จัดกระเป๋าเตรียมขึ้น "ภูกระดึง" ต้องเตรียมอะไรไปบ้างคะ แนะนำหน่อย + ถามสภาพอากาศ

เราไม่ทราบอากาศที่นั่นเลยค่ะ ไม่ได้ไปนานมาก
ตอนเช้ากะตอนกลางวันหนาวประมาณไหนคะ ใส่แขนยาวอย่างเดียวอยู่มั้ย หรือต้องใส่ไหมพรม
พอดีจะไปถ่ายรูปด้วยอยากให้มันโอเคและเข้ากะสภาพอากาศจริงนิดนึงอ่ะค่ะ

ถ้าใส่ขาสั้นจะเป็นไรมั้ยคะ เพราะปีที่แล้วธันวาเชียงใหม่ร้อนตับแลบมาก เลยว่าจะเอาไปเผื่อ
เรานอนเต้นท์น่ะค่ะ ไปแบบฉุกเฉินด้วยเลยงงๆ กะการจัดกระเป๋านิดนึง พี่บอกว่าอาจจะมีฝนตกด้วย ใช่รึป่าวเอ่ย


รบกวนคนที่ไปแล้วมาแนะนำทีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ถุงมือ+ถุงเท้า


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
รอคำแนะนำด้วยคนกำลังจะไปพรุ่งนี้แล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เย็นทั้งวันครับ ไปมาเมื่อ 3 ปีก่อน 7.00เช้าประมาณ 10 ไม่เกิน 15 องศา กลางวันประมาณ 20 องศา แต่ลมเย็น บ่ายถึงค่ำเย็นอีกรอบ หนาวสุดช่วงประมาณประมาณก่อนรุ่งสางครับ เดินไปดูพระอาทิตย์สุดทรมานครับ หมวกไหมพรมเอาไปครับ เสื้อหนาวด้วย ยังไงก็จ้างลูกหาบแล้วครับ อย่าประมาทถึงขั้นหมดสนุกเลยนะ เพราะยังไงอากาศก็เย็นครับ (อย่างแย่ที่สุด)
บนภูกระดึงขาสั้นคงใส่ได้ประมาณตอนกลางวัน กลางคืนต้องกางเกนยีนส์ครับ
อย่าเอาไปเทียบกับเชียงใหม่ครับ ภูมิประเทศคนละอย่าง สงกรานต์บนดอยอินทนนท์ยังไม่ถึง 15 องศาครับ ในเมืองร้อนควันออกหู
เที่ยวให้สนุกครับ ยากันยุง ยาแก้ไข้ อย่าลืม ที่สำคัญสุดคือกระเป๋าตังค์ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ยาทั้งกินและทาสำหรับคลายกล้ามเนื้อค่ะ เพราะจะปวดขามาก ถ้าไม่ใช่คนออกกำลังกายประจำ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เตรียมชุดขนาดนี้..อย่าลืมmem กับที่charge กล้องล่ะ 555...


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เตรียมอุปกรณ์กันทากไปด้วยค่ะ 555 ถุงกันทากและสเปรย์ เยอะแน่นอน
ยาคลายกล้ามเนื้อนี่ก็ขาดไม่ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เตรียมเงินครับ ขึ้นภูกระดึง เงินสำคัญมาก ซื้อกินได้ทุกอย่างไม่ต้องเตรียมอะไรไปนอกจากของใช้ส่วนตัวละกำลังกายเท่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เตรียมชุดจัดเต็มจริงๆเสาร์นี้บนภูกระดึงนี่มีแฟชั่นวีคแน่นอน


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
จัดเต็มไป..
1.ชุดใส่กลับ1ชุด
2.ชุดนอน ชุดเดียวพอ ใส่นอนอย่างเดียว2คืนไม่เหม็นหรอก
3.ชุดใส่เที่ยว 2 ชุดสำหรับ2วันรวมวันเดินลงด้วย แนะนำเป็นเสื้อยืดแขนยาว
ที่ระบายอากาศได้ดีๆหน่อย
4.อุปกรณ์กันหนาว เสื้อ หมวก ถุงมือ แล้วแต่จะจัด..
5.ไฟฉาย จำเป็นนะ มันมืด
6.ยาประจำตัว จัดไป ที่ขาดไม่ได้พลาสเตอร์ เราอาจจะไม่ได้ใช้แต่เพื่อนร่วมทาง
อาจจะได้ใช้

ปล.ตอนเดินขึ้น เสื้อกันหนาวหนาๆอย่างใส่ไป เพราะว่าเดินไปสักระยะ เสื้อตัวนี้
มันจะเป็นภาระทันที..ขาไปแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับเดินขึ้นเขาได้เลย..


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ทากจะไปกลัวมันทำไม มันน่ะสิต้องกลัวเรา น่าสงสารมากโดนคนเหยียบตายหมดแล้วมั้ง แห่กันไปซะขนาดนั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
รองเท้าแตะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ผมทำไว้สี่ปีมาแล้ว ข้อมูลก็ไม่ Update เท่าไหร่นะครับ แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้าง

_________________________________________________

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าสิ่งต่างๆที่ท่านจะได้อ่านนี้เป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะ
ต้องทำตาม ซึ่งแล้วแต่คนคนนั้นจะมีความถนัด หรือชอบแบบไหน

การเตรียมร่างกายก่อนไปเที่ยวภูกระดึง
ทุกๆท่านคงจะรู้อยู่แล้วว่าภูกระดึงเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเที่ยวภูกระดึงคือ "ขา" ดังนั้นเราจำเป็นต้องดูแลขาให้ดี
การออกกำลังกายก่อนไปเที่ยวภูกระดึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะจะทำให้เราฟื้นตัวหลังจากที่เดินขึ้นเขาได้เร็วขึ้น
ซึ่งทุกคนต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แต่อยู่ที่เราจะฟื้นตัวหรือมีแรง "อึด" แค่ไหน เพราะการเที่ยวภูกระดึงไม่ใช่
แค่เดินขึ้นไปถึงแล้วก็จบ สถานที่เที่ยวต่างๆขึ้นอยู่กับ "ขา" เราเท่านั้น ดังนั้นถ้าขาเจ็บก็จบ แม้ขณะเดินขึ้นจะมีจุดพักต่างๆอยู่ตลอดทางก็ตาม
ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่าจุด "หนักๆ" ที่มีความชันมากๆ อยู่ที่จุดแรกคือ "ซำแฮก" (แปลว่า ซำแรก) และตรงทางขึ้นหลังแป แค่สองจุดเท่านั้น
นอกนั้นจะเป็นทางสบายๆครับ

26/11/2008
ออกเดินทางโดยรถปรับอากาศ จากขนส่งหมดชิต ไป ผานกเค้า เที่ยวสี่ทุ่มนิดๆ สำหรับคนที่เอารถไปเองก็สามารถทำได้ โดยขับออกจาก
กรุงเทพ ไปโคราช จากนั้นวิ่งเข้าขอนแก่น และไปจังหวัดเลย ซึ่งจะผ่าน "ผานกเค้า" แนะนำว่าให้ไปเจอกันที่ผานกเค้า ตอนประมาณตีห้าถึง
ตีห้าครึ่งครับ ส่วนคนที่นั่งรถทัวร์ไปจะไปถึงผานกเค้าตอนเช้ามืดให้นั่งเล่นนอนพักสักแปล๊ป แล้วจึงนั่งรถไปต่อ…
นัดเจอกันที่ขนส่งหมดชิด ตอนสามทุ่มนะครับ สถานที่จะนัดกันอีกที ส่วนรถที่จะไปมีอยู่สองราคาครับ คือรถ ป.1 และรถ VIP


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ของที่ต้องเตรียมสำหรับวันนี้
กระเป๋า ไม่จำเป็นต้องเป็นกระเป๋าดีๆครับ ใช้กระเป๋าใบเก่าๆ แต่ยังคงสภาพดีอยู่ เนื่องจากเราต้องให้ "ลูกหาบ"
หาบกระเป๋าให้ (กิโลกรัมละ 15 บาท) ซึ่งเขาก็คงจะไม่ได้ระมัดระวังอะไรให้มากมาย มีอยู่หลายๆครั้งที่กระเป๋า
เป็นรอย ดังนั้นถ้าเสียดายกระเป๋าก็เอาใบที่ไม่ต้องแพงไปก็ได้ครับ
ชุดใส่ไป ใส่ชุดสบายๆ อย่าลืมเอาเสื้อกันหนาวขึ้นรถทัวร์ไปด้วย เพราะรถบางคันอากาศเย็นมากๆ แม้จะมีผ้าห่มมาให้
ก็ไม่พอ อาจไม่สบายก่อนเที่ยวก็ได้จะใส่ชุดขึ้นภูกระดึงไปเลยก็ได้ครับ
รองเท้า แนะนำรองเท้าสบายๆ ถ้าได้แบบรัดส้นก็จะดีมากๆ เพราะน้ำหนักเบา ใส่สบาย ดีกว่ารองเท้าผ้าใบ
ซึ่งขาลงเล็บหัวแม่โป้งอาจจะหายไปก็ได้
หมวก ก็ถ้าขี้ร้อนกลัวแดดก็ติดไปด้วยก็ได้ครับ
ครีมกันแดด ได้ใช้กันแน่ๆ เพราะแดดแรงสุดๆ
คำแนะนำ ไม่ควรเอาของมีค่าต่างๆไปครับ เพราะเราคงไม่ได้แบบเอาติดตัวเดินเที่ยวกันตลอดแน่ๆ มือถือเอาไปได้
เพราะตอนนี้มีสัญญาณหมดทุกค่ายแล้วกระเป่าควรจะเป็นใบเดียวเพราะสะดวกดี
พวกบัตรต่างๆผมจะเอาออกหมดติดไว้แค่บัตรประชาชนเพราะผมไม่เอากระเป๋าตังค์ติดตัวตอนเดินขึ้นเขาไปแน่ๆ
27/11/2008
ถึงผานกเค้าตอนเช้ามืด ที่นี่จะมีร้านเจ้กิม เป็นร้านเก่าแก่ให้บริการห้องน้ำห้องท่า ใครอยากจะอาบน้ำก็ทำได้ กินข้าวกินปลาให้เรียบร้อย
ตอนนี้อากาศจะหนาวอยู่ มีของขายทุกอย่างครับ มีหลายร้าน พวกของฝากยังไม่จำเป็น ถ้าอากาศเย็นมากๆก็ซื้อพวกหมวกไหมพรม
หรือถุงมือก็ได้จากนั้นก็ไปจองรถขากลับ คำนวนให้ดีว่าจะลงวันไหน อย่าลืมขอเบอร์โทรเผื่อจะเปลี่ยนแผนการเดินทางกลับ
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ที่หน้าร้านเจ้กิม ก็จะมีวินรถสองแถวพาไปภูกระดึง ค่ารถคนละ 20 บาท ไม่เต็มไม่ออก เหมาได้ 300 ต่อได้ 250


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ถึงที่ทำการภูกระดึง
อันดับแรกสุดที่จะต้องทำก็คือ จัดเตรียมกระเป๋าตัวเองให้ดี รวมทั้งชุดที่จะใช้เดินขึ้นภูกระดึง (ซึ่งถ้าใส่มาตั้งแต่กรุงเทพฯเลยก็จะดี ไม่เปลือง)
เอาของทุกอย่างใส่ลงกระเป๋าให้หมดเน้นว่าทุกอย่าง อะไรที่แตกหักได้ก็เอาเสื้อห่อไว้ ขอได้โปรดรับรู้ไว้ว่า การเดินทางขึ้นภูกระดึงต้องใช้
แรงมาก ดังนั้นของต่างๆไม่ควรจะถือ ที่ต้องเอาไปจริงๆก็พวก มือถิอ กล้อง แค่นั้นที่สำคัญที่สุดคือ เสื้อกันหนาว อย่าใส่ขึ้นภูกระดึงเด็ดขาด
เพราะเดินไปได้แค่สองร้อยเมตรก็เหงื่อแตกแล้ว ยอมทนอากาศหนาวสักหน่อย
แล้วแบ่งให้คนสามคนทำดังนี้คือ
คนที่ 1. ไปติดต่อบ้านพัก ถ้าจองมา หรือต้องการเช่าเต้นท์
คนที่ 2. ไปติดต่อลูกหาบ ซื้อป้ายสำหรับชั่งน้ำหนัก แล้วก็ไปเสียตังค์ คนอื่นๆช่วยกันยกของไปให้ลูกหาบ
คนที่ 3. ไปติดต่อเรื่องการเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ (อายุเกิน 60 เข้าฟรี)
จากนั้นจึงเริ่มเดินทางขึ้นภูกระดึงครับ ระยะทางทั้งหมด 5400m เป็นทางชันขึ้นเขา สลับกับทางราบนิดๆ มีร้านค้าบริการตาม "ซำ" ต่างๆอยู่
ตลอดทางดังนั้นเราจะพักกันได้ตลอดทาง ไม่ต้องรีบร้อน เหนื่อยก็พัก แวะถ่ายรูปทุก "ซำ" (แปลว่าบ่อน้ำเล็กๆ) มีของกินอยู่ตลอดทาง
ราคาก็แพงขึ้นไปเรื่อยๆทางตอนนี้สบายแล้วไม่ต้องปีนป่าย ช่วงที่โหดอย่าง "ซำแฮก" ก็ทำเป็นบันไดหมดแล้ว จะมีโหดหน่อยๆก็ตอนขึ้น
หลังแปก่อนออกเดินทางแนะนำว่าให้เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย เพราะเส้นทางเดินขึ้นภูกระดึงจะไม่มีห้องน้ำให้เข้าครับ จนกว่าจะถึง
"ซำกกโดน" ซึ่งเป็นที่พักกลางทางที่เราจะไปกินอาหารกลางวันกันที่นั่น


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ของที่ต้องเตรียมสำหรับวันนี้
ชุดเดินขึ้นภูกระดึง เรื่องนี้สำคัญมาก ต้องเป็นชุดที่ใส่สบาย กางเกงขาสั้น เสื้อยืด ถุงเท้ากันรองเท้ากัด
ขยายความหน่อยสำหรับชุดที่จะใส่ขึ้นภูกระดึง สำหรับผู้ชายไม่ค่อยมีปัญหา เพราะกางเกงขาสั้นผ้ายืด
กับเสื้อยืดที่ระบายอากาศดีๆก็พอ
แต่สำหรับผู้หญิง เสื้อไม่ควรเป็นเสื้อคอกว้าง เพราะต้องปืนเขากันตลอดไม่อยากมอง...(555)
กางเกงก็เป็นกางเกงขาสั้นแต่ไม่ต้องสั้นมาก็ได้นะเพราะไม่อยากมองอีกนั่นแหล่ะ
รองเท้า อันนี้บอกแล้วว่าถ้าได้แบบรัดส้นก็จะดีมากๆ เน้นน้ำหนักเบา แต่ทนทาน เพราะคู่นี้จะได้ใช้เดินตลอด
งานนี้แล้วแต่ความถนัดนะ เพราะถ้าใส่รองเท้ารัดส้น แล้วเดินไปเตะหินนิ้วเจ็บก็ซวยไป แต่ใส่ผ้าใบขา
ลงก็เล็บหายอีกอันนี้แล้วแต่ แต่จากประสบการณ์รองเท้ารัดส้นดีที่สุดเพราะเบา แล้วก็ทำให้ขาเรา
ไม่ล้าอย่าลืมถุงเท้าด้วยละ เพราะถ้าไม่ใส่รองเท้ากัดก็ซวยอีก
ยาคลายกล้ามเนื้อ กลายเป็นของสำคัญซะแล้ว เพราะช่วยได้มากจริงๆ ยามีอยู่สองตัวคือ ยาที่ต้องกินหลังอาหารทันที
กับยาอย่างดีที่กินได้ตลอดแต่อันนี้แพงหน่อย
ยาดมยาหม่อง ยาทาแก้ปวด ใครที่รู้ตัวว่าต้องใช้ก็เตรียมๆไปนะ พวกที่รัดขาต่างๆ ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่า ก็ใส่ผ้ารัดเข่าด้วย
ก็ดี ผ้ารัดน่องก็ช่วยได้เยอะครับ
กระเป๋ากองกลาง เราจะต้องมีกระเป๋ากองกลางอยู่หนึ่งใบ ซึ่งค่าลูกหาบจะหารเท่า ในกระเป๋าผมจะเตรียมของส่วนกลาง
รวมทั้งขนมต่างๆที่เราจะเอาขึ้นไปกินด้วย
ซึ่งราคาข้างบนแพงอยู่แล้ว ของกองกลางที่จำเป็นได้แก่ เทียน ผ้าขี้ริ้วไพ่ปลั๊กไฟไขควงวัดไฟเป็นต้น


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เมื่อไปถึง "หลังแป" เราจะต้องเดินทางราบอีก 3500m เพื่อไปที่ทำการ "วังกวาง" จากจุดนี้เราสามารถเช่าจักรยานไปได้คนละ 40 บาท
ซึ่งเดินได้ก็ดีแต่ขอบอกว่าช่วงนี้สำหรับผมเป็นช่วงที่โหดที่สุดเพราะต้องเดินตากแดดไปตลอดทางที่บนนี้เราจะได้พักถ่ายรูปกับป้าย
"เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" กันครับ สำหรับการเดินขึ้นภูกระดึงเราจะไม่ทิ้งกัน จะพยายามเดินๆไปด้วยกัน สนุกครับ
เป็นสีสรรของการเที่ยวภูกระดึงอย่างแท้จริง บางคนเมื่อเดินไปถึงอาจจะบอกว่า "แค่เนี้ย"
ไม่ต้องคิดว่าเราจะเป็น "ตัวถ่วง" เพราะไม่มีใครคนไหนไม่เหนื่อยแน่ๆ คิดซะว่าเป็นความสนุกเพราะไม่ได้มากันบ่อยๆนี่นา...จริงป่ะ
อืมมม เกือบลืม ชุดใส่ขึ้นอ่ะเน้นสบาย แต่อย่าเก่ามากนะ เพราะต้องถ่ายรูปกันไปตลอดทาง เดียวรูปออกมาไม่สวยไม่รู้ด้วย 55555


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เมื่อถึงที่ทำการอุทยานฯบนภูกระดึง
ถ้าเดินเร็วก็อาจจะไปถึงก่อนลูกหาบ ให้ไปติดต่อเพื่อเอากุญแจบ้านพักจากนั้นก็ไปเอาของที่ลูกหาบ
คิดว่าพวกเราจะไปถึงที่พักไม่น่าเกินสี่โมงเย็น(ซึ่งถือว่าช้าสุดๆแล้ว) ระยะเวลาที่คนเดินขึ้นภูกระดึงเร็วที่สุดอยู่ที่ หนึ่งชั่วโมงนิดๆ
ส่วนระยะเวลาที่ผมเคยไปแล้วช้าที่สุดคือ ออกเดินขึ้นตอนแปดโมงตรง ไปถึงห้าโมงเย็นกว่าๆ ลูกหาบนอนรอจนหลับไปเลย 5555

เข้าที่พัก
ถ้าไปถึงเร็วก็ให้รีบไปอาบน้ำก่อนครับ เพราะยิ่งเย็นน้ำจะเย็นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วจะรู้ว่ามากแค่ไหน
ถ้าคนไม่เยอะก็สามารถให้ลูกหาบเข็นรถไปส่งที่บ้านพักได้
วันนี้พักผ่อนกันเต็มที่ ใครอยากไปไหนก็ตามสบาย แต่นัดจะมาเจอกันตอนประมาณหนึ่งทุ่ม หรือถ้าไม่หิวก็ทุ่มครึ่ง ไปกินข้าวเย็นกัน
คำแนะนำ ถ้ามีแรงและมีเวลา ก็สามารถเดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ "ผาหมากดูก" ได้ ระยะทางไปกลับ 4000m
สำหรับคนที่แรงน้อย พักสักนิด แล้วเดินไปไหว้พระที่ "ลานพระพุทธ" ระยะทางแค่ 600m
เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเที่ยวภูกระดึง
ส่วนคนที่ไม่ไหว ก็นอนหลับพักเอาแรงได้เลย อากาศจะเย็นมากๆ ต้องป้องกันให้ดี ระวังอย่าให้เป็นไข้
กินยาก่อนนอนก็ดีครับ
บอกแล้วว่าไม่มีบังคับ แล้วแต่ความสมัครใจ ใครไหวก็ไป ไม่ไหวก็นอนเล่น ไม่ต้องฝืน
เก็บแรงเอาไว้เที่ยววันต่อๆไปก็ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ของที่ต้องเตรียมสำหรับวันนี้
รองเท้าแตะ เอาไว้สำหรับใส่ไปอาบน้ำ แล้วก็ใส่ไปกินข้าว เดินเที่ยวใกล้ๆ
ชุดนอน ถ้าไม่อยากให้กระเป๋าหนักมากเปลืองตังค์ ก็เอาชุดใส่นอนไปชุดเดียวทั้งงาน กางเกงขายาว
เสื้อแขนยาว ถุงเท้ายาว
อุปกรณ์อาบน้ำ แนะนำให้ใช้สบู่แทนพวกครีมอาบน้ำเพราะน้ำเป็นน้ำธรรมชาติ ล้างครีมอาบน้ำออกยากมากๆ
ปลอกหมอน อันนี้แล้วแต่ แค่อยากบอกว่าหมอนที่เรานอนเขาก็เปลี่ยนปลอกให้แล้วแหล่ะ
ไฟฉาย สำคัญมากๆเพราะเราต้องเดินไปกินข้าว แล้วก็เดินกลับมา ซึ่งไฟบนภูกระดึงจะเปิดถึงสี่ทุ่ม
แต่ถ้าคนเยอะก็เปิดทั้งคืนในช่วงเทศกาล
ยานวดต่างๆ ขาเราล้าแน่ๆแม้จะได้ยาคลายกล้ามเนื้อมาแล้วก็ตาม ยาพวกนี้จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการใช้
ยาแก้ปวด กินก่อนนอนรับรองหลับสบาย ส่วนอากาศจะหนาวจะร้อนแล้วแต่ดวง


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
28/11/2008
เช้ามืดวันนี้ถ้าใครมีแรงก็สามารถเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ที่"ผานกแอ่น"ระยะทางไปกลับ 4000mซึ่งสามารถทำได้ทุกวันครับ
ควรตื่นตั้งแต่ตีห้านิดๆเพราะจะได้เดินไปทันมีเจ้าหน้าที่นำทางตลอด ไม่ต้องกลัวหลง ซึ่งไม่แนะนำให้เดินไปเองเพราะช่วงหลังๆ
ช้างป่ามากวนนักท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ อันตราย ช่วงนี้แล้วแต่สมัครใจ ส่วนผมขอบายแน่นอน วันนี้เป็นวันพักผ่อน
หลังจากที่เดินเหนื่อยกันมาตั้งแต่เมื่อวาน ตื่นสายๆ ใครหิวก็เดินไปกินข้าว มีร้านค้าบริการ ทำธุระส่วนตัวได้ตามสบาย
จะไปเดินเที่ยวที่ไหนก็ได้เลยครับจะนัดกันอีกทีตอนสิบโมงถึงสิบเอ็ดโมง เพื่อเดินไปเที่ยวน้ำตกใกล้ๆกัน ซึ่งน้ำคงจะน้อยลงแล้ว
แต่ก็พอมีให้เดินเที่ยวได้ เส้นทางเดินเป็นทางราบ เดินสบาย กลับมาก็บ่ายๆ นอนพักเอาแรง กินขนม แล้วเย็นๆสักสี่ห้าโมง
ก็ไปดูพระอาทิตย์ตกกัน ที่ "ผาหมากดูก" ไปกลับ 4000m ซึ่งช่วงนี้ต้องเตรียมรับมือกับการเดินกลับที่พักในตอนกลางคืนดังนั้นต้องไม่ลืม
ไฟฉาย และเสื้อกันหนาว สำหรับที่เที่ยวของวันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกใจของแต่ละคนครับ ใครจะไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้ ไม่จำเป็น
ขอให้รู้ว่าตัวเองไหวแค่ไหน และอย่าฝืนเด็ดขาด ซึ่งตั้งแต่ที่ไปมา 9 ครั้ง ยังไม่มีใคร "เดี้ยง" จนขนาดไปเที่ยวไม่ได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ของที่ต้องเตรียมสำหรับวันนี้
ชุดสบายๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นแขนยาว ใส่สบายๆ อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน แต่ก็มีบางช่วงที่ต้องเดินกลางแดด
อาหารกลางวัน วันนี้ต้องเตรียมอาหารกลางวันไปด้วยเพราะเส้นทางเดินเที่ยวน้ำตกไม่มีร้านค้า
ดังนั้นหลังจากมื้อเช้าก็ไปสั่งอาหารกลางวันไว้ก่อนได้เลย
เป้เล็กๆ เอาไว้ใส่พวกน้ำดื่ม แล้วก็อาหารกลางวัน ขนมต่างๆ เดินไปกินไปสนุกดี


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
29/11/2008
เช้ามืดก็เหมือนเดิมใครอยากเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก็ตามสบาย ขอบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นสวยมากๆครับ แล้วแต่ว่าดวงจะดีสักแค่ไหนเพราะ
ถ้าโชคดีก็ได้เห็นขึ้นมาจากขอบฟ้าเลย แต่ถ้าดวงไม่ดี สว่างแล้วยังไม่รู้ตัวเลยว่าพระอาทิตย์อยู่ไหน
วันนี้เราจะต้องเดินกันหนักที่สุดเพราะต้องไปยัง "ผาหล่มสัก" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง ระยะทาง ไปกลับอยู่ที่ 18400m(เกือบยี่สิบโลเชียวนะ)
เราจะออกเดินทางกันตอนเช้าๆ หลังจากอาหารเช้าเสร็จซึ่งก็จะประมาณ เจ็ดโมงครึ่ง เพราะอากาศยังไม่ร้อน จะได้เดินสบาย
เส้นทางเป็นทางราบตลอด มีร้านค้าบริการตลอดอยู่เหมือนกัน ดังนั้นจึงสบายๆ เพราะจะได้พักไปตลอดทางแวะดูหน้าผาต่างๆ
กินกันตลอดทาง เหนื่อยก็พัก เดินกันสบายๆไม่ต้องรีบ เพราะยังไงก็ไปถึง ผาหล่มสักเย็นก็ได้ จะได้รอดูพระอาทิตย์ตกที่ผานี้
ซึ่งตอนกลับจะเป็นการวัดใจอย่างหนึ่งเพราะต้องเดินฝ่าความหนาว กลับที่พัก อุปกรณ์ที่ขาดได้ไม่ก็คือไฟฉาย
เพราะทางมืดตลอด พวกสายรัดข้อเท้า หรือรัดกล้ามเนื้อถ้าเตรียมได้ก็จะดี
คำแนะนำ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าเราไปถึงผาหล่มสักเร็วมากเท่าไหร่ เราก็จะมีโอกาสถ่ายรูปที่ผานี้มากเท่านั้น
เพราะถ้าคนเยอะก็จะเซ็ง เพราะต้องต่อคิวถ่าย ผมเคยออกเดินทางไปผาหล่มสักเร็วที่สุดตอนตีห้านิดๆ
เดินเล่นๆไปกับเพื่อนๆถึงผาหล่มสักยังเช้าๆอยู่เลย
ไปถึงคนยังไม่มีเลย ไปนอนเล่นถ่ายรูป หาจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุด แล้วก็หาที่นอนหลับสบายไปเลย
พอเย็นๆคนก็จะเริ่มมากัน
คราวนี้ก็จะได้เห็น "คน" เหมือนมาดูหนังกลางแปลงกันเลยล่ะ อันนี้ต้องปรึกษาหารือกันอีกทีครับว่า
เราจะไปกันช่วงไหนดีแต่คนส่วนใหญ่จะออกเดินทางไปผาหล่มสักกันประมาณ เก้าโมงเช้าเป็นต้นไป
อันนี้คนอื่นๆเขาไม่ทำกัน....
ของที่ต้องเตรียมสำหรับวันนี้
ชุดสำหรับใส่ลุยหนึ่งชุด กางเกงขายาว เสื้อไม่ต้องหนามากหนึ่งตัว ถุงเท้า ถุงมือ(ถ้าเป็นคนขี้หนาว) หมวก(ถ้าเป็นคนกลัวแดด)
แว่นตากันแดด(ถ้าเป็นคนอยากเท่ห์)


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
30/11/2008
วันนี้ก็จะเป็นวันกลับ ใช้เวลาเดินไม่นาน ก็ถึงแล้ว สบายครับ ตื่นมาแต่เช้า กินอาหารเช้ากันให้เรียบร้อย เก็บของลงกระเป๋า
แล้วเอาไปให้ลูกหาบแบกลงให้ขาลงเราจะถึงเร็วกว่าขาขึ้นมาก ไม่เกินสี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถ้าไม่มีใครขาเจ็บ ซึ่งตอนลงจะปวดขาสุดๆครับ
เมื่อถึงที่ทำการฯ เราก็จะไปอาบน้ำ เดินเล่นซื้อของฝาก ซึ่งมีเพียบทั้งที่นี่และที่ร้านเจ้กิม จากนั้นเราก็จะไปนั่งรถกลับกัน
น่าจะมาถึงกรุงเทพฯเช้ามืดอยู่เลยใครที่จะไปทำงานต่อก็ไป ส่วนใครที่คิดว่าไม่ไหว กลับบ้านไปนอนพักสักวันก็ยังดีครับ อันนี้แนะนำ.....


ของที่ต้องเตรียมสำหรับวันนี้
ชุดใส่ลงภูกระดึง ก็จะคล้ายๆชุดเดินขึ้นนั่นแหล่ะ ไม่ต้องคิดมาก เหงื่อเพียบ
ชุดใส่กลับอีกหนึ่งชุดครับ...


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
อุปกรณ์เสริม
MP3 เอาไว้ไปเดินฟังเล่น
แผนที่ดาว ถ้าใครหาได้ แนะนำเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่าดาวอะไร ขอบอกว่าดาวสวยมากๆ ยิ่งช่วงที่มีฝนดาวตก
จะเห็นได้ชัดเจนผมลองมาแล้ว
เชือกฟาง เอาไว้ตากผ้า
กล้อง เอาไปกันทุกคู่แหล่ะ เพราะช่วยๆกันถ่าย พอกลับมาแล้วจะรู้ว่าเราคิดถึงมันแค่ไหน
ขาตั้งกล้อง อันนี้แล้วแต่นะ ถ้าใครชอบถ่ายรูปก็จำเป็นนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ผมทำไว้นานแล้วนะครับ แล้วก็ไปมาแล้วครบ 10 รอบพอดี

ซึ่งครั้งหลังสุดที่ทำอันนี้ผมพาพ่อ(อายุตอนไป 62)ไปด้วย

คิดว่าคนเพียบแน่นอนครับสำหรับธันวาคม

ใครมีอะไรสงสัยผมว่าตอนนี้ข้อมูลภูกระดึงสามารถหาได้ไม่ยากแล้วครับ มีเพียบ

แต่ถ้าสงสัยอะไรก็สอบถามได้ครับ



***** tex *****


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
หวังว่าจะมีคนเข้ามาอ่านบ้างนะ ฮ่าๆๆๆๆ



***** tex *****


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณ คุณ[[]] สำหรับข้อมูลดีๆค่ะ เราไปกับเพื่อนอีก1คน ผู้หญิงทั้งคู่
ขึ้นภูกระดึงครั้งแรก ตั๋วรถทัวร์ไป-กลับ ซื้อเตรียมไว้แล้ว นอนเต็นท์จองกับอุทยานไว้แล้วเหมือนกันค่ะ ตอนนี้กำลังวอร์มร่างกาย เข้าฟิตเนสทุกวันเลยค่ะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ไปปีใหม่ไม้มีทาก แต่หนาวทรมารครับ ไปปีใหม่สามครั้ง อุณหภูมิช่วงต่ำำ่สุด ต่ำกว่าสิบองศาทุกครั้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
วันนี้จะเดินทางแล้วค่ะ อิอิ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค๊า


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ถ้าใส่รองเท้าผ้าใบ ควรตัดเล็บเท้าให้สั้นเพราะเวลาลงมันจะจิกลงกับรองเท้า
แต่ถ้าเป็นรองเท้าสานก็ไม่เป็รค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
ป้าไปมาเมื่อ 20 ปีก่อนโน้น
มาอ่านแล้ว..คิดถึงภาพเก่าๆ..
วันนี้แค่อ่านก็เหนื่อยแล้ว งั่ก..งั่ก
เอาใจช่วยหนุ่ม สาว รุ่นใหม่ ขอให้สนุกและมีความสุขทุกคนค่ะ


http://www.youtube.com/v/YnBVyGZU2rY
ตอบกลับความเห็นที่ 30