินเยอะหรือน้อยก็ไม่เกี่ยว ที่สำคัญคือเราต้องอธิบายได้ว่าเราจะไปทำอะไร จะไปอยู่ที่ไหน ถ้าไปอยู่กับเพื่อน เพื่อนทำอะไรอยู่ที่นู่น เราจะกลับเมื่อไหร่ ไปเมืองอะไรบ้าง เงินใครเป็นคนจ่าย อธิบายได้ว่าเงินที่เข้ามาในบัญชีมาได้อย่างไร
ทุกอย่างอยู่ที่ความมั่นใจของเรา ถ้าอึกๆอักๆตอบไม่ถูก ดูมีพิรุธก็จะยิ่งถูกถามเยอะ มั่นใจ ตอบตรงคำถาม สุภาพเรียบร้อย ยิ้มเยอะๆก็จะดีค่ะ
จากประสบการณ์ไปขอกับเพื่อน เราขอได้ 10 ปี เพื่อนขอโดนปฏิเสธ เลยถามเค้าว่าทำไม เค้าบอกว่าเพื่อนมีเงินเข้าบัญชีแต่ไม่มีหลักฐานว่าได้เงินมาได้อย่างไร (แม่เค้าขายที่ให้ญาติแล้วโอนเงินเข้าไม่มีสัญญาซื้อขาย) บอกเจ้าหน้าที่ว่าขอเวลา 1วันจะหาหลักฐานมาให้ได้ จนไปเอาโฉนดที่ดินมายืนยัน เค้าเลยอนุญาตให้เพื่อนได้วีซ่า 14 วัน ตามจำนวนวันที่ไปเที่ยวแป๊ะๆเลยค่ะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
พวก ใบจองคอนโด ตั๋วเครื่องบินที่ซื้อล่วงหน้าไว้สำหรับไปฮ่องกง เกาหลี ปีหน้านั้น
ไม่มีประโยชน์ เพราะเลิกกันได้
วีซ่าท่องเที่ยว เมกา นั้น ไม่ใช้ ทะเบียนบ้าน หรือ statement เอาตัวจริงไปได้เลย ทั้งเก่าและใหม่
มีแผนการเที่ยว และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ก็คงผ่าน
ขอให้โชคดี แล้วบอกผลด้วยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนผมไปสัมภาษณ์ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชี ตั๋วเครื่องบิน ใบจองโรงแรม เค้าขอดูหมดเลยครับ

ผมว่ามันขึ้นอยุ่กับเจ้าหน้าที่ว่าเขาต้องการข้อมูลอะไรบ้างเพราะแต่ละคนโปรไฟล์ไม่เหมือนกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เอกสารใบจองคอนโดอะไรไม่จำเป็นหลอกครับ สมุดบัญชีความจริงก็ไม่ได้จำเป็นอะไร
เอกสารจำเป็นจริงคือการแสดงตัวตน ที่สุจริต และเค้าถามอะไรมาก็ตอบไปตามเป็นจริง
ไม่ต้องกลัวจนตอบผิดๆ ถูกๆ เค้าแค่กลัวเวลา คุณจะเข้าไปทำอะไรทุจริตในประเทศเค้า
ไปแล้วไม่กลับ ไปแล้วไปทำอาชีพผิดกฎหมาย ทำวีซ่า ง่ายมากๆ กว่าที่คุณๆ กลัวกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ของเราเขาดูแต่ใบรับรองการทำงาน ถามเกี่ยวกับงาน แล้วก็ข้อมูลที่เรากรอกใน DS 160 ส่วนสมุดบัญชี หรือเอกสารอื่นๆไม่ขอดูเลย ตอนแรกเขาก็พูดภาษาไทย เขาดูว่าเรากรอกว่าเดินทางเองคนเดียว เขาก็บอกว่าขอเปลี่ยนเป็นคุยภาษาอังกฤษ ตอบคำถามมั่นใจๆ ให้ตรงกับที่เรากรอกน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนนี้หวั่นๆค่ะ กลัวของเพื่อนจะไม่ผ่าน ส่วนของเราก็ลุ้นเอาค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่มาช่วยตอบคำถามค่ะ ;)


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ผ่านแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7