งานพยาบาลใน USA???

มีความสนใจจะเรียนทางด้านพยาบาลและหางานทําทีนั่น อยากทราบว่างานพยาบาลตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ประเทศเค้ายังต้องการอยู่ไหม ที่ได้ยินว่าการแข่งขันสูงมาก จริงไหมค่ะ?

ขอบคุณค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
การแข่งขันสูงไหม? พยาบาลใน US เกือบครึ่งจะมาจากฟิลิปปินส์ แต่น่าจะยังต้องการอยู่ครับ
ภรรยาเพื่อน(คนไทย)ที่รู้จักก็เป็นพยาบาลมาจากไทย พึ่งได้ใบเขียวแบบ employer's sponsor
ได้หมดทั้งสามีและลูก อาชีพพยาบาลใน USต้องมีไลเซ่นครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
RN ตอนนี้การแข่งขันสูง ไม่เหมือนสมัยก่อน หรือ รัฐ CA เมื่อ ๒๐๐๔ ที่เริ่มใช้ กม กำหนดอัตราส่วนRN ต่อจำนวนคนไข้ ตอนนั้นขาดพยาบาล ต้องเอามาจาก ตปท เช่น ฟิลิปปินส์ เป็นจำนวนมาก และคนในรัฐ ก็เข้าเรียนกันมาก ตอนนี้รัฐ CA แบบที่ จะทำใบเขียวให้ ก็ยาก จขกท ไม่มีใบเขียว ก็ควรคิดถึงเรื่องนี้
นอกจากนั้นเป็นคน ตปท ไม่มีเงินช่วยเหลือ หรือ ไม่มีให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ ก็ต้องลงทุนสูง แต่ถ้ามีเงินมาก อยากเรียน อยากลอง ก็ไม่เป็นไร เพราะกว่าจะจบอีก ๔ ๕ ปี สถานะการณ์อาจเปลี่ยนได้ ถ้ามีใบเขียว เรียนจบ ไม่เลือกงาน ก็คงหางานได้นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเป็น RN อยู่แคลิฟอร์เนีย ถ้ามีกรีนการ์ด สนับสนุนอย่างแรงให้เรียนพยาบาลเพราะมีความต้องการอีกเยอะครับ เพื่อนและน้องๆที่มาจากเมืองไทยหมายถึงแต่งงานกับคนอเมริกันและมี license ได้ทำงานทุกคนแล้ว หางานนานที่สุดคือผม สามเดือน ส่วนน้องที่เร้วสุดแค่สองอาทิตย์ และอนาคตอันใกล้ จะต้องการอีกมากเพราะจะมีคนแก่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย คนที่เกิดในยุค baby boom แก่พร้อมกันหลายล้านคนทั่วประเทศ และถ้าคนเหล่านั้นไม่มีญาติดูแล ก้อต้องไป Nursing Home ต้อง need พยาบาลดูแลอยู่ดี....EB2 visa น่าจะชลอครับ ช่วงนี้เนื่องจาก econ regression มีหวังแค่ แต่งงาน และ dvlottery visa


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่รู้ว่าพิมพ์ไปแล้วจะทำให้ จกขท สูญเสียความตั้งใจหรือเปล่านะ ถ้าใช่ ก็ไม่ต้องเชื่อ ให้คิดสะว่าเป็น opinion จากใครไม่รู้ ตัวตนนั่งพิมพ์อยู่แห่งหนตำบลก็ไม่รู้ ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงใดๆ

ถ้าเรียนพยาบาลเพราะจะเอาโอกาสให้อยู่ประเทศอเมริกา ตอนนี้จะว่ายากก็ยากค่ะ เพราะกรีนการ์ดสำหรับพยาบาล ณ เวลานี้ วันที่ 19 ตุลา ปี55 กรีนการ์ดจากพยาบาลต้องรอถึง 6 ปีค่ะ จะมี รพ ไหนสปอนเซอร์รอไปกับเราด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ นี่เรายังไม่ได้พูดในเรื่องอื่นๆ เรื่องการเรียน การแข่งขัน การหางาน ภาษา ความเป็นอยู่ ฯลฯ เราพูดจุดจบของจุดประสงค์เลย ไม่อยากให้จินตนาการว่ากว่าจะเรียนจบอะไรๆ จะดีขึ้น เหตุการณ์รอกรีนการ์ด นี่เป็นมา 5-6-7 ปีแล้วมั้งค่ะ แต่ถ้าถามว่ามีความหวัง มันก็คงมีละมั้งค่ะ ถ้าเราว่าเราไหว อะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น หรือจะให้เร็วขึ้น ให้ได้กรีนการ์ด วิธีนี้ก็อาจจะง่าย หรืออาจจะยาก คือระหว่างเรียนควรจะหาแฟนอเมริกันให้ได้อะค่ะ แต่งงานแล้วอะไรจะง่ายขึ้น

วกกลับมาเรื่องอาชีพนี้ ความเห็นเรานะ มันยังเป็นอาชีพที่ดี อาชีพทำเงิน มีเกียรติ เป็นไปได้สำหรับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 เป็นอาชีพเริ่มต้นของชาวต่างถิ่นต่างบ้านต่างเมืองได้ แต่คนเรียนก็ต้องมีสติปัญญาในการเรียนนิดนึง หรือครั้นจะหันเหไปเรียนพวกวิศว ทนาย อะไรพวกนั้น ทำเงินเหมือนกันก็จริง แต่เราว่าการแข่งขันสูงกว่าเยอะ โดยเฉพาะในเรื่องภาษา

แต่ถ้าเรียนพยาบาลเพราะความตั้งใจ อยากนำความรู้มาใช้กับตัวเอง ครอบครัว ใจรัก อันนี้ก็สนับสนุนเต็มแรงเลยค่ะ เพราะเป็นวิชาชีพที่มีประโยชน์มาก เข้าใจชีวิตมากขึ้น การใช้ชีวิตเมืองนอกแบบเต็มรูปแบบ ภาษา สังคม กำไรชีวิตทั้งนั้นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ความยากไม่ได้อยู่ที่การหางานคะ แต่อยู่กรีนส์การ์ด เพราะถ้าผ่านด่านี้ไปได้ เรียนจบพยาบาลเชื่อว่าไม่ตกงานแน่ (อาจใช้เวลาหางานแต่เชื่อว่าไม่ยาก)


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
There're too many new graduated nurses (RN) who already have green card or being a citicenz struggling to find a job . People knows that RN make a lot of money in America so there are too many people waiting to go to the nursing school . The 2-3 years experinced RN. can get start with 45$/hr in CA. But the job is also hard ,you could come home from work and have a nightmare when you got a bad group of patients . Cominicate with the doctor on the phone can be very hard with all technical term and making a mistakes with this job is almost unacceptable . If you have a green card then it worth to try , without any chance to have a green card , you could waste time and money.


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เรียนวิศวะ สิ ไม่ต้องเเก่งแย่งมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
แต่วิศวะ ตกงานบ่อยครับ :-)

ส่วนอาชีพพยาบาล นั้น คนอเมริกัน ส่วนมากเป็นคนขาวด้วย ทำอาชีพพยาบาลมากขึ้น จ้างคนต่างชาติจะน้อยลง
ส่วนคนไทยนั้น ถึงมีบัตรเขียวก็ยังหางานยากขึ้นครับไม่เหมือนสมัยก่อน ถ้าไม่ได้จบโดยตรงจากอเมริกา เพราะคนอเมริกันตกงานมากขึ้น เลยหันมาทำงานด้านสาธารณสุขกันเยอะขึ้น งานมั่นคง เงินดี ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
วิธีที่ง่ายที่สุดคือแต่งานกับคนอมริกัน เมือ่ได้กรีคาร์ดแล้วก็ไปเรียนพยาบาล
ที่นี่มีโรงเรียนให้เลือกมากมายหลายแบบ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
จขกท ใจฝ่อไปแล้วหรอเปล่าอ่า กระทู้โน้นนก่อนหน้ายังเห็นตื่นเต้นอยู่เลย ตอบความเห็นต่อความเห็นเลย กระทู้นี้เงียบไป สู้ ๆ นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ชื่นชมในความตั้งใจของจขกท.นะคะ แต่ปัญหาสำคัญในการเรียนต่อของคุณก็คือ วีซ่า หากว่าคุณมีโอกาสที่จะได้กรีนการ์ดจากทางใดทางหนึ่ง เช่น ครอบครัวขอให้ หรือได้จากการแต่งงานกับซิติเซ่น หรือได้วีซ่าลอตเตอรี่ การเรียนพยาบาลของคุณและโอกาสได้งานทำที่นี่เป็นไปได้สูงค่ะ

แต่ถ้าจะถือวีซ่านักเรียนมาเรียน ขอบอกว่ายากมาก ตามที่เคยได้ให้ข้อมูลไว้ในกระทู้ที่แล้ว http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12777817/H12777817.html เพราะโอกาสที่จะเปลี่ยนจากวีซ่านักเรียนไปเป็นวีซ่าทำงานนั้นยากมาก หาโรงพยาบาลเป็นสปอนเซอร์วีซ่าได้ยาก หรือถ้าหาได้ ก็ต้องรอนาน 5-6 ปี(ตามข้อมูลVisa bulletinในปัจจุบัน) และด้วยระยะรอคอยอันยาวนาน หากคุณต้องการทำงานพยาบาลในไทยในระหว่างที่รอ ก็จะพบปัญหาอีกว่า หลักสูตรพยาบาล 2 ปีของอเมริกาที่เรียนมา จะไม่สามารถขอเทียบเพื่อขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพพยาบาลชั้นหนึ่งของไทยได้ เพราะพยาบาลวิชาชีพที่ไทย เรียน 4 ปี


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
จขกท มาแล้วค่ะ...ขอบคุณคุณม่องเท่งน่ะค่ะที่ถามถึง ^^

ขอสารภาพค่ะว่า...พออ่านหลายๆความเห็นแอบใจเสียไปเหมือนกัน เพราะตอนแรกกลัวแค่ว่าจะเรียนไม่ไหวเพราะวิชาค่อนข้างยากไม่ได้คํานึงถึงเรื่อง green gard เลย แต่ตอนนี้เรื่อง green card กลับกลายเป็นปัญหาที่ยากที่สุด กลุ้มใจมากกก
บางครั้งแอบมีแวบในหัวว่า ไม่ไปแล้วดีไหมเพราะโอกาสค่อนข้างน้อยเราไม่ได้กลัวลําบากแต่ถ้าความเป็นไปได้มันน้อยมากขนาดนี้ก็แอบหวั่นใจ....แต่พอใช้เวลาคิดอยู่หลายวันยังไงเราก็ยังไม่อยากล้มเลิกความตั้งใจเรื่องนี้เราคิดมาเป็นปีก็อย่างที่คุณธนิตาบอกเรามีเวลาอีก 4-5 ปีสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ Miracle might happen, I'll always keep my fingers crossed :)

ทีนี้ตอนนี้เราต้องมาคิดว่าจะทําไงถึงจะได้ green card จริงๆแล้วเรากะจะสมัครวีซ่าลอตเตอรี่จะลองเสี่ยงดวงดูแต่มีเพื่อนห้ามไว้เพราะว่า เค้าบอกว่าถ้าอนาคตโชคดีได้แต่งงานทาง embassy จะสงสัยว่าเป็น fake marriage เพราะมี record ที่เราเคยสมัครวีซ่าลอตเตอรี่แล้วมันจะทําให้การแต่งงานยากขึ้น อันนี้เราไม่มีข้อมูลเลยทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรค่ะ?

อีกวิธีนึงที่คุณนิดหน่อยแนะนําว่าให้ "ครอบครัวขอให้" อันนี้ต้องทําอย่างไรค่ะ เรามีญาติอยู่ที่เมกาเป็น citizen แต่คนละนามสกุลจะทําได้ไหมค่ะ อีกวิธีนึงที่คิดได้คือ adoption เป็นไปได้ไหมค่ะที่เราจะให้ family (คนขาว) ที่เราจะอยู่ด้วย adopt เราแต่่อย่างทีบอกเราอายุเยอะแล้วไม่รู้จะเป็นปัญหารึเปล่า?

ถ้าท่านไหนมีความเห็นอย่างไรแนะนําได้น่ะค่ะ หรือจะหลังไมค์มาที่ [email protected] ก็ได้ค่ะ ยินดีรับฟังความเห็นจากทุกท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ 🙏


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
อยากให้ จชกท ลองมองดู โอกาสเรียนพยาบาลที่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด๋ เรียนหลักสูครเร่งรัด 2 ปี หรือ 3 ปี Bachelor of Nursing หลังเรียนจบพยาบาล และสอบขึ้นทะเบียนวิชาชีพกับสภาพยาบาล โอกาสหางาน ได้วีซาถาวร ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด๋ ในขณะนี้ ดีกว่า สหรัฐฯ หรือ อังกฤษ มาก

ลองอ่านดูรายละเอียดที่นี่

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=macdreamnurse&group=44


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณสําหรับคําแนะนําค่ะคุณ Banyen

จริงๆก็เคยคิดจะไปออสเตรเลียเหมือนกันค่ะเพราะทราบว่าโอกาสดีกว่ามาก แต่เราไม่รู้จักใครเลยที่นั่น แต่ที่เมกาเรามีทั้งญาติและคนรู้จักอยู่เยอะค่ะ รู้สึกอุ่นใจกว่า

ทีนี้ถ้าเราตัดสินใจเรียนที่เมกาหลังจากจบแล้วถ้าเราไม่สามารถหางานได้จริงๆ เราจะไปทํางานที่ออสเตรเลียพอจะยังมีโอกาสไหมค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
จะทำต้องรีบนะครับ

เวลา+อายุไม่รอท่า


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
วิธีที่จะทำให้ได้กรีนการ์ดเร็วที่สุด คือ การแต่งงานกับอเมริกันซิติเซ่น ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งปี ส่วนวิธีที่ให้ครอบครัวขอให้ คือ ครอบครัวสายตรงเท่านั้นค่ะ เช่น พ่อแม่ขอให้ลูก ลูกขอให้พ่อแม่ พี่ขอให้น้อง แต่วิธีนี้ก็ใช้เวลานาน ส่วนวีซ่าลอตเตอรี่ เท่าที่ติดตามอ่านกระทู้ คนที่เคยสมัครก็ขอวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่านักเรียนได้ ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ส่วนเรื่องAdoption เคยเห็นแต่เขาadoptเด็กเล็ก ๆ

ประเด็นก็คือ คุณต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง จะไปเรียนที่อเมริกา ได้อยู่ใกล้ญาติ รู้สึกอุ่นใจ แต่โอกาสจะได้งานหลังเรียนจบน้อยมาก หรือถ้าขอOPTทำงานชั่วคราวได้แค่ 1 ปี ไม่ทราบว่า มันจะคุ้มกับการลงทุนค่าเล่าเรียนและเวลาที่เสียไปได้ไหม หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ ไปเรียนพยาบาลที่ออสเตรเลียอย่างที่คุณBanyenแนะนำ ให้ได้วุฒิพยาบาลก่อน หรือถ้าอยู่ออสเตรเลียจนได้เป็นซิติเซ่น การที่จะไปทำงานในอเมริกาในฐานะออสเตรเลียนซิติเซ่นก็น่าจะง่ายขึ้นมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณค่ะคุณนิดหน่อย


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ถ้าเรียนที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มีโอกาสขอพีอาร์ได้ค่ะ เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพขาดแคลนอย่างหนัก เวลาขอพีอาร์ อิมมิเกรชั่นจะพิจารณาอย่างเร่งด่วน และเป็นอาชีพที่เงินดีอาชีพหนึ่ง

อย่างเพื่อนเราที่จบพยาบาลจากไทย มีประสบการณ์ทำงานในโรงพยาลที่เมืองไทยมาสิบปี แล้วมาต่อโทด้านพยาบาลที่นี่ เข้าเรียนเทอมแรก มหาวิทยาลัยส่งไปฝึกงานที่โรงพยาบาลรัฐบาล โรงพยาบาลจองตัวไว้เลยว่าให้ทำงานที่นั่น แถมยังเป็นสปอนเซอร์ให้เสร็จสรรพ ตอนนี้ก็ได้พีอาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ เห็นทำงานเบิกบานใจ เงินดีมาก ซื้อบ้านหลังที่สองแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 18