ไม่เคยไปต่างประเทศครับ แต่อยากถามท่านที่ใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน

ในยุโรป หรือบางประเทศในเมริกา นี่มันสะอาด เป็นระเบียบ สวยเหมือนสรรค์แบบที่เราเห็นในทีวีหรือเปล่าครับ
อากาศดีไม่มีมลพิษทางเสียง ทางอากาศ ควันดำ รถติด

มันเป็นแบบนั้นจริงๆรึป่าวครับ น้าผมเคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฟินแลนด์ ผมถามเขาว่าบ้านเมืองเขาเป็นไงเหมือนประเทศไทยไหม
น้าผมบอกว่า ไม่รู้จะเอาจุดไหนของฟินเเลนด์มาเทียบกับไทยดี มันหาไม่เจอ คือฟินแลนเหมือนสววรค์เลย

ความคิดเห็นที่ 1
คำถามแบบนี้ตอบยากนะคะ คุณ จขกท. คุณต้องลองไปเห็นหลายๆ เมือง หลายๆ ประเทศค่ะ แล้วหาคำตอบเอาเอง

คำถามแบบนี้หน่ะค่ะ ถ้าคุณถามคนสัก 100 คน คุณก็จะได้คำตอบ 100 แบบ ถาม 1,000 คนได้คำตอบ 1,000 แบบ
ถามคนต่่างสัญชาติกัน คุณก็จะได้คำตอบที่แตกต่่างกัน

เพราะไม่มีคำตอบที่ตายตัวค่ะ แต่ละคนจะตอบตามภูมิหลัง ตามภูมิปัจจุบัน ตามอายุ ตามการศึกษา ตามประสบการณ์ชีวิต
ตามความยากลำบาก ตามความสะดวกสบาย ตามคุณภาพชีวิต ตามไลฟ์สไตล์ ตามพื้นฐานครอบครัว ตามฐานะ
ทางด้านการเงิน และ ตามสถานะภาพค่ะ

สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ

สถานที่ๆ งดงามราวกับสวรรค์ หลายๆ แห่งเท่าที่ดิฉันเคยเห็นมา อยู่ที่ ประเทศไทย (ในทุกภูมิภาคของไทย
มีสถานที่สวยงามหลายแห่ง) ประเทศเนปาล, ประเทศอินเดีย,
ประเทศพม่า (พม่าเมื่อราวๆ 10 ปีขึ้นไปที่แล้ว ไม่ใช่ในปัจจุบันนี้นะคะ), ประเทศจีน, ประเทศญี่ปุ่น

//คห. นี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ดสาธารณะกับคุณเจ้าของกระทู้นี้เท่่านั้นนะคะ
เป็นความคิดเห็นอีกมุมมองหนึ่งเท่านั้นเอง

คห. นี้เคยอยู่ ตปท. ที่เป็นเมืองฝรั่งมาบ้าง และ เมืองที่เจริญ(ทางด้านเทคโนโลยีและวัตถุ)ของเอเชียมาบ้าง
แต่ปกติอยู่เมืองไทยนะคะ แต่ได้มีโอกาสเห็นหลายๆ เมืองหลายๆ ประเทศ และ เคยมีโอกาสจะได้ไปอยู่เมืองฝรั่งอีกครั้งหนึ่ง
เมืองหนึ่งแต่ได้ปฏิเสธข้อเสนอนั้นไปค่ะ _เป็นคนที่ชอบเที่ยวเมืองฝรั่งเพื่อความบันเทิง เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
เพื่อไปกิน หรือไปอัพเดท แต่ไม่ชอบอยู่เมืองฝรั่งค่ะ เฉยๆ ค่ะ ชอบอยู่เมืองไทยค่ะ และ ตั้งแต่เห็นประเทศอื่นๆ มา รวมทั้ง
ประเทศไทย ยังไม่เคยพบว่ามีที่ไหนสมบูรณ์แบบ และ ไม่มีที่ไหนที่ถือเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่มีที่ไหนที่เห็นว่าเป็น
สะดือของโลกค่ะ เพราะทุกๆ ประเทศในโลกนี้ต่างก็ต้องพึ่งพากันเป็นลูกโซ่ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เมืองใหญ่ๆมันก็มีทั้งนั้น่ป่ะคะ
จขกทเคยดูหนังที่มีฉากหลังเป็นนิวยอร์กซิตี้หรืออะไรแบบนี้มั้ยคะ ก็ไม่ได้สวรรค์อะไรขนาดนั้น
ฟินเลนด์อาจจะเป็นประเทศเล็ก ๆ เมืองใหญ่ไม่เท่ามันก็ต้องสงบกว่าอยู่แล้ว
แบบที่คหบนว่ามันเทียบกันลำบากค่ะ
เพียงเเต่เมืองนอกบางประเทศมันเป็นระเบียบกว่าเท่านั้นเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ผมคงไม่มีปัญญาไปเมืองนอกหรอกครับ ผมว่าคงเหมือนไทยเเหละ

ขี้หมา แห้งเกราะกังตามถนนหนทางมันคงมีทุกประเทศแหละแต่้พียง กล้องตามทีวีชอบจับไปที่ถนนหนทางสวยๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
แวะมาแสดงความคิดเห็นส่วนตัวมาแชร์กับคุณ จขกท. ต่อนะคะ อยากจะบอกว่าบ้านเมืองของเราหน่ะ จริงๆ แล้ว
เคยสวยงามนะคะ แต่ความงดงามได้สูญหายไปมากมาย เพราะคอรัปชั่น เพราะทุนนิยม หรือ เพราะกฏหมาย
กฏระเบียบในการอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างเก่าๆ ไม่แข็งแรงพอ หรือ คนที่มีอำนาจหน้าที่ไม่เห็นคุณค่า หรือ
ไม่มีเงินพอที่นำมาทำนุบำรุงอาคารเก่าแก่ที่สมควรจะเป็นมรดกของชาติ เพราะถูกนำไปใช้ในทางคอรัปชั่นอื่นๆ หมด
จนไม่เหลือมาใส่ใจในจุดนี้ เป็นต้นค่ะ

เช่น อาคารสวยงามเก่าแก่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ถูกทุบทิ้ง ถูกทำลาย เพียงเพื่อที่จะได้สร้างอาคารหลังใหม่ของหน่วยงาน
ราชการแทนที่ของเดิมในบริเวณเดิม หรือ ถูกทำลายเพียงเพราะว่าที่สวย ตั้งอยู่ในทำเลทอง ทำเป็นศูนย์การค้า
เป็นโรงแรมเป็นคอนโด สามารถสร้างเงินให้ผู้ประกอบการได้มากกว่า

เมืองที่สวยงามในอุดมคติของคนเอเชีย และ คนตะวันออกกลางส่วนใหญ่ หรือ เมืองสวยงามของคนในประเทศที่ไม่ค่อยจะมี
ความภาคภูมิใจในตนเองสักเท่าไหร่นัก หรือเมืองสวยงามในอุดมคติของคนในประเทศที่เห่อวัฒนธรรมตะวันตก หรือ
อยากเป็นตะวันตก มักจะมีรูปแบบในทำนองนี้เสมอ คือ อาคารบ้านเรือนต้องออกแนวยุโรป โดยเฉพาะแนวบาร็อค
หรือ แนวเรอเนสซ็อง, ต้องเป็นเมืองหนาวที่มีหิมะตก, ต้องมีฝรั่งอยู่อาศัย, ต้องมีถนนที่มีสินค้าแบรนด์เนมชื่อฝรั่ง
แนวๆ อิตาเลี่ยน แนวๆ ฝรั่งเศส หรือ แนวๆ อังกฤษ หรือ แนวอเมริกัน
เหล่านี้เป็นต้นค่ะ

แต่กลับมองข้าม ศาลเจ้าจีนสวยๆ มองข้ามช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ มองข้ามไม้แกะสลักสวยๆ งามๆ ตามบานประตู
มองข้ามงานศิลปะสวยๆ ที่สร้างสรรค์โดยคนเอเชียด้วยกัน

อีกหลายๆ อย่างที่ส่งเสริมให้คนเอเชียส่วนใหญ่ เห่อตะวันตก คิดว่าตะวันตกคือสุดยอดคือเมืองสวรรค์ มีผลมาจาก
ภาพยนตร์, นายแบบนางแบบฝรั่ง, แฟชั่นตะวันตก, อาหารตะวันตก _โดยที่หลายๆครั้งมองข้ามสิ่งดีๆ ของตนเองไป
หรือหาสวรรค์ที่อาจจะอยู่แค่ใต้จมูกตนเอง หรืออยู่แค่ข้างบ้านของตนเองไม่พบค่ะ

ดิฉันเคยพบท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่สวยทึ่สุดในโลกราวกับสวรรค์ ที่ประเทศไทย, ประเทศเนปาล และ ประเทศพม่าค่ะ
ที่เมืองไทยเนี่ยเคยเห็นหลายแห่งเลย สวยจนไม่อาจจะละสายตาไปได้

และท้องฟ้าที่สีฟ้าสวยสุดยอด สีฟ้าจัดเข้มมากๆ เคยเห็นที่เปรู และ ที่โมร็อคโคค่ะ ไม่ใช่เมืองฝรั่ง

และ ขุนเขาที่สวยที่สุด เคยเห็นที่เนปาล ที่ศรีลังกา ไม่ใช่ที่สวิทเซอร์แลนด์ เป็นต้นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
อยู่เดนมาร์ค มองหาสายไฟฟ้าที่ห้อยอย่างบ้านเราไม่มีแค่นั้น

เวลาถ่ายก็ไม่รู้ว่ามันไหลไปไหน ไม่เคยเรียกรถดูดส้วมเลยสักครั้ง

เวลาปั่นจักรยานไปตามทางไฟเขียวที่ไร รถยนต์ต้องจอดรอให้ปั่น

ผ่านก่อนทุกที ฯลฯ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
# 4 "อีกหลายๆ อย่างที่ส่งเสริมให้คนเอเชียส่วนใหญ่ เห่อตะวันตก คิดว่าตะวันตกคือสุดยอดคือเมืองสวรรค์"

ผมไม่ทราบว่าคนด่าน้าผมรึป่าวนะครับ ที่ว่า"มีผลมาจาก
ภาพยนตร์, นายแบบนางแบบฝรั่ง, แฟชั่นตะวันตก, อาหารตะวันตก _โดยที่หลายๆครั้งมองข้ามสิ่งดีๆ ของตนเองไป
หรือหาสวรรค์ที่อาจจะอยู่แค่ใต้จมูกตนเอง หรืออยู่แค่ข้างบ้านของตนเองไม่พบค่ะ"

น้าผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้นคนนึงล่ะครับ แล้วก็ไม่เคยดูถูกประเทศตัวเองต้วย น้าผมเป็นพวกชอบท่องเที่ยวไปทั่วโลก ดูการใช้ชีวีตของชาวเมืองในแต่ล่ะพื้นที่ในโลก และยอมรับความแตกต่าง แ้ล้วก็ไม่เคยดููถูกประเทศอื่น หรือมองข้ามประเทศตัวเองด้วย ในไทยแกก็เที่ยวบ่อยครับแกชอบสัมผัสธรรมชาติ ชมนกชมไม้ รึไปเชียงไหม่เขาใหญ่อะไรแบบนั้นนะครับ แกชอบเล่าอะไรหลายอย่างๆ ที่น่าจดจำให้ผมฟังเสมอ แล้วผมก็รู้สึกดีครับ

ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขออภัย เพราะพอดีผมจั่วเนื้อกระทู้พูดถึงน้าผมด้วย

ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
คุณ จขกท. ลองไปหารูปกรุงเทพฯ เมื่อราวๆ 100 กว่าปีที่แล้ว หรือ ในช่วง 30, 40, 50, 60, 70, 80, 90 ปี
ที่ผ่านมา มาชมนะคะ เมืองหลวงของเราสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ค่ะ แต่เราไม่มีการวางผังเมืองที่ดี ไม่มีการควบคุม
สิ่งก่อสร้าง กฏหมายไม่แข็งแรง คอรัปชั่นสูง และ ทุนนิยมนะคะ บ้านเมืองจึงถูกทำลายไปมากค่ะ

หรือลองไปเดินดูอาคารบ้านเรือนเก่าๆ ตามย่านถนนวิทยุ, ถนนราชดำริ, ถนนเจริญกรุง ย่านเทเวศน์
ย่านสามเสน, ย่านสาธร, ท่าช้าง, สามแพร่ง, พาหุรัด , สี่พระยา เป็นต้น ที่ยังพอจะเหลือบ้านเก่าๆ หรือตึกเก่าๆ
จากเมื่อสมัยหลายสิบปีมาแล้วให้ชมบ้างนะคะ แล้วคุณจะพบว่า กรุงเทพฯ หน่ะ เคยสวยค่ะ ไม่ใช่สวยเป็นหย่อมๆ
แบบทุกวันนี้

หรือ ตึกแถวสมัยนี้หน่ะ เขาสักแต่ว่าสร้างเพื่อขายเอาเงินนะคะ จึงได้เป็นกล่องๆ สี่เหลี่ยมยาวๆ สูงๆ มา
ความสวยงามหามีไม่ วัสดุในการก่อสร้างก็ไม่ได้ใช้ของดี เพราะของดีๆ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นค่ะ สายไฟระโยงระยาง
หรือป้ายโฆษนาบิลบอร์ดใหญ่ๆ ก็ทำให้บ้านเมืองไม่สวยงาม แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะปรับปรุงนะคะ เพราะอะไรคงรู้ๆ
กันอยู่

เพราะฉนัั้นขอให้รักบ้านเมืองของคุณแบบที่มันเป็นค่ะ พยายามทำตัวเป็นพลเมืองดี เอาหูไปนาบ้างเอาตาไปไร่บ้าง
แล้วคุณจะมีความสุข โดยที่ไม่ต้องเอาบ้านเมืองของตนเองไปเปรียบเทียบกับที่อื่นแล้วนำมาทับถมบ้านเมืองของตนเองค่ะ
(ไม่ได้ว่าคุณ จขกท. นะคะ แต่ภาษาพาไปค่ะ และ แสดงความคิด้ห็นแบบกว้างๆ ค่ะ)

ส่วนเรื่องอุนจิหมา ในเมืองไทยเนี่ย คุณต้องเข้าใจด้วยนะคะว่า บ้านเมืองเรามีสุนัขจรจัดเยอะ เพราะมีคนเห็นแก่ตัว
ชอบนำไปปล่อยในที่สาธารณะ พอไปปล่อยแล้วจะมีคนกลุ่มหนึ่งนำอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัด ทำให้บางพื้นที่เป็นแหล่ง
ที่สุนัขพวกนี้ไปอาศัยอยู่ทำความเดือดร้อนให้ผู้คนที่สัญจรไปมา ถ้ามีคนจะฆ่าสุนัขพวกนั้นก็จะมีคนออกมาคัดค้านเสมอ
เพราะบ้านเราเป็นเมืองพุทธ_ต้องมองเหตุผลหลายๆ ด้านนะคะ

หรือที่เมืองไทยบางครั้งคนรวยๆ ที่มีสุนัขให้คนรับใช้พาออกไปเดิน หรือพาสุนัขออกไปเดินเอง แล้วพาไปถ่ายข้างนอกค่ะ
แต่ที่ต่างประเทศบางประเทศเคยเจออุนจิสุนัขตามถนนค่ะ_อันนี้เป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัว และความมักง่ายนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ในเมืองที่อยู่ มีแม่น้ำเริ่มจากฮังการีไหลผ่านไปออกทะเลที่เมือง Rotterdam/Holland
สองริมฝั่งแม่น้ำทำเป็นทางให้คนเดินหรือปั่นจักรยาน บางตอนก็เป็นถนนขับรถเลาะริมแม่น้ำดูทิวทัศน์ ดูไร่องุ่นที่ปลูกเชิงเขา ดูป้อมที่ตั้งอยู่ข้างบน
ใกล้บ้านมีคลองไม่กว้างมาก ไหลผ่านเมืองต่างๆ ระยะทางกว่า 100 กม
ริ่มคลองใกล้บ้าน น้ำสะอาด หน้าร้อนมีคนไปนั่งตกปลา บางทีก็เห็นปลาแหวกว่าย ริมคลองทำเป็นถนนให้คนเดินและขี่รถจักรยานเช่นกัน
คลองแถวบ้านทีเกิดในเมืองไทย ติ้นเขิน กลายเป็นท่อระบายน้ำโสโครก
ไม่มีน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาทึเคยเห็นตอนเป็นเด็ก


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
"เพราะฉนัั้นขอให้รักบ้านเมืองของคุณแบบที่มันเป็นค่ะ พยายามทำตัวเป็นพลเมืองดี เอาหูไปนาบ้างเอาตาไปไร่บ้าง
แล้วคุณจะมีความสุข โดยที่ไม่ต้องเอาบ้านเมืองของตนเองไปเปรียบเทียบกับที่อื่นแล้วนำมาทับถมบ้านเมืองของตนเองค่ะ"
(ไม่ได้ว่าคุณ จขกท. นะคะ แต่ภาษาพาไปค่ะ และ แสดงความคิด้ห็นแบบกว้างๆ ค่ะ)


เอะทำไมผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนถูกด่าล่ะครับ

กำ - -* อันที่จริงแล้วอยากจะให้พูดถึงบ้านเมืองนะครับ แบบถนนหนทางหรือความสะอาด จะได้รู้ว่าเรามีอะไรที่ไทยต้องปรับปรุงอีกไหม จะได้ดูดีขึ้น ไม่ใช่เรื่องศิลปะวัฒนธรรม เพราะอันนั้นไทยก็มีดีของเราอยู่แล้ว






ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ขอแก้ คคห ที่ 8
ต้นแม่น้ำเริ่มจากประเทศสวิต ไม่ใช่ฮังการี ขออภัย
เคยดูทีวี สารคดีเจ้าหน้าที่ทำงานดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง เดินตรวจในสวนสาธารณะ หากเห็นเจ้าของสุนัขคนไหนที่ปล่อยให้สุนัขวิ่งเล่น จะเข้าไปเตือนให้เอาห่วงคล้องคอสุนัขและจูง หรือเห็นสุนัขถ่าย ก็บอกให้เจ้าของสุนัขเก็บของเสียที่สุนัขถ่ายนั้นไปทิ้งในถังขยะ
เดินตรวจดูความเรียบร้อยในเมืองย่านคนเดิน หากเห็นคนทิ้งก้นบุหรี่บนพื้น จะเข้าไปเตือนให้เก็บก้นบุหรี่ไปทิ้งในถังใส่ขยะที่แขวนอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับปรับเงิน 10 ยูโรโทษฐานทิ้งก้นบุหรี่บนพื้นถนน


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
มันเป็นประมาณนั้นค่ะ โดยเฉพาะในยุโรป อาจจะเพราะความหนาแน่นของประชากรเขาไม่เท่ากับเมืองใหญ่ๆ ในบ้านเรา อาจจะเพราะเขาค่อนข้างมีระเบียบและเคารพสิทธิ์ อาจจะเพราะกฏหมายเขาแรง

เรื่องขรี้หมานี่ คือแถวยุโรปไม่มีหมาจรจัดค่ะ หมาที่เลี้ยงเจ้าของจะมาพาเดินเล่นแล้วก็ต้องเก็บขรี้มันด้วยนะถ้ามันเกิดอยากปล่อยขึ้นมา เจ้าของจะมากับถุงเอาวไว้เก็บขรี้

ขนส่งมวลชนของยุโรปโดนเฉพาะสแกนดิเนเวียดีมาก ดังนั้นคนจะไม่ค่อยใช้รถส่วนตัวค่ะ การจราจรมันเลยไม่คับคั่ง ควันพิษก็น้อยไปด้วย (คนส่วนมากปั่นจักรยาน) ต้นไม้ของเขาก็เยอะมากนะคะ เคยไปโปแลนด์กับเชค โอวว...ต้นไม้ทุกมุมเมืองที่ว่างเลย ต้นโตๆ ด้วยนะคะ ไม่ใช่เพิ่งปลูก

แต่ถ้าเอาเมืองหลวงที่เราเคยเห็นอย่างโคเปนเฮเกน บูดาเปสต์ ปราก ก็มีบ้างที่จะมลพิษนิดหน่อยเพราะคนเยอะ (แต่ไม่มีที่ไหนเท่า กทม) แล้วก็อาจจะมีมุมมืดที่ไม่สะอาดเอี่ยม แต่ก็ไม่ถึงกับสกปรกมากอะค่ะ

แม่น้ำสายหลักๆ ของที่นี่ไม่ได้กลายเป็นแหล่งน้ำคลำเหมือนบ้านเราค่ะ อย่างบูดาเปสต์มีแม่น้ำไหลผ่ากลางเมือง ปรากก็เช่นกัน แต่ริมตลิ่งจะเป็นเลนจักรยาน แล้วก็รถรางค่ะ ถัดไปจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร แต่ไม่บดบังทิวทัศน์นะคะ แล้วก็ไม่ได้สร้างซะติดริมแม่น้ำแบบบ้านเรา แม่น้ำของที่นี่ยังสวยและสะอาดค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
อยู่อังกฤษถ้าพูดโดยทั่วๆไปแล้วสวยค่ะ ให้เทียบกับกรุงเทพเมืองทางยุโรป หรือทางอเมริกา จะน่าอยู่กว่า เมืองที่ดิฉันอยู่สวยสะอาดตาไม่มีมลภาวะ ไม่มีการก่อสร้าง ต่อเติมอะไร แผงเมืองสร้างมาแบบไหน เขาก็ให้คงอยู่แบบนั้น แม้แต่สีประตูบ้านจะเปลี่ยนก็ต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อน อีกเมืองก็คือเมือง Bath ช่วงหน้าร้อนเขาจะจัดสวนดอกไม้ทั้งเมืองสวยงามมาก ยุโรปเมืองอื่นๆที่เคยไปเช่น อัมสเตอร์ดัม เมืองคานส์ เมืองนีส์ เบอร์ลีน ปราก เจนีวา เดรสเดน และอีกหลายๆเมืองก็ สวยสะอาดตาดี แต่ยังไงล่ะ คือมันสวยแบบจงใจให้สวยแบบดอกไม้พาสติก ท๊อปควาลิตี้ราคาสูง

ถ้าคุณเคยขับรถไปแถวทางเหนือโดยเฉพาะหลังหน้าฝนใหม่ๆ ไปทางแม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง สามเหลี่ยมทองคำ แถวนั้นจะเห็นความสวยงามแบบธรรมชาติ ดิฉันชอบความสวยงามแบบนั้นมากกว่าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เปิดใจให้กว้่างๆค่ะ

ลองคิดเล่นๆ ว่า ทำไม รายได้หลักของเรา ถึงได้มากับการท่องเที่ยว
นั่นหมายถึงว่า ประเทศไทยเรา เป็นประเทศนี่น่าอยู่ น่ามาเที่ยว

ถึงแม้นหลายๆที่อาจจะอันตราย ทั้งสำหรับคนไทยเอง ด้วยซ้ำไป

เห็นด้วยว่า บ้านเมืองเราเคยรุ่งเรืองและสวยงามมาก่อน แต่ขาดการบำรุงรักษา
ทุกวันนี้ เลยหาบ้านเก่าๆดูยากมาก

แต่หลายชาติ ยังคงอยากมาท่องเที่ยวพักผ่อนในเมืองไทย ดูได้จากนักท่องเที่ยว ที่แห่เข้ามากัน

ตอนนี้ มองไปทางไหน มีแต่ นักท่องเที่ยว รัสเซีย กับ จีน เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
ตามสถานท่องเที่ยวที่ไปมาในบ้านเรา แม่ค้าบอกว่า คนจีนช๊อปเก่งกว่า คนยุโรป คนรัสเซีย
อีกอย่าง คนรัสเซีย กินเบียร์มากกว่ากินอาหาร กระทั่งเรือข้ามเกาะ มีเบียร์ให้ซื้อตลอดทางแค่45นาที


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
#13

อันนี้เห็นด้วยครับ ประเทศไทยเราเป็นประเทศที่ชอบตอนรับหนักท่องเที่ยวทุกคน
แถมร้านอาหารข้างทางก็หากินได้ง่ายเพราะมีเปิดตลอด 24 ชั่วโมง น้าผมเล่าให้ฟังว่าตอนที่ไปอยู่ฟินแลนด์ ต้องปั้นจักรยานออกจากหมู่บ้านไปซื้อเบียร์ ซึ่งอยู่ไกลที่เดียว แต่เมืองไทยแค่ออกจากบ้านก็เจอร้านขายของหน้าบ้านให้ซื้อแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
หลายประเทศในยุโรปให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม และจัดระบบผังเมืองได้ดีกว่าประเทศไทยมากครับ ผมอยู่อังกฤษมาหลายสิบปีไม่เคยเห็นการลอกท่อระบายน้ำเลยแม้แต่ครั้งเดียว น้ำเสียจากที่พักอาศัย หรือโรงงานอุตสาหกรรมจะถูกส่งไปโรงบำบัดน้ำก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ

การเปิดใจยอมรับเอาสิ่งดีๆจากที่อื่นมาใช้ ย่อมดีกว่าปิดหูปิดตาแล้วจินตนาการว่าประเทศเราดีที่สุดแล้วในสามโลกแล้ว ถ้าเราใส่ใจศึกษาแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศเราเสียแต่เนิ่นๆ ก็คงไม่ต้องมานั่งหวั่นวิตกกันทุกปีในฤดูน้ำหลาก


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เราอยู่นิวซีแลนด์ ไม่ใช่ฝั่งยุโรป ก่อนมา เราก็คิดคล้ายคุณค่ะ ภาพต่าง ๆ จะเหมือนกับที่เห็นในหนังหรือเปล่าน้อ แต่พอมาอยู่จริง ๆ เราอยู่ที่เมืองหลวงของนิวฯ ก่อนมาเราอยู่กรุงเทพฯ เราว่าภาพรวม ๆ คล้าย ๆ กัน มีรถติดช่วงเช้า กับเย็น กลางคืนก็มีแหล่งท่องเที่ยว บาร์ มีคนเมา ออกมาข้างถนน เหมือน ๆ บ้านเรา มีคนมือบอนขีดเขียนตามฝาผนัง มีขโมย คนทิ้งขยะไม่เป็นระเบียบ ฯลฯ เพียงแต่ประชากรที่นี่ไม่เยอะเท่ากรุงเทพฯ เลยดูเหมือนน้อย

สิ่งที่ตื่นเต้นตอนมาใหม่ ๆ เวลาเดินไปตามถนน เหมือนตัวเองมาอยู่ในหนัง ผู้คนใส่สูท ใส่โค้ท สเวตเตอร์เท่ ๆ ฝรั่งผมทอง หน้าตาหล่อ ๆ สวย ๆ เยอะ ตอนนี้ชินแล้ว

เราว่าแต่ละประเทศมีจุดดี จุดด้อย ต่างกัน ขึ้นอยู่ว่าเราอยากจะมองมุมไหน แต่ยังไงเราก็ชอบกรุงเทพฯ นะ รถเยอะ ไปไหนมาไหนสะดวก ถึงรถจะติดก็เถอะ หาของกิน ของใช้ง่าย (ความเห็นส่วนตัว) อยู่นิวฯ รถเมล์มาทีชม ละคัน มีรถเมล์สายเดียวที่ผ่านแถวบ้าน หาของใช้ที กว่าจะได้ เดินกันเมื่อย ไม่มีห้างใหญ่ ๆ แบบ มาบุญครอง สยาม

แต่ที่ชอบมากที่นิวซีแลนด์ คือ ต้นไม้เยอะมาก ดูแลดี อากาศดี แล้วก็สุนัข แมวไม่มีทิ้งให้อยู่ข้างถนน เยอะ แบบบ้านเรา มีองค์กรที่ดูแล สามารถที่จะจับเจ้าของ และปรับได้ ถ้าดูแลไม่ดี

ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
3 เดือนแรกของการย้ายมาอยู่ต่างประเทศ ยิ่งกว่าอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกค่ะ พอเลย 3 เดือนไปแล้ว ทำไมมันน่าเบื่อจัง....คิดถึงเมืองร้อนเลยค่ะ ไอแดด แสงแดด ชอบมากๆค่ะ เห็นแดดล่ะอย่างวิ่งเข้าใส่ ใครที่ไม่ได้อยู่เมืองหนาวนานๆ ไม่เข้าใจอาการแบบนี้แน่ๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
อเมริกา ก็แล้วแต่เมือง เมือง ไม่ใหญ่มาก ก็สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ดี อากาศ ก็สะอาด แต่เมืองใหญ่ ก็ไม่สะอาดมาก เท่าเมืองเล็ก ที่อเมริกา ขี้หมา ไม่มีที่ถนน เพราะหมาจรจัด ไม่มี และ ถ้าใครพาหมามาเดิน ก็ต้องเก็บขี้หมา ด้วย ไม่งั้น โดย จับ ปรับ แพงๆ อย่าง ต่ำ 500 เหรียญ เชียว...


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
กรุงเทพฯ ถ้าทำให้แม่น้ำลำคลองใสสะอาดเหมือนเมืองนอก แค่นี้ก็สวรรค์เห็นๆ ไม่ต้องไปดูอื่นไกลแล้ว

สวรรค์ในเมืองใหญ่เขาวัดกันที่สภาพแม่น้ำ หรือลำคลองที่ไหลผ่าน ถ้าดำคร่ำครึ ส่งกลิ่นเน่าเป็นแหล่งเพาะเชื้อหรือที่ทิ้งขยะ ต่อให้อาหารบ้านเรือนสวยงาม ท้องฟ้าเมฆหมอกสวยงามสดใสขนาดไหนก็ไม่อาจเรียกว่าสวรรค์ได้


น้ำคือแห่งกำเหนิดหลายอย่างรวมทั้งชีวิตของมนุษย์และอารยธรรมของมนุษย์ด้วย สวรรค์ที่จับต้องได้ของมนุษย์ก็ควรจะเป็นคุณภาพของน้ำที่อยู่รายรอบของมนุษย์นั่นเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ความเห็นส่วนตัว เมืองนอกถึงแม้บ้านเมืองจะดูสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ปีหนึ่งอากาศเย็นและหนาว 6 เดือน บางเวลาไม่เห็นพระอาทิตย์ ไม่มีแสงแดด นานหลายวัน ทำให้จิตใจหดหู่ ชีวิตไม่สดชื่น ผู้คนหน้าตาไม่ยิ้มแย้ม ใส่เสื้อผ้าสีทีม ดูแล้วไม่สดใส
เมืองไทยถึงบ้านเมืองจะไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็มีอากาศดี มีแดดทั้งปี อาหารอร่อย อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา
มีทีวีมาสัมภาษณ์ฝรั่งที่อยู่เมืองไทย บางคนบอกเมืองไทยคือสวรรค์บนดิน ผู้คนใจดี ยิ้มแย้ม เขาไม่ไปไหนแล้ว ขอตายที่เมืองไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
นี่ความเห็นส่วนตัวๆบ้าง "กรุงเทพเมื่อหลายสิบปีก่อน (ว่า) อาจจะสวยงาม แต่ปัจจุบันขาดการบริหารจัดการผังเมืองที่ดี มีเรื่องปัญหาคอรัปชั่น ฯลฯ ดัง ความเห็นที่ 4 ว่านั้น"

หากเป็นดังที่ ความเห็นที่ 4 ว่า มันก็เปรียบเหมือนกับ เรามีลูกแมวพันธุ์เปอร์เซียขนปุกปุยหางยาว สวยงามมากๆมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เล็กๆ แต่เราปล่อยปละละเลย เลี้ยงทิ้งเลี้ยงข้วาง ติดขี้เรื้อน ขนร่วง เป็นชันนะตุ โตขึ้นมากลายเป็นแมวน่าเกลียด ขยะแขยง แล้วเราจะยังไปเปรียบเปรยให้ใครฟังได้อีกว่า แมวข้านี่เคยสวยงามระดับต้นๆเลยนา เชื้อสายพันธุ์จากเปอร๋เซียอย่างดี เอ่ยออกจากปากมาได้อย่างไรกัน ?

ทีนี้ Get หรือยังครับคุณ ความเห็นที่ 4 ?


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ฟินแลนด์เหงาและเงียบมากกกกก (ไม่นับเฮลซิงกิและปริมณฑล) ครึ่งปีคือความมืด อารมณ์หกโมงครึ่งถึงทุ่มของบ้านเรา ฟ้าหรัวๆไม่มีแสง เป็นอย่างนั้นอยู่ทั้งวัน หดหู่สุดๆ อีกค่อนปีคือความสว่าง เที่ยงคืนแล้วพระอาทิตย์ไม่ยอมตกต้องหาม่านหนาๆปิดกันให้วุ่นวาย อากาศหน้าร้อนได้ถึง +25 ก็ดีใจน้ำตาไหล หน้าหนาวก็ -10 เป็นอย่างน้อย ยิ่งเหนือก็ยิ่งหนาว -40 ก็มีให้เห็น สุดโต่งเกิ๊น พื้นที่ก็พอๆกับไทยแต่มีประชากรแค่ 5 ล้าน เว้งว้างขนาดนั้น

- แต่บ้านเมืองเค้าสะอาด เป็นระเบียบ ไม่มีสายไฟห้อยไปห้อยมา ขยะมีให้เห็นตามถนนน้อยมาก
- รถเริ่มติดบ้างในเมืองและถนนหลักบางสาย แต่ก็แค่ช่วง 8-9 โมงเช้า กับ 4-5 โมงเย็น และติดแบบถ้าจส.100 รายงานก็จะบอกว่า "เคลื่อนตัวคล่องตลอดสาย"
- รถเมลล์รถไฟตรงเวลาเว่อร์
- ฝรั่งข้ามถนนทางม้าลายแบบไม่ชายตามองรถ ตายเป็นตาย มั่นใจมากว่าทุกคันจะจอด เห็นแล้วกลัวแทน
- เด็กๆเล็กๆเล่นนอกบ้าน+เดินไปรร.กันเอง ผู้ปกครองเชื่อใจมากว่าปลอดภัย
- หมาหายอาจจะได้ขึ้นหน้าหนึ่งนสพ. (เคยอ่านเจอ อึ้ง ไม่ค่อยมีข่าวหวือหวาขนาดนั้นเลยใช่มั้ย)
- นักการเมืองโลว์โพรไฟล์สุดๆ นั่งเลียไอติมหน้าโรงหนังกับเพื่อน ไม่มีบอดี้การ์ด คนผ่านไปผ่านมาไม่มีใครกรี๊ดกร๊าดกุมเป้าเข้าไปหา เคยถามว่าทำไมไม่เข้าไปถ่ายรูปขอลายเซ็น คำตอบ "เขาก็คน รับจ้างมาทำงานให้พวกเราเฉยๆนี่" แป่ว
- รร.ที่นี่เน้นเล่นและออกกำลังกาย ดูตารางเรียนเด็กแล้วอิจฉา (เริ่มเรียนเจ็ดขวบ วันละประมาณห้าชม.)
- อาหารที่นี่ออกแนวภาคกลาง (ไม่ไปเหนือไปใต้) ถ้าบอกว่าใส่เครื่องปรุง = ใส่เกลือและพริกไทย จบ
- สวัสดิการรัฐดีมาก เรียนฟรีไปจนถึงด็อกเตอร์ ข้าวเที่ยงเด็กๆฟรี ตกงานมีตังให้ แก่ไปมีเบี้ยเลี้ยง แต่ภาษีที่เก็บก็ฟันเลือด
- ช่องว่างคนจนคนรวยไม่ค่อยห่างกันมากมายเหมือนที่ไทย แล้วก็ไม่ค่อยมีใครพูดเรื่องฐานะ
- ติดต่อหน่วยงานต่างๆไม่ต้องกรอกเอกสาร บอกเลขประจำตัวกับโชว์บัตร จบ ข้อมูลมันเชื่อมกันหมด ไม่รู้เค้าเรียกว่าสมาร์ทการ์ดรึเปล่า
- ตึกรามบ้านช่องทื่อๆเหลี่ยมๆ เหมือนเหนียมไม่กล้าทำอะไรแหวกแนว ถนน รางรถไฟตัดตรงๆ สมกับนิสัยตรงไปตรงมาของคน (ส่วนใหญ่) ที่นี่
- ร้านค้า ธนาคารที่นี่ เวลาทำการสั้นมาก เปิดสายปิดเร็ว (ธนาคารหลายๆที่ เปิดสิบโมง ปิดสี่โมงเย็น) สงสัยว่าค่าเช่าอาจไม่ได้คิดเป็นเดือนแต่เป็นชม.ที่เปิดทำการ จะรีบไปไหน
- วันอาทิตย์ วันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์ ห้างร้านปิด บังคับให้ทุกคนพักผ่อนกันเลยทีเดียว
- เน้นพัฒนาอะไรที่เกียวกับเด็กมากกกกกก ไม่ใช่เน้นเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เน้นร่างกาย สังคม และจิตใจ ทุ่มเททั้งงบประมาณและความตั้งใจแบบที่เห็นแล้วถึงกับเพ้ออยากให้ผู้ใหญ่ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเรามีจิตสำนึกแบบนี้บ้าง
- น้ำที่นี่สะอาด ดื่มจากก๊อกได้เลย
- อินเตอร์เน็ตไฮสปีดมีใช้กันถ้วนทั่ว คนเฒ่าคนแก่ก็มีเฟซบุ๊ค
- นโยบายนึงของรัฐคือ ถนนลาดยางจะไปถึงทุกบ้าน
- ถนนที่นี่เวลาผุพังเค้าซ่อมแล้วทำไมมันเรียบเสมอกันกับของเดิมก็ไม่รู้ เห็นที่ไทยชอบเหลื่อมกันเป็นหลุมเป็นบ่อ
- คนที่นี่เคลื่อนตัวช้า และไม่ค่อยมีความเร่งรีบใดๆในชีวิต เช่น ร้อยละ 95 ที่เคาน์เตอร์ซุปเปอร์จะรอให้ได้ยินก่อนว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงค่อยเริ่มต้นเปิดกระเป๋าสะพายเพื่อหากระเป๋าสตางค์
- คนที่นี่ไม่แซงคิว ขนาดบางครั้งไม่ได้ยืนกันเป็นแถว คนมาทีหลังก็จะไม่ผลีผลามเข้าไปแต่จะถามคนที่ยืนออๆกันว่ามีคิวหรือเปล่า
- คนที่นี่ไม่พูดเรื่องรูปลักษณ์เลยยยยย เพราะถือว่าหยาบคาย ไม่ทักสิวเหยินอ้วนต่ำขาว (แต่ทักว่าผิวเข้มขึ้นนะ เพราะเค้าคิดว่าคือการชม อย่าเสียใจไป)
- ที่นี่ไม่มีขอทาน ถ้าให้เงินขอทานได้บุญจริง ประเทศนี้ก็หมดโอกาสทำบุญไปแล้วอย่าง (ยกเว้นในเมืองที่พวกต่างชาติเข้ามานั่งขอทานให้ตำรวจจับ)
- คนที่นี่ส่วนใหญ่มีงานอดิเรกและทำจริงๆจังๆ ดูชีวิตมีสาระเว่อร์ (ทำไม่ได้ขอเหน็บ อิๆ)
- ฤดูมี 4 ฤดูที่แตกต่างจริงๆ ฤดูใบไม้ร่วง เหลืองแดงส้มไปทั้งเมือง สวย, หน้าหนาวก็ขาวโพลน สวย (แต่ก่อนหิมะจะมาเมืองจะขาวได้นี่ บรรยากาศป้าร้างตายซากดีๆ), ฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวอ่อนๆของใบใหม่ สวย, หน้าร้อน ฟ้าเป็นฟ้า ต้นไม้เขียว ดอกไม้พรึ่บ สวย แต่ทุกฤดูก็อยู่ในขั้นเย็นถึงหนาวมาก นานน๊านจะได้รับกลิ่นไอความร้อนซักที

ไม่รู้สวรรค์ไม่สวรรค์ มันก็ดี สงบ สบายใจในบางเรื่อง แต่หลายๆครั้งเวลาหิวตอนดึกก็คิดถึงที่ไทย เดินไปปากซอยก็สารพัด อาหารทั้งข้างทางทั้งเหลาอร่อยโฮก โบกแท็กซี่ตรงไหนก็เอาโลดตามสะดวก อยากออกจากบ้านก็ไปทั้งชุดนั้นแค่คีบแตะ เสร็จ (ที่นี่ต้องใส่หลายชั้น ไหนจะหมวก ถุงมือ อุปกรณ์กันหนาวตาย ฯลฯ) ซื้อของมาเกิน มีกับข้าวเหลือ ก็เอาไปแบ่งเพื่อนบ้าน แบ่งคุณยามได้ ที่นี่จะถือว่าประหลาดมากถ้าทำอย่างนั้น จะซื้ออะไรแทบทุกอย่างก็ส่งตรงถึงที่ สะดวกสบายสุดๆ

แต่ที่สังเกตดู ประเทศยิ่งเหนือ ยิ่งหนาว ยิ่งมีระเบียบ เริ่มจากนอร์เวย์ พอเที่ยวลงไปประเทศในยุโรปยิ่งใต้เรื่อยๆก็จะเริ่มหย่อนขึ้นคลายขึ้น (อิตาลี สเปน ก็น้องๆไทยเราเลย) ไล่ไปเลยตามแผนที่ แล้วไปเละเอาแถวๆเส้นศูนย์สูตร (รึเปล่า???) ไม่น่าใช่ สิงคโปร์ออกจะเข้ม :)

สรุป ทุกที่มันก็มีดีมีไม่ดี อยู่ตรงไหนก็มีความสุขไปตามอัตภาพแหละดีที่สุด อาศัยว่างก็ท่องเที่ยวไปให้ทั่วๆ ไปเห็นอะไรใหม่ๆ แถมอารมณ์เที่ยวเสร็จได้กลับบ้านนี่มีความสุข รักบ้านตัวเองเพิ่มขึ้นจะตาย :)


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
เข้ามาอีกที เพื่อจะยกให้สองหัวแม่โป้ง (มือ) เลย แก่ ความเห็นที่ 22 ข้างต้นนี้ เพราะไม่มี "กิ๊ป" ที่สามารถให้ได้ ถูกต้องแล้วทุกที่ในโลกนี้มันก็มีด้านมืดและสว่าง เพียงแต่ว่า ผู้ที่จะลงความเห็นใดๆในเรื่องที่เกี่ยวกับด้านไหนนั้น ควรจะต้องมีดุลยพินิจพิจารณาจากข้อเท็จจริง ที่ไม่เป็นการยกเอาแต่ความเห็นของตนเองเป็นใหญ่ และแทงลงความเห็นว่านี่มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะ "ฉัน" เคยไปมาแล้วมันเป็นเช่นนั้นเอง ทั้งๆที่สิ่งที่ตนเองเคยพบปะมาเพียงแค่พื้นที่แมวดิ้นตายเท่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ฝรั่งเศส ตัวเมือง Paris ไงค่ะ ขี้หมาเกลื่อนตามท้องถนน ^^
อิตาลี เศษบุหรี่ก็เกลื่อนถนนเหมือนกัน

ไม่ต้องไปไกล แค่อเมริกาส่วนแคลิฟอร์เนียร์ใต้ก็พอ
Orange County ถือว่าเป็น county ที่ดีมากทีเดียว บ้านเมืองสวยงาม สะอาด ราคาแพง แต่ก็มีบางเมืองที่เหลือรับ อย่าง Santa Ana เพื่อนของเพื่อนอยู่แถวนั้นบอกว่าค่ำ ๆ อย่าเข้าไป แต่พอถัดไปอีกเมืองติดกัน Costa Mesa เป็นแหล่งธุรกิจหรูอลัง

เคยมีคนโพสว่าอเมริกาแย่มากนู่นนี่ มีแก๊งค์ มีพวกหลบเข้าเมืองและทำผิดไม่เกรงกลัวกฏหมาย เม๊กซิกันเสียงดังและข่มขู่ อิฉันไปโพสบอก ที่ดีมากก็มีทำไมดุแต่ที่ไม่ดี Corona Del Mar ใน Newport Beach, Lake Forest งี้ Laguna Niguel หรือ Laguna Hills งี้ เดินทั้งเมือง ไม่มีรถเข็นริมถนนให้เห็นแน่ ๆ ค่ะ บ้านเมืองสะอาด crime rate ต่ำมาก จนถึงขั้นกรมตำรวจมีการโยกย้ายตำรวจไปช่วยงานทางเมืองอื่นอย่าง Santa Ana แทนค่ะ

ตอนหัดขับรถใหม่ ๆ ก็ใช้รถเก่า 15 ปี ม๊อมมอม ไปวน ๆ แถวเมืองสวย ๆ ตำรวจตามนะคะ แต่มาถามอย่างดีเลยว่า มาทำอะไรแถวนี้ เห็นวน ๆ หลายรอบ หลงทางหรือเปล่า ตำรวจน่ารักนะคะ ถามคุยดีมาก ๆ

ก็ตอบไปว่าหัดขับรถกับพี่ ถนนแถวนี้กว้างและไม่ค่อยมีรถวิ่งเร็ว ๆ ขับรถกันดีมาก ก็เลยมาหัด ท่านกำชับให้ระวังดูรถคันอื่นด้วย อิฉันได้แต่หัวเราะ เพราะรถแต่ละคันยี่ห้อแพง ๆ ทั้งนั้น ท่านคงรู้เลยบอกว่าจะอยู่แถวนี้อีกพัก บอกให้อิฉันต่อไปได้เลย



อีกแห่ง UC Irvine (University of California, Irvine) พวกเราเรียกล้อกันว่า University of Chinese Immigrant คนเอเชี่ยนประมาณ 85%

ตอนช่วงโรงเรียนเปิด หรือช่วงฤดูใกล้หนาว พวกนักเรียน ครู เวลาเรียนหนัก ๆ เขาก็ออกมาวิ่งออกกำลังกายกันนะคะ เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ครั้งละ 2-3 คน ก็วิ่งกันสบาย ๆ ไม่มีข่าวไม่ดีแต่อย่างไร มีแต่ต้องประชาสัมพันธให้วิ่งบนทางเท้า รถมากลางคืนอาจไม่เห็น แค่นั้นเองค่ะ

ทุกที มีดีและไม่ดี แล้วแต่ว่าจะเห็นอย่างไหนบ้าง และรับได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
เคยได้ยินฝรั่งถามว่าเมืองไทยสกปรก ไปไหนมีแต่ โจรกับโสเภณีเหมือนในหนังจริงหรือเปล่า
เราว่าคำตอบคงคล้ายกันมั้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ดิฉันกลับเมืองไทยทุกปี ปีละสองเดือน ตอนไปแรกๆก็ดี๊ด๊า แต่พอเข้าเดือนที่สองนี่จะเริ่มคิดถึงบ้านที่เมกา คิดถึงทุกอย่างที่นี่

อะไรที่ดีๆที่บ้านดิฉันมี คนอื่นๆ ที่อื่นๆในเมกาเขาก็มีเหมือนกัน เพราะงั้นเห็นจะไม่ต้องพูดอะไรให้มากมาย my home is my heaven ค่าา..


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
มาเล่าสู่กันฟังบ้างค่ะ
เป็นเขตเอเซีย ญี่ปุ่น ต่างจังหวัด
เงียบสงบ อยู่อพารต์เมนท์ 20 ห้อง
แถวที่อาศัย มีคนอยู่ หกแสนคน แต่เจอคนไม่เกิน พันคน
ไม่เคยเห็นคนข้างห้อง ไม่เคยเจอเสียงดังอะไรทั้งนั้น
ตัวเราเองอยู่เงียบๆๆสงบ สันโดด มีงานการทำไปเรื่อยๆๆ
บางครั้งไปเป็นล่ามจำเป็นให้เด็กนักเรียนมาฝึกงานเกษตร
มาในรูปแบบโฮมสเตย์ หรือไปเยี่ยมคนไทยติดคุก เพราะโดนจับเรื่อง
หนีวีซ่าเข้าเมือง
สภาพเเวดล้อมที่อยู่อาศัย ดีมากค่ะ สะอาดมากๆๆ
ไม่รู้จะเล่าอะไร ถามมาได้ค่ะ จะพยามยามหาข้อมูลตอบให้


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
เหมือนสวรรค์จริงๆแหละค่ะ เหมือนเมืองในเทพนิยาย (เฉพาะยุโรป) บ้านเมืองเค้าน่ารักและดูมั่นคงแข็งแรงดี สีบ้านก็ทาใหม่บ่อยๆทำให้ไม่ดูเก่าเขรอะ

แต่ที่กรุงเทพก็มีถนนหนทางที่สะอาดสะอ้านและร่มรื่นเย็นตาเย็นใจเหมือนสวรรค์เหมือนกันนะคะ

สมัยเรียนที่กรุงเทพดิฉันชอบไปเดินเล่นถนนอังรี ดูนังต์ ชมดอกลั่นทม หรือไม่ก็ไปดูดอกตะแบกดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บ้านแถวพญาไท ถนนศรีอยุธยา

อย่างไรก็ตาม โตเกียวที่ดิฉันอยู่ ในสายตาดิฉันแล้วคิดว่ามีย่านแบบสลัมและบ้านเรือนที่ไม่ชวนมองเยอะกว่าย่านที่สวยสะอาดเป็นระเบียบ

(แต่ย่านที่สวยสะอาดก็สวยสะอาดขั้นเทพแบบหลุดโลกหาที่ไหนเทียบไม่ได้เลยเหมือนกัน)


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
เอารูปหลังบ้านมาให้ดู จะเห็นว่ามีที่พาหมาเดินเล่นได้ คนก็เดินด้วย คุณชอบไหมล่ะ ถ้าชอบให้ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วจะบอกขายบ้านให้ คิกๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
แถวนี้ อเมริกาฝั่งตะวันออกทางใต้ ถนนหนทางมันก็มีสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้างนะ แต่คนมันน้อยกว่าเมืองไทยเยอะ หมาจรจัดก็น้อยกว่า (เคยเห็นลุงในปั๊มแอบหมาจรจัดไว้ กลัวเทศบาลเอาไปเจี๊ยน) เลยขยะไม่เยอะเท่าเมืองไทย เคยเห็นคนทำขยะหล่นเป็นหย่อมบนถนน เทศบาลก็ส่งคนมาเก็บกวาดทันที ขยะหย่อมเดียวส่งคนมาตั้งหลายคน นึกในใจ ไม่ค่อยมีงานทำกันหรือไงจ๊ะ


คนน้อย ทำให้มลพิษก็น้อยกว่า รถก็ไม่ค่อยติด สามีดิฉันเจอรถติดห้านาทีแกจะเริ่มบ่น ในขณะที่ดิฉันเคยรถติดที่กรุงเทพมาแล้ว แยกเดียวครึ่งชั่วโมงยังเคย ดังนั้นไม่เคยหงุดหงิดกับรถติดห้านาที อันนี้คือกรณีอยู่เมืองเล็กๆนะคะ


แล้วก็แถวนี้เค้าค่อนข้างใส่ใจเรื่องบ้านเรือน ดังนั้นต้นไม้ต้องตัด หญ้าต้องตัดกัน ทำกันเป็นจริงเป็นจัง เป็นระเบียบ มันก็เลยดูดี บ้านดิฉันล้อมรอบไปด้วยคนแก่วัยเกษียณ ลุงๆป้าๆ ตัดหญ้า ทำสวนดอกไม้ เก็บกวาดบ้าน ล้างถนนกันบ่อยมาก บ้านตรงข้ามนี่ใบไม้ตกพื้นแทบไม่มี แกเก็บเรียบ บ้านยังกับถอดมาจากในนิตยสาร เนี้ยบมาก


วันก่อน ไปคุยกับคนข้างบ้านตอนเย็นๆ เค้ามีหลานห้าหกคนมาวิ่งเล่นกันในสนามหลังบ้าน สนามบ้านแกก็หญ้าเรียบมากยังกับพรม มีต้นไม้ใหญ่เป็นแนวรั้ว เลยหลังบ้านไปเป็นทุ่งหญ้า พระอาทิตย์กำลังคล้อย เห็นเงาต้นไม้ใหญ่เป็นแนว เด็กวิ่งกันหัวเราะืิืิิิ ดิฉันคิดว่า เหมือนสวรรค์เลยนะเนี่ยะ แต่พอคุยเสร็จกับบ้านมา ต้องนั่งทำกับข้าว มือหนึ่งอุ้มลูก อีกมือถือตะหลิว ปากต้องคอยปรามลูกอีกคน ผัดกับข้าวไป ก็ต้องวิ่งเอาผ้าลงเครื่อง แล้วล้่างจานไปด้วยทุกอย่างทำมือเดียวเพราะต้องหนีบลูกคนนึงไว้ที่เอวตลอด หน้ามันหัวยุ่ง ไอ้ที่ว่าเหมือนสวรรค์เมื่อกี้เริ่มหายไปแล้ว คิดถึงเมืองไทยขึ้นมาทันที ถ้าอยู่เมืองไทย เดินไปหน่อยก็มีของกินแล้ว มีญาติเยอะแยะคอยดูลูกให้ อยู่เมืองไทยนี่มันสวรรค์แท้ๆ เลย

ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
แถวที่ดิฉันอาศัยอยู่ ขยะก็มีให้เห็นเกลื่อนเหมือนกันค่ะ ก้นบุหรี่ ขี้หมา
นานๆทีจะเห็นเจ้าของหมาพกถุงเก็บ ไฟเขียวให้คนข้ามก็ต้องมองหน้ามองหลัง ขาซิ่งก็มี

แต่ความรู้สึกต่างจากบ้านเราอยู่มากตรงที่ ลงรถไฟตีหนึ่ง ตีสอง เดินกลับบ้าน ไม่มีความรู้สีก
ว่า เอ ..จะถึงบ้านไหมนะ เพราะความปลอดภัย ค่อนข้างสูง เดินได้สบายๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
#31 รบกวนบอกชื่อเมืองและประเทศด้วยนะครับ ผมอยากทราบไว้เป็นข้อมูล

แล้วก็ท่านที่ไช้คำว่า"แถวนี้" ด้วยก็จะดีมากเลยครับ เพราะไม่ทราบว่าคำว่าแถวนี้ คือที่ไหน

ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ในประเทศที่มาขอเขาอาศัยอยู่นี้
เลี้ยงสุนัขต้องเสียภาษีด้วย
ทีวี วิทยุ ก็ต้องเสียภาษี
ในโลกนี้ไม่มีของฟรีจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
มาตอบช้าไปหน่อย เพราะช่วงนี้ กำลังเร่ร่อน ^^


อยู่เมืองหลวง ของ สวิตเซอร์แลนด์คะ สวยมั้ย ? มากกกกกกกกก ฟ้าสวย น้ำใส อากาศดีเวอร์

ต้นไม้เยอะ ทุกอย่างเป็นระเบียบ รถเมล์ รถทรัม รถไฟ ตรงเวลาเป๊ะๆ อาหารไทย หากินง่าย

เหมือนมีตลาดโต้รุ่ง อยู่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าเหมือนสวรรค์มั้ย แต่สำหรับตัวเอง

ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน ของโลก คิดถึง "บ้าน" ที่นี่เสมอ

ตอนนี้เร่ร่อน อยู่กลางทะเลทราย อยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
ที่อเมริกาก็มีสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง แล้วแต่ท้องที่

แต่อากาศจะสะอาดกว่าค่ะ เมืองใหญ่ๆบางเมือง น้ำมันจะแพงกว่าที่อื่น เช่นชิคาโก ซานฟรานซิสโก. เพราะมีส่วนผสมที่ไม่ทำให้อากาศมีมลพิษมากๆ. ถ้ามีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ผลิตน้ำมันได้น้อยลง ก็ใช้น้ำมันจากที่อื่นที่มีสูตรต่างกันไม่ได้ เช่นถ้ามีที่นึงไฟไหม้ผลิตน้ำมันไม่ได้ระยะนึงช่วงที่ผลิตน้ำมันได้น้องลง ราคาน้ำมันแถวนั้นก็จะสูงขึ้นไปอีก
เคยอยู่ชิคาโกเมืองที่อยู่ เราจะซื้อถังขยะเอง ที่บ้านมีถังขยะใบใหญ่2ใบ ส่วนที่เป็นรีไซเคิลบริษัทส่งมาใช้ เป็นกระบะใบไม่ใหญ่มาก ตอนนี้ย้ายมาอยู่แถวbay areaแคลิฟอร์เนีย เราต้องเช่าถังขยะจากบริษัท จ่ายเป็นเดือนมีสามขนาดราคาต่างกันตามขนาด ส่วนของรีไซเคิลจะเป็นของบริษัทใหญ่มาก ความคิดของเรานะคะ การที่จำกัดขนาดของถังขยะ ขยะน้อยจ่ายน้อย ขยะมากจ่ายเพิ่มขึ้น มีถังรีไซเคิลขนาดใหญ่ให้ นี่ดีนะ. อย่างน้อยก็ช่วยให้บางคนเลือกที่จะรีไซเคิลแทนที่โยนทิ้งในถังขยะ


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
อยู่อเมริกามาหลายรัฐหลายเมืองเหมือนกันค่ะ

เมืองสกปรกที่เคยอยู่ คือ นิวยอร์กซิตี้ วุ่นวายมาก เจาะท่อขุดท่อตลอด คนจรจัดเยอะ ยิ่งลงไปใต้ดินนี่โอ้วแม่เจ้า อับชื้นเหลือเกิน
บนดิน เหม็นควันรถเวลารถติด เวลารถยังติดไฟแดงอยู่ก็มีการเหมือนจะขับกระดึ๊บๆเลยเส้นขึ้นมาๆเหมือนกรุงเทพ
คนวิ่งข้ามถนนช่วงไฟเขียวก็มี คนขับรถก็บีบแตรไล่กัน มีเศษกระดาษตามพื้น สรุปเหมือนกรุงเทพเลย นึกว่าได้กลับบ้านเกิด 5555
วอชิงตัน ดีซี ไม่สกปรก อากาศดี แต่คนจรจัดเยอะไปหน่อย ไม่เหม็นควันรถ แต่คนก็ชอบขับรถกระดึ๊บๆเรื่อยๆทั้งๆที่ยังติดไฟแดง
อยู่แอริโซน่า สะอาดมากกกกกก อากาศบริสุทธิ์ดีมาก ไม่เคยเหม็นควันรถเลย เป็นระเบียบมาก เลนถนนเก๋มาก มีเลนตรงกลางสำหรับกลับรถโดยเฉพาะ คนก็เป็นระเบียบเวลาไฟเขียวก็ไม่ข้ามถนน สงบมากด้วย
อยู่เท็กซัส ดาลลัส ดาวทาวน์ไม่สกปรก แต่เหม็นควันรถมาก ไม่สงบเท่าไหร่ คนผิวดำเยอะ ชอบออกมาเล่นสเก็ตบอร์ด เปิดสเตอริโอเสียงดังๆ เกาะกลุ่มกันที่ป้ายรถบัส
พอออกมาอยู่อัพทาวน์ สะอาดบาดใจ อากาศบริสุทธิ์ ไฟเขียวคนก็ไม่ข้ามถนน บ้านเมืองเงียบสงบ


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
เพิ่มเติม

ทุกเมืองที่ไปอยู่ ไม่มีหมาแมวจรจัดเลย มีแต่กระรอกจรจัด นกจรจัด สกั๊งค์จรจัด T-T


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
แม่น้ำแซนที่ปารีสกับแม่น้ำลำคลองที่อัมสเตอร์ดัมก็ไม่ได้ใสไปกว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเลยนะ (แต่เมืองเล็กๆของเขาแม่น้ำอาจจะใสก็ได้ ไม่เคยไป) แถมล่องเรือแม่น้ำแซนก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจอะไรเลยด้วย สู้นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาชมวิวก็ไม่ได้....

เราอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี จังหวัดTrento ในเมืองที่อยู่มีทะเลสาปอยู่ประมาณ 5 แห่ง ภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาป ไร่ผลไม้ ทุกอย่างสวยสะอาดไปหมด ยกเว้นทางเดินกับทางจักรยานที่มีขรี้หมาเรี่ยราดไปทั่ว เห็นแล้วอุจาดตามาก... เคยคิดจะลงไปเล่นน้ำในทะเลสาปเพราะน้ำมันใสกิ้งเลย แต่วันก่อนเดินเล่นริมน้ำแล้วเจอท่อน้ำทิ้งซ่อนอยู่ใต้กองหิน เห็นมีน้ำโสโครกไหลออกมาเรื่อยๆ แล้วใกล้ๆกันนั้นก็มีงูตัวขนาดย่อมๆเลื้อยอยู่ในน้ำ อีกตัวนอนเล่นอยู่บนหิน ส่วนนักท่องเที่ยวก็ว่ายน้ำเล่นอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่

....ทะเลสาปเล็กๆไม่ไกลจากบ้าน


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
ตอนกลับไทยเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ไปเที่ยวทะเลที่นครศรีธรรมราช แฟนเราประทับใจมาก ชายหาดโล่งๆไม่มีนักท่องเที่ยวเลย สำหรับเราทะเลสาปข้างบนกับทะเลที่นครให้ความรู้สึก'สุขและสงบ'ไม่ต่างกันเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
มีแต่คนบอกว่า เมืองนอกสวย แต่ไม่มีใครบอกว่า การที่มันสวยอยู่ได้ เพราะภาษีมันโหด เงินที่เราหามาได้ทั้งนั้นครับ จ่ายเพื่อให้มันคงความสวยงามแบบนั้น

ความสวยของเมืองนอกที่เห็นจะรับรู้ได้ในช่วง 3-6 เดือนแรกครับ จากนั้นจะเริ่มชินตา แล้วเบื่อในที่สุด คล้าย ๆ คนไทยชินกับเมืองไทยน่ะครับ อะไรที่มันแปลกหูแปลกตา มันดูดีไปหมดแหล่ะ

ผมอยู่ Auckland ครับ สวยครับ เพราะที่อยู่ใกล้ ๆ กับทะเล เบื่อวิวเมือง ก็เดินไปดูทะเล เบื่อทะเล ก็กลับมาในเมือง เรื่องก้นบุหรี่ ขี้หมา ขยะ รอยอ้วกบนทางเดิน มีให้เห็นเป็นประจำครับ แต่พวกขยะใหญ่ ๆ ถุงพลาสติก เศษกระดาษ ไม่ค่อยมี ตามข้างถนน ถ้าเป็นเมืองไทย จะเห็นเศษขยะ เกลื่อนตา แต่ที่นี่ไม่มีให้เห็น

สิ่งที่ผมชอบจากเมืองนอก ที่เมืองไทย ไม่มีคือ กิจกรรมแทบจะทุกอย่างคุณสามารถจะคาดเดาได้ว่าคุณจะได้รับอะไรตอบแทน คือการแน่นอนในชีวิตค่อนข้างจะสูง ไม่มีที่ต้องมานั่งเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่น ถ้าเห็นข่าวขับรถชนแล้วหนี คนขับยังไงก็จะโดนจับและได้รับโทษหนัก แต่เมืองไทย ถ้าเห็นข่าวขับรถชนแล้วหนี อืมม..อาจเห็นรูปแปลก ๆ ของคนขับลงเฟซบุ๊ค อาจเห็นข่าวว่าคนขับชิ่งหนีไปหลบในบ้านแล้วส่งพ่อบ้านมารับบาปแทน อาจไม่เห็นคนขับต้องรับโทษ

ผมว่าสิ่งพวกนี้มันเสริมความสวยงาม และทำให้เมืองนอกมันน่าอยู่กว่าเมืองไทยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
อยู่ที่นิวยอร์ก (นานแล้ว) บ้านที่ตนเองอยู่คือในเมือง และไม่ไกลจากแม่น้ำเท่าไร
อยู่ติดๆกับ Park ออกไปขี่จักรยานริมแม่น้ำทุกๆวัน จะไปไหนผมก็ปั่นจักรยานไป
ขึ้นเหนือลงใต้ ก็เรียบไปตามแม่น้ำด้วยจักรยาน

อยู่ที่นิวยอร์แสนจะสุขใจ เพราะมีทุกสิ่งทุกอย่างบำเรอให้ความสุข ออกไปดูละครบ่อยๆ เหงาๆก็ออกไปดิ้นในคลับหาแฟน อยากออกไปกินอะไรก็มีให้กิน หากว่ารีบๆก็นั่งรถใต้ดินอึดใจเดียว ถ้ามีอารมณ์ museum ก็มีระดับโลกให้ดูจนตาแฉะ ไม่สบายก็มีหมออยู่ไม่ไกล ยังมีอีกเป็นร้อยๆ ที่นำมากล่าวไม่หมด


แน่นอนเมืองเราคงไม่สวยเท่า europe เมืองเราคงไม่สุภาพเท่าไร แต่เมืองเรานั้นมีแต่ความตื่นเต้นเย้ายวนใจไปทุกวัน เคยผ่านๆไปทั่วทั้ง 5 ทวีป มองดู europe แล้วเหมือนป่าช้า ที่ดูวังเวงและเงียบเหงา มองดู asia และ africa นั้นสวยก็จริง แต่ยังไม่เจริญเช่นที่นิวยอร์ แถวๆ middle east ก็มีแต่สงคราม ถิ่น austrlia, new zealand ก็ยังแหงนคอดูนิวยอร์ก

เมืองของผมมีคนบ้า หรือพวก homeless ทำให้ดูแปลกตา ว่านึ้คิอ new york เมืองของผมคัฟฟฟฟ


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
แล้วแต่มุมมองของเจ้าของสายตาค่ะ

สำหรับเรา เราชอบธรรมชาติที่เงียบสงบ คนน้อยๆ ไม่ต้องมาแข่งขันกัน อยู่กัยธรรมชาติ

เมืองที่เราอยู่ เราไม่ชอบเลย ก่อนมาก็คิดว่า ไหนว่าเมืองฝรั่งสะอาด นู่นนี่นั่น เรามาเจอ
- อึหมาบนฟุตปาททุกๆ 3 ก้าว
- ฟุตปาทพัง ไม่คิดจะซ่อม
- ขยะขวดน้ำ ถุงขนม กล่องโฟม
- หมากฝรั่งที่ถูก:-)ทิ้งบนถนนแล้วก่อให้เกิดจิตรกรรมอันน่าทึ่ง ตอนแรกเรานึกว่าลายของหิน ที่ไหนได้ หมากฝรั่ง -___-''
- อากาศเหมือนมีหมอกตลอดเวลา มองไปทางไหนก็อึมครึม
- เปียกชื้นทุกวัน ฝนตกเกือบทุกวัน
- รอยถ่มน้ำลายบนถนน
- คนที่ไม่เป็นมิตร (ไม่ค่อยเกี่ยว)
- รถเมล์ที่สกปรกไม่แพ้ไปกว่ารถเมล์ไม่มีแอร์ที่กทม.

เราจะชอบฟาร์ม ภูเขา ทะเล อะไรอย่างนี้มากกว่า ทั้งในไทยและต่างประเทศ ชอบฟ้าใสๆ แดดแรงๆ ทุ่งหญ้า กลิ่นขี้วัว ขี้ม้า

ป.ล. เราอยู่ที่นึงบน great britain ค่ะ ไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในฟาร์ม

เราเคยไปอยู่เมลเบริ์น ออสเตรเลีย มา 1 ปี เราให้เมลเบิร์น(หน้าร้อน)เป็นที่รักของเราอันที่สองรองจากแถวๆบ้านนอกประเทศไทยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
อยู่ออสเตรเลีย ถิ่นที่เราอยู่สะอาดนะ ถ้าใครจูงหมามาแล้วหมาถ่าย เจ้าของก็จะต้องโกยอึหมากลับไปด้วย ไม่อย่างนั้นเจอปรับได้ แต่ก็มีบางครั้งที่มีพวกมักง่าย ไม่ยอมเก็บอึหมาไปด้วยเหมือนกัน ยังไง โดยรวมแล้วก็นับว่ายังสะอาดใช้ได้

ตอนแม่เรามา แม่บอกว่าชอบที่จากตัวบ้านแล้วมีฟุตบาทให้คนเดินแยกกับถนนเป็นสัดเป็นส่วน ปลอดภัยดี หมู่บ้านที่แม่เราอยู่ที่เมืองไทย ไม่มีฟุตบาท เปิดประตูรั้วบ้านออกมาคือถนนเลย ต้องเดินปะปนกันทั้งรถทั้งคน หวาดเสียวต่อการถูกรถชนเป็นอย่างยิ่ง

รถเมล์ที่นี่ไม่แน่นเท่าเมืองไทย และสะอาดกว่า เสียแต่ค่ารถแพงไปหน่อย และไม่มีรถเมล์ฟรีเหมือนเมืองไทย

แต่ก็อย่างว่า ความสะอาดพวกนี้มาจากภาษีที่จ่ายไปให้กับเคาน์ซิลน่ะ ปีนึงจ่ายหลายตังค์อยู่ แล้วแต่แอเรียที่อยู่ด้วยน่ะ

ก็ไม่ใช่ว่าทุกแอเรียจะดีไปหมดนะ บางแอเรียก็สกปรก และน่ากลัว โดยเฉพาะโซนที่อยู่ติดตัวเมือง หรือไม่ก็โซนที่ไกลออกไปสุดเส้นรถไฟ จะน่ากลัว และไม่ปลอดภัย เพื่อนเราคนนึงเคยไปอยู่โซนติดตัวเมือง เธอบอกว่าเดินกลับที่พักที เจอแต่เข็มฉีดยาใช้แล้วทิ้งเกลื่อนตามถนน คนติดยาเยอะจริงๆ

ต่างประเทศมันไม่ได้สวย สะอาด สงบ รื่นรมย์เหมือนสวรรค์หรอกค่ะ ทุกประเทศมีทั้งที่สวย และมีมุมมืดทั้งนั้นแหละค่ะ แม้กระทั่งญี่ปุ่นที่ว่าเทคโนโลยีเจริญสูงสุดประเทศหนึ่ง ก็ยังมีย่านที่ไม่น่าดูค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
ถามว่าสวยเหมือนในหนังไหม สวยค่ะ ตอบสั้น ๆ ไม่ต้องเยิ่นเย้อ พร่ำพรรณนาอะไรมากมายนะคะ สวิสนี่ยิ่งแถบไกลเมืองเท่าไหร่ สวย สะอาด สงบมาก เหมือนในรูปโปสการ์ด อะไรทำนองนั้นแหละค่ะ

ส่วนไทยก็มีที่สวย แต่มันสวยคนละแบบ อาจจะเนื่องด้วยภูมิประเทศ ภูมิอากาศ อะไรแบบนี้ด้วย แต่จิตสำนึกของคนทางโน้น (ยุโรปตะวันตก เช่น สวิส เยอรมัน) ก็มีส่วนทำให้บ้านเมืองเขาน่าอยู่มาก ทำตามกฏมาก ๆๆๆ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่แซงคิว และอื่น ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
เนื่อจากมีข้อความหลังไมค์มาถามถึงทะเลที่นครในรูปข้างบน จึงอยากนำรายละเอียดมาลงไว้ที่นี่ด้วยค่ะ

รีสอร์ที่ไปพักชื่อ Yeoser's Beach Resort ตั้งอยู่ที่ต.กลาย อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตัวรีสอร์ทร่มรื่นมาก ห้องพักกว้างและทันสมัย บริเวณรอบๆสะอาดเอี่ยมเพราะเจ้าของเขาคอยเก็บกวาดทุกวัน(แต่ในห้องพนักงานทำความสะอาดไม่ค่อยดี) น้ำทะเลใสสะอาดนะคะ แต่จะไม่เป็นสีมรกตแบบฝั่งอันดามัน ถ้าไปควรมีรถไปค่ะเพราะแถวนั้นไม่มีร้านอาหาร แต่โรงแรมก็ทำอาหารอร่อยค่ะ

* ถ้าคุณโชคดี ตอนเช้าหรือตอนเย็นจะเห็นปลาโลมาสีชมพูว่ายผ่านด้วยค่ะ

มีรูปรีสอร์ทที่ไปพักมาฝาก ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับทางโรงแรมนะคะ ถ้าผิดระเบียบสามารถลบรูปได้เลยค่ะ

...ทะเลฝั่งขวามือ


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
ทะเลฝั่งขวามือ


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
ภายในรีสอร์ท


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
ร่มรื่นดี


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
ทางเดินหน้าห้องพัก


ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
ห้องพัก


ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
ห้องที่เราพัก


ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
รูปจาพันทิพห้องบลู


ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
คนที่มีความสุขที่สุดในทริปนี้ หลานตัวน้อยวัยเก้าเดือน


ตอบกลับความเห็นที่ 53