ภูฟ้าใส

จะไปเขาค้อดูที่พักภูฟ้าใสไว้ ใครเคยไปแนะนำหน่อยค่ะ สวยมองเห็นหมอกไหมค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ช่วงนี้อากาศดีมากคับ
แต่ว่าวันที่เราไปนั้นจะเห็นทะเลหมอกหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้
เพราะการเกิดทะเลหมอกมีปัจจัย ดังนี้คับ
หมอก และ ทะเลหมอก นั้นมีพื้นฐานของการเกิดขึ้นเหมือนกัน คือเกิดจากอุณหภูมิของอากาศที่ลดลงมากจนต่ำกว่าจุดน้ำค้าง ทำให้ไอน้ำเกิดการกลั่นตัวเป็นละอองน้ำขนาดเล็ก ในบรรยากาศใกล้ผิวโลก
หมอก ก็คือเมฆที่เกิดในระดับใกล้พื้นโลก ส่วนหมอกที่เกิดสูงขึ้นไปหน่อยเรียกว่า ” หมอกน้ำค้าง “ (Mist) หรือ “ ทะเลหมอก “ เป็นจุดที่อากาศสามารถพยุงให้ลอยตัวอยู่ได้ แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นละอองน้ำเหล่านี้จะกลับไปเป็นไอน้ำใหม่ทำให้หมอกหายไป ปกติแล้วหมอกมักจะเกิดขึ้นในขณะที่ลมสงบในช่วงฤดูหนาวและตามหุบเขา แต่สำหรับทะเลหมอกนั้นจะต่างกับหมอกทั่วไปตรงที่การเกิดทะเลหมอกต้องอาศัยปัจจัยสำคัญสองส่วนนั้นก็คือ การเกิดหมอก และทัศนวิสัยในระดับสายตาค่อนข้างชัดเจน
หากไม่มีทั้งสองข้อนี่คุณก็ไม่สามารถชมทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม จะชมได้ก็เพียงหมอกที่คละคลุ้งอยู่รอบด้านเท่านั้น โดยทะเลหมอกเกิดจากการเย็นตัวของไอน้ำในอากาศอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิที่มวลอากาศชื้นควบแน่นเป็นละอองน้ำหรือหยดน้ำ เรียกว่า จุดน้ำค้าง (Dew Point) คือการที่อากาศรับไอน้ำไว้ไม่ได้อีกแล้ว เกิดภาวะอิ่มตัว ความชื้นส่วนเกินจะคงบแน่นกลายเป็นละอองน้ำและหยดน้ำ ทำให้เห็นเป็นสายหมอกและอาจเปียกโชกได้ถ้ายืนอยู่บริเวณนั้น
ปัจจัยที่สองของการเกิดทะเลหมอกคือทัศนะวิสัยของผู้มองต้องค่อนข้างชัดเจน หมายความว่าในระดับสายตาของผู้มองต้องมีหมอกเบาบางกว่าระดับล่าง (เช่น หุบเขา) หรือไม่มีหมอกเลยจะทำให้มองเห็นทะเลหมอกขาวโพลนกว้างไกลออกไป
ปัจจัยที่ทำให้ระดับสายตาไม่มีหมอก ก็คือปัจจัยที่ทำให้หมอกสลายตัว ได้แก่ แสงแดด สายลมแรง และเมฆคลุมฟ้า ความร้อนจากแสงแดดทำให้หมอกระดับตัวผู้มองสลายไปก่อนจึงมองเห็นทะเลหมอกเบื้องล่าง หรือลมที่พัดผ่ายอดเขาก็ทำให้หมอกระดับตัวผู้มองสลายไปก่อนเช่นกัน และการมีเมฆคลุมฟ้าหมายถึงมีการลอยตัวของไอน้ำขึ้นไปยังชั้นเมฆ หมอกชั้นบนก็จะสลายตัวก่อนหมอกชั้นล่างนั่นเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 1