การขอวีซ่า และ ผ่านด่าน ตม. น่ากลัวอย่างที่คิดจริงหรือ ???

จะผ่านไหม จะเข้าห้องเย็นไหม เค้าจะถามอะไรบ้าง จะโดนกักตัวไหม ?????

หลากหลายคำถามสำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศ ที่หลายคนใฝ่ฝัน

แต่ดันต้องสะดุด เพราะคำว่า "วีซ่า" และ "ตม." เราเองได้ทำการขอวีซ่า ทั้งผ่าน และ ไม่ผ่าน

การผ่านด่าน ตม. แบบสวย ๆ และ โดนตม.หน้าเครียดตำหนิ (ยังไม่เคยโดนส่งกลับบ้านแบบเร่งด่วนนะ)

จากที่เพื่อน ๆ เริ่มมีแนวทางการเดินทาง ก็สอบถามข้อมูล จากผู้รู้ ผู้ที่มีประสบการณ์มากมาย

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ประสบการณ์ หลายคนก็แตกต่างกันไป เราจึงขอยกตัวเองเป็นกรณีศึกษา สำหรับหลาย ๆ ท่านที่กำลังกังวลนะค่ะ

วีซ่าสุดช้ำ : วีซ่าออสเตรเลีย ดินแดน แห่งครีมรกแกะ เพื่อความงาม เราได้ตั๋วมาแบบส้มหล่น

การเตรียมเอกสารเป็นไปอย่างกระชั้นชิด ต้องไปขอวีซ่าเอง โดยได้รับคำแนะนำจากทัวร์

เรายังไม่ได้จนทะเบียนสมรส ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ passport เพิ่งทำใหม่ ๆ

ตี 5 เริ่มเดินทางไปสถานฑูต ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ จนไปถึงการกรอกเอกสาร ทุกอย่าง ทำทุกอย่างตามแผนอย่างดี

แต่ดันตกม้า ตอนที่เจ้าหน้าที่ว่าได้ตั๋วมาอย่างไร คือ ตั๋วใบนี้เราได้มาจากเพื่อนสามีที่เค้าป่วยกระทันหัน

พี่เค้าเห็นว่าเราอยากไปเที่ยวก็เลยยกให้เราฟรี ๆ ทีนี้เงอะงะ เฟอะฟะ เลยเพราะว่าไม่กล้าบอกความสัมพันธ์ของเรากับสามี

กลัวจะเสียเวลาที่ต้องมายื่นเอกสารของสามีอีกครั้ง (อันนี้คิดเอง) เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเต็มที่ พยายามถามว่า ตกลง นาย... เป็นอะไรกับเรา เราดันตอบแบบ เพื่อนค่ะ

เจ้าหน้าที่ก็จนใจต้องปฎิเสธวีซ่า เพราะข้องใจหลายอย่างในตัวเรา เพื่อนของเพื่อนให้ตั๋วราคาเกือบ 5 หมื่น คงยากที่จะเชื่อ พร้อมประทับตราคืน passport (ร้อยราวในใจให้เรา)


ตม.เกาหลี : หลังจากการอดไปออสเตรเลีย เราก็ได้ไปเกาหลีอีก ทีนี้ไม่ต้องขอวีซ่า แต่ได้ข่าวว่า ตม. เข้มข้นมาก

ถึงสนามบินอินชอน แต่เช้าตรู มืองี้เย็นไปหมด ไกด์ก็บอกว่า ถ้าไม่มีพิรุธและมั่นใจว่ากลับไทยแน่ ไม่ต้องกลัว

เจ้าหน้าที่ ตม.เป็นผู้หญิงยิ้มสวย และท่าทางใจดี พลิกดู passport เราไปเรื่อย ๆ มองหน้าเรายิ้มด้วย

ในความคิดเรา ทำไมนานจังเลย จะผ่านไหมเนี่ย เจ้าหน้าที่เหมือนได้รับกระแสจิต เงยหน้าถามเราว่า "First time"

เราก็ภาษาอังกฤษอ่อนแอ แต่พยายามเต็มที่ "Yes, I'm so exciting"

ตม. have a nice trip .... เรางี้ ยิ้มสวยเดินเข้าเกาหลีอย่างสบายใจ


ความคิดเห็นที่ 1
ไม่น่ากลัวครับไม่ใช่หนังผี

แค่เค้าตื่นเต้น กลัวไม่ได้วีซ่า หรือไม่ได้เข้าประเทศ แค่นั้นแหละครับ เสียดายเงิน


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
รอติดตามต่อครับ

น่าสนุกดี

ผมไปหลายประเทศยังโชคดีที่ผ่านฉลุยครับ คงเป็นเพราะไปกับทัวร์มั้งครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เกาหลีไม่ยากอย่างที่คิดครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
จขกท.เองจ้า ขอเล่าต่อตรงนี้นะ กลัวจะยาวเกิน

หลังจากผ่านตม.เกาหลี แบบชิว ชิว มาแล้ว ความมั่นใจก็เต็มเปี่ยมอีกครั้ง

ถึงคราวเดินทางไปยังดินแดน แห่งว่าที่มหาอำนาจของโลก .. จีนนั่นเอง

วีซ่าจีน : เสียงร่ำลือว่า ตอนตื่นไปรอคิวแต่เช้า เอกสารจุกจิก เราก็กลัวเสียเวลา เราก็เลยจ้างเค้าทำ

เค้าคิดเล่มละ 1300 บาท ตอนแรกบอกว่าไม่ขอเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้นแค่ชื่อ-กับ

ใบจองตั๋วเครื่องบินก็พอ ปรากฎว่าไม่ยอมทำให้โดยอ้างว่า สถานฑูตขอเอกสารเพิ่ม

ขอเพิ่มเป็นเล่มละ 1500 บาท เราไม่ยอมเพราะส่งไปทำ 6 เล่ม เลยขอคืนและไปทำเอง

เอกสารกรอกครบ ส่งสถานฑูต อนุมัติไม่ยาก ยิ่งคิดยิ่งปลื้ม เพราะประหยัดไปตั้ง 3 พัน

Passport พร้อม Visa จีนพร้อม พอเครื่องแตะสนามบินฮ่องกง เราก็เดินมั่นไปที่ ตม. อย่างสวย

ปรากฎว่า ตม.ดูเอกสาร ถามทันที (ภาษาอังกฤษสไตล์ ฮ่องกง) ว่าเราจะไปไหน เราก็เออ จะไปเที่ยวเซินเจิ้น และค่อยกลับมาพักฮ่องกง

เจ้าหน้าที่ยังไม่ยอมเชื่อ ถามหาตั๋วขากลับ สาวมั่น ตอบอย่างไม่ต้องคิด เราซื้อแบบ E-ticket มาไม่มีตั๋วหรอก

(คงคิดในใจ ยายนี่มาจากต่างดาว ไม่มีเครื่องพิมพ์หรือไง) เราก็เรียกน้องเอา Tab มาพยายามจะเปิด Email ให้ เจ้าหน้าที่ดู

เจ้าหน้าที่ทำหน้าเซงสุดขีด แล้วถามว่า "เทม" เราทำหน้า งง ทันที What เจ้าหน้าที่ก็ "เทม" ในที่สุดก็รู้เรื่องว่า เค้าถามเวลาขากลับ "Time"

เราก็ ทาเว้นตี้ทู ค่ะ เจ้าหน้าที่ปั้มแบบโมโห + เซงเราเต็มเหนี่ยว ผ่านไปได้แบบโกลาหลนิดหน่อย

เหตุการณ์ยังสงบต่อไปหลังจากที่เราออกจากสนามบินฮ่องกงเดินทางต่อไปยัง เซินเจิ้น

เจ้าหน้าที่ ตม.ที่เซินเจิ้น คงจะรับรู้ถึงแรงกระทำจากตรายางบน passport ของเรา พลิกดูอยู่นานมาก

แถมสะกดชื่อเรา ทีละตัวอักษร วนไป วนมา อันนี้นานจริง ดู วีซ่าจีนอยู่หลายรอบ พลิก passport เราหยั่งกับมีอะไรติดอยู่

ในที่สุดก็ยอมให้เราผ่านเข้าประเทศจีนได้อย่าง งง งง

ปล. ถ้าคุณมั่นใจว่ามาเที่ยวแน่นอน ยิ้มสยามช่วยคุณได้แน่นอน ฟันธง

ขอบอกว่า สถานีรถไฟฟ้าจีน ห้องน้ำเหม็นมากกกกก


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับหรับเรื่องการขอวีซ่าและผ่านด่าน ตม. ผมมองว่า คนที่ของ่ายหรือขอได้ก็คิดว่าไม่เห็นยุ่งยากอะไร แต่สำหรับคนที่ขอแล้วโดนปฎิเสธก็จะเกิดความกลัวเมื่อต้องขออีกครั้งหรือไปขอที่ใหม่ และคิดว่าการขอวีซ่านั้นยาก

ส่วนเรื่องการผ่านด่าน ตม. นั้นหลายคนที่ผ่านฉลุยเดินข้าได้ง่ายก็จะคิดว่าอย่าไปกลัว ไม่เห็นมีอะไร แต่คนที่เคยโดนเข้าห้องเย็นและโดนส่งตัวกลับก็จะเกิดอาการกลัว ไม่กล้า จะไปเดินทางไปไหนก็กลัวแต่ไม่ผ่าน

เรื่อง ตม. เกาหลี นี่ผมว่าเอาแน่นอนไม่ได้เลย เมื่อเดือนที่แล้วน้าผมไปเที่ยวเกาหลีกับเพื่อน 5 คน โดนส่งตัวกลับทั้ง 5 คน ทั้งๆที่ทั้งหมดในพาสปอร์ตมีวีซ่าเซงเก้น กับวีซ่าญี่ปุ่นอยู่ และล่าสุดทั้ง 5 คนพึ่งกลับจากเที่ยวเมืองจีนมา


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่น่ากลัวค่ะ และอีกหลาย ๆ คนไม่ได้คิดว่ามันน่ากลัวค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ตม.ไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ
จะมีปัญหาเพราะชื่อคนไทยยาวมากกว่า
นามสกุลเรา เขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้วเกือบ 20 ตัวอักษร
เจอ ตม. เซินเจิ้นพิมผิด จะเก็บเงินค่าแก้ไข... โดนญาติ(คนจีน)ที่พาไปด่ายับเลย
สมน้ำหน้า อิอิ

อีกรอบก็ที่ซาเกรบค่ะ เจ้าหน้าที่เช็คอินตั๋วให้เราผิด
มันต้องเป็นซาเกรบ-อิสตันบูล แล้วค่อยอิสตันบูล-กรุงเทพ
นางเช็คอินอิสตันบูล-กรุงเทพให้เราเฉยเลย
ทำให้ออกตั๋วต่อที่สองไม่ได้ ...แถมมาอ้างหน้าด้านๆว่าชื่อเรายาวเกินไป
เอ่อ... พ่อแม่เรา นามสกุลเดียวกัน จนท.เคาท์เตอร์ข้างๆหล่อนยังจัดการได้เลย
โดนเราโวยไปถึงสายการบิน กดดันจนระดับหัวหน้าต้องมาขอโทษและจัดการเรื่องให้
ทั้งหมดนี้ไกด์(ผู้ชาย)ยืนดูแบบงงๆ คงไม่เคยเจอลูกทัวร์แบบนี้ 5555+
ตอนหลังไกด์ผู้หญิงที่เคยทำงานแอร์ไลน์นี้มาก่อน จัดการปัญหาของลูกทัวร์คนอื่นเสร็จแล้วก็มาช่วยอีกแรง

อันที่จริง มันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ ถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องเนอะ
^^


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ผมว่าที่คนมาเล่าว่ามีปัญหาส่วนใหญ่จะมีชนักติดหลังหรือเรื่องลึกๆที่เค้าไม่ได้เล่าให้เราฟังมากกว่าครับ
คนธรรมดาๆอย่างเราๆไม่ได้กะหลบไปทำงานหรือลักลอบเข้าเมืองอะไรไม่มีปัญหาหรอกครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่เคยคิดกลัว เพราะเราบริสุทธิ์ใจ หน้าตาจะไม่หร็อกแหร็ก แถมยิ้มให้ ตม.ด้วย แต่เค้าไม่ยิ้มให้อ่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9