เรียนสอบถามวิธีการขนส่ง digital piano หนักประมาณ 45 kg. จาก USA กลับเมืองไทยครับ

พี่ชายเรียนจบที่ USA แล้วครับ ตอนนี้จะกลับเมืองไทย แต่ติดปัญหาที่ ไม่รู้ว่าจะขน digital piano หนักประมาณ 45 kg ส่งกลับเมืองไทยด้วยวิธีใดถึงจะประหยัดและป้องกันความเสียหายได้ดีที่สุดครับ

ปล.ตอนแรกเขาจะขายเป็นสินค้ามือสองที่ USA แต่เนื่องจากราคาตกค่อนข้างเยอะ (แม้ว่าเพิ่งซื้อแค่ 3 เดือน) และพอกลับเมืองไทยแล้วจะซื้อรุ่นนี้ก็ดันไม่มีขายซะอีกครับ เลยตัดสินใจอยากขนกลับเมืองไทยครับ

ความคิดเห็นที่ 1
ส่งทางเรือค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ราคาค่าส่งประมาณเท่าไรครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ส่งทางเรือรวมกับของอื่นๆอีกหลายอย่างให้คุ้มค่าออกของ ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว เครื่องเสียงประเภทไฮเอนด์สักหน่อยก็ได้ เก่าๆดีๆเขาซื้อขายกันเป็นแสน ผมเอาลำโพงเก่ามาคู่หนึ่งขายไปเกือบแสน เล่าให้ฟัง


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เขาคิดเหมาตามขนาดครับไม่เกี่ยงน้ำหนักถ้าผมจำไม่ผิดนะส่งทางเรือนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
สินค้าที่เป็นเครื่องดนตรีโดยปรกติแล้วต้องมีใบอนุญาตถึงจะนำเข้าได้จึงแนะนำให้ส่งพร้อมกับของใช้ส่วนตัวเพราะจะได้เหมือนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัวมากกว่า ดีกว่าที่จะส่งไปโดดๆ และตัวdigital pianoนี้ต้องแพ็คกันกระแทกมาให้ดีๆนะคะ

บริการโดยปรกติที่หลายบริษัทให้บริการก็จะเป็นการส่งทางเรือและส่งทางอากาศค่ะ
ส่งทางอากาศส่วนมากค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะค่าขนส่งคิดตามน้ำหนักจริงหรือน้ำหนักทางปริมาตร และส่วนใหญ่จะเป็นบริการแบบส่งถึงหน้าบ้านที่ไทยเลย บริการนี้มีข้อจำกัดในการส่งมากเนื่องจากการขนส่งทางอากาศไม่อนุญาตให้ส่งของต้องห้ามเช่น น้ำหอม แบตเตอรี่ทุกประเภท และของอื่นๆ จึงเป็นบริการที่เหมาะสำหรับคนที่รีบจะใช้ของ

สำหรับการขนส่งทางเรือ จะง่ายกว่าและไม่ยุ่งยากเหมือนส่งทางอากาศ บริการส่วนใหญ่จะแยกออกเป็นสองประเภท คือ บริการแบบถึงหน้าบ้าน (Door to Door) และ บริการส่งถึงท่า (Door to Port or Depot)
ถ้าส่งบริการแบบถึงหน้าบ้านบริษัทผู้ให้บริการจะเดินพิธีการให้คุณกับศุลกากรโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไปติดต่อด้วยตัวเอง
ถ้าใช้บริการส่งถึงท่าผู้ส่งต้องเดินทางไปเดินพิธีการด้วยตัวเองและต้องชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดที่ท่าเรือด้วยค่ะ เป็นเรื่องปรกติสำหรับการส่งของวิธีนี้

รายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับระเบียบศุลกากรนะคะ สำหรับคนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศที่จะส่งของเพราะจะเดินทางกลับเท่านั้นค่ะถึงจะได้รับยกเว้นภาษี เช่น ถ้าคุณเดินทางมาศึกษาเป็นระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี (ในบางกรณีสำหรับคอร์ส 6เดือน-น้อยกว่า 1ปี ต้องดูว่าจำนวนของที่ส่งมีมากน้อยแค่ไหน) ทางศุกากรให้ส่งของกลับได้ขอให้เป็นของที่ใช้แล้ว ไม่ใช่ของใหม่ที่มีป้ายติดอยู่ หรืออยู่ในห่อที่ยังไม่แกะ (สุ่มตรวจ) โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยของที่ส่งกลับต้องไม่ใช่ของที่ซ้ำกัน เช่น รองเท้าแบบเดียวกันสีเดียวกันไซต์เดียวกัน 3 คู่ หรือหม้อหุงข้าว 5 ใบ อะไรประมาณนี้เพราะเขาจะดูว่าคนๆเดียวทำไมถึงต้องใช้ของซ้ำกันดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงส่งของซ้ำๆนะคะ

เอกสารที่ต้องใช้หลักๆคือสำเนาหนังสือเดินทาง ส่วนเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการส่งของขึ้นอยู่กับบริษัทที่ให้บริการจะจัดให้หรือเรียกเก็บนะคะ

แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะส่งของเฉยๆโดยไม่เดินทางกลับศุลกากรอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับผู้รับที่ปลายทางตามมูลค่าของที่เขาประเมิณได้ โดยส่วนใหญ่พนักงานที่ส่งของหรือตัวแทนบริษัทที่ไทยจะแจ้งให้คุณทราบก่อนการจัดส่งของ

อัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท บางบริษัทรวมถึงเรามีบริการรับของจากหน้าบ้านให้คุณแต่บางบริษัทคุณอาจต้องนำของไปส่งให้เขาด้วยตัวเองและออกค่าใช้จ่ายเพิ่ม อีกทั้งเรื่องอุปกรณ์และกล่องเปล่าที่คุณต้องคำนึงดูว่าบริษัทที่เสนอราคาให้คุณเขาจัดให้คุณฟรีด้วยหรือเปล่า เงื่อนไขค่าใช้จ่ายและการจัดส่งเมื่อของไปถึงด้วย ฯลฯ อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจนะคะ

สนใจต้องการรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้สอบถามได้นะคะ ยินดีให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 5