ไปเที่ยวปารีสโดยไม่ช๊อปของแบรนด์ ช๊อปอะไรแทนดี?

จะไปเที่ยวปารีสสี่วันอ่ะค่ะ แบกเป้ไปเองกะเพื่อนสามสี่คน ของที่น่าซื้อจากปารีสที่สำรวจดูส่วนใหญ่ที่น่าซื้อคือน้ำหอม กระเป๋า เครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ แต่ครั้งนี้เป็นทริปนักศึกษาอ่ะค่ะ ไปแบบกะเหรี่ยงๆ งบก็เลยระดับนักษาด้วย ด้วยความที่ไม่มีตังค์พอซื้อของพวกนั้น+ไม่รู้จักและไม่ได้สนใจของแบรนด์มาก่อน ก็เลยอยากขอคำแนะนำว่านอกจากนี้มีอะไรที่ปารีสน่าซื้อกลับมาบ้าง ที่ราคาย่อมเยาน่ะค่ะ

อ้อ อีกคำถามค่ะ ถ้าไปปารีสแบบไม่ช๊อปมาก เน้นไปเปิดหูเปิดตาเก็บบรรยากาศบ้านเมือง ควรแลกตังค์ไปเท่าไหร่ดีค่ะ สำหรับสี่วันให้เที่ยวกินอยู่แบบไม่ขัดสนมาก

ถ้ามีอะไรแนะนำเกี่ยวกับการไปเที่ยวปารีสด้วยตัวเองก็ยินดีนะคะ ^______^

ความคิดเห็นที่ 1
เราไปเที่ยวก็ไม่ได้ซื้อของแบรนด์นะคะ ซื้อเป็นพวกของที่ระลึก ภาพวาดสวยๆ ที่เขาขายอยู่ริมน้ำ น่ะค่ะ
แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศสวยๆ ยามค่ำคืนก็ไปล่องเรือเลยค่ะชม สวยมากๆ ไปกลับน่าจะซัก 1 ชั่วโมงน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ปารีส 4 วัน เที่ยว กินอยู่ แบบไม่ขัดสนมาก แลกตังค์เท่าไหร่ดี? ถ้าแลกจากเมืองไทย ถ้ามีเครดิตการ์ดแล้ว
ควรจะมีสแปร์ติดกระเป๋าวันละอย่างน้อยๆ เลย 100 ยูโรค่ะ เพราะบางร้านอาจจะไม่รับเครดิตการ์ดเลย หรือ อาจจะไม่รับ
เครดิตการ์ดที่คุณใช้อยู่ (เช่น บางร้านไม่รับ AMEX เป็นต้น) หรือ บางร้านถ้ายอดไม่ถึงก็ไม่สามารถรูดการ์ดได้

และควรจะมีเงินสดเอาไว้สำหรับใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ยิบย่อยเสมอ เช่นค่าชา ค่ากาแฟ ค่าน้ำ ค่าโปสการ์ด เป็นเงินจิปาถะ

ปารีสเนี่ย ถ้าไม่เน้นช้อปปิ้งก็เน้นเรื่องกินไปค่ะ และ ยังสามารถแยกหมวดเรื่องกินไปได้อีก เช่น

1. ตระเวณกินตามร้านชา ร้านขนม

2. ตระเวณกินอาหารฝรั่งเศส โดยเฉพาะพวกสตูว์เนื้อกระต่าย หรือ อาหารบ้านๆ ของฝรั่งเศสจากทางแถบใต้ๆ หน่ะค่ะ

3. กินอาหารเอเชีย เช่นอาหารเวียตนาม อาหารไทย เป็นต้น

___________________________

เป็นนักศึกษาก็ควรจะเน้นชมความสวยงามของปารีส สถาปัตยกรรม สถานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ
แต่ถ้าไปหน้าหนาวเนี่ย สว่างช้า มืดเร็ว อากาศก็หนาวเย็นนะคะ

เพิ่งคุยกับเพื่อนคนฝรั่งเศสที่ปารีส ช่วงนี้ปารีสยังไม่หนาวเท่าไหร่ แต่เช้าๆ กว่าพระอาทิย์จะขึ้นก็หลัง 8 โมงเช้าไปแล้ว
ราวๆ นั้น หรือ ราวๆ 5 โมงเย็นก็มืดแล้วค่ะ

__________________________

ส่วนเรื่องของแบรนด์เนมเนี่ย เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวล้วนๆ นะคะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องวัย ไม่เกี่ยวกับอายุ และ
ไม่เกี่ยวกับเงินในกระเป๋าค่ะ (เพราะบางคนที่ซื้อของแบรนด์เนมใช้ ก็ไม่ได้หมายความว่ารวยจริง แต่อาจจะรูดการ์ด
เป็นหนี้บัตรเครดิตซื้อมา หรือ ทำอาชีพไม่สุจริตหาเงินมาซื้อ หรือ เก็บเงินนานมากเพื่อซื้อแบรนด์เนมสักใบ ซึ่งอาจจะใส่เสื้อ
ตัวละ 199 รองเท้าคู่ละ 299 แต่สะพายกระเป๋าแบรนด์เนมใบละ 50,000-60,000 บาท ทำงานได้เงินเดือน เดือนละ
15,000-20,000 บาท ซึ่งไม่สัมพันธ์กันเลยนะคะ)

คือถ้าน้อง จขกท. ไม่ชอบแบรนด์เนมก็ไม่จำเป็นต้องซื้อค่ะ แต่ขอให้คุณไปเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ อื่นๆ จากปารีสแทนค่ะ
ไปพบปะผู้คน ไปชมเมืองที่สวยและมีสเน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แค่นี้น้องก็น่าจะสุขใจแล้วนะคะ

ถ้าไม่เน้นแบรนด์เนม ก็ซื้อของกระจุกกระจิก เช่นถ้วยกาแฟน่ารักๆ ขนม เช่นพวกมาการอง (มากาฮอง/มักการอง/มาการูน
_แล้วแต่จะเรียกค่ะ) พวกชา พวกชีสต่างๆ โคลด์คัทต่างๆ ถ้าชอบนะคะ

หรือ เช่นไปร้านชามาร์ริยาร์จแฟร์ส ไปร้านขนมลาดูรี ไปร้านกาแฟเก่าแก่ย่านแซงท์แยร์แมงท์เดเพร
ไปนั่งทานอาหารเช้าแบบฝรั่งเศสเลอเปอตีเดเจอร์เน่ตามร้านกาแฟ ไปย่านคนยิวคือมาเร่ส์ ไปละตินควอเตอร์
อะไรพวกๆ นี้ค่ะ ย่านพวกนี้จะน่าเดินกว่าย่านฌ็องเซลิเซ ซึ่งย่านฌ็องเซลิเซ และ แถวๆ ห้างลาฟาแย็ต หรือ แถวๆ
มงมาร์ท แถวมูแลงรู้จ แถวลูร์ฟ เป็นต้นเนี่ย นักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ

โดยเฉพาะย่านฌ็องเซลิเซ จะมีแต่พวกตะวันออกกลางพวกคนจีน คนเอเชียชาติอื่นๆ และ นักท่องเที่ยวอื่นๆ จาก
ยุโรปเยอะมาก ส่วนพวกกรุ๊ปทัวร์อเมริกัน ก็มักจะเจอตามย่านท่องเที่ยวเช่นกัน ปกติแล้วเวลาไปปารีส จะพบกรุ๊ปทัวร์อเมริกันเยอะมาก ส่วนใหญ่เสียงดังค่ะ กรุ๊ปทัวร์จีนก็เสียงดัง วุ่นวาย

เวลาไปเดินปารีส สังเกตให้ดีค่ะ คนจีน คนตะวันออกกลาง และ คนไทย จะถือถุงแบรนด์เนมกันคนละหลายใบมากๆ
และ ถ้าไปห้างลาฟาแย็ต ที่เคาน์เตอร์/ที่ร้าน Longchamp ภายในลาฟาแย็ต จะมีแต่คนไทย กับ คนจีน ต่อคิวกัน
หลายสิบคน หรือ เป็นร้อยคนค่ะ _การถือถุงแบรนด์เนมเยอะๆ ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของเหล่ามิจฉาชีพมากขึ้นไปอีก
ซึ่งเหล่ามิจฉาชีพมักจะอยู่ตามย่านท่องเที่ยวหลักๆ และ ในเมโทร/รถไฟใต้ดิน นักท่องเที่ยวจากเอเชียมักจะตกเป็นเหยื่อของ
เหล่ามิจฉาชีพในยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลี่ สเปน ฝรั่งเศส เสมอค่ะ

ถ้าไปห้างลาฟาแย็ต แนะนำให้ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชั้นบนค่ะ ไปหาของอร่อยๆ รับประทาน เช่นพวกชีส โคลด์คัทต่างๆ
กาแฟ ขนมอร่อยๆ ค่ะ และ ไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต
_____________________________

อ้อ ลืมไปค่ะ น้อง จขกท. บอกว่าเป็นนักศึกษา จึงไม่แน่ใจว่าน้องมีเครดิตการ์ดหรือเปล่านะคะ ผู้ปกครองอาจจะทำบัตรเสริม
ให้ หรือ ไม่ได้ทำ

ถ้าไม่มีเครดิตการ์ด และ ถ้าต้องรวมค่าที่พักด้วย ก็ควรจะมีสำหรับทั้งทริป 4 วัน อย่างน้อยๆ 600 ยูโรค่ะ

//คห. นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ และ พี่เป็นคนกินเก่ง รับประทานวันละหลายรอบ และ ชอบนั่งร้านขนม ร้านอาหาร
จึงต้องเผื่อค่ากินเอาไว้นิดนึง


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เข้ามาชูมือเคยเที่ยวแบบนักศึกษา
ตอนเราไปพักห้องโรงแรมง่ายๆ แบบไอบิส หารกันตกคืนละสามสิบยูโรต่อคน ค่าโรงแรมจ่ายไปก่อนล่วงหน้า
ปารีสมีให้เที่ยวเยอะมาด ทั้งวันถ้าเกิดว่าไม่ได้เน้นกินขนมร้านน่ารัก ๆมากมีอะไรให้ดูเยอะแบบเก็บไม่หมด น่าจะมีเวลานั่งทานอาหารในร้านแบบนานๆ มื้อดีๆ ได้วันละมื้อนะคะ ไม่อย่างนั้นเที่ยวไม่ทั่ว
ราคานักศึกษาตีมือเย็นทานไม่ต้องหรูมากคนละสามสิบยูโร
เราซื้อparis pass ราคานักศึกษาเที่ยวเข้าได้หมดเลยทุก musee และวังทั้งหมดยกเว้นหอไอเฟลน่าจะประมาณห้าสิบยูโร อันนี้เป็น 3 or 5 days pass ลืมแล้วอะค่ะ อันนั้นประหยัดไปเยอะเหมือนกัน เดินทางเราก็ซื้อตั๋วเมโทรแบบรายสามวัน เดินบ้างลงเมโทรบ้างเพื่อประหยัดเวลา ถ้าเดินเยอะ ซึ่งเมืองก็เดินได้และสวยด้วย จะเก็บสถานที่ได้น้อยเหมือนกันเลยต้องมีช็อตเดินชมเมืองบ้าง ลงเมโทรบ้าง อันนั้นสามวันน่่าจะประมาณยี่สิบยูโร คุ้มนะ พอค่าใช้จ่ายพวกนี้ฟิกซ์แล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่เราเลยค่ะ จะซื้อพวกเครื่องสำอางค์เท่าไร ขนมเท่าไร ทานจุกจิกระหว่างวัน อาหารเช้ากับกลางวันเราเน้นง่ายเพราะว่ารีบตอนเรียน ตอนนี้ไปอีกทีแบบชิวๆ ได้แล้วเพราะว่าเที่ยวค่อนข้างทั่วแล้วก็จะนั่งร้านดีๆ ทุกมื้อ ฮ่าๆ ถ้ากินง่ายๆ พวก panini ตามคาเฟ่เล็กๆ ทานแป๊บๆ น่าจะไม่เกินสิบยูโรค่ะ
อาหารเช้าแนะนำว่าซื้ออะไรง่่ายๆ เข้าไปเก็บไว้ตั้งแต่กลางคืนเลยจากพวก carfourre หรือ leader price คุณภาพเลือกดีๆ ก็โอเคแต่ถูกกว่าทานกับโรงแรมหรือตามคาเฟ่แน่นอน โยเกิร์ต น้ำส้ม salami, smoked salmon งี้ ครัวซองซื้อเบเกอรี่ร้านไหนก็อร่อยค่ะ มาตรฐานอาหารเค้าดี ประหยัดค่าอาหารเช้าไปละ

พวกเครื่องสำอางค์ราคาพอประมาณก็ la roche posay, avene, vichy, l'occitane, bioderma ถูกมากถูกกว่าอังกฤษหรือกรุงเทพเยอะค่ะ พวกเคานเตอร์แบรนด์ไม่ค่อยต่างเท่าไรจากที่อังกฤษ น้ำหอมก็เหมือนกัน ซื้ออังกฤษตอนเซลล์ถูกกว่า

แนะนำให้เก็บที่สำคัญๆ ก่อน ถ้ามีเวลาไป latin quarter ก็ดีนะคะ น่ารักดี แถวมหาลัย sorbonne ของเค้า เขียนงี้ป่าวหว่า คาเฟ่น่ารักๆ หนุ่มๆสาวๆ นักศึกษาเยอะดีเจริญตามากมาย แต่ไม่ได้เป็น a must ที่ต้องไปในทริปแรกค่ะ

สรุปว่าเราถ้าไม่รวมค่าโรงแรมและค่าบัตรพาสและเมโทรเราไปสี่วัน ใช้ไปประมาณสามร้อยยูโรค่ะ แต่ไม่ได้ซื้ออะไรแพง เน้นเก็บสถานที่สำคัญค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
มาเที่ยวแค่สี่วันเอง เพราะปารีสเป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์มีอะไรทุกรสนิยมให้ชมมากมาย

ตอนนี้ที่ปารีส ก็ไม่หนาวมากหรอกค่ะ ประมาณ4-5องศา ไม่เกินนี้ ตอนเช้าๆหมอกจะลง

เยอะหน่อยช่วงนี้บ่ายๆจะเย็นบางวันฝนก็ตกปรอยๆ ถ้าเป็นนักศึกษา ดิฉันแนะนำให้ไปเที่ยว

พิพิธภัณฑ์ค่ะ เช่น ลูฟเวรอ(musee du louvre )ขึ้นที่สถานีรถไฟใต้ดิน palais royal

-musee du louvre ทางเข้าอยู่ตรงกลางพระราชวัง louvre ค่ะ ค่าเข้าชมตอนที่ดิฉันไปไม่

น่าเกิน10ยูโร (จำไม่ได้แล้ว)รู้สึกจะฟรีให้ผู้ที่ต่ำกว่า18ปีด้วย(พอดีอายุดิฉันเกินไปนิดน่า

เสียดาย55+)และซื้อตั๋วได้เองจากเครื่องถ้าไม่อยากเข้าคิว ในนั้นก็จะมี ภาพ โมนาลิซ่า ...ที่ทุก

คนรู้จักกันดี ...รูปปั้นวีนัส สัญลักษณ์แห่งความรัก แล้วก็มีรูปปั้นอะไรต่อมิอะไรตั้งแต่

โบราณจนปัจจุบัน ไปวันเดียวดูไม่หมดหรอกค่ะ กว้างใหญ่มาก
ทางเข้าเป็นกระจกรูปสามเหลี่ยมปิรามิด แปลกดี เพื่อนบอกว่าสถาปนิกจีนออกแบบ(อันนีดิฉันเชื่อครึ่งนึง ยังไม่มีเวลาหาข้อมูล)

พิพิธภัณฑ์อีกอันก็น่าสนใจ ชื่อกีเม ขึ้น เมโทร Iena นะคะ ที่ว่าน่าสนใจเพราะจะมีแต่ของมีค่าทางศิลปะเอเชียเยอะมากประมาณด้วยสายตาน่าจะหลักหมื่น ดิฉันก็ได้แต่เสียดายแทนประเทศนั้นๆ (แถบบ้านเรา)ว่าของมีค่ามาอยู่ที่กรุงปารีส แอบๆดูยังไม่เห็นของมีค่าไทยค่ะ 55+

ส่วนเน้นเปิดหูเปิดตา ชมบรรยากาศบ้านเมือง (แแบบไม่เสียเงินเยอะ) ก็หอไอเฟิล ไม่ต้องขึ้นชมบนยอดหอก็ไม่ได้เสียอะไร ถ้าจะไปเยี่ยมสถานทูตไทยก็แถวนั่นแหละค่ะไม่ไกล

-ประตูชัย อาร์ค เดอะ ทรีย๊มฟ์ (Arc de Triomphe ) อยู่ตรงปลายของถนน ชองเซลิเซ่ แถวนั้นก็นักท่องเที่ยวเยอะ ตรงประตูชัยนี่ข้างล่างจะเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามค่ะ

-มงมาร์ทเทรอ (Montmartre) ก็น่าสนใจ จะมีพวกศิลปินมานั่งวาดภาพ ดิฉันเห็นบางคนก็จ้างให้วาด(นั่งเป็นแบบ) ส่วนดิฉันได้แต่เก็กท่าถ่ายรูปกับพวกศิลปินค่ะ(ไม่มีตังค์จ้าง)

พวกของที่ระลึกตามร้านขายของที่ระลึกส่วนใหญ่ทำจากจีนนะคะ เลือกร้านด้วยถ้าจะซื้อ


แต่ภาพวาดตามริมแม่น้ำ Seine สวยค่ะ ราคาไม่แพง ประมาณ5ยูโร ซื้อเยอะๆตกแผ่นละ3ยูโร แผ่นก็ไม่เล็กไม่ใหญ่

ดิฉันเคยซื้อสิบกว่าภาพเอาไปใส่กรอบที่เมืองไทยร้านที่ทำกรอบรูปบอกว่าสวยมากและ

กระดาษเนื้อดี ถ้าสนใจและชอบ ดิฉันว่าน่าซื้อมากค่ะ

ปล.แนะนำสถานที่เที่ยวปารีสด้วยตัวเองจากความชอบส่วนตัว(ของคนตอบ)แต่รับรองไป

แล้วจะชอบ และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับนักศึกษาค่ะ .....


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณพี่ๆมากเลยที่มาแนะนำน้องใหม่หัดเที่ยวแบบราคาประหยัด อิอิ ที่วางแผนไปก็มีแค่เบสิกๆเป็นที่ๆทุกคนไปปารีสต้องไปอ่ะค่ะ เช่น ฌ็องเซลิเซ่ แวร์ซาย พิพิฒภัณฑ์ลูฟ ขึ้นหอไอเฟล นอร์ทเธอร์ดาม มองมาร์ต ลาฟาแย็ต ล่องเรือ ดิสนีย์แลนด์ หนูต้องหาข้อมูลตามย่านเก่าๆที่น่าเดินที่พี่ๆแนะนำไว้ซะแล้ว น่าสนใจมากเพราะตัวหนูเองชอบเมืองที่มีตึกรามบ้านช่องสวยๆแบบได้กลิ่นอายวินเทจ ถ่ายรูปออกมาเก๋ๆน่ารักๆ

ถ้าพี่ๆมีย่านไหนที่น่าเดินอีกก็แนะนำเพิ่มเติมหน่อยนะคะ แบบนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน และสามารถเดินทางไปได้สะดวก เดินๆไปเองคนเดียวได้ เพราะบางทีอาจขอแยกตัวออกมาขณะที่คนอื่นๆไปช๊อป เราก็จะไปถ่ายรูปสวยๆงามๆของเราไป

ส่วนบัตรเครดิตหนูก็ไม่มีค่ะพี่ กะแลกเงินสดไปราวหกร้อยยูโรอย่างที่พี่แนะนำ และมีติดบัตรไว้นิดหน่อย ที่พักก็โฮสเทลแบบประหยัดๆ ไม่แน่ใจว่าเวลารูดบัตรเดบิตซื้อสินค้านี่เค้าคิดค่าธรรมเนียมต่อครั้งด้วยมั้ยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ลืมถูกใจคหคุณพี่ BTDT ไปเรื่องเสื้อผ้า 199 กระเป๋าครึ่งแสน อ่านแล้วนึกออกเลยค่ะ สิทธิส่วนตัวของเค้าแต่ดูไม่สมฐานะ

anyway บัตรเดบิตที่อังกฤษใช่มั้ยคะ
รูดที่นู่นได้เสียค่าธรรมเนียมน่าจะครั้งละสองยูโร แนะนำว่าเอาไปกดเงินสดดีกว่าถ้าเงินที่แบกไปไม่พอ
ค่ากดก็ประมาณเดียวกันนี่ล่ะ ประหยัดกว่ารูดทุกครั้งเสียค่าธรรมเนียมทุกครั้ง เรตก็ไม่แย่นะคะ โอเลยล่ะเทียบกับเวลาไปแลกปอนด์เป็นยูโรที่โซโหที่เรทจะดีกว่าตาม mark and spencer or post office

latin quarter พวกแถบ sorbonne, st sulpice, st germain de pres จะไม่ดังเท่าพวก a must ในปารีส แต่ว่าบรรยากาศมัน genuine กว่านะเราว่าไม่ค่อยนักท่องเที่ยวจ๋า ร้านขนมน่ารัก ๆ อย่าง pierre herme and la duree ก็มีสาขาที่นี่ ร้านแบรนด์เนมไฮเอ็นก็มีสาขาที่นี่ แต่จะเล็กๆ น่ารักดี เดินเล่นได้สบายๆ ตึกสวย นักศึกษาเยอะ ดูเหมือนจริงกว่าแถบติสต์แตกนักท่องเที่ยวเยอะแบบ canal st martin ด้วย คหสต
แต่อย่างที่บอก เก็บพวก a must ก่อนดีกว่าค่ะ

แนะนำให้ซื้อปารีส พาส ประหยัดเวลามากไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋ว ตั๋วนักเรียนบางที่ๆ ให้เข้าฟรีก็คือต้องไปต่อคิว เสียเวลามากมาย แล้วก็ควรตื่นเช้าเป็นอย่างยิ่งค่ะ พวกแวร์ซายและลูฟร์นี่ถ้าเข้าได้ตั้งแต่เพิ่งเปิดจะประหยัดเวลามากๆ ไม่ต้องรบกับคนมากมายมหาศาล ออกมาช่วงบ่ายไปทำอย่างอื่นต่อได้อีกด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เพิ่มเติม หอไอเฟลกลางคืนสวยกว่ามากกก แต่หนาวมากเหมือนกัน ตอนนั้นไปขึ้นช่วงปีใหม่ยืนต่อคิวข้างล่างหงิกงอ ข้างบนลมแรงกว่าด้วย ตอนนี้รีโนเวทอยู่ด้วยอะค่ะถ้าถ่ายรูปใต้ฐานจะไม่ค่อยสวย ps dont forget to visit trocadero for the best view of tour de eiffel ka and bring french dictionary, most great restaurants dont have english menu


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ไปปารีสมาเมื่อเดือนกันยายนค่ะ ขออนุญาตอวดนิดนึงว่าหาที่พักได้ถูกมว้ากกกกและอยากแนะนำต่อค่ะ 5555 เราพักใน hostel Paris for Girls ห้องแชร์ 6 คน คืนละ 8 ยูโร/คืน/คน ค่ะ ถูกใจมากเลยมาบอกต่อค่ะ หาได้ใน airbnb นะคะ :D


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตหาซื้อขนมประเภทคุ้กกี้ ช็อคโกแล็ต แยม กาแฟรสชาติต่างๆค่ะ ดิฉันว่าอร่อยรสชาติดีทั้งที่ไม่ใช่ของราคาแพงเป็นของกินของใช้ขายทั่วๆไป (ดิฉันชอบซื้อเกลือและโกโก้ผงด้วย)


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ลองไปตลาดเก่าในปารีส ถนน ชองเอลิเซ วันอาทิตย์
จะมีสินค้า วินเทจ มาขาย
ที่นี่มีของเก่า ราคาถูก ให้คุณเลือกนะ
เพื่อนเคยได้เสื้อลูกไม้ถักมืออายุเกือบร้อยปี มา1ชุด สวยมากกกก
ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท ของราคาหลักร้อยบาทก็มีจ้ะ
ถ้าชอบ ก็ลองไปเดินดูนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าเที่ยวแบบประหยัด และชอบดูอะไรสวยๆนะคะ ปารีสน่ะ เดินไปทั่วตามซอกตามมุม
มีให้ชมมากมาย อย่ามองแต่แหล่งนักท่องเที่ยว จะได้เห็นอะไรสวยๆเยอะแยะ
Place des Vosges
Musee d'Orsay
Musee Rodin
แถวรอบๆ Sorbonne ฯลฯ เดินๆไปตามส่วนอื่นๆของปารีส จะเจอตลาดกลางแจ้ง น่าสนุกมากๆ
ผลไม้สดๆ อร่อยดีด้วย
สมัยป้าเป็นนักเรียน ไม่ค่อยมีตังค์ เวลาไปเที่ยว จะซื้อขนมปัง cheese ผักผลไม้ cold cuts ทำแซนวิช นั่งกินตามสวน ประหยัดดี กินไปดูคนไป สนุกดี เพลินดี
เก็บตังค์ไว้เป็นค่าพิพิธภัณฑ์ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก

ลองติดต่อ Cite Universitaire คะ หอพักบางหอเขาให้นักศึกษาสัญจรพักได้นะ ถูกกว่าพักโรงแรมเยอะ
ถ้าจำไม่ผิด Maison Internationale ถ้ามีห้องว่าง จะเปิดให้นักศึกษาสัญจรพักได้นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ร้านของกินไม่ควรพลาดนะคะ

- pierre herme ดังเรื่อง macarons ค่ะ
รส นัวแซส ไม่แน่ใจว่าเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสยังไง
ที่อยู่ค่ะ Galeries Lafayette Maison
Ground floor
35 boulevard Haussmann 75009 Paris

- Pho 14 เป็นร้านอาหารเวียดนาม เฝอ อร่อยมากค่ะ น้ำซุปหอมหวาน
คนต่อคิวเยอะ แต่รอคิวไม่นานเท่าไหร่ค่ะ
ลงเมโทรสถานี Tobiac พอขึ้นมาแล้ว ให้หันหลังให้กับแมคโดนัล ไม่แน่ใจว่า แมคหรือ ควอลิตี้เบเกอร์นะ กลับมานานแล้วลืมอะค่ะ แล้วมุ่งหน้าข้ามถนนไป ตรงแยกที่มีร้านขายยาอะค่ะ เดินตรงไปจนเจอแยกแล้วเลี้ยวขวา ร้านจะอยู่ถัดจากร้านหัวมุมเลยค่ะ

- เครป เท่าที่กินมา เจอร้านนี้อร่อยสุดค่ะ อยู่ที่สถานี st.michel metro line 4 สีม่วง
จำไม่ได้ว่าต้องขึ้นบันไดไหน แต่ว่าบันไดนั้นขึ้นมาปุ๊บจะเจอร้านขายหนังสือที่มีผ้าใบสีเหลืองอยู่ตรงทางขึ้นพอดีตรงหัวมุม ให้เดินเข้าซอยนั้นไป แล้วเดินหาร้านเครปที่เป็นคุณป้าผมสั้นใส่แว่น ร้านเล็กๆ ถ้าหันหน้าเข้าร้าน ด้านขวาของร้านจะเป็นประตูเข้าร้านแบบทางเล็กๆ ร้านนั้นอร่อยไม่แพงค่ะ แนะนำ ให้สั่งกินที่ร้านจะเป้นโปรโมชั่นคุ้มกว่า
ไข่ แฮม ชีส อร่อยอย่าบอกใคร นูเทล่ากล้วยก็อ่ร่อยค่ะ


ติดเรื่องรูปไว้ก่อนนะคะ
ไม่แน่ใจว่าถ่ายไว้รึเปล่า หน้าร้านเครปอะค่ะ ถ้าหาเจอจะมาโพสให้นะคะ
ถ้าคิดออกอีกจะมาบอกค้าาา

ปล. แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ถ้าผิดพลดาต้องขออภัยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ลืมบอกค่ะ ว่า แผนที่เมโทรขอฟรีที่เมโทรทุกสถานีนะคะ :)

ถ้าสะพายเป้อย่าสะพายไว้ด้านหลังนะคะ เพื่อนเราโดนล้วงมาแล้วค่ะ
ระวังพวกคนดำ ที่เข้ามา ผูกข้อมือ และพวกผู้หญิงแขกขาวที่เข้ามาขอลายเซนต์แบบถือแฟ้มอะค่ะ อย่าไปสนใจ อย่าไปเซนต์หรือยอมให้ผู้ข้อมือเด็ดขาดค่ะ มิจฉาชีพดีๆนี่เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เที่ยวอย่างเดียวพอค่ะ ไม่ต้องซื้ออะไรเลยดีที่สุด ของที่ระลึก ดิฉันเคยซื้อมาเวลาไปเที่ยวทุกที่ แต่ในที่สุดก็วางกองอยู่บนหิ้ง ฝุ่นจับต้องคอยเช็ดฝุ่นทุกอาทิตย์ไปจนในที่สุดเก็บลงกล่อง เลิกโชว์อีกต่อไปเพราะหลายประเทศและหลายชิ้นมาก พอคิดได้ตอนนี้ก็เสียเงินไปมากมายแล้ว แถมเสียดุลย์อีกเพราะแลกเงินไทยมาซื้อนั่นเอง เที่ยวอย่างเดียวและถ่ายรูปถ่ายรุปและถ่ายรูปให้มากที่สุดเอาไว้เป็นที่ระลึกที่เราเคยมาแทนเพราะไม่ได้เสียตังนี่นะ ซื้อ SD card ในเมืองไทยมาหลายๆๆอันๆละ 4 GB พอและหลายๆอัน ถ่ายรูปให้หนำใจ ยังเก็บไว้ดูได้อีก อวดเพื่อนได้อีก เอาไปอัดมาเป็นรูปเก็บไว้ อีกหลายๆๆปีหยิบมาดูก็ยังนึกถึงและจำได้นะคะ จะประหยัดได้มาก ตังมีไว้ซื้อของกินอย่างเดียวก็หลายแล้วนะจ๊ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ผมเพิ่งกลับมาจากปารีส...ถ้าจะซื้อน้ำหอมให้ไปซื้อที่ ลุฟ มิวเซียม ..จะมีร้านขายน้ำหอมขวดละ 200 กว่าบาท หอมมากด้วย...ผมใช้เงินตกวันละ 80 ยูโร ( 2 คน ) นะ แค่ค่ากิน อย่างเดียว...กินแต่ขนมปัง...กับน้ำ...ควรไปซื้อน้ำขวดใหญ่ใน ซุปเปอร์มาเก็ตแล้วมาแบ่งใส่ขวดเล็กเอาเพราะว่าซื้ิขวดเล็กแพงมาก...ถ้าอยากได้ขอมูลมากกว่านี้ ไปทีื teerayot ( Facebook ) . แล้วจะช่วยวางแผนการเที่ยวให้


ตอบกลับความเห็นที่ 15