ไม่รู้จะผิดหวังที่เกิดเป็นคนไทยหรือผิดหวังที่มีร่วมชาติแบบนี้ดี

อ่านข่าวแล้วผิดหวังในเพื่อนร่วมชาติที่สนับสนุนการบุกรุกป่าได้อย่างหน้าตาเฉยแบบนี้
ดีเนาะ ไปเที่ยววังน้ำเขียว ทับลาน ในรีสอร์ทที่บุกุกรุกพื้นที่อุทยานฯ จองกันซะจนเต็มแน่นไปยันปีหน้า ให้พวกรีสอร์ทเอามาลงข่าวสะใจยิ้มเยาะกรมอุทยานฯแบบนี้ ประเทศเราคงจะเจริญด้วยประชากรที่มีจิตสำนึกแบบนี้ในเร็ววัน

ความคิดเห็นที่ 1
แต่บางคนเค้าก็ไม่ได้รับข้อมูลนะครับว่ารีสอร์ตไหนบ้าง - -*


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เฮ้อ!! พวกเจ้าของรีสอร์ทเค้าคงไม่มีคำว่าจิตสำนึกแล้วล่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เราก็ไม่ได้รับข้อมูลค่ะ แต่เรา"หา" ข้อมูลเองเนี่ยแหละค่ะ อาทิตย์ก่อนเราก็ไปเที่ยววังน้ำเขียวมา สิ่งแรกที่ทำคือเสริชหารายชื่อรีสอร์ทที่บุกรุกค่ะ ข่าวการรื้อถอนก็ออกจนโด่งดังนะคะ ถ้าคนเรามีจิตสำนึกต่อสาธารณะจริง เราต้องตื่นตัวหาข้อมูลเพื่อหลีกเลี่ยงค่ะ ไม่ใช่มาอ้างว่าไม่ได้รับข้อมูล มันเหมือนการรับซื้อของโจรแต่พอตำรวจมาจับบอกไม่รู้เรื่องค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คิดถึงท่้านดำรงค์พิเดช


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
รีสอร์ทที่วังน้ำเขียวนั้น สร้างกันมานับสิบปี ไม่เคยมีใครแตะ ถ้าการเมืองไม่แบ่งเป็นสองข้างแบบอยู่ร่วมชาติกันไม่ได้เหมือนปัจจุบันนี้ พวกเราก็คงไม่รู้หรอกว่า บรรดานายทุนรีสอร์ทใหญ่ๆดังๆทั้งหลายที่กล้าบุกป่านั้น มีนักการเมืองหนุนหลัง

ในฐานะที่เราเป็นประชาชน ไม่มีใครหนุนหลัง ก็ต้องติดตามข่าวเอาเอง รีสอร์ทใหนบุกรุกป่าก็อย่าไปใช้บริการ ความจริงก็หาข่าวไม่ยาก


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
อนาจใจกับ คนมีหน้าที่ดูแลมากกว่า

คนปฏิบัติงานก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะ ข้างบน ขยิบๆกัอยู่


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานในสังคมไทยครับ
ไม่ได้เฉพาะวังน้ำเขียว จะเกาะ จะป่าในประเทศนี้มีทั้งนั้น

และพวกอิทธิพลมืดพวกนี้มันก็ยังอยู่ไปเรื่อยๆ
ทั้งเจ้าของเงินทุน ...
ทั้งเจ้าหน้าที่ ที่ออกเอกสารสิทธิ์ทางที่ดิน ...

ที่กล้าพูดเพราะ
เคยมีไอ้เจ้าหน้าที่ละโมบรับเงินนายทุน
แล้วมารังวัดกินที่ดินของผมไป หน้าด้านเกินบรรยาย ... !!!


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
มาร่วมถอนหายใจแรงๆด้วยคนค่ะ เราขอบาย ไม่อุดหนุนเด็ดขาด


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
2อาทิตย์ที่แล้วพาฝรั่งเที่ยวไทย โดนคนไทยหลอกแล้วหลอกอีก อายแฟนจะแย่ค่ะ

จนแฟนเอ่ยปากว่า คนไทยยิ้มเก่ง พูดคุยร่าเริง แต่ทำเพราะหวังผล.

เข้ามาพูดคุยแต่หลอกลวงกัน

ไม่รู้จะพูดไงเลยเรา เสียใจที่สุดตรงที่ เราเป็นคนไทยด้วยกันแท้ๆ โดนคนไทยพยายามต้มกันซะได้


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ผิดหวังกับรัฐบาลมากกว่า ทำไมไม่รับตั้งอธิบดีคนใหม่ซักที
อ้างแต่อยากได้คนนิสัยประนีประนอมนั่นแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย อ้างแต่เรื่องเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวบ้าง เสียมวลชนบ้าง
ต่อไปเราคงจะเหลือแต่ตอไม้กับรีสอร์ทให้ดูเล่นล่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
หัวกระทู้แรงไปหน่อยครับ กะเรียกแขกเต็มที่เลยน่ะ

ผิดหวังที่เกิดเป็นคนไทยหรือ แล้วจะไปเกิดที่ไหนล่ะครับ บ้านเราน่ะดีที่สุดแล้ว คนไทยยังไม่ภูมิใจในตัวเอง
แล้วจะไปสู้อะไรกับใครนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เป็นผมถ้ามีโอกาสผมก็ไปเที่ยวครับ จะไปแห่จองกับเขาเหมือนกัน จิตสำนึกผมเป็นแบบนี้ ..เชิญผิดหวังกับผมได้เลยครับ

ขอออกตัวตรงๆ ไม่โลกสวย


เอาจริงๆ คือหวงผืนป่าเหมือนกัน แต่ที่ต้องรีบทำตอนนี้คือป้องกันผืนป่าที่เหลือถูกทำลายเพิ่มดีกว่าครับ ผมเชื่อเลยว่าตอนนี้มีอีแอบแอบบุกป่าเงียบๆ อยู่ทุกวัน (และไม่กลัว..แม้ว่าจะมีรายการเชือดไก่ให้ลิงดูแล้วก็ตาม) ที่ต้องไปจัดการคือพวกนี้ต่างหาก และไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็ต้องเข้าไปจัดการอย่างเด็ดขาด เพราะเราจะปล่อยให้ป่าถูกทำลายเพิ่มไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว อันนี้ผมมองว่ามันสำคัญมาก

แต่พวกที่รุกป่าไปแล้ว สร้างรีสอร์ทอยู่กันเป็นสิบปีแล้ว (เป็นความผิดพลาดของหน่วยงานรัฐยุคก่อนๆ เองที่ปล่อยมาได้ยังไงตั้งนาน) มันทำให้ป่ากลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมไม่ได้ง่ายๆ แล้วครับ นอกจากทำลายรีสอร์ทแล้วปลูกป่าใหม่ ซึ่งของแบบนี้ก็ต้องนับหนึ่งใหม่กันหมด แล้วมันสูญเสียทางเศรษฐกิจอีกกับสิ่งที่ปลูกสร้างไปแล้ว และเรื่องของการท่องเที่ยว

ความเห็นผมคือ ป้องกันผืนป่าใหม่ มัน priority สูงและสำคัญกว่าการตามล้างตามเช็ดผืนป่าที่เสียไปแล้วครับ ป้องกันตรงนั้นให้เด็ดขาดให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องตามล้างตามเช็ดเนี่ย ผมว่าหาเรื่องให้มัน win-win กันสองฝ่ายมากกว่าจะไปทำลายเอาสะใจดีกว่าครับ เช่น ขึ้นภาษีที่ดินพิเศษอะไรก็ว่าไป ขึ้นให้แพงสุดๆ เลยสมกับที่เอาเปรียบประเทศชาติ ถ้าอยู่ได้ก็ดีไป แสดงว่ารีสอร์ทกลางป่านี่เป็นที่ต้องการจริง แขกพร้อมจ่าย จะได้เอาเงินมาอุดหนุนภารกิจป้องกันป่าด้วย หรือถ้าภาษีแพงแล้วอยู่ไม่ได้ ก็เชิญถอนตัวออกไป แล้วก็ค่อยเข้าไปรื้อถอน ปลูกป่าใหม่ ก็ยังไม่สายครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
คห.12 เราไม่ได้มาตั้งกระทู้เรียกแขกค่ะ รู้สึกอย่างงี้จริงๆ ผิดหรือคะที่ไม่ภูมิใจในความเป็นแบบนี้ของคนไทย เห็นคนทำผิดแล้วสนับสนุน น่าภูมิใจหรือคะ จะให้ชื่นชมหรือคะ ถ้าความดีงามของคนไทยเราก็ภูมิใจค่ะ แต่เรื่องแบบนี้มันน่าละอาย แฟนเป็นชาวต่างชาติทำงานในไทยมานาน มักจะเห็นพฤติกรรมของคนไทยแล้วส่ายหัว เพราะชาติเค๊าเคารพในระเบียบมากเค๊ามักจะถามกับเราเสมอว่าคนไทยนี่เห็นคนทำผิดแล้วทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กันหรือ ทำแบบนี้แล้วประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เข้มแข็งได้ยังไง คุณนั่นแหละค่ะ ที่ต้องถามตัวเองว่าประเทศเราอ่อนแอแบบนี้ จะไปสู้อะไรกับใครเค๊าได้ ทรัพยากรในชาติของตัวเองแท้ๆยังไม่ปกป้อง
รู้มั้ยคะ ที่เราใช้คำพูดแรงแบบนี้เพราะผืนป่าดงพญาเย็นอาจถูกถอดออกจากการเป็นมรดกโลกได้ในปี2556


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
คนไทยบางประเภท ย้ำว่าบางประเภทเห็นแก่ตัว กอบโกย หน้าด้าน คิดถึงแต่ตัวเอง แต่พวกนี้ก็รวยเอาๆคนจนๆก็ทนกันต่อไป


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เพราะความคิดว่าไหนๆก็บุกรุกแล้วก็ปล่อยไปแล้วป้องกันส่วนที่ยังไม่บุกรุกนี่ละครับ ป่ามันถึงจะหมดไทย

พวกนายทุนมันคิดอยู่แล้วว่าต้องมีคนออกมาปกป้องด้วยเหตุผลแบบนี้

การเก็บภาษีแพงๆอะไรนะ คนที่โดนไม่ใช่นายทุนที่บุกรุกครับ พวกนี้นะซื้อมาจากพวกที่บุกรุกอีกทีซึงเบื้องหลังก็รู้ๆกันอยู่ว่าใช้เส้นใครอะไร คนที่ซวยคือคนที่ซื้อต่อมาภายหลัง

ถ้าเขาทำผิดกฎหมายแล้วก็ต้องลงโทษ ให้ได้ธรรมชาติคืนกลับมาต่อให้ต้องใช้เวลานานมันก็ยังดีกว่าปล่อยให้มีการรุกรานป่าต่อไป ปัญหานี้มันมีมานานแล้วคุณเคยได้ยินไหมชาวบ้านที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนนะ มันก็แนวคิดเดียวกับคุณนั้นละรัฐบาลก็ใช้วิธีออกนส.3 ให้บ้าง หรือเอกสารสิทธิให้บ้าง แต่สุดท้ายชาวบ้านมันก็ขายที่ให้นายทุนแล้วก็บุกรุกเข้าไปเรื่อยๆ ไอ้วิธีที่คุณว่านะมันใช้ได้ผลที่เมืองไทยซะที่ไหนกัน

ผมสนับสนุนให้เอาคืนให้หมดครับ แล้วค่อยๆฟื้นผืนป่า ไม่ได้โลกสวยเพราะผมคิดว่าการคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องโลกสวย แต่เป็นเรื่องจิตสำนึกที่ทุกคนควรมีและไม่ว่าจะยากดีมีจนหรืออยู่ในสถานะไหนก็สามารถคิดได้ ไม่ใช่พอคิดเรื่องดีๆแล้วต้องเป็นพวกโลกสวยครับ

ถ้าจะใช้ตรรกะแบบนี้แล้วบอกว่าคนที่เห็นแย้งว่าโลกสวย ก็ยกเลิกกฎหมายมันให้หมดเลยดีกว่า เพราะผู้ตรากฎหมาย พวกบังคับใช้กฎหมายก็โลกสวยหมดทุกคน เราต้องสนับสนุนให้สังคมมีแต่พวกโลภมากเห็นแก่ตัวถึงจะสมควรอยู่ในสังคม จะได้ไม่ถูกตราหน้าว่าโลกสวย

เพลียครับกับตรรกกะแบบนี้ เล่นมองเฉพาะเหตุการณ์เฉพาะหน้าแต่ไม่มองถึงอนาคตยาวๆถึงทรัพยากรที่ลูกหลานเราในอนาคตจะได้ใช้


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
นอกจากตามเอาคืนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแล้ว สำคัญที่สุดคือการป้องกันพื้นที่ป่าที่เหลืออยู่
ไม่ให้ถูกบุกรุกเพิ่ม เหมือน คห .13 ว่า เพราะพื้นที่เหล่านั้นกำลังถูกบุกรุกอย่างหนัก ขอเน้น
ขีดเส้นใต้ว่าอย่างหนัก แต่ทั้ง จนท.ป่าไม้และอุทยาน ไม่สามารถดูแล และป้องกันได้
เพราะอะไร ถ้าเอาจริงเสียอย่างพื้นที่ป่าในประเทศไทยไม่ลดลง
อย่างรวดเร็วอย่างนี้หรอก อย่าเอาแต่โทษนายทุนเลย ถ้า จนท.รัฐ
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดแล้ว ต่อให้ใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีทาง
บุกรุกได้ เว้นเสียแต่ จนท.จะทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ได้เศษเงินจากนายทุนแล้ว
ก็หูหนวก ตาบอด อย่างนี้ทำไมไม่เอาอย่างฝรั่งบ้างหล่ะ
คิดว่า ข้าราชการ ฝรั่งน่านะวินัยดีกว่า ข้าราชการ ไทยนะ
ถ้าข้าราชการมีวินัยและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่บนลงล่าง
ล่างขึ้นบน คนในชาติก็มีวินัย ประเทศก็เจริญ เพราะชาติที่พัฒนาแล้ว
ประชากรเขาล้วนแต่มีวินัย ข้าราชการ ควรทำเป็นตัวอย่าง
ไม่ใช่ อาสารับใช้คนรวย ข่มเหงคนจนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ก็แบนไป ที่บอกว่ามันเสียไปแล้วจะให้ทำไง
ก็ทำให้มันกลับเป็นป่า จะกี่ปีก็ต้องทำ ต้องรอ
เสียไปแล้วมีวิธีทำกลับไม่ว่าจะนานแค่ไหน ก็ต้องทำครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 18