เพื่อนร่วมงานตปท ขี้เกียจมาก(บ่น)

ปรกติชอบคิดว่าคนไทยมาทำงานแบบ ทำไปวันๆแต่หลังจากได้มาทำงานสามสี่เดือนในต่างประเทศ มีเพื่อนร่วมงานเป็นคนแม็กซิโกผู้หญิง
เธอขี้เกียจมาก เดือนแรกผมไปทำเรื่องเอกสารวีซ่า ด้วยตัวเอง ทำเรื่องบัตร เรื่องนู้นนี้ด้วยตัวเองทั้งหมด ใช่เวลาแค่วันเดียว
ผมเห็นเธอมาครั้งแรก เธอใช่เวลาทำแต่ละอย่าง อย่างละสองวัน ยกตัวอย่าง
ทำบัญชีธนาคาร - เธอขอเวลาไปสองวัน ซึ่งมันทำเสร็จแค่ไม่ถึงชั่วโมง ไปทำเรื่องเอกสารวีซ่า เธอล้อไป ทั้งสัปดาห์เพราะเธอบ่นว่า เธอต้องไปนู้นนี้
คือถ้าเธอตั้งใจจริงๆมันก็เสร็จภายในวันเดียว แล้วกลับมาทำงาน ได้
ช่วงแรกก็คิดว่าเธอคงมีปัญหาจริงๆ แต่หลังจากสองเดือนผ่านมา นิสัยหรือสันดานเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนสักครั้ง
แย่ยิ่งกว่าเดิมอีก โต๊ะทำงานเธอติดกับประตูที่คนเข้าออกได้ เธอคงอยากจะนั่งเล่นเฟสบุ๊ค ไม่ทำอะไร เธอก็บ่นว่าคอมช้าเปลี่ยนโต๊ะ และแล้วเธอก็เปลี่ยนโต๊ะ
ภายใน 2 สัปดาเธอเปลี่ยนโต๊ะ 3 ครั้ง ครั้งแรก หน้าห้อง ครั้งสอง ห้องใกล้สำนักงานติดโต๊ะหัวหน้าแผนกหลายคน และสุดท้ายเธอย้ายไปอยู่ห้องอื่น ในโต๊ะทีไม่มีคนเดินผ่าน ไม่มีคนเข้า ที่สำคัญไม่มีใครในห้องนั้นเลย

เธอมาทำงาน 11 โมงทุกวัน (พักเที่ยงตอน บ่ายโมงยันบ่ายสอง) และเธอก็กลับบ้าน บ่ายสามเกือบทุกวัน คือบอกก่อนว่า เนื่องด้วยเธอไม่มีการสแกนนิ้ว มีแต่บัตรผ่าน (เธอมาฝึกงาน) และเนื่องด้วยที่ออฟฟิตเขาดูยุ่งมากๆ จนแต่ละคนก็ไม่ค่อยมาออฟฟิตกันบ่อยๆ เพราะต้องไปธุระประชาสัมพันธ์หลายๆที่ เธอคิดว่าคนไม่มากันตอนเช้าเลยมาสาย จริงๆมันเป็นหน้าที่ที่เธอต้องมา คือตัวผมในฐานะที่เป็นคนไทย

อยากจะให้คนมองภาพลักษ์ว่าเราไม่ขี้เกียจ เรามาทำงาน 8.30 ตลอด กลับตรงเวลาตลอด แต่ทำไปเหมือนไม่มีใครเห็น เพราะตอนเช้าๆ กว่าพวกเจ้านายจะมากันก็ 10 โมงกว่า

พอผมถามว่าทำไมมาสาย เธอตอบอย่างไม่อายว่า ตื่นสาย ผมบอกแล้วทำไมไม่ตื่นให้เร็วหล่ะ เธอบอกว่านอนไม่หลับ อะไรกัน นอนไม่หลับ เป็นเดือนๆเลยเหรอ?
บางครั้งเธอบ่นว่างานเยอะ ถ้างานมันเยอะจริงทำไมไม่มาแต่เช้าหล่ะมาเคลียงาน เล่นมา 11 โมงทุกวันกลับบ่ายสาม นี้เหรองานเยอะ?

คือแบบสุดๆอ่ะ อยากจะฟ้องเจ้านาย แต่มันมีเจ้านายคนละคนกัน และไม่อยากจะไปยุ่งกับเธอมาก แต่มันสุดๆ
มีวันหนึ่งผมมาสาย วงเล็บว่าครั้งเดียว
เจ้านายผมวันนั้นมาเร็ว เลยถามเธอว่า ผมไปไหน เธอบอกยังไม่มาอยู่บ้านมั่ง เจ้านายเลยจับผมย้ายมาโต๊ะหน้าห้องที่เธอเคยนั่งอยู่ แบบเจ็บมากๆ
กล้าพูดได้ไง เพราะตอนนี้เวลาเธอมาสายก็จะไม่มีใครเห็นเพราะเธอนั่งอยู่ในห้องที่ไม่มีใครเห็น เห็นพฤติกรรมแล้วแบบอยากกำจัดเธอออกไปมากๆ แต่ไม่รู้จะทำไงดีเพราะเธอมาฝึกงานเฉยๆ มีการบอกด้วยว่า หลังจากจบฝึกงาน จะต่อสัญญาทำงานจริง ...... ฮุฮุ แรงมากเธอ

** อีกเรื่องคือในสำนักงานเขามีกิจกรรมจับฉลากแลกเปลี่ยนของ(เหมือนที่เล่นกันในโรงเรียนอ่ะ ประมาณห้ามบอกว่าใครเป็นคนให้) โดยงบต้องห้ามต่ำและห้ามเกิน 17 -27 USD เธอไปซื้อของมาราคา 10 USD เป็นกรอบรูปที่เขาลดราคาจาก 15 USD เหลือ 10 USD (ที่สำคัญเธอไม่ได้ซื้อของตามที่เขาเขียนไว้ในบอร์ด เพราะในบอร์ดเขาเขียนว่าอยากได้ที่วางไอแพต)
แล้วเธอก็เอามาห่อใส่ให้คนที่เธอจะให้ของขวัญ น่าสงสารคนได้ของเธอมาก (สาเหตุที่เธอบอกว่าเธอซื้อมา เธอบอกว่าก็ฉันเขียนไปในบอร์ดว่าอยากได้คิดตี้ คิดตี้มันน่าจะราคาถูก ก็เลยคิดว่าคนในของฉันน่าจะราคาถูก แต่ผมก็บอกไปว่าคนที่จะให้ของเธอเขาไม่ได้คิดแบบนั้นนะ เขาเป็นถึงเจ้านายเขามีตังค์อยู่แล้ว เขาคงจะไม่ให้อะไรแบบนั้นหรอก)

ความคิดเห็นที่ 1
เจอเพื่อนร่วมงานงี้ ปวดตับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
พวกนี้เจ้าเล่ห์และเค็มหายห่วง อ้อ สะตออีกต่างหาก
อย่าประมาทเชียว อยู่ห่างๆ หล่อนเข้าไว้เพราะขัดหูขัดตาขึ้นมาชีแทงข้างหลังทันที


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คห 2

สุดๆอ่ะครับ แต่ต้องเจอหน้าหล่อนทุกวัน แบบตอนนี้พยายามเลี่ยงได้เท่าที่อยากจะทำ
อันตรายคนแบบนี้ อีกอย่างคือ มีคนแม็กซิกันอีกคน อยู่ที่สำนักงานอื่น เหมือนกันเปะะะะ
แต่เป็นผู้ชาย นี้เป็นนิสัยคนแม็กซิกันหรือเปล่า อยากรู้???


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ผมคิดว่าอย่าเอาเรื่องเชื้อชาติ สัญชาติ มาพยายามแบ่งประเภทเป็นกลุ่มๆ ดีกว่าครับ
เอาเรื่องสันดานหรือนิสัยมาพูดกันดีกว่า มันทำให้คนดีที่เป็นแม๊กซิกันถูกเหมารวมไปด้วย
มนุษย์มีดีและมีเลวปนกันไปไม่ว่าชาติไหน ในคนๆ หนึ่งก็ยังมีส่วนดีและส่วนไม่ดีปนกัน มันขึ้นอยู่ว่าเรา
เลือกที่จะไปสัมผัสคนๆ นั้นด้านไหน ทำตัวเราให้เหมือน Three Wise Monkeys (http://en.wikipedia.org/wiki/File:Hear_speak_see_no_evil_Toshogu.jpg ่)

ปล. น้ำที่ขังไม่ไหลย่อมเน่าเหม็น ดังจิตใจคนถ้าไม่ปล่อยวางย่อมเน่าเสีย
ผมคิดว่าไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปวิเคราะห์คนอื่นว่าทำไมๆ เป็นแบบนั้นแบบโน้น
เรามาทำงานมีหน้าที่ฉันท์ใด ก็ทำหน้าที่เราฉันท์นั้น ก็เพียงพอแล้วครับ
รู้ว่าเค้าเป็นแบบไหนก็ดีแล้วครับ ก็แสดงว่าแยกผิดและแยกถูกได้ ก็อย่าไปทำแบบเค้า
และก็อย่าไปยุ่งกับเค้าในด้านนั้นเพราะมันเป็นด้านไม่ดี

Keep your mind positive and look @ the bright side of the world

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่รู้ซินะ ไม่ได้อ่านรายละเอียดเท่าใดนัก

คุณเป็นอะไรกับเขา ใต้บังคับบัญชาคุณหรือเปล่า ร่วมกันทำงานในโปรเจ็กเดียวกันหรือเปล่า หรือเป็นแค่ร่วมสำนักงาน ถ้าเช่นนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่คุณก็ทำหน้าที่ของคุณซิ ไปยุ่งอะไรกับเขาด้วย เป็นเรื่องของหัวหน้า การที่คุณมาสายแม้จะครั้งเดียว แต่เขาจับได้คุณคุณก้ต้องรับผิดชอบ การมาทำงานก่อนเวลา ทำไมต้องมาก่อน เมื่อจำเป็นต้องมาก่อนคุณก็ควรจะมีเครดิท แต่ไม่มีใครรับรู้คุณก็ไม่ได้เครดิทก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุด ถ้าทำนอกเหนือไปก็ควรมีเครดิท โดยไม่ต้องประจบประจบประแจง ทำอย่างไรจึงจะมีเครดิทก็ต้องศึกษาเอาเอง การที่เขาซื้อของมาในราคาที่ต่ำกว่ากำหนดก็เป็นเรื่องของเขาเช่นเดียวกัน อย่าไปจุ้นจ้านเรื่องคนอื่น แยกให้ออก ขอให้เป็นสุขกับการทำงาน


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
จากที่คุณเล่ามาคุณคงจะเข้าขั้นเกลียดผู้หญิงคนนี้มากทีเดียว ถึงเก็บรายละเอียด
ได้ขนาดนี้จนต้องเอามาระบายออก ถ้าคุณไม่สามารถทำอะไรได้ก็ต้องปลงอย่าง
เดียวครับ พยายามทำเหมือนกับหล่อนไม่ Exist ไม่งั้นคุณก็เป็นโรคประสาท เสีย
สุขภาพจิตเปล่าๆ แถมยังอาจจพทำให้มีผลกระทบไปที่ผลงานของคุณด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
หัวหน้าของเธอไม่รู้สึกผิดปกติอะไรเลยหรือคะ?

ถ้าไม่ ก็แสดงว่าวัฒนธรรมการทำงานของแผนกนั้นคงเป็นแบบนั้น เราก็คงได้แต่ปล่อยให้พวกเค้าล่องลอยไปยถากรรมของพวกเค้าเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 7