คิดได้ไงครับ? ลอยโคมใน กทม.

วันนี้ขับรถกลับบ้านหลังจากทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน ปีนี้ก็ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหน เพราะอยากพักมากกว่า ขับผ่านสะพานปกเกล้า (ข้างๆ สะพานพุทธ) ก็เห็นหนุ่มสาวกลุ่มนึง กำลังจะทำพิธีลอยโคม!!!!!!

ใช่แล้วครับ ลอยโคม!!!




ที่ตกใจนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ แต่สงสัยว่า พวกเค้าเอาอวัยวะส่วนไหนคิดครับว่าในเมืองมันเหมาะกับการลอยโคม แล้วทำไมต้องลอยโคมครับ ถ้าไม่ลอยโคม จะมีเคราะห์เหรอ เพราะเคราะห์มันอยู่กับเรา เราไม่ได้ลอยมันไป อะไรงี้เหรอ???

คืองงครับ การลอยโคมในเมืองที่มีแต่ตึกรามบ้านช่อง และสายไฟฟ้าเต็มไปหมดเนี่ย นอกจากพวกคุณจะได้ทำกิจกรรมที่มันชิคๆ แนวๆ ได้ถ่ายรูปกันก่อนปล่อยโคม มีตากล้องเทพหนึ่งคนเก็บภาพสวยๆ ให้คนในกลุ่มได้แอ๊คชั่นกันยี่สิบแอ๊ค ใครมีไอโฟนก็ถ่ายแล้วอัพขึ้น facebook + instagram กันไป อ้อ อย่าลืม tag เพื่อนที่มาด้วยกันด้วยนะครับ เดี๋ยวชาวบ้านเค้าจะไม่รู้ว่าเรามาทำกิจกรรมชิคๆ อย่างการปล่อยโคมกัน เผื่อคนอื่นเค้าจะมาเม้นท์ว่า "อิจฉาจัง อยากไปปล่อยโคมมั่งจังเลย"........

ขอถามอีกคำนึงครับว่า ประโยชน์ของการปล่อยโคมในกรุงเทพฯ นอกจากไอ้ย่อหน้าข้างบนแล้ว คุณได้อะไรจากมันบ้างครับ???????????





สำหรับบางคนที่ปล่อยไปแล้ว ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณนะครับ เพราะบางทีคุณอาจจะไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลยว่า โคมที่ลอยไป หรือเคราะห์ที่คุณหวังให้มันลอยไปจากชีวิต ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ซึ่งก็ไม่ใช่ศาสนาที่คุณนับถืออยู่แน่นอน มันอาจสามารถสร้างเคราะห์กรรมให้กับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ที่อยู่ดีๆ ก็มีไฟไหม้บ้าน เพราะโคมมันตกลงมาใส่หลังคา ซึ่งข่าวก็มีให้เห็นอยู่ทุกปี

ส่วนคนที่ลอยไปแล้ว และพยายามจะแถว่า มันเป็นประเพณีที่เค้าทำสืบต่อกันมา เราสมควรต้องอนุรักษ์ ใช่ครับ มันเป็นประเพณีของทางล้านนาภาคเหนือ ที่เป็นที่โล่งแจ้งครับ ที่อยู่อาศัยของประชาชนสมัยก่อนโน้น มันไม่หนาแน่นเท่านี้ครับ แล้วพวกคุณเกี่ยวอะไรกับทางล้านนาหรือเปล่าครับ ถึงต้องมาปล่อยโคมตามความเชื่อของชาวล้านนา และที่สำคัญ มาปล่อยในเมืองที่ไม่ควรจะปล่อยเลย อย่างกรุงเทพฯ นี่ผมยังไม่คิดถึงโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุขนาดใหญ่อย่างเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่บนฟ้าอีกนะครับ ถ้าเครื่องบินต้องบินผ่านฝูงโคมลอยเนี่ย อย่าให้คิดต่อเลยครับ ว่าไอ้ความชิคๆ ชิลๆ ของคุณมันจะนำมาซึ่งความโศกเศร้าอีกสักเท่าไหร่



เลิกได้เลิกนะครับ หยุดคิดสักนิดเถอะนะครับ แต่ถ้าคิดแล้ว ก็ยังคิดว่า เหมาะสมที่จะลอยใน กทม. อยู่ ก็ทำเถอะครับ อย่างน้อยก็ถือว่าคุณได้ใช้วิจารณญาณอย่างเต็มที่แล้วว่า การลอยเคราะห์ของตัวเองตามความเชื่อของชาวล้านนาที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคน กทม. เลย มันสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด


ปล. การพิมพ์อาจจะดูมีน้ำโหไปหน่อย ขอโทษนะครับ บ้านผมอยู่ติดแม่น้ำ คืนนี้ยังกังวลอยู่ว่าจะนอนหลับตาได้หรือเปล่าครับ

ความคิดเห็นที่ 1
ต้องห้ามขายเลยค่ะ แต่ก็ยากนะคะ เพราะมีขายมากมายเลยคนที่ลอยโคมถึงไม่รู้สึกว่า
กำลังจะทำให้ส่วนรวมเดือดร้อนหากไปตกในชุมชนแออัดหรือโดนเครื่องบิน ซึ่งเราว่า
โคมลอยนี้น่าจะอยู่คู่กับลอยกระทงไปอีกนานค่ะ คงห้ามยาก


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
งง ๆ..เหมือนกันค่ะ ที่เห็นโคมลอยในกรุงเทพ
เยอะด้วยค่ะ แถวๆสะพานอะไรสักอย่าง

ยืนดูอยู่บนคอนโดพักใหญ่


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
แถวบ้านเรา(ศรีราชา) ก็ลอยกันเกลื่อนเลยค่ะ ถ้ามันแจ็คพ็อตไปตกลงบ่อน้ำมันของปตท.หรือไทยออยล์ล่ะก็...สยองกันทั้งอำเภอแน่ๆ เล่นอะไรกันไม่รู้ ไม่ดีเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
อันนี้คงต้องประชาสัมพันธ์กันถึงผลร้ายของมันนะครับ
คนที่ไม่รู้ ทั้งผู้ซื้อผู้ขาย ก็ผิดทั้งคู่
ถ้ามีกฎหมายออกมาบังคับ ก็คงจะลดลงบ้าง
แถมวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยนึกถึงใจเขาใจเราเท่าไหร่

อย่างประทัดแถวบ้านผมก็เห็นบอกห้ามจุดกัน
ปีนี้น้ำไม่ท่วมก็ได้ยินบึ้มๆ อยู่หลังบ้าน
เดี๊ยวก็มีข่าวมือแหก ตาบอดอีก
เผลอๆ ก็ไฟไหม้

ปีก่อนดีหน่อยน้ำท่วมก่อน
ปีนี้ไม่อยากฟังข่าวร้าย หลังลอยกระทงเล๊ย...


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เอาสนุกมากกว่าอนุรักษ์ โน่นไปช่วยสนับสนุนนักอนุรักษ์รักษาพันธุ์พืช, พันธุ์สัตว์ป่า
ไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อุทยานที่จะต้องนอนกลางดินกินกลางทรายโน่นน่าจะดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ปีที่แล้วปล่อยกันที่วัดใกล้บ้าน แต่ลอยมาตกหลังคาเพื่อนบ้าน พอดีคุณแม่เห็นเลยรีบช่วยกันดับ เค้าไม่ดับเองขนาดตกหลังคายังเป็นกลุ่มไฟอยู่น่ะค่ะ

ตอนนี้ก็ให้. รปภ สังเกตุอยู่ค่ะ เพราะลอยกันอีกแล้ว มากกว่าปีก่อน ที่ท่าน้ำวัด
อันตรายสำหรับพื้นที่ปล่อยแคบๆๆมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
รอไฟไหม้บ้านล่ะ..งานนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
พวกนี้ใช้ทรีนคิดครับ สมองเก็บไว้บ้าน


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
แถวบ้านเรา ทางวัดขายเองเลยนะ

ความรู้สึก กลัวไฟฟ้าไหมค่ะ!!!!


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
หน้าลานพลับพลา แถวภูเขาทอง มีมาลอยโคมเหมือนกัน
เห็นแล้วอึ้ง คนที่ลอยหน้าตามีการศึกษาทั้งนั้น
รู้มั้ยแถวนี้ชุมชนเก่ามันเยอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ตะกี้แหงนดูท้องฟ้า โอ้โหมาเป็นสายเลย น่าจะลอยจากโซนแถวๆบางแค


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรมก่อนจึงจะมีการรณรงค์


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ไม่สมควรลอยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จังหวัดไหนก็ตาม แต่ถ้าใครอยากลอย ช่วยเอาเชือกรั้งไว้กับบ้านตัวเองด้วยนะครับ ไม่ให้ลอยหนีไปไหน เผื่อจะเข้าใจความรู้สึกชาวบ้านเขาบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
บ้างเราอยู่แถวรังสิต 2 ปีก่อนก็ลอยมาดับบ้านเรา ตอนนั้นตัดหญ้าแล้วกองทิ้งไว้ทำฟางด้วย โชคดีมากที่มันลงตรงหญ้าเขียวๆ (มาเห็นตอนเช้า หญ้าแถวนั้นเหลืองๆ ไป) ถ้าลงกองฟางคงได้เคลมประกันไฟไหม้ไปแล้ว

ปีนี้นอนหลับสบายใจหน่อย เพราะฝนตกตั้งแต่เช้า มันลอยลงมาก็คงไม่เป็นอะไร

ปีที่แล้วตอนน้ำท่วม เราไปพักอยู่บางแสน ลอยกันเต็มไปหมด แถมเสียงประทัดตูมตามตลอดคืน ลูกในท้องนอนสะดุ้งทั้งคืน

บางทีเราก็ทำให้ประเพณีเราสนุกเลยเถิดมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามั้ย


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ที่กาญจน์ลอยเต็มเลย มองขึ้นไปบนฟ้ามีคอมลอยอยู่หลายสิบ ข้างบ้านจุดพลุเล่น เรานอนชั้นสาม กระแทกมาที่กระจกห้องเรา

เสียงพลุดังมาก แต่ก็คิดว่า เอาน่าปีละครั้ง แต่ขนาดพลุกระแทกกระจกห้องนี่ไม่ไหวนะค่ะ

ลอยโคมที่เกิดเหตุไม่คาดคิด ใครรับผิดชอบ ส่วนตัวเราโทษคนจัดงานค่ะ เพราะเก็บค่าที่ ปล่อยให้คนมาขายโคม แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
วันนี้ขับรถกลับบ้าน ผ่านวัดบึงทองหลาง ลอยกันเป็นสายเลยคะมากมาย คืนนี้บ้านใครแถวๆลาดพร้าว/บางกะปิ ก็ระวังๆไว้นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
แถวบ้านเราเห็นโคมลอยเพียบเลย ไม่รู้ขึ้นมาจากไหน แต่เห็นร้านค้ามีขายเยอะอยู่

ประเพณีบางอย่างที่ไม่เหมาะกับสภาพสังคมปัจจุบันก็สมควรยกเลิกนะคะ

ที่จริงก็หลักการง่ายๆ จุดไฟแล้วโคมลอยขึ้นไป มันก็ต้องตก ปัญหาคือมันไปตกที่ไหน ทำนองเดียวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าเวลามีงานศพนั่นล่ะ จะยิงไปทำไมไม่รู้


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
แถวลาดพร้าว71 เห็นโคมเพียบเลยย


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
กลัวไฟไหม้บ้านคนอื่นคะ.. จะไม่ทำเด็ดขาด


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ลอยเยอะมากแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายเลย เมื่อก่อนไม่ค่อยเห็นในกทม. เดี๋ยวนี้ตามเห่อเป็นแฟชั่น หายนะจริงๆ

ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
สวนจตุจักร ก็จุดกันเป็นขโยง แถมตำรวจไม่ว่าด้วยเจ้าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ช่วยกดโหวตค่ะ
เห็นด้วยค่ะ เคยเจอพลุวิ่งเข้ามาในบ้าน โดนกำแพงเป็นรอยดำเลย
ไม่รู้ว่ามาจากไหน โชคดีนะ ทีนั่งกันอยู่ข้างในบ้าน ถ้าโดนคนล่ะยุ่งเลยค่ะ

โคมลอยเวลาปล่อยไป ถ้าคำนวณเชื้อเพลิงแล้วว่า
เมื่อจุดไฟแล้วไฟจะหมดก่อนถึงพื้นอย่างแน่นอน
แต่เห็นขายกันเกร่อแบบนี้ ไม่รู้ว่ามีมาตรฐานกันแค่ไหนค่ะ
เรารู้สึกว่าปีนี้ จะมองเห็นโคมลอยเยอะกว่าปีที่ผ่านๆมาด้วยค่ะ

ปล. พวกยิงปืนขึ้นฟ้า ก็น่าจะเลิกทำกันได้แล้วเหมือนกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
สรุป วันลอยกระทง ต้องมีคนเฝ้าบ้านคับ กันโคม พลุ ดอกไม้ไฟ ตกใส่บ้าน ตอนไม่มีคนอยู่

ต้องห้ามเด็ดขาดเลยคับ อันตรายมาก. ขนาดจุดในป่าในเขา ตอนหน้าแล้งยังกลัวไฟจะใหม้ป่าเลย.


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
เวรล่ะ มาทำงานต่างจังหวัด ไม่มีใครเฝ้าบ้านซะด้วย ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ระยองก็เหมือนกัน
บางคนลอยทะเลที่อยู่ในตัวเมือง หาด PMY
แล้วโคมมันจะลอยไปไหนล่ะ นอกจากลอยเข้าตัวเมือง
แฟนเราเมือ่ก่อนทำงานที่ IRPC บอกว่า ถึงเทศกาลทีไร พนง.ต้องคอยวุ่นดูโคมที่จะตกลงมา กลัวจะเกิดตูมตามกัน

วันนี้เราก็บ่นกับแฟน ไม่น่าให้ขายโคม คนเราก็เล่นกันไม่รู้จักคิด
ขาดสามัญสำนึกที่ดีว่าอะไรควรไม่ควร ทำแล้วเป็นยังไง


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
หน้ารามลอยกันทุกที กลางถนน ริมคลอง ระเบียงห้อง เยอะไปหมดเลย เพิ่งจะบ่นกะแฟนว่า
ต้องมีไฟไหม้แน่ๆเลย เพราะมันตกทั้งที่ยังไฟลุกอยู่เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ไม่เห็นด้วยกับการลอยโคมเลยค่ะ
อันตรายจะตาย


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
วันนี้ไปลอยที่ สวนสาธารณะขนาดย่อมๆ ใกล้บ้าน ..บรรยากาศดีมาก

ดีที่เค้ามีมาตรการเข้มงวด ขอชมเชยเลยจริงๆ
มีตำรวจจราจร มาโบกรถ .. มีดับเพลิง มาจอดรถรออยู่
แล้วก็มี รปภ. เยอะมาก....
คุณ รปภ. เดินรอบสระน้ำ ห้ามใครลงน้ำ หรือเขี่ยกระทง หาเศษตังค์เลย
พร้อมเดินตรวจตรา ไม่ให้มิจฉาชีพทำอะไรได้
แถมเดินบอกว่า "จับแขนเด็กไว้ด้วยนะครับ ระวังตกน้ำ"

สำคัญ...ทันทีที่มีคนจุดพลุ...รปภ.3-4คน จะวิ่งเข้าประชิดตัว แล้วบอกให้ดับพลุทันที(โดยปักลงบนพื้น)
ถ้าเป็นพลุใหญ่ ยังมีตำรวจเดินมาเตือนให้ดับด้วย
เราเห็นคนนึง จุดโคมลอย...ยังไม่ทันได้ปล่อยขึ้น...โดนชุดใหญ่มาก
ทั้งตำรวจ รปภ. เข้าล้อม ..แล้วมีคนนึงตะโกนว่า "ห้ามจุดโคมลอยครับ ดับไฟเดี๋ยวนี้ และเชิญออกจากสวนฯ ครับ"

เราจะไปลอยกระทงที่นี่ทุกปี ตั้งแต่นี้ไป


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
เละเทะเลอะเทอะกันไปใหญ่แล้ว ประเพณีอันดีงามไม่รู้จะให้ลูกหลานเรียนรู้จากอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
มันก็เป็นมรดก จากการสร้างพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวแบบแปลกๆ ของพวกเราไงล่ะครับ

ลอยโคม จริงๆ แล้ว มันเป็นการลอยพร่ำพรื่อซะที่ไหน มันมีพื้นที่ ที่เป็นวัฒนธรรมของเค้า จำกัดอยู่ และไม่ได้ลอยกันบ่อยๆ ด้วย

แต่นักท่องเที่ยวทั้งหลาย ก็พากันแห่ไปลอยกันใหญ่ สุดท้าย มันก็เป็นแค่ "มลภาวะทางการท่องเที่ยว" แบบใหม่

จะโทษใครดี คงต้องโทษพวกเรากันเองนี่แหละ....
ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
พวกขายโคมกับซื้อโคมมาลอย ไร้สมองพอๆกัน ทำยังกับว่าลอยแล้วโคมมันจะสลายไปในอากาศงั้นแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
แถวสะพานตากสิน ลอยเป็นสายเชียวจ่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
วัดพระศรีบางเขน อยู่ใกล้ๆดอนเมือง แต่ลอยเต็มฟ้ามาหลายปีแล้วครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
มันเกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบประเพณีโบราณแต่เลียนแบบมาผิดๆครับ
พฤติกรรมที่คิดว่าเลียนแบบอะไรโบราณแล้วเท่ ทำให้คนอื่นเห็นแล้วทึ่ง
แต่ขาดความเข้าใจถึงแก่นที่แท้จริงและขาดความรู้ในบริบทของสิ่งนั้น
บวกกับการสื่อออกทาง social media มันก็เลยแพร่ระบาดไปกันใหญ่


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
เหอะๆ แฟนเราคนเวียง แท้ๆ (ภาคเหนือ)

บอก ตลก !!!! คนปล่อยโคม ครั้งนึงไปงานวัด ไรซักอย่างไม่ใช่งานลอยกระทงด้วยนะ

ที่วัดพระศรีบางเขน

ปรากฎว่าขายโคม คนปล่อยโคมกันเต็ม แล้ววัยรุ่นบางคนก็ใช่ว่าปล่อยเป็น ..... คือ พอจุดไฟแล้วเค้าก็รีบปล่อยเลย (จริงๆมันต้องรอซักพัก) >>>> โคมก็ลอยเลี่ยไปตามพื้น เรานั่งที่สนามหญ้า ก็ลุกซิจ้า มันมาทางเรา >> อ่ะ ซักพักอีกคนมา เป็นแบบเดิม คือน่ารำคาญมากอ่ะ

แล้วพวกเธอไม่คิดบ้างหรอ ว่ามันสร้างความรำคาญให้แถวนั้น

และมันเป็นโคมนะจ๊ะ ไม่ใช่กระสวยอวกาศ ที่ปล่อยไป แล้วมันจะวิ่งขึ้น อย่างเดียว

มันก็ต้องหล่นสิจ๊ะ หล่นไปไหน ???? ก็หล่นที่หลังคาบ้านใครซักคนนั่นแหล่ะ

ทำไมคิดกันไม่ได้ ????


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
ตอนนี้กทม.ลอยกันเยอะขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย แม้กระทั่งแถวบ้านเราก็ยังอุตส่าห์ลอยกับเค้าด้วยเหมือนกันทั้งๆที่อยู่คนละขอบประเทศเลย ที่จขกท.พูดถึงเครื่องบินนี่เราลืมนึกถึงมันไปเลยค่ะ อันตรายจริงๆนะ ถ้าลอยกันแบบพร่ำเพรื่อเยอะแยะอย่างนี้ ต้องมีซักปีที่สนามบินต้องสั่งหยุดบินทุกเที่ยวบินเหมือนเชียงใหม่ ไม่อยากจะนึกสภาพเลยว่าจะเดือดร้อนกันขนาดไหนแค่นึกว่าจะกลับบ้าน ไปธุระสำคัญๆรีบด่วนไม่ได้ อย่างญาติเสียหรือมีใครเป็นอะไรต้องบินด่วน แม้แต่ถูกเลื่อนไฟท์เพราะเครื่องบินไม่สามารถบินได้เพราะกลัวพวกโคมลอยเหมือนเชียงใหม่ แค่คิดก็แย่แล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
จะบอกว่ามีบางคนไปปล่อยใต้สายไฟฟ้าด้วยค่ะ แล้วพอมันลอยไปก็ไปติดสายไฟ
เรารีบเดินหนีเลยค่ะ กลัวค่ะ ไม่รู้เค้าเอาอะไรคิด


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
ไม่เห็นด้วยกับการลอยโคมในกทม.เลยค่ะ
มันอันตรายมากนะ ที่ก็ไม่ใช่ที่โล่งซักหน่อย
คนเรานี่ก็นะยังจะอยากลอย -_-||
บางโคมที่ปล่อยออกไปนี่ เรายังเห็นว่า
ลมมันยังอัดขึ้นไปไม่หมดเลยด้วยซ้ำอ่ะ
กลัวมากว่าจะไปตกลงบนหลังคา หรือ ต้นไม้


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
คนขายก็เห็นแก่ได้ คนลอยก็เอาแต่สนุกไม่คิดถึงปัญหาที่จะตามมา ครั้นจะไปห้ามปรามเด่วก็อ้างประเพณีวัฒนธรรมอะไรกันอีก จะทำอะไรก็ดูสถานที่นิสนึงนะว่ามันเหมาะมันควรไหม


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
บ้านเราเคยไฟไหม้ เพราะโคมลอยตกใส่ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
นวมินทร์ เพียบเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
ลอยกันทั่วประเทศแล้วละครับ นครศรีฯ ก็ยังอุตส่าห์มีโคมลอยกับเขาด้วย ลอยกันมันทั้งฝนตกนี่แหละ

ปล. คำว่าโคมแปลว่ากะละมัง


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
จะลอยหรือปล่อยโคมทำไมในเมือง
ไร้ความคิด!!


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
ง่าววว!


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
คนเราเห็นแก่ตัวขึ้นทุกวัน นึกถึงแต่ความสนุกของตัวเอง ไม่เคยจะคิดถึงความทุกข์ของคนอื่น



ในสังคม มีคนประเภทนี้เยอะซ่ะด้วย ก็ได้แต่ขอสาปแช่งให้โดนกับบ้านคนที่ปล่อยโคมนั่นแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
บ้านเราอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิยังเห็นมีโคมลอยแข่งกับเครื่องบินเลยค่ะ ยังคิดอยู่เลยว่าคนที่ปล่อยโคมให้ลอยเนี่ย อะไรคิดกัน!!!


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
ที่สมุทรปราการก็มีคะ อ. บางบ่อ ขายกันเต็มเลย
น่ากลัวมาก .....


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
จิตสำนึกและการรู้จักกาลเทศะครับ
เห็นแล้วก็ได้แต่ทำใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
นึกว่าเป็นแต่แถวบ้านเรา ตอนแรกมองขึ้นไปยังชื่นชมว่าวันนี้ดาวแจ่มจังเลยมีหลายดวงด้วย มองอีกทีไม่ใช่นี่หว่ามาเป็นสาย เลยได้ความว่าลอยโคม โอ้ สุดยอดอ่ะ อีกหน่อยวันลอยกระทงคงมีการระงับสายการบินทั้งประเทศไม่ใช่แค่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอนแล้ว เนื่องจากเกรงความปลอดภัย


ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
เป็นอะไรที่สิ้นคิดมากครับ ลอยโคมในกรุงเทพมั่วมาก
เกิดตกลงบนบ้านเรือนไฟไหม้จะทำยังไง หาตัวทำผิดก็ไม่เจอ
ไม่แน่ใจว่าลอยกระทงเกี่ยวอะไรกับลอยโคม
แค่พลุประทัดก็บ้าบอเต็มทนแล้ว กลายเป็นเบื่อเทศกาลนี้ไปนานแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
อยากทำความเข้าใจก่อนนะ จริงๆแล้วโคมไฟที่ทำได้ถูกต้องมันจะไม่เอาไฟตกลงมาครับ มันจะลุกติดไฟแล้วลอยขึ้นบนเรื่อยๆจนกว่าจะดับ ถึงจะค่อยๆตกลงมาช้าๆแบบร่มชูชีพ แต่การที่จะได้แบบนั้นมันมีหลายประการ

- เชื้อไฟคือม้วนกระดาษทิชชู่ชุบขี้ผึ้ง ที่เมื่อก่อนเขาทำกันตามวัดใช้กันประมาณ 1 ใน 3 แต่ที่ผมเห็นขายกันมันบางแค่ข้อนิ้วเองมั้ง แล้วเชื้อมันจะพอเติมลมร้อนได้เพียงพอได้ไง

- จากเชื้อที่ต้องมาก ตัวโคมก็เลยต้องใหญ่เพื่อประคองน้ำหนักได้ มันเลยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณเกือบเมตรได้ ไม่ใช่ที่พ่อค้าเอามาทำเล็กๆเพื่อลดต้นทุนแบบนั้น

- โคมที่ปล่อยแล้วจะขึ้นที่สูงครับ แต่ก่อนจะขึ้นมันจะปลิวได้ เมื่อก่อนเขาจึงจะนำมารวมกันปล่อยตามลานวัดที่มันโล่งๆ เป็นหมู่บ้านๆไป แล้วเนื่องจากข้อสองที่เดี๋ยวนี้น้ำหนักมันลดลงไปมากจึงปลิวกันง่าย เลยเป็นเหตุให้มันไม่ทันได้ขึ้นลมก็ไปติดเอาตามต้นไม้ บ้านเรือนกันก่อน

- การจะปล่อยเขาก็ต้องรอจนลมร้อนมันเติมจนเติมก่อน มันจึงจะมีแรงส่งให้ขึ้นสูงได้ สังเกตุจากควันที่อัดแน่นด้านในจนดำแน่นจนมันตีกลับลงมาด้านล่างได้ แต่บางคนกลัวมันร้อนมือ กลัวไฟ พอเห็นมันลอยได้ก็รีบปล่อย จริงๆมันไม่ใช่รอแค่ให้มันลอยตัวได้มันต้องรอจนมันมีแรงพุ่งตัวขึ้นได้ ซึ่งถ้าโคมที่ทำได้มาตรฐานตามข้อหนึ่งข้อสองมันจะพุ่งแรง แบบไม่ถึง 10 วิมันก็ขึ้นไปเป็น 20-30 เมตรแล้ว ซึ่งมันพ้นระดับความสูงบ้านเรือนตามชนบท หรือต้นไม้ แต่ไม่ใช่ในเมือง!!!

แล้วก็อยากแจ้งอีกว่าโคมตามธรรมเนียมจริงๆ ที่บ้านเรือนล้านนาเขาจะถือจุดแทบทุกหลังคือโคมประทีปครับ (รูปซ้าย) หรือไม่หากเป็นการทำบุญที่วัดก็อาจจะมีบางวัดเขาถือทำโคมลอย (รูปขวา) ที่ถือเป็นโคมลอยเคราะห์แบบล้านนาจริงๆ เป็นลักษณะคล้ายบอลลูนสี่เหลี่ยมที่เขาจะมีแค่รูด้านล่างให้เติมลมร้อนด้วยการลมควันเข้าด้านใน แล้วจะมีห่างว่าวใช้ประคองทิศทางให้รูช่องลมร้อนไม่เบี่ยงเบน แต่เนื่องจากไม่มีก้อนเชื้อเพลิงติดเหมือนโคมไฟ จึงต้องใช้เวลานานกว่าในการปล่อย และใช้เชื้อเพลิงที่มากกว่าเพราะอาศัยแค่ควันที่เข้าไปในรูได้แค่นั้น จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม และไม่ค่อยรู้จักสำหรับนักท่องเที่ยว จนเข้าใจว่าโคมไฟปัจจุบันเป็นประเพณีของชาวล้านนาไป


ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
อย่าแต่แต่ในเมืองเลยครับ...
แถว อ.เมือง และ อ.พระสมุทรเจดีย์ มีการปล่อยโคมด้วยนะครับ แบบว่า พลุยังไม่พอ
เหมือนไม่รู้เลยว่า สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ในจ.สมุทรปราการ แล้วเวลาเครื่องบินบินวน คงต้องหลบกันเลยมั้ง
ผมกังวลมากแจ้งตำรวจไป ก็มาวนๆ และไล่ๆ พอหายไปก็มาอีก
ต้องรอให้เกิดเหตุก่อนใช่ไหมเนี่ย ข้างบนก็เครื่องบิน ข้างล่างก็ชุมชน
ปอลอ. การลอยโคม เป็นวัฒนธรรมอันดีงาม แต่ควรมีจิตสำนึก รู้จักว่าที่ไหนควรกระทำ ไม่ใช่เอาแต่ความพอใจของตัวเองเป็นส่วนใหญ่


ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
ลืมรูป


ตอบกลับความเห็นที่ 53
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 54
ต้องแยกเป็นประเด็นน่ะครับ

1. สถานที่ลอยโคม เหมะสม ไม่เหมะสม

2. เรื่องประเพณี


ตอบกลับความเห็นที่ 54
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 55
กระทู้นี้คงไม่เกิดดราม่า เพราะว่าคนที่พลั้งมือลอยโคมไปแล้วก็ไม่รู้จะเถียงยังไง มันไม่มีมุมไหนให้เถียงแล้วตัวเองกลับมาดูดีได้เลยจริงๆ


เลิกลอยโคมเถอะ ผมไม่อยากเห็นโศกนาฏกรรมไฟไหม้ตึกสูง 60 ชั้น หรือเครื่องบินถูกโคม
ลอยเข้าไปในเครื่องยนต์


ตอบกลับความเห็นที่ 55
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 56
ผมเห็นโคมลอยวิวัฒนาการใหม่ด้วย

ลอยขึ้นไปแล้ว มีเหมือนพุอยู่ข้างใน เป็นเหมือนไฟน้ำตก เหมือนโคมลอยมีหางไฟ

อันนั้นยิ่งทำให้มีโอกาสตกแบบมีไฟมากขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 56
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 57
ต้องทำให้มันผิดกฎหมาย และให้คนเข้าใจถึงอันตรายของโคมลอย ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง หลังจากที่เขาลอยขึ้นไปแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 57
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 58
บ้านใกล้ภูเขาทอง มีลอยโคมกันทุกปี เห็นทีไรก็สยองตลอด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมีขายกันด้วย เพิ่งเริ่มมีในงานภูเขาทองมาได้ 2-3 ปี ปีแรกๆที่มีนี่โคมลอยเต็มแถวบ้านไปหมด เห็นแล้วยังคิดว่ามันจะไปตกตรงไหน อันตรายมากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 58
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 59
เมื่อคืน ที่หมู่บ้านก็มี เป็นเด็กนักเรียน ม. ปลายเอามาลอยกัน วื้อมาเยอะเชียว แต่พอลอยอันที่ 3 ดันทำไฟไหม้ เลยเลิกลอยกันไป

ส่วนตัว เราก็ไม่ชอบใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 59
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 60
ขอบคุณค่ะ ที่ออกมาด่าแทนเรา........


ตอบกลับความเห็นที่ 60
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 61
เราว่ายังมีคนอีกมากที่ไม่รู้ว่ามันอันตราย

คิดแต่ว่ามันชิค แนว อย่างที่ จขกท บอกนั่นแหละค่ะ

น่าจะมีการรณรงค์อย่างจริงจังนะคะ

เริ่มจะตัวเองและคนรอบข้างก่อน ช่วย ๆ กันอะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 61
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 62
เมื่อวานไปแถวยานนาวา มองขึ้นไปบนฟ้าเห็นโคมเยอะแยะไปหมด

ยังนึกในใจ ถ้ามันลอยไปติดตามตึกสูง หรือตกลงมาบนหลังคา จะเกิดอะไรขึ้น

ประเพณีที่หลายคนนำมาเป็นข้ออ้าง ไม่คิดถึงผลที่จะตามมากันเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 62
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 63
น่าจะให้ลงทะเบียนซื้อโคมลอย ใครจะลอยต้องลงทะเบียนเท่านั้น(เผื่อว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับชีวิตคนลอย ไม่ลอยไม่ได้แล้ว) แล้วก็ติดรหัสไว้ที่โคมด้วยเอาแบบชิ้นเล็กไม่ต้องไหม้ เวลาเกิดเหตุเคราะห์ที่เค้าลอยไปตกที่บ้านใครเข้า จะได้เรียกเจ้าตัวมารับผิดชอบเพื่อสะเดาะเคราะห์ซะ


ตอบกลับความเห็นที่ 63
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 64
ลอยใกล้ชุมชน อันตราย


ตอบกลับความเห็นที่ 64
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 65
เป็นประเพณีที่ควรจะเลิกจริงๆ นะ เพื่อนเราบ้านอยู่เชียงใหม่ มีปีนึงโคมลอยไปตกใส่หลังคาบ้าน ยังดีที่ไหม้แต่หลังคา

แต่อย่างน้อยทางเหนือเค้าก็ลอยกันแค่ช่วงเทศกาลยี่เป็ง นอกเหนือจากนี้ถ้าไปลอยก็ควรจะโดนด่าแล้วค่ะ

แล้วยิ่งที่อื่นๆ ยิ่งไม่ควรใหญ่ ไม่เข้าใจว่าจะลอยกันไปเพื่ออะไรเนี่ย เคยไปเที่ยวหลีเป๊ะแบบซื้อทัวร์ครั้งนึง
ทัวร์ก็เตรียมโคมมาให้ลอย แต่เรากับเพื่อนไม่อินเลย จะลอยกันไปทำไม ตกใส่ป่าก็ไฟไหม้ป่า ตกลงทะเลก็กลายเป็นขยะ
สรุปก็เป็นคนขวางโลก ไม่ลอยกันอยู่ 2 คน


ตอบกลับความเห็นที่ 65
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 66
นอกจากเสี่ยงเพลิงไหม้

ยังสร้างขยะให้กับสังคม

ผมไม่เห็นด้วยกับการปล่อยโคมไฟทุกกรณี

ตัวเองสบายใจ แต่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

เห็นแก่ตัว


ตอบกลับความเห็นที่ 66
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 67
เมื่อวานขับรถผ่าน เห็นขายกันอยู่บริเวณเชิงสะพานซังฮี้ หน้าทางเข้าวัดภคินี


ตอบกลับความเห็นที่ 67
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 68
ต่อให้รู้ว่าโคมลอยเป็นสาเหตุให้เครื่องบินตกได้
คนพวกนี้ก็ไม่สนใจหรอก
นอกจากญาติมันอยู่บนเครื่องบิน


ตอบกลับความเห็นที่ 68
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 69
เหมือนเอาขยะขว้างขึ้นฟ้าเลยอะค่ะ เมื่อวานเห็นแล้วก็โมโหเหมือนกัน

พี่เราเพิ่งเล่าให้ฟังว่าเคยมีฝรั่งมาพักโรงแรมตรงถนนวิทยุ อุตริอยากปล่อยโคมในวันเกิดขึ้นมา โรงแรมก็ตามใจให้ปล่อย ปรากฏโคมลอยไปติดต้นไม้ใหญ่ที่สถานทูตแถวนั้นทำให้ไฟไหม้ต้นไม้ค่ะ ทั้งฝรั่งทั้งโรงแรมไม่รู้มีสมองกันบ้างมั้ยเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 69
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 70
วันลอยกระทงของคนไทย...

นอกจากจะขอขมาพระแม่คงคาโดยการลอยขยะทั้งที่ย่อยสลายได้และไม่ได้ลงแม่น้ำแล้ว
ยังอุตส่าห์ขอขมาเทวดาด้วยการลอยขยะขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วย

ความเห็นส่วนตัวนะ ผมไม่ศรัทธาประเพณีลอยกระทงเลยแม้แต่น้อย


ตอบกลับความเห็นที่ 70
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 71
กระทู้แนะนำเมื่อต้นปี ลอยโคมช่วงปีใหม่ที่เขาค้อจนไฟไหม้
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/01/E11531527/E11531527.html


ตอบกลับความเห็นที่ 71
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 72
เมื่อก่อน 15 ปีขึ้นไป ที่เชียงใหม่จะไม่ค่อยเห็นการลอยโคมกันนะ
เพราะเค้าจะลอย ในวัด หลังจากทำบุญ(บางครั้ง และบางคน)
เป็นการสะเดาะเคราะห์ หรืองานศพ และจะเป็นเวลากลางวัน จะเรียกว่าวไฟ
กลางคืนมีบ้างแต่น้อย ผมเข้าใจว่าหลังจาก มีนักท่องเที่ยวไปพบเข้า ก็คงเล่า
ต่อกันมา เวลามาเที่ยวก็อยากเห็นกัน ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนัก
เจ้าพวกร้านอาหารนี่แหละ คงเอาใจลูกค้า จัดให้ ตอนเย็นๆ ค่ำๆ
ก็เลยติดใจ สถานที่สำคัญเลยเอาเยี่ยง สะสมพอกพูนกันมาจากนักท่องเที่ยวที่มา
จนสถานปฏิบัติธรรมมีชื่อดันจัดโปรโมทตัวเองเป็นประเพณี คนแห่กันมาดู
อย่างคลั่งไคล้ แล้วจะโทษใครดีละทีนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 72
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 73
ไม่เห็นด้วยกับการลอยโคมในเมืองเหมือนกันค่ะ เราว่าอันตรายมากๆจริงๆ แต่เรื่องเครื่องบิน เราว่าไม่น่าเกี่ยวนะคะ เพราะเครื่องบินบินระดับปกติคือ 30,000 Feet โคมยังไงลอยไปก็ไม่ถึงแน่ๆค่ะ แต่ถ้าจะบอกว่าไปโดนตอนเครื่องขึ้นและไต่ระดับนั่นก็อีกเรื่อง แต่ก็เป็นไปได้ยากมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 73
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 74
#73

เกี่ยวซิครับ โคมพวกนี้ลอยแบบตามยถากรรม ใครจะไปรู้ได้ว่ามันจะไม่ไปขวางเส้นทางบิน
โดยเฉพาะช่วงขึ้น/ลงนี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะหากเกิดความผิดพลาด จะมีเวลาแก้ไขน้อยมาก
หรือจะให้มีเครื่องบินต้องลงจอดที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาก่อน จึงจะคิดกันได้


ตอบกลับความเห็นที่ 74
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 75
เมื่อคืน วัดแถวบ้านก็ปล่อยโคมกันเยอะค่ะ ลอยฟ่องเต็มท้องฟ้า...เหนือหมู่บ้านจัดสรร เฮ้อ!!
งงเหมือนกันว่ามันเอาส่วนไหนคิด ทั้งคนซื้อคนขาย คนจัดงานปล่อยให้ขายได้ไง คิดแต่จะเอาเงิน เอาสนุก
ไม่นึกถึงส่วนรวม อยากให้ไปตกที่บ้านคนขาย หรือ คนปล่อยดูซักอันจริง ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 75
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 76
บ้านอยู่อ่างศิลา ยังมีโคมมาตกเลย ไม่ชอบจริงๆ เวลาถึงเทศกาลทีนอนไม่หลับ กลัวโคมมันตกใส่บ้านไฟไหม้


ตอบกลับความเห็นที่ 76
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 77
ส่วนตัวผมเห็นว่าไม่ควรครับ เมื่อวานหนังแท็กซี่จากสนามบินกลับบ้าน รถติดมากๆๆๆๆ

เห็นโคมลอยอยู่หลายที่ใน กทม. เลยอะ เห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 77
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 78
#73 เกี่ยวแน่นอนครับ เพราะอยู่ๆ เครื่องบินมันไม่ได้พุ่งขึ้นไปเลย 30,000 ฟุตนะครับ มันต้องค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปก่อน ก็เห็นอยู่ว่ามีคนลอยแถวๆ สุวรรณภูมิด้วย ซึ่งเครื่องบินจะมีอยู่ 2 จังหวะั คือ ตอน Take off กับ ตอน Landing ซึ่งทั้งสองจังหวะนี้แหละครับ ที่น่ากลัวที่สุด


ตอบกลับความเห็นที่ 78
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 79
กำลังจะเปิดประเด็นเลย แจ๊คพอตที่สุดคือมีอยู่อันหนึ่งลอยมาตกข้างรถเลย หลานกำลังจะลงจากรถตกใจ โชคดีที่ไม่มีไฟมีแต่ตัวโคม ชาวบ้านชาวช่องบ่นกัน ต้องมานั่งเก็บกันตอนเช้าเป็นสิบๆ อัน แน่ใจนะว่่าปล่อยเคราะห์ น่าจะสร้างบาป,สร้างกรรม,สร้างเคราะห์ให้หัวเองโดยไม่รู้ตัว


ตอบกลับความเห็นที่ 79
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 80
อยู่ที่คนคับ เจ้าหน้าที่เขาก็ห้าม แต่คนจะลอย:-)ก็แอบลอย เจอมาที่สะพานสาทร พอเจ้าหน้าที่ตรงนี้ห้าม :-)ก็แอบไปจุดตรงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ พวกนี้ต้องจับปรับ ไม่งั้นก็จะ แันไม่แคร์ฉันจะลอยซะอย่าง


ตอบกลับความเห็นที่ 80
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 81
จริงๆก็ควรเลิกทั้งลอยกระทง ทั้งลอยโคมนั่นแหละครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 81
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 82
ชอบจริงๆ ลอยเคราะห์อะไรกัน บาปกันก็ติดอยู่กับตัวคุณทั้งนั้น ประเพณีแต่ละอย่าง ตอนกำเนิดเกิดขึ้นบ้านเมืองไม่เป็นอย่างในปัจจุบัน คน ชุมชน ไม่ได้เยอะอย่างในปัจจุบัน จะทำอะไรความปลอดภัยควรเป็นที่ตั้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 82
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 83
#73 เกี่ยวแน่ๆค่ะ ส่วนใหญ่เครื่องบินมักจะตกตอนบินขึ้นหรือเตรียมลงจอดมากที่สุดค่ะ ถ้าไม่มีความเกี่ยวข้องสายการบินไม่มีทางยอมงดเที่ยวบินแบบสนามบินเชียงใหม่หรอกค่ะ ไม่ได้บินแต่ละเที่ยวเสียรายได้ไปเท่าไหร่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สายการบินต่างๆจะยอมเสียกันแต่เค้าต้องยอมเสียรายได้ไปเพราะเรื่องความปลอดภัยของเครื่องบินค่ะ ที่สนามบินตามต่างจังหวัดยังบินกันไม่มากแต่ถ้าดอนเมืองกับสุวรรณภูมิปิดเพราะโคมลอย ความเสียหายจะขนาดไหนยิ่งถ้าเกิดมีเครื่องบินตกขึ้นมาจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

ตอบกลับความเห็นที่ 83
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 84
เดียวนี้ประเพณีไทยมันเปลี่ยนไปหมดแล้วครับ
วันสงกราน
วันลอยกระทง
วัน..

ไม่มีวันไหนจะเหมือนเดิมอีกแล้ว
ปัจจุบัน วันเหล่านี้คือ วันที่กุจะเที่ยว ทำตามใจกุ


ตอบกลับความเห็นที่ 84
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 85
ปีก่อน ต้องดับไฟที่บ้าน ก็เพราะโคมลอยนี่แหละ ดีที่เห็นทัน ยังไม่ลาม

บ้านอยู่แถวพุทธมณฑลค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 85
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 86
ที่เชียงใหม่ก็ไม่เหมาะเหมือนกันครับ
อย่ามารุมปล่อยโคมที่นี่ เลย ขอร้อง บ้านใครๆก็รัก
สมัยก่อนไม่ได้บ้า ปล่อย โคมแบบขาดสติแบบนี้

ตอบกลับความเห็นที่ 86
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 87
เกลียดเข้าไส้เลยค่ะ โคมลอยเนี่ย

หลายปีก่อน ลูกน้องเก่า มีเรือไดหมึก ไฟไหม้เรือ เพราะโคมลอยตกลงไปในเรือ ตรงที่มีน้ำมันเปื้อนพอดี เสียหายพอสมควร

ปีนี้
เคส 1 โคมมันไปตกในไร่อ้อยเรา เสียหายหลายไร่
เคส 2 เมื่อคืน คนปล่อย ปล่ยไม่เป็น พอร้อนมือก็ปล่อยเลย มันเลยชึ้นไม่สูง ลอยเรื่ยไปตามพื้นเพราะแรงลม โดนลูกสาวเรา
เคส 3 เมื่อคืนเหมือนกัน มีกลุ่มนึงสามสี่คน จุดโคม ช่วยกันจับคนละมุม มีคนนึง คงร้อนเลยปล่อยมือ โคมเลยเอียง กระดาษติดไฟ กลายเป็นโคมไฟ
ทั้งกลุ่มตกใจปล่อยมือ มันก็ลอยไปติดรั้ว ตกอยู่หลังโต๊ะขายกระทง น้องคนขายเป็นเพศที่สาม ด่ากระเจิง ทั้งคนปล่อย คนขาย คนขายเก็บโคมหนีเลย
เคส 4 ก็เมื่อคืนอีกแหละ ลมแรง โคมมันลอยไม่สูงแต่ลมพัดมาติดระเบียงบ้านเรา 555 บ้านไม้ด้วย กรรมของตรู
คนปล่อยได้แต่ตาปริบๆ แล้ววิ่งหนี ห่านเอ๊ยยยยยย


ตอบกลับความเห็นที่ 87
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 88
หลังๆนี่ออกมาด่ากันทุกปี

แต่มันกลับดันมีหนาตาขึ้นทุกปี กระจายตัวมากขึ้นอีกต่างหาก

ต้นตอมันอยู่ตรงไหน

ต้องไปจัดการไอ่ที่ลอยทีเป็นหมื่นที่เชียงใหม่ให้ดูก่อน ต้นแบบมันผิดมันก็พลาดต่อไปเรื่อยๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 88
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 89
ขอถามคนที่ลอยโคม ที่ไม่ใช่จัดในงานลอยโคมยี่เป็งตามประเพณีเขานะว่า ทำเพื่ออะไร

เมื่อคืนกลับบ้าน ข้างวัดยานนาวา มีคนปล่อยโคมลอย (ตรงลานว่าง ๆ ข้างวัด)
คนซื้อไม่ใช่เด็กแว๊น สก๊อยเลย ดูหล่อดูสวยแต่งตัวดี ดูเป็นระดับบน ๆ เดินห้างหรูแบบเกษรด้วยซ้ำ
น่าจะมีการศึกษาและวิจารณญาณพอว่า อะไรควรทำไม่ควรทำ

อยากรู้จริง ๆ จากคนที่เคยโดนโคมลอยตกใส่เกือบไฟไหม้ทั้งไร่ที่เขาค้อ (อ้อ ไม่ใช่ไร่เรานะ ไปอาศัยเพื่อนนอน แต่ถ้าไหม้จริง คงไฟคลอกตายเป็นสิบ ๆ เพราะไปกางเต็นท์นอนกันอยู่)


ตอบกลับความเห็นที่ 89
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 90
เห็นด้วยกับ จขกท. ค่ะ เมื่อคืนเรายังคิดเหมือนกัน ว่าคนลอยโคม คิดได้ไงบ้านคนก็เยอะแยะแถวบ้านเราบ้านไม้กันทั้งนั้นแถวคลองดาวคะนองแต่จุดโคมลอยกันให้เกลื่อน ไม่คิดถึงผลเสียที่ตามมาทีหลังหากไปติดบ้านใครไฟลุกขึ้นมา จะเดือดร้อนกันมากแค่ไหน ทำได้แค่บ่น....ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกจริงๆ สงสัยต้องรอให้ตกบ้านตัวเองก่อนถึงจะคิดได้กัน


ตอบกลับความเห็นที่ 90
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 91
เห็นเหมือนกันค่ะ เมื่อวานไปลอยกระทงที่สวนลุมพินี เห็นอยู่กลางเมืองเลย
ยังแอบสงสัย โห ตึกสูงเต็มไปหมด แล้วมันจะไปติดตรงไหนเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 91
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 92
เมื่อคืนก็นั่งดูโคมลอย..ทั้งคืนเลยครับ

ไม่ใช่ดูเพราะสวยนะครับ..ดูเพราะต้องคอยระวังไม่ให้มาตกใส่บ้านตัวเอง

เฮ้อ..


ตอบกลับความเห็นที่ 92
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 93
ผมมีเรื่องลอยโคมนี่แหละครับ มาเล่า ...

ตอนช่วงออกพรรษาปีก่อน ผมไปเชียงคาน แล้วอย่างที่รู้กันว่า เชียงคานติดริมแม่น้ำโขง
ก็มีคนมากมายครับลอยโคม ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ก็มาลอยตรงถนนริมโขง ระหว่างที่รอมันจะลอยขึ้น โคมหลุดมือครับ !!!!! แล้วลมพัดจากแม่น้ำแรงมากๆ

โคมบินเข้าไปร้านอาหารข้างๆ ซึ่งเป็นบ้านไม้ ช๊อคครับ ทั้งคนกินข้าว ทั้งเจ้าของ ทั้งผม วิ่งไปเอาโคมมาเกือบไม่ทัน ใจหายวาบ T T

หลังจากนั้นมันก็ลอยได้ปกติครับ ผมเลยเลิกคิดจะลอยโคมอีกเลย ไม่อยากคิดสภาพถ้าผมดึงมาไม่ทัน เชียงคานอาจจะไม่เหลือเพราะผม -...-


ตอบกลับความเห็นที่ 93
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 94
ผมไปลอยหน้าวัดหนองแขมมา เห็นคนจุดโคมเตรียมปล่อย ก็ต๊กกะใจ

ไม่คิดว่าโคมมันจะอันใหญ่ขนาดนั้น นึกว่าอันพอๆกับกระทง นี่รัศมีมันน่าจะเกือบครึ่งเมตรเลย

สูงอีกเกือบเมตร ตกใส่หลังคาบ้านใครก็เตรียมประชุมเพลิงกันได้เลย

และที่น่าเบื่อสุดๆก็พวกจุดพลุ จุดประทัด กระจับ ผมลอยใต้สะพาน มันโยนมาจากบนสะพาน

ตกน้ำแตกกระจาย เดี๋ยวปุ้ง เดี๋ยวปั้ง คนลอยไปก็สะดุ้งไป แม้นจะดูน่าขำ แต่ตรูไม่ขำ

ซักกะติ๊ด คนจุดเราก็นึกว่าวัยรุ่น ปุโธ่ ปุถัง แก่หัวจะหงอกอยู่แล้ว ยังจะมาเล่นเป็นเด็กๆอีก

ตรูล่ะเพลีย....


ตอบกลับความเห็นที่ 94
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 95
คุณตำรวจ เค้ามีพูดถึงเรื่องนี้กันบ้างไม๊คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 95
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 96
เมื่อวานรีบกลับบ้านแทบตายเพราะแถวบ้านมีปล่อยโคมลอยนี่แหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 96
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 97
เรามองจากหลัง มธ.รังสิต เห็นโคมลอยมาจากทาง ตลาดไทรึวัดธรรมกาย ไม่แน่ใจแต่เยอะมาก เป็นสายเลย ทั่งๆ ที่ตรงนี้เป็นจุดที่เครื่องบินวนเพื่อลงจากดอนเมือง เราเห็นยังนึกกลัวเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 97
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 98
เคยเจอเหมือนกันแถวสะพานพระปิ่นฯ โคมมันลอยไม่ขึ้นอ่ะ ขึ้นได้นิดหน่อยมันตกลงมา ถูกทหารในเครื่องแบบที่กำลังนั่งอยู่บนมอไซต์(รถติดไม่ขยับเลย) ไหม้เสื้อเค้าค่ะ นังพวกที่มันจุดนั่นแหละ ยืนหัวเราะกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ มอไซต์คันที่อยู่ข้างๆเลยช่วยกันดับๆ

โชคดีที่ไม่เป็นไรมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 98
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 99
เคยไปลอยครั้งนึงที่เชียงใหม่ค่ะ ตอนนั้นไปกินขันโตก แล้วทางร้านเค้าจัดไว้ให้ คืนวันลอยกระทงเนี่ยแหละ


ครั้งแรก ครั้งเดียว ไม่เคยลอยอีกเลย ตามความรู้สึกเรานะ ลอยไปไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา สวยเหรอ ดูไกลก็สวยนะ แต่ใกล้ๆระยะประชิดเนี่ย อะไรก็ไม่รู้ เหม็นด้วย ก็เลยคิดว่จะไม่ลอยอีก


บ้านเราอยู่บางแสนค่ะ เมื่อคืนนี่แบบเยอะมาก เรายังคุุยกะแฟนเลยว่า กลางคืนนี่ลมบกใช่ป่าวนะ เค้าบอกว่าใช่พัดออกไปหาทะเล เรานี่แบบ ค่อยเบาใจหน่อย (เค้าลอยกันหน้าหาดเยอะมากอะค่ะ)


พลุก็เหมือนกัน ไม่รู้จะจุดทำไมนักหนา (ถ้าจำไม่ผิดนี่พลุผิด กม ไม่ใช่หรอคะ ทำไมถึงจุดกันได้) 5 ทุ่มเที่ยงคืนยังไม่เลิกจุดเลยค่ะ



ปล ตอนที่เราไปงานลอยกระทงที่เชียงใหม่ เรากลัวมากอะ เหมือนสงครามกลางเมือง เดินไปก็ผวาไป วี๊ดบึ้มมั่งหละ ประทัดมั่งหละ ถ้าเค้าไปจุดตรงที่มีคนจะไม่ว่าเลย แต่นี่กลางถนนที่เค้าปิดให้คนเดิน โยนใส่ขา ใส่เท้าคนอื่น เรานี่แบบ รีบไปลอย รีบกลับโรงแรมดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 99
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 100
โคมลอยนี่ทำเอาเครื่องบินขึ้น-ลงไม่ได้เลยนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 100
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 101
เมื่อคืนรถติดอยู่แยกภูเขาทอง 10 นาทีนับโคมลอยที่ลอยต่อหน้าต่อตาได้เกือบ 50 ลูก

ตอบกลับความเห็นที่ 101
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 102
เมื่อก่อนลอยเพื่อปล่อยเคราะห์

เดี๋ยวนี้แฟชั่นค่ะ ลอยเพื่อได้ถ่ายรูปมาอัพลงเฟซ 55555+


ตอบกลับความเห็นที่ 102
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 103
เห็นด้วยว่าควรรณรงค์เลิกปล่อยโคม กันพร่ำเพรื่อ ไฟไหม้ขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่


ตอบกลับความเห็นที่ 103
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 104
อีกอย่างคือประทัดครับ ผมว่ามันเกี่ยวกับประเพณีตรงไหน

ไม่เข้าใจจริงๆจะจุดทำไม ไอ้ที่เป็นพวกไฟเย็นคล้ายๆธูปอ่ะไม่เท่าไร

แต่ไอ้พวกที่เสียงดังๆ ทำให้คนอื่นเค้าตกใจมันสนุกมากหรือไงไม่ทราบ

คนอื่นเขาไม่สนุกด้วยหรอกครับ ถ้าสนุกก็ไปจุดอยู่ในห้องน้ำที่บ้านคนเดียวเหอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 104
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 105
คนขายและคนซื้อ นี่เค้าไม่รุ้จริงๆ น่ะหรอ ว่ามันจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 105
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 106
ปีหน้าก็มีอีก
ผมนึกว่าผีกระสือ ออกหากิน บินเต็มเมืองไปหมดเลย
พอนานๆเข้า ก็จะกลายเป็น วันลอยกระทงไปปล่อยโคมลอยกันเถอะ กลายเป็นวัฒนธรรมไปซะแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 106
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 107
ไม่ว่าจะ กทม หรือ ต่างจังหวัดก็ไม่เหมาะค่ะ

ถ่ายรุปสวยจริง ... แต่คนลอย ลอยเสร็จแล้วเคยคิดถึงคนข้างหลังบ้างไหม ทุกเทศกาลที่มีการลอยโคม บ้านแฟนที่อยู่เชียงใหม่ ไม่เป็นอันหลับอันนอน ต้องคอยดูโคม กลัวจะตกใส่บ้าน ไฟไหม้

และเมื่อคืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคืนที่ไม่ได้นอนหลับกัน

Edit: แก้ไขคำผิดค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 107
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 108
ขนาดชายหาดบางแสน ยังห้ามขาย ข้ามลอย เลยครับ

เพราะใครจะไปรู้ว่ามันจะออกทะเลหรือกลับเข้าฝั่ง

ยิ่งกรุงเทพ ยิ่งไปกันใหญ่ -0-


ตอบกลับความเห็นที่ 108
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 109
คือ .. ผิดกฏหมายนี่ มันก็ร้ายแรงไปมั้ยคะ ห้ามซื้อ-ห้ามขาย มันเกินไปหน่อยมั้ย

เราว่าน่าจะจัดระเบียบเรื่องสถานที่ปล่อย มาตรฐานของโคมลอย หรือใ้ห้ความรู้เกี่ยวกับวิธีปล่อย

น่าจะดีกว่ามั้ยคะ เราคนหนึ่งชอบโคมลอยมาก แต่เราไม่ปล่อยพร่ำเพรื่อนะคะ แล้วเราก็ปล่อยเป็นด้วย

แต่เห็นพัฒนาการที่อันตรายของโคมลอยแล้วก็เพลียแทนเหมือนกันนะคะ

ยิ่งโคมลอยที่ไม่ได้คุณภาพ มาอยู่ในมือคนที่ไม่รู้วิธีปล่อยแล้วด้วย ยืนลุ้นตัวโก่งเลยค่ะ

อาจเป็นเพราะอยู่้เชียงใหม่มั้งคะ เล่นมาตั่งแต่เด็กแล้ว ไม่เคยพลาดสักที

ตอนเด็ก ๆ พ่อ พี่ชาย ลุง หรือหลวงตาที่วัด จะช่วยกันทำเอง แล้วพากันปล่อยค่ะ

ถือเป็นความเชื่อ เป็นประเพณีของเรา แต่ไม่ใช่อันเล็กกระจิดริดแบบนี้นะคะ ใช้ทิชชู่เป็นม้วน

ต้มเศษเทียนกันเป็นปี๊บ ใช้เวลาลนไฟนานมาก ขนาดของโคมหรือคะ สองคนโอบได้มั้ง สูงท่วมหัวเลยค่ะ

ถ้าเราทำให้ถูกวิธี และรู้ถึงความเหมาะสม มันก็ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 109
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 110
แถว พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ ปล่อยโคมกันที่วัดครับ วัดนำมาขายเอง เป็นรายได้เข้าวัด ทำบุญ และให้เขียนชื่อที่โคมด้วย แล้วปล่อยลอยเข้ากรุงเทพ เท่าที่ดูเมื่อคืน ไม่ต่ำกว่า 50 โคม แน่ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 110
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 111
เมือคืนที่พระประแดงก็มีเต็มเลยครับ เป็นสายเลย คงแก้ยากแล้วละ
ตาม คห.72 ตัวการคือ ททท ครับ สมัยก่อนมีแต่ไม้มีเป็นสายแบบนี เพราะ ททท โปรโมต ที่สนามบินเชียงใหม่เขาห้ามเล่นบริเวณรอบๆ ปกติมันจะตกลงมาเมือไฟดับคือไม้มีเชือไฟ แต่ที่เกิดไฟไหม้บ่อยๆ เพราะบางโครมจุดเผาไหม้ไม้สมบูรณ์ และตกลงมา บางทีที่ไฟดับแล้วก็ยังมีไฟแดงๆอยู่ ทางเหนื่อไหม้มาหลายหลังแล้วครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 111
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 112
นั่นซิ ลอยกันทำไม
ขนาดกระทงเรายังไม่อยากไปลอยตามแหล่งน้ำธรรมชาติเลย

วัดแถวๆที่เราอยู่เขาใช้วิธี ทำกระทงแล้วเวียนกันลอย รอบโบสถ์ โบสถ์มีน้ำล้อมรอบ
กระทงก็ของวัด ซื้อกระทงกัน 20 บาท สวยๆ ใหญ่ๆ งามๆทั้งนั้น 20-30 บาท ทำบุญให้วัด เอาไปลอยที่โบสถ์แหล่ะค่ะ พอเริ่มจะเยอะ เริ่มจะแน่น ก็เอาลงมาขายซ้ำ ให้คนที่ยังไม่ได้ลอย

เราว่าดีนะคะ กำจัดขยะง่ายดี กระทงไม่ลอยออกไปไหนแบบแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่แค่รอบโบสถ์ แต่ก็ได้ทำพิธี ได้ลอยสมใจตามธรรมเนียม


ตอบกลับความเห็นที่ 112
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 113
นอนดูโคมลอยอยู่ที่คอนโด
ยังแอบคิดในใจว่าแถวสนามบิน เค้าจะมีประกาศห้ามลอยรึป่าว
จะรบกวนการบินไหม
แล้วถ้ามันโดนสายไฟ หรือล่วงลงมาจะทำยังไง
คนลอยก็เอาแต่สนุก รูปสวย Up FB
ไม่นึกถึงผลเสีย แล้วตอนนี้ก็ลอยโคมกันเกือบทุกพื้นที่
น่าจะมีประชาสัมพันธ์ถึงผลเสีย
แต่จำกัดพื้นที่การปล่อยโคมบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 113
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 114
เมื่อคืนวานอยู่ที่คอนโด (ใก้ลที่ทำงาน) ยังคิดถึงว่าแถวบ้านเราจะมีคนปล่อยโคมลอยหรือเปล่า เป็นห่วงบ้าน กลัวมาตกที่บ้าน เพราะที่บ้านเราไม่มีคนอยู่

หลายปีมาแล้ว น้องที่ทำงานเล่าให้ฟังว่า บ้านของเพื่อนเค้าอยู่ที่ตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ถูกไฟไห้มเพราะโคมลอย ลอยไปตก


ตอบกลับความเห็นที่ 114
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 115
คืนนี้ก็นอนลุ้นเช่นเดียวกับกันจขกท.ค่ะ บ้านอยู่ติดคลอง เมื่อคืนภาวนาให้ฝนกระหน่ำตลอดคืนเลยค่ะ กลัวเหลือเกินกับสะเก็ตไฟประทัดและพลุ จะตกใส่หลังคา ข้างบ้านก็ไม่มีคนอยู่ ฝั่งตรงข้ามคลองก็จุดเอา จุดเอา น้องหมาวิ่งกันให้วุ่นวาย กว่าจะข่มตาให้หลับลง ปาเข้าไปตีสอง...

เช้ามาเจอโคมที่ลอยมาตกพงหญ้าแถวบ้าน ใกล้คูน้ำเล็กๆ พอดี โชคดีไปที่ไม่ติดไฟอะไรขึ้นมา ต้องนอนลุ้นกันอีกกี่คืนเหรอคะ วานบอก...


ตอบกลับความเห็นที่ 115
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 116
ตุณ gazeclub คะ


บางแสนนี่เค้าห้ามขาย ห้ามลอยแล้วใช่ไม๊คะ เมื่อคืนนี้เป็นร้อยโคมได้มั้งคะ บ้านเราอยู่ตรงสาย 2 อะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 116
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 117
อย่าลอยโคมเลยนะคะ บ้านคนอื่นเค้าจะไฟไหม้ได้ มันมีความเสี่ยงนะ

ขอร้องนะคะ เพราะมีเหตุการณ์ไฟไหม้ทุกปีเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 117
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 118
เมื่อวานกำลังเตรียมตัวจะไปลอยกระทง ได้ยินข้างบ้านร้องเฮกันเลยเดินไปดู เค้าลอยโคมกันอย่างสนุกสนาน พี่หันมาบอกว่าไปลอยกันเถอะพี่จะอยู่บ้าน เป็นห่วงบ้าน ลอยไปทางโน่นก็โรงงาน ลอยมาทางนี้ก็บ้าน พี่นั่้งดูจนเค้าลอยโคมหมดเห็นว่ามันลอยไปไกลแล้วถึงได้ตามออกมา คนที่เค้าลอยเค้าไม่กลัวไปตกใส่บ้านใครเลยหรอ คิดแต่เอาสนุกตัวเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 118
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 119
ควรเลิกให้หมดครับ
ลอยโคม
จุดพลุ
จุดประทัด
ยิงปืนขึ้นฟ้า ลงน้ำ ลงดิน

หรือถ้ากลัวว่าจะไม่สนุกสนาน
ก็ต้องขออนุญาต มีใบอนุญาต
มีการตรวจสอบแบบมีหลักวิชา



ตอบกลับความเห็นที่ 119
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 120
เมื่อคืนผมสาบแช่งทุกคนที่ลอยโคมเหมือนกัน
พ่อค้าแม่ค้ายิ้มแก้มปริ เพราะขายดีมากกกกกกกกกกกกกกก

ผมบ่นกับเพื่อนตลอดว่า จะลอยกันทำไม ขยะทั้งนั้น
เพื่อนผมเลยเล่าให้ฟังว่า

มีเพื่อนมันคนนึงเป็นผู้หญิง ยืนดูกระทงที่ตัวเองลอยอยู่ อยู่ๆก็โดนหยดไฟของโคมใครก็ไม่รู้ ใส่หน้าแหกพองเลย เป็นแผลเป็นทุกวันนี้ แถมหาตัวคนปล่อยก็ไม่ได้เพราะปล่อยกันเยอะจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 120
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 121
เมื่อบ่ายออกไปดูหน้าบ้านก็เจอเศษโคมของใครไม่รู้ตกอยู่หน้าบ้านเราค่ะ ตรงข้างๆถังขยะพอดี ต้องเก็บไปทิ้งให้อีก


ตอบกลับความเห็นที่ 121
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 122
ชิค หรือ shipหาย


ตอบกลับความเห็นที่ 122
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 123
ในหมู่บ้านจัดงานลอยกระทงในทะเลสาบ รวมทั้งวัดหลายๆแห่งพร้อมใจกันจัดทุกวัดเพราะติดแม่น้ำ (แถวสะพานพระนั่งเกล้า). มีทั้งเสียงประทัด พล จุดกันดังลั่นสนุกสนาน เราไม่ได้ไปเพราะเกรงว่าฝนจะตกอีก
ตื่นมาจะไปทำงานตอนเช้ามืด พบเศษซากโคมลอยมาตกในบ้าน โชคดีที่ไม่เกิดเหตุไฟไหม้
ควรจะมีมาตรการห้ามไม่ให้ลอยโคมในเมืองนะคะ เพราะอันตรายจริงจริงค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 123
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 124
เราเป็นคนเหนือแท้ๆ เกิดมาเคยลอยครั้งเดียวเมื่อนานมาแล้วและไม่ได้อยากรู้สึกว่าอยากลอยอีกเลย -*-

อย่างที่ จขกท.ว่า กลัวไปตกใส่หลังคาบ้านคนอื่น เพราะตอนเราอยู่ ม.ต้น บ้านอาจารย์เรามีโคมตกใส่ ดีที่ว่าวันนั้นอาจารย์เค้าตะหงิดๆ ห่วงบ้านขึ้นมาเลยอยู่รอดูทิศทางโคม ซึ่งก็มีตกมาจริงๆ ที่สนามหน้าบ้าน ถ้าอาจารย์เราเข้านอนไปแล้ว คงได้ทำบ้านใหม่แหงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 124
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 125
วัดเทพลีลา แถวหน้าราม ปล่อยกันมากทีเดียว


ตอบกลับความเห็นที่ 125
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 126
หลายปีก่อน


มีโคมปลิวมาติดหลังคาบ้านแถวๆเดียวกัน

เจ้าของบ้านเขาไม่อยู่

แต่พวกเราต้องมานั่งเฝ้า เอาสายยางรดน้ำต้นไม้ เอาถังน้ำ เอาโทรศัพท์มาเตรียมกดดับเพลิง เผื่อกรณีฉุกเฉิน มายืนรอกันเป็นแถว


...ไม่สนุกนะแบบนี้

ตอบกลับความเห็นที่ 126
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 127
^
^
^ (แก้ไขเพิ่มเติม ชี้ไปที่รูปในความเห็น 126 นะคะ)
ต้นตอจากที่นี่เอง ก็ว่าเมื่อวานในหมู่บ้านมีโคมนรกนี่หล่นลงหลายบ้านมาก
ถัดจา่กบ้านเราไปสองหลังโคมที่หล่นลงมาหน้าบ้านเขายังมีไฟแดงๆ ในถาดอยู่เลย
เล่นเอาเมื่อคืนได้ยินเสียงอะไรหน่อยต้องรีบเปิดหน้าต่างดูว่าเป็นโคมนรกนี่หล่นลงมาหรือเปล่า คิดได้ไงอะลอยโคมในเมือง -*-

ตอบกลับความเห็นที่ 127
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 128
ความเห็น 127 ถ้ารถดับเพลิงมาแล้วฉีดน้ำ เบอร์ใครโทร เตรียมตังค์ไว้ด้วยนะครับ 555 ข้างบ้านโดนมาแล้ว งง....


ตอบกลับความเห็นที่ 128
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 129
ควรยกเลิกได้แล้ว เมื่อสองสามปีก่อนเคยมีโคมลอยมาติดต้นไม้ข้างบ้าน โชคดีที่วันนั้นอยู่บ้าน เลยระดมพลกันมาเขี่ยลงจากต้นไม้
ตั้งแต่นั้นมา ในวันที่คาดว่าจะมีการลอยโคม เราไม่ไปไหนเด็ดขาด


ตอบกลับความเห็นที่ 129
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 130
คนอื่นๆเตือนกันไปเยอะแล้ว..ขอลงภาพแล้วกันครับ..ลองคิดดู


ตอบกลับความเห็นที่ 130
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 131
บ้านอยู่เชียงรายค่ะ นอกเมืองไป 10 กิโล

ก็ไม่อะไรมากมาย ตื่นเช้ามามีโคมตกอยู่ในบริเวณบ้านประมาณ 3-4 ลูกเท่านั้นเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 131
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 132
เป็นกระทู้ ที่ ใช้ส่วนไหนคิดครับ

โคมลอย ผมว่าสวยดีออก

แล้วที่ผ่านมา ผมแทบจะไม่เห็น ข่าว ว่ามี อุบัติเหตุเลย




ถ้าจะ รณรงค์ เอาประทัด ให้อยู่ก่อนเถอะครับ


เห็นแล้วเศร้า กระทู้นี้ ขึ้นแนะนำ


ข่าวประทัด ระเบิด คามือ นิ้วขาด ไม่รู้จัก รณรงค์ ไม่รู้จักจับ


และไม่เห็น ขึ้นเป็น กระทู้แนะนำ เลย


เฮ้อ เอาส่วนไหนคิดกันเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 132
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 133
โคมลอย สวย แต่อันตราย T_T


ตอบกลับความเห็นที่ 133
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 134
เชียงใหม่ยังไม่อยากให้ลอยเลยครับ สนามบินอยู่กลางเมือง พวกที่รับผิดชอบด้านการบินของที่นี่กลัวกันมากๆ

แต่อย่างว่า เชียงใหม่มันตัวต้นกำเนิดการลอยโคมเลย แถมเป็นการท่องเที่ยวไปซะแล้ว จะห้ามก็คงไม่ได้

ช่วงหลังๆ มานี้เลย win-win กันทั้งสองฝ่าย โดยเครื่องบินไฟลท์เข้า-ออกเชียงใหม่ในช่วงวันลอยกระทงนี้ ไฟลท์ช่วงดึกๆ จะ retime เปลี่ยนมาขึ้นลงให้เสร็จภายในช่วงค่ำๆ (ไฟลท์แน่นมากเลยครับช่วงนี้ ขึ้นลงกันเป็นว่าเล่น หุๆๆ) ซึ่งก่อนหน้าเวลานี้ก็ห้ามประชาชนปล่อยโคมด้วย หลังจากนั้นจะงดการบินขึ้นลงทั้งหมด แล้วอนุญาตให้ประชาชนปล่อยโคมได้ตามอัธยาศัย ก็ถือว่าไปด้วยกันได้ทั้งสองฝ่ายซักที หลังจากคาราคาซังเรื่องนี้มานาน

แต่ที่ยังกลัวคือ ประชาชนนั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีไฟจะไหม้บ้านตัวเองเมื่อไหร่ มีข่าวมาได้เกือบทุกปี ผมเองก็กลั้วกลัว บ้านผมเองก็มีโคมมาตกใส่บ้านทุกปีเลยครับ ซึ่งก็ยังดีเป็นบ้านหินบ้านปูน มันไม่ติดไฟก็แล้วไป แต่กลัวพวกบ้านไม้อายุเก่าแก่ทั้งหลาย พวกนี้น่ะวอดไปเยอะแล้วครับ ไม่น่าเลยจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 134
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 135
เข้ามาโหวตด่วนเลย..
เมื่อคืนเห็นโคมเต็มฟ้า ยังแอบคิดในใจ
ไปตกบ้านใครคงมีไฟไหม้กันบ้าง

ตื่นเช้่ามาแทบช็อค มาตกหลังบ้านตัวเองซะงั้น
เดชะบุญจริง ๆ ที่ไม่เกิดอะไรขึ้น

ขอล่ะนะ ..อย่าเลย มันไม่คุ้มหรอกค่ะถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา
กะอีแค่ความสวยชั่ววูบ ปล่อยโคมใช่จะได้บุญนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 135
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 136
เมื่อวานเราไปขายของที่วัดพระศรี ตรงวงเวียนหลักสี่
คนเยอะมาก และ ลอยโคม กันเยอะมาก ๆ คนขายก็ต้องนั่งหลบ ๆ คอยเรียกขาย

ปล่อยกันเยอะมากจริง ๆ แล้วซอยข้างวัดก็มีแต่บ้านมีแต่หอ ส่วนหลังซอย หรือหลังวัด ก็จะเป็นละแวกบ้านที่เป็นชุมชนบ้านไม้ ที่สร้างอยู่ตามแนวริมคลอง หรือเลยว่า ชายคลอง

คนปล่อยโคมกันเยอะมาก ตำรวจไล่แล้วไล่อีก จน 4-5 ทุ่ม ตำรวจก็ประกาศไล่อีกรอบ
ตำรวจบอกว่า ให้หยุดลอยได้แล้ว เพราะสนามบินดอนเมืองโทรมาแจ้งว่า โคมมันไปบดบัง อะไรเนี้ยแระ
แต่มันน่าหวาดเสียวมาก เพราะ ติดกับวัดมันชุมชนทั้งนั้นเลย มีแต่บ้านไม้

รู้ว่าอยากทำอะไรที่มันชิค ๆ ถ่ายรุปลงเฟสบุ้ค โชว์ว่าตูได้ลอยโคมนะ อะไรบลา ๆ

เห็นบางคนลอยไม่ขึ้น ไปติดต้นไม้สูงใหญ่ในวัด ก็ต้องหาวิธี ยังคิดอยู่ว่าถ้าไม่ยอมทำอะไรกัน ไฟแม่มต้องไหม้ต้นไม้แน่ ๆละ

พอกลับมาบ้านประมาณ เที่ยงคืน นักศึกษาอยู่หอ อยากจะลอยโคม ลอยแม่มบนหอ ประมาณชั้น 5 ดันลอยไปติดอะไรไม่รู้ ช่วยกันใหญ่ แล้วข้างๆก็สายไฟฟ้า

โอ้ยยยยยยยยยยย จะชิคอะไรกันนักหนา ชิคจะกลายเป็น ชิบ....ห อา ยอ หาย อะสิไม่ว่า


ปล. วัดพระศรี บางเขน นี่มีลอยทุกงานคะ ลอยโคมไม่ใช่ว่า วันลอยกระทงอย่างเดียว
วันไหนถ้ามีงานตอนกลางคืนด้วย เช่น เวียนเทียน เนี้ยแระคะ โคมลอยบานนนนนนนนนน

พระท่านก็ไม่ว่าอะไรนะคะ ท่านก็สวดเทศน์ของท่านไป น่าจะประกาศห้ามญาติโยมหน่อยก็ไม่ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 136
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 137
แล้วก็มีคห.กร๊วกๆโผล่มาจนได้สิน่า


เข้าใจมั้ยเนี่ยว่าประทัดกับโคมลอยมันต่างกัน

ไม่ได้ว่าเล่นประทัดนี่มันดี น่าสนับสนุนหรอกนะ
แต่อย่างน้อย ประทัดต่อให้เล่นกันจนมือแหก นิ้วขาด มันก็มือคนจุดไง
เล่นเอง โดนเอง มันก็ช่วยไม่ได้อ่ะ

แต่โคมลอย ถ้าไฟมันไหม้ มันไม่ได้ไหม้บ้านคนลอยไง
มันไปตกใส่บ้านคนอื่น ไหม้บ้านคนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่



แล้วที่ข่าวไม่เคยออก ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอุบัติเหตุ
เอาแค่ในกระทู้นี้ คห.บนๆ ก็โดนไปกี่คนแล้ว

เฮ่อ! เพลีย!


ตอบกลับความเห็นที่ 137
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 138
คิดว่าที่คนลอยกันเยอะ เพราะแบบเป็นเรื่องสนุก เรื่องที่แปลกใหม่ ไม่ได้ทำในชีวิตประจำวันไงคับ

อย่างผมเองในฐานะที่ไม่ได้มีความรู้เลยว่าโคมที่เค้าขายๆกันมันไม่ได้มาตรฐานหรอ หรือว่ามันมีวิธีลอยด้วยหรอ ผมยังรู้สึกเลยว่า "เมื่อคืนเรามีโอกาสที่เราจะได้ลอยโคมโดยไม่ต้องไปตจว.ด้วยนะ อยากลอยจังเลยอ่ะ ไม่เคยลอยมาก่อนเลย ลอยขึ้นไปแล้วมันสวยจัง" แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลอย

ผมว่ามีคนหลายๆคนคิดแบบนี้ โดยเฉพาะวัยรุ่น

แต่คนที่บอกว่า ควรจะเลิกประเพณีนี้ไปเลยนี่ ผมว่าเกินไป ผมถามจิง การลอยโคมมันแย่ขนาดที่จะต้องเลิกเลยจิงๆหรอ ไม่ให้เด็กๆลูกหลานเราได้มีโอกาสได้ลอยโคมเลยหรอ

ส่วนเรื่องประทัดนี่ ไอที่เสียงดังๆควรห้ามเลย แต่อย่างพวกไฟเยน หรือแบบเมดกระเทียมเปาะแปะที่เดกๆเล่นกัน ผมว่ายังได้อยู่

ตอบกลับความเห็นที่ 138
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 139
เท่าที่ผมเห็นแถวบ้านผม โคมลอยที่มันตกลงมาไฟมันดับสนิททุกอันเลยนะครับ

เพราะมันลอยไปสูงมาก ๆ มากจริง ๆ ลอยไปสูงสุดนี่มองแทบไม่เห็นเลย

ไม่เคยเห็นมันตกมาทั้ง ๆ ที่ไฟยังติดอยู่ พอไฟมันดับมันก็จะค่อย ๆ ลอยช้าลง

จนควันในโคมหมดมันถึงจะค่อย ๆ ตกลงมาตกลงมา


แต่ผมไม่รู้ที่ว่าเค้าปล่อยที่ กทม. มันเป็นยังไง อาจจะไม่เหมือนที่บ้านผมก็ได้

ตอบกลับความเห็นที่ 139
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 140
ใช่ การลอยโคมมันแย่มาก แย่ที่สุด สมควรเลิกไปได้เลย

ตัวเราอายุป่านนี้ยังไม่เคยลอยโคมสักที และยิ่งรู้ถึงอันตราย ก็ยิ่งไม่อยากทำ
ถ้าเราจะลอย ก็คงไปสถานที่ดั้งเดิมของเขาทางเหนือโน่น ที่ทางที่เขาเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ

โคมลอยถ้าตกลงมาแล้วไฟยังติดอยู่ก็อันตรายมาก แม้ไฟจะดับแล้วตกลงมา ก็เป็นการสร้างขยะ สร้างมลภาวะ ทำลายสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

สมควรทำให้มันผิดกฎหมาย เจอที่ไหนจับปรับทันที ถ้าโดนจับหลายทีไม่เข็ด ก็ให้ติดคุกกันไปเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 140
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 141
คงจะฮิตกันไปอีกนาน เล่นกันทุกเทศกาล
ขอใช้คำว่าเล่น เพราะไม่ได้ใช้ในประเพณียี่เป็ง หลายคนใช้เป็นพร้อบถ่ายรูป
ที่ร้ายกว่านั้น บางคนเล่นเอาลูกไฟไปห้อย
โคมลอยขึ้นไป ลูกไฟก็ตกลงมาเป็นระยะ
ถ้าร่วงใส่หัวคนจะทำไง ยิ่งถ้าไปโดนเด็กล่ะ
เมื่อคืนเพื่อนบอกว่าที่มันไปลอยกระทง
มีโคมลอยที่ยังติดไฟ ตกลงบนหลังคารถที่จอดอยู่
ดีที่มีคนเห็นเลยเขี่ยลงมาดับให้


ตอบกลับความเห็นที่ 141
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 142
ลอยเคาะห์ตัวเอง
แต่ทำให้คนอื่น ผวา หรือบ้านคนอื่นเค้าไฟไห้ม
เป็นต้นเหตุทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อน
เค้าจะด่า สาปแช่งเอา
จะกลายเป็นเพิ่มปาปซะงั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 142
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 143
อันตรายจริงๆ ไม่ได้ไปร่วมลอยกระทงหรือสงกรานต์นานแล้ว เพราะประเพณีที่ดีงามถูกทำให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เห็นแล้วเศร้าใจ คืนวันลอยกระทง ยังจุดพลุ จุดประทัดกันเสียงดังตูมตาม ตีหนึ่งแล้วยังไม่เลิก จะนอนก็นอนไม่ได้ ปกติต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่ตีห้า สรุปแทบไม่ได้นอน ทำไมคนไทยบางคนบางจำพวก ทำตัวไม่รู้กาลเทศะ เหมือนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน เกรงใจผู้อื่น ไม่นึกถึงส่วนรวมกันบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 143
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 144
ก็ถ้า 143 คน รวมเราเป็น 144 คนในกระทู้นี้ ไม่ลอย และชวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนที่บ้าน ไม่ลอย ... อย่างน้อย ๆ ก็พอจะช่วยได้นะคะ ... ช่วย ๆ กันเน๊อะ เริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ ... (^_^)


ตอบกลับความเห็นที่ 144
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 145
โดนมา 1 โคมครับ เดือดร้อนคนอื่นแบบนี้มันจะได้บุญได้อย่างไรครับ??


ตอบกลับความเห็นที่ 145
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 146
แอนตี้ลอยโคม.
เพิ่งกลับจากปายมา คณะพี่ๆเพื่อนๆอยากลอยโคม เราบอกไม่ชอบลอย กลัวไฟไหม้
เลยไม่ออกไปลอยด้วย เพราะกลัวเค้าจะเสียบรรยากาศ


ตอบกลับความเห็นที่ 146
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 147
มาลงชื่อสนันสนุนจขกท.
เราไม่ชอบงานลอยกระทงเลยจริงๆ
ประเพณีบางอย่างก็ต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยนะ
สมัยนี้ประชากรจำนวนเยอะขึ้นมา จะทำตามประเพณีเป๊ะๆ มันก็ไม่เหมาะ

นี่อะไร ลอยกระทง ขอขมาแม่คงคา โดยการเอาขยะไปให้ ถ้าแม่คงคามีจริง คงบอกว่า อย่าขอขมาเล๊ย ยิ่งขอน้ำยิ่งสกปรก


ตอบกลับความเห็นที่ 147
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 148
เห็นด้วยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 148
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 149
ถามค่ะ: ถ้าไปลอยริมทะเลหัวหินละคะ? คือว่าซื้อมาเมื่อวันลอยกระทงแหละค่ะ แต่เก็บไปลอยริมทะเล ... อันตรายมั๊ยคะ?


ตอบกลับความเห็นที่ 149
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 150
โคมลอยใน กทม.เป็นอะไรที่อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินจริงๆครับ

รูปนี้จาก FB เพื่อนผมเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 150
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 151
#150 อันตรายหรือไม่อันตรายไม่รู้ครับ แต่ที่แน่ๆ ถ้ามันไม่ตกในทะเล มันก็คือขยะชิ้นใหญ่
มากๆ ชิ้นนึงครับ ปกติเห็นพวกขวดน้ำ ถุงเลย์ บนชายหาดก็ว่าน่าเกลียดแล้ว ไอ้โคมลอยนี่
ใหญ่กว่าเยอะครับ เหมือนคุณทิ้งขยะลงทะเลดีๆ นี่เอง

คือผมมองว่า การลอยโคมมันไม่จำเป็นอะไรต่อชีวิตครับ ไม่ได้ลอยก็เป็นไรครับ ไม่ต้องถึงกับ
คิดห่วงแทนลูกหลานหรอกครับ แค่ลอยโคมเองครับ ถ้าจะห่วงลูกหลาน ห่วงเรื่องทรัพยากร
อย่างน้ำมัน ป่าไม้ สัตว์ป่า หรืออากาศบริสุทธิ์ ให้พวกเขาดีกว่าครับ

หรือถ้าคิดไม่ออก ลองไล่เรียงดูครับ ถ้าชีวิตนี้ไม่ได้ลอยโคม ข้อเสียคืออะไร?

- ไม่ได้สนุก ไม่ได้ชิค (ผมคิดออกข้อเดียว)
- กรุณาอย่าตอบว่าอนุรักษณ์ประเพณีไทยนะครับ ของดั้งเดิมเค้าไม่ได้ลอยตะพึดตะพืออย่างนี้
ครับ และไม่ได้ลอยไปมั่วซั่วทุกจังหวัดขนาดนี้ด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 151
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 152
^
^
^

คห 150 ครับ


ลมทะเลพัดเข้าฝั่งครับ

ในฝั่งมีบ้านผู้คน

อันตรายมั้ยหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 152
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 153
เลิกไปเลย ประเพณีลอยกระทงเนี่ย ทั้งปัญหาเยอะนะผมว่า เช่นการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ซึ้งมันอันตราย ทำให้หมาเห่า ตกใจ กัดคนอีก ทำให้มีปัญหาเรื่องขยะ เป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพอีก ทำให้เยาวชนเสียตัว เยอะมากในวันนี้ เป็นปัญหาครอบครัวต่อไปอีก เรื่องสุราดนตรี ทะเลาะวิวาท ไหนจะเรื่องอุบัติเหตุอีก ข้อดีมากกว่าข้อเสียมั๊ยเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 153
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 154
ลอยมาตกที่บ้านด้วย ดีน่ะดับแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 154
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 155
เราเนี่ยคนเชียงใหม่แต้ๆ แต่ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยโคมไฟ
จำได้ติดตาสมัยยังเด็ก โคมลอยมาตกใส่หลังคาข้างบ้าน ดีที่บ้านเค้าเป็นหลังคากระเบื้อง เหลืออีกซัก 3-4 เมตรจะโดนบ้านเราอยู่แล้ว ถ้าตกใส่บ้านเรานี่หมายความว่าบ้านไฟไหม้แน่ๆเพราะบ้านเรามุงหญ้าคา
ตั้งแต่นั้นมาเราไม่เคยคิดจะปล่อยโคมไฟเลย มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลาน
ประเพณีหรือความเชื่อถ้าทำแล้วมันไม่ดีเลิกๆไปเถอะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 155
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 156
ร่วมลงชื่อ
คัดค้านการลอยโคม และจุดประทัด ค่ะ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเพณีดั้งเดิมหรอกค่ะ ปรุงแต่งเองทั้งนั้น
คิดไปเองว่า ลอยเคราะห์ จริงๆแล้ว ทบทวนให้ดีนะคะ
มันเพิ่มขยะ ให้คนอื่นไม่รู้จะไปตกที่ไหน ซ้ำร้ายบางทีก้อทำให้ไฟไหม้อีก


ตอบกลับความเห็นที่ 156
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 157
#133
http://news.thaipbs.or.th/video/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88
นี้ไงข่าว


ตอบกลับความเห็นที่ 157
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 158
วัดข้างๆที่พัก (คอนโด) จัดงานลอยกระทง นั่งดูทีวีอยู่ดีๆเห็นโคมลอยผ่านระเบียงตึกไปนิดเดียว คิดเลยว่าถ้าเราไม่อยู่บ้านแล้วโคมพวกนี้มาติดที่ระเบียงสงสัยตึกคงมอดไหม้ไปหมดแล้วล่ะ

จะลอยก็ไปลอยต่างจังหวัดที่มีที่กว้างๆดีกว่าครับ เกิดอุบัติเหตุมาไม่คุ้มกันเลยจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 158
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 159
ที่วัดบำเพ็ญเหนือ มีคนปล่อยโคมหลายคน ปรากฏว่า มันหยดใส่คนที่เดินไปเดินมาในงานวัด
มีคนไปร้องเรียนด้วยว่าเป็นแผลพุพองเลย
ไม่อยากจะคิดว่า ถ้ามันหยดโดนเด็กตัวเล็กๆ ตัวน้อย หรือ เข้าตาคนอื่นจะเป็นยังไง
....เบื่อพวกคิดถึงแต่ตัวเอง แต่ไม่คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่น


ตอบกลับความเห็นที่ 159
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 160
เราแอนตี้สุด ๆ กับการลอยโคมไม่ว่าจะที่ไหน
ทั้งนอกเมืองในเมือง

ทำไมนักท่องเที่ยวถึงไม่มีจิตสำนึกกันเลย?


ตอบกลับความเห็นที่ 160
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 161
ถ้าใช้โคมลอยที่ได้มาตรฐาน เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 90 ซม. สูงไม่เกิน 120 ซม.
ศึกษาวิธีการลอยที่ถูกต้องก่อนไปซื้อโคมมาลอย เลือกสถานที่ที่เหมาะสมที่โล่ง
ดูสภาพอากาศก่อน เช่น ลมไม่แรงหรือฝนไม่ตก อันตรายโคมตกไฟไหม้ก็จะไม่เกิด
แค่นี้เอง ง่ายๆ ....


ตอบกลับความเห็นที่ 161
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 162
#133 จุดประทัด คนจุดมันโดนเอง แต่ปล่อยโคมลอยมันไปตกที่บ้านคนอื่นครับ ถ้าตกที่บ้านคุณผมไม่เดือดร้อนครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 162
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 163
เมื่อวานน้องทักมาทาง line ว่า ทายซิว่านี่อะไร มันคือโคมลอยที่ดับแล้ว มาหล่นที่บ้าน ตอนเช้าวันที่ 29/11/55 ดีนะที่ดับแล้ว ถ้าไม่ดับนี่ไหม้บ้านแน่เลย

แย่จังนะ อยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย (ถนนพระราม 3)


ตอบกลับความเห็นที่ 163
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 164
บางคนที่บอกไม่เคยเห็นข่าวไฟไหม้เพราะการลอยโคม มีคนเอา link มาแปะไว้แล้ว ไม่ทราบว่ามีความเห็นอย่างไรครับ ?


ตอบกลับความเห็นที่ 164
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 165
เชียงใหม่เศษโคมตกเต็มเลยค่ะ

ทัศนียภาพสวยงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หึหึ


ตอบกลับความเห็นที่ 165
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 166
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ครั้งนี้ผมไปพระประแดง ไปถึงก็เห็นโคมลอยมากมายตลอดเวลา 3 ชั่วโมง
ครั้งแรกที่เห็น งงมากเลยครับ ทำไมถึงทำแบบนี้
คิดแบบคุณเจ้าของกระทู้ทุกอย่างเลยครับ
งงว่าชาวพระประแดง อพยพมาจากทางเหนือรึเปล่า?
งงว่ามันฮิตกันมาตั้งแต่เมื่อไร
งงว่าคนลอยไม่คิดเลยเหรอว่าจะทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 166
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 167
ไปลอยกระทงที่ติดกับเซ็นทรัลพระราม 2 เห็นโคมลอยมาแต่ไกล เยอะมากกกกกก ราวกลับปล่อยที่ธุดง ล้านนา เลยทีเดียว

ตอนแรกว่าจะกลับแล้วกลัวมาโดนลูก แต่เห็นว่ามาลอยกระทงทั้งที ก็เลยไปลอย คราวนี้ได้ยินเสียงกรี๊ดดดดด ของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึง เราก็หันไปมองตาม

แม่เจ้า!!!!!!!!!!!!! โคมที่พวกหล่อนปล่อย ลอยระเรื่องกำลังจะไปโดนหัวผู้ชายคนนึงที่กำลังเอากระทงลงแม่น้ำโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลย พร้อมกันนั้นมีพลเมืองดีคนนึง วิ่งเข้าไปปัดโคมให้ T_T ไม่งั้นเหตุการณ์สยองคงเกิดขึ้น......พลเมืองดีมองไปยังกลุ่มพวกนั้น ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณหรือขอโทษ มีแต่เสียงหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องขำขัน เราเห็นยังโกรธมาก ถ้าเป็นพลเมืองดีคนนั้นเราคงเข้าไปสั่งสอน แย่จริงๆ

แอนตี้การปล่อยโคมมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 167
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 168
ของแถวบ้านเรา นะ เอาพรุใส่ ในโคมลอย นะ อันตรายมากเหมืนอกัน เห็นติดป้ายขายกันเป็นแถว ถ้าอยากลอยจริงๆ ไปลอยกลางทะเลเลยจะได้ไม่ต้องลงบ้านใคร


ตอบกลับความเห็นที่ 168
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 169
ปีที่แล้วโคมตกลงมาโดนโกดังของเพื่อน ไหม้ไปเยอะ

ส่วนโรงงานของเรา ก็มีโคมตกลงมาเหมือนกัน แต่โชคดีที่ไฟดับก่อน ไม่งั้นคงเสียหายเยอะมาก เพราะเชื้อไฟทั้งนั้น

ปีนี้นอนกระสับกระส่ายทั้งคืนเลย กลัวจะเกิดอะไรขึ้นเหมือนปีก่อน


ตอบกลับความเห็นที่ 169
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 170
บ้านผมอยู่ใกล้ลานกิจกรรมริมแม่น้ำ บ้านต้นไม้เยอะ วันก่อนนอนไม่หลับเลยครับ ต้องไล่เอาสายยางฉีดโคมที่ลอยมาติดต้นไม้ เดี๋ยวนี้เทศกาลอะไรก็ปล่อยโคมๆ เชียงใหม่ปล่อยทุกวันเลยครับ ร้านอาหาร ปล่อยกันเป็นว่าเล่น


ตอบกลับความเห็นที่ 170
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 171
อิชั้นอยู่เชียงใหม่ ยังไม่คิดจะลอยเลยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 171
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 172
จริงๆ ก็ควรยกเลิกให้หมดเลยล่ะครับ

ทั้งการลอยกระทง ลอยโคม มันไร้สาระ หาประโยชน์อะไรไม่ได้

เอาเงินไปลอยทิ้งแท้ๆ กระทงอันนึงก็40-50บาทขึ้นไปแล้ว บางอันไม่ได้มีความสวยเลย

ลอยไปเค้าก็กวาดขึ้นมาเป็นขยะอีกอยู่ดี


ตอบกลับความเห็นที่ 172
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 173
เราว่าต้องออกเป็นกฎหมายน่ะ จะลอยก็ไม่ควรปล่อยในเมืองใหญ่ที่มีชุมชนแออัด หรือบ้านเรือนหนาแน่น และควรลอยเฉพาะวันใดวันหนึ่งของปี (ไม่รู้เหมือนกันว่า ตามประเพณีเขาลอยกันวันไหน) ไม่ใช่ปล่อยมันทุกวัน และทุกสถานที่

คนใกล้ตัวเราเคยนั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่ เล่าว่าพอเครื่องร่อนลง เห็นแต่ซากโคมที่เป็นลวดๆ ลอยอยู่เต็มไปหมด หวาดเสียวว่ามันจะเข้าไปในเครื่องทำให้เกิดการขัดข้องได้

ถ้าเข้าใจไม่ผิด เขาปล่อยโคมเพื่อลอยเคราะห์ใช่มั้ย? แต่กลายเป็นการไปให้เคราะห์ชาวบ้านแบบนี้ ถ้ามีจิตสำนึก ก็ไม่ควรทำ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่าปล่อยโคมแล้วจะลอยทุกข์โศกหรือเคราะห์ได้ อยากปล่อยทุกข์โศก ก็หันหน้าเข้ามาปฏิบัติธรรมกัน ไม่ต้องเสียตังค์ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทำให้ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวาว่าวันไหนบ้านจะไฟไหม้เพราะโคมลอยพวกนี้ คนปล่อยเองก็ไม่ต้องมีบาปติดตัวด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 173
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 174
เป็นปัญหาที่มาบ่นกันทุกปี แต่หน่วยงานรัฐก็ไม่เคยออกมาทำอะไรเลยนอกจากโปรโมทการท่องเที่ยวอย่างเดียว กระทรวงวัฒนธรรมที่ควรจะรับผิดชอบโดยตรงก็....เงียบสนิท ทั้งๆ ที่มันคือการบิดประเพณีเอาเงินเข้ากระเป๋าคนกลุ่มหนึ่งชัดๆ

อยู่เชียงใหม่มาสามสิบปี ยืนยันได้เลยว่า การปล่อยโคมไฟตอนกลางคืนเพิ่งมาบูมหนักๆเมื่อประมาณสิบปีทีแล้วใกล้เคียงกับการเข้ามาของนิกายหนึ่ง และได้การโปรโมทจากสื่อต่างๆ อย่างหนัก จนกระทั่งจากงานลอยกระทงที่มีอยู่ 2 วัน ปัจจุบันเพิ่มมาเป็น 3 วัน(ยังไม่นับงานอีเว้นต์ย่อยๆ ด้วย) ส่วนหนึ่งไม่ได้ห้ามการจัดงานแต่ที่อยากได้ที่สุดจากคือการเผยแพร่และอธิบายให้เข้าใจถึงความหมายและนัยสำคัญของประเพณีของท้องถิ่นต่างหาก ไม่ใช่เห็นแก่เรื่องสนุกและเงินอย่างเดียว (ไม่ได้พูดเพราะโลกสวยแต่พูดเพราะเสียดายภูมิปัญญาท้องถิ่นที่กำลังจะสูญหายไปเรื่อยๆ เพราะคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่เห็นคุณค่า )


ตอบกลับความเห็นที่ 174
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 175
ภาพนี้เราขออนุญาตจากเพื่อนใน FB มาโพสต์ค่ะ

พิษจากงานลอยกระทงที่ผ่านมา โชคดีที่ไหม้แค่กองลังเปล่ากองเดียว ถ้าเข้าโรงงานเต็มๆ ไม่อยากจะคิด


ตอบกลับความเห็นที่ 175
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 176
ตลกลอยเคราะห์ งั้นใครไปทำบาปทำกรรมอะไรมาก็ค่อยปล่อยโคม 5 นี่ก็จบละ คิดไปเรื่อย คิดเองเออเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 176
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 177
หลายท่านที่บอกไม่เห็นข่าว ก็มันไม่ไหม้ขนาดหนักไงครับถึงไม่เป็นข่าว และก็ไม่ใช่ทุกโคมนะครับที่ดับก่อนลงพื้น เพราะระหว่างทางลงพื้นมีวัสดุอีกมายมายครับ รวมถึงถ้าความร้อนไม่พอก็ไม่สามารถพยุงโคมได้ อีกข้อถ้าเกิดลมพัดโคมติดไฟกลางอากศก็เกิดขึ้นได้ครับ อุบัติเหตุมีได้หลากหลาย ส่วนใหญ่คนจะคาดไม่ถึงเพราะคิดว่ามันสวยครับ และไม่มีการรณรงค์กันครับว่าัภัยของมันมีอย่างไร

ตอบกลับความเห็นที่ 177
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 178
มีอยุ่ปีนึงเคยลอยโคมที่สะพานพระราม7 คือเกิดมาไม่เคยลอยโคม
เห็นทางเหนือลอยกัน อยากลอยบ้างแต่ไม่สะดวกถ่อไปไหน
ตามเทศกาล เลยลองมันใน กทม นี่แหละ แต่ก็ดันรุ้สึกว่า ไม่ใช่อ่ะ
แล้วลอยทำไม งง เหมือนกัน ก็เลยเลิกลอย พอรุ้ว่ามันตกใส่บ้านคน
เลยไม่คิดจะลอยอีกเหมือนกัน

ปล ปีนี้ไม่ได้ลอยกระทงเลย ทำงานเสร็จ ก็สลบ ฮือ


ตอบกลับความเห็นที่ 178
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 179
ไม่เห็นด้วยที่มีคนบอกให้เลิกลอยกระทงไปเลยนะครับเพราะการลอยกระทงกับลอยโคมนี่เป็นคนละเรื่องกันเลย แต่น่าจะมีการออกกฏหมายห้ามว่าไม่ให้ลอยโคมในย่านชุมชนเพราะมันจะทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเสียหายกับโคมที่คุณลอยไปเหมือนคุณเอาเคราะห์กรรมจากโคมของคุณมาให้โยนให้คนอื่นนั้นแหละแล้วมันจะได้บุญอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 179
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 180
สวยจะตาย ถ่ายออกมาเหมือนหลุดมาจาก rapunzel

credit ซักกระทู้ในห้องกล้อง

บางคนสักแต่ด่า ขอให้รู้ไว้ **ผมพูดประชด** โอเคนะ

ตอบกลับความเห็นที่ 180
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 181
บ้านผมก็โดนโคมลอย 2 อัน หล่นลงบนต้นไม้

ดีที่ฝนมันตกอากาศและต้นไม้เลยชื้น ไม่งั้นอาจได้เห็นบ้านผมลงข่าวอีกหลังนึง


ตอบกลับความเห็นที่ 181
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 182
สวยจะตายยย

สวยแล้วก็ตายยยยยไปเลยยยย คนอื่นตายยไง

พวกนี้มันน่าจะโดนโคมที่ลอยตกใส่บ้านดูซะบ้าง ตกใส่ป่าช่วงนี้อากาศแห้งๆ เดี๋ยวก็ไฟไหม้หรอก

ลอยกระทง ลอยสระปิด เก็บทิ้งได้ เราสนับสนุน
แต่การลอยไปตามแหล่งน้ำธรรมชาติ นี่มันการทำร้ายพระเเม่คงคาชัดๆๆ คิดได้ไงขอขมาพระเเม่เอาขยะไปลอยน้ำ

เบื่อพวกอ้างประเพณี หรือเอาแต่สวย มักง่าย คำเดียวสั้นๆๆ
แต่หน้าสวยๆแต่ก็แต่งใจแต่งความคิดไม่ได้หรอก


ตอบกลับความเห็นที่ 182
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 183
comment ด้วยภาพละกัน จะได้เห็นกันชัด ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 183
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 184
ใครบอกว่าไม่มีข่าวไปดูนี่ซะ

http://morning-news.bectero.com/เรื่องเล่าเช้านี้-ข่าวภูมิภาค/สุดซวยโคมลอยยี่เป็งตกใส่บ้านหนุ่มเชียงใหม่ไฟไหม้วอด-201211309-6-1.html

ฮาเฮียสรยุทธอ่ะ แกเน้นว่า "โคตรซวย"


ตอบกลับความเห็นที่ 184
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 185
http://www.youtube.com/watch?v=Bgw394ZKsis


นาทีที่ 2.05 มันกลายเป็น ค่านิยม ที่นักท่องเที่ยวมา ต้องลอยแล้วละ


ตอบกลับความเห็นที่ 185
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 186
133 181 เดี๋ยวผมจะไปลอยโคมแบบลุกไหม้ๆในรูป 131

ไปตกใส่บ้านคุณก็แล้วกันนะ

....


ตอบกลับความเห็นที่ 186
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 187
ลอยกระทงก็พอกันแหล่ะ เอาขยะไปทิ้งน้ำ

ปล.ผมไม่ได้ทำทั้งสองอย่างเลยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 187
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 188
.
มองจากสะพานกรุงธน เห็นโคมลอยมาจากทางพระรามแปดหรือพระอาทิตย์เนี่ยแหละ ลอยมาบนท้องฟ้า มองเห็นไกลๆ นึกว่ากระสือ 555555
.


ตอบกลับความเห็นที่ 188
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 189
คห. 133 แน่จริงอย่าถอดล๊อึอิน และถ้าไม่มีล๊อคอินจริงๆ ขอที่อยู่หน่อย แม่อยากจัดให้ซักโคม

คห.181 ดูจากชื่อล๊อคอิน เชิญกลับไปอยู่ดวงจันทร์เลยค่ะ เห็นแก่ตัวชิบหา_ แค่ภาพสวยๆ ใครเดือดร้อนก้ได้ มีคนแบบนี้จริงๆเว้ยเห้ย


ตอบกลับความเห็นที่ 189
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 190
น่าจะเลิกลอยกระทงด้วยนะ ....ขยะกระทงเ็ต็มแม่น้ำไปหมด


ตอบกลับความเห็นที่ 190